“พี่ไพรบกวนเข้ามาพบผมหน่อยครับ”
ก๊อก ๆๆ
“คุณฟรังซ์มีอะไรให้พี่รับใช้คะ” แค่ผมบอกไม่ถึงสามสิบวินาทีเลขามือฉมังที่เคยเป็นอดีตเลขาของพ่อก็รีบเข้ามาหาผมในทันที
“ผมอยากจัดงานเลี้ยงสิ้นปีให้พนักงานน่ะครับ พี่ไพจัดการให้ผมหน่อย” พอผมพูดจบพี่ไพก็ทำหน้างง
“พี่ไพไม่เข้าใจหรือสงสัยตรงไหนรึเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะคุณฟรังซ์ แต่ปาร์ตี้ปีใหม่บริษัทเราก็มีทุกปีอยู่แล้วนี่คะ”
“ผมทราบครับแต่ปีนี้ขอพิเศษหน่อย พี่ไพเขียนโครงการให้ผมที ไม่ต้องให้ใครมารับผิดชอบนะครับเดี๋ยวผมจัดการที่เหลือเอง ขอบคุณมากครับ” ผมสั่งไปเท่านั้นแล้วก็ก้มหน้าดูเอกสารต่อ พี่ไพแกก็รู้งานครับ ถึงจะงงแต่เดี๋ยวแกก็แก้ปัญหาและจัดการได้อยู่ดี
อีกสามอาทิตย์จะปีใหม่ บริษัทผมมีปาร์ตี้ทุกปีแต่ผมเพิ่งได้ร่วมเมื่อปีที่แล้วเพราะเรียนจบแล้วก็มาเป็นรองประธานบริษัทจนปีนี้ได้ขึ้นเป็นประธานบริษัทเต็มตัวผมขอลงความเห็นเลยว่าปาร์ตี้ปีที่ผ่านมามันโคตรห่วย ห่วยแตกโคตร ๆ นั่งกินโต๊ะจีน มีนักร้องบนเวทีคั่นด้วยการจับฉลากของรางวัลจากบริษัทเป็นระยะ ๆ ห่วยแตกไหมล่ะครับ เพราะฉะนั้นปีนี้ท่านประธานอย่างผมจะเสิร์ฟความมันให้พนักงานทุกคนเอง
ตื๊ดดดด ตื๊ดดด
ติ๊ด!
(ว่าไงไอ้ร่าน)
“ฮึ! มึงว่างไหม”
(ไม่ว่างหาเงินใช้อยู่)
“โอเคเดี๋ยวกูเข้าไปหา”
(มึงจะเข้ามาทำไม กูบอกว่าไม่ว่างไงวะ)
“เรื่องของมึง กูกำลังออกไปแล้ว” ผมพูดจบก็ตัดสายทิ้งทันที
-หนึ่งชั่วโมงต่อมา-
“กูโคตรงงเลยว่าทำไมบริษัทมึงไม่เจ้งสักที อยู่ในเมืองรถติดฉิบหาย ถ้ากูเป็นลูกค้ากูไม่ฝ่ารถติดมาจ้างบริษัทมึงแน่นอน” ทันทีที่ผมมาถึงก็โผล่พรวดเข้าไปในห้องทำงานของเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ โผล่มาพร้อมกับเสียงบ่นจนมันตกใจ
“ไอ้เหี้ยฟรังซ์ มาไม่ให้สุ้มให้เสียง”
“ขวัญอ่อนจริง ๆ นะมึง ทำไมวะตกใจนึกว่ากูเป็นเมียที่หนีหายเหรอ” ผมเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามมันแล้วก็แซวให้มันปวดใจเล่น ๆ
“ปากหมาติดเพื่อนรักมึงมา?” มันทำหน้าอารมณ์เสียใส่ผมทันทีที่มีเรื่องไปกระแทกใจ
“มึงก็เพื่อนรักกูเหมือนกันน่า ปากหมาได้จากไอ้กราฟนิดหน่อย ความร่านก็ได้จากมึงนิดหน่อยไงแชร์ ๆ กัน” ผมขยายความให้เข้าใจ ไอ้นี่มันเป็นเพื่อนรักสมัยมัธยมครับ ที่จริงผมไม่ได้มีแค่ไอ้กราฟเป็นเพื่อนหรอก เรามีกันห้าคนแต่พอไอ้กราฟกับไอ้คริชทะเลาะกันก็เลยแยกเป็นสองฝั่ง 2 : 2 ส่วนอีกหนึ่งที่หายไปไอ้นั่นมันไม่สนใจใครหรอก มันหายไปเพราะปัญหาครอบครัวก่อนกลุ่มเราจะแตกอีก อย่าไปพูดถึงมันเลยไอ้คนไร้ความรับผิดชอบแบบนั้น
“พูดธุระของมึงมาไอ้ฟรังซ์กูมีการมีงานทำ”
“รีบร้อนจังเลยครับพี่พอร์ชครับ จะรีบไปหาเด็กที่ไหนครับ”
“เด็กพ่อง! พูดมาไม่งั้นกูจะเอาน้ำสาดไล่” มันยกแก้วน้ำขึ้นมาทำท่าทางจะสาดใส่ผมจริง ๆ ผมก็เลยยอมเงียบปาก
“เออ ๆ กูไม่เล่นแล้ว กูจะมาจ้างบริษัทมึงจัดปาร์ตี้ปีใหม่ให้หน่อย”
“ปาร์ตี้ปีใหม่? ธีมอะไรถ้ามั่วเซ็กซ์บริษัทกูไม่รับ” มันพูดแล้วก็ก้มหน้าเซ็นเอกสารต่อ ดูท่าทางไม่ค่อยสนใจคำพูดของผมสักเท่าไหร่
“ปาร์ตี้แบบนั้นกูจัดเองก็ได้ครับ ปาร์ตี้ปีใหม่ของบริษัทกูต่างหาก” พอผมพูดเป็นการเป็นงานมันก็เลยยอมเงยหน้ามาคุยกับผมดี ๆ
“แค่ปาร์ตี้ปีใหม่ มีแค่ปิ้งย่างกับจับฉลากก็ได้จะต้องจ้างทำไมวะ”
“ก็กูไม่อยากได้ปาร์ตี้ธรรมดา ขอริมสระบรรยากาศแซ่บ ๆ ดีเจสวย ๆ อกบึ้ม ๆ มีนางฟ้าเล่นน้ำทั้งคืน เอนเตอร์เทนเยอะ ๆ มีปัญญาทำไหมวะ”
“สัส! มีปัญญาจ่ายรึเปล่าเหอะมึง” มันเห็นผมพูดสบประมาทก็เลยพ่นคำหยาบใส่หน้าผมกลับมาบ้าง
“กูทุ่มไม่อั้นขอแค่ให้พนักงานในบริษัทกูสนุกก็พอ” ผมอยากให้ทุกคนในบริษัทเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความกระชุ่มกระชวย ใครเป็นคุณป้าเป็นแม่ชีมาทั้งปีก็จะได้กลับมาเป็นสาวบ้าง ส่วนผู้ชายก็ไม่ต่างกันบางคนแทบจะเป็นมหาอยู่แล้ว ผมเห็นแล้วไม่เจริญตา
พ่อมหา คุณป้า หรือแม่ชีที่ผมหมายถึงไม่ใช่การมีศีลนะครับ ถ้าเป็นคนดีเป็นนักปฏิบัติผมก็ไม่อยากทำให้ใจแตกหรอก ผมหมายถึงความอึนความเฉื่อยต่างหาก หลายคนในบริษัทไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าทำงานเหมือนกำลังนั่งสมาธิก็ไม่ปาน ผมเห็นแล้วก็จะหงอยตามเลยอยากสร้างขวัญกำลังใจปลุกพลังกันหน่อย
“โอเคโอนเงินมาเดี๋ยวกูจัดการให้” มันก้มหน้าทำงานแล้วก็พูดสรุปง่าย ๆ
“ไม่คุยรายละเอียด?”
“มึงบอกแล้วไง”
“ไม่เซ็นสัญญาว่าจ้าง?”
“ไม่กูยุ่งอยู่”
“บริษัทมึงคุยงานกับลูกค้าแบบนี้เนี่ยนะไอ้พอร์ช”
“กูไม่ได้เชิญมึงมานี่ไอ้ห่า มึงเสนอหน้าเข้ามาเองทีหลังก็นัดล่วงหน้าสิวะ”
“ไอ้เหี้ย บริษัทมึงจะเจริญได้ยังไงทั้งที่มีประธานขี้เกียจแบบมึงไอ้พอร์ช”
“กูก็มองไม่เห็นความเจริญของบริษัทที่มีประธานจัญไรแบบมึงเหมือนกันไอ้ฟรังซ์” ฮึ! พูดกับหมาหมาเลียปากว่ะ
-สามอาทิตย์ต่อมา-
“ขอบคุณมาก ๆ เลยนะน้องเพลงที่มาช่วยไม่งั้นพี่ตายแน่ ยัยลิลลี่เกิดโดนผัวซ้อมกะทันหัน” พี่จีน พี่ออแกไนซ์เข้ามาขอบคุณฉันยกใหญ่เพราะฉันรีบเหมาแท็กซี่มาพัทยาหลังจากที่พี่เขาโทรไปอ้อนวอนให้มาช่วยเป็นการด่วนเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะพี่จีนแต่เพลงกลัวทำงานล่มมากกว่า เพลงเพิ่งไปเรียนมาเองจบคอร์สแรกมาหยก ๆ กลัวทำได้ไม่ดีเลยค่ะ” ฉันทำหน้าหวั่นใจ งานวันนี้ที่ฉันต้องมาด่วนเพราะว่าลิลลี่ DJ สาวสวยสุดแซ่บที่จะรับหน้าที่เปิดเพลงเอนเตอร์เทนแขกในงานปาร์ตี้ปีใหม่ริมสระดันโดนผัวจับได้ว่าไปมีกิ๊กก็เลยโดนกระทืบจนหน้าบวม ลิลลี่มาไม่ได้และคนอื่น ๆ ก็ติดงานกันหมดเพราะวันนี้มันวันปีใหม่ไงคะ มีแค่ฉันมั้งที่ไม่รับงานนอนเกาตูดอยู่ที่คอนโด
“เพลงทำได้พี่เชื่อ ขึ้นไปก่อนเดี๋ยวช่วงสี่ทุ่มมีอีกคนมา รอเขาจบอีกงานแถวพัทยานี่แหละเดี๋ยวเขาตามมาช่วย”
“ฟู่ว์~ แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย แสดงว่าช่วงแรกเพลงแค่เปิดเพลงสนุก ๆ สลับเบา ๆ ก็ได้ใช่ไหมคะ”
“ใช่จ้า ไปแต่งตัวเนอะเดี๋ยวงานจะเริ่มแล้ว”
หลังจากนั้นฉันก็พุ่งไปแต่งตัวดีนะที่ชุด DJ มันเช็กซี่แบบสปอร์ต แต่คนอื่นนี่แทบจะใส่บิกินี่อยู่แล้ว ฉันได้ข่าวแว่ว ๆ เมื่อกี้ว่าเจ้าของบริษัทเป็นคนเตรียมปาร์ตี้เซอร์ไพรส์พนักงานเอง ไม่มีใครรู้ว่าปาร์ตี้ริมสระวันนี้จะแซ่บแค่ไหน ฉันว่าเจ้าของบริษัทต้องหื่นมากแน่ ๆ เพราะมีทั้งบันนี่เกิร์ล บันนี่บอยมาคอยสร้างความสนุกในงาน
“พี่หลินขาปาร์ตี้ของบริษัทอะไรเหรอคะ พอดีเพลงมาด่วนไม่ทันได้หาข้อมูลงานเลย” ปกติฉันไม่รับงานวันเทศกาลอยู่แล้วค่ะแต่ครั้งนี้คือน้ำใจจริง ๆ พี่ทีมงานเขาหาคนไม่ได้ก็เลยมาช่วย ส่วนพี่หลินก็เป็นเพื่อนที่ทำงานมาด้วยกันวันนี้พี่หลินมาเป็นบันนี่เกิร์ลคอยเอนเตอร์เทนแขก ไม่ใช่ไปนั่งดริ๊งซ์นั่งยั่วนะคะแค่คอยสร้างสีสันเป็นอาหารตาแต่ห้ามล่วงเกิน
“อ๋อน้องเพลงมาแทนลิลลี่นี่เนอะ งานของบริษัท XXX จ้า เจ้าของหล่อมากแซ่บเวอร์ อิอิ” พี่หลินหันมาบอกแล้วก็ทำหน้าดี้ด้าตอนพูดถึงเจ้าของ แต่สำหรับเพลงขวัญที่ได้ยินมีแค่คำเดียวเท่านั้น
ซวย!
ไม่สิคะ 3 คำก็ได้
...ซวย ซวย ซวย!
“เพลงขวัญเสร็จรึยังลูกไปเร็ว” ความซวยจากการได้ยินยังไม่บรรเทาความซวยจากการต้องออกไปเผชิญหน้าก็เข้ามาแทรกต่อทันที
“ค่ะ” ตอนนี้ฉันห่อเหี่ยวสุด ๆ เลยค่ะ ขอให้เขาแค่จัดงานปาร์ตี้ให้พนักงานแต่ตัวเองไปเคาท์ดาวน์กับผู้หญิงสักคนที่อื่นเถอะนะอย่าอยู่เป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกันในคืนสิ้นปีเลย
วู้ว! ไปเพลงขวัญ! เจอก็เจอวันนี้มาช่วยงานพี่ ๆ ไม่ได้ตั้งใจอยากรับงานบริษัทเขาสักหน่อย
หลังจากทำสมาธิเสร็จฉันก็ออกไปวาดลวดลายการเป็น DJ ครั้งแรกในชีวิต โชคดีที่เป็นช่วงเริ่มปาร์ตี้เลยไม่ต้องหนักหน่วงเท่าไหร่ อาศัยก๊อบปี้ท่าทางจาก DJ ดัง ๆ มาช่วยก่อนเพราะตัวเองยังไม่มีประสบการณ์ บิด ๆ กด ๆ ถู ๆ นิด ๆ หน่อย ๆ แล้วก็ยกมือขึ้นปรบไปหนึ่งครั้งแล้วชูมือจากนั้นก็โยก ๆๆ แล้วยิ้มกระจายใส่แขกทุกคนไม่ว่าจะชายหรือหญิงแค่นี้ทุกคนในงานก็สนุกไปพร้อมกับฉันแล้ว ส่วนคนที่อยากเจอยังไม่เจอหรอกน่าจะไปเคาท์ดาวน์กับสาว ๆ มากกว่ามาจับฉลากของขวัญปีใหม่กับพนักงาน
“ทำดีมากค่าน้องเพลง” นี่คือคำชมที่ได้ยินมาหลายรอบแล้วหลังจากที่ฉันลงมาจากเวทีและพี่ DJ อีกคนเขาก็ขึ้นไปต่อ
“ขอบคุณมากค่ะ เดี๋ยวเพลงขอออกไปสูดอากาศหน่อยนะคะ เมื่อกี้โยกจนร้อนแถมแขกรินเหล้าให้กระจายเลย ฮ่า ๆๆ” ฉันเริ่มมึนจริง ๆ ขอออกไปสูดอากาศหน่อยแล้วค่อยกลับเข้ามานั่งเล่นหรือคอยช่วยคนอื่นต่อดีกว่า
ฉันเดินออกมาหน้าหาดห่างจากปาร์ตี้ไม่ไกล มายืนรับลมกับยืนทำใจเพราะปีก่อนก็มาที่พัทยาเหมือนกัน มาเคาท์ดาวน์กับแฟน เฮ้อ! แฟนเก่าต่างหาก...
ฉันกับกายเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ ม.ปลาย พอเรียนจบก็สอบติดมหาลัยเดียวกัน ความจริงเราปิ๊งกันมานานแล้วค่ะแต่ฉันเพิ่งตกลงคบกับเขาตอนเรียนมหาลัยเพราะรู้สึกว่าเราทั้งคู่โตขึ้นแล้ว คบกันตอนนี้ดีกว่าตอนเป็นเด็กมัธยม ไม่อยากคบแบบ Puppy love กลัวความสัมพันธ์พัง แต่สุดท้ายก็พังอยู่ดีเพราะเขาไม่ซื่อสัตย์ คนดีที่ดีมาตั้งนานดันมาดีแตกตอนท้าย มัน...บัดซบกับใจฉันชะมัด
“ฮึก!” พอเมาแล้วก็จะเศร้าอยู่นิดหน่อยแบบนี้เป็นประจำเลย รักแรกมันลืมยาก ไม่ใช่ยังรักมากนะคะแต่แค่ยังไม่ลืม
“ไง ไหนบอกว่าบริษัทผมติดแบล็คลิสไปแล้วครับคุณเพลง...ขวัญ” ในระหว่างที่ฉันกำลังทอดสายตามองคลื่นกับสายน้ำที่หายไปกับความมืดเสียงกวนประสาทก็ดังขึ้นมา
“นึกว่าไม่มาแล้วนะคะ” ฉันหันไปหาต้นเสียง เขานั่นล่ะไม่ใช่ใครหรอก
“มาสิ เสียเงินจ้างบริษัทไอ้พอร์ชจัดงานให้ตั้งหลายแสนทำไมจะไม่มา แต่มาแล้วก็เซ็งเพราะดันมีเด็กเส้นขึ้นไปเป็น DJ ในปาร์ตี้สะงั้น” เขายืนเอามือล้วงกระเป๋ามองตรงไปที่ทะเลข้างฉัน แต่ก็ไม่วายกระแนะกระแหน
“ใครเด็กเส้น?” นี่เขายังคิดว่าฉันเป็นเด็กคุณพอร์ชอีกเหรอ ความคิดบ้า ๆ พวกนี้ช่วยลบออกไปจากสมองสักทีได้ไหมถ้าไม่มีหลักฐานอะไรนอกจากคำบอกเล่าของยัยซีแนม
“เธอไงหรือไม่จริง มิกซ์เพลงเก้ ๆ กัง ๆ ยังได้ขึ้นเวที”
“ไม่ใช่แล้วคุณ ฉันมาช่วยเพราะ DJ ตัวจริงไม่สบายต่างหาก” ฉันไม่ได้แคร์เขาจนต้องรีบอธิบายนะคะแต่ฉันไม่ชอบให้ใครมามองว่าฉันเป็นเด็กใครแบบนี้ เด็กเส้นงั้นเหรอ? อีตานี่ไม่รู้สินะว่าเพลงขวัญคนนี้เป็นพริตตี้โนเนมแบบนี้มากี่ปีแล้ว
“เหรอ~”
“ถึงจะไม่เชื่อก็ไม่เห็นต้องทำเสียงเสียมารยาทเลยนะคุณ” ฉันหันไปบอกเขาดี ๆ ขี้เกียจจะมีเรื่องกับเขาแล้ว เอาไว้วันหลังถ้าเขามากับยัยซีแนมแล้วเมียเขามาป่วนฉันเหมือนอย่างที่เคยค่อยทะเลาะต่อแล้วกัน
“อืม ขอโทษก็แล้วกัน” เขาพยักหน้ารับแล้วก็หันกลับไปมองที่ทะเลอีกครั้ง
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วคุณช่วยไปไกล ๆ ได้ไหมคะ ฉันกำลังเมาแล้วก็อยากเศร้าต่อ” ฉันนั่งลงที่พื้นทรายแล้วก็ออกปากไล่เขาอย่างมีมารยาท...มั้ง
“เธอไล่ฉัน?” เขาหันมาเอียงคอมองด้วยความอึ้ง
“เปล่าค่ะ แค่ขอให้คุณช่วยไปไกล ๆ”
“เธอนี่เป็นผู้หญิงที่โคตรบ้าเลยเพลงขวัญ”
“แล้วแต่คุณจะคิดว่าฉันเป็นยังไงเถอะ เป็นเด็กเสี่ย เป็นคนนิสัยเสีย เป็นคนบ้าอะไรก็เรื่องของคุณ แต่เวลานี้ช่วยเลิกหาเรื่องแล้วไปไกล ๆ ฉันทีได้ไหม” ฉันไม่ได้พิศวาสเขา ไม่นึกพิศวาสจนอยากอยู่ใกล้ในเวลาเมาด้วย ต้องการแค่อย่างเดียวคืออยากให้เขาไปให้พ้นหน้าฉัน
“เพลงขวัญ!”
“ถ้าไม่ไปฉันจะสรุปว่าคุณหลงเสน่ห์ฉันจนต้องหาเรื่องอยู่ใกล้ ๆ”
“ฉันน่ะเหรอชอบเธอ ฮึ!”
“อืม คุณชอบฉัน แล้วตอนนี้ก็กำลังแอบมองร่องนมฉันด้วย” ฉันนั่งที่พื้นทรายแต่เขายืนอยู่ข้าง ๆ ค่ะ พอฉันเงยหน้าตอบกลับแบบนี้เขาก็ทำหน้าไม่ถูกแล้วก็เบือนหน้าหนีไปทันที
“มีให้ดูฉันก็ดูไปอย่างนั้นแหละ แถวนี้มันมืดคนกินเหล้าก็เยอะระวังคนเมาหน่อยก็แล้วกัน” เขาพูดออกมาเหมือนคนกำลังหัวเสียแล้วก็ยอมเดินออกไป ดีแล้วไปเถอะปล่อยให้ฉันได้ใช้เวลาเงียบ ๆ สักพัก ฉันอยากคิดทบทวนถึงปีที่ผ่านมาว่าฉันเจออะไรแย่ ๆ มาบ้างและการที่ฉันได้คิดทบทวนเรื่องราวในปีที่ผ่านมาก็ทำให้ฉันต้องเดินไปหาเบียร์มานั่งจิบแต่เปลี่ยนมานั่งตรงที่ที่มันไม่เปลี่ยวและอยู่ใกล้กับคนอื่น ดื่มให้กับชีวิตที่โดนหักหลัง จากที่ตั้งใจจะเข้าไปช่วยคนอื่นในงานปาร์ตี้ฉันก็ไม่ไปแล้วค่ะไม่มีอารมณ์ ได้ยินเสียงเพลงเสียงเคาท์ดาวน์ดังมาจากหลายทิศทางแต่ฉันไม่มีอารมณ์ร่วมใด ๆ ทั้งสิ้น
ฉันนั่งเมาอยู่ที่เดิมจนเวลาผ่านไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แต่เมามากแล้วจริง ๆ ก็เลยพยุงตัวเองไปหาที่นอน พี่จีนบอกว่ามีที่นอนให้ ไม่รู้ที่ไหนเหมือนกันคงต้องเป็นสักทีนั่นแหละ ฮ่า ๆๆ
เอาเป็นว่าเปิดไปเจอห้องไหนที่เป็นผู้หญิงนอนเพลงขวัญก็จะซุกตัวนอนกับเขาไปเลย ท่าทางคืนนี้ทุกคนจะเมาพอกัน คงไม่มีใครถือสาฉันหรอกที่ไปมั่วนอนด้วย
แอด~
“อ๊ะ อ๊ะ! แรง ๆ เลยค่ะที่รัก ซี๊ด~”
พั่บ พั่บ พั่บ!
“อ่าส์! โคตรมันส์ อืม~”
“อ๊ะ แรง ๆ ค่ะฟรังซ์ ซี๊ด~ อ๊ะ! โอ๊ย! จุกค่ะ”
“อืม~ มันใหญ่ครับคนสวย อ่าส์~”
“อ๊ะ! อะ....กรี๊ด!!!!!!!!!”
-สามเดือนต่อมา-“มองเหี้ยไรวะ!” พี่ฟรังซ์ยืนเท้าเอวท่าทางหัวเสียอยู่ข้างเวทีขนาดใหญ่ในงานมอเตอร์โชว์ ด้านบนมีแลมโบกินี่ราคาหลายสิบล้านถูกนำมาโชว์เปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่เพิ่งนำเข้ามาในไทยภายในงานมอเตอร์โชว์ แต่เจ้าของบริษัทที่เอารถมาเปิดตัวกลับยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงตะคอกแขกและลูกค้าในงานอยู่ข้างเวทีจนฉันดึงเข้ามาด้านหลังเวทีแทบไม่ทัน“พี่ฟรังซ์! ตะโกนแบบนั้นได้ยังไงคะเดี๋ยวก็ขายรถไม่ได้พอดี” พอมาด้านหลังเวทีเพลงขวัญคนนี้ก็เลยจัดการดุพี่ร่านยกใหญ่“ขายไม่ได้ก็ช่างแม่ง ไอ้เหี้ยพวกนี้มันไม่ได้มาซื้อรถแต่มันมาดูนมพริตตี้ต่างหากแถมยัง...”“หวง?” ฉันถามเสียงเย็นเพราะเขาทำท่าหัวฟัดหัวเหวี่ยงและพูดเหมือนโมโหที่ผู้ชายในงานมาดูนมพริตตี้ที่เขาจ้างมา โถไอ้ติ่งร่องนมตัวพ่อ! มีแฟนและจะแต่งงานกันเดือนหน้าอยู่แล้วยังกล้าหวงร่องนมอื่น แล้วหวงแบบไม่เกรงใจอีเพลงที่ยืนหัวโด่อยู่ข้าง ๆ เลย คนร่านอยากเป็นหม้ายขันหมากสินะ“เออหวง หวงมากด้วยแม่ง!”“พี่ฟรังซ์!” ฉันตะคอกด้วยความเหลืออด นี่กล้าหวงร่องนมผู้หญิงคนอื่นแล้วก็สารภาพต่อหน้าฉันขนาดนี้เลยเหรอ เกรงใจกันบ้างไหมน้ำตาอีว่าที่เจ้าสาวตกในแล้วค่ะ จะมาดีแตกตอนที่ร่อน
“เสียวค่ะ ซี๊ด~ พี่ฟรังซ์เข้ามาเลยได้ไหม”“...อยากเหรอครับเมีย”“อยากค่ะ อื้ม~ พี่ฟรังซ์ขา ใส่เข้ามาเลยได้ไหมเพลงค้างนานแล้ว”“หือ?” อ่าส์ พี่ก็ค้างค่ะที่รักแต่ขอแกล้งเมียก่อนห่างอกผัวไปนานที่รักของผมหื่นขึ้นเยอะเลย แต่พอผมลีลาเพลงขวัญก็จิกลงมาที่แขนผมเต็มแรง“อย่าแกล้งค่ะพี่ฟรังซ์...นี่เมียนะ”“...เมีย พี่โคตรชอบเวลาเพลงแทนตัวแบบนี้เลยครับ” เวลาได้ยินเธอเผลอแทนตัวแบบนี้ทีไรหัวใจมันโคตรพองโต“อื้อ~ อย่าแกล้ง ซี๊ด~” เพลงขวัญร่อนสะโพกใส่เพราะผมเอาท่อนเอ็นจ่อทางเข้าร่องรักแล้วถูร่องรักเปียกเยิ้มของเธอแต่ไม่ยอมใส่เข้าไปอย่างที่เธอต้องการ“เสียวไหม~” ท่อนเอ็นใหญ่ส่วนปลายค่อย ๆ กดเข้าไปในร่องรักสีชมพูสวยที่ไม่ว่าจะมีอะไรกันบ่อยแค่ไหนแต่ก็ยังปิดสนิทเหมือนไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน“อื้ม~ เสียว เสียวค่ะ ซี๊ด~” เพลงขวัญสูดปากแล้วก็ยันตัวขึ้นมาเพื่อมองผม“อ่าส์~ โคตรแน่นเลยครับเมีย” ห่างกันไปแค่สิบกว่าวันเพลงขวัญแน่นกว่าเดิมเยอะเลย เข้าไปได้แค่ครึ่งลำผมก็เสียวจนขยับท่อนเอ็นไม่ไหวเพราะกลัวว่าโดนบีบรัดมากกว่านี้แล้วมันจะเสร็จก่อนได้ทำให้เมียเสียว“อื้อ~ เข้ามา พี่ฟรังซ์เข้ามา~” เพลงขวัญยันตัวขึ้นแ
“เดี๋ยวเพลงว่าเพลงไปเก็บของต่อดีกว่านะคะ” ฮึ ๆ จะหาเรื่องหนีสินะเพลงขวัญ“จะอยู่ทั้งที่มันเพิ่งฉาบปูนจริง ๆ” ผมมองหน้าคนสวยที่ยืนคุยกับผมด้วยหน้าตาเอ๋อ ๆ ทันที่ที่กลับมาถึงคอนโด หน้าตาเอ๋อไม่สมกับเพลงขวัญมือตบอันดับหนึ่งเลยสักนิด แต่ก็ดีแล้วครับผมเคยบอกแล้วไงว่าผมจะเป็นคนแรกที่ไม่กลัวเมีย แต่ไม่ใช่ว่าอยากให้เมียมากลัวผมหรอกนะ แค่เชื่อฟังสามีสักนิดหรือเกรงใจในบางเรื่องก็พอ“ก็...เพลงเชื่อฟังพี่ฟรังซ์นี่นา”“ตลกแล้วเพลง พี่ขำด้วยเหรอ?” ผมตอบกลับแล้วก็เดินย่างสามขุมเข้าไปหาเพลงขวัญที่กำลังถอยหลังหนีผมช้า ๆ เหมือนกัน“แหะ ๆ แต่มันเพิ่งจะเที่ยงเองนี่เนอะ แต่เพลงยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยนี่นา หูยเพลงลืมไปเลยค่ะ”“กินไส้กรอกก่อนไหมอร่อยนะเดี๋ยวพี่จะป้อนให้จุกเลย” พูดจบผมก็โยนเสื้อไปทางโซฟาแล้วก็เริ่มจัดการกับกางเกงต่อ ดื้องี่เง่าดีนักจะเอาให้เป็นโรคกระเพราะเลยคอยดู เดี๋ยวจะเอาให้หายซ่าส์“พี่ฟรังซ์...” พอเห็นผมไม่ยอมคล้อยตามเธอ ยัยขี้เมาก็หยุดยืนแล้วก็เรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงงอน“อย่างอนเพราะพี่ไม่อ่อนโยน”“ชิส์! ขออาบน้ำก่อนก็แล้วกันนะคะ ขออาบน้ำทานข้าวเอาแรงแล้วจะไปนอนรอรับศึกหนักที่เตียง หร
เขาบอกให้เก็บก็เก็บสิคะ เก่าไปใหม่มามันเป็นเรื่องธรรมดา เก็บไปพร้อมน้ำตาที่ไหลอยู่ในอก“จะไม่กินข้าว?”“ค่ะ” ใครจะกินลง ก็รู้ตัวอยู่หรอกว่าเป็นคนบอกเลิกเองแต่ฉันไม่ได้เตรียมใจมาโดนไล่ให้เก็บของนี่คะ ขอตัวรีบเก็บของแล้วกลับไปกินข้าวเคล้าน้ำตาที่ห้องตัวเองดีกว่า“แต่พี่ทำไว้แล้ว กินหน่อยเถอะถือซะว่าเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของที่นี่” พอเห็นฉันงี่เง่าไม่หัวอ่อนอย่างที่ต้องการก็ได้ทีกวนตีนใส่พร้อมกับถีบหัวส่งเลยสินะ“ไม่เป็นไรค่ะขอบคุณที่ทำเผื่อนะคะแต่เพลงว่าเพลงรีบเก็บของดีกว่าจะได้ไม่ต้องรบกวนพี่ฟรังซ์นาน ๆ”“ตามใจ” เขาเดินไปนั่งบนโต๊ะเครื่องแป้งของฉันที่ฉันเก็บทุกอย่างบนนั้นใส่กระเป๋าหมดแล้ว ต่อไปนี้ก็คงไม่ใช่ของฉันแล้วสินะ เดี๋ยวก็คงมีคนมาใช้มันต่อ เฮ้อ! อย่าหวงเลยกับอีแค่โต๊ะเครื่องแป้ง ขนาดคนที่เขาบอกว่าเขาเป็นของเธอก็ยังมีคนมาเอาไปใช้ต่อเลย เจ็บไหมล่ะเพลงขวัญในระหว่างที่ฉันเก็บของไปเรื่อย ๆ เขาก็นั่งกอดอกมองฉันอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งนั่นแหละ ไม่รู้นั่งมองหรือนั่งกดดันให้รีบเก็บ ตอนนี้ในหัวคิดดีโลกสวยไม่ได้เลยจริง ๆ ก็รู้ว่าเป็นคนบอกเลิกแต่ไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายไล่ให้เก็บของตอนนี้เลย“เพลง”
อื้อ~ พี่ฟรังซ์ หยุด~ อื้อออ~” ตอนนี้เธอเริ่มทุบและผลักผมออกแต่ผมก็ยังกอดเธอเอาไว้แน่น เดี๋ยวจะดูดให้เสียวจนหมดแรงเลยยัยขี้เมา“พี่...อุ๊บ! อ้วก!!!”ผมนิ่งอยู่ที่เดิมไม่มีอะไรในร่างกายที่จะขยับนอกจากปาก ผมรีบผละออกจากหน้าอกเพลงขวัญแล้วเม้มปากให้สนิททันทีที่รู้สุกหนักที่หัว...กูแม่งทำเวรทำกรรมอะไรมานักหนาวะ!“อื้อ! ออกไปเพลงเหม็น!” พออ้วกใส่หัวผมเสร็จเพลงขวัญก็ผลักหัวผมออกจากตัวเธอ ผลักแรงมากและมันก็ทำให้สิ่งที่ผมพยายามนิ่งเป็นหินเมื่อกี้หมดความหมายเพราะตัวผมไปกระแทกกับแผงคอนโซลรถเต็มแรงมันก็เลยทำให้อ้วกที่รดบนหัวกระจายไปที่อื่นเป็นหย่อม ๆ สบายหัวมากขึ้นแต่รถผมต้องเต็มไปด้วยซากอ้วกแน่นอน“เฮ้อ! ยัยมนุษย์อ้วกเอ้ย!” ผมค่อย ๆ ขยับตัวลงจากรถส่วนยัยเมียขี้เมาก็ปล่อยให้นั่งสะลึมสะลืออยู่บนรถต่อไปพอลงมาก็พยายามก้มหัวให้ต่ำที่สุดแล้วสะบัดอ้วกออกจากหัวเต็มแรง ที่เป็นปัญหาคือมันไม่ได้มีแค่เศษนี่สิ อย่าลืมว่าเพลงขวัญดื่มมานะครับและท่าทางจะดื่มมาหนักด้วยเพราะฉะนั้นไอ้อ้วกที่อยู่บนหัวผมมันก็เลยเป็นน้ำเหนียว ๆ ค่อนข้างเยอะ“อ้วก!!!” ไม่ใช่เสียงอ้วกเพลงขวัญหรอกครับ เสียงผมนี่แหละ รักมากเก็บอ้วกได้แ
-หนึ่งชั่วโมงต่อมา-ฉันตัดสินใจมารอพี่ยาหยีที่บ้านพร้อมกับซื้อเบียร์มาหลายขวด ดีนะที่รู้ที่ซ่อนกุญแจก็เลยเข้ามานั่งซดเบียร์ในบ้านได้“เพลงเป็นอะไรทำไมต้องร้องไห้ขนาดนี้” ในระหว่างที่นั่งน้ำตาไหลรินอยู่คนเดียวพี่ยาหยีก็มาถึงพร้อมกับรีบเข้ามาถามฉันด้วยน้ำเสียงตกใจ“ฮึก! พี่หยี ฮื่อ ๆๆ เพลงเสียใจ” พอเห็นหน้าพี่สาวน้ำตามันก็ยิ่งไหล“ใจเย็น ๆ ก่อนเพลงเกิดอะไรขึ้นเล่าให้พี่ฟังได้ไหม”“ไอ้คนเลว! ไอ้หล่อหน้าซาลาเปา! ไอ้ร่าน! ไอ้เจ้าชู้!” ฉันเกริ่นด้วยคำด่าสารพัดเท่าที่จะขุดมาด่าไอ้คนนิสัยไม่ดีคนนั้นได้แล้วก็ค่อยตั้งสติเล่าทุกอย่างให้พี่ยาหยีฟังทั้งน้ำตา เล่าแค่เรื่องราวแต่ไม่แม้แต่จะเอ่ยชื่อให้เป็นกาลากิณีปาก“ฮื่อ ๆๆ ไอ้คนร่าน! ผู้ชายใจทรามรักกามเป็นชีวิตจิตใจ!” ฉันเล่าจบก็ตามด้วยการด่าและกระดกเบียร์ไม่หยุด กินให้พุงแตกตายไปเลย ดื่มนี้เพื่อลืมไอ้ร่าน!“ผู้ชายคนนั้นดูงง ๆ นะพี่ว่า ทางที่ดีพี่ว่าเพลงทบทวนให้ดีก่อนดีกว่าว่าความดีที่เขาคอยอยู่ข้าง ๆ กับการที่ทิ้งเราไปนอนกับผู้หญิงไม่เลือกหน้าอันไหนที่มันมีน้ำหนักในการตัดสินใจให้รักเขาต่อหรือหยุดเจ็บปวดได้สักที” พี่ยาหยีให้คำแนะนำหลังจากที่ฉันระบ