บ่ายสี่โมงครึ่ง ตรงเวลาเป๊ะ ทีมช่างก็มาถึง เธอรีบบรรจงแต่งหน้าให้กับสองสาว โดยที่กฤษไม่ได้เข้ามายุ่มย่ามเลย เขาอยู่แต่ในห้องของตัวเอง
เมื่อสองสาวแต่งหน้าเสร็จ เสียงช่างเอ่ยถาม
“สวยมาก ๆ เลยค่ะ พี่ชอบนะคะ น้องแพรกับน้องหลินชอบไหมคะ"
"ชอบค่ะ" สองสาวหันมามองกันและกัน
"แพรสวยจัง"
"หลินก็น่ารักจ้า" ต่างคนต่างชมกัน จึงหัวเราะพร้อมกัน
"ถ้าให้แต่งหน้ากันเอง ไม่รู้ว่าจะไปแสดงงิ้ว หรือละครลิง" หลินพูดขึ้นมา
"น้องหลินก็พูดเกินไปค่ะ 555+++" พี่ช่างสองสาวก็หัวเราะผสมโรง
"มาค่ะ เดี๋ยวพวกพี่ช่วยแต่งตัวให้" เธอกระวีกระวาดช่วยสองสาว พอแต่งตัวเสร็จ พี่ช่างก็เอ่ยถามขึ้นมา
"คุณน้องขา พี่ขอกดแชะสักสองสามรูปนะคะ จะเอาไปลงหน้าเพจของร้านได้ไหมคะสวยจริง ๆ ทั้งสองคนเลยค่ะ"
"เอาสิคะพี่ ได้เลย ไม่มีปัญหา แต่เดี๋ยวช่วยเอามือถือหลินถ่ายด้วยนะ"
หลินยกมือถือมาเซลฟีหน้าตัวเอง และพูดว่า
"Capture" ทำหน้าแอ๊บแบ๊ว เรียกเสียงฮาให้พี่ช่างแต่งหน้าอีกครั้ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูจากด้านนอกห้องของหลิน
เสียงกฤษตะโกนถามเข้ามา "เสร็จเรียบร้อยหรือยังจ๊ะสาว ๆ หัวเราะเจี๊ยวจ๊าวเสียงดัง"
แพรวาเดินไปเปิดประตูให้เขา
"เรียบร้อยค่ะ" กฤษยืนตะลึงอยู่ที่หน้าประตู มองสาวสวยตรงหน้า ยิ้มกว้างให้ เอ่ยชม
"แพรสวย น่ารักมากเลยครับ"
พอดีพี่ช่างหิ้วสัมภาระออก ชายหนุ่มทำท่าจะช่วยหิ้ว
"ไม่ต้องค่ะ พี่สองคนไปก่อนนะคะ ไว้โอกาสหน้าพี่ยินดีมาให้บริการอีก" สองสาวเดินตามหลังมายกมือไหว้ กล่าวขอบคุณ
กฤษหันมาหาแพรวา ส่งสายตาหวานให้ อ้อนเธอด้วยคำพูด
"แพรช่วยพี่หาของหน่อยสิครับ พี่หาเข็มกลัดติดเนกไทไม่เจอ" และเดินนำแพรวาเข้าไปในห้องของตนเอง เธอรีบเดินตามเข้าไปหาของให้กับเขา
ชายหนุ่มปิดประตู เดินตามหญิงสาวที่รีบไปหาของในกระเป๋าของเขา สักครู่ เธอก็เจอทันที หยิบมันขึ้นมาทันที แล้วหันกลับมาทางเขา หน้าชนกับปลายจมูกของกฤษเข้าพอดี เพราะเขาตั้งใจอยู่ก่อนแล้ว
"แพรนึกแล้วค่ะ ว่าพี่กฤษต้องมามุกนี้" เธอทุบหน้าอกของกฤษเบา ๆ เขาคว้าเธอเข้ามาสู่อ้อมกอด
"แพรสวยมากรู้ไหมครับ" พูดจบก็จับเอามือแพรวาไปทาบที่อก
"ใจพี่เต้นไม่เป็นจังหวะเลยได้ยินไหมครับ"
"เซี้ยวจริง ๆ พี่กฤษนี่ ใช่เวลาไหมคะ" แพรวาค้อนแบบน่ารักให้กับกฤษไปเล็กน้อย
"ขอพี่หอมอีกทีนะ"
กฤษโอบเอวและกระชับแพรวาให้เข้ามาแนบกับลำตัว เชยคางมนของเธอขึ้นมาให้มองหน้าเขา แล้วก้มลงไปใช้ปากตัวเองแตะริมฝีปากแพรวาเบา ๆ
หญิงสาวหลับตาพริ้ม ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ตื่นเต้นเพราะกฤษไม่เคยทำแบบนี้กับเธอมาก่อน อย่างมากก็แค่หอมที่แก้มเท่านั้น
กฤษผละริมฝีปากออกอย่างเสียดาย และใช้ริมฝีปากจุมพิตไปที่หน้าผากแพรวาเบา ๆ
"คืนนี้พี่มีของบางอย่างจะให้แพรด้วยครับ" เขาบอก
"อะไรคะ" เธอถาม
"ความลับครับ ถ้าบอกตอนนี้ก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิครับ" กฤษกระชับวงแขน กอดแพรวาไว้แนบอก
หลินรู้สึกหิวเพราะวันนี้เธอเพิ่งได้กินข้าวไปมื้อเดียวเอง ก่อนที่จะมาที่นี่ เธอก็ได้แวะซื้อแซนด์วิชกับนมที่ร้านสะดวกซื้อกินก่อนทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าตอนเดินทางมายังโรงแรม หญิงสาวเดินไปที่ตู้เย็น เปิดดูว่ามีอะไรพอประทังความหิวได้บ้าง
"อู้หู ผลไม้เต็มเลย" แล้วเธอก็เลือกหยิบเอาแอปเปิลออกมาหนึ่งลูก กำลังจะเอาเข้าปาก นึกขึ้นได้ ว่าถ้ากัดลงไปแบบนี้ ลิปสติกที่ทาไว้ต้องเลอะแน่ ๆ
"ลองหามีดดีกว่า" เธอกำลังเขย่งเท้าตัวเอง เพื่อเปิดช่องต่าง ๆ ของเคาน์เตอร์ ตรงนั้น เพื่อหาของ คิดในใจ
‘ทำไมทำซะสูงเชียว ไม่เห็นใจพวกตัวเตี้ย ๆ บ้างเลย’
หลินเพลินในการหาของกิน โดยไม่ได้ยินว่ามีเสียงเปิดประตูเข้ามา พีคเดินเข้ามาทางด้านหลังของหญิงสาว หยุดนิ่งยืนมองเธอว่ากำลังทำอะไรอยู่
"ทำอะไรอยู่จ๊ะ" เขาเอ่ยถามขึ้น
หลินไม่ทันระวังตัว สะดุ้งตกใจ เซถลาลงมาทางด้านหลังทำท่าจะล้ม ชายหนุ่มใช้วงแขนโอบรั้งร่างบางเอาไว้ไม่ให้ล้ม ทำให้มือสัมผัสแผ่นหลังที่เนียนนุ่มของหลิน ทั้งสองสบตากัน หลินอายหน้าแดง เลือดในกายสูบฉีด ส่งยิ้มเขินให้กับเขา
"ขอโทษครับ ที่พี่ทำให้หลินตกใจ" พร้อมกับส่งยิ้มตอบกลับให้เธอ รีบปล่อยมือออกจากร่างบาง ทำท่าลูบหัวตัวเองอีกครั้งเหมือนเดิม
"หาอะไรกินน่ะค่ะ กำลังจะหามีดมาเฉาะแอปเปิลสักหน่อย กินเข้าไปทั้งลูกแบบนี้ กลัวลิปสติกจะเลอะน่ะค่ะ" หลินหัวเราะเบา ๆ แบบแก้เก้อ
แพรวาและกฤษเดินออกมาจากห้อง กฤษทันเห็นพฤติกรรมลูบหัวของเพื่อน
"ทำอะไรกันอยู่คะ" เสียงแพรวาดังขึ้น พีคหันมาพูด
"สงสัยหลินคงจะหิวแล้ว ทุกคนรอแป๊บนะ ขอเปลี่ยนชุดนิดหนึ่ง ไม่นาน เดี๋ยวขึ้นไปที่งานพร้อมกัน" แล้วเขาก็เดินไปยกหูโทรศัพท์เพื่อสั่งอาหารจากรูมเซอร์วิสให้ขึ้นมาส่งยังห้องพัก
"เอ้... พี่ภุชงค์ยังไม่มาอีกหรือคะ" แพรวาหันไปถามกับกฤษ
"คงอยู่ข้างบนงานแล้วแหละ ต้องเตรียมตัวหลายอย่าง" และทำมือป้องปาก
"มี Surprise ให้กับพีคมั้ง"
เสียงเปิดประตูห้องของพีค เขาเดินออกมา ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียวกัน
‘ว้าว ๆ หล่อจัง เฮ้ย... คนอะไรมองมุมไหนก็ดูดีไปหมด’ หลินคิดในใจ อมยิ้ม ใจเต้นตึกตัก เพราะแอบมองพีคทุกครั้งที่ไปที่ร้าน เขาดูสะดุดตา สุขุม ไม่เสียงดังขี้เล่นเหมือนภุชงค์ ไปทีไร นั่งนิ่ง ยิ้มนิด ๆ ชวนให้หลงใหล
แต่เมื่อได้รู้ว่าชายหนุ่มชอบคบและคิดกับพวกผู้หญิงอย่างไร ก็หวาด ๆ อีกทั้งเรื่องตัวหลินเอง ทำให้ไม่กล้า และไม่พร้อมจะหาแฟนนั่นเอง
พีคเดินออกมาด้วยสูทผ้าไหมสีกรมท่า รับกับรองเท้าคัทชูที่สวมใส่ ทำผมทันสมัย และที่หลินสะดุดตาคือ ที่คอปกเสื้อของเขา มีเข็มกลัดเนกไทที่หลินเพิ่งให้เป็นของขวัญกับพีคไปเมื่อตอนเจอกันวันนี้ เธอยิ้มดีใจที่เขาเห็นความสำคัญเล็ก ๆ ของเธอ
"ฮู้.... lol" กฤษและแพรตบมือ
เธอเดินมาหยุดที่ขาเตียง ใช้มือลูบไม้ที่ทำตั้งเป็นราว แกะสลักอย่างสวยงาม แขวนมุ้งผ้าเป็นมุ้งสีชมพูขาวจาง ๆ "ใครเป็นคนเลือกผ้าผืนนี้คะ สวยจัง" ถามเสร็จหันมามองชายหนุ่ม เห็นเขากำลังใช้มือลูบข้อเท้าตัวเอง รู้สึกผิด นั่งลงตรงหน้าเขา คุกเข่าลง ใช้มือตัวเองจับไปที่ข้อเท้าของเขา พลิกซ้ายพลิกขวา "โอ๊ย" ภุชงค์ร้อง "เจ็บมากหรือคะ" เธอถาม แต่จริง ๆ เขาไม่ได้เจ็บมากหรอก แค่นึกอยากแกล้งเธอเท่านั้น ดูว่าเธอเป็นห่วงเขาจริง ๆ หรือเปล่า "ในตู้เย็นมีน้ำแข็งไหมคะ เดี๋ยวพักตร์หาผ้าประคบเย็นให้" เธอลุกขึ้น ทำท่าจะเดินออกไปในครัว ชายหนุ่มดึงแขนเธอไว้ ด้วยจังหวะที่จะก้าวขาไปข้างหน้า ทำให้เธอเซล้มเข้าหาเขา นอนทับร่างเขาอยู่บนเตียง "เอ๊ะ... วันนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ค่ะ แข้งขาอ่อนจัง"เธอแก้เก้อ นึกอายที่ล้มทับเขาอีกเป็นครั้งที่สอง ชายหนุ่มจับเธอพลิกให้นอนหงายหมุนตัว เกยทับขึ้นมาด้านบนตัวของหญิงสาว ศิริพักตร์จ้องหน้าเขา ตาสบกัน เธอนึกถึงเรื่องความเป็น Playboy ของเขาหญิงสาวใช้มือผลักดันตัวเขาให้ลุกขึ้น เขาดันขืนตัวเองไว้ไม่ยอมลุก ชายหนุ่มจ้องมองห
ศิริพักตร์ยกมือไหว้ คุณหญิงพิมพ์ใจ และท่าน สส. พร้อมผู้ใหญ่อีกหลายคนในนั้น ภุชงค์ยกมือไหว้ ลาแขกผู้ใหญ่บางคนที่เขามาทักและชื่นชม "ช่างหาแฟนนะ สวยอ่อนหวาน" "เหมาะสมกันดี" "น่ารักจริง ๆ นะคะคู่นี้ คุณ" "แต่งเมื่อไร บอกป้าด้วยนะ" "หมั้นกันหรือยัง" "ขยันเติมความหวานกันหน่อยนะ" และอีกหลายประโยคที่ตามมา หญิงสาวยิ้มเจื่อน ๆ จนเมื่อยแก้ม แต่ก็ไม่ได้แสดงกิริยาที่เสียมารยาทแต่อย่างใด "โอ๊ย.. นี่มันอะไรกัน" จนคนเริ่มซาลง เธอสะกิดเอวภุชงค์ "คุณคะ ห้องน้ำไปทางไหน" ชายหนุ่มหันมาทางหญิงสาว หัวเราะให้เบา ๆ "ขอโทษด้วยนะครับคุณพักตร์ ผมนี่เสียมารยาทจริง ๆ ไม่ได้เทกแคร์คุณให้ดี" ว่าแล้วก็ฉวยข้อมือเธออีกครั้งให้เดินตามเขา ชายหนุ่มพาเธอไปที่เรือนหลังเล็กของเขาอีกด้านหนึ่ง ซึ่งทะลุได้อีกทางหนึ่ง และมีทางเข้าจากอีกซอยหนึ่งได้ พีคและภุชงค์จอดรถไว้ด้านหลังนี้ เพราะกลัวรถติดเนื่องจากคนมาร่วมงานเยอะ บริเวณบ้านเขากว้างจัง ต้นไม้ใหญ่ก็เยอะ ถ้ามาคนเดียวหลงแน่ ๆ เธอคิดในใจ เขาพาเดินอ้อมตึกหลังใหญ่ มายังเ
สิ้นเสียงเพลง แขกผู้มีเกียรติต่างปรบมือ เอ่ยชมกันกราว นักแสดงทั้งหมดลุกขึ้นมายืนรวมกันที่ด้านหน้าเวที ภุชงค์เดินมายืนเคียงข้างกายศิริพักตร์ นักแสดงทุกคนโค้งคำนับให้กับแขกผู้มีเกียรติเป็นการขอบคุณ "คุณหญิงคะ ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมนะคะ" เสียงท่านผู้หญิงคนเดิม กล่าวชื่นชม คุณหญิงสุพัตรา และท่านสมภพ และคุณหญิงพิมพ์ใจ ยิ้มพึงใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า "อย่าลืมนะแม่พิมพ์ ให้ตาภุชงค์พาแม่หนูคนนั้นมาเจอกับแม่ด่วนเลยนะ" น้ำเสียงคุณหญิงสุพัตรา พูดด้วยความยินดี ดีใจเมื่อได้พบสิ่งที่ถูกใจ ภุชงค์ยื่นมือให้เธอจับขณะก้าวลงจากเวที เธอเดินตรงเข้าไปหาอาจารย์ประสิทธิ์ "ฝีมือยังไม่ตกนะ หนูพักตร์" ท่านกล่าวชม "มิเสียชื่ออาจารย์ จริงไหมครับคุณภุชงค์" แล้วหันไปถามชายหนุ่ม "ครับ เป็นการตีขิมที่ไพเราะจริง ๆ อย่างที่ไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเลยครับ" เขากล่าวชมหญิงสาว หยอดคำหวานพ่วงไปด้วย "ขอบคุณค่ะ" เธอส่งยิ้มหวานให้เขา ช่างไม่รู้อะไรซะเลย รอยยิ้มนั้นช่างเชิญชวนยิ่งนัก ทั้งสองร่ำลาอาจารย์ ชายหนุ่มชักชวนให้เธอไปรับประทานอาหารเพราะเธอยังไม่
ทั้งสี่คนเดินลงจากเวที ไปนั่งโต๊ะที่ว่างอยู่ กฤษและพีคอาสาไปตักอาหารมาให้จากบุฟเฟ่ต์ เพราะหิวมาก ๆ แล้วตอนนี้ มีบริกรเดินมาเสิร์ฟเครื่องดื่ม “รับอะไรดีครับ” เขาถามเธออย่างอาทร รู้สึกทึ่งและประทับใจผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้จริง ๆ “ขอเป็นน้ำเปล่าได้ไหมคะ” บริกรยกน้ำเปล่าให้เธอ และวางไว้ให้ทุกคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย ภุชงค์สั่งให้บริกรเสิร์ฟไวน์แดงให้ทั้งหมดสี่แก้ว “รับเป็นไวน์แดงสักแก้วก่อนนะครับ ไวน์แดงนี่เป็นรสชาติที่อ่อนลงมาเล็กน้อย เป็นไวน์แดงจากองุ่นพันธุ์ พิโนนัวร์ (Pinot Noir) รสนุ่มลิ้นดีมาก ๆ ครับ ดื่มก่อนทานซีฟู้ดสักหน่อย” เขายกแก้วของตัวเองยื่นตรงมาที่หน้าของหญิงสาว ประมาณเชิญชวนให้เธอชนแก้วกับเขา เธอยกแก้วของตัวเอง ขึ้นไปชนกับเขา นักข่าวซุบซิบสายบันเทิงมาจากไหนก็ไม่รู้ กดชัตเตอร์รัว ขณะที่ทั้งสองชนแก้ว มองตากัน ภุชงค์หันไปยิ้มให้กล้องด้วยความเคยชิน[1]หอมกว่าใคร ในหล้า ดอกฟ้าพี่ขออย่ามี ภมรภู่ มาสู่สันต์หากแม้นมี พี่นี้ จะปกกันกลีบบางอัน อ่อนหวาน จะอยู่คงพิกุลเอ๋ย พิกุลเจ้า เย้ายวนนักหิ่งห้อยรัก แต่มิอาจ จะเอื้อมส่งได้แ
กฤษเริ่มจำได้เพราะเป็นคนที่ไปที่ร้าน "คุณบังอร" บ่อยที่สุดเขาส่งเสียงทัก "คุณศิริพักตร์ ใช่ไหมครับ" ศิริพักตร์ดีใจที่กฤษจำเธอได้ "แหม... พักตร์นึกว่าคุณกฤษจะจำพักตร์ไม่ได้เสียแล้วค่ะ" กฤษหันไปอธิบายให้พีคฟังว่า "คุณศิริพักตร์ไง เจ้าของร้านที่แพรทำงานไงล่ะ" "โห... คุณพักตร์ สวยจนผมจำไม่ได้จริง ๆ ต้องขอโทษด้วยครับ" พีคทำท่าตกใจ พอสิ้นคำว่า "สวย" ภุชงค์ก็รีบมาทำตัวขวางหน้าสองเพื่อนไว้ทันที เพราะกิตติศัพท์ เรื่องทำให้ผู้หญิงปิ๊งนายพีคก็ไม่น้อยหน้าเขาเช่นกัน "ผมว่า เราสี่คนไปกราบอวยพร คุณยายก่อนดีกว่าครับ" ภุชงค์เอ่ยปากชวน และหันไปทางพีคส่งสายตา "คนนี้ ของผมครับ" พีคส่งยิ้มแบบกวน ๆ ตอบกลับไป แกล้งภุชงค์ โดยเอามือลูบหัวตัวเอง ภุชงค์หันไปเอาข้อศอกกระทุ้งไปที่ท้องของพีคเบา ๆ รู้ว่าพีคคิดมิดีมิร้ายกับผู้หญิงของเขา "คนนี้... มีเจ้าของแล้ว" เขาพูดออกมาจากไรฟัน "ก็ OK, I ได้อยู่แล้ว" พีคทำท่าแบมือ เบ้ปาก กฤษรู้ว่าพีคแกล้งแหย่ภุชงค์เล่น ตบหลังภุชงค์เบา ๆ "ไปได้ยังขอรับ" "เชิญทางนี้ครับ คุณพักตร์" เขาใช้มือแตะข้อศอก
"คุณชายครับ คนนี้จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ให้ตายก็ไม่ยอมรับขอรับ" กฤษสำทับด้วยคำพูด ว่าพีคตรง ๆ "ใครครับ กระผมนี่อยากรู้เสียจริง ๆ ขอรับคุณหลวงกฤษ" ชายหนุ่มสองคนเปลี่ยนกันส่งเล่นมุขอย่างสนุกสนาน "หยุดเลยนายทั้งสองคน บอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรสิ" พีคพูดจบ รีบเดินหลบไปที่ระเบียง เพื่อยกหูคุยกับหลิน เพราะวันนี้เขาพยายามโทรหาเธอถึงสองครั้ง สายว่างแต่เธอไม่ได้รับสาย มีแต่ข้อความส่งมาบอกว่า "ที่งานหมั้นยุ่งมาก ๆ ค่ะ หลินปิดเสียงมือถือเอาไว้น่ะค่ะ ไม่อยากให้เสียบรรยากาศในพิธีค่ะ" “กริ๊ง ๆ กริ๊ง ๆ” เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น หลินยกน้ำขึ้นมาดื่มหลังทานอาหารเย็นเสร็จพอดี เห็นเป็นเบอร์ของเขา รีบรับสาย เพราะวันนี้เธอไม่ได้รับสายเขาเลย สงสัยเขาคงจะโกรธแน่ ๆ แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น "กินข้าวแล้วรึยังคะ" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลมาตามสาย "ค่ะ เรียบร้อยแล้วค่ะ พี่พีคทานข้าวหรือยังคะ" เธอตอบและถามเขาไป นึกแปลกใจ คิดว่าจะโดนเขาดุเสียแล้ว "ยังค่ะ...คืนนี้พี่จะพยายามไม่กลับดึกนะ มีงานเลี้ยงวันเกิดคุณยายของภุชงค์ พี่อยู่กับภุชงค์ และกฤษที่งาน ง
ศิริพักตร์เข้าไปใน Google และลองหาข้อมูลของภุชงค์ดู แค่พิมพ์ชื่อเขาลงไป ก็ขึ้นรูปหน้าอันหล่อเหลา ดูเป็นผู้ดีของชายหนุ่มหราขึ้นมา เธอจำหน้าตาเอาเรื่องของเขาได้ และยิ้มตรงมุมปากนิด ๆ หญิงสาวกดไปที่รูปของชายหนุ่มเข้าไปดูตามลิงก์ที่อยู่ในภาพ เนื้อหาในเว็บไซต์ซุบซิบชื่อดัง ที่นักเลงคีย์บอร์ดเข้าไปอ่านกัน พาดหัว “นางเอกสาว อักษรย่อ จ. ควงหนุ่มทายาทนักการเมืองชื่อดัง ภุชงค์ ศิริพัฒนยางกูร เดินชิลเอาท์ชมวิวเขาใหญ่ และร่วมปาร์ตี้สุดเก๋ของเหล่านางฟ้าช่องน้อยสี เป็นที่ฮือฮาว่าหวานหยดจนมดตามเป็นขบวน” “เห้อ... พ่อ Playboy ต้องจัดการยังไงเนี่ย” ศิริพักตร์ แบะปากนิด ๆ คิดพลางลุกขึ้นไปเพื่อเตรียมกระเช้าขนมตามที่ชายหนุ่มร้องขอมา ให้เธอนำไปส่งให้ที่ในงาน แล้วยังเชื้อเชิญให้เธออยู่ร่วมงานเลี้ยงอีกด้วย ศิริพักตร์จัดขนมไทยที่ทำไว้หลากหลายในแต่ละวัน วันนี้เธอเลือกขนมที่สามารถเก็บไว้ได้นาน เลือกขนมไทยที่ล้วนมีชื่อเป็นมงคลทั้งนั้นมี ทองเอก สัมปันนี เสน่ห์จันทร์ จ่ามงกุฎ กลีบลำดวน หน้านวล และกระเช้าสีดา จัดขนมต่าง ๆ ลงไปในกระเช้าเรียบร้อยอย่างสวยงาม โดยไม่ลืมเพิ่มตุ๊
“นับตั้งแต่วันนี้ไป เราจะไม่แยกจากกันค่ะ” เธอพูดขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มก้มลงมาทาบริมฝีปากลงไป เติมความหวานละมุนส่งถึงกันและกัน กริ๊ง ๆ กริ๊ง ๆ เสียงโทรศัพท์ของแพรวาดังขึ้น เบรกเรื่องราวต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นให้ยุติลงเพียงแค่นี้ “ไม่รับไม่ได้หรือครับ” เขาเอ่ยถามแบบอ้อน ๆ แต่ก็คลายวงแขนกอดเธอเอาไว้หลวม แพรวาหมุนตัวเอื้อมมือไปหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ ๆ “หลินโทรมาน่ะค่ะ” เธอบอกและรีบรับกดโทรศัพท์ “หลินหายไปไหนมา แพรโทรหาตั้งหลายรอบ ทำไมไม่รับสาย รู้ไหมว่าเป็นห่วงนะ” เธอต่อว่าเพื่อนสาวไปตามสาย (“ขอโทษนะจ๊ะแพร เรามีเรื่องด่วนจริง ๆ วันศุกร์นี้จะสอบสัมภาษณ์งานรีเสิร์ชและวิทยานิพนธ์ด้วย”) หลินให้เหตุผล “แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน” แพรถาม (“เรามางานหมั้นพี่สาวที่บางใหญ่ เตี่ย เฮีย และมีมี่ก็มาด้วยจ้ะ”) หลินเล่าให้แพรวาฟัง “เอ้อ... ค่อยโล่งอก นึกว่าไม่สบายหนัก” แพรวาถอนหายใจ หมดห่วง “เอ่อ... อีกเรื่อง วันอาทิตย์ที่ผ่านมาพี่พีคไปหาเธอที่หอพัก เจอกันหรือเปล่า มีเรื่องอะไรกันกับพี่พีคหรือเปล่า หลิน” เธอถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
ที่ดินติดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ตรงอำเภอเชียงของ เปิดให้บริการเมื่อ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เมื่อสองปีก่อน เขานึกถึงอนาคตข้างหน้าที่สดใสรออยู่ “ถ้าอยู่ไม่ได้ก็ หย่าวะ” ชายหนุ่มคิดในใจ พีคได้รับข้อความที่ภุชงค์ส่งเข้ามาให้ เรื่องไปร่วมงานวันเกิดคุณยายที่บ้านของเขา จึงส่งข้อความถามเรื่องเสื้อผ้า เพราะเขาไม่อยากย้อนกลับไปมา “ชุดไทยครับ ที่บ้านกันมีชุดผู้ชายหลายชุดมาเลือกเอา” ภุชงค์ส่งข้อความกลับมา “กันจะไปคนเดียวนะ แพรยังต้องไปทำงานอีกสามวัน งานเริ่มกี่โมงครับ” กฤษส่งข้อความมา “หนึ่งทุ่มตรง” ข้อความจากภุชงค์ “OK ไว้เจอกัน” กฤษตอบ “งดรับของขวัญ ขอเป็นเงินบริจาคเพื่อการกุศลนะครับ” ภุชงค์ส่งข้อความมาย้ำอีกที “รับทราบครับ คุณชาย” พีคส่งข้อความไปล้อเลียน “ถึงบ้านแล้วรึครับคุณชาย” เขาส่งข้อความถามต่อ “ถึงได้สักพักแล้ว จะนอนสักงีบ แค่นี้ก่อนนะ เมื่อคืนหนักไปหน่อย”แล้วส่งสติกเกอร์น้ำลายย้อยไปให้ พีคขับรถออกจากบ้านสวนที่จันทบุรี มุ่งตรงไปที่บ้านของภุชงค์เลย กฤษดูนาฬิกาแวะไปรับแพรวาตามที่นัดหมาย เมื่อถึงเขาได้โทร