เนื่องจากเตียงในห้องของคาริสาเปียกชื้นจากชุดว่ายน้ำ กฤษณ์จึงมีเหตุผลในการย้ายเธอไปนอนห้องเดียวกับเขาอย่างชอบธรรมตอนแรกกฤษณ์ตั้งใจว่าจะปล่อยคาริสาที่ให้พักผ่อนเร็วหน่อย ยังไงเธอก็เพิ่งมีประสบการณ์ครั้งแรก หากเขาหักโหมเกินไปความแบบบางของเธออาจบอบช้ำ แต่พอเห็นเรือนร่างขาวกระจ่างในชุดนอนซีทรูสีดำสุดเซ็กซี่ เขาก็พ่ายแพ้ให้กับสัญชาตญาณของความเป็นชาย เปลี่ยนใจมาสอนบทรักใหม่ ๆ ให้หญิงสาวหลายต่อหลายยก จนกระทั่งตนเองไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้วจริง ๆ นั่นแหละ เธอถึงได้เป็นอิสระคาริสาตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกปวดเมื่อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอไม่คิดมาก่อนว่าผู้ชายจะสามารถเล่นเกมพิศวาสได้ตลอดทั้งคืน นึกว่ามีเพียงพระเอกในนิยายเท่านั้นที่จะทำได้ซะอีก ดูเหมือนเธอต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เสียแล้วระหว่างที่คาริสาลุกขึ้นนั่งบิดเนื้อบิดตัวเผื่อขจัดความเมื่อยขบอยู่นั้น กฤษณ์ก็เปิดประตูเข้ามา เขาสวมเสื้อยืดสีขาวสะอาดตากับกางเกงลำลองดูเรียบง่าย ผมที่ยังไม่ถูกเซตให้เป็นทรงปรกลงมาที่หน้าผากทำให้ใบหน้าคมสันแลดูอ่อนกว่าวัยขึ้นเล็กน้อย ชายหนุ่มมองคนที่ตื่นแล้วด้วยแววตารักใคร่ ก่อนเดินอาด ๆ มาที่เตียงพร้อมกับถาดใส่อาหารเ
เป็นครั้งแรกที่กีรติกานต์คิดว่าเสียงกริ่งจากอธิปช่างเหมือนเสียงจากสวรรค์ที่น่าฟังที่สุดอธิปกวาดมองตั้งแต่ใบหน้าสวยได้รูปไล่เรื่อยลงมาจนถึงปลายเท้า วันนี้กีรติกานต์ไม่ได้แต่งหน้า เส้นผมสีดำขลับยังเปียกชื้น เสื้อยืดพอดีตัวกับกางเกงขาสั้นให้ความรู้สึกสบาย ๆ คล้ายเขากำลังมองคนรักที่เพิ่งตื่นนอนมาเจอกัน“แต่งตัวแบบนี้ออกมา คิดจะยั่วฉันแต่เช้าเลยหรือไง”กีรติกานต์ยังไม่ทันตอบ ชายหนุ่มในห้องก็เดินตามออกมาเสียก่อนศรุตมองหน้าอธิป เห็นอีกฝ่ายส่งสายตาเย็นชามาให้ พอดีตนเองกำลังอยากหาที่ระบายอารมณ์อยู่พอดี เลยเข้ามาประชิดติดแผ่นหลังของกีรติกานต์ แล้วก้มหน้าลงเล็กน้อยทำเป็นกระซิบกระซาบ “ใครเหรอครับน้องกุ๊กกิ๊ก”“จะใครละ ก็ผะ...” อธิปยังไม่ทันพูดในสิ่งที่อยากพูด กีรติกานต์ก็ชิงตอบเสียก่อน“พะ...เพื่อนร่วมงานของกุ๊กกิ๊กเองค่ะ”“เอ๋ วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอคะ” ศรุตไม่ให้ความสนใจผู้มาเยือนแม้แต่น้อย ยังคงพูดจาหวานเลี่ยนกับกีรติกานต์ต่อ เหมือนไม่มีอธิปอยู่ตรงนั้น“พอดีลืมไปว่ามีฉากสำคัญ เลยนัดกันมาต่อบทก่อนแสดงจริงน่ะค่ะ” ดาราสาวไม่อยากจะเชื่อเลยว่านักธุรกิจหนุ่มอย่างศรุตจะแสดงละครได้ดีขนาดนี้ แต่จำต้อ
“ริสาไม่อยู่ที่นี่ค่ะพี่ศรุต” กีรติกานต์เอ่ยเสียงเข้ม แต่ดูเหมือนศรุตจะไม่สนใจ ทั้งยังตั้งท่าจะเดินไปดูที่ห้องนอน ซึ่งหญิงสาวยอมให้ชายหนุ่มทำอย่างนั้นไม่ได้ จึงปรี่เข้ามายื้อยุดตัวเขาไว้สุดแรง “พี่ศรุตหยุดเดี๋ยวนี้นะคะ กุ๊กกิ๊กบอกแล้วไงคะว่าริสาไม่อยู่ที่นี่”ศรุตหันมามองกีรติกานต์ที่รั้งตนเองไว้ด้วยดวงตาแดงก่ำ เห็นเธอไม่หลบตาทั้งยังจ้องมาอย่างเอาเรื่อง ก็คิดได้ว่าเขาบุกเข้าบ้านและกำลังจะบุกเข้าไปในห้องนอนของผู้หญิงคนหนึ่ง ดีที่สำนึกในส่วนลึกทำให้เขาเลิกดึงดัน ตัดสินใจหยุดยืนอยู่กับที่พอเห็นว่าศรุตไม่พยายามจะเข้าไปในห้องนอนเธออีกแล้ว กีรติกานต์ก็ปล่อยมือ“จะไม่อยู่ได้ยังไง ก็ริสาบอกว่าจะมาค้างกับเธอ”“ริสาไม่ได้มาค้างกับกุ๊กกิ๊กจริง ๆ ค่ะ”“เธอรู้ใช่ไหมว่าเขาไปไหน” ศรุตถามเสียงเย็น“...” กีรติกานต์สบดวงตากรุ่นโทสะของเขานิ่ง ถึงจะรู้สึกกลัวอยู่บ้าง แต่ยังคงเชื่อมั่นว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนประเภทที่จะลงมือกับผู้หญิงได้ครั้นเห็นความดื้อดึงในแววตาคมสวย ศรุตก็ได้แต่หายใจฮึดฮัด ท่าทางไม่สบอารมณ์“ต้องขอโทษพี่ศรุตด้วยนะคะ แต่กุ๊กกิ๊กไม่รู้จริง ๆ ค่ะ ว่าริสาไปไหน” เธอยืนกราน พยายามคงน้ำเสียงสุภา
คาริสาหลับตา ไม่กล้าสู้หน้าเขา ไม่รู้ว่าความใจกล้าเมื่อครู่หายไปไหนหมด ตอนนี้เธออายจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว จะตอบเขาอย่างหน้าไม่อายได้อย่างไรว่า รู้สึกดีมาก“ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้รู้เอาไว้ว่า กฤษณ์มีความสุขมากจริง ๆ นะครับ ที่ได้เป็นคนแรกของริสา”และหวังว่าจะได้เป็นคนสุดท้าย ประโยคนี้เขาพร่ำพูดในใจ เพราะรู้นิสัยของคนในอ้อมกอดดี ถึงแม้จะเป็นสาวช่างฝัน แต่เธอกลับไม่ชอบคำสัญญาประเภทจะรักกันชั่วฟ้าดินสลาย หรือรักตลอดไปอะไรทำนองนั้นที่สุดอาจเป็นเพราะการหย่าร้างของบิดามารดาเธอ ถึงเด็กสาวอายุสิบห้าปีในตอนนั้นจะไม่พูดอะไร แต่ทุกครั้งที่ดูซีรีส์ด้วยกัน พอถึงฉากที่พระเอกให้สัญญารัก คาริสามักยิ้มเยาะด้วยแววตาเศร้าสลดอยู่เงียบ ๆน้ำเสียงจริงจังทำให้คาริสาสะกดความอายลงได้ เธอลืมตาขึ้นมองเขา จดจ้องเข้าไปในดวงตาสีดำดุจราตรี แล้วยิ้มตอบอย่างอ่อนหวานที่สุด“ริสามีความสุขมากค่ะ”พอได้ฟังสิ่งที่รอคอย หัวใจของชายหนุ่มคล้ายมีความอบอุ่นแสนละมุนแล่นผ่าน เขาจูบเธออย่างอ่อนหวาน ถ่ายทอดความรู้สึกลึกซึ้งที่กักเก็บมานานสองร่างเปล่าเปลือยบดเบียดแนบชิดปลุกไฟปรารถนาที่เพิ่งมอดดับให้ปะทุขึ้นอีกเสียงเนื้อกระ
คาริสารู้สึกหัวหมุนไปหมด เธอปรือตามองชายหนุ่มด้วยความประหม่าแกมลังเล ตอนแรกก็อยากจะดันเขาออก แต่พอถูกรุกเร้าอย่างเอาแต่ใจ มือไม้กลับอ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรง ยิ่งเขาพรมจูบไปทั่ว สติของเธอยิ่งกระเจิดกระเจิง ความยับยั้งใจค่อย ๆ หมดลงทีละนิด ได้แต่นอนระทดระทวยปล่อยให้เขาทำทุกอย่างตามใจต้องการในที่สุดเขาก็จัดการถอดทุกสิ่งออกจากตัวเธอได้ทั้งหมดกฤษณ์ค่อย ๆ เคลื่อนฝ่ามือจากปลีน่องมายังจุดอ่อนไหวที่สุดของลูกผู้หญิง แล้วลูบมันอย่างเบามือที่สุด“ริสาสวยจัง สวยกว่าที่กฤษณ์คิดไว้ซะอีก” เขาพูดในขณะที่เคลื่อนกายขึ้นทาบทับเธอ แล้วแทรกเข่าตรงกึ่งกลางหว่างขาเรียว เผยให้เห็นกลีบดอกไม้สีชมพูสดที่ยังปิดสนิท เชิญชวนให้เขากรีดปลายนิ้วลงบนกึ่งกลางเกสร“อะ...อย่า...” เธอร้องห้ามเสียงกระเส่า แต่ชายหนุ่มที่กำลังพ่ายแพ้กับความต้องการไม่สามารถหยุดยั้งการกระทำของตนเองได้ กลับยิ่งส่งปลายนิ้วร้ายแทรกซอนสู่เส้นทางที่ทั้งอุ่นทั้งชื้นเข้าไปหาจุดอ่อนไหวที่สุดของลูกผู้หญิง เมื่อพบเจอจุดที่ทำให้เธอเกร็งไปทั้งร่าง เขาก็ตวัดปลายนิ้วเบา ๆ แล้วเคลื่อนเข้าออกจนกระทั่งปลายนิ้วอาบย้อมไปด้วยน้ำหวานสีใสถึงยอมหยุดมือ“ริสา เป็นขอ
“ขอโทษที่ทำให้รอนานนะคะ” คาริสายิ้มให้เขาแบบรู้สึกผิด ที่เธอลงมาช้า เพราะกีรติกานต์แอบเปลี่ยนชุดว่ายน้ำสีหวานเป็นบิกินี่สุดเซ็กซี่ทั้งหมด ตัวที่เธอใส่อยู่นับว่าเรียบร้อยที่สุดแล้ว แต่กว่าจะรวบรวมความกล้าเดินออกมาจากห้องได้ ก็ปาไปสามสิบนาที“ไม่เป็นไรครับ” เพราะเธอเหมาะกับบิกินี่แบบที่ฉันคิดเอาไว้ไม่มีผิด กฤษณ์ยิ้มกริ่มน้ำในสระใสสะอาด ทั้งไม่ได้ลึกมาก จึงไม่สามารถอำพรางเรือนร่างอันสวยงามจากสายตาวาววามของเขาได้ พอได้มองเรือนร่างแสนยั่วยวนจนเต็มตา กฤษณ์ถึงได้รู้ว่า ก่อนหน้านั้นตนเองคิดผิด น้ำเย็น ๆ ในสระบ้า ๆ นี่ไม่ได้ช่วยดับความรู้สึกที่กำลังเดือดพล่านของเขาได้เลย มีแต่จะทำให้ยิ่งระอุขึ้นสิไม่ว่าร่างสูงขยับเข้าไปใกล้ ก่อนคว้าร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดอย่างอดใจไม่อยู่คาริสาจดจ้องนัยน์ตาที่กำลังโชนแสงนิ่ง เธอไม่ได้ตกใจกับการกระทำของเขา ทว่ากำลังตื่นเต้นอยู่ต่างหาก บิกินี่ปกปิดแค่ส่วนที่ควรปกปิด ทำให้เธอรับรู้ได้ถึงความร้อนระอุจากฝ่ามือและเนื้อตัวของเขาอย่างชัดเจนฝ่ามือร้อนที่นาบอยู่บนสะโพกและแผ่นหลังกล้ามเนื้อหน้าท้องแน่นตึงที่แนบชิดติดอยู่กับเธอกฤษณ์เซ็กซี่จัง โดยไม่รู้ตัว เสน่ห์เหลือล