หนูน้อยในชุดขาว รู้สึกกระวนกระวายมาก หลังจากคุณยายออกจากบ้านไปนาน ก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาเสียที เด็กน้อยทานอาหารเช้าจนถึงเที่ยง รอคุณยายกลับมา นี่ก็บ่ายแก่ๆ แล้ว คุณยายแคทเธอรีนก็ยังไม่กลับ ทำให้หนูน้อยหมวกขาวคิดว่าคงต้องเดินทางกลับบ้านไปเสียก่อน
ก่อนออกจากบ้านคุณยายแคทเธอรีน เอลีสเขียนจดหมายไว้บนโต๊ะว่าขอตัวกลับบ้านก่อน เพราะต้องไปหาคุณแม่ที่บ้านเย็น แล้วพรุ่งนี้เธอจะกลับมาหาคุณยายแคทเธอรีนอีกครั้ง หนูน้อยหมวกขาวจึงลาจากด้วยตะกร้าที่ว่างเปล่า พลางเปิดประตูเดินทางกลับบ้านอย่างระมัดระวัง
******
ระหว่างเดินทางกลับ เอลีสเดินทางเพียงลำพังก็จริง แต่ระหว่างทางกลับพบกับหมาป่าหน้าตาน่ากลัว มันนั่งขวางทางบนถนน เส้นทางการเดินทางกลับบ้านของหนูน้อยหมวกขาว เด็กน้อยมองดูด้วยความกลัวมาก เธอไม่รู้จะทำยังไงดี…
เสียงผิวปากที่ทำให้หมาป่าหน้าตาดุร้ายเชื่องลงอย่างน่ารัก ปรากฏรูปลักษณ์ของคนเถื่อนผิวคล้ำ เดินเข้ามาลูบหัวหมาป่าของตน เพื่อให้หลีกทางแก่เด็กน้อยคนนี้ เขาพยายามยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร แม้ว่าจะมีใบหน้า ที่หน้าตาน่ากลัวก็ตาม เอลีสยังลังเลว่าจะทักทายขอบคุณ หรือว่าเดินจากไป เพราะไม่ควรคุยกับคนแปลกหน้าจากต่างถิ่น
"ขอบคุณค่ะ ที่ช่วยเรียกน้องหมาให้นะคะ" เอลีสตัดสินใจที่จะขอบคุณเขา เพราะเห็นว่าน่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงของคนแปลกถิ่นคนนั้น หลังจากทักทายได้ไม่นาน ก็ปรากฏคนเถื่อนอีกคนผิวค่อนข้างขาวกว่า เดินเข้ามาทักทายเธอเช่นกัน
"กำลังจะไปไหนล่ะ?ไปส่งให้มั๊ย?" เวอร์ดัลยื่นข้อเสนอทำตัวเป็นคนดี แต่ใจจริงแล้ว เขาอยากลากเด็กน้อยเข้าป่าพง ลงของหนักจัดเต็มอย่างที่กำลังรู้สึกจะตื่นตัวอีกครั้ง
"หนูไม่รบกวนล่ะค่ะ กำลังจะเดินทางกลับบ้าน" เอลีสรู้สึกกลัวพวกเขาแทนที่กำลังจะทำหน้าที่อาสาพาเธอไปส่งบ้าน
"อ่อไปอีกไกลมั๊ยล่ะ?นี่ก็ใกล้จะมืดค่ำแล้วนะ เด็กน้อย...เดินทางคนเดียวมันอันตรายนะ" เจเดนบอกโน้มน้าวเผื่อว่าเด็กน้อยจะยอมเชื่อคำพูดของเขา เพื่อไปกับพวกเขาด้วยกัน แต่คงไม่ได้ไปถึงบ้าน เพราะพวกเขาตั้งใจจะพาเธอให้ไปถึงสวรรค์
"อีกไม่ไกลก็จะถึงหมู่บ้านแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณที่เรียกน้องหมาหลีกทางให้นะคะ หวังว่าโอกาสหน้าคงจะได้พบกันอีก" เอลีสคิดว่าเธอคุยกับคนแปลกหน้ามากเกินไป ความจริงเธอไม่ควรสุงสิงด้วยซ้ำ แต่เพราะพวกเขามีหมาป่ามาด้วยนี่แหละ ที่ทำให้เธอต้องพยายามทำตัวสุภาพกับคนแปลกหน้าเอาไว้ก่อน
"เดินทางปลอดภัยนะ หนูน้อย…" เวอร์ดัลทักลา พร้อมๆ กับเจเดนยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตรมากที่สุด หมาป่าทำตัวเรียบร้อยมาก หลังงจากอิ่มหน่ำกับอาหารที่ได้มาจากบ้านของคุณยาย ซึ่งพวกเขาก็อิ่มเปย์เช่นกัน พวกเขาได้ปลดปล่อยอารมณ์กลัดมันอย่างเต็มที่ หลังจากไม่ได้นอนกับหญิงสาวมาเนิ่นนาน
ลับสายตาไป หนูน้อยหมวกขาวโบกมือลา พลางรีบเดินทางกลับเข้าเมืองถึงบ้านของลีแอนและพาร์เซลทันที…
******
"ความจริง เราฉุดเด็กกลับบ้านพวกเราคืนนี้ก็ได้นิ ไม่มีใครเห็นเสียด้วย แกปล่อยให้เด็กน้อยหลุดมือไปทำไมวะ?" เวอร์ดัลแย้ง เพราะเขาต้องการเด็กน้อยคนนี้ปลดเปลื้องอารมณ์ต่อ เขาต้องการหนูน้อยในชุดขาว เอาไว้ใช้งานที่บ้านตลอดไป
"เรายังไม่รู้เลยว่า เด็กคนนี้เป็นอยู่มาอย่างไร ดูต่ออีกสักหน่อย เพื่อให้แน่ใจว่าคุ้มค่าว่าเอาไปแล้ว พวกเราจะไม่ถูกตามล่า…" เจเดนต้องการให้แน่ใจว่า ปลอดภัย อีกทั้งถ้าเด็กมันยินยอมติดตามพวกเขาไปด้วย จะไม่มีใครตามล่าใคร คนเถื่อนอย่างพวกเขาก็จะสวาปามความสุขได้อย่างไม่ต้องหวาดระแวงมากกว่าเดิม
"แกกำลังหมายถึง เด็กคนนั้นอาจจะกลับไปที่บ้านหลังเดิม ที่ๆ เต็มไปด้วยอาหารมากมายอุดมสมบูรณ์?" เวอร์ดัลย้อนถามกลับ เพราะเขาไม่แน่ใจว่า เจเดนกำลังคิดอะไรอยู่ สมองเขาคิดไม่เท่ากับเจเดน
คนเถื่อนผิวคล้ำหน้าตาดี กำลังวางมือลูบหัวหมาป่า เขาอยากได้เด็กน้อยคนนี้เอากลับไปที่หมู่บ้านของตนด้วย อยากเลี้ยงเธอให้เชื่องเหมือนหมาป่าที่มีอยู่ มันจะยอดเยี่ยมมาก หากมีเด็กสาวตัวขนาดกำลังน่ากินปานนี้ ร่วมมีความสุขไปกับพวกเขาด้วยกัน
******
เมื่อคุณยายแคทเธอรีนเริ่มรู้สึกตัว เธอปวดเมื่อยช่วงล่าง อ่อนเพลียเมื่อยล้าหลังจากถูกข่มขืนจากคนเถื่อนสองคน ทิ้งร่องรอยไว้เพียงแค่น้ำขุ่นที่แห้งผาก หลงเหลือเพียงน้ำเมือกขาวขุ่นละลายเมือกใสๆ อยู่รอบปาก เปรอะเปื้อนทั่วใบหน้า อีกทั้งเรือนต้นขา ร่องสวาทที่แห้งผาก ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักเปียกแฉะล้นทะลักออกจากร่องแคบ
ร่างคุณยายที่ถูกจับฉีกเสื้อผ้า ค่อยๆ ขยับลุกขึ้นยืน สายน้ำกระเฉาะออกจากร่องสวาททะลักอีกทั้ง เพราะถูกอัดฉีดเข้ามามากมาย คุณยายรู้สึกยังเสียวคาช่องคลอด แน่นท้องจุกใน รู้สึกได้ถึงมวลน้ำเมือกขุ่นมากมาย ยังคั่งค้างอยู่ภายในมดลูกอีกเยอะ
ทุกๆ ย่างก้าวที่คุณยายแคทเธอรีนย้ำเท้าเดินทางกลับไปทางบ้าน สายน้ำภายในกายค่อยๆ กระเฉาะทะลักออกมาทีละเล็กทีละน้อย คายน้ำขุ่นร้อนในกายเธอออกมาเรื่อยๆ หลั่งไหลลงมาตามเรือนต้นขาเปียกมาตลอดทาง มือบางคุณยายแคทเธอรีนค่อยๆ ประคับประคองหน้าท้องเอาไว้ ไม่รู้จะพูดกับเอลีสยังไง หากเธอยังอยู่บ้าน และพบว่าคุณยายถูกทำร้ายจากคนเถื่อนแปลกหน้ากลับมาแบบนี้
แคทเธอรีนได้แต่แอบหวังว่าเอลีสจะออกจากบ้านกลับบ้านไปเสียก่อน หญิงสูงอายุที่ไร้สามีมาหลายสิบปี กลับต้องมาเจอคนเถื่อนสองคน ลงมือจัดหนักข่มขืนเธออย่างไม่ปราณีมาแบบนี้ เห็นทีพวกเขาอาจจะย้อนกลับมาอีกก็ได้ เธอควรต้องหาทางเตรียมรับมือพวกเขา ไม่ให้มาทำอะไรแบบนี้อีก
******
"กลับมาแล้วค่ะ" หนูน้อยภายใต้หมวกขาว เปิดประตูบ้านของตัวเอง พบแม่อยู่บ้านกับพ่อ พาร์เซลพึ่งกลับมาจากการล่าสัตว์ร่วมกับคนอื่นๆ ต่างแบ่งปันอาหารเนื้อที่ล่ามาได้วันนี้ มื้อเย็นวันนี้จะพิเศษอีกสักหน่อย เมื่อ โทมัส เพื่อนสนิทที่เล่นมาด้วยกัน เขาก็ออกไปล่าสัตว์กับพาร์เซลด้วย รวมทั้งแชร์เนื้อสัตว์ที่ได้มาทานอาหารร่วมกับเอลีสคืนนี้
"วันนี้เรามีเนื้อกระต่ายอบ ซุปนก แถมยังมีพายเนื้อกวางเป็นของหวาน วันนี้แม่จะต้องทำอาหารเย็น ไปอาบน้ำก่อนนะเอลีส ค่อยมาช่วยงานในครัว…" ลีแอนบอกให้เอลีสไปจัดการกับตัวเอง เนื่องจากเดินทางค่อนข้างไกลพอสมควร หากมีเกวียนรถหรือม้าดีๆ สักตัว เอลีสคงไม่ต้องเดินทางไกลไปบ้านคุณยายแคทเธอรีนให้เหนื่อยแบบนี้ทุกๆ วัน
"อาหารน่าทานมากเลยค่ะแม่" สายตาของเอลีสหันมามองเพื่อนที่อยู่ในบ้านตน กำลังนั่งคุยกับพ่ออย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย
"ขอบใจมากนะ ที่แบ่งปันเนื้อกระต่าย มาอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนสิ หากคุณนายมัลคอร์ ไม่ว่าอะไร" พาร์เซลชวนชายหนุ่ม หน่วยก้านดี มาทานข้าวเย็นด้วยกัน เพราะรู้จักกันมานาน เห็นมาตั้งแต่เล็กๆ พาร์เซลไว้ใจที่จะให้คบหากับเอลีสเป็นเพื่อนเล่นกันมาหลายปี
"แม่ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ เพราะผมแบ่งเนื้อเก้งให้คนครัวที่บ้านไปทำอาหารเย็นวันนี้ให้แล้ว ผมก็บอกว่าจะกลับช้าหน่อย ท่านก็ไม่ว่าอะไรครับ" โทมัสกล่าวอย่างเป็นกันเอง เพราะเขาเองก็อยากมีเวลาอยู่กับเอลีสให้มากยิ่งขึ้น
"วันนี้โทมัสจะมาอยู่ทานข้าวกับเรานะ เอลีส รีบไปอาบน้ำเถอะ" เพราะเอลีสอยู่ฟังพวกเขาคุยกัน ทำให้ลีแอนต้องรีบไล่ลูกสาวไปอาบน้ำอีกครั้ง
"ค่ะๆๆ" เอลีสจึงรีบเดินออกจากห้องกลาง เพื่อไปล้างตัวตามที่แม่สั่ง ปล่อยให้พาร์เซลคุยกับโทมัส เรื่องเครื่องไม้เครื่องมือล่าสัตว์ อีกทั้งนัดแนะจะไปล่าสัตว์ในโอกาสหน้าอีกด้วย
******
นอกจากลีแอนจะทำอาหารตามรายการที่ว่ามานั้น เธอยังหมักเนื้อต่างๆ ด้วยเกลือ เพื่อถนอมอาหารรมควัน เก็บเอาไว้กินนานๆ ช่วยหาสัตว์มากินยากอีกด้วย วิถีชาวเมืองของพวกเธอมันเรียบง่ายพร้อมวิธีอยู่อาศัยแบบร่วมกันสามัคคี
เอลีสถอดเสื้อผ้า ชะล้างร่างกายอาบน้ำให้เย็นชื่นใจ หลังจากวันนี้เจอคุณยายได้ไม่นาน คุณยายก็หายออกไปจากบ้านเกือบจะทั้งวัน ไม่รู้คุณยายจะเป็นยังไงบ้าง หวังว่าพรุ่งนี้เธอจะได้พบกับคุณยายอีกครั้ง เธอคงจะปลอดภัย… เด็กน้อยคิดเรื่องของคุณยายแคทเธอรีนระหว่างอาบน้ำ…
ช่วงเวลาที่อาบน้ำเสร็จ เอลีสสดชื่น พร้อมจะแต่งตัวไปช่วยลีแอนทำอาหารเย็นด้วยกัน เด็กน้อยได้กลิ่นอาหารหอมๆ ลอยมาตามลม มันเป็นกลิ่นซุปนก พร้อมๆ กับพายเนื้อกวางกำลังส่งกลิ่นดีๆ มาทีเดียว อีกรายการเป็นเนื้อกระต่ายอบ ลีแอนกำลังทำใกล้จะเสร็จแล้ว
เอลีสจึงรีบปูผ้าบนโต๊ะ จัดจานให้กับทุกๆ คนในบ้านวันนี้มีสี่คน พวกเธอมีกันแค่สามคนพ่อแม่ลูกแค่นั้น และมันก็พิเศษมากทีเดียว ที่มีโทมัสมาร่วมทานอาหารกับเอลีสในวันนี้ด้วย เธอรู้สึกดีมากทีเดียว ที่โทมัสเข้ากับพ่อและแม่ของเธอได้ เด็กน้อยก็รู้สึกดีกับเพือนเล่นมาตั้งแต่เด็กๆ เช่นกัน
ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นเด็กอย่างที่เอลีสรู้จักอีกต่อไป เขากลายเป็นหนุ่มน้อย กำลังเติบโตเป็นหนุ่มใหญ่ ใบหน้าคมคาย ยิ้มแย้มสดใส มีความมุ่งมั่น แถมฐานะทางบ้านดีกว่าบ้านเธอเสียด้วย เอลีสกำลังคิดว่า พ่อแม่ของเธอคงจะชอบเขามาก และการคบหาของเธอกับเขา ก็คงจะพัฒนาไปได้มากกว่านี้อีกด้วย
"อาหารอร่อยมากเลยครับคุณแม่" โทมัสเรียกแม่ของเอลีส แทนที่จะเรียกคุณนายแฮนเดอร์ มันเป็นนามสกุลของพาร์เซล พ่อของเอลีส
"ถ้าชอบ… ก็เก็บพายเนื้อกวางไปฝากคุณนายมัลคอร์ด้วยสิ โทมัส" ลีแอนยิ้มแย้มชอบใจ เมื่อโทมัสกล่าวชมขนาดนี้ เธอดีใจมาก
"ขอบคุณครับ" โทมัสนั่งกินอาหาร พลางคุยกับพาร์เซล โดยไม่รบกวนเวลาส่วนตัวของเอลีส กำลังนั่งทานเงียบๆ ตามมารยาทบนโต๊ะ เธอไม่มีสิทธิ์พูดระหว่างที่พวกผู้ใหญ่คุยกัน เธอยังไม่สิบขวบเสียดิบดีเลย
"ทานเสร็จแล้ว เก็บอาหารบนโต๊ะ แล้วก็ล้างจานด้วยนะ พ่อกับแม่ต้องไปเช็คเครื่องมือล่าสัตว์ ยังไงก็ฝากดูแลโทมัสก่อนเขากลับด้วยนะ" ลีแอนบอกลูกสาวให้ทำหน้าที่แม่บ้านเล็กๆ น้อยๆ ต่อ
โทมัสผู้มาเยือนถึงบ้านของลีแอนกับพาร์เซล แฮนเดอร์ พวกเขาทานอาหารเสร็จแล้ว ปล่อยให้โทมัสนั่งพักอยู่ในห้องกลางตามลำพัง มองดูเอลีสทำงานบ้านเบาๆ ลีแอนกับพาร์เซลปล่อยให้พวกเขาอยู่ตามลำพัง ต่างพากันไปหลบในห้องเก็บเครื่องมือล่าสัตว์กันทั้งคู่ เอลีสทำงานบ้านจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว… โทมัสจึงเข้าไปคุยเล่นกับเธอเหมือนสมัยเด็กๆ แต่เก่าก่อนกับเอลีส
******
เอลีสกำลังจะเข้าไปนั่งกับโทมัส อยู่ในห้องกลาง มันคงจะดีหากพวกเขาอยู่ห้องรวม มากกว่าจะอยู่ในห้องส่วนตัวตามลำพัง แต่ทว่าโทมัสพูดเปิดการสนทนา เพื่ออยากจะให้เอลีสพาเขาไปดูห้องนอนของเธอเสียหน่อย
"เคยขี้คุยว่าห้องนอนเธอสวยเรียบร้อย ขอไปดูหน่อยสิ" โทมัสยิ้มแย้มทักท้วงบทท้าทายเมื่อหลายวันก่อน ทำให้เอลีสรู้สึกแปลกๆ ว่าวันนี้เขามาผิดปกติกว่าทุกๆ วัน
"ทำไมต้องวันนี้?"
"ก็กินข้าวบ้านเธอแล้ว ก็แวะไปชมเสียหน่อยไม่ได้รึ?" โทมัสยังคงเย้าแหย่ อยากให้เอลีสนำทางไปตามที่เขาขอ…
"เข้าห้องนอนผู้หญิง มันเสียมารยาทนะ!" เอลีสค้าน เธอแค่รู้สึกหัวใจเต้นแรงผิดปกติ หากจะอยู่กับเขาตามลำพัง มันผิดวิสัย แถมถ้าต้องอยู่กับเขาสองคน พ่อแม่เธอจะดุด่าต่อว่าเธอแน่
"ไม่เป็นไรหรอก ก็ไม่เห็นจะมีใครว่า ถ้าพ่อแม่เธอว่าผมจะรับผิดชอบเองนะ" โทมัสยืนกรานที่จะทำให้เอลีสสบายใจ เด็กน้อยจึงหลงเชื่อคำพูดของโทมัส เพราะเป็นเพื่อนกันมานาน…
******
ลีแอนกับพาร์เซลแอบฟังพวกเขาคุยกันในอีกห้อง รอยยิ้มของพ่อกับแม่ เริ่มเผยออกมา เพราะพวกเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่า โทมัส ชอบและรักเอลีสมาก ถึงขนาดอยากอยู่กับเธอตามลำพัง พร้อมที่จะคบหา สู่ขอเธอมาเป็นเจ้าสาว แต่งงานร่วมหอลงเรือนร่วมกัน เขาเป็นลูกผู้ชาย ที่เข้ามาคุยกับพาร์เซล พ่อของเอลีสก่อน ที่จะคุยกับแม่ของตน เพื่อเริ่มสู่ขอเอลีสกับลีแอนไว้บ้างแล้ว
โดยที่เอลีสกำลังนำทางโทมัสออกจากห้องกลางไป ลับสายตาลีแอนกับพาร์เซลในห้องข้างๆ ที่พวกเขาแอบดักฟัง สองผู้ใหญ่ อมยิ้มดีใจ ลีแอนถึงกับหลั่งน้ำตา ลูกสาวเธอกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝา เพราะโทมัสคงจะอยากได้เอลีสสุดหัวใจมากมายขนาดนี้
"คุณคะ เราไม่ต้องลำบากอีกต่อไปแล้วนะคะ" ลีแอนกล่าวสุขใจเหลือล้น
"เราช่างโชคดีแท้ ที่คุณนายมัลคอร์ ชอบเอลีสอยู่ก่อนแล้ว ถึงปล่อยให้โทมัสคบหากับลูกสาวเราแบบไม่กีดกัน"
"คุณไม่ได้เกลียดลูกชายคุณนายมัลคอร์หรอกรึ?" ลีแอนนึกว่าพาร์เซลจะหวงลูกสาวเสียอีก
"เขาล่าสัตว์เก่ง แถมยังเป็นลูกผู้ชายอีกด้วย ถ้าคืนนี้เขาจะได้กับลูกสาวเรา มันจะดีมากๆ เลยนะ ถ้างานแต่งงานจะเร่งให้เร็วขึ้น เอลีสคงไม่ต้องลำบากไปบ้านแม่คุณตามลำพังอีกต่อไปแล้วนะ"
พาร์เซลไม่อยากให้เอลีสเดินทางไปบ้านคุณยายแคทเธอรีนตามลำพังบ่อยๆ เพราะเส้นทางช่วงนี้อันตรายเริ่มมากยิ่งขึ้น มีคนแปลกหน้า และมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่ที่เขายังปล่อยให้ลูกสาวไปบ้านคุณยาย เพราะเห็นว่าเป็นเวลากลางวัน เอลีสยังกลับมาบ้านก่อนมืดค่ำได้อยู่สม่ำเสมอ…
******
เอลีสหมดสติมาตลอดทาง เธอไม่รู้ว่ามาจากทางไหน มาไกลแค่ไหนจากหมู่บ้านที่เป็นบ้านของเธอเด็กน้อยฟื้นมาก็พบว่า ตัวเองอยู่มัดเป็นหนอน ห้อยพาดไหล่ของคนเถื่อนคนหนึ่งเอาไว้ เด็กน้อยหวาดกลัวมาก ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ หลังจากคนเถื่อนแปลกหน้าพวกนี้ ล่อลวงเธอไปข่มขืนแล้ว ยังจะพาไปไหนอีกก็ไม่รู้…"ปล่อยหนูไปเถอะนะจ๊ะ หนูกลัวแล้ว หนูสัญญาจะไม่บอกใคร ได้โปรดเถอะ… ปล่อยหนูไปเถอะ…" เอลีสค่อยๆ อ้าปากพูด เพราะรู้สึกขากรรไกรกรามค้างไปหน่อย มันตึงๆ หนืดๆ จนพูดได้ไม่ถนัดนัก"เราต้องสูญเสียหมาดีๆ ไปตัวนึง ดังนั้นเด็กน้อย… เราจะพาหนูไปบ้านใหม่นะ" เจเดนบอกด้วยสีหน้าหงุดหงิด เขาคงจะต้องไปหาลูกหมาป่าตัวใหม่มาเลี้ยงให้เชื่อง แทนที่เมอร์เรสที่ต้องถูกฆ่าตาย เพราะพวกเขาแค่อยากได้เด็กมาเป็นเครื่องระบายอารมณ์แทน"ไม่เอานะ หนูจะกลับบ้าน!!!" เอลีสอยากจะดิ้นรนหาทางหนี แต่เธอไม่อาจทำได้เพราะว่า ตอนนี้ได้มาถึงสถานที่ใหม่ คือหมู่บ้านของพวกคนเถื่อน…******เจเดนกับเวอร์ดัล กำลังคุยกับผู้คนในหมู่บ้าน ถึงการนำเด็กมนุษย์ผู้หญิงเข้ามาในเผ่า ทำให้สีหน้าของหัวหน้าเผ่าที่น่าเกรงขาม ต้องหันมองเธอครั้งแล้วครั้งเล่า กับอีกสา
เอลีสต้องตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเธอเดินทางมาถึงบ้านคุณยาย ประตูบ้านปิดสนิท แต่ไม่มีทีท่าว่า คุณยายจะเปิดประตูบ้านเลย เด็กน้อยหันไปถามพลางๆ"ทำไมคุณยายไม่เปิดบ้านคะ?""ยายว่าจะเข้าหลังบ้านน่ะ ยายลืมกุญแจ" เจเดนบอก มันเป็นทางเดียวที่พวกเขาจะเข้าบ้านยายได้ เพราะกลอนมันเสียหนูน้อยหมวกขาวจึงเดินไปกับคุณยายในชุดสีน้ำตาล เพื่อเข้าบ้านด้านหลัง แต่เมื่อเธอไม่ทันระวัง ก็ต้องตกใจเมื่อมีหมาป่าตัวนึง กระโดดออกมา กัดเข้าที่เสื้อคลุมของเธอ จนหลุดออกจากตัว"หมาป่า!!! คุณยายคะ ระวังหมาป่าด้วยนะคะ" เอลีสตกใจมาก ร้องตะโกนลั่นบ้าน หวังว่าคุณยายจะช่วยเหลือเธอทัน"หมาของยายเองจ้า… หนูน้อยหมวกขาว…" เจเดนเผยตัวออกมา ถอดชุดคลุมสีน้ำตาลออก ปรากฏร่างของคนเถื่อนสองคนออกมาตรงหน้าเเธอ"พวกท่านสองคน… ที่เราเคยเจอกันระหว่างหลายวันก่อน…" เอลีสเริ่มมือสั่น หวั่นกลัว ตอนนี้มีแค่เธอเพียงลำพังกับชายแปลกหน้าสองคนหมาป่าซึ่งกระโจนออกมากัดเสื้อคลุมสีขาวเธอหลุดไป มันคาบราวกับเป็นของโปรดอันโอชะ พลางวิ่งเข้าบ้านทางประตูหลัง ลับหายภายในบ้านคนเถื่อนสองคนเริ่มเดินเข้าไปหาหนูน้อยตัวเล็ก เพื่อหวังจะได้กินอะไรบ้าง ให้ตกถึงท้อง หลัง
หลังจากเวอร์ดัลกับเจเดน ได้อาหารจากคุณยาย ด้วยน้ำเห็ดโคนแลกอาหารมา พวกเขาได้อาหารจำนวนมาก เพื่อนำกลับไปยังหมู่บ้านคนเถื่อน ในเวลานั้นเองที่คนเถื่อนสองคนกับหมาป่าอีกหนึ่งตัว ไม่ได้เข้ามาในเขตมนุษย์เป็นเวลาอาทิตย์หนึ่งเนื่องจากหัวหน้าเผ่าเห็นว่า เวอร์ดัลกับเจเดนได้อาหารของพวกมนุษย์มา เขาจึงไม่อนุญาตให้เวอร์ดัลกับเจเดนออกไปหาอาหารอีกนานพอสมควร ทำให้พวกเขาทั้งสองคน ห่างหายจากคุณยาย และเริ่มมีความคิดถึงเด็กน้อยในชุดคลุมสีขาวแทนสายตาของเวอร์ดัลมองดูสาวคนเถื่อนในหมู่บ้านเดียวกัน พวกเธอเป็นเครื่องระบายของผู้คนในบ้านเดียวกันอย่างเริงร่า อีกทั้งเจเดนยังได้ยินเสียงครวญครางของ หญิงสาวในหมู่บ้านเดียวกัน กำลังสุขสมกับชายเถื่อนอีกหลายคน หลายคู่แต่สำหรับพวกเขาสองคน ไม่มีอะไรจะไปแลกกับพวกนางเหล่านั้น จึงทำได้เพียงแค่นั่งกลัดมันเกิดอารมณ์ ใช้มือหนากอบกำรูดคลึงเห็ดโคนใหญ่ของตนประคับประคองอารมณ์ไป"เราจะแอบออกไปบ้านหญิงคนนั้น เพื่อไปแลกอาหารอีกดีมั๊ย?ข้าหิวมาก…" เวอร์ดัลแอบปรึกษากับเจเดน เพราะตอนนี้เขาหิวอาหารจนกลัดมัน แทบหน้าดำหน้าแดงมาก มือหนารูดชักว่าวเห็ดโคนตนเองจนมันยืดยาว ใหญ่ยกลำ แข็งจนเส้นเลือ
เวอร์ดัลรีบสาวเท้าไปกับเจเดน พร้อมด้วยเมอร์เรส หมาป่าที่เลี้ยงไว้ มุ่งหน้าไปยังบ้านของคุณยายอย่างไม่รีรอคนเถื่อนสองคน ออกจากหมู่บ้านเหมือนกับทุกๆ วัน เพื่อไปหาอาหาร พวกเขาสองคนตั้งใจมาหาอาหารที่บ้านคุณยายแคทเธอรีนเช่นเดิม เพราะพืชผักผลไม้ที่นางปลูกเอาไว้ เป็นผลผลิตที่ดีมาก"ครั้งนี้เราจะเอาผู้หญิงกลับไปให้หัวหน้าเผ่าดูมั๊ย แล้วบอกว่า พวกเราเอาไปเป็นทาสของเราเองล่ะ?" เวอร์ดัลคุยปรึกษากับเจเดน ระหว่างเดินทางไปด้วยกัน และก็ใกล้จะถึงบ้านคุณยายแล้ว"หัวหน้าเผ่าต้องกินนางแน่ๆ ท่าทางจะหิวมากกว่าอยากได้ทาสนะ" เจเดนเดาว่า เขาน่าจะเก็บเธอไว้ที่บ้านเดิมแหละ แล้วพวกเขามาเอาอาหาร และเอาเธอมันๆ แบบนี้น่าจะเก็บไว้กินได้นานกว่า เอาไปที่หมู่บ้าน"แล้วเด็กที่พวกเราเจอล่ะ?" เวอร์ดัลถามถึงหนูน้อยหมวกขาว ซึ่งทำให้พวกเขาติดตามไปถึงบ้านผู้หญิง มีสวนผัก เด็กคนนั้นน่าจะมีความเกี่ยวข้องกันกับผู้หญิงที่พวกเขาลากมาข่มขืนในป่าก็ได้"ถ้าเราเอาเด็กกลับหมู่บ้านไป หัวหน้าเผ่าจะต้องจัดนางแน่นอน และอาจจะยอมให้อยู่ในหมู่บ้านเราก็ได้นะ ยังไงเสีย หัวหน้าเผ่าก็ต้องเอากับเด็กผู้หญิงทุกๆ คนอยู่แล้ว เพื่อให้อยู่ในหมู่บ้านได้
คุณยายแคทเธอรีนเริ่มตั้งตัวใหม่ เธอคิดว่าที่มีคนป่าเข้ามาในเขตบ้านเธอได้ คงเป็นเพราะพืชผักผลไม้ในบ้านแน่ๆ ที่มันกำลังสุกงม และกลิ่นของมันคงไปเตะจมูกคนเถื่อนเข้าพวกมันจึงเข้ามาลักเล็กขโมยอาหารในบ้านเธอยังไม่พอ ยังจะขโมยความสงบสุขของเธออีกต่างหาก แถมยังจะ… แคทเธอรีนกัดฟันขบเคี้ยวแน่น ว่าโดนพวกมันรุมข่มขืนทั้งปากและสังวาสหนักแค่ไหนในใจแอบยอมรับความสุขที่พวกมันประเคนมาให้ ทั้งอัดแน่นเพลิดเพลิน เสียววูบวาบมาก อย่างที่ไม่ได้เป็นแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่สามีของคุณยายเสียชีวิตไปนาน เธอก็ไม่มีชายอื่นมาเป็นคนคู่ใจเคียงข้างอีกเลย…ครานี้… คุณยายคิดว่าจะต้องเตรียมรับมือพวกมันอีก เพราะหากพวกมันมาถึงบ้านคุณยายได้ครั้งแรก ครั้งต่อไปพวกมันอาจจะมาอีกแน่ๆ และเธอไม่แน่ใจว่า พวกมันจะมาแค่สองคน หรือมากกว่านั้นคุณยายยังไม่อยากให้หลานสาว ซึ่งกำลังเดินทางมาหา ได้รับอันตรายไปด้วย แต่คุณยายก็ไม่กล้าบอกอยู่ดี เกรงว่าจะกลัวจนทำอะไรไม่ถูก คุณยายแคทเธอรีนคิดว่า เธอควรจะจัดการกับพวกมันเองจะดีกว่า… ลึกๆ ในใจคุณยายก็อยากจะโดนพวกมันจัดการแบบเมื่อวาน อย่างเร้าใจอีกเหมือนกัน******วันนี้คุณยายจัดการเก็บผักผลไม้ภายในบ้
ร่างบางยังคงสั่นเสียว ไปกับการเคลื่อนไหวของโทมัสอยู่เนืองๆ ความอึดอัดคับในช่องท้อง ยังคงกระตุ้นอัดแน่นจุกใน ทุกๆ แรงสวมกอดจากคนที่สนิทกัน เวลานี้เขาสู่ขอเธอกับพ่อแม่ของเอลีสไปแล้ว ทำให้เขาสามารถครอบครองเธอได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะถึงวัยดรุณีแรกแย้มจะแตกสาวมือบางกอบกำผ้าห่มแน่นพลางบิดกายเล็กบาง สั่นไหวไปมาในความฝัน มันช่างแสนหอมหวานล้ำ เกินกว่าจะลืมตาตื่นขึ้นมา แต่แล้ว… ความฝันของเธอระหว่างสวมกอดกับโทมัส กำลังจะจางลง เมื่อกลิ่นหอมของอาหารเช้า กำลังปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์หลับใหลนิทราอันแสนหวาน…"เอลีส… ตื่นมาทานข้าวเช้าเถอะจ้า…!!!" ลีแอนตะโกนเรียกลูกสาวให้ลงมาเหมือนกับทุกๆ วัน เพียงแต่วันนี้เอลีสลงมาช้ากว่าปกติ เพราะเธอรู้เรื่องเมื่อวานอยู่แล้ว เธอกับพาร์เซลจงใจให้โทมัสอยู่กับเอลีส เพื่อสานสัมพันธ์ครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากขึ้น"ค่าาาาา" เอลีสค่อยๆ ขยับกายลุกขึ้นนั่งบนเตียง เธอยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดระบมหน้าท้อง และเรือนขาทั้งสองข้าง ปวดเมื่อยไปหมด การมีความสัมพันธ์ความรักครั้งแรกมันเป็นแบบนี้เองรึ******เอลีสลงจากบนห้องนอนตามปกติ เพื่อมาพบลีแอนยามเช้า พาร์เซลออกไปตัดฟืนกับพรรคพวกเช่นเดิม หา