Mag-log inหลังจากไปกินข้าวที่ร้านอาหารหรู ฟรินท์ก็ขับรถไปส่งเรนเดียร์ที่บริษัท ส่วนเขาที่เคลียร์เอกสารเรียบร้อยหมดแล้ว และเห็นว่าเป็นเวลาสี่โมงกว่า เลยขับรถไปที่สนามแข่งรถที่เขาเป็นหุ้นส่วนกับไทเกอร์ เพื่อนสนิทของเขาและเป็นน้องชายฝาแฝดของเรนเดียร์
ที่สนามแข่งเขามีหน้าที่คล้ายกับที่บริษัทของคนเป็นพ่อคือจัดการเรื่องเอกสารสำนักงานต่าง ๆ เนื่องจากเรียนจบมาสายนี้โดยตรง ส่วนไทเกอร์ที่เรียนจบวิศวะยานยนต์ รายนั้นจัดการทุกอย่างหมดยกเว้นดูแลเอกสารที่ไม่ถนัด "วันนี้ทำไมเข้ามาเร็วนักว่ะ" เมื่อเข้ามาในส่วนของออฟฟิศ เสียงทักทายของไทเกอร์ก็ดังขึ้น เห็นเพื่อนยกข้อมือดูนาฬิกา คงจะสงสัยเพราะปกติเขาจะเข้ามาที่นี่ห้าโมงเกือบหกโมงทุกวัน "ไปกินข้าวกับพี่มึงมา" "พี่เรนไปบริษัทมึงเหรอ?" เขาพยักหน้าและเดินไปนั่งประจำที่โต๊ะของตัวเอง"อืม...โครงการสร้างรีสอร์ทที่ระยอง" "อ๋อ...กูได้ยินแม่พูดถึงอยู่ เห็นบอกว่าสร้างเสร็จจะส่งพี่เรนไปอยู่ที่นู่น" กึก!!! มือหนาที่กำลังเปิดแฟ้มเอกสารหยุดชะงักไปทันที เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนว่าจะต้องเป็นเธอที่ไปดูแลที่นั่น "ทำไมไม่จ้างคนอื่นว่ะ พี่มึงอยู่ที่นี่ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ" "แม่กูเป็นคนบอกพ่อให้สร้างเพราะจะยกให้พี่เรนเป็นของขวัญแต่งงานว่ะ" คราวนี้ปากกาในมือฟรินท์หล่นทันที พยายามควบคุมสีหน้าตัวเองให้ปกติต่อหน้าเพื่อน แม้จะทำได้อย่างยากลำบาก "พี่มึงมีแฟนแล้วเหรอว่ะ"ถึงจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ก็อยากแกล้งถามออกไป "ไม่รู้สิ แต่เวลาแม่ถามก็บอกว่าโสดตลอด แต่กูว่าน่าจะมีบ้างแหละ มึงก็รู้พี่กูสวยขนาดนั้น" ฟรินท์เงียบ เขาไม่อยากแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ทั้งที่จริงในสายตาของเขาเรนเดียร์คือผู้หญิงที่สวยมากจริง ๆ หุ่นเอย ผิวเอย ก็ดูดีไปหมดทุกส่วน ยิ่งในร่มผ้าไม่ต้องพูดถึง ทำเขาหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้นถึงทุกวันนี้ "มึงคิดอะไรไอ้ฟรินท์?" ไทเกอร์หรี่ตาจับผิดเพื่อนที่นั่งเงียบ แต่ทว่าใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อลามไปถึงใบหู "คิดเรื่องงานอยู่นี่ไง กูเซ็นเอกสารอยู่ จะให้คิดเรื่องอะไรว่ะ" "กูจะไปรู้เหรอ พูดเรื่องพี่กูอยู่ แล้วกูเห็นหน้ามึงแดงแปลก ๆ คิดว่ามึงคิดอกุศลอะไรกับพี่กูเสียอีก" "คิดอะไรบ้า ๆ นะมึง จนตอนนี้มึงยังหวงพี่สาวอยู่อีกเหรอว่ะ" "หวงสิ พี่สาวกูทั้งคนนะ" "....." "เห็นเป็นคนมั่นใจแบบนั้น ก็ใช่ว่าจะทันผู้ชาย" อยากจะบอกออกไปเหลือเกินว่าไม่จริงเลย เรนเดียร์เป็นผู้หญิงที่ฉลาดในการใช้ชีวิตมากกว่าเขาเสียอีก ตั้งแต่แอบนอนด้วยกันมา เขาไม่เคยเห็นเรนเดียร์ร้องไห้กับเรื่องอะไรเลยสักครั้ง บางครั้งเครียดเรื่องงาน เธอก็แค่โทรหาเขาเพื่อระบายความอึดอัดให้เขาฟังไม่ถึงห้านาทีเธอก็หาย หรือไม่ก็ระบายอารมณ์เรื่องเครียดไปกับกิจกรรมบนเตียงของเราสองคน ยังนึกอยากให้เธอเป็นผู้หญิงอ่อนแอดูบ้าง เผื่อบางทีเรื่องของเราคงไม่ถูกเก็บเป็นความลับมานานขนาดนี้ "ไอ้ธัญชวนไปผับ" "ชวนแดกได้ทุกวัน ผับมันยังไม่เจ๊งอีกเนอะ" เป็นเรื่องจริงที่ไม่ว่าเพื่อนคนไหนไปเมาที่ผับของธันเดอร์แล้วไม่ต้องจ่ายเงิน เพราะเจ้าของผับเลี้ยงตลอด ไม่ว่าค่าเหล้าจะแพงขนาดไหนก็ไม่หวั่น ขอแค่มีเพื่อนไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนมันก็พอ 21.30 น. สามหนุ่มกำลังนั่งดื่มอยู่ที่ชั้นวีไอพีของผับธันเดอร์ ที่จริงนัดกันสี่คนมีไทก้าด้วยอีกคน แต่รายนั้นเรียนหมอปีสุดท้าย ไม่ค่อยมีเวลาออกไปสังสรรค์กับเพื่อน นาน ๆ สักครั้งถึงจะได้เห็นหน้าเพื่อนคนนี้ ขนาดคนเป็นพี่ชายฝาแฝดอย่างไทเกอร์ ยังไม่ค่อยได้เจอ อีกทั้งเรนเดียร์ก็ยังบ่นให้ฟรินท์ฟังตลอดเรื่องที่ไม่ค่อยได้เจอน้องชายตัวเอง "วันไหนว่าง ๆ กูว่าไปเซอร์ไพรส์ไอ้ก้าในโรงพยาบาลบ้างดีกว่า นี่กูจะลืมหน้ามันไปแล้วนะถ้าไม่ได้เห็นหน้าไอ้เกอร์"ธันเดอร์เอ่ยออกมา ล่าสุดที่เจอไทก้าน่าจะเกือบสองเดือนที่แล้ว "มึงว่างเหรอว่ะ ไอ้เจ้าของผับ ถ้าพวกกูไม่มาหาถึงนี่ กูกับไอ้เกอร์ก็คงไม่ได้เห็นหน้ามึงเหมือนกันนั่นแหละ" "มึงดูดิว่ะ ลูกค้าเพียบทุกคืนขนาดนี้ จะให้กูทิ้งไปได้ไง" "ถึงว่าผับมึงไม่เจ๊งสักที" "กูว่าจะขยายผับอีกรอบว่ะ คงต้องใช้บริการมึงอีกไอ้ฟรินท์ ว่าแต่มึงรับไหมว่ะ ไม่ได้ก่อสร้างใหญ่เหมือนอัศวรักษ์" ธันเดอร์พูดหยอกบริษัทของพ่อไทเกอร์ รายนั้นชอบก่อสร้างโครงการหลายร้อยล้าน ยิ่งพวกรีสอร์ทกับโรงแรมยิ่งชอบ "รับสิ อะไรได้เงินกูรับหมดแหละ กูไม่ฟรีให้เพื่อนเหมือนมึงหรอก พ่อกูเอาตาย ฮ่า! ฮ่า!" "ว่าแต่ทำไมพ่อมึงไม่สร้างโรงพยาบาลให้ไอ้ก้าซะเลยว่ะ" "มีมันคนเดียวที่แหกคอกไปเรียนหมอ ให้มันไปทำงานโรงพยาบาลคนอื่นเหอะว่ะ อย่าให้ต้องถึงขั้นพ่อกูสร้างเลย แค่รีสอร์ทที่ระยองก็น่าจะหลายร้อยล้านอยู่" "อันนั้นสร้างให้พี่เรนไม่ใช่เหรอว่ะ" ฟรินท์หันขวับมามองธันเดอร์ทันทีที่รู้เรื่องนี้ ในขณะที่คนใกล้ชิดแบบเขากลับไม่รู้เรื่องนี้เลย "มึงรู้ด้วยเหรอ?" "วันก่อนพี่เรนมาผับกู เลยนั่งคุยกันนิดหน่อย" "มากับใคร?"เพราะความอยากรู้ส่วนตัว ปากไวเลยถามออกไปทันที "น่าจะเลขาไหมว่ะ เธอว่างั้น แต่..." "....." "แต่กูมองแล้วสนิทกันดีนะ" แก้วเหล้าในมือของฟรินท์ถูกมือหนาบีบอย่างแรงตามอารมณ์คุกกรุ่นในใจ เขาไม่ได้คิดมากไปเองที่เห็นเธอกับเลขาคนนั้นสนิทกันถึงขั้นเรียกแทนตัวกันสนิทสนม ขนาดธันเดอร์เองก็ยังคิดแบบเขา "พี่อัทธ์เขาเคยเป็นเลขาพ่อกู เห็นว่าทำงานเก่งเลยส่งให้ไปช่วยงานพี่เรน แต่ถ้าเขาจะเป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงาน อันนี้กูไม่แน่ใจ" ฟรินท์เหลือบตามองเพื่อน ปกติแล้วมันก็หวงพี่สาวค่อนข้างมากอยู่ แต่ทำไมกับเลขาคนนี้มันถึงพูดแบบไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา ตอนนี้เขาชักเริ่มไม่พอใจเรนเดียร์มากขึ้นทุกที มือหนาเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาเธอ ฟรินท์: เธออยู่ไหน ข้อความไม่ได้รับการเปิดอ่านทันที ความคุกกรุ่นในใจยังไม่จางหายไปง่าย ๆ“มีบุหรี่ไหมว่ะ” ไทเกอร์หันมาขมวดใส่เพื่อนเหมือนเห็นตัวประหลาด“มึงเลิกไปนานแล้วนี่หว่า จะสูบทำไมอีกว่ะ” “แค่มวนเดียวคงไม่เป็นไรหรอกว่ะ” ได้บุหรี่แล้วก็เดินออกมาจุดสูบด้านหลังร้าน เป็นส่วนที่เอาไว้ให้ลูกค้ามายืนสูบบุหรี่รวมกันตรงนี้ ควันบุหรี่สีขาวพวยพุ่งออกมา รสชาติของมันยังเหมือนก่อนหน้าที่เขาเคยสูบ มันไม่ได้ทำให้เราหายจากเรื่องเครียด แค่ทำให้หัวสมองเราว่างเปล่าไปชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น จำได้ว่าเลิกไปตั้งแต่เรียนปีสี่ ตอนนั้นเพราะหญิงสาวที่กำลังทำให้เขาหงุดหงิดอยู่ตอนนี้เป็นคนสั่งห้ามไม่ให้เขาสูบ เพราะเธอไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ นึกแล้วก็ขำตัวเองเหมือนกัน ที่เขาปล่อยให้เธอมีอิทธิพลทุกอย่างในชีวิตของเขามาตั้งนานแล้ว ในขณะที่ตัวเขาเองอาจจะยังเป็นแค่คนอื่นสำหรับเธออยู่ ติ้ง! เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น เมื่อเปิดดูก็เป็นเรนเดียร์ที่ตอบกลับมาหาเขา เป็นรูปภาพที่เธอกำลังนอนอยู่เตียงนอน บนใบหน้าสวยมีแผ่นมาร์กหน้าสีขาวแปะอยู่ เรนเดียร์: สภาพแบบนี้จะให้ฉันไปไหน ฟรินท์: ไปหาได้หรือเปล่า เรนเดียร์: มาได้แต่อดนะ ฟรินท์: ทำไม เรนเดียร์: แดงเดือด พลันในใจชายหนุ่มก็ห่อเหี่ยวทันที ถ้าไปหาเธอแล้วต้องนอนจับมือกันแบบเด็ก ๆ ตอนนี้เขาทำไม่ได้เพราะอารมณ์หึงหวงเธอกำลังทำให้ใจเขาไม่สงบสุข อยากจะถามเธอเรื่องรีสอร์ทที่ระยอง เรื่องเลขาคนนั้น คงจะเป็นเรื่องดีกว่าถ้าเขาจัดการอารมณ์พวกนี้ออกไปให้หมดก่อนที่มันจะปะทุรุนแรงขึ้นมาอีกครั้งดวงตากลมโตกระพริบขึ้นลงช้า ๆ หันหน้าไปมองคนข้าง ๆ ใช้สองมือจับแก้มสากทั้งสองข้างของคนตัวสูง“คนนี้ไง คนหล่อของเรน เป็นรักแรกและเป็นรักเดียวของเรน”คนตัวสูงพยายามกลั้นยิ้มอย่างที่สุดเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาต้องเก๊กขรึมพูดเสียงเข้มออกไป“จำผิดหรือเปล่า ฉันไม่ใช่ผัวเธอ”“ไม่ผิด ๆ คนนี้ไงชื่อปารวัตรหรือเปล่า ปารวัตร บวรกิจวัฒนา”“…..”“ขอดูบัตรประชาชนหน่อยได้ไหม”มือเล็กล้วงเข้ามาในกระเป๋ากางเกง แต่ทว่าล้วงเข้ามาลึกจนเจอกับความเป็นชายของเขาที่ยังอ่อนตัวอยู่“นี่ตัวอะไรอ่ะ ทำไมมันนิ่ม ๆ”“ลองดึงออกมาดูสิ”“ดึงยังไง ตรงนี้มันดึงไม่ได้”ฟรินท์เอามือเธอออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตัวเอง และปลดซิปกางเกงลงจับมือเธอสอดเข้ามาสัมผัสกลางกายของเขาแบบที่ไม่มีอะไรกั้น“เอ๊ะ!! ไม่ใช่อันนี้นี่นา อันนี้มันแข็ง เมื่อกี้มันนิ่ม ๆ”เรนเดียร์ก้มหน้าลงมามองความเป็นชายของเขาที่เธอควักออกมาด้านนอก ก่อนหน้าที่เธอจับมันนิ่มก็จริง แต่ทว่าพอโดนมือนุ่ม ๆ ของเธอก็ตั้งลำขึ้นมาทันที“แข็งแบบนี้แหละดี ตอนนิ่ม ๆ ไม่ดี”แววตาราวกับสาวน้อยไร้เดียงสาของคนตัวเล็กทำเขาแทบคลั่ง เธอเอาแต่จ้องมองแก่นกายของเขาราวกับเห็นตัวประหลาดปรากฏม
เมื่อจัดท่าสำหรับให้นมเสร็จ เรนเดียร์ก็จับเต้าอวบ เอายอดอกไปสกิดตรงปากเล็กของลูกน้อย จนรันเวย์อ้าปากอมเข้าไปในปากและเริ่มดูดทันที ช่วงแรกเธอก็รู้สึกเจ็บแปลบ แต่ทว่าพอผ่านไปสักพักก็รู้สึกดีขึ้น ลูกชายของเธอดูดนมแรงและเร็วมาก ทำให้เต้าอวบอีกข้างมีน้ำนมไหลหยดออกมาด้วย “ให้เฟรย่าดูดด้วยได้ไหม”เรนเดียร์พยักหน้าตอบ ฟรินท์รีบไปอุ้มลูกสาวที่เพิ่งตื่นและกำลังส่งเสียงอ้อแอ้ออกมา เขาจัดท่าทางใหม่ให้ลูกแฝดทั้งสองคนสามารถดูดนมแม่ได้คนละข้าง ภาพที่เห็นทำเอาเขาเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เดินเข้าไปจับหัวเล็กของเธอลูบผมนุ่มเบา ๆ และกดจูบลงไปบนหน้าผากทันที “ฟรินท์รักเรนนะครับ” “เป็นอะไรอ่ะ ทำไมร้องไห้” น้ำตาของชายหนุ่มไหลออกมาไม่รู้ตัว อันที่จริงมันก็ไหลตั้งแต่เขาเห็นหน้าลูกในห้องผ่าตัดแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนั้นมีหมอพยาบาลอยู่หลายคน เขาเลยต้องสะกดกลั้นเอาไว้ และมาบ่อน้ำตาแตกตอนนี้ “ดีใจที่เรนมีลูกกับฟรินท์” “เรนก็ดีใจเหมือนกันที่ฟรินท์เป็นพ่อของลูกเรน” หนึ่งปีผ่านไป ตอนนี้ลูกแฝดชายหญิงของฟรินท์และเรนเดียร์อายุหนึ่งขวบกับสองเดือนแล้ว ก็ถึงเวลาฤกษ์งามยามดีของคนเป็นพ่อแม่ ที่จะจัดงานแต่งงานในวัย
“ว้ายย! ดูขนตาสิพี่เพลิง ขนตายาวเหมือนตาฟรินท์เลยค่ะ” “แต่พี่ว่าปากเหมือนเรนเดียร์นะปิ่น ดูสิ” “แต่ตาคนน้องเหมือนตาฟรินท์นะคะ” เพลิงและเสือส่ายหน้าออกมาพร้อมกัน เมื่อคุณย่าและคุณยายกำลังเห่อหลานอย่างหนัก ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องพักฟื้นของเรนเดียร์ที่เพิ่งผ่าคลอดคู่แฝดชายหญิงและยังนอนเพลียจากฤทธิ์ยาสลบยังไม่ฟื้น ส่วนฟรินท์คุณพ่อของแฝดน้อยกำลังนั่งคุยกับเพื่อนสนิทสองคนคือไทเกอร์และไทก้าที่มีศักดิ์เป็นคุณน้าของสองแฝด “หุบยิ้มบ้างก็ได้สัดฟรินท์” “ตั้งแต่กูได้เห็นหน้าลูก กูไม่อยากหุบยิ้มเลยว่ะ” “สัดเอ้ยย!! คลั่งรักเมียจนพวกกูอ้วกแตกไม่พอ ยังคลั่งรักลูกอีก” “ไว้มึงมีเมีย มีลูกมึงก็จะเข้าใจเองแหละว่ะ ว่าพวกเขาเป็นเหมือนหัวใจของมึง” “แหวะ!! เลี่ยนฉิบหาย”ไทเกอร์ทำท่าทางโก่งคออาเจียนล้อเลียนอาการคลั่งรักของเพื่อน นับวันจะยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อก่อนเคยคิดว่าอาจจะเพราะเมื่อก่อนปิดบังคนอื่นเลยหวานกันได้ไม่เต็มที่ แต่ที่ไหนได้ผ่านมาปีกว่าแล้วก็ยังหวานเลี่ยนกันเหมือนเดิม “แล้วเพื่อนรักมึงไปไหนว่ะ”ไทก้าถามถึงธันเดอร์ ปกติเรื่องสำคัญของฟรินท์แบบนี้มันจะไม่พลาดมาอย่างทันที “คงนอนไม่ตื่น กูโ
"อื้อ~ อย่าทำแบบนั้น มะไหว อ๊าสส ฟรินท์" เรนเดียร์ร้องครางดังลั่น มือเล็กที่กอบกุมเอ็นร้อนของเขาสั่นเทา เมื่อเขาแหย่ลิ้นเข้ามากวาดต้อนน้ำหวานสีใสในโพรงอ่อนนุ่ม นิ้วเรียวแหวกกลีบอวบอูมของเธอออกจากกัน ก่อนจะใช้นิ้วสะกิดตรงติ่งเสียวของเธอถี่รัว จนเรนเดียร์ส่ายสะโพกดิ้นเร่า ๆ ร่างกายจิกเกร็งตั้งแต่ช่วงบนไปจนถึงปลายเท้า "อย่าขี้โกงเรนเดียร์" ฟรินท์เอ่ยเสียงแหบพร่าออกมา เมื่อมือบางเอาแต่จับเอ็นร้อนไว้แบบนั้นโดยไม่ทำอะไร เรนเดียร์เลยจำต้องอ้าปากอมแก่นกายใหญ่เอาไว้ในปาก ขบเม้มส่วนปลายหัวบานไปพร้อมกับสาวรูดส่วนโคนไปด้วย "ซี้ดด เร็วเลยเมีย" คนตัวสูงเร่งเร้าจังหวะ ลิ้นร้อนตวัดปากทางรักระรัว ขยี้เน้นย้ำตรงจุดเสียวซ่าน ไปพร้อมกับเรนเดียร์ที่ผงกหัวเล็กขึ้นลงกลืนกินท่อนเนื้อแดงก่ำเข้าออกไปพร้อมกัน ทั้งสองคนครางอื้ออึงในลำคอ เสียวกระสันอย่างที่สุด แต่ทว่ายังคงปรนเปรอส่วนกลางกายของอีกฝ่ายอย่างไม่มีใครยอมใคร อุณหภูมิในห้องเพิ่มระดับขึ้น โดยเฉพาะฟรินท์ที่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ก่อนหน้าทำให้เลือดลมสูบฉีดอย่างหนัก ความร้อนแผ่ขยายออกมาจนคนตัวเล็กสัมผัสได้ เมื่อความกระสันพุ่งสูงขึ้น ร่องรักก็ขมิบตอดรัดลิ
“หมายความว่าไงเรน” เรนเดียร์ก้มหน้าสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อคลายความประหม่า ตอนนี้เธออยากจะบอกความจริงทุกอย่างกับเขา ทุกความรู้สึกที่ผ่านมาของเธอ “หมายความว่าฉันชอบนายก่อนหน้านั้น” “จริงเหรอเรนเดียร์” เธอพยักหน้า“ฉันมีเรื่องเล่าให้นายฟัง” “…..” “ตอนเด็ก ๆ ฉันเอาแต่แอบมองเพื่อนน้องชายคนหนึ่งมาตลอด เขาชอบมาเล่นเกมส์กับน้องชายฉันที่บ้าน และมักจะมาเป็นเพื่อนคุยเวลาฉันนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่คนเดียว หลังจากนั้นเสาร์อาทิตย์ ฉันก็จะคอยมองหาเขาคนนั้น เพราะอยากให้เขามานั่งคุยกับฉัน จนถึงวันที่ฉันเข้าเรียนมหาลัย เราก็ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ทว่าเขาก็ยังมาเรียนมหาลัยเดียวกับฉัน ถึงจะคนละคณะ แต่เพราะน้องชายของฉันทำให้เราได้เจอกันบ่อย ๆ” “…..” “คืนนั้นตอนงานวันเกิดไทเกอร์ ฉันไม่ได้เมา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฉันตั้งใจ” “เรนเดียร์” ฟรินท์พูดออกมาเหมือนละเมอ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเธอรู้สึกแบบนั้นกับเขาจริง ๆ แต่ก็แอบสงสารที่เธอเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองนานขนาดนี้ “แต่ตอนนั้นที่ฉันไม่ยอมให้นายรับผิดชอบก็เพราะรู้ว่านายไม่ได้คิดอะไรกับฉันจริง ๆ ฉันเห็นแก่ตัวยื่นข้อเสนอเอาแต่ใจตัวเองกับนายไป เพราะอย
ด้านเรนเดียร์ตอนนี้กำลังนอนคุยโทรศัพท์กับกิ่งเพื่อนสนิท ระหว่างรอให้ฟรินท์กลับคอนโด เขาบอกเธอว่าขอไปนั่งดื่มฉลองกับเพื่อน จะกลับไม่เกินสี่ทุ่ม หันมองดูเวลาตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มครึ่งแล้ว(นี่กูกำลังจะมีหลานแฝดเหรอว่ะ)“เออ กูรู้ว่ามึงไม่ค่อยว่าง เลยไม่อยากบอกให้มึงรู้เรื่องที่กูอยู่โรงพยาบาล”(ไม่อยากบอกหรือว่ามึงลืม เอาดี ๆ เรนเดียร์)“กูไม่ได้ลืม”เรนเดียร์ขึ้นเสียงสูง เธอไม่อยากรบกวนเพื่อน อีกอย่างตอนนั้นเรื่องของเธอก็กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่อีก เลยไม่อยากให้เพื่อนมาเห็นสภาพเธอตอนนั้น(กูดีใจด้วยนะ ที่มึงกำลังจะมีลูก มีครอบครัว)“อย่าทำซึ้ง กูไม่อยากร้องไห้อีกตอนนี้”(ว่าแต่ผัวมึงไปไหนว่ะ)“ออกไปนั่งดื่มกับน้องกูนั่นแหละ อีกเดี๋ยวก็คงกลับ”(ปล่อยไปได้ยังไง ผัวมึงหล่อขนาดนั้น ไม่กลัวพวกอีแร้งจะคาบไปแดกเหรอว่ะ เวลาแบบนี้มึงควรล่ามโซ่ไว้กกคนเดียวมึงเชื่อกูอีเรน)“ถ้าเขาจะเป็นแบบนั้น เขาคงเป็นไปตั้งนานแล้วอีกิ่ง ไม่ทนรอผู้หญิงไม่มีเหตุผลแบบกูมาตั้งสามปีหรอก”พอผ่านช่วงเวลาที่สำคัญมา เธอก็คิดได้ว่าต่อให้เธอจะกักขังตัวผู้ชายคนหนึ่งไว้นานแค่ไหน วันหนึ่งถ้าเขาไม่รักเธอ เขาก็ต้องไปอยู่ดี แต่ต่างจ







