หลังจากเวอร์ดัลกับเจเดน ได้อาหารจากคุณยาย ด้วยน้ำเห็ดโคนแลกอาหารมา พวกเขาได้อาหารจำนวนมาก เพื่อนำกลับไปยังหมู่บ้านคนเถื่อน ในเวลานั้นเองที่คนเถื่อนสองคนกับหมาป่าอีกหนึ่งตัว ไม่ได้เข้ามาในเขตมนุษย์เป็นเวลาอาทิตย์หนึ่ง
เนื่องจากหัวหน้าเผ่าเห็นว่า เวอร์ดัลกับเจเดนได้อาหารของพวกมนุษย์มา เขาจึงไม่อนุญาตให้เวอร์ดัลกับเจเดนออกไปหาอาหารอีกนานพอสมควร ทำให้พวกเขาทั้งสองคน ห่างหายจากคุณยาย และเริ่มมีความคิดถึงเด็กน้อยในชุดคลุมสีขาวแทน
สายตาของเวอร์ดัลมองดูสาวคนเถื่อนในหมู่บ้านเดียวกัน พวกเธอเป็นเครื่องระบายของผู้คนในบ้านเดียวกันอย่างเริงร่า อีกทั้งเจเดนยังได้ยินเสียงครวญครางของ หญิงสาวในหมู่บ้านเดียวกัน กำลังสุขสมกับชายเถื่อนอีกหลายคน หลายคู่
แต่สำหรับพวกเขาสองคน ไม่มีอะไรจะไปแลกกับพวกนางเหล่านั้น จึงทำได้เพียงแค่นั่งกลัดมันเกิดอารมณ์ ใช้มือหนากอบกำรูดคลึงเห็ดโคนใหญ่ของตนประคับประคองอารมณ์ไป
"เราจะแอบออกไปบ้านหญิงคนนั้น เพื่อไปแลกอาหารอีกดีมั๊ย?ข้าหิวมาก…" เวอร์ดัลแอบปรึกษากับเจเดน เพราะตอนนี้เขาหิวอาหารจนกลัดมัน แทบหน้าดำหน้าแดงมาก มือหนารูดชักว่าวเห็ดโคนตนเองจนมันยืดยาว ใหญ่ยกลำ แข็งจนเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาก
"ถ้าออกไปตอนนี้ หัวหน้าเผ่าจะสงสัยพวกเราเอาได้นะ ว่าไปขโมยอาหารพวกมนุษย์มา จะให้บอกได้ยังไง ว่าพวกเรายิงน้ำเห็ดอัดร่างผู้หญิงมนุษย์ แล้วนางให้อาหารมาจำนวนมาก… มีหวังหัวหน้าเผ่าได้ออกไปซั่มนาง พวกเราสองคนจะไม่มีอะไรตกถึงท้องอีกนะ อดทนหน่อยก็แล้วกันนะ เวอร์ดัล… จนกว่าจะได้เวลาออกไปแลกอาหารกับนางอีก"
เจเดนอธิบาย เพราะเขากำลังคิดอยู่ว่า เวลาไหนจะได้โอกาสออกไปหาอาหาร… ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ได้ปรารถนาในตัวนางผู้นำอาหารมาแลก แต่เขากลับคิดถึงเด็กน้อยผ้าคลุมสีขาว ซึ่งเป็นผู้นำทางให้ได้พบกับอาหาร และหญิงผู้นั้น… เขาคิดว่า น่าจะได้เวลาแล้ว ที่จะไปค้นหาเด็กน้อยคนนั้น
******
เวลาผ่านไปล่วงเลยกว่าอาทิตย์ เวอร์ดัลมีสภาพอิดโรย หิวการร่วมรักมา ไม่มีหญิงสาวใดในหมู่บ้านให้เขาได้ระบายปลดปล่อยความอัดอั้นเลย เพราะพวกนางส่วนใหญ่ล้วนเริ่มมีครรภ์ กับหญิงบางนางก็มีจำนวนน้อยลง เพราะต้องรองรับการระบายอารมณ์จากชายเถื่อนในหมู่บ้าน แทบจะไม่หลงเหลือมาถึงพวกเขา
เวอร์ดัลกระสันกระหายอยากจะพบหญิงผู้แลกอาหารมาก แต่สำหรับเจเดนแล้ว เขาต้องการพบกับเด็กน้อยผ้าคลุมขาวมากกว่า ที่สำคัญ พวกเขาจะพยายามหาทางไปค้นหานางให้พบ
เจเดนคิดว่าควรจะแวะไปหาหญิงผู้แลกอาหารก่อนดีกว่า เผื่อจะได้ของอะไรสักอย่าง ที่พอจะทำให้การค้นหาหนูน้อยหมวกขาวพบกันได้ง่ายขึ้น
เจเดนกับเวอร์ดัลเดินทางมาถึงบ้านคุณยายแล้ว จึงส่งเมอร์เรสแอบเข้าไปในบ้านคุณยาย เพื่อไปขโมยของบางอย่าง ที่เกี่ยวกับเด็กเล็กมา พวกเขาจะให้เมอร์เรสดมกลิ่นสิ่งของ แล้วพาพวกเขาไปบ้านของเด็กน้อยคนนั้น…
เมอร์เรสวิ่งเข้าไปในบ้านคุณยาย เพื่อใช้จมูกดมกลิ่นต่างๆ มันจมูกดีมาก พาสี่เท้าวิ่งไปหาสิ่งของภายในบ้าน จนกระทั่งพบกับราวแขวนผ้าคลุมต่างๆ เมอร์เรสจำกลิ่นคุณยายได้ มันจึงต้องหากลิ่นที่ยังเป็นเด็กมนุษย์ผู้หญิง กลิ่นนมเนยอ่อนๆ น่าจะเป็นกลิ่นของเด็กเล็กได้
หมาป่าค่อยๆ ย่องวิ่งเข้าไปในบ้านของคุณยายแคทเธอรีน เช้านี้เธอยังไม่ตื่น จึงทำให้หมาป่าแอบได้ผ้าคลุมเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อนๆ มีกลิ่นของเด็กเล็กอยู่ในนั้น… มันดมกลิ่นเต็มที่แล้ววิ่งออกมาหาเวอร์ดัลกับเจเดน
"เจอกลิ่นของเด็กแล้วใช่มั๊ย เมอร์เรส?" เจเดนลูบหัวหมาน้อยของพวกเขา แล้วถามด้วยความหวังว่า จะสมใจอย่างที่คิด
หมาป่าแลบลิ้นหอบ พลางวิ่งนำทางพวกเขาไปตามเส้นทางเดินทางของพวกมนุษย์ พาพวกเขาไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการ เหตุที่เจเดนเลี้ยงหมาป่า ก็เพราะเพื่อการดมกลิ่นเสาะหาสิ่งที่ต้องการนั้นเอง…
******
วันนี้ เอลีสตื่นแต่เช้าตรู่มาก เด็กน้อยลงมาช่วยลีแอนทำอาหารเช้า ตามกิจวัตรปกติเหมือนกับทุกๆ วัน หลังจากแอบมีอะไรกันกับโทมัสอยู่ 3-4 วัน หลังจากนั้นมา โทมัสกลับไปบ้านของคุณนายมัลคอร์ เพื่อไปตระเตรียมงานเลี้ยง งานแต่งงานของเขากับเธอ เอลีสดีใจเหลือเกิน เธอจะได้ออกเรือน ก่อนฤดูดรุณีแรกแย้มจะมาเสียอีก
สีหน้าของลีแอนมีความสุขมากกว่าเดิม หลังจากที่เลี้ยงลูกมาหลายปี ออกไปทำงานที่บ้านคุณนายมัลคอร์ เธอกับพาร์เซลแทบจะไม่ได้มีอะไรด้วยกันบ่อยนัก แต่เมื่อพบว่าลูกสาวจะได้ออกเรือนแล้ว พาร์เซลได้กินพายองุ่นของคุณยายไป แล้วเขาเกิดอยากร่วมรักกับลีแอน พวกเขาได้สมหวังที่จะผลิตลูกออกมาอีก ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ลีแอนก็ดีใจมาก ที่ได้เสพสมกับพาร์เซลเสียที
"พ่อไปล่าสัตว์ก่อนนะ อาจจะไปนานหน่อย เพราะหมู่บ้านเราโชคดีมาก ที่จะได้มีงานเลี้ยงใหญ่โตบ้างแล้ว" พ่อของเอลีสกล่าว พลางมองมาที่ลูกสาว กำลังจะเป็นฝังเป็นฝา ได้ร่วมหอลงโรงกับโทมัส ลูกชายของคุณนายมัลคอร์ที่มีฐานะ ครอบครัวพาร์เซลจะไม่ลำบากอีกต่อไปแล้ว
"ขอให้ได้เยอะๆ นะคะ" ลีแอนกล่าวพลางโบกมือลาสามี และเธอเองก็ต้องเดินทางไปช่วยจัดงานเลี้ยงที่บ้านคุณนายมัลคอร์ จึงต้องปล่อยให้เอลีสเก็บตัวอยู่บ้าน มิให้ออกเดินทางไปไหนไกลๆ อีกแล้ว
"แม่ต้องไปทำงานแล้วนะ อย่าลืมที่แม่สั่งล่ะ อย่าออกไปไหนช่วงนี้ อยู่บ้าน!!!" ลีแอนย้ำเตือนเอลีสอีกครั้ง เธออยากให้ลูกสาวเก็บตัวอยู่บ้านให้ปลอดภัย ก่อนถึงวันแต่งงานเร็วๆ นี้
"ค่ะแม่" เอลีสตอบรับจริงจัง พลางโบกมือลาแม่ แล้วปิดประตูลงกลอน เธอมิต้องเดินทางขนตะกร้าใส่อาหารเช้าไปให้คุณยายอีกแล้ว แต่มีบ้างที่เด็กน้อยรู้สึกอยากจะออกไปหาคุณยาย เพื่อไปเล่าข่าวดีๆ แบบนี้ให้เธอฟัง
******
คนเถื่อนสองคนแอบอยู่ในมุมมืดในเงาบ้านหิน หมาป่าของพวกเขาต้องแอบหลงอยู่ใต้ผ้าคลุมหนังสัตว์ เพื่อมิให้คนอื่นๆ มาเห็นจนต้องกรีดร้องตกใจ พากับรวมขับไล่คนเถื่อนที่แอบเข้ามาในหมู่บ้านมนุษย์
เวอร์ดัลใช้จมูกตัวเองดมกลิ่มจางๆ ลอยออกมาจากบ้าน เขาได้กลิ่นเด็กน้อยหมวกขาวคนนั้นแล้ว เจเดนเองก็ได้กลิ่นเช่นกัน รู้สึกว่าเธอจะอยู่ภายในบ้านคนเดียว จะหาวิธีใดให้เด็กน้อยออกมากับพวกเขา… เพราะเวลานี้เห็ดโคนของคนเถื่อนสองคน กำลังอวบอิ่มใหญ่โตยืดยาวน้ำไหลปิ่มปลายพร้อมถูกใช้งานแล้ว
******
สักพักได้ที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น เวลานี้เอลีสกำลังนั่งเล่นเบาๆ อยู่ในบ้าน เธอหันไปตามเสียงดังที่ประตู เด็กน้อยคิดว่าแม่อาจจะลืมของอะไรก็ได้ จึงเดินไปเปิดประตูบ้านทันที
เด็กน้อยต้องตกใจเล็กน้อย เมื่อพบกับร่างใหญ่สูงใหญ่เบื้องหน้า มันเป็นชุดคลุมสีน้ำตาลของคุณยาย และเธอจำได้ว่า คุณยายสวมชุดนี้ และก็อุ้มเธอเอาไว้นานมาแล้ว
"มาหาใครคะ?" เอลีสกล่าวถาม ด้วยความสงสัย แววตาเด็กน้อยก็พยายามสำรวจบุคคลที่มาอยู่ตรงหน้า
"ยายเองนะ ยายมาหาหลานที่บ้านยังไงล่ะ ยายคิดถึงหลานมาก" เจเดนพยายามดักเสียง พร้อมๆ กับใช้ผ้าคลุมหน้าเอาไว้ เพื่อมิให้เด็กน้อยตกใจวิ่งหนีไปซะก่อน
"คุณยายหรอคะ?แล้วทำไมคุณยายต้องปิดหน้าด้วยล่ะคะ" เด็กน้อยสงสัยยิ่งนัก ปกติแล้วคุณยายจะไม่ปิดหน้าเวลาคุยกับเธอ
"ข้างนอกฝุ่นมันเยอะน่ะ เดี๋ยวยายจะไอเสียก่อน ยายเห็นหลานไม่ไปหาที่บ้าน ยายก็เลยมาหาหลานยังไงล่ะ" เจเดนยังพยายามชวนคุยต่อไป กำลังคิดอยู่ว่าจะชวนเด็กน้อยยังไงให้ไปกับพวกเขา
"คุณยายเข้ามาก่อนสิคะ รอคุณแม่กับคุณพ่อกลับมาก่อน เราจะได้ทานอาหารค่ำด้วยกัน" เอลีสบอกด้วยสีหน้าร่าเริง เลยทำให้เจเดนไม่อยากเข้าไปในบ้าน พวกเขาต้องการเธอออกมามากกว่า
"ยายมีขนมและอาหารเยอะแยะที่บ้านเลยนะ อยากให้หลานไปกินที่บ้านยายก่อนจะกินอาหารค่ำวันนี้ หลานไปบ้านกับยายก่อนดีมั๊ยจ๊ะ?" เจเดนพยายามคุยล่อลวงเด็กน้อยต่อไป
เวลานี้ช่วงใกล้เที่ยง ยังไม่ค่อยมีคนเพ่นพ่านมากนัก เพราะทุกๆ คนต่างมีกิจวัตรจนไม่ได้สนใจบ้านของคนอื่น
"แต่ว่า… แม่บอกให้รออยู่บ้านนิคะ" เอลีสเสียงเศร้า เพราะถึงจะอยากไปก็ไปไม่ได้
"ไปกับยายไม่เป็นไรหรอกจ้า แม่ของหนูจะต้องเข้าใจอย่างแน่นอน สิ้นเสียงดักแหลมของเจเดน ทำให้เอลีสเริ่มชั่งใจ คุณยายก็ไม่ใช่คนอื่น แถมชวนไปกินขนมที่บ้าน กว่าแม่กับพ่อจะกลับมาบ้าน ก็เกือบจะมืดค่ำ ตอนนี้เอลีสก็เริ่มหิวหน่อยๆ ทำให้คิดว่า ไปกินขนมที่บ้านคุณยายก่อนก็ได้ ค่อยกลับมาบ้าน
"ถ้างั้น… หนูไปเอาผ้าคลุมกับตะกร้าก่อนนะคะ เผื่อหนูจะเก็บผักผลไม้ในสวนคุณยายมาบ้านด้วยค่ะ" เอลีสตัดสินใจที่จะออกไปกับคุณยายซึ่งปิดหน้าคุยกัน ภายในใจเด็กน้อยก็คิดตะหงิดๆ อยู่ดี ว่าทำไมคุณยายไม่เปิดหน้าคุยกับเธอ ทั้งๆ ที่วันนี้ก็อากาศดี
เป็นไปตามที่เจเดนและเวอร์ดัลต้องการ หมาป่าซึ่งซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมช่วงล่าง กำลังรอสัญญาณที่จะได้ออกจากใต้ผ้าคลุมเสียที เพราะเริ่มร้อนและแออัดแล้วด้วย
เด็กน้อยเดินออกมา พร้อมๆ กับผ้าคลุมสีขาว และตะกร้าในมื เอลีสเดินออกไปกับคุณยายในชุดสีน้ำตาล มีผ้าปิดหน้า เวอร์ดัลซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าคลุมของเจเดน รู้สึกอึดอัดก็จริง แต่เมื่อเด็กน้อยออกมาด้วยขนาดนี้แล้ว เขาจะอดทนต่อไป จนกว่าเจเดนจะบอกให้ปรากฏตัวออกมา
******
คุณยายแคทเธอรีนตัวจริง ตื่นเช้าแล้ววันนี้ เธอทำขนมคุกกี้ข้าวโอ๊ตเสร็จแล้ว กำลังจะแต่งตัวสวยๆ เพื่อตั้งใจนำขนมไปให้หลานสาวที่หมู่บ้าน เธอยิ้มหวานอย่างเป็นสุข เพราะไม่ได้เจอหน้าหลานสาวหลายวัน อีกอย่าง…
คุณยายแคทเธอรีนก็อารมณ์ดีขึ้นมาก หลังจากได้แลกเปลี่ยนอาหารกับพวกคนเถื่อนสองคน เมื่อหลายวันก่อน… หากเธอกลับมาจากบ้านของหลานสาวแล้ว หวังเพียงว่าจะได้เจอคนเถื่อนสองคนนั้นอีก มาขอแลกอาหารกับเธออีกในเร็ววันนี้...
******
เอลีสหมดสติมาตลอดทาง เธอไม่รู้ว่ามาจากทางไหน มาไกลแค่ไหนจากหมู่บ้านที่เป็นบ้านของเธอเด็กน้อยฟื้นมาก็พบว่า ตัวเองอยู่มัดเป็นหนอน ห้อยพาดไหล่ของคนเถื่อนคนหนึ่งเอาไว้ เด็กน้อยหวาดกลัวมาก ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ หลังจากคนเถื่อนแปลกหน้าพวกนี้ ล่อลวงเธอไปข่มขืนแล้ว ยังจะพาไปไหนอีกก็ไม่รู้…"ปล่อยหนูไปเถอะนะจ๊ะ หนูกลัวแล้ว หนูสัญญาจะไม่บอกใคร ได้โปรดเถอะ… ปล่อยหนูไปเถอะ…" เอลีสค่อยๆ อ้าปากพูด เพราะรู้สึกขากรรไกรกรามค้างไปหน่อย มันตึงๆ หนืดๆ จนพูดได้ไม่ถนัดนัก"เราต้องสูญเสียหมาดีๆ ไปตัวนึง ดังนั้นเด็กน้อย… เราจะพาหนูไปบ้านใหม่นะ" เจเดนบอกด้วยสีหน้าหงุดหงิด เขาคงจะต้องไปหาลูกหมาป่าตัวใหม่มาเลี้ยงให้เชื่อง แทนที่เมอร์เรสที่ต้องถูกฆ่าตาย เพราะพวกเขาแค่อยากได้เด็กมาเป็นเครื่องระบายอารมณ์แทน"ไม่เอานะ หนูจะกลับบ้าน!!!" เอลีสอยากจะดิ้นรนหาทางหนี แต่เธอไม่อาจทำได้เพราะว่า ตอนนี้ได้มาถึงสถานที่ใหม่ คือหมู่บ้านของพวกคนเถื่อน…******เจเดนกับเวอร์ดัล กำลังคุยกับผู้คนในหมู่บ้าน ถึงการนำเด็กมนุษย์ผู้หญิงเข้ามาในเผ่า ทำให้สีหน้าของหัวหน้าเผ่าที่น่าเกรงขาม ต้องหันมองเธอครั้งแล้วครั้งเล่า กับอีกสา
เอลีสต้องตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเธอเดินทางมาถึงบ้านคุณยาย ประตูบ้านปิดสนิท แต่ไม่มีทีท่าว่า คุณยายจะเปิดประตูบ้านเลย เด็กน้อยหันไปถามพลางๆ"ทำไมคุณยายไม่เปิดบ้านคะ?""ยายว่าจะเข้าหลังบ้านน่ะ ยายลืมกุญแจ" เจเดนบอก มันเป็นทางเดียวที่พวกเขาจะเข้าบ้านยายได้ เพราะกลอนมันเสียหนูน้อยหมวกขาวจึงเดินไปกับคุณยายในชุดสีน้ำตาล เพื่อเข้าบ้านด้านหลัง แต่เมื่อเธอไม่ทันระวัง ก็ต้องตกใจเมื่อมีหมาป่าตัวนึง กระโดดออกมา กัดเข้าที่เสื้อคลุมของเธอ จนหลุดออกจากตัว"หมาป่า!!! คุณยายคะ ระวังหมาป่าด้วยนะคะ" เอลีสตกใจมาก ร้องตะโกนลั่นบ้าน หวังว่าคุณยายจะช่วยเหลือเธอทัน"หมาของยายเองจ้า… หนูน้อยหมวกขาว…" เจเดนเผยตัวออกมา ถอดชุดคลุมสีน้ำตาลออก ปรากฏร่างของคนเถื่อนสองคนออกมาตรงหน้าเเธอ"พวกท่านสองคน… ที่เราเคยเจอกันระหว่างหลายวันก่อน…" เอลีสเริ่มมือสั่น หวั่นกลัว ตอนนี้มีแค่เธอเพียงลำพังกับชายแปลกหน้าสองคนหมาป่าซึ่งกระโจนออกมากัดเสื้อคลุมสีขาวเธอหลุดไป มันคาบราวกับเป็นของโปรดอันโอชะ พลางวิ่งเข้าบ้านทางประตูหลัง ลับหายภายในบ้านคนเถื่อนสองคนเริ่มเดินเข้าไปหาหนูน้อยตัวเล็ก เพื่อหวังจะได้กินอะไรบ้าง ให้ตกถึงท้อง หลัง
หลังจากเวอร์ดัลกับเจเดน ได้อาหารจากคุณยาย ด้วยน้ำเห็ดโคนแลกอาหารมา พวกเขาได้อาหารจำนวนมาก เพื่อนำกลับไปยังหมู่บ้านคนเถื่อน ในเวลานั้นเองที่คนเถื่อนสองคนกับหมาป่าอีกหนึ่งตัว ไม่ได้เข้ามาในเขตมนุษย์เป็นเวลาอาทิตย์หนึ่งเนื่องจากหัวหน้าเผ่าเห็นว่า เวอร์ดัลกับเจเดนได้อาหารของพวกมนุษย์มา เขาจึงไม่อนุญาตให้เวอร์ดัลกับเจเดนออกไปหาอาหารอีกนานพอสมควร ทำให้พวกเขาทั้งสองคน ห่างหายจากคุณยาย และเริ่มมีความคิดถึงเด็กน้อยในชุดคลุมสีขาวแทนสายตาของเวอร์ดัลมองดูสาวคนเถื่อนในหมู่บ้านเดียวกัน พวกเธอเป็นเครื่องระบายของผู้คนในบ้านเดียวกันอย่างเริงร่า อีกทั้งเจเดนยังได้ยินเสียงครวญครางของ หญิงสาวในหมู่บ้านเดียวกัน กำลังสุขสมกับชายเถื่อนอีกหลายคน หลายคู่แต่สำหรับพวกเขาสองคน ไม่มีอะไรจะไปแลกกับพวกนางเหล่านั้น จึงทำได้เพียงแค่นั่งกลัดมันเกิดอารมณ์ ใช้มือหนากอบกำรูดคลึงเห็ดโคนใหญ่ของตนประคับประคองอารมณ์ไป"เราจะแอบออกไปบ้านหญิงคนนั้น เพื่อไปแลกอาหารอีกดีมั๊ย?ข้าหิวมาก…" เวอร์ดัลแอบปรึกษากับเจเดน เพราะตอนนี้เขาหิวอาหารจนกลัดมัน แทบหน้าดำหน้าแดงมาก มือหนารูดชักว่าวเห็ดโคนตนเองจนมันยืดยาว ใหญ่ยกลำ แข็งจนเส้นเลือ
เวอร์ดัลรีบสาวเท้าไปกับเจเดน พร้อมด้วยเมอร์เรส หมาป่าที่เลี้ยงไว้ มุ่งหน้าไปยังบ้านของคุณยายอย่างไม่รีรอคนเถื่อนสองคน ออกจากหมู่บ้านเหมือนกับทุกๆ วัน เพื่อไปหาอาหาร พวกเขาสองคนตั้งใจมาหาอาหารที่บ้านคุณยายแคทเธอรีนเช่นเดิม เพราะพืชผักผลไม้ที่นางปลูกเอาไว้ เป็นผลผลิตที่ดีมาก"ครั้งนี้เราจะเอาผู้หญิงกลับไปให้หัวหน้าเผ่าดูมั๊ย แล้วบอกว่า พวกเราเอาไปเป็นทาสของเราเองล่ะ?" เวอร์ดัลคุยปรึกษากับเจเดน ระหว่างเดินทางไปด้วยกัน และก็ใกล้จะถึงบ้านคุณยายแล้ว"หัวหน้าเผ่าต้องกินนางแน่ๆ ท่าทางจะหิวมากกว่าอยากได้ทาสนะ" เจเดนเดาว่า เขาน่าจะเก็บเธอไว้ที่บ้านเดิมแหละ แล้วพวกเขามาเอาอาหาร และเอาเธอมันๆ แบบนี้น่าจะเก็บไว้กินได้นานกว่า เอาไปที่หมู่บ้าน"แล้วเด็กที่พวกเราเจอล่ะ?" เวอร์ดัลถามถึงหนูน้อยหมวกขาว ซึ่งทำให้พวกเขาติดตามไปถึงบ้านผู้หญิง มีสวนผัก เด็กคนนั้นน่าจะมีความเกี่ยวข้องกันกับผู้หญิงที่พวกเขาลากมาข่มขืนในป่าก็ได้"ถ้าเราเอาเด็กกลับหมู่บ้านไป หัวหน้าเผ่าจะต้องจัดนางแน่นอน และอาจจะยอมให้อยู่ในหมู่บ้านเราก็ได้นะ ยังไงเสีย หัวหน้าเผ่าก็ต้องเอากับเด็กผู้หญิงทุกๆ คนอยู่แล้ว เพื่อให้อยู่ในหมู่บ้านได้
คุณยายแคทเธอรีนเริ่มตั้งตัวใหม่ เธอคิดว่าที่มีคนป่าเข้ามาในเขตบ้านเธอได้ คงเป็นเพราะพืชผักผลไม้ในบ้านแน่ๆ ที่มันกำลังสุกงม และกลิ่นของมันคงไปเตะจมูกคนเถื่อนเข้าพวกมันจึงเข้ามาลักเล็กขโมยอาหารในบ้านเธอยังไม่พอ ยังจะขโมยความสงบสุขของเธออีกต่างหาก แถมยังจะ… แคทเธอรีนกัดฟันขบเคี้ยวแน่น ว่าโดนพวกมันรุมข่มขืนทั้งปากและสังวาสหนักแค่ไหนในใจแอบยอมรับความสุขที่พวกมันประเคนมาให้ ทั้งอัดแน่นเพลิดเพลิน เสียววูบวาบมาก อย่างที่ไม่ได้เป็นแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่สามีของคุณยายเสียชีวิตไปนาน เธอก็ไม่มีชายอื่นมาเป็นคนคู่ใจเคียงข้างอีกเลย…ครานี้… คุณยายคิดว่าจะต้องเตรียมรับมือพวกมันอีก เพราะหากพวกมันมาถึงบ้านคุณยายได้ครั้งแรก ครั้งต่อไปพวกมันอาจจะมาอีกแน่ๆ และเธอไม่แน่ใจว่า พวกมันจะมาแค่สองคน หรือมากกว่านั้นคุณยายยังไม่อยากให้หลานสาว ซึ่งกำลังเดินทางมาหา ได้รับอันตรายไปด้วย แต่คุณยายก็ไม่กล้าบอกอยู่ดี เกรงว่าจะกลัวจนทำอะไรไม่ถูก คุณยายแคทเธอรีนคิดว่า เธอควรจะจัดการกับพวกมันเองจะดีกว่า… ลึกๆ ในใจคุณยายก็อยากจะโดนพวกมันจัดการแบบเมื่อวาน อย่างเร้าใจอีกเหมือนกัน******วันนี้คุณยายจัดการเก็บผักผลไม้ภายในบ้
ร่างบางยังคงสั่นเสียว ไปกับการเคลื่อนไหวของโทมัสอยู่เนืองๆ ความอึดอัดคับในช่องท้อง ยังคงกระตุ้นอัดแน่นจุกใน ทุกๆ แรงสวมกอดจากคนที่สนิทกัน เวลานี้เขาสู่ขอเธอกับพ่อแม่ของเอลีสไปแล้ว ทำให้เขาสามารถครอบครองเธอได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะถึงวัยดรุณีแรกแย้มจะแตกสาวมือบางกอบกำผ้าห่มแน่นพลางบิดกายเล็กบาง สั่นไหวไปมาในความฝัน มันช่างแสนหอมหวานล้ำ เกินกว่าจะลืมตาตื่นขึ้นมา แต่แล้ว… ความฝันของเธอระหว่างสวมกอดกับโทมัส กำลังจะจางลง เมื่อกลิ่นหอมของอาหารเช้า กำลังปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์หลับใหลนิทราอันแสนหวาน…"เอลีส… ตื่นมาทานข้าวเช้าเถอะจ้า…!!!" ลีแอนตะโกนเรียกลูกสาวให้ลงมาเหมือนกับทุกๆ วัน เพียงแต่วันนี้เอลีสลงมาช้ากว่าปกติ เพราะเธอรู้เรื่องเมื่อวานอยู่แล้ว เธอกับพาร์เซลจงใจให้โทมัสอยู่กับเอลีส เพื่อสานสัมพันธ์ครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากขึ้น"ค่าาาาา" เอลีสค่อยๆ ขยับกายลุกขึ้นนั่งบนเตียง เธอยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดระบมหน้าท้อง และเรือนขาทั้งสองข้าง ปวดเมื่อยไปหมด การมีความสัมพันธ์ความรักครั้งแรกมันเป็นแบบนี้เองรึ******เอลีสลงจากบนห้องนอนตามปกติ เพื่อมาพบลีแอนยามเช้า พาร์เซลออกไปตัดฟืนกับพรรคพวกเช่นเดิม หา