Share

บทที่ 6

Author: Sweet Rain
last update Huling Na-update: 2025-05-14 18:42:15

กว่าต้นหนาวจะได้ออกจากโรงพยาบาลก็ปาไปเกือบสัปดาห์ จากตอนแรกที่จะได้แอดมิทเพียงสองสามวันเท่านั้น แต่ดันมีไข้หวัดเพิ่มขึ้นมาระหว่างที่รักษาอยู่ทำให้ต้องแอดมิทต่อ

“พี่ควีนคะ หนาวไปแล้วนะคะ” ต้นหนาวในชุดนักศึกษาเอ่ยบอก ก่อนจะรีบวิ่งออกไปขึ้นรถของลุงมิ่งที่กำลังรออยู่

ใช้เวลานานกว่าสามสิบนาทีท่ามกลางการจราจรที่เริ่มจะติดขัด แต่ต้นหนาวกลับมาถึงมหาวิทยาลัยได้อย่างทันท่วงที

คลาสแรกของวันนี้เริ่มตอนแปดโมงครึ่ง และระหว่างที่ต้นหนาวกำลังวิ่งอยู่นั้นเป็นเวลาแปดโมงยี่สิบนาทีแล้ว

“ตายๆๆ ตายแน่ๆ” คนที่ไม่ชอบการเข้าเรียนสายอย่างต้นหนาว เกลียดช่วงเวลานี้มากที่สุด

แกรก!

หญิงสาวผลักประตูพร้อมกับวิ่งพรวดพราดไปนั่งที่ประจำด้านหลัง โดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นที่มองเธอเลยสักนิด

“ทำไมวันนี้มาสายแบบนี้ล่ะ” มะเหมี่ยวแปลกใจเมื่อเห็นต้นหนาวมาสาย ทั้งที่ปกติแล้วจะมาถึงเป็นคนแรกเสมอ

“พอดีนอนเพลินไปหน่อย”

“แล้วหายดีหรือยัง”

“ก็ยัง แต่ว่าดีขึ้นมากแล้ว”

“ฉันจดเลคเชอร์ไว้ให้ ส่วนการบ้านส่งให้ทางอีเมลแล้ว” คนพูดน้อยที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้น

“ขอบคุณนะสาริน” ต้นหนาวหันไปขอบคุณเพื่อนสาวเสียงหวาน

ก่อนที่อาจารย์จะเข้ามาในห้องพอดี ทำให้บทสนทนาหยุดลงเพียงเท่านั้น

มะเหมี่ยวหันไปสะกิดคนที่นอนฟุบหลับอยู่ฝั่งขวามือของเธอ และมักจะเป็นแบบนี้ประจำ

กล้าหาญลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง เมื่อเหลือบไปเห็นคนที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลก็จ้องมองอย่างให้ความสนใจจนไม่ได้มองสไลด์บนจอที่อาจารย์กำลังอธิบายเลยสักนิด

เพลี๊ยะ

ฝ่ามืออรหันต์ของมะเหมี่ยวฟาดลงที่ศีรษะของชายหนุ่มเต็มแรง ก่อนที่เจ้าตัวจะลงนั่งหลังตรงและมองสิ่งที่อาจารย์กำลังสอนทันที

“ต้องให้ใช้กำลังตลอดเลย...” เสียงบ่นพึมพำทำให้ต้นหนาวหัวเราะออกมาเล็กน้อย

กว่าจะเลิกคลาสก็เที่ยงกว่าแล้ว กล้าหาญเดินนำหน้าลงมาจากตึกพร้อมกับต้นหนาวด้วยความหิว

“เย็นนี้ไปดูหนังกันไหม”

“หนังผีเหรอ”

“ใช่ เรื่องใหม่ที่เพิ่งเข้าโรงวันนี้เลย” สิ่งที่กล้าหาญและต้นหนาวมักจะเข้าขากันได้ดีก็คงไม่พ้นเรื่องหนัง โดยเฉพาะหนังผีที่ทั้งสองมักจะเอามาคุยกันในช่วงพักกลางวันเสมอ

“แล้วมะเหมี่ยวกับสารินล่ะ”

“ฉันไม่ไปหรอก หนังผีน่ากลัวจะตายไป” คนถูกถามถึงรีบปฏิเสธทันควัน

“ฉันก็ต้องรีบกลับบ้าน” สารินเอ่ยเสียงเรียบ

“ก็ได้ งั้นเดี๋ยวฉันไปกับนายเอง”

“พอดีเลย ฉันมีตั๋วสองอัน” ความบังเอิญที่ไม่ค่อยจะบังเอิญสักเท่าไหร่

มะเหมี่ยวกรอกตามองบนใส่กล้าหาญอย่างรู้ทัน มะเหมี่ยวรู้ สารินรู้ แต่ต้นหนาวไม่รู้!

คนที่ไม่ได้คิดอะไรก็ยังคงไม่คิดอะไรวันยังค่ำ หนำซ้ำคนอย่างต้นหนาวยังใจกว้างมากเสียด้วย จึงไม่ทันสังเกตสายตาของอีกฝ่ายที่ไม่ได้มองเธอเป็นแค่เพื่อนเลยสักนิด

“กินอะไรกันดี”

“ต้นหนาวกินราดหน้ากับฉันไหม เดี๋ยวจะได้ซื้อเผื่อด้วยเลย”

“ได้ งั้นเดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำแล้วกัน” ทันทีที่ต้นหนาวเดินออกไป มะเหมี่ยวก็พุ่งเข้าประชิดตัวของกล้าหาญทันที

“ให้มันเบาๆ หน่อย หวานจนเลี่ยนแล้ว”

“ไม่ต้องยุ่งเลย” กล้าหาญเดินหนีไปทางร้านราดหน้า ทิ้งมะเหมี่ยวให้ยืนอยู่กับสารินเพียงสองคน ก่อนที่ทั้งสองจะค่อยแยกย้ายกันไปซื้อของตัวเอง

หลังจากกินข้าวกันเสร็จ ช่วงบ่ายก็ว่างพอดี มะเหมี่ยวกับสารินแยกย้ายกันไป ส่วนกล้าหาญกับต้นหนาวก็พากันมาที่ห้างสรรพสินค้าใกล้กับมหาวิทยาลัย

“หนาวรอแป๊บนะ เดี๋ยวฉันไปซื้อป๊อบคอร์นก่อน”

“อืม” หญิงสาวพยักหน้ารับ ก่อนที่จะยืนรออีกฝ่ายอยู่ตรงด้านหน้าของโรงหนัง

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าทำให้ต้นหนาวเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ปิดเสียงโทรศัพท์ พลางเปิดดูข้อความที่มีคนส่งเข้ามา

“อยู่ไหน”

‘KINN’ หน้าจอปรากฏชื่อของเจ้าของข้อความโชว์หรา แต่ต้นหนาวจำได้ว่าเขาไม่เคยมีเบอร์ติดต่อหรือไลน์ของเธอเลย ตั้งแต่เขาโดนลงโทษตอนนั้น

“อยู่โรงหนังค่ะ” เธอพิมพ์ตอบเขาไปตามปกติ เก็บความสงสัยที่มีเอาไว้ในใจ

(ไปกับใคร)

“เพื่อนค่ะ”

(ผู้หญิงหรือผู้ชาย)

“ผู้ชายค่ะ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่ออ่านข้อความที่ต้นหนาวตอบกลับมา

(ไปกันกี่คน)

“สองคนค่ะ”

(กลับบ้าน)

“เพิ่งมาถึงจะให้หนาวกลับได้ยังไงคะ” มีหรือที่เธอจะยอมกลับง่ายๆ อุตส่าห์ได้มาดูหนังฟรีเชียวนะ

(ฉันสั่ง ไม่อย่างนั้นอีกสิบนาทีเจอกัน) ต้นหนาวไม่ตอบข้อความกลับ ก่อนจะปิดโทรศัพท์หนีพลางมองไปรอบๆ

“ไม่น่าจะมาได้หรอก”

“ต้นหนาว เข้าไปกันเถอะ” กล้าหาญที่เพิ่งซื้อป๊อบคอร์นกับน้ำอัดลมเสร็จก็รีบเดินกลับมาหาต้นหนาวทันที

ทั้งสองเดินเข้าไปในโรงหนังด้วยกัน ราวกับคู่รักวัยมหาลัย จนคนรอบข้างต่างก็จ้องมองด้วยความอิจฉาตาร้อน

เพียงไม่นานหนังก็เริ่มฉาย ต้นหนาวปิดโทรศัพท์เอาไว้เพราะกลัวว่าจะรบกวนคนอื่น ขณะที่กล้าหาญกลับเอาแต่มองใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังจ้องมองไปยังจอด้านหน้าอีกทั้งยังทำสีหน้าหวาดกลัวไปตามจังหวะที่ผีออกมาแต่ละฉาก

กระทั่งหนังจบลง กล้าหาญถึงเพิ่งจะได้สติหลังจากที่เอาแต่มองต้นหนาวจนแทบไม่ได้สนใจหนังเลยสักนิด

“ไม่เห็นน่ากลัวอย่างที่คิดเลย เสียดายเงินชะมัด” ระหว่างที่เดินออกมาจากโรงหนัง ต้นหนาวก็บ่นอุบอิบเล็กน้อย เพราะมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เธอคิด ผีก็ออกมาน้อยจนแทบจะนับฉากได้

“ก็โอเคนะ ไว้คราวหน้ามาดูด้วยกันอีกไหม” ชายหนุ่มใช้โอกาสนี้เอ่ยชักชวนต้นหนาวไว้ล่วงหน้า

“คงจะไม่ได้” เสียงทุ้มต่ำของใครคนหนึ่งปฏิเสธขึ้น ก่อนที่จะดึงแขนของต้นหนาวให้มายืนข้างกาย

“คุณคินน์”

“คุณเป็นใคร ปล่อยหนาวนะ” กล้าหาญทำท่าจะเข้ามาดึงตัวของต้นหนาวคืน ก่อนจะหยุดชะงัก

“ไม่เป็นไรหรอกกล้า นายกลับไปก่อนเลย” ต้นหนาวรีบปฏิเสธ เพราะดูจากสีหน้าของคินน์แล้ว เขากำลังโกรธเธอมาก

“ไม่ให้ฉันไปส่งที่บ้านเหรอ” อีกฝ่ายถามด้วยความห่วงใย

“ไม่เป็นไร”

“อืม ถ้างั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ” เสียงของกล้าหาญอ่อนลงอย่างผิดหวัง ก่อนจะเดินออกไปพลางหันกลับมามองต้นหนาวเล็กน้อย

“กล้าขัดคำสั่งฉันเหรอ” น้ำเสียงดุดันของคนโตกว่าทำเอาต้นหนาวขนลุกซู่ไปทั้งตัว

“ก็หนาวอยากดูหนัง”

“แล้วทำไมถึงมากับผู้ชายสองต่อสอง”

“กล้าหาญไม่ใช่ใครที่ไหน เขาเป็นเพื่อนหนาวนะ”

“แน่ใจ?” คินน์มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้คิดกับต้นหนาวแค่เพื่อน

“แน่ใจสิคะ ว่าแต่คุณหาหนาวเจอได้ยังไง” ต้นหนาวไม่ลืมที่จะถามสิ่งที่ตัวเองสงสัยกับเขาทันที

“ไม่ต้องรู้หรอก”

คินน์ไม่ยอมตอบคำถามของคนตัวเล็ก อีกทั้งยังดึงร่างบางให้เดินตามมาจนต้นหนาวตัวแทบปลิว

“จะต้นหนาวไปไหนคะ”

“...” ต้นหนาวไม่ได้รับคำตอบจากคินน์ต่อีกเลย แม้ว่าตลอดทางเธอจะยิงคำถามใส่เขามากมาย แต่คนตัวสูงก็ยังคงเงียบและทำหน้าตึงใส่เธออีกต่างหาก

กระทั่งมาถึงร้านอาหารอิตาเลียนที่อยู่ไม่ห่างจากมหาวิทยาลัย ขับรถมาเพียงสิบนาทีก็ถึงแล้ว หากการจราจรไม่ติดขัดมากนัก

“ที่แท้ก็ต้นหนาวมากินนี่เอง” ใบหน้าหวานเปื้อนรอยยิ้มหันมองคนตัวสูงที่ยังคงนิ่งเงียบ ก่อนจะดึงเธอให้เดินเข้ามานั่งโต๊ะด้านในสุดของร้าน

ต้นหนาวนั่งมองเขาสั่งอาหารอย่างงุนงง แม้ว่าจะเคยมาทานร้านอาหารหรูๆ แบบนี้กับควีนอยู่บ่อยครั้ง แต่เธอไม่เคยสั่งอาหารเองเลยสักครั้งเพราะไม่กล้า

“สั่งเอง” คินน์เลื่อนเมนูอาหารมาตรงหน้าของคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม

ต้นหนาวรีบส่ายหน้าปฏิเสธและเลื่อนเมนูกลับไปให้คินน์ ทว่าเขากลับมองเธอด้วยสายตาดุๆ ทำให้ต้องรีบหยิบเมนูขึ้นมาสั่งด้วยตัวเอง

“เอาราวิโอลี่ที่นึงค่ะ”

“แค่นั้นเหรอ”

“ค่ะ”

หญิงสาวรีบพยักหน้าตอบ ก่อนที่คินน์จะหันไปสั่งอาหารเพิ่มและยื่นเมนูคืนให้กับพนักงาน แล้วนั่งรออาหารมาเสิร์ฟ

ระหว่างที่กำลังนั่งรอ คินน์ยังคงนิ่งเงียบไม่ยอมพูดด้วย จนต้นหนาวเริ่มรู้สึกอึดอัดกับคนตรงหน้าแล้ว

“ถ้าไม่พูดกับหนาว หนาวจะฟ้องคุณพ่อว่าคุณคินน์แอบมาเจอหนาว”

“เดี๋ยวนี้กล้าขู่ฉันเหรอ” ในที่สุดคนหน้าตึงก็ยอมเปิดปากพูด

“ก็คุณไม่ยอมพูดกับหนาว แล้วจะให้หนาวทำยังไง” คนตัวเล็กหน้ามุ่ยใส่คินน์เล็กน้อย

“ต่อจากนี้ไปห้ามอยู่กับผู้ชายสองต่อสอง ถ้าจะไปไหนมาไหนให้มีเพื่อนผู้หญิงไปด้วย เข้าใจไหม”

“ค่ะ ปกติแล้วหนาวมีเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มอีกสองคนชื่อมะเหมี่ยวกับสาริน แต่วันนี้สองคนนั้นมีธุระเลยไม่ได้มาด้วย” ต้นหนาวรีบอธิบายทันที เพื่อให้เขาเชื่อว่าเธอไม่ได้จงใจจะมากับกล้าหาญเพียงสองต่อสอง

“ดี ถึงยังไงก็ห้ามอยู่กับผู้ชายสองต่อสอง”

“เข้าใจแล้วค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารัวๆ ใส่เขา ก่อนที่อาหารจะมาเสิร์ฟพอดี

ต้นหนาวรีบจัดการอาหารตรงหน้าจนหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งยังเอื้อมไปตักอาหารอย่างอื่นที่คินน์เป็นคนสั่งมาอีก

“พอให้สั่งเองก็สั่งมาแค่อย่างเดียว แต่ตอนกิน กินเกือบทุกอย่าง”

“ก็หนาวไม่ชินกับการสั่งอาหารนี่”

“ไม่ชินก็ต้องฝึก ถ้าไปคนเดียวจะนั่งเฉยๆ ให้พนักงานตรัสรู้เองหรือไง” ไม่เคยคาดเดาคำพูดที่ออกมาจากปากของคินน์ได้เลยจริงๆ ยิ่งโดนดุ หน้าของต้นหนาวก็ยิ่งหดเล็กลงจนเหลือเท่าฝ่ามือ

“ก็เปล่า...” เธอปฏิเสธเสียงอ่อน

“ไปกินรังแตนที่ไหนมาเนี่ย” อดไม่ได้ที่จะพึมพำเสียงเบา ไม่ให้คนตรงหน้าได้ยิน

“กินเสร็จอยากไปไหนหรือเปล่า”

“ไม่แล้วค่ะ เดี๋ยวหนาวจะกลับบ้านแล้ว” เมื่อมองดูนาฬิกาก็พบว่าเกือบจะห้าโมงเย็นแล้ว วันนี้ทุกคนอยู่บ้าน เธอก็ต้องรีบกลับบ้าน

“งั้นก็โทรหาลุงมิ่งเลย”

ต้นหนาวมองคนที่เอ่ยเสียงดุพลางทำหน้ามุ่ยใส่เขาที่เอาแต่สั่งเธออย่างกับเป็นพ่อเธองั้นแหละ

มือเล็กคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนขับรถของที่บ้านให้มารับที่ร้านอาหารทันที

“เดี๋ยวคราวหน้าฉันจะพาไปเที่ยว” คินน์เอ่ยขึ้นพลางยีหัวของคนตัวเล็กเบาๆ ระหว่างที่กำลังรอลุงมิ่งมารับ

“คุณจะมาอีกเหรอคะ” ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อได้ยินเขาบอกแบบนั้น

“อืม หรือไม่อยากไปเที่ยว”

“อยากค่ะ” เรื่องกินเรื่องเที่ยวคนอย่างต้นหนาวไม่เคยเกี่ยง หากเขาเสนอมาขนาดนี้แล้ว เรื่องอะไรจะปฏิเสธกัน

ไม่นานนักลุงมิ่งก็เข้ามาจอดรถที่ด้านหน้าของร้าน ต้นหนาวหันมาบอกลาคินน์ก่อนจะรีบวิ่งไปขึ้นรถทันที

คินน์ยืนมองจนกระทั่งลุงมิ่งขับรถออกไป เขาจึงค่อยออกจากร้านไปทีหลัง พอต้องทำอะไรหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ เขาไม่ค่อยชินเลย

“อาทิตย์หน้าจะพาไปดูหนังอีก”

เขาส่งข้อความไปบอกต้นหนาว พลางยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนที่จะได้รับข้อความตอบกลับมาจากอีกฝ่าย

“ได้ค่ะ แต่คุณคินน์เป็นคนจ่ายนะคะ” ทันทีที่อ่านข้อความก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงของคนตัวเล็กดังขึ้นในหัวตามข้อความที่อ่าน

คินน์ส่ายหัวกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะหลุดยิ้มออกมา และพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะขับรถออกจากร้านอาหาร

“หึ ปกติฉันก็จ่ายทุกครั้งไม่ใช่หรือไง”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • Please,Call Me Yours คลั่งรักเมียเด็ก   บทที่ 85

    คินน์วางร่างบางลงบนเตียงอย่างเบามือ ขณะที่สายตากำลังจ้องมองกัน คนที่เคยบ่นให้เขาก่อนหน้านี้ยอมเงียบลงเมื่อต่อรองกันเรียบร้อยแล้ว “คราวนี้ล่ะเงียบเชียว” “หนาวจะไม่ยอม ถ้าข้อเสนอที่ได้ไม่มากพอ” ต้นหนาวเริ่มรู้สึกเหมือนว่าเธอจะติดนิสัยชอบต่อรองมาจากคินน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ม

  • Please,Call Me Yours คลั่งรักเมียเด็ก   บทที่ 84

    ทำไมจู่ๆ คนที่มายืนตรงนี้กลับกลายเป็นเธอกันล่ะ“ต้นหนาว ฉันปล่อยให้เธอรอมานานตั้งเกือบสองปีนับตั้งแต่เธอท้อง จนต้นรักอายุได้หนึ่งขวบแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ก็เผลอปล่อยให้เวลาเลยเถิดมานานถึงขนาดนี้”“แต่ตอนนี้ฉันคิดว่ามันถึงเวลาที่ฉันจะได้แสดงความตั้งใจจริงที่อยากจะเปิดเผยให้ทุ

  • Please,Call Me Yours คลั่งรักเมียเด็ก   บทที่ 83

    ทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้นหนาวคาดคิดไว้ไม่มีผิด เพราะคินน์ตั้งใจพาเธอมาที่บ้านพักตากอากาศหลังเดิมที่เคยมาด้วยกันบ่อยครั้ง “ไม่เบื่อทะเลบ้างเหรอคะ” “ทำไมล่ะ? เธอเบื่อเหรอ” สายตาคู่คมรีบหันมาสบตากับหญิงสาว เมื่อจู่ๆ เธอก็ถามคำถามราวกับว่าเบื่อที่จะมาพักผ่อนที่นี่แล้ว “เปล่าค่ะ

  • Please,Call Me Yours คลั่งรักเมียเด็ก   บทที่ 82

    “ถ้างั้นหนาวไปเตรียมของไว้ให้ลูกดีกว่า ฝากดูต้นรักด้วยนะคะ” “อืม” เมื่อได้รับหน้าที่ต่อจากต้นหนาวแล้ว คินน์ก็เล่นกับลูกจนได้ยินเสียงหัวเราะอารมณ์ดีของเด็กน้อยดังไปทั่วบ้าน ขนาดแม่บ้านที่กำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ยังอดเดินมาดูคุณหนูตัวน้อยกำลังเล่นกับพ่อไม่ได้ “ทำความสะอาดบ้า

  • Please,Call Me Yours คลั่งรักเมียเด็ก   บทที่ 81

    “พี่คินน์! ต้นหนาวจะคลอดแล้วค่ะ” เสียงปลายสายตะโกนจนคนฟังหูแทบแตก ก่อนที่เจ้าของโทรศัพท์จะดีดตัวลุกจากเก้าอี้ภายในห้องทำงานและรีบวิ่งลงไปด้านล่างท่ามกลางสายตาของพนักงานที่มองตามประธานบริษัทกันด้วยความสงสัย หลังจากได้ยินว่าเมียของเจ้านายกำลังจะคลอดลูก รถเก๋งก็รีบมาจอดหน้าบริษัทอย่างรู้งาน แล

  • Please,Call Me Yours คลั่งรักเมียเด็ก   บทที่ 80

    ชายหนุ่มอุ้มร่างบางเข้ามาภายในบ้านใหม่ที่ตั้งใจจะเซอร์ไพร์สและวางเธอลงบนเตียงขนาดคิงไซส์ของห้องนอนที่ใหญ่ที่สุดของบ้าน “อื้อ~” “ถึงบ้านของเราแล้วนะ” เสียงทุ้มกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู ปลุกคนที่กำลังนอนหลับให้ลืมตาขึ้นมองบริเวณโดยรอบที่ไม่ใช่คอนโด “ที่นี่ที่ไหนคะ” ต้นหนาวหันมองร

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status