แชร์

ญาทำได้

ผู้เขียน: Goldberry
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-03 14:57:28

คนที่นอนตื่นสายเดินลงมาจากห้องนอน สายตากวาดมองไปทั่วชั้นล่าง แต่ไม่พบเงาของคนที่ได้ชื่อว่า "สามี" ใจหนึ่งก็รู้สึกผิดที่ทำตัวไม่สมกับเป็นภรรยาที่ดีดั่งคำสอนย่า แต่อีกใจก็นะแฮปปี้ดีเหมือนกัน เพราะเธอเองก็ไม่ค่อยชินกับการที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นที่มีสถานะต่างเพศสักเท่าไหร่ ยกเว้นพ่อบังเกิดเกล้า ที่รับหน้าที่เป็นพ่อ "เลี้ยงเดี่ยว" ดูแลเธอตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย

ใช่ค่ะ!! พ่อฉันเป็นหม้าย โสดสนิท สถานะเมียทิ้ง ทั้งชีวิตทำแต่งาน หาแต่เงิน จนละเลยความรู้สึกเมีย พอรู้ตัวอีกทีก็โดนทิ้งไปแบบงงๆ แถมยังทิ้งของแถมให้ดูเป็นของต่างหน้า ก็คือ "เธอ" ย่าเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นเธอยังอายุแค่สามเดือน ผู้ชายห่ามๆ ทำแต่งานอย่างพ่อมีหรือจะเลี้ยงเป็น ดังนั้นตอนเด็กๆ เธอจึงถูกโยนให้ย่าเลี้ยง และนี่ก็คือเหตุผลหลักเลยว่าทำไมเธอถึงเป็นหลานรักของย่า ก็นะทั้งน่ารัก ทั้งน่าเอ็นดู แถมยังพกพาความน่าสงสารสดใสมาเต็ม ย่าก็เลยทั้งรักทั้งหลงเธอหนักเป็นพิเศษ

ถ้าถามว่าสงสารพ่อไหม??เธอก็สงสารอยู่ แต่มาคิดในอีกมุมหนึ่งพ่อก็ทำตัวเอง มีเมียแต่ไม่ใส่ใจ สุดท้ายเมียก็เลยทิ้งไปอย่างไม่ใยดี นี่คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เธอหวงชีวิตโสด เพราะไม่อยากต้องมานั่งสังเกตุความรู้สึกใคร "ความรัก" คืออะไร เธอยังให้นิยามไม่ถูกเลยมั้ง แล้วยังมาถูกจับแต่งงานอีก

อนิจจา....

ชีวิตของญาริน

หญิงสาวถอนหายใจ ก่อนจะทิ้งตัวลงที่โซฟากลางห้องรับแขก เธอนั่งเอนหลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยต่ออีกสักพัก ในเมื่อไม่มีคนอื่นอยู่ในบ้าน มีแค่เธอคนเดียว เธอก็นะ...ทำทุกอย่างได้ตามแต่ใจ รอยยิ้มบางๆ ผุดที่ใบหน้าสวยหวาน เป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำงาน ต่างคนต่างใช้ชีวิตให้เหมือนตอนยังโสดเลยได้ยิ่งดี

นั่นคือความคิดเธอ

แต่ไม่ใช่ความคิดย่า

เพราะถึงเธอจะแต่งงานแล้ว แต่มันไม่ใช่จุดจบ มันคือจุดเริ่มต้นของความประสาทแดก เพราะการที่เธอแต่งงาน และย้ายมาอยู่ที่บ้านริมน้ำแสนสวยที่ย่ายกให้ มันทำให้เธอถูกจับตามองได้ง่ายขึ้น สายสืบของย่ามีรอบตัว เพราะบ้านมันอยู่ในรั้วเดียวกัน พอย่ารู้ว่าเธอตื่นสาย แถมยังไม่ทำหน้าที่ภรรยาหาอะไรให้หลานเขยสุดประเสริฐกิน ย่าก็โกรธจนควันออกหู เรียกหาเธอเสียงหลง ไม่พอยังจับเธอมานั่งอบรมหน้าที่ของศรีภรรยาใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อเห็นเธอทำหน้าเลื่อนลอยอ้าปากหาวแล้วหาวอีกเหมือนไม่สนใจ ระเบิดก็เลยลง พร้อมทั้งโดนขู่เสียงแข็งจนเสียวสันหลังวาบว่า.....

"ญาต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ญามีครอบครัวแล้ว ถ้าญาทำไม่ได้ ย่าจะไม่ยกอะไรให้ญาเลยสักอย่างเดียว"

"อะไรนะคะ!!"

หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้นยืนด้วยแววตาตกใจ จริงอยู่ที่เธอตื่นสาย แต่ทำไมถึงลามมาที่เรื่องมรดกอีกแล้วล่ะ

"ไหนย่าเคยรับปากว่าจะยกไร่องุ่นให้หลังจากที่ญาตกลงแต่งงานกับพี่พีทแล้วไงคะ"

ทวงความจำย่าที่บอกกับเธอวันนั้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน มีที่ไหนจะไม่ยกให้เธอ ในเมื่อเธอยอมตกลงแต่งงานแล้ว

"ย่าจะยกให้ก็ต่อเมื่อญาทำตัวเป็นภรรยาที่ดีของพ่อพีทให้ย่าได้เห็น ย่าขอแค่นี้ไม่ได้ยากเลย ญาทำให้ย่าไม่ได้หรือไง"

เฮ้อ!!

ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้

แต่มันไม่รู้จะทำยังไงต่างหาก

เพราะคำว่าภรรยาที่ดีในความหมายของย่าคือสิ่งที่ไกลตัวเธอมาก เธอจะทำได้ยังไง ในเมื่อเธอเอาใจใครไม่เป็น ขนาดพ่อบังเกิดเกล้าเธอยังไม่ค่อยจะบอกรักเลยด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับคนที่เพิ่งรู้จักกันแบบผิวเผิน หญิงสาวคิด คิ้วเรียวย่นเข้าหากันอย่างหนักใจ หรือเธอควรจะบอกไปตรงๆ เลยว่าทำไม่ได้ แต่ถ้าบอกไปแล้วไร่องุ่นที่ควรจะเป็นของเธอหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตาล่ะ เธอจะรับได้เหรอ ถามตัวเอง ก่อนจะบวกลบคูณหารในใจว่าทำใจไม่ได้แน่ๆ

โอเค....ในเมื่อรู้ตัวว่าปล่อยมือไม่ได้ ก็ต้องจับยึดไว้ให้เหนียวแน่นหนึบด้วยการตอบย่าแบบขอไปทีว่า

"ญาทำได้"

"แน่ใจนะ"

ย่าถามกลับเสียงสูง

"ค่ะ ญาทำได้"

"งั้นย่าจะคอยดู"

คนเป็นย่าตอบรับ พร้อมกับรอยยิ้มจางๆ ที่แต้มเล็กๆ ตรงมุมปาก ดวงตาสีอ่อนทอประกายอ่อนโยนขณะมองหน้าสวยๆ ของหลานสาวที่ถูกเธอท้าทายจนหลังชนฝา เธอเลี้ยงหลานคนนี้มากับมือ มีหรือเธอจะไม่รู้นิสัย คำว่า "กุลสตรี" ไม่เคยมีอยู่ในหัว แต่ก็ใช่ว่าจะแก้ไขไม่ได้ อาจจะต้องใช้เวลาฝึกมากหน่อย ในเมื่อย่าอุตส่าห์เลือกผู้ชายให้แล้ว ญาก็ต้องรักษาไว้ให้ดี เพราะผู้ชายดีๆ สมัยนี้ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ ดังนั้น....

เพื่อหลานสาวสุดที่รัก

ย่าจะต้องปฏิวัตินิสัยแข็งๆ นี้ซะใหม่!!

"คุณฤดี" หรือย่าของญารินคิดก่อนจะยื่นคำขาดให้หลานสาวลาออกจากงาน เพราะถึงทำงานไป เงินเดือนที่ได้ก็ไม่เยอะเท่ากับเงินเดือนที่เธอเสนอให้ถึงเท่าตัว คนนิสัยงกอย่างญาริน มีหรือจะไม่ตอบรับ ก็แค่เปลี่ยนจากเลขาในบริษัทมาเป็นเลขาประจำตัวย่า งานสบาย เงินก็ดี แถมยังมีไร่องุ่นของย่ารองรับอีก บอกเลยว่ามีแต่ได้กับได้ งานนี้คนที่ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ทั้งขึ้นทั้งร่องอย่างญารินก็รีบล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาโทรหาฝ่ายบุคคล ไม่พอยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงว่าจะทำงานด้วยการแจ้งลาออกมีผลวันนี้ต่อหน้าของย่าทันที

"ญาลาออกแล้วนะคะ"

หญิงสาวมองสบตาอีกฝ่ายที่พยักหน้าพลางส่งยิ้มพอใจให้

"ถ้างั้นญาก็เริ่มงานกับย่าวันนี้เลยแล้วกัน"

"ย่าจะให้ญาทำอะไรคะ"

หญิงสาวถามต่อด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ ให้คุ้มกับเงินที่ย่าฟาดหัว เอ้ย!! ไม่ใช่ ให้คุ้มกับเงินที่ย่าอุตส่าห์จ้างเธอมาเป็นเลขาส่วนตัว

"เอาขนมไปให้พ่อพีทที่โรงพยาบาล"

"อะไรนะคะ!!"

ถามอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหู

"ย่าให้เอาขนมไปให้พ่อพีท แค่นี้ญาทำไม่ได้เหรอไง หรือจะให้ย่าตัดเงินเดือนตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงาน"

"มะ...ไม่ค่ะ ญาทำได้ แต่ญาแค่คิดว่าทำไมย่าไม่ใช้คนอื่นไป ทำไมต้องญา มันร้อนนะคะ ย่าดูแดดสิ เปรี้ยงกลางหัวขนาดนี้ ถ้าญาเป็นลมแดดขึ้นมากลางทาง ใครจะช่วยญา"

พูดให้ดูน่าสงสาร แต่เมื่อดูจากสายตาของย่าที่มองเธอ โอเค!! มุกนี้ใช้ไม่ได้ผล เธอคงต้องไปเอง หญิงสาวรับขนมที่ย่าทำมาถือไว้แบบเซงๆ ก็นะไม่เห็นย่าชวนเธอกินขนมสักคำ แต่ให้เอาไปให้หลานเขยแทนนี่นะ น้อยใจขั้นสุด แต่พูดไม่ได้ไง ก็เลยได้แต่ทำหน้าบึ้งตึงเดินกระฟัดกระเฟียดออกมาจากบ้านแทน

อย่าโกรธย่าเลยนะ....

คุณฤดีพึมพำขณะมองตามแผ่นหลังของหลานสาวที่ดูก็รู้ว่าน้อยใจ แต่ในเมื่อตั้งใจว่าจะสานสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ให้แน่นแฟ้นสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นผัวเมียกันจริงๆ เธอจำใจต้องทำ ถึงจะต้องดูเป็นย่าใจร้ายในสายตาหลานก็ยอม เพราะเธอไม่อยากเห็นหลานต้องซ้ำรอยพ่อที่บ้าทำงานจนทำชีวิตครอบครัวพัง

ในเมื่อสามีมีหน้าที่การงานดี

หลานเธอก็มีหน้าที่แค่เอาใจ "สามี" ก็พอ

พ่อพีทจะต้องเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดที่ได้หลานของย่าเป็นเมีย เชื่อฝีมือย่าคนนี้ได้เลย!!

คนมีแผนก็มีแผนไป....

ส่วนคนที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างญาริน ก็กำลังขับรถวนหาที่จอดในโรงพยาบาล โอ้ย!! ตรงนี้ก็เต็ม ตรงนั้นก็เต็ม ทำไมที่จอดมันหายากขนาดนี่เนี้ย และกว่าเธอจะวนหาที่จอดได้ ก็ทำเอาหน้าสวยๆ นั้นหงุดหงิด นั่งปรับอารมณ์ในรถสักพัก ก่อนจะเดินเข้าไปในโรงพยาบาล แน่นอนว่าเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสามีทำงานอยู่ตรงไหน เพราะไม่เคยได้มีโอกาสถามอะไรเลย แค่วุ่นกับงานแต่งก็เหนื่อยแทบขาดใจ ใครจะไปมีเวลาถามถึงเรื่องส่วนตัว อ่อ!! แล้วเจ้าตัวเองก็ไม่โผล่หัวมาให้ถามด้วย

"หมอพีท....."

คำว่า "อยู่ไหน" ติดตรงริมฝีปากสีแดงสวย เธอควรจะแนะนำตัวดีไหมว่าเธอเป็นใคร มาหาหมอพีททำไม เมื่อเห็นสายตาอยากรู้อยากเห็นของพยาบาลสาวนมโตที่จ้องเธอราวกับว่าเป็นศัตรู ก่อนจะร้อง "อ๋อ" ขึ้นมา ผู้หญิงไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่แรกเห็นมีไม่กี่สาเหตุหรอก ที่เห็นชัดๆ ก็หวงหรือไม่ก็กันท่า ดูท่าสามีแค่ในนามของเธอจะเสน่ห์แรงถึงขั้นถูกสาวๆ เลื่อนตำแหน่งจาก "หมอ" รักษาคนให้เป็น "สามีทิพย์" รักษาใจ แหมๆ เห็นอย่างนี้แล้วก็อดปลาบปลื้มดีใจแทนสามีไม่ได้จริงๆ 

ฉันไม่ได้หึงนะ....

ก็แค่แอบหมั่นไส้ ดังนั้นก็นะ ประกาศก้องให้สาวๆ ที่ล้อมหน้าล้อมหลังอยากได้สามีเธอให้รู้ไปเลยแบบสวยๆ คูลๆ แต่แฝงด้วยความเผ็ดเบาๆ ว่า

"ช่วยแจ้งหมอพีทว่า....."

หญิงสาวทำหน้าคิดก่อนจะแสร้งโปรยยิ้มหวานพูดต่อด้วยน้ำเสียงเหนียมอายประหนึ่งเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่ขาดกันสักนาทีไม่ได้ว่า

"ภรรยาสุดที่รักคิดถึงก็เลยมาหาค่ะ"

ถึงจะไม่ได้รัก แต่ในทางกฏหมาย พี่หมอก็คือของๆ เธอ ดังนั้นคนงกอย่างเธอ ก็แค่ไม่อยากแบ่งของที่เป็นของตัวเองให้ใครเชยชม 

บอกแล้วไงว่าไม่ได้หึง....

เธอแค่เป็นคนหวง (ของ) เฉยๆ

​​​​

 

 

 

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Sassy wife เมียหมอ (18+)   ญาทำได้

    คนที่นอนตื่นสายเดินลงมาจากห้องนอน สายตากวาดมองไปทั่วชั้นล่าง แต่ไม่พบเงาของคนที่ได้ชื่อว่า "สามี" ใจหนึ่งก็รู้สึกผิดที่ทำตัวไม่สมกับเป็นภรรยาที่ดีดั่งคำสอนย่า แต่อีกใจก็นะแฮปปี้ดีเหมือนกัน เพราะเธอเองก็ไม่ค่อยชินกับการที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นที่มีสถานะต่างเพศสักเท่าไหร่ ยกเว้นพ่อบังเกิดเกล้า ที่รับหน้าที่เป็นพ่อ "เลี้ยงเดี่ยว" ดูแลเธอตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยใช่ค่ะ!! พ่อฉันเป็นหม้าย โสดสนิท สถานะเมียทิ้ง ทั้งชีวิตทำแต่งาน หาแต่เงิน จนละเลยความรู้สึกเมีย พอรู้ตัวอีกทีก็โดนทิ้งไปแบบงงๆ แถมยังทิ้งของแถมให้ดูเป็นของต่างหน้า ก็คือ "เธอ" ย่าเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นเธอยังอายุแค่สามเดือน ผู้ชายห่ามๆ ทำแต่งานอย่างพ่อมีหรือจะเลี้ยงเป็น ดังนั้นตอนเด็กๆ เธอจึงถูกโยนให้ย่าเลี้ยง และนี่ก็คือเหตุผลหลักเลยว่าทำไมเธอถึงเป็นหลานรักของย่า ก็นะทั้งน่ารัก ทั้งน่าเอ็นดู แถมยังพกพาความน่าสงสารสดใสมาเต็ม ย่าก็เลยทั้งรักทั้งหลงเธอหนักเป็นพิเศษถ้าถามว่าสงสารพ่อไหม??เธอก็สงสารอยู่ แต่มาคิดในอีกมุมหนึ่งพ่อก็ทำตัวเอง มีเมียแต่ไม่ใส่ใจ สุดท้ายเมียก็เลยทิ้งไปอย่างไม่ใยดี นี่คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เธอหวงชีวิตโสด เ

  • Sassy wife เมียหมอ (18+)   สมจริงเกินไปนิด

    คิดว่าแค่โกหกๆ ไปก็จบคิดว่าจะรอดพ้นไปได้ง่ายๆ​​​​​​​​แต่ที่ไหนได้ มันไม่ได้จบง่ายๆ อย่างที่คิด เพราะถึงเธอจะรอดพ้นจากการทำกิจกรรมสานสัมพันธ์ฉันท์ผัวเมียจริง แต่ก็ลืมไปว่าพี่พีทเป็นหมอ ใช่!! และมันก็สำคัญมาก เพราะสายตาที่พี่เขามองเธอนั้นมันแอบมีความไม่เชื่อแฝงอยู่นิดๆ แค่คำพูดคงยังไม่มีน้ำหนักพอ ดังนั้นงานแสดงละครต้องมา งานตอแหลให้สมจริงต้องมี แหมๆ คนอย่างญารินทำได้ทุกอย่าง จะเอาตัวให้รอดก็ต้องฉลาดและเฉลียว ไม่งั้นคงไม่ได้รับฉายาแถเก่งมาครองหรอก จริงไหม!!"อะ....โอ้ยยยยย"อยู่ๆ คนที่เพิ่งบอกว่าตัวเองเป็นเมนส์ก็ร้องเสียงหลงขึ้นมาพร้อมกับใช้สองมือกุมท้อง ไม่พอเธอยังเพิ่มความสมจริงขึ้นอีกนิดด้วยการทำหน้าบิดเบี้ยวแสดงถึงความเจ็บปวดประหนึ่งคนที่เพิ่งโดนต่อยท้องมา ฮึๆๆๆๆ ถึงกับอึ้งไปเลยสินะ!!หญิงสาวคิดพร้อมกับเหล่มองปฏิกิริยาคนนอนข้างๆ โอเค ถึงเขาจะดูงงนิดๆ แต่ดูจากหัวคิ้วเข้มที่ย่นเข้าหากัน แสดงว่ามันได้ผลอยู่ คิดไว้ว่าจะแสดงแค่นิดๆ หน่อยๆ แต่คนอย่างเธอพอได้ทำอะไรมันก็มักจะเผลอตัวจัดเต็มตลอด งานนี้ก็เลยนอนตัวงอเป็นกุ้งไปเลยสิจ๊ะ"ญาเจ็บมากเลยเหรอ"​​​​​​เสียงทุ้มถามคนที่กำลังแหกปากลั่นด

  • Sassy wife เมียหมอ (18+)   งานแต่งงาน

    ยุ่งไม่พอ....เวลายังผ่านไปเร็ว เร็วชนิดที่ว่าญารินยังไม่ทันได้คุยอะไรกับว่าที่ "สามี" เลย งานแต่งถูกจัดออกมาอย่างใหญ่โตสมฐานะ บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น แขกจากทั่วทุกสารทิศต่างทยอยมาแสดงความยินดี ซุ้มหน้าทางเข้างานที่จัดด้วยดอกไม้นั้นดูสวยงาม และเข้ากันได้ดีกับธีมงานสีทองหรูหราที่เจ้าสาวเป็นคนเลือกและออกแบบเองภาพของเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ยืนจับมือกันยิ้มรับแขกช่างดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ผู้ชายก็สูงหล่อดูดี ส่วนผู้หญิงก็สวยจนแทบลืมหายใจ ใครเห็นก็เอ่ยปากชม แถมภายในงานยังจัดออกมาได้ดี ทั้งอาหาร ทั้งเครื่องดื่ม ทั้งดนตรีเจ้าภาพจัดเต็มแบบไม่มีคำว่ากั๊ก เรียกได้ว่างานนี้ได้รับคำชมจากแขกทุกคนจนล้นหลามจริงๆ ทุกอย่างในงานผ่านไปอย่างราบรื่น จนกระทั่ง..."เจ้าบ่าวหอมแก้มเจ้าสาวหน่อยครับ"ห๊ะ!!!อีตาพิธีกรบ้า!! ไม่มีอย่างอื่นให้พูดแล้วรึไง เรียกแขกขึ้นมาร้องเพลงสิ ทำไมจะต้องหอมแก้มด้วย ดวงตาคู่สวยเบิกโตเมื่อได้ยินเสียงเชียร์ของแขกในงานสนับสนุนการแสดงความรักที่เจ้าบ่าวมีให้กับเจ้าสาวรักบ้ารักบออะไร...ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ฉันได้เจอหน้าเจ้าบ่าวแค่สามครั้งถ้วน ไม่รวมถึงการคุยแต่ละครั้งท

  • Sassy wife เมียหมอ (18+)   ไม่แต่งก็ต้องแต่ง

    เคยได้ยินมาบ้างว่าหมอมีความรับผิดชอบสูง!!แต่คือเข้าใจไหมว่า...ไม่ต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษมารับผิดชอบเรื่องของฉันก็ได้ ฉันไม่ว่า ฉันไม่ด่า ฉันไม่โวยวาย และฉันก็ไม่ได้อยากเรียกร้องให้นายมารับผิดชอบอะไรเลยจริงๆ ถึงญารินจะคิดเช่นนั้นแต่ก็พูดออกมาไม่ได้ สายตากดดันของย่าทำเอาเธอรู้สึกหนาวไปถึงไขสันหลัง ไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปากพูดแสดงความคิดเห็น หน้าสวยๆ ไร้ซึ่งรอยยิ้มนั้นบ่งบอกว่าเธอไม่เห็นด้วยกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ยิน หัวทุยส่ายไปมาทุกครั้งเมื่อได้ยินคำว่า "แต่งงาน" ย่าดูกระตือรือร้นจนเธอหวั่นใจ และในที่สุดสิ่งที่เธอกลัวและไม่อยากได้ยินก็กำลังเปล่งออกมาจากริมฝีปากที่มีรอยยับย่น "คงต้องหาฤกษ์แต่งให้เร็วที่สุด"อนิจจา....จบเห่แล้ว!!หญิงสาวถึงกับอ้าปากค้าง ไปต่อไม่เป็นเพราะไม่นึกว่าสถานะโสดของเธอจะพลิกผันในชั่วข้ามคืน และเมื่อเหล่มองหน้าไร้อารมณ์ของว่าที่เจ้าบ่าว เธอก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะตั้งแต่เธอบอกไปว่าให้ "หุบปาก" ก็หุบปากจริงๆ ไม่พูด ไม่จา ไม่หือ ไม่อือ แต่เสือกพยักหน้าตอบรับกับทุกเรื่องที่ผู้ใหญ่เสนอ หนักกว่าเก่าหนักกว่าเก่ามากบอกเลย!!เมื่อไม่มีพรรคพวก ก็เลยกลายเป็นพวกหัวเดียว

  • Sassy wife เมียหมอ (18+)   อยู่กันไปก็รักกันเอง

    "อยู่กันไปก็รักกันเอง"นั่นคือคำพูดเนิบๆ ของผู้เป็นย่าที่ทำเอาญารินถึงกับอึ้งไปเลย ดวงตาคู่สวยเหล่มองใบหน้าเหี่ยวๆ สลับกับหน้าพ่อเป็นระยะ เธอเองก็เดาใจย่าไม่ถูก แถมตอนนี้บรรยากาศในห้องก็เครียดมากจนเธอหายใจไม่ออก มันเหมือนว่าเธอกำลังทำผิดและมันก็ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด ยิ่งได้ยินทุกประโยคที่ผู้ใหญ่คุยกันมันก็ยิ่งทำให้รู้ว่าเรื่องของเธอกำลังเลยเถิดไปไกลเกินกว่าที่จะปล่อยผ่าน เอาตรงๆ มันพูดไม่ออก บอกไม่ถูก มันเหมือนคนน้ำท่วมปาก ไม่พอยังแอบรู้สึกหวิวๆ เคว้งๆ ตงิดๆ ในใจพิกล มันเหมือนกับว่าเธอกำลังถูกทุกคนมัดมือชกให้ต้องตกลงแต่งงานกับผู้ชายแปลกหน้าที่เธอยังไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อด้วยซ้ำฉันงงส่วนไอ้ผู้ชายข้างๆ ฉันก็คงงงเป็นไก่ตาแตกไม่แพ้กัน!!เพราะตอนนี้พวกป้าๆ ที่เป็นผู้ใหญ่หัวหงอกเสี้ยมเก่ง ต่างลงความเห็นด้วยสีหน้าจริงจังว่าจะต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องเพื่อรักษาหน้าและชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล และเพื่อกันไม่ให้มีคนนินทา ก็เลยแก้ปัญหาที่แสนจะน้ำเน่าเหมือนในละครที่เธอเคยดูเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว นั่นก็คือ...จับแต่งให้มันจบๆ ไปเดี๋ยวก่อนนะ!!เฮลโหล~ได้ยินฉันไหมถามความคิดเห็นฉันยังแล้วไอ้งั่งนั่ง

  • Sassy wife เมียหมอ (18+)   โสดอย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว

    เมื่อไหร่จะแต่งงานอยากขึ้นคานรึยังไงหรือว่าไม่มีใครเอา!!นั่นคือคำพูดประโยคเดิมซ้ำๆ จากคนรอบข้างที่พอเห็นหน้า "ญาริน" ปุ๊บ หนอนก็เจาะปากปั๊บ คือไม่มีเรื่องอื่นให้ถามหรือไง อย่างเช่น ได้ข่าวว่างานไปได้ดี ได้เลื่อนขั้นอะไรอย่างนี้ เรื่องไหนดีๆ เป็นศรีแก่ปากก็ไม่รู้จักถาม เอาถามแต่เรื่องที่ชวนให้เธอต้องปวดหัว คนเพิ่งเรียนจบ วันๆ ทำแต่งาน แล้วจะเอาเวลาว่างที่ไหนไปคว้าผู้ชายมาแต่งทำผัว ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจ เธออยากจะพูดตอกหน้าพวกญาติๆ ไปสักหมัดสองหมัด แต่เอาเถอะ ถ้าสวนกลับไปสุดท้ายก็คงโดนพ่อด่าอยู่ดี ดังนั้นจึงทำได้แค่นั่งปั้นหน้าแสร้งยิ้ม ทำหูทวนลม หยิบขนมยัดเข้าปากไปแบบเซงๆผู้หญิงอายุยี่สิบสี่แก่ตรงไหน??เอาตรงๆ เลยคือไม่เข้าใจ ทำไมอยากให้เรียนจบแล้วต้องแต่งงานทันที แต่งทำไมเร็ว ยังเที่ยวลัลล้าใช้ชีวิตโสดไม่คุ้มเลย หญิงสาวคิดในใจ และในเมื่อไม่อยากฟังเธอจึงค่อยๆ ปลีกตัวมานั่งเล่นโทรศัพท์ไกลๆ วันนี้เป็นวันรวมญาติที่บ้านย่า เอาตรงๆ จากใจคือเธอไม่ได้อยากมาเลย แต่คนเป็นพ่อเอาแต่คะยั้นคะยอขอร้องให้เธอมาด้วย สุดท้ายก็นะ...ขัดไม่ได้ที่ผ่านมาเธอสรรหาเหตุผลอ้างว่า "ไม่ว่าง" แถมยังเอาตัวรอดได้ทุกป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status