Masuk"หมอพีทคะ"
เสียงหวานใสปานน้ำผึ้งของพยาบาลสาวเรียกชายหนุ่มที่กำลังง่วนกับการเย็บแผลของผู้ป่วยในห้องฉุกเฉิน ดวงตาคมสีนิลดูลึกล้ำเงยขึ้นจากสิ่งที่กำลังทำ ก่อนจะถามออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจว่า "มีอะไรครับ ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนไว้ทีหลังได้ไหม ตอนนี้ผมยุ่งอยู่" ถามเสร็จก็ก้มหน้าทำงานที่ค้างต่อ เสียงร้องของคนไข้ยังคงโหยหวน แต่ใบหน้าหล่อตี๋นั่นก็ไม่ได้สะทกสะท้าน เขายังคงเย็บแผลไปเรื่อยๆ โดยมีผู้ช่วยคอยพูดปลอบใจคนไข้ที่ไม่กล้าแม้แต่จะบอกว่า "เบาๆ หน่อยหมอ" ไม่ใช่ว่าเกรงใจ แต่มันกลัว ถ้าเรื่องมากจนหมอรำคาญ มีหวังได้ถูกเย็บปากเป็นลำดับถัดไปแน่ๆ "พีรพัทธ์" หรือ "หมอพีท" แพทย์อินเทิร์นใช้ทุนปีสองในโรงพยาบาลประจำจังหวัด หน้าตาดี โปรไฟล์เริ่ด แถมยังคงสถานะโสดตัวโตๆ ทำให้พอเข้ามาทำงาน จึงถูกสาวแท้ สาวเทียม จับจ้องหมายปองตาเป็นมัน ในเมื่อหมอยังไม่มีเมีย ดีกรีความฮอตก็เลยพุ่งกระจุยกระจาย ล่าสุดก็ครองตำแหน่งผัวมโนในฝันของสาวทั้งโรงพยาบาลไปแบบชิวๆ ซึ่งในโรงพยาบาลรัฐแห่งนี้เป็นที่รู้กันดีว่าจะมีแต่หมอแก่ๆ หัวล้านๆ ทำงานประจำ พอวันดีคืนดีมีหมอหนุ่มๆ หน้าตาดีถูกส่งมาใช้ทุน ก็เลยกลายเป็นสุดยอดอาหารตาให้สาวๆ มองๆ จ้องๆ จนแทบทะลุผ่านชั้นของเสื้อกาวน์กันเลยทีเดียว มุมขวาก็หล่อ มุมซ้ายก็หล่อ ยิ่งหน้าตรงไม่ต้องพูดถึง หล่อเป๊ะทุกองศา ดังนั้นโรงพยาบาลจึงคราคร่ำไปด้วยบรรดาสาวๆ ที่แกล้งป่วย เจ็บหู เจ็บตา เจ็บหอยก็ว่ากันไป ขอแค่ได้เจอหน้าหล่อๆ ตี๋ๆ นั้นถามว่า "เป็นอะไรมาครับ" ก็แฮปปี้ลัลล้าไปหลายวัน ไม่พอสาวๆ ทุกคนต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันอย่างไม่ได้นัดหมายกันมาก่อนว่าคุ้มค่าแล้วจริงๆ กับการที่พวกเธอต้องแหกขี้ตาตื่นมานั่งรอตรวจกับหมอตั้งแต่เช้า ถึงคิวจะยาว ถึงต้องนั่งรอจนตูดด้าน ตูดชา พวกเธอก็ยอม หล่อขนาดนี้ทำไมยังไม่มีแฟน ชอบผู้ชายด้วยกันหรือเปล่า ต้องเป็นเกย์แน่ๆ นั่นคือคำพูดของสาวๆ ที่ลองทำทุกวิถีทางเพื่อจะพิชิตใจหมอหนุ่ม ทั้งจีบ ทั้งอ่อย สารพัด สาระเพ แต่สุดท้ายก็จบลงที่คำว่า "กินแห้ว" ไปตามๆ กัน แต่อย่างว่าถึงจะมีข่าวลือ แต่ก็ยังมีคนแอบชอบ แอบรอคอยโอกาสเหมาะๆ เพื่อจะจีบหมอหนุ่มให้ติดอยู่ดี ซึ่งแน่นอนว่าคนนิ่งๆ พูดน้อยๆ ทำแต่งานอย่างหมอพีท ไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องป่าวประกาศให้ใครรับรู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว มันเป็นเรื่องส่วนตัว และเขาก็ไม่อยากตอบคำถามของใครให้วุ่นวาย และในงานนั้นส่วนใหญ่ก็จะมีแค่แขกคนสำคัญ ดังนั้นทั่วทั้งโรงพยาบาลจึงมีแต่ผอ.ที่เป็นญาติไปร่วมแสดงความยินดี พอมีผู้หญิงที่ดูมั่นๆ ตีหน้าสวยๆ ยืนฉีกยิ้มหวานๆ มาแสดงตัวและบอกว่าเป็น "ภรรยา" ของหมอพีท มีหรือสาวๆ ที่แอบเล็งหมอไว้จะไม่ตกใจ จ้องมองมาทางญารินเป็นตาเดียว อื้มหืมมมมมมมม..... ถ้ากินหัวได้คงกินไปแล้วมั้ง!! หญิงสาวที่โดนบอกให้มานั่งรอคิดในใจ เมื่อถูกทุกสายตามองตลอดทางเดินมายังห้องทำงานของสามี ดูแล้วสามีเธอคงเจ้าชู้ไม่เบา ก็นะ...เล่นโปรยเสน่ห์ซะสาวๆ ติดกับเป็นพรวน พ่อพีทเป็นคนดี พ่อพีททำแต่งาน พ่อพีทไม่นอกใจญาแน่ๆ คำพูดของย่าแว่บขึ้นมาในหัว ดูท่าย่าจะแก่จนตาฝ้าฟาง มองไม่เห็นถึงแววเจ้าชู้ที่ซุกซ่อนไว้ของหลานเขยที่ย่าปลื้มนักปลื้มหนา แต่ช่างเถอะ ถ้าเจ้าชู้มาก ก็แค่เลิก เธอไม่มายด์ เธอแค่มาทำตามคำสั่งของย่าให้มาส่งขนมก็พอ ตึกๆๆๆๆ เสียงฝีเท้าหนักๆ กึ่งวิ่ง กึ่งเดิน ที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้คนที่นั่งรอจนง่วงในห้องทำงานต้องชะโงกหน้ามาดู ใบหน้าตี๋ๆ ที่ดูตื่นตกใจ เป็นใบหน้าของสามีเธอ คนอุตส่าห์มาหาควรทำหน้ายิ้มตอบรับไหม แต่นี่อะไร จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม จะบูดก็ไม่บูด คือเดาอารมณ์ไม่ถูก มันก็เลยทำให้เธอคิดในแง่ลบไปเองตามประสาผู้หญิงว่าคงโมโหที่เธอมาโดยไม่บอก กิ๊กอาจเห็น อะไรประมาณนั้นมั้ง เอาน่า.... ยื่นขนมให้ก็จะกลับ ด่ามา ด่ากลับ บอกเลย!! เตรียมใจไว้ว่าจะต้องโดนแน่ๆ แต่ทว่าคำแรกที่ชายหนุ่มพูดกับเธอนั้นกลับทำให้เธองงในงง ไม่โดนว่าแต่กลับถามถึงสิ่งที่เธอลืมไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว "ญาปวดท้องเหรอ" หญิงสาวรีบส่ายหน้าเร็วรัว พร้อมกับยืนยันเสียงดังว่า "ญาหายปวดท้องแล้ว" แหมๆ ถ้าบอกว่าปวดตอนนี้มีหวังได้โดนจับตรวจอย่างละเอียดถึงลำไส้แน่ๆ "แล้วญามาหาพี่ทำไมครับ" คนที่พอรู้ว่าเมียมาก็รีบทำทุกอย่างในมือให้เสร็จอย่างว่องไวในห้านาทีเอ่ยถาม มุมปากหยักอมยิ้มนิดๆ เมื่อเหลือบไปเห็นถุงขนมไทยในมือ "ซื้อขนมมาฝากพี่เหรอ" "ญาไม่ได้ซื้อ" "งั้นแสดงว่าญาทำเอง" แววตาที่มีความดีใจฉายชัดทำเอาคนที่ตั้งใจจะพูดว่า "ย่าทำให้" ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกไม่อยากให้ดวงตาสีนิลที่เป็นประกายนั้นหม่นลงก็เลยต้องไหลตามน้ำไป "ประมาณนั้น" โกหกไปแล้วก็ยกนิ้วขึ้นมาเกาแก้มแก้เก้อ "ขอบคุณนะครับ" "มะ...ไม่เป็นไร" แอบละอายแก่ใจจนไม่กล้ามองหน้าหล่อๆ นั้นตรงๆ เมื่อเขาหยิบขนมเข้าปากและบอกเธอด้วยน้ำเสียงชื่นชมสุดชีวิตว่า "อร่อยมากเลย" "อะ....อืม" พยักหน้ายิ้มๆ ก็ต้องอร่อยอยู่แล้วไหม ฝีมือการทำขนมย่าคือที่สุดของที่สุดอ่ะบอกเลย "กินกับพี่ไหม" "ไม่เป็นไรค่ะ ญากินแล้ว" โกหกไปทันที คนมันยังไม่ค่อยชิน สู้เธอหนีกลับไปกินขนมที่บ้านย่ายังสบายใจกว่ากันเยอะเลย "งั้นเดี๋ยวพี่จะรีบทำงานให้เสร็จ ตอนเย็นจะได้กลับไปกินข้าวด้วยกันดีไหม" ไม่ดีม้างงงง!! เธออยากจะตอบกลับคนตรงหน้าไปยังนั้นจริงๆ แต่พอนึกถึงข้อตกลงที่ทำกับย่าไว้ คำว่า "ไม่ค่ะ" ก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มหวานๆ พยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วยในทันที "ดะ....ดีค่ะ" หน้ายิ้มแต่ในหัวนี่คือมึนตึ้บ เธอจะทำอะไรให้พี่พีทกิน ในเมื่อเธอทำอาหารอะไรไม่เป็นเลย ไข่ดาวนี่คือหรูสุดในชีวิตแล้วจริงๆ "งั้นญากลับก่อนนะคะ" ในเมื่อบอกว่าจะทำอาหารรอ เธอก็ควรไปเดินจ่ายตลาดสักหน่อย คนที่คิดได้รีบขอตัวกลับ ร่างบางดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน แต่ทว่ากลับถูกมือหนาของชายหนุ่มรั้งไว้ ก่อนเขาจะประทับจูบเบาๆ ที่กลางหน้าผากแบบที่ไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัวอะไรเลย ทำอะไรเนี่ย... คนที่อยู่ๆ ก็โดนจูบถึงกับตาโต มองหน้าหล่อๆ ที่มองเธอด้วยแววตาละมุน แสนอบอุ่นหัวใจ แต่ก่อนที่เธอจะถาม หางตาก็เหล่ไปเห็นแผ่นกระดาษโน้ตในถุงขนมของย่า ด้วยความตงิดใจยังไงไม่รู้ก็เลยรีบหยิบขึ้นมาอ่านดูและข้อความที่เห็นเต็มสองตาก็ตอบแทนทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอสงสัยในทันที อนิจจา.... ย่านะย่า ทำไมถึงได้ทำอย่างนี้เนี้ย!!! หญิงสาวถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อนึกถึงข้อความที่ย่าเขียนไว้ว่า ถึง...คุณสามี คืนนี้ญาจะนวดให้หายเหนื่อยนะคะ!!!เราเคยเจอกันมาก่อนไหมคะ??ถามพลางมองหน้าของสามีอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก เธออาจจำผิด หรือคิดมากไปเองก็ได้ ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่ก็ไม่รู้ทำไมช่วงนี้เธอถึงได้รู้สึกว่าการกระทำบางอย่างของพี่พีทมันคุ้นเคย จนต้องร้องเอ๊ะ!! ในใจอยู่บ่อยๆ ยิ่งได้ใช้เวลาร่วมกันก็ยิ่งรู้สึกมีบางสิ่งปะทุขึ้นมาในใจ!!"ว่ายังไงคะพี่พีท"เธอถามย้ำเมื่อเห็นคนตรงหน้าเงียบไปพักใหญ่ๆ จนผิดสังเกตุ เธอพูดอะไรผิดไปรึเปล่า ทำไมมุมปากที่เปื้อนยิ้มถึงค่อยๆ จางหายจนกลายเป็นนิ่งเฉย "พี่ไม่แน่ใจครับ""งั้นเหรอคะ"ดวงตาที่เป็นประกายแลดูผิดหวัง นึกว่าจะหายข้องใจ แต่เธอกลับยิ่งคาใจหนักกว่าเดิม ถ้าคนในภาพจำนั้นไม่ใช่พี่พีท แล้วเขาคือใคร ทำไมถึงได้มีบางอย่างที่คล้ายคลึงกับสามีของเธอมากเหลือเกิน"ครับ""ไม่เป็นไรค่ะ ญาคงเข้าใจผิดเอง"ถึงเรียวปากสวยจะฝืนยิ้ม แต่ทว่าแววตาสดใสกลับหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด เธอกำลังคาดหวังอะไร เธอย่อมรู้ดี แต่ในเมื่อมันไม่ใช่ เธอก็แค่ต้องยอมรับมัน จะไปคาดคั้นให้พี่พีทลำบากใจก็คงไม่ใช่เรื่องคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกบางที...เธออาจจะดูซีรี่ย์มากเกินไปก็เลยเก็บเอามาคิดเป็นตุเป็นตะเอง!!หาเหตุผลให้กับตัวเอง ก่อนจะ
"อร่อยจัง"คนชมยิ้มแก้มปริ ตักข้าวเข้าปากเคี้ยวงั่มๆ ไม่หยุด ก็คนมันหิวเนอะ ผัวเล่นคึกเป็นม้าศึกทั้งคืนมันก็ต้องหมดพลังงานกันบ้าง อันที่จริงมันก็อายนะ อายมากด้วย เพราะตอนที่เธอลืมตาตื่นขึ้นมาเจอหน้าหล่อๆ ของพี่พีท อารมณ์คือแบบถามตัวเองว่าเฮ้ย!! มันคือความจริงใช่ไหม??ฉันตกเป็นของพี่พีทแล้วจริงๆ เหรอ??แก้มเนียนร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เมื่อก้มมองเรือนร่างเปลือยเปล่าของตัวเอง รอยรักที่ฝากไว้ยังเป็นจ้ำแดงชวนให้นึกถึงกิจกรรมอันร้อนฉ่าที่ทำเธอเสียงแหบแห้ง เซ็กส์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด จริงอยู่ว่าครั้งแรกมันเจ็บ แต่มันก็เจ็บแค่ไม่นานก่อนจะเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านจนเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ผ้าปูที่นอนยับๆ ตรงหน้าคือคำตอบว่ากิจกรรมเข้าจังหวะเมื่อคืนนั้นได้สร้างความวาบหวามให้กับเธอและเขามากแค่ไหนเอาน่า....คนที่ได้เวอร์จิ้นเธอไปก็คือ "ผัว"หญิงสาวพึมพำ ยกมือเรียวขึ้นแนบอกข้างซ้ายที่กำลังเต้นรัว คำว่า "สามี" ในความคิดของเธอตอนนี้บอกเลยมันต่างกับตอนที่ยังไม่มีอะไรกันอย่างสิ้นเชิง คำพูดของย่าที่เคยบอกเธอว่าอยู่ๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเองผุดขึ้นมาในหัว ตอนนั้นเธอเถียงย่าสุดใจขาดดิ้นว่า "ไม่มีทาง" แต่มา
อ๊ะ!!เสียงหวานร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆ มือของคนเมาก็เลื่อนจากสองเต้าอวบอิ่มลงมาลูบไล้ยังบริเวณหน้าท้องขาวผ่อง ยิ่งเธอโยกตัวขยับหนี ก็เหมือนไปกระตุ้นให้มืออุ่นๆ ของสามีเลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ ถึงจะตกใจกับสิ่งที่สามีทำอยู่บ้าง แต่เหตุผลมันก็พอรับได้ คนเมาอ่ะเนอะ จะไปคิดอะไรมาก ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ร้องเอะอะโวยวายให้คนเมาตื่น รวมถึงเหตุการณ์ที่เกือบทำให้เธอกับพี่พีทมีอะไรกัน มันส่งผลกับความรู้สึกบางอย่างในใจ ถึงเธอจะยังไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ที่รู้แน่ๆ คือ "ไม่ได้รังเกียจ" แถมยังมีอารมณ์ร่วมไปด้วยอีกต่างหาก พูดแล้วก็อาย แต่มันคือความจริง และคงถึงเวลาที่เธอควรต้องยอมรับสถานะ "เมีย" หมอจริงๆ สักที กลัวนะกลัวได้....แต่ "ผัว" ยังไงก็คือ "ผัว" อยู่วันยังค่ำคำพูดจิกกัดเบาๆ ของเพื่อนสนิทที่เธอไปปรึกษาเด้งขึ้นมาในหัว รู้แหละว่าสถานะผัวมันเปลี่ยนไม่ได้ และไม่ว่าเธอจะเลี่ยงจะหลบยังไง สุดท้ายก็หนีสถานะ "เมีย" หมอไม่พ้นอยู่ดี ก็นะ...แค่ฉีดยายังกลัวถ้าเจอเข็มที่ใหญ่กว่านั้น....เธอจะไม่สลบคาเข็มไปเลยเหรอหญิงสาวคิดพลางหลุดขำออกมากับสิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้กับเพื่อนสนิท ซึ่งเข็มที่ว่าก็หมายถึงไอ้นั
เฮ้อ!!!หญิงสาวนั่งถอนหายใจ ใบหน้าหวานดูกลัดกลุ้มเหมือนกำลังคิดอะไรในหัวอยู่ตลอดเวลา เธอฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงานอย่างอ่อนล้า ดวงตาอิดโรย เพราะเมื่อคืนมีเรื่องให้ต้องคิดจนเธอข่มตาลงไม่ได้เลยสักนาทีผู้ชายคนนั้นคือใคร??ทำไมเธอถึงนึกชื่อไม่ออกคื้วเรียวขมวดยุ่งเข้าหากันอย่างหงุดหงิด นั่งคิดก็แล้ว นอนคิดก็แล้ว แต่คำตอบที่เธอได้ก็มีแต่ความว่างเปล่า พี่....ญาขอโทษ!!คำพูดคลุมเคลือไม่ปะติดปะต่อยังคงดังก้องวนเวียนในหัว เธอกำลังขอโทษใคร ใช่คนที่วิ่งเข้ามาช่วยเธอหรือเปล่า ญารินพยายามนึกถึงใบหน้าของชายคนนั้น แต่ภาพมันก็พร่ามัวเกินกว่าที่เธอจะจำได้ ความรู้สึกอึดอัดที่นึกเท่าไหร่ก็ยังนึกไม่ออกมันทำเธอหงุดหงิด มันเหมือนมีอะไรติดค้างในใจ และมันเหมือนกับย้ำเป็นนัยๆ ว่าเธอกำลังหลงลืมบางสิ่งที่สำคัญสำคัญถึงขั้นที่ว่า....ทำให้เธอนอนไม่หลับเลยทั้งคืน!!ครืด~ ครืด~เสียงจากโทรศัพท์ดึงให้หญิงสาวหลุดออกจากภวังค์ความคิดที่หมกมุ่น ดวงตาคู่สวยปรายมอง และเมื่อเห็นชื่อคนโทรมา เธอก็ถึงกับดีดตัวลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจโอ้ย!!"ฉันลืมไปเลย"หญิงสาวพึมพำ เธอรีบคว้ากระเป๋าสะพายไหล่วิ่งไปยังรถหน้าตั้ง วันนี้เธอออกมาทำ
"พะ...พี่พีทจะทำอะไรคะ"ถามออกไปด้วยความตื่นตระหนก คำว่า "พร้อม" ของพี่พีท ก็เหมือนคำชวนให้ทำเรื่องอย่างว่า "ผัว" ก็คือ "ผัว" อยู่วันยังค่ำ ข้อนี้เธอรู้ดี แต่ไม่ต้องรีบตอกย้ำสถานะความเป็น "ผัว" เร็วขนาดนี้ก็ได้ คิดพลันมองหน้าหล่อๆ ของสามีที่โน้มลงมาใกล้ๆ จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่รินรดข้างพวงแก้ม "พี่ขอจูบได้ไหมครับ"คำขอที่เลี่ยงไม่ได้มาพร้อมกับแววตาอ้อนเมียหนักมาก พี่พีทเป็นผู้ชายที่หล่อ เธอยอมรับ แต่คือเข้าใจไหมว่า คนมันไม่เคยมีแฟน พออยู่ๆ โดนสามีจูบปากเข้าให้มันก็เลยเกร็งตัวแข็งทื่อ คิดว่ามันน่ากลัว คิดว่าคงทำไม่ได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับกลายเป็นว่าเธอถูกริมฝีปากได้รูปนั้นดึงดูดให้จมลึกลงไปในห้วงอารมณ์ที่อธิบายไม่ถูก กลีบปากนุ่มนิ่มถูกสามีบดคลึงจนเธอเผลอครางหวิวในลำคออื้อ~หญิงสาวส่งเสียงครางประท้วงเมื่อสัมผัสอ่อนโยนของสามีเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้นกว่าเดิม ขนอ่อนลุกชันด้วยความเสียวเมื่อถูกมือหนาเค้นคลึงสองเต้าอวบอิ่มจนร้อนวูบ ดวงตาคู่สวยฉ่ำหวานเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามที่สามีปรนเปรอให้ อารมณ์ที่เตลิดทำให้เธอลืมความกลัวในใจและถูกแทนที่ด้วยความอยากรู้จนบดเบียดตัวเข้าหาความแข็งแ
"ไม่เป็นไรค่ะ"ถึงจะบอกว่า "ไม่เป็นไร" แต่สีหน้าที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยนั้นก็ทำให้ชายหนุ่มอดเป็นห่วงไม่ได้ เขาเอื้อมมือมาสัมผัสที่หน้าผากของหญิงสาวเพื่อเช็คให้มั่นใจว่าไม่มีไข้ ก่อนจะพูดคำๆ หนึ่งขึ้นมา และมันก็ทำให้เธอรู้สึก เอ๊ะ!! ในใจมากกว่าเดิม"พี่เคยบอกแล้วไง มีอะไรให้บอกพี่"เคยบอกตอนไหน??คำถามผุดขึ้นมาในหัวของญาริน เธอจำไม่ได้เลยจริงๆ ว่าพี่พีทเคยพูดประโยคนี้ แต่ความสงสัยนั้นคงอยู่ไม่ได้นาน เมื่ออยู่ๆ เธอก็ถูกมือคู่นั้นดึงดูดความสนใจจนทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวที่แก้มแปลกๆ"พี่เป็นห่วงญานะ"พูดพร้อมกับฝ่ามือที่เลื่อนขึ้นมาจับหัวเธอเบาๆ ถึงปากจะไม่ได้พูดอะไร แต่หัวใจดวงน้อยมันกลับสั่นไหวโอนเอนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนนี้เธอได้แต่บอกกับตัวเองว่า "ใจเย็นๆ" เมื่อรู้สึกได้ว่ากำลังถูกดวงตาสีนิลจับจ้อง และถึงจะอ่านใจอีกฝ่ายไม่ออก แต่ภาษากายที่สื่อออกมาให้รู้ว่าเธอคือ "คนสำคัญ" มันก็ทำให้คนที่ไม่เคยคาดหวังอะไรเลยจากการแต่งงานเริ่มมีหวั่นไหวแบบไม่รู้ตัว"ขะ...ขอบคุณค่ะ"ตอบรับแบบเก้อเขิน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสได้ว่าสามีที่ได้มาจากความบังเอิญก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แถมหน้าหล่อๆ







