ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ผมกำลังชอบ ผู้หญิงอีกคนคือรักแรกแล้วก็อยู่ในใจมาตลอด ส่วนผู้หญิงคนนี้คือ...ของเล่นคั่นเวลา
view more“ฮัลโหล”
“อยู่ที่ไหน?”
“บนรถ”
“พูดดี ๆ”
“บนรถ...ค่ะ”
“พี่บอกว่าให้มาหาพี่”
“ไม่ว่าง...ค่ะ”
“พี่บอกว่าให้มาหาพี่”
“ไม่ว่างไง...คะ”
“พี่บอกว่า...ให้มาหาพี่”
“ก็บอกว่าไม่ว่างไง!”
“พี่...เคยสนด้วยเหรอว่าเราจะว่างรึเปล่า?” ไอ้สารเลว!
“หยีไม่ว่างมีธุระจริง ๆ ขอร้องรู้จักเข้าใจเห็นใจคนอื่นบ้าง”
“ที่รักคะมาหาพี่ตอนนี้เวลานี้ อย่าคิดลองดีกับพี่ถ้าเรายังอยากมีชีวิตที่สงบสุข” ตื๊ด ๆๆๆ
กรี๊ด!!! ไอ้สารเลว ไอ้เปรต ไอ้สันดานซาตาน! ฉันเพิ่งจะไปช่วยงานรุ่นพี่มา งานหนักแล้วก็เหนื่อยมากและเวลานี้ก็ 4 ทุ่มกว่าแล้ว ตาก็จะปิด ขับรถก็โคตรไม่เก่งแต่ละวันต้องคลานจากบ้านไปมหาลัยแล้วยังต้องมาเจอเรื่องที่โคตรอุบาทว์ที่สุดในชีวิตแบบนี้อีก!
ถึงจะโกรธมากแต่ก็ควรทักทายกันก่อนใช่ไหมคะ ฮายค่ะซิส น้องชื่อยาหยีนะคะ เป็นนักศึกษาแพทย์ปี 3 ความจริงเป็นสาวเหนือมาจากจังหวัดพะเยาแต่บังเอิญพ่อดันไม่ใช่คนพะเยาแต่เป็นคนกรุงเทพมหานครก็เลยมีบ้านหลังเล็ก ๆ ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากปู่ย่าให้ยาหยีคนนี้ได้มาอยู่ระหว่างที่เรียน
บ้านยาหยีก็ไม่ได้ลำบากมากมายเท่าไหร่เพราะพะเยามีลำไยพ่อแม่เลยขายลำไยส่งควายเรียน บ้า! ฮ่า ๆๆ บ้านไม่ลำบากค่ะเรียกว่าพอมีอันจะกินอยู่บ้างพ่อก็เลยใจป้ำถอยรถป้ายแดงให้ตั้งแต่อยู่ปี 1 เพราะว่าบ้านอยู่ไกลจากมหาลัยมาก นั่งรถเมล์ก็เป็นรถหวานเย็น ฝาข้างรถก็ผุซะยิ่งกว่าโป๊ะเรือร้างข้าง ๆ แม่น้ำเจ้าพระยาก็เลยต้องมีรถยนต์ไว้ใช้ทั้งที่ขับมอเตอร์ไซต์ก็ยังไม่เป็น แล้วผลของการที่ขับรถไม่เป็นและเพิ่งหัดขับรถหมาด ๆ วันแรกที่ต้องขับไปมหาลัยก็เลยไปสอยรถคันหนึ่งในตึกจอดรถของมหาลัยเข้า กำลังหักพวงมาลัยถอยหลังเข้าซองแต่มันกะระยะผิดก็เลยชนคันที่จอดอยู่ข้าง ๆ ซึ่งเป็นรถญี่ปุ่นที่มันก็ค่อนข้างมีราคาหลักล้านอยู่เหมือนกัน ความสั่นของเรียวขายาหยีก็เลยบังเกิด ฉันสติหลุดทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งอึ้งมือไม้สั่นอยู่บนรถจนกระทั่งมีคนมาเคาะกระจก
ก๊อก ๆๆ
ยาหยีตายแน่ตายแน่ยาหยี! นอกจากซวยยังมีโคตรซวยเพราะเจ้าของรถคันที่ชนก็ยังอยู่บนรถ ฉันคิดว่าเจ้าของรถต้องเดินมากระชากหัวลงไปต่อยแน่นอน ก็เล่นไปสอยตูดรถเขาทั้งที่มันก็จอดของมันอยู่ดี ๆ ก็เลยต้องเลื่อนกระจกโชว์หน้าซีดที่มีเหงื่อไหลออกมาทั้งที่รถก็ยังเปิดแอร์อยู่
“สะ สวัสดีค่ะ” ฉันลดกระจกแล้วก็ทักทายผู้ชายตรงหน้าที่เซ็ตผมมาโคตรดี ดูท่าทางเป็นผู้ชายแต่งตัวเก่ง เพราะขนาดใส่ชุดนักศึกษาธรรมดาเขาก็ยังทำให้มันเป็นรันเวย์ได้ พอฉันลดกระจกพูดเขาก็ขมวดคิ้วที่อยู่ใต้แว่นกันแดดสีชาก่อนที่จะก้มตัวลงมาหาฉันช้า ๆ อีหยีโดนผู้ชายกระชากคอไปต่อยแน่ ๆ T_T
“น้องเป็นอะไรรึเปล่าครับ” เขาไม่ด่าค่ะ เขาก้มหน้าลงมาแล้วก็ถามฉันด้วยเสียงที่โคตรหล่อว่าฉันเป็นอะไรรึเปล่าทำให้ฉันเริ่มใจชื้นขึ้นมา
“มะ ไม่ค่ะพี่ พี่คะหนูขอโทษนะคะ แต่พี่รอหนูสักครู่ได้ไหมคะหนูรับผิดชอบแน่ ๆ แต่พี่รอก่อนนะคะ แป๊บเดียว แป๊บเดียวจริง ๆ” พอเห็นพี่เขาใจดีฉันก็เลยรีบพูดแสดงความรับผิดชอบ แต่มันก็ยังตกใจอยู่ก็เลยพูดไม่ค่อยรู้เรื่องแถมพูดรัวเร็วไปหมด
“น้องใจเย็นก่อนครับ ตกใจใช่ไหมใจเย็น ๆ ก่อนนะ พี่ว่าถอยรถเข้าช่องจอดก่อนดีกว่า” พี่เขาดูชิลมากเลยค่ะ ดูไม่ทุกข์ร้อนหรือโกรธอะไรฉันเลยแถมยังส่งรอยยิ้มมาให้ฉันอีกด้วยมันก็เลยทำให้ใจหนูน้อยจากเมืองพะเยาสั่นไหว
“...”
“น้อง ขับรถเข้าช่องจอดก่อนครับ” พี่เขาเรียกฉันอีกรอบฉันก็เลยเงยหน้าไปมองพี่เขาแล้วก็ส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้
“หนู...ขับไม่ไหวค่ะ ขามันสั่น”
“ฮ่า ๆๆ โอเคถ้างั้นลงมาเร็วเดี๋ยวพี่เอาเข้าจอดให้ รถด้านหลังจะลงมาด่าแล้ว” พี่เขาขำเบา ๆ แล้วกกวักมือเรียกฉันให้ลงจากรถพร้อมกับชี้ไปด้านหลังที่มีรถจ่อรอไปหาที่จอดอีกเป็นสิบคัน
“ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ ขับรถชนรถพี่แล้วยังต้องให้พี่มาถอยรถเข้าจอดให้อีก” ฉันยกมือไหว้พี่เขาหลังจากที่พี่เขาลงมาจากรถของฉันแล้วก็ยื่นกุญแจคืนให้
“ไม่เป็นไรครับ”
“เดี๋ยวหนูเรียกประกันสักครูนะคะ” เพิ่งนึกได้ค่ะว่าต้องเรียกประกัน สติกระเจิงจริง ๆ ปกติยาหยีก็มีสตินะแต่พอมันเกิดอุบัติเหตุแบบนี้สติก็เลยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“อืม~ ไม่ต้องหรอกครับรถน้องแค่ไฟท้ายร้าวนิดหน่อยแทบมองไม่เห็นนะพี่ว่า” พี่เขาเดินอ้อมไปมองท้ายรถของฉันค่ะ สำรวจเสร็จก็เดินกลับมาบอก แต่ไม่หันไปสนใจรถตัวเองที่มันบุบลงไปเลย
“แต่รถพี่” ฉันชี้ไปที่รถพี่เขาที่มันมีบาดแผลจากฝีมือนังกระปุกลูกสาวฉันและฝีตีนแม่ของมัน
“ไม่เป็นไรครับวันนี้ปีหนึ่งต้องไปรายงานตัวไม่ใช่เหรอรีบไปเถอะ รถพี่ประกันชั้นหนึ่งเหมือนกัน โกหกประกันว่าถอยชนถังขยะได้” พี่เขาพูดแบบอารมณ์ดี้ดี พูดไปยิ้มไปสำเนียงก็สุภาพมาก แต่ยาหยีคนนี้ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
“แต่...”
“ไปเถอะน่า พี่ไปก่อนนะ แต่คราวหลังน้องต้องขับรถระวัง ๆ นะครับ มันอันตรายรู้ไหม” พี่เขายิ้มให้อีกแล้ว ยิ้มแล้วก็ก้มหัวให้ฉันนิดหน่อยก่อนที่เขาจะหันหลังแล้วก็เดินจากไป
เทพบุตรโคตรผู้ชายในฝัน...เวลานั้นฉันรู้แค่ว่าพี่เขาเป็นผู้ชายในฝัน ผู้ชายที่แสนดี สุภาพ ยิ้มสวย พูดเพราะ หล่อ ครบทุกอย่างที่ผู้หญิงควรเลือกไปเป็นแฟนแต่ฉันไม่เคยเจอพี่เขาอีกเลยหลังจากนั้นจนกระทั้งขึ้นปี 2 สวรรค์ก็เหวี่ยงให้เราสองคนมาเจอกันอีกครั้งเพราะบังเอิญอยู่ชมรมเดียวกัน
ตอนนั้นจำได้ว่าตัวเองดีใจมากเลยค่ะ พี่เขาจำฉันไม่ได้แต่ฉันจำเขาได้ดี แค่เห็นแผ่นหลังของพี่เขาครั้งแรกก็ใจเต้นแล้ว ฉันจำได้เพราะมันเป็นภาพสุดท้ายที่เห็นพี่เขาเมื่อปีก่อน ยิ่งได้ทำความรู้จักก็ยิ่งได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้เกิดมาพร้อมกับคำว่า โคตรเป็นคนดี
แต่....
เป็นคนดีที่มีหน้ากากซาตานอยู่ข้างใน หลบซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิดแล้วก็เลือกที่จะเปิดเผยตัวตนกับเฉพาะบางคนต่างหาก!
ติ๊งต่อง ๆๆ
แอด~
“มาแล้วเหรอคะ?” เจ้าของห้องเปิดประตูพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ต่างจากเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน รอยยิ้มที่ดูแสนดีแต่ถ้ามองดี ๆ จะรู้ว่ามันอาบยาพิษ!
“ก็เห็นนี่คะ มีตาไม่ใช่เหรอ?”
“อ่าส์~ มาถึงก็ปากดีใส่พี่เลยนะท่าทางวันนี้จะอารมณ์ไม่ดี” พูดไปยิ้มไปไม่สนใจสิ่งใดในโลก สนใจแค่ความต้องการของตัวเอง สนใจแค่จะทำยังไงให้ชีวิตกูมีความสุข!
“เรียกมาให้ฟังน้ำเสียงน่ารังเกียจแบบนี้เหรอคะ?” ฉันไม่อยากพูดหรือคุยกับผู้ชายคนนี้เลยสักประโยคเดียว คำพูดของเขาถึงมันจะมีน้ำเสียงที่น่าฟังมากแต่เชื่อเถอะถ้าลองมาเป็นฉันคงไม่มีใครอยากฟังสักนิด แค่คำเดียวที่ออกจากปากผู้ชายคนนี้ก็ไม่อยากฟัง
“หึ ๆ เปล่าค่ะ" พอฉันตอกกลับเขาก็กระตุกยิ้มมุมปาก หัวเราะในลำคอแล้วก็เอาไหล่พิงขอบประตูมองหน้าฉัน
"พี่เรียกยาหยีมาเอาต่างหาก~”
เกลียด! ฉันเกลียดไอ้สารเลวนี่ ไอ้กิ้งกือไส้เดือน ไอ้เห็บหมา ไอ้งูสารพัดพิษ!
-หลายชั่วโมงต่อมา-“เอาล่ะครับคุณภรรยาสุดที่รักตอนนี้เหลือแค่เราแล้วพูดเรื่องที่ค้างคาใจพี่มาสักที” พอเสร็จพิธีส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเรียบร้อยและประตูห้องถูกปิดลงพี่กันต์ก็หันมาถามฉันเสียงจริงจัง ผ่านมาตั้งหลายชั่วโมงตลอดระยะเวลาในงานพี่กันต์กลับไปเป็นปกติ ยิ้มแย้มมีความสุขมากแต่ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่าจะยังจำเรื่องนั้นได้“ยังโกรธหยีอีกเหรอคะ” ฉันกุมมือพี่เขาเอาไว้ ตอนนี้เรานั่งกันอยู่ที่ปลายเตียง“ไม่โกรธครับแต่พี่น้อยใจ แล้วก็ข้องใจไอ้เรื่องข้อพิสูจน์อะไรนั่นที่หยีพูดมา”“ก็จริง ๆ นี่คะ พี่กันต์ไม่แพ้ท้องแทนหยีหรอก” ฉันตอบแล้วก็ยิ้มออกมาแต่เจ้าบ่าวสุดหล่อเริ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์“โคตรดูถูกความรู้สึกของพี่เลยว่ะ รอให้ท้องก่อนสิวะ ท้องแล้วพี่ไม่แพ้ท้องแทนเมียค่อยมาพูด ไม่ใช่ยังไม่เกิดขึ้นแต่พูดเองเออเอง” นี่เฮียเขาซีเรียสกับการแพ้ท้องแทนเมียมาก ๆ เลยนะคะ“ก็เรื่องจริงนี่คะ ไม่งั้นพี่กันต์แพ้มาเป็นเดือนแล้ว” พี่เขาหันหน้าหนีไปทางอื่น น่าจะหันไปเพื่อสงบสติอารมณ์ฉันก็เลยพูดขึ้น พอพูดจบพี่เขาก็ชะงักไปแล้วก็หันกลับมาช้า ๆ พร้อมกับสีหน้าที่กำลังงง“หมายความว่า?”“ของขวัญวันแต่งงานอยู่ในห้องน้ำค่ะ
ทันทีที่ม่านเปิดออกพี่กันต์ก็มองฉันตาค้างไปหลายสิบวินาที เขามองด้วยสายตาตื่นตะลึงและหลงใหล ค่อย ๆ มองฉันจากหัวจรดปลายเท้าช้า ๆ จนคนที่ยืนให้เขามองนาน ๆ เริ่มเขิน แล้วหน้าก็เริ่มขึ้นสีทีละนิด“...” พี่กันต์เงยหน้าขึ้นสบตากับฉันอีกครั้ง ฉันก็ได้แค่ยิ้มให้แล้วก็รอให้เขาพูดอะไรออกมาก่อน“มันโป๊ครับ”“คะ?” ฉันพูดแค่สั้น ๆ แล้วก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ชุดนี้เป็นชุดที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ทุกชุดที่ฉันสวมพี่เขาดูจะชอบทั้งหมดแต่ในขณะเดียวกันพี่เขาก็ไม่ชอบทั้งหมดเหมือนกัน -_-!“หยีลองจนล้าแล้วนะคะ” ใช่ค่ะตามที่พูดเลยยาหยีลองจนล้าแล้ว หลังจากวันที่บอกให้ไปขอฉันจากพ่อแม่ก่อนแล้วค่อยปั้มลูกพี่เขาก็รีบไปหาพ่อตาแม่ยาย ดีนะที่ทำบุญมาเยอะหน่อยก็เลยเจอพ่อตาที่เป็นพ่อมหามัคนายกไม่ได้เป็นพ่อกำนันปืนโหดอย่างที่พี่กราฟโดนทุกอย่างก็เลยผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนี้ผ่านมาสามเดือนแล้วตั้งแต่ไปกราบพ่อแม่และให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอ ผ่านมาถึงตอนนี้เราก็กำลังเตรียมงานแต่งอ้อ! แล้วไอ้ที่บอกว่าเขาจะประกาศความเป็นผัวด้วยตัวพี่เอง เขาทำจริงอย่างที่พูดเลยพี่กันต์เล่นอัพรูปฉันหลายร้อยรูปซึ่งแต่ละรูปเป็นรูปแอบถ่ายฉันตั้งแต่สมัยเมื่อปีหนึ
“พี่กันต์จะได้ไม่เหนื่อยไงคะ ไม่รู้แหละหยีไม่คุยเรื่องนี้แล้ว เอาเป็นว่าต่อไปนี้หยีจะทำอาหารกับพี่กันต์ทุกมื้อค่ะ!” “หยีกำลังดื้อ”“ใครแคร์คะ” “เฮ้อ! ตามใจค่ะ หนูอยากมาเกะกะตอนพี่ทำอาหารก็ตามใจหนู” พี่เขาตอบกลับมาด้วยใบหน้าเหมือนจะรำคาญแต่ก็มีความเอ็นดูความรั้นของยาหยีแฝงอยู่ แถมยังเรียกฉันด้วยคำน่ารัก ๆ อย่าคำว่า หนู อีกต่างหาก ฮือ~ หนูเขิน~ >///“พี่กันต์จะกัดหยีด้วยคำพูดน่ารักแบบนี้ไม่ได้นะคะ” อยากจะโกรธก็โกรธไม่ลงค่ะ คนบ้าอะไรบทจะดีก็ทั้งดีทั้งน่ารัก“อ่าส์~ ครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจแต่อยู่ดี ๆ พี่ก็น่ารักเอง” พี่กันต์พยักหน้ารับเหมือนสำนึกผิดแต่เปล่าเลยค่ะฟังท้ายประโยคสิคะ“ชิส์! กินข้าวดีกว่าค่ะ” ฉันเดินหนีออกมาเลยเดี๋ยวอดใจไม่ไหวพุ่งไปขย้ำแก้มพี่สุดหล่อขึ้นมาแล้วจะยุ่ง“แต่ที่จริงถ้าคุณหมอไม่เหนื่อยแล้วอยากจะมาช่วยพี่ทำกับข้าวก็โอเคนะคะ คุณหมออยู่ที่ไหนพี่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าเกะกะอยู่แล้ว” พี่กันต์เดินตามมาพร้อมจานอาหารแล้วก็พูดไปเรื่อย ๆ ด้วยความอารมณ์ดี“ขี้ประจบ” นอกจากร้ายมาก ตอแหลเก่งมาก อ้อนเก่งมาก ก็เพิ่มความขี้ประจบมากเข้ามาอีกหนึ่งอย่างนี่ล่ะ ไม่รู้ว่าเขาจะรู้ตัวไหมว่าเป็นผ
“ว่าที่เจ้าบ่าว?”“ครับ ยังไงผมขอเชิญล่วงหน้าเลยนะครับ ถึงวันงานอาจจะไม่มีเวลาเพราะเราสองคนเน้นไปที่เชิญ...คนสนิทเท่านั้นครับ” “ครับ...ขอให้ถึงวันงานนะครับว่าที่เจ้าบ่าว”ไอ้เหี้ยนี่มันคงรู้ตัวดีว่ามันอยู่ในโรงพยาบาลนะครับ ท่าทางมันจะมั่นใจว่าโดนกระทืบปากปางตายยังไงก็ต้องมีหมอรักษา“อ่าส์~ ครับ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรครับหมอ ผมก็ยังหวั่นอยู่ว่าจะได้จัดงานเร็ว ๆ นี้อย่างที่ต้องการรึเปล่า” ผมพยักหน้าขอบคุณมันไปแบบกวนส้นตีน ส่วนคุณหมอยาหยีของผมก็หันมามองผมตาขวางเชียว“...ทำไมครับ หรือว่าเกิดไม่แน่ใจอะไรขึ้นมา” หึ ๆ รีบถามกูทันทีเลยนะมึงไอ้หมอหน้าแหลม โคตรพ่อโคตรแม่แหลม คางแม่งหน้าเอาไปตอกยึดเสาบ้านฉิบหาย จะรีบถามเพื่อปั่นให้ยาหยีไม่แน่ใจคิดว่ากูโลเลล่ะสิ ฝันไปเถอะไอ้ควายกูรักเดียวใจเดียวมาตั้งหลายปีแล้วยาหยีของกูไม่มีทางตกหลุมพรางของมึงด้วยคำพูดประโยคเดียวหรอก“เปล่าครับ แค่กลัวว่าที่เจ้าสาวคนสวยของผมจะแพ้ท้องหนักจนจัดงานแต่งไม่ได้ต่างหาก” ผมตอบมันช้า ๆ ชัด ๆ น้ำเสียงก็อารมณ์ดีมากไม่มีอะไรที่ผมต้องกลัวมันหรอก ถ้ายาหยีจะชอบมันเธอคงชอบไปนานแล้ว แต่เมียผมรักผมคนเดียวผมมั่นใจ ที่พูด ๆ มานี่แค่
“ที่รัก...เราแต่งงานกันเลยได้ไหม ยาหยีแต่งงานกับพี่กันต์ได้ไหมคะ พี่คิดถึงลูก พี่อยากให้ลูกกลับมาอยู่กับเราแล้ว~”สิ่งที่พี่กันต์พูดออกมาทำให้ฉันใจเต้นแรงมาก แรงจนน่ากลัวแล้วก็มีความสุขที่สุด ฉันมีความสุขมากเลยนะ ที่เขาอยากมีลูกกับฉันเหมือนอย่างตอนนั้นที่ขนาดฉันท้องเพราะพลาดเขายังเสียใจที่ลูกไม่อยู่มากถึงขึ้นหนีหายไปนานถึงสามปี“พี่กันต์อยากแต่งงานอยากมีลูกกับหยีจริง ๆ เหรอคะ” ฉันถามเสียงสั่น ทั้งตื้นตันแล้วก็เอ่อ...ทั้งเสียวค่ะ เข้าใจไหมว่าพี่กันต์ยังอยู่ข้างในตัวฉัน -///-“กี่ปีแล้วที่พี่รักหยี หยีคิดว่าพี่จะอยากหยุดแค่คบกันแล้วก็มีอะไรกับหยีไปวัน ๆ แค่นั้นเหรอครับ” พี่กันต์ถามเสียงทุ้มแล้วก็เริ่มควงท่อนเอ็นในตัวฉัน“ซี๊ด~ พี่กันต์ขา” ฉันกอดพี่กันต์แน่นเพราะเขาหมุนควงท่อนเอ็นไม่หยุด“จ๋า~ ยาหยีของพี่เสียวเหรอครับ” พี่กันต์กอดฉันแน่นแล้วก็ถามเสียงแหบพร่า“อื้อ~ อย่าทรมานหยี” เสียวสิคะใครจะไม่รู้สึกอะไรได้ล่ะก็พี่กันต์เล่นหมุนท่อนเอ็นไม่หยุดแบบนี้“อ่าส์~ พี่ก็เสียว ตกลงที่รักแต่งงานกับพี่นะครับ”“ใครเขาขอแต่งงานเวลาแบบนี้กันคะพี่กันต์ อื้อ~ อย่าแกล้งหยี” เขาเริ่มขยับท่อนเอ็นสาวเข้าออ
“วันจันทร์มีเคสหนักไหมครับ?”“ไม่มีค่ะ ทำไมเหรอคะ”“ก็...คุณหมออาจจะต้องลาป่วยเพราะสามีคุณหมอกินคุณหมอจนเป็นไข้ลุกไม่ไหวต้องนอนติดเตียงให้สามีฉีดยาไงครับ” ผมบอกยาหยีจบก็ดันเธอให้ลงไปนอนอยู่ใต้ร่าง เช้า ๆ แบบนี้มีเมียมายั่วมันก็ดีนะครับ ดีมากด้วยแต่ผมอยากจับเมียกินมากกว่าให้เธอมากินผม เช้า ๆ มันคึกคักผมต้องการออกกำลังกายด้วยตัวเองผมคร่อมอยู่บนตัวยาหยีตรงกลางลำตัวของเราสองคนกำลังประสานกันอยู่ รู้สึกดีมากแต่ที่รู้สึกดีมากกว่านั้นก็คือขาเรียวของยาหยีที่กำลังตวัดเกี่ยวตัวผมเอาไว้ต่างหาก“อืม~” เสียงครางเบา ๆ ในลำคอดังขึ้นมาจากทั้งผมและยาหยี เราสองคนกำลังจูบกันอย่างดูดดื่มแล้วก็เพิ่มความร้อนแรงขึ้นมาเรื่อยๆ มือของเราสองคนก็ลูบไล้ไปตามลำตัวของกันและกันผมถอนจูบออกแล้วไซร้ลงมาที่คอขาวผ่องของยาหยี อยากจะฝากรอยรักเอาไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของแต่ก็ทำไม่ได้เพราะคนอื่นคงมองมาไม่ดีผมก็เลยขยับลงมาต่ำอีกนิดจนถึงเนินอกถึงได้เริ่มดูดผิวเนื้อของเธอแรง ๆ ให้มันเกิดรอยแดงจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ~“อื้อ~ พี่กันต์ขา~” ยาหยีส่งเสียงร้องครางออกมาพร้อมกับขยุ้มหัวผมจนแน่น ทั้งขยุ้มทั้งกดจนผ่านไปไม่นานเธอก็ดันหัวผมให้ล
Mga Comments