หน้าหลัก / วาย / The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg) / ตอนที่ 20 เด็กใหม่ผู้แทรกแซงเทวดา

แชร์

ตอนที่ 20 เด็กใหม่ผู้แทรกแซงเทวดา

ผู้เขียน: Glita
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-21 21:45:35

          รอยยับยู่และคราบเปียกชื้นบนเสื้อผ้าไม่ได้ทำให้ดันเต้หงุดหงิดเท่าสายตาผู้คนในร้าน เขารู้ว่าตัวเองมีเสน่ห์ชวนหลงใหล แต่สายตาทุกคู่มากมายขนาดนี้ บางครั้งปีศาจผู้บ้าน้ำกามก็เกินจะรับมือไหว 

          ทว่าก็ช่วยไม่ได้… ดันเต้ถือเป็นเด็กใหม่ที่เปิดตัวได้อย่างร้อนแรงและหวือหวาจนทุกคนต่างฮือฮา แม้แต่เป็นเอกเองก็ยังไม่วายต้องจับตามองด้วยความสนใจ

          อันที่จริงสีผิวที่คล้ำกว่าเพื่อนพนักงานทุกคนในร้าน ทำให้หลายคนมองว่าดันเต้คงไม่อาจเปิดบิลได้ด้วยซ้ำ แต่แค่คืนก็สามารถลบล้างข้อกังขาบนใบหน้าของชายหนุ่มหน้าหยิ่งได้จนสิ้น

          แต่ก็นั่นแหละ… ดันเต้เป็นปีศาจ ถึงจะต้องพยายามสักหน่อย แต่เขาก็มีเวทมนตร์

          พนักงานในร้านบางคนถึงกับพูดว่าดันเต้นี่แหละคือผู้ที่จะเข้ามาเขย่ากลุ่มแองเจิ้ลให้แตก หลังจากที่ไม่มีใครสั่นบัลลังก์ของทั้งสามตัวท็อปได้มานาน ทว่านี่ก็ไม่ใช่เหตุผลหลักที่เขามายังอมิร์ จะเงินทองหรือชื่อเสียงก็เหมือนกระดาษเปล่าเปียกน้ำใบเดียว ไม่ค่อยมีคุณค่าให้ใช้งานได้เท่าไหร่

          ดันเต้นั่งเขย่าตัวอย่างตื่นเต้นบนโซฟากำมะหยี่ ของบนโลกจริงสร้างความตื่นเต้นให้กับเขาทุกครั้งที่ได้ออกมาสัมผัส เพราะในฝันนั้นจืดชืด สีสันผิดเพี้ยนและเย็นเฉียบ พอได้คิดดูอย่างจริงจัง เขาไม่แน่ใจว่าทนสภาพแบบนั้นมาได้ยังไงเป็นร้อยเป็นพันปี

          เสียงประตูห้องหยุดการโคลงตัวดันเต้แบบชะงักงัน ปีศาจในร่างมนุษย์เอนตัววางก้ามให้น่าเกรงขาม แขนทั้งสองวางพาดบนโซฟาอย่างอาดๆ เขากระแอมเล็กน้อยก่อนจะย่นคิ้วให้เหมือนคนกำลังมีเรื่องหนักอกหนักใจ

          ชายหนุ่มทั้งสองที่พึ่งเข้าห้องแต่งตัวมาตกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นพนักงานใหม่เข้ามาในห้องที่สงวนเอาไว้เฉพาะบุคคล กระนั้นก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร 

          อาร์เต้ยิ่งแล้วใหญ่… เขาชื่นชมในความมุทะลุนี้เสียด้วยซ้ำ

          “เอ่อ! นายเข้ามาได้ยังไง?” มิวเอ่ยถามพลางเดินตามอาร์เต้ไปนั่งหน้ากระจก มือเริ่มเก็บข้าวของลงกระเป๋าใบเล็ก

          “เปิดประตู… แล้วก็เดินเข้ามา” ดันเต้ตอบเสียงเรียบเฉย “ทำไม? ปกติเขาล็อกประตูกันเหรอ”

          “ไม่ใช่อย่างนั้น” มิวไม่รู้ว่ากำลังถูกกวนตีนอยู่หรือเปล่า แต่ก็ทำได้แค่กลอกตาแล้วลืมๆไปเสีย “ห้องนี้เป็นห้องพักส่วนตัวของพวกทรินิตี้แองเจิ้ล”

          “แล้วฉันเข้ามาไม่ได้เหรอ?”

          “ไม่เชิงแบบนั้น”

          “เอาน่า!” ดันเต้กางแขนทั้งสองข้าง พยักหน้าอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว “ยังไงฉันก็อยู่นี่แล้ว ใช่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่เสียหน่อย”

          “ดีนะที่พี่เจษไม่อยู่ ไม่งั้นนายโดนบ่นหูชาแน่… รายนั้นเจ้ายศเจ้าอย่างอยู่ด้วย”

          “แต่ผมชอบว่ะพี่มิว ห้าวดี” อาร์เต้เสียงใส “ฮ่าๆ”

          “ฉันก็ชอบนายอยู่นะ” ดันเต้ขยิบตามอบให้เด็กหนุ่มตาใส

          “เอาจริงๆฉันรู้สึกคุ้นหน้านายนะ” อาร์เต้จ้องเขม็งไปยังชายหนุ่มร่างใหญ่ “เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน แต่พยายามคิดตั้งนานก็นึกไม่ออก”

          “ว่าแต่เลิกงานแล้วกลับด้วยกันไหม?” ดันเต้เมินข้อสงสัยของอาร์เต้ เขาหันไปชวนมิวที่นั่งตรงหน้าอย่างตั้งใจ เพราะตอนนี้ปีศาจร่างยักษ์ค้นพบเป้าหมายใหม่แล้ว

          “ฉันเหรอ?” มิวชี้นิ้วเข้าหาตัว

          “เอ๋! คู่นี้มันยังไงกัน จีบกันอยู่เหรอ?” อาร์เต้แซว “ไปรู้จักกันตอนไหน?”

          “พูดไปเรื่อย” มิวหลบสายตาเก็บของลงกระเป๋า “ก็รู้จักพร้อมกันวันนี้นี่แหละ”

          “ไม่เบาเลยนะเรา” อาร์เต้หันไปแซวดันเต้ต่อ “ได้ข่าวว่าวันนี้หน้าเวทีแทบลุกเป็นไฟ คนอื่นพูดกันให้ทั่วว่าพนักงานใหม่คืนแรกก็ได้เหนึ่งร้อยห้าสิบดื่ม”

          “เยอะเหรอ?” ดันเต้ถามอย่างใสซื่อ แต่น้ำเสียงกลับฟังน่าหมั่นไส้มากกว่า

          “เยอะสิ” อาร์เต้รีบตอบ “เด็กใหม่ส่วนใหญ่ต้องทำเกือบทั้งเดือนเลยนะถึงจะได้เท่านั้น แถมยังพาไปเปิดห้องวีไอพีได้อีก”

          “ก็ฉันไม่เหมือนคนอื่น”

          ‘ไอ้หมอนี่มันถ่อมตัวไม่เป็นเลยสินะ’ มิวพึมพำในใจถึงความมั่นอกมั่นใจของพนักงานมาใหม่ เขานึกถึงตอนที่เพิ่เข้ามาทำงานวันแรก นอกจากเกือบจะไม่ได้ลูกค้าแล้ว ยังไม่กล้ากำแหงอวดเบ่งขนาดนี้เลย

          “มันเป็นเรื่องจริง ฉันไม่จำเป็นต้องถ่อมตัว”

          มิวอ้าปากค้างดวงตาเบิกกว้างเมื่ออีกฝ่ายสามารถต่อประโยคในใจของเขาได้พอดิบพอดี ราวกับว่าสามารถอ่านข้อความที่ถูกซุกซ่อนอยู่ได้

          “ว่าแต่จะกลับบ้านกันได้หรือยัง อีกไม่นานก็จะเช้าแล้ว” ดันเต้เอ่ยปากชักชวนย้ำอีกครั้ง

          “นายจะกลับบ้านกลับฉันเหรอ?” มิวถามอย่างสงสัย “บ้านนายอยู่เส้นทางเดียวกับบ้านฉันเหรือยังไง?”

          “ฉันไม่ได้จะกลับบ้านตัวเอง ฉันจะได้บ้านนาย… ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องเรียกว่าห้องหรือเปล่า?”

          “เอ๋!!!” อาร์เต้หวีดเสียงสูง

          “แล้วนายจะไปห้องฉันทำไม?”

          “มีเรื่องอยากคุยด้วย”

          “คุยเรื่องอะไร? คุยที่นี่ก็ได้”

          “มันเป็นเรื่องค่อนข้างส่วนตัวเกี่ยวกับนาย”

          “นายกับฉันพึ่งเจอกัน พวกเรามีเรื่องส่วนตัวอะไรที่ต้องคุยกันด้วยเหรอ” มิวขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “มีอะไรก็คุยกันที่นี่ก็ได้”

          “จะเอาอย่างนั้นเหรอ?”

          “ใช่!”

          “เรื่องน้ำเชื้อกับไอ้จ้อนที่ไม่ยอมแข็งของนาย ฉันว่า…”

          “เฮ้ย!” มิวร้องเสียงหลงพร้อมกับอาร์เต้

          “นายพูดบ้าอะไร พิลึกคน” มิวหน้าแดง พยายามพูดเสียงดังเพื่อไม่ให้คนอื่นในห้องได้ยินจนจบประโยค “ไปๆ กลับบ้านก็กลับบ้าน”

          อยู่ๆความลับทางกายภาพของเขาก็ถูกโพล่งออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว มิวรู้สึกร้อนวูบวาบ กระดูกสันหลังเสียวแปลบลามไปจนถึงกระดูก เขารู้สึกว่าดันเต้เป็นคนแปลกประหลาด และต้องหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้

          ไม่รู้ว่าอาร์เต้ได้ยินไปมากน้อยเท่าไหร่ แต่สังเกตจากอากัปกิริยาตกใจผสมสงสัยแล้ว คิดว่าคงมากพอให้เด็กหนุ่มเอาไปคิดอะไรชั่วร้ายต่อได้

          อย่างไรก็ตามมิวต้องลากตัวเองกับไอ้เด็กใหม่ตัวใหญ่นี้ออกจากห้องให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะมีความลับอะไรหลุดออกมาจากริมฝีปากนั่นอีก

          “ผมไปด้วยได้ไหม?” อาร์เต้ชูมือกลางอากาศ

          “วันนี้ทำงานกับนายก็เหนื่อยมากพอแล้ว ให้มันจบที่ตรงนี้เถอะ” มิวพูดพลางรีบเก็บข้าวของเดินบึ่งออกจากประตูไป ใบหน้าและใบหูทั้งสองข้างร้อนผ่าว

          “แล้วที่นัดจะไปกินข้าวต้มกันล่ะ?” อาร์เต้โอดครวญ

          “ไว้วันพรุ่งนี้”

          “เมื่อวานพี่ก็พูดแบบนี้ตอนเทผม”

          ประตูห้องปิดสนิทก่อนที่มิวจะทันพูดอะไร

          ชายร่างยักษ์ขยับตัวลุกจากโซฟากำมะหยี่ เขาไม่ปล่อยให้มิวรั้งรอนานนัก

          “นายดูแข็งแรงขึ้นเยอะ… ถ้านายฟื้นฟูร่างกายเร็วขนาดนี้ ไม่แน่ว่าอีกไม่นานฉันอาจจะกลับไปหานายได้” ดันเต้หันไปบอกอาร์เต้พลางขยิบตาให้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 67 มุมมองที่ต่างกัน

    “ทวดของผม” โพรงปากของเด็กหนุ่มอ้าค้างจนมองเห็นลิ้นไก่ข้างในลึกสุด “นี่พี่เกิดสมัยอยุธยาเป็นเมืองหลวงเลยไหมเนี่ย?” “ไม่นานขนาดนั้น” เสียงหัวเราะร่วนของเป็นเอกดัง “พี่เกิดหลังทวดของนายไม่กี่ปี ปี พ.ศ. สองพันสี่ร้อยกว่าเห็นจะได้” “แล้วพี่เป็นใครกันแน่?… ผีบรรพบุรุษส่งให้พี่มาดูแลตระกูลของผมหรือยังไง?” “ฉันว่าเรื่องของนายเหลือเชื่อกว่าเรื่องของฉันอีก” ยังไม่ทันจะต่อความยาวสาวความยืด เสียงฝีเท้าตึงตังก็ดังมาจากบันไดไม้ หญิงสาวแรกรุ่นพรวดพราดเข้ามาในห้องนอนที่ชายทั้งคู่อยู่ เธอกระโจนเข้าหาเป็นเอกและสวมกอดรอบคอจนแน่น “คิดถึงคุณลุงจัง” น้ำเสียงของหญิงสาวสดใสพอกันกับหน้าตา ดวงตาของเธอสุกใสเป็นประกาย ผิวหนังเนียนหนุ่มอ่อนเยาว์สมกับการเป็นสาวแรกรุ่น “คิดถึงลุงหรือคิดถึงของฝากกันแน่” มือของชายผู้แก่กว่ามากลูบศีรษะอย่างเอ็นดู “ก็ต้องคิดถึงคุณลุงอยู่แล้วสิคะ” “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ลุงไม่มีของฝาก นิดหน่อยก็จะยังคิดถึงลุงอยู่ใช่ไหม?” หญิงสาวตัวเล็กยืดตัวขึ้นทำแก้มป่อง “ไม่มีจริงเหรอ?”

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 66 เพื่อนเก่าเพื่อนแก่

    ไม่ได้มีโอกาสบ่อยนักที่อาร์เต้จะได้อ้าแขนกอดรับดวงอาทิตย์ยามสาย ถึงมันออกจะร้อนสักหน่อยก็เถอะแต่สำหรับชายหนุ่มที่ไม่ค่อยชอบชีวิตช่วงกลางคืนเท่าไหร่นัก นี่ก็นับว่าเป็นคุ้มค่าที่จะแลก หลังจากได้ฟังเรื่องราวอันไกลเกินขอบเขตของความเชื่อมาแล้ว แววตาของอาร์เต้ตอนมองเป็นเอกกลับไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ หากไม่ใช่เพราะยังไม่เชื่ออย่างสมบูรณ์แบบบ ก็คงเป็นเพราะอคติบางอย่างที่สร้างความเอนเอียง ความรู้สึกในใจของชายทั้งสองไม่อาจถูกคั่นกลางด้วยสิ่งแปลกปลอม ระยะห่างระหว่างกันยังคงเส้นคงวา ไม่อาจใกล้มากกว่านี้หรือถอยห่างจากที่เป็น ถึงหมุดหมายของทริปนี้เป็นเอกจะบอกไว้ว่าเป็นการออกตามหาความจริง ทว่าอาร์เต้มองแตกต่างออกไป เขาคิดเงียบๆ อยู่คนเดียวว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นเสมือนการออกเดตนอกสถานที่ครั้งแรกของพวกเขา นั่นเลยช่วยทำให้รู้สึกดีมากกว่ากังวล อาร์เต้ไม่เอ่ยถามถึงจุดหมายปลายทาง เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมพูดอะไรแน่นอน ซึ่งเป็นเอกก็คิดเช่นนั้น ชายแก่ในร่างหนุ่มคิดไว้ว่าการอธิบายกลางอากาศอย่างเดียว คงไม่หนักแน่นพอจะยืนยันทุกอย่าง ท้องฟ้าปลอ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 65 เริ่มนับเวลาถอยหลัง

    เมื่อความสุขสุดขีดพุ่งสูงจนทะลุหลอด ความเหนื่อยล้าก็เข้ามาห่อหุ้มร่างกึ่งเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่ม หน้าอกภายใต้เสื้อตัวบางกระเพื่อมหนักหน่วง ริมฝีปากเผยออ้าเติมอากาศเข้าไปทดแทนกับที่ขาดหาย ใบหน้าฝาดก่ำด้วยสีเลือดสดๆ และเข้มมากขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงความดังของเสียงที่เพิ่งเปล่งออกไป ท่อนล่างโล่งโจ้งเลอะเทอะด้วยคราบของเหลวจากร่างกาย ในใจของมิวร้องตะโกนกู่ก้องเมื่อความรู้สึกที่อัดอั้นถูกระบายออกมาได้เสียที นั่นเป็นสิ่งประจักษ์แน่ชัดแล้วว่า ร่างกายและความเป็นชายได้กลับเป็นปกติอย่างที่ควรจะเป็น ทว่าก็ยังรู้สึกติดค้างบางอย่างแถวก้นบึ้งของจิตใต้สำนึก รอยยิ้มกางกว้างบนใบหน้าเรียวงาม เด็กหนุ่มรีบจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อย ด้วยกลัวจะมีใครเปิดประตูเข้ามา การโดนมองเห็นไม่น่าหนักใจเท่ากับการโดนล้อ มิวนึกออกว่าดันเต้จะพูดอะไรบ้างหากเห็นสภาพของเขาในตอนนี้ ‘ไม่คิดจะชวนกันสักหน่อยเหรอ?’ ‘ทำไมนายถึงหนีมาสนุกคนเดียวล่ะ!’ ‘อีกรอบไหม?’ ‘คิดถึงดุ้นยักษ์ของฉันล่ะสิ!’ น้ำเสียงทะลึ่งตึงตังรวมกับสีหน้าหื่นกระหายของดันเต้ ผุดขึ้นมาใน

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 64 กลับไปใช้งานได้

    ความเงียบบรรเลงดนตรีกระซิบข้างใบหู ความเหนื่อยล้าขับกล่อมท่วงทำนองยืดยานจนชายหนุ่มหลับใหลไปอย่างง่ายดาย พื้นที่แสนปลอดภับโอบกอดมิวเอาไว้แน่นไปถึงความฝัน ชายหนุ่มทิ้งความหวาดระแวงเอาไว้ข้างเตียง และปล่อยความอิสระให้คืนสู่จิตใจ เวลาในกำมือหมดไปอย่างรวดเร็ว จนแอบนึกเสียไม่ได้ว่าสิ่งล้ำค่านี้ไม่เคยเพียงพอในหนึ่งชีวิต… ร่างกายของมิวนั้นฟื้นฟูได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งความเหนื่อยล้าหรือบาดแผลบนร่างกาย อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องนอนเลยด้วยซ้ำหากในตัวมีเมล็ดพันธุ์ปีศาจอยู่ ความรู้สึกเบาสบายจากห้วงนิทราถูกความร้อนตรงท้องทำลาย เด็กหนุ่มกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ลำตัวบิดงองุ่นง่าน การข่มตาให้หลับกลายเป็นเรื่องยากขึ้นทุกที การโดนร่างกายของตัวเองรังควานสร้างความหงุดหงิดนิดๆ มิวลืมตาตื่นนั่งพิงหัวเตียง ดวงตาแจ่มใสทั้งที่เพิ่งนอนไปได้แค่สองชั่วโมง ด้านล่างของลำตัวร้อนรุ่มอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนบาง ปลายเท้าบิดงอเข้าหากัน ต้นขาหนีบแน่นจนสะโพกเกร็ง อาการวูบวาบแผ่ซ่านจากศูนย์รวมความรู้สึกไปยังเส้นประสาท ดวงตาของมิวหั

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 63 กาลเวลาที่ยืดหดได้

    เบื้องบนโปรยแสงรำไรออกมาจากมาจากรูโหว่อันดำมืดของท้องฟ้า เช้าวันใหม่นี้แสนอึมครึมไม่สดใส ส่งผลโดยตรงต่อจิตใจให้ขมุกขมัว หัวงมหรรณพแห่งเวลาสงบเสงี่ยมเฉกเช่นหนุ่มน้อยหน้าตาใสซื่อ ปกติท่าทีของอาร์เต้จะกระโดกกระเดกไม่เรียบร้อย บัดนี้กลับสงวนกิริยาขัดจากนิสัยปกติราวกับเป็นอีกคน อาจเพราะเขาถนัดการซ่อนมุมจริงจังเอาไว้เพื่อบดบังตัวตน จึงมีน้อยคนจะเคยได้เห็นอีกด้าน “ที่จริงแล้วพี่เลือกจะโกหกต่อไปก็ได้ แต่พี่ไม่อยากทำ” ชายวัยกลางคนนั่งบนโซฟาที่คุ้นเคย สายตาจับจ้องร่างเด็กกว่าตรงกันข้ามด้วยความสับสน หลังจากพยายามเลี่ยงการเปิดปากตอนอยู่ในรถอยู่นาน เขาก็มาถึงสถานที่เหมาะแก่การคายทุกอย่างออกมา “พี่รู้ว่ามันอาจจะฟังแล้วเหลือเชื่อไปหน่อย แต่พี่ก็อยากให้อาร์ตเปิดใจ” หนุ่มน้อยเอียงคอสงสัย ปกติเป็นเอกเป็นคนขึงขังอยู่แล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่ทำให้ผู้จัดการร้านคนนี้หัวเสียได้มากกว่าเดิมอีกเหรอ “ผมเปิดใจให้พี่อยู่แล้ว… พี่รู้ใช่ไหม?” “แต่เรื่องที่พี่จะเล่ามันจะเปลี่ยนความคิดของนายที่มีต่อพี่ไปเลย” นี่คือสิ่งที่อาร์เต้ไม่ชอบ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 62 ความจริงที่พูดไม่หมด

    การโดนสปอยด์ตอนจบไม่น่าอภิรมย์ของพิธีกรรมปีศาจที่ได้ยินจากปากของกามเทพ เป็นสิ่งที่มิวพกติดตัวออกจากห้องคุมขังมาด้วย หากเป็นก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มคงดวงตาเบิกโพลง จิตใจแช่มชื่นเมื่อรู้ว่าตัวเองมีส่วนพัวพันกับเรื่องราวลี้ลับที่น้อยคนจะได้พบเจอ ตอนนี้ทุกอย่างตาลปัตรกลับด้านชวนใจหาย เขาเริ่มหวาดกลัวในสิ่งเหนือธรรมชาติที่ไม่อาจคาดเดาได้ และโทษที่ตัวเองคิดน้อยเกินไป บนถนนที่แออัดไปด้วยรถยนต์อุ่นหนาฝาคั่ง ในห้องโดยสารนั้นกลับอึดอัดมากกว่าข้างนอกนั่นหลายเท่า การหายใจไม่อาจทั่วท้องเมื่อต้องนั่งชิดติดอยู่กับความหงุดหงิด บรรยากาศธรรมดาที่สามารถพบเจอได้ทุกวัน ท้องฟ้าขมุกขมัวสาดไปด้วยแสงของดวงดาว เสียงบีบแตรและไฟท้ายของรถที่สะท้อนเข้าดวงตา ทุกอย่างในการมองเห็นตอนนี้กลับพิเศษเมื่อเด็กหนุ่มขาดหายไปหลายวัน ปกติมิวไม่ค่อยชอบคนขับรถที่ซอกแซกชีวิตส่วนตัวของผู้โดยสาร ยกเว้นวันนี้… เขารู้สึกอยากกดทิปให้หลายร้อยบาทเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณที่ช่วยให้สมองวุ่นวายได้คิดเรื่องอื่นบ้าง คำพูดยาวเหยียดก่นด่าไปทั่ว ตั้งแต่ลม ฟ้า อากาศ รวมไปถึงปัญหาค่าครองชีพถูกยัด

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status