ยี่สิบนาทีต่อมาผมก็พาพริกหวานมาถึงคอนโดฯ ชั้นสิบห้าคือชั้นที่ผมอยู่ เท่าที่สังเกตดูเจ้าของมือนุ่มนิ่มที่ผมจับอยู่ดูสนใจสิ่งรอบตัวเป็นพิเศษ ตากลม ๆ เป็นประกายแวววาวตั้งแต่ผมหักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้ามา อารมณ์เหมือนเด็กที่กำลังอยู่ในอาการตื่นตาตื่นใจ ซึ่งน่ารักเป็นบ้า อยากชวนไปเก็บเสื้อผ้าแล้วหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ด้วยกันคืนนี้เลย“หือ” ก้มมองมือที่ถูกกระตุกยึก ๆ พลางเลิกคิ้ว “อะไรคะ”“ก่อนหน้านี้ ก่อนจะพาเค้ามาเคยมีผู้หญิงคนไหนได้เข้ามาเหยียบแล้วบ้าง หมายถึงห้องเธอ” แววตาคาดคั้นบอกเป็นนัยว่าอย่าได้เล่นลิ้นกับเธอเด็ดขาด พริกหวานทำผมหลุดยิ้มเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ตั้งแต่เจอหน้ากัน แต่รอยยิ้มครั้งนี้อยู่ได้ไม่นานผมก็ต้องรีบเก็บมันกลับคืนเมื่อเจ้าของคำถามกำลังกอดอกกดดันอยู่กลาย ๆ ต้องรีบลูบแขนเอาใจ“ก่อนหน้านี้ก็มีแม่ พี่แพรแล้วก็ดื้อนี่แหละ อ้อ ลืมไปมีป้าแม่บ้านที่มาทำความสะอาดให้ทุกวันจันทร์กับวันศุกร์อีกคนหนึ่งค่ะ” ผมค่อนข้างหวงพื้นที่ส่วนตัวพอสมควรเพราะฉะนั้นชงักติดหลังผมในเรื่องนี้จึงไม่มี “ปืนไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนขึ้นคอนโดฯ ดื้อเป็นผู้หญิงคนแรก” “ชัวร์” “ชัวร์ ไม่เคยพาใครมานอนด้ว
“อื้อ...พะ...พอ ไม่...ไม่เอาแล้ว เดี๋ยวหยุดไม่ได้”ผมเป่าปาก ผ่อนลมหายใจก่อนซบหน้าลงบนซอกคอขาว พลางลูบหลัง ลูบไหล่บางเล่นคลายความปรารถนา “ใครที่ว่าหยุดไม่ได้ ดื้อหรือปืนหืม” ผมยิ้มในหน้า ถามล้อคนหน้าแดงตัวแดง กลั้วหัวเราะชอบใจ กดปากจูบหนัก ๆ ที่ซอกคอขาว ๆ ไล้ปลายนิ้วที่เอวอ่อนคอดกิ่ว รัดร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นแน่น ๆ เพื่อสงบอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูงปรี๊ดให้ดำดิ่งลงมา พอได้กอดแล้วผมไม่อยากปล่อยเลย อยากกอดเอาไว้ทั้งวันทั้งคืน“ต้องไม่ใช่เค้าอยู่แล้ว” เสียงปนหอบกระเง้ากระงอดเล็ก ๆ“อ่าฮะ เพราะฉะนั้นก็นั่งนิ่ง ๆ อย่าขยับอีกเลย ปืนทรมานมาก” ผมกัดฟันกระซิบบอกข้างใบหูขาวสะอาด ร่างดุ๊กดิ๊กบนตักถึงกับชะงัก ตัวแข็งค้าง ตากลมโตเบิกกว้างมองต่ำลงมองตรงจุดเกิดเหตุ ปากจิ้มลิ้มค่อย ๆ เผยอขึ้นทีละน้อย ความทรมานของผมเกิดขึ้นได้ตลอดถ้ามีพริกหวานน้อยอยู่ใกล้ ๆ“ปล่อยไหม ปล่อยเถอะ” น้ำเสียงเบาหวิวถามกึ่งขอร้องผมส่ายหน้า กอดรัดเอวเล็กแน่น ถึงสถานการณ์จะสุ่มเสี่ยงแต่ก็ยังอยากอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ “ยังไม่อยากปล่อยเลยค่ะ อยากกอดไปอีกนาน ๆ ดื้อช่วยกอดปืนให้แน่นกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ” ผมแนบปากลงบนหัวไหล่กลมกลึงก่อนจะซุก
วันนี้ฉันจะพาปืนไปเจอครอบครัว เราออกจากกรุงเทพฯ มาได้ชั่วโมงหนึ่งแล้ว คนที่ออกอาการตื่นเต้นกลับไม่ใช่คนที่กำลังไปเจอพ่อกับแม่ เป็นฉันเองนี่แหละที่ใจหวิว ๆ ในช่องท้องปั่นป่วน อยากชวนยูเทิร์นกลับไปตั้งหลักใหม่ “เป็นไรดื้อ” “ตื่นเต้นอะ” “ตื่นเต้นทำไม ได้กลับบ้านตัวเองนะ” “ก็เพราะพาเธอกลับด้วยนี่แหละเค้าถึงได้ตื่นเต้น” “ทำไม กลัวพ่อตาแม่ยายไม่ปลื้มปืนอ่อ” “ก็ไม่ เค้าเชื่อว่าพ่อแม่ต้องชอบเธอ แต่” “แต่อะไร” “แต่เค้าก็ยังกังวล” “งั้นขอกำลังใจให้ปืนหน่อย” “แปะโป้งไว้ก่อนได้ไหมอะ” “ไม่ได้” “โธ่” ฉันแสร้งถอนหายใจไปงั้น ยอมตั้งแต่เขาขอแล้วแหละ และกำลังใจที่ว่าก็คือหอมแก้ม ฉันยื่นหน้าไปหอมแก้มปืนฟอดใหญ่ ทิ้งตัวเอนซบร่างสูงแทนพิงเบาะ ปืนยกมือขึ้นมาโอบฉันไว้ รู้สึกได้ถึงสัมผัสอบอุ่นที่แตะลงมาแถว ๆ ข้างขมับ เดี๋ยวนี้ไม่รู้เป็นอะไรฉันชอบกอด ชอบอ้อนเขาเป็นพิเศษ “อาทิตย์นี้พี่แพรให้ปืนพาดื้อเข้าไปเอาเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่” “พี่แพรไลน์มาบอกเ
“กับพริกหวานเธอจริงจังมากแค่ไหน”“จริงจังถึงขนาดคิดไปถึงเรื่องแต่งงานเลยครับ”“แต่เธอเพิ่งคบกันได้ไม่นาน อะไรที่ทำให้มั่นใจขนาดนั้น”“เพราะพริกหวานคือผู้หญิงที่ผมรัก และผมคิดว่าผมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเลยครับ” ฉันยกมือปิดปากก่อนที่เสียงร้องจะหลุดออกไปให้ใครได้ยิน ฉันเพิ่งรู้ เพิ่งรู้คำสารภาพนี้“มันอาจเป็นความรัก ความหลงที่อาจไม่จีรัง”“ไม่หรอกครับพ่อ ผมรู้จักตัวเองดี คนอย่างผมถ้าได้ลองรักหรือชอบอะไรแล้วไม่มีทางที่ผมจะเปลี่ยนใจจากสิ่งนั้นได้ง่าย ๆ พริกหวานเข้ามาเปลี่ยนโลกผม เข้ามาทำให้ผมอยากยิ้ม อยากหัวเราะ ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่กับลูกสาวพ่อ”“พ่อแม่เธอล่ะว่ายังไง”“พ่อแม่ผมชอบพริกหวานมากครับ”“รักกันก็ดูแลกันให้ดี พ่อมีลูกสาวคนเดียวหวังว่าจะเข้าใจ”“ครับ ขอบคุณครับพ่อ”“ยัยพริกหวานไม่ต้องซ่อนแอบแล้ว ไปบอกแม่ว่าพ่อหิว”“ค่ะ” ฉันได้แต่ยิ้มแหย มั่นใจว่าพ่อไม่เห็นแล้วนะ รู้ได้ไงไม่รู้การพาปืนมาพบครอบครัวของฉันครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พ่อไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกให้ดูแลกันให้ดี ทำอะไรนอกลู่นอกทางก็ให้พึงระลึกอยู่เสมอว่าเรากำลังอยู่ในวัยเรียน พ่อกับแม่ยังไม่อยากอุ้
หลังจากกินอิ่มเราก็หอบหิ้วของฝากมาให้พ่อกับแม่ ปืนเขาคอยถามตลอดว่าเอาอันนั้นไหม พ่อจะกินไหม แม่จะชอบรึเปล่า แล้วเขาก็เข้ากันได้ดีกับน้องชายฉันมาก ๆ ฉันดีใจนะ ดีใจมากเลยล่ะที่การคบกันของเราสองคนไม่ได้นำพาความหนักใจให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพื่อนฉันหลาย ๆ คนเจอปัญหาครอบครัวแฟนไม่ปลื้ม เข้ากับใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าวันใดวันหนึ่งฉันต้องเจอกับสถานการณ์แบบนั้นจะทำยังไง ซึ่งมันก็ไม่ได้คำตอบ เพราะเรายังไม่เจอ จนวันนี้ฉันมีแฟน และปัญหานั้นฉันกับปืนไม่มี จึงบอกได้เลยว่ามันคือความโชคดีของเรา “แอบคิดถึงผู้ชายคนไหนรึเปล่าคะดื้อถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” “อื้อ” “อื้อนี่คือไรดื้อ” “ก็คิดไง” “ว่าไงนะ!” “คิดถึงปืน” ยิ้มอ้อนปืนก่อนเอนหัวพิงไหล่เขาอย่างออดอ้อน “คิดถึงปืนในแง่ไหนเล่าให้ฟังหน่อย พูดดีมีรางวัล พูดไม่ดีต้องโดนทำโทษ” ฉันอมยิ้ม ปืนยกมือขึ้นลูบผม ได้ยินเสียงสูดดมแถวข้างขมับแล้วพึมพำว่า “หอม” “คิดว่าเค้าโชคดีจังที่ได้เจอกับเธอ และที่โชคดีไม่แพ้กันคือครอบครัวของเรารักและเอ็นดูเรา” มุ
ฉันกลั้นหายใจขณะเปิดและปิดประตู ก่อนจะเดินย่องเบา ลงน้ำหนักแค่ปลายเท้าเข้ามาในห้องนอนกว้าง ร่างสูงเปลือยท่อนบนอวดแผ่นหลังขาวจั๊วะของผู้เป็นเจ้าของพื้นที่ที่กำลังนอนคว่ำหน้า ไม่รู้สึกรู้สากับอุณหภูมิที่เปิดเอาไว้เย็นจัด ฉันกัดริมฝีปากพลางอมยิ้ม คลานเข่าขึ้นมานั่งทับขาอยู่บนเตียง ใช้นิ้วชี้จิ้มสะกิดจึก ๆ บริเวณเหนือขอบกางเกงนอนขายาวก็ยังไม่ขยับจึงตัดสินใจเหยียดขาข้างขวาตวัดคร่อมสะโพกสอบก่อนจะพาตัวเองปีนขึ้นมานอนทับเรือนกายแข็งแรง แกล้งเป่าลมเข้าไปในหูสะอาด ปลุกคนนอนตื่นสายให้ตื่นจากการนอนหลับฝันดี“ปืนนนนน”“อือ”“ตื่นได้แล้วค่ะ ตอนนี้จะเที่ยงแล้วนะคะ”พรึ่บ“ว้าย” กรีดเสียงร้องด้วยความตกใจ ปืนพลิกตัวทีเดียวฉันก็ตกอยู่ใต้ร่างในอ้อมแขนเขา ทิ้งน้ำหนักตัวกว่าเจ็ดสิบกิโลกรัมให้ฉันเป็นคนแบกรับเอาไว้“แฟนปืนตัวหอมจังค่ะ” เสียงแหบแห้งของคนเพิ่งตื่นงึมงำ จมูกกับปากคลอเคลียอยู่ตรงซอกคอ ฉันแทรกนิ้วเข้าไปซุกในเส้นผมนุ่มลื่น สิ่งที่โปรดปรานอีกอย่างหนึ่งของฉันคือการได้เล่นผมเขา แล้วเขาเองก็ชอบที่ฉันหมั่นนวดคลึงหนังศีรษะ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ ผู้ชายหลายคนอาจจะถือ ไม่ปลื้มที่แฟนเล่นหัวแต่ส
เราใช้เวลากินข้าวกันประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นฉันก็ไล่ปืนให้ไปนั่งดูทีวี ส่วนฉันก็ทำหน้าที่เก็บกวาดโต๊ะอาหารแล้วถึงนำจานชามทั้งหมดมาล้างทำความสะอาด เสร็จจากในครัวฉันก็แวบมาดูปืนแป๊บหนึ่ง เห็นเขานั่งดูหนังเงียบ ๆ ฉันก็ยิ้มพอใจก่อนจะหมุนตัวเดินมาทางห้องนอน อาบน้ำอีกสักรอบ คืนความสดชื่นให้ร่างกาย“ถึงว่าทำไมหายมานาน”เท้าพลันชะงักเมื่อได้ยินเสียงเอื่อยเฉื่อยทักขึ้นมา ฉันคลี่ยิ้มแล้วเดินตรงมาที่เตียง แขนยาว ๆ ข้างหนึ่งเด่ออกรอท่าให้ฉันถลาเข้ามาอยู่ในวงแขน ส่วนอีกข้างกำมือถือฉันไว้ ระหว่างเราไม่มีความลับต่อกัน ใครจะใช้ของใครจึงไม่ใช่ปัญหา เขาเล่นของฉัน ฉันเล่นของเขา หยิบผิดหยิบถูกสลับเครื่องกันประจำเพราะตอนนี้ เราใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้ก็ความคิดปืนอีกแหละ เงินเขาด้วย“นึกว่าจะได้นอนหลับสบายบนเตียงคนเดียวซะอีก” แสร้งบ่นทว่าก็ทิ้งตัวลงนอนซบอกอุ่น ๆ ที่ช่วงหลังมานี้ฉันใช้มันนอนต่างหมอนเป็นประจำ“คิดว่าจะได้นอนหลับสบายจริง ๆ เหรอคะคนสวย” ถามเสียงเจ้าเล่ห์ก่อนจะงับแก้มฉันไปคำใหญ่ และดูดจนเกิดเสียงดังบ๊วบ ชอบเล่นอะไรแบบเนี้ย “ตอนอาบน้ำใหม่ ๆ นี่น่ากินนักแหละ” คราวนี้
‘เกียร์วิศวฯ คือเกียร์แห่งความภาคภูมิใจ มีไว้เพื่อระลึกถึงความยากลำบากว่ากว่าจะได้มากูต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหน ส่วนเกียมัวคือเกียร์ที่กูก็ต้องพึงระลึกอยู่เหมือนกันว่าอย่าได้ทำอะไรให้เกียนี้ระคายเคืองเพราะอาจส่งผลถึงชีวิตกูได้’“ยิ้มอะไรคะดื้อ” เสียงทุ้มนุ่มถามข้างหู“คิดถึงเรื่องเกียร์อยู่ค่ะ” เงยหน้ายิ้ม แผ่นหลังพิงอกแกร่งสบาย“เกียร์เหรอคะ ดื้อหมายถึงเกียร์อะไร เกียร์ที่ปืนให้ดื้อเก็บรักษาเอาไว้ หรือปืนที่เกียมัว” เขาเขี่ยปลายจมูกฉัน ประโยคท้ายกระซิบด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ“ก็ทั้งสองแหละ” ฉันยิ้มเต็มใบหน้า ปืนรัดแขนแน่นแสดงอาการมันเขี้ยวฉัน ถ้าไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าคนเยอะเขาคงจับฉันฟัดไปแล้ว ไม่ทำแค่หอมแก้มธรรมดาหรอก“นี่ ๆ ๆ ที่เราจะปาร์ตี้หมูกระทะกันเนี่ย มีของครบเหรอ”“เออว่ะ ถ้าแจนไม่ทักคงไม่มีใครคิด” เป้ขมวดคิ้ว เท้าเอว“ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงคืนนี้ก็ได้กิน”“พูดแบบนี้หมายความว่ามึงเตรียมไว้แล้วเหรอวะไอ้ปืน”“อือ”สรุปได้ว่าก่อนมาปืนให้คนงานช่วยเตรียมซื้อเสบียงไว้รอท่าพวกเราอยู่ก่อนแล้ว เหมือนเขารู้อะว่าความต้องการของทุกคนคืออะไร รางวัลที่เขาสมควรได้ฉันเลยจัดไปชุดใหญ่ หอมแก้มเน้
“แฟนยัยพิมพ์เขาเป็นลูกชายเจ้าของร้านทอง ตามจีบยัยพิมพ์อยู่นานกว่าแม่ลูกสาวฉันจะยอมใจอ่อนตกลงปลงใจคบหาด้วย ไอ้ตอนเรียนมหา’ลัยน่ะไม่เคยมีแฟนอย่างใครเขาหรอก” ปากป้าณีพูดกับป้าหมอนคนที่แกกำลังเม้าท์ด้วย ทว่าปรายตามองมาทางฉันที่นั่งโต๊ะติดกัน ประโยคต้นพูดอวยลูกสาวตัวเอง ประโยคหลังนี่กระทบกระเทียบ นี่แหละนิสัยป้าฉัน ซึ่งก็คือลูกพี่ลูกน้องของพ่อตอนนี้ขั้นตอนการทำบุญเลี้ยงพระแล้วผ่านพ้นไปแล้ว ทีนี้ก็ถึงคราวรับประทานอาหารร่วมกัน ป้าณีแกสั่งโต๊ะจีนมาหกสิบโต๊ะ อันนี้ทราบจากแม่ พี่พิมพ์วันนี้แต่งตัวสวยจัดเต็ม ข้างกายมีแฟนหนุ่มซึ่งได้รับการชื่นชมจากป้าณีไม่ขาดตามติดไม่ห่าง“โชคดีของยัยพิมพ์มันแล้วณีเอ๊ย แต่จะว่าไปแล้วลูกหลานตระกูลเธอได้แฟนหน้าตาดีกันทั้งนั้น” ป้าหมอนเอ่ยขึ้นมา ไม่ต้องคอยเงี่ยหูฟังฉันก็ได้ยินแม้ว่าเสียงดนตรีในงานจะดัง “อย่างแฟนของยัยหนูพริกหวานนั่นก็ดูดีเชียว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฐานะทางบ้านคงไม่ธรรมดา ผิวพรรณงี้ผุดผ่อง หน้าหล่อยังกับพระเอกละครแน่ะ ได้ยินใครว่าขับรถราคาหลายล้านเลยนะ”“แฟนยัยพิมพ์ก็เปลี่ยนรถขับเป็นว่าเล่น เอาเถอะยังไงฉันขอตัวไปคุยกับแขกคนอื่นต่อแล้วกันนะหมอน”“ป้าณีแก
“แฟนปืนสวยจัง”ลงบันไดมาจากชั้นสองของบ้านประโยคแรกที่ได้ยินก็ทำฉันยิ้มกว้าง วางมือลงบนฝ่ามือแกร่งที่ยื่นออกมารอรับ ริมฝีปากสวยแนบจูบลงบนหลังมือฉันด้วยสัมผัสทะนุถนอม ก่อนเขาจะรวบเอวฉันเข้าไปกอดแนบอก“แฟนเค้าก็หล่อมากกกก” ลากเสียงพลางคล้องแขนโอบรอบลำคอแกร่ง โน้มคนตัวสูงให้ก้มต่ำลงมาหา จูบหนัก ๆ ที่แก้มนุ่มซึ่งนุ่มน้อยกว่าฉันนิดนึง ก่อนจะเกยคางกับแผ่นอกแข็ง ๆ แหงนคอมองดวงตาลุ่มลึกที่แสนอบอุ่น“ชักไม่อยากให้ดื้อไปออกงานแล้วสิ หรือเราจะไม่ไปดี” ปืนพึมพำ จูบเปลือกตาฉันตามด้วยจมูก แก้มทั้งสองข้าง และมาหยุดที่ริมฝีปาก“เปลี่ยนใจมานอนกอดกันอยู่บ้านแทนเถอะค่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันปืนคิดถึงกอดอุ่น ๆ ของดื้อ” แล้วเขาก็จูบจุ๊บปากฉันติด ๆ กันจนฉันหลุดเสียงหัวเราะ คิดถึงส่วนหนึ่ง หวงก็ส่วนหนึ่งแหละอาการนี้อะ หลังกลับจากบ้านสวนปืนฉันก็เอ้อระเหยอยู่ในกรุงเทพฯ ต่ออีกสามวัน แล้วถึงได้กลับมาบ้าน ตอนมาปืนก็มาส่งนี่แหละ แต่เขาจะมาขลุกตัวอยู่บ้านฉันลากยาวมันก็ไม่เหมาะ อีกอย่างเขาต้องช่วยงานพ่อกับแม่ด้วย เพราะใกล้สิ้นปีแบบนี้ทั้งร้านอาหาร และบริษัทต่างก็ยุ่งพอกัน เมื่อวานกว่าจะขับรถมาถึงที่บ้านฉันก็ปาเข้าไ
‘เกียร์วิศวฯ คือเกียร์แห่งความภาคภูมิใจ มีไว้เพื่อระลึกถึงความยากลำบากว่ากว่าจะได้มากูต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหน ส่วนเกียมัวคือเกียร์ที่กูก็ต้องพึงระลึกอยู่เหมือนกันว่าอย่าได้ทำอะไรให้เกียนี้ระคายเคืองเพราะอาจส่งผลถึงชีวิตกูได้’“ยิ้มอะไรคะดื้อ” เสียงทุ้มนุ่มถามข้างหู“คิดถึงเรื่องเกียร์อยู่ค่ะ” เงยหน้ายิ้ม แผ่นหลังพิงอกแกร่งสบาย“เกียร์เหรอคะ ดื้อหมายถึงเกียร์อะไร เกียร์ที่ปืนให้ดื้อเก็บรักษาเอาไว้ หรือปืนที่เกียมัว” เขาเขี่ยปลายจมูกฉัน ประโยคท้ายกระซิบด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ“ก็ทั้งสองแหละ” ฉันยิ้มเต็มใบหน้า ปืนรัดแขนแน่นแสดงอาการมันเขี้ยวฉัน ถ้าไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าคนเยอะเขาคงจับฉันฟัดไปแล้ว ไม่ทำแค่หอมแก้มธรรมดาหรอก“นี่ ๆ ๆ ที่เราจะปาร์ตี้หมูกระทะกันเนี่ย มีของครบเหรอ”“เออว่ะ ถ้าแจนไม่ทักคงไม่มีใครคิด” เป้ขมวดคิ้ว เท้าเอว“ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงคืนนี้ก็ได้กิน”“พูดแบบนี้หมายความว่ามึงเตรียมไว้แล้วเหรอวะไอ้ปืน”“อือ”สรุปได้ว่าก่อนมาปืนให้คนงานช่วยเตรียมซื้อเสบียงไว้รอท่าพวกเราอยู่ก่อนแล้ว เหมือนเขารู้อะว่าความต้องการของทุกคนคืออะไร รางวัลที่เขาสมควรได้ฉันเลยจัดไปชุดใหญ่ หอมแก้มเน้
เราใช้เวลากินข้าวกันประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นฉันก็ไล่ปืนให้ไปนั่งดูทีวี ส่วนฉันก็ทำหน้าที่เก็บกวาดโต๊ะอาหารแล้วถึงนำจานชามทั้งหมดมาล้างทำความสะอาด เสร็จจากในครัวฉันก็แวบมาดูปืนแป๊บหนึ่ง เห็นเขานั่งดูหนังเงียบ ๆ ฉันก็ยิ้มพอใจก่อนจะหมุนตัวเดินมาทางห้องนอน อาบน้ำอีกสักรอบ คืนความสดชื่นให้ร่างกาย“ถึงว่าทำไมหายมานาน”เท้าพลันชะงักเมื่อได้ยินเสียงเอื่อยเฉื่อยทักขึ้นมา ฉันคลี่ยิ้มแล้วเดินตรงมาที่เตียง แขนยาว ๆ ข้างหนึ่งเด่ออกรอท่าให้ฉันถลาเข้ามาอยู่ในวงแขน ส่วนอีกข้างกำมือถือฉันไว้ ระหว่างเราไม่มีความลับต่อกัน ใครจะใช้ของใครจึงไม่ใช่ปัญหา เขาเล่นของฉัน ฉันเล่นของเขา หยิบผิดหยิบถูกสลับเครื่องกันประจำเพราะตอนนี้ เราใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้ก็ความคิดปืนอีกแหละ เงินเขาด้วย“นึกว่าจะได้นอนหลับสบายบนเตียงคนเดียวซะอีก” แสร้งบ่นทว่าก็ทิ้งตัวลงนอนซบอกอุ่น ๆ ที่ช่วงหลังมานี้ฉันใช้มันนอนต่างหมอนเป็นประจำ“คิดว่าจะได้นอนหลับสบายจริง ๆ เหรอคะคนสวย” ถามเสียงเจ้าเล่ห์ก่อนจะงับแก้มฉันไปคำใหญ่ และดูดจนเกิดเสียงดังบ๊วบ ชอบเล่นอะไรแบบเนี้ย “ตอนอาบน้ำใหม่ ๆ นี่น่ากินนักแหละ” คราวนี้
ฉันกลั้นหายใจขณะเปิดและปิดประตู ก่อนจะเดินย่องเบา ลงน้ำหนักแค่ปลายเท้าเข้ามาในห้องนอนกว้าง ร่างสูงเปลือยท่อนบนอวดแผ่นหลังขาวจั๊วะของผู้เป็นเจ้าของพื้นที่ที่กำลังนอนคว่ำหน้า ไม่รู้สึกรู้สากับอุณหภูมิที่เปิดเอาไว้เย็นจัด ฉันกัดริมฝีปากพลางอมยิ้ม คลานเข่าขึ้นมานั่งทับขาอยู่บนเตียง ใช้นิ้วชี้จิ้มสะกิดจึก ๆ บริเวณเหนือขอบกางเกงนอนขายาวก็ยังไม่ขยับจึงตัดสินใจเหยียดขาข้างขวาตวัดคร่อมสะโพกสอบก่อนจะพาตัวเองปีนขึ้นมานอนทับเรือนกายแข็งแรง แกล้งเป่าลมเข้าไปในหูสะอาด ปลุกคนนอนตื่นสายให้ตื่นจากการนอนหลับฝันดี“ปืนนนนน”“อือ”“ตื่นได้แล้วค่ะ ตอนนี้จะเที่ยงแล้วนะคะ”พรึ่บ“ว้าย” กรีดเสียงร้องด้วยความตกใจ ปืนพลิกตัวทีเดียวฉันก็ตกอยู่ใต้ร่างในอ้อมแขนเขา ทิ้งน้ำหนักตัวกว่าเจ็ดสิบกิโลกรัมให้ฉันเป็นคนแบกรับเอาไว้“แฟนปืนตัวหอมจังค่ะ” เสียงแหบแห้งของคนเพิ่งตื่นงึมงำ จมูกกับปากคลอเคลียอยู่ตรงซอกคอ ฉันแทรกนิ้วเข้าไปซุกในเส้นผมนุ่มลื่น สิ่งที่โปรดปรานอีกอย่างหนึ่งของฉันคือการได้เล่นผมเขา แล้วเขาเองก็ชอบที่ฉันหมั่นนวดคลึงหนังศีรษะ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ ผู้ชายหลายคนอาจจะถือ ไม่ปลื้มที่แฟนเล่นหัวแต่ส
หลังจากกินอิ่มเราก็หอบหิ้วของฝากมาให้พ่อกับแม่ ปืนเขาคอยถามตลอดว่าเอาอันนั้นไหม พ่อจะกินไหม แม่จะชอบรึเปล่า แล้วเขาก็เข้ากันได้ดีกับน้องชายฉันมาก ๆ ฉันดีใจนะ ดีใจมากเลยล่ะที่การคบกันของเราสองคนไม่ได้นำพาความหนักใจให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพื่อนฉันหลาย ๆ คนเจอปัญหาครอบครัวแฟนไม่ปลื้ม เข้ากับใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าวันใดวันหนึ่งฉันต้องเจอกับสถานการณ์แบบนั้นจะทำยังไง ซึ่งมันก็ไม่ได้คำตอบ เพราะเรายังไม่เจอ จนวันนี้ฉันมีแฟน และปัญหานั้นฉันกับปืนไม่มี จึงบอกได้เลยว่ามันคือความโชคดีของเรา “แอบคิดถึงผู้ชายคนไหนรึเปล่าคะดื้อถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” “อื้อ” “อื้อนี่คือไรดื้อ” “ก็คิดไง” “ว่าไงนะ!” “คิดถึงปืน” ยิ้มอ้อนปืนก่อนเอนหัวพิงไหล่เขาอย่างออดอ้อน “คิดถึงปืนในแง่ไหนเล่าให้ฟังหน่อย พูดดีมีรางวัล พูดไม่ดีต้องโดนทำโทษ” ฉันอมยิ้ม ปืนยกมือขึ้นลูบผม ได้ยินเสียงสูดดมแถวข้างขมับแล้วพึมพำว่า “หอม” “คิดว่าเค้าโชคดีจังที่ได้เจอกับเธอ และที่โชคดีไม่แพ้กันคือครอบครัวของเรารักและเอ็นดูเรา” มุ
“กับพริกหวานเธอจริงจังมากแค่ไหน”“จริงจังถึงขนาดคิดไปถึงเรื่องแต่งงานเลยครับ”“แต่เธอเพิ่งคบกันได้ไม่นาน อะไรที่ทำให้มั่นใจขนาดนั้น”“เพราะพริกหวานคือผู้หญิงที่ผมรัก และผมคิดว่าผมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเลยครับ” ฉันยกมือปิดปากก่อนที่เสียงร้องจะหลุดออกไปให้ใครได้ยิน ฉันเพิ่งรู้ เพิ่งรู้คำสารภาพนี้“มันอาจเป็นความรัก ความหลงที่อาจไม่จีรัง”“ไม่หรอกครับพ่อ ผมรู้จักตัวเองดี คนอย่างผมถ้าได้ลองรักหรือชอบอะไรแล้วไม่มีทางที่ผมจะเปลี่ยนใจจากสิ่งนั้นได้ง่าย ๆ พริกหวานเข้ามาเปลี่ยนโลกผม เข้ามาทำให้ผมอยากยิ้ม อยากหัวเราะ ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่กับลูกสาวพ่อ”“พ่อแม่เธอล่ะว่ายังไง”“พ่อแม่ผมชอบพริกหวานมากครับ”“รักกันก็ดูแลกันให้ดี พ่อมีลูกสาวคนเดียวหวังว่าจะเข้าใจ”“ครับ ขอบคุณครับพ่อ”“ยัยพริกหวานไม่ต้องซ่อนแอบแล้ว ไปบอกแม่ว่าพ่อหิว”“ค่ะ” ฉันได้แต่ยิ้มแหย มั่นใจว่าพ่อไม่เห็นแล้วนะ รู้ได้ไงไม่รู้การพาปืนมาพบครอบครัวของฉันครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พ่อไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกให้ดูแลกันให้ดี ทำอะไรนอกลู่นอกทางก็ให้พึงระลึกอยู่เสมอว่าเรากำลังอยู่ในวัยเรียน พ่อกับแม่ยังไม่อยากอุ้
วันนี้ฉันจะพาปืนไปเจอครอบครัว เราออกจากกรุงเทพฯ มาได้ชั่วโมงหนึ่งแล้ว คนที่ออกอาการตื่นเต้นกลับไม่ใช่คนที่กำลังไปเจอพ่อกับแม่ เป็นฉันเองนี่แหละที่ใจหวิว ๆ ในช่องท้องปั่นป่วน อยากชวนยูเทิร์นกลับไปตั้งหลักใหม่ “เป็นไรดื้อ” “ตื่นเต้นอะ” “ตื่นเต้นทำไม ได้กลับบ้านตัวเองนะ” “ก็เพราะพาเธอกลับด้วยนี่แหละเค้าถึงได้ตื่นเต้น” “ทำไม กลัวพ่อตาแม่ยายไม่ปลื้มปืนอ่อ” “ก็ไม่ เค้าเชื่อว่าพ่อแม่ต้องชอบเธอ แต่” “แต่อะไร” “แต่เค้าก็ยังกังวล” “งั้นขอกำลังใจให้ปืนหน่อย” “แปะโป้งไว้ก่อนได้ไหมอะ” “ไม่ได้” “โธ่” ฉันแสร้งถอนหายใจไปงั้น ยอมตั้งแต่เขาขอแล้วแหละ และกำลังใจที่ว่าก็คือหอมแก้ม ฉันยื่นหน้าไปหอมแก้มปืนฟอดใหญ่ ทิ้งตัวเอนซบร่างสูงแทนพิงเบาะ ปืนยกมือขึ้นมาโอบฉันไว้ รู้สึกได้ถึงสัมผัสอบอุ่นที่แตะลงมาแถว ๆ ข้างขมับ เดี๋ยวนี้ไม่รู้เป็นอะไรฉันชอบกอด ชอบอ้อนเขาเป็นพิเศษ “อาทิตย์นี้พี่แพรให้ปืนพาดื้อเข้าไปเอาเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่” “พี่แพรไลน์มาบอกเ
“อื้อ...พะ...พอ ไม่...ไม่เอาแล้ว เดี๋ยวหยุดไม่ได้”ผมเป่าปาก ผ่อนลมหายใจก่อนซบหน้าลงบนซอกคอขาว พลางลูบหลัง ลูบไหล่บางเล่นคลายความปรารถนา “ใครที่ว่าหยุดไม่ได้ ดื้อหรือปืนหืม” ผมยิ้มในหน้า ถามล้อคนหน้าแดงตัวแดง กลั้วหัวเราะชอบใจ กดปากจูบหนัก ๆ ที่ซอกคอขาว ๆ ไล้ปลายนิ้วที่เอวอ่อนคอดกิ่ว รัดร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นแน่น ๆ เพื่อสงบอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูงปรี๊ดให้ดำดิ่งลงมา พอได้กอดแล้วผมไม่อยากปล่อยเลย อยากกอดเอาไว้ทั้งวันทั้งคืน“ต้องไม่ใช่เค้าอยู่แล้ว” เสียงปนหอบกระเง้ากระงอดเล็ก ๆ“อ่าฮะ เพราะฉะนั้นก็นั่งนิ่ง ๆ อย่าขยับอีกเลย ปืนทรมานมาก” ผมกัดฟันกระซิบบอกข้างใบหูขาวสะอาด ร่างดุ๊กดิ๊กบนตักถึงกับชะงัก ตัวแข็งค้าง ตากลมโตเบิกกว้างมองต่ำลงมองตรงจุดเกิดเหตุ ปากจิ้มลิ้มค่อย ๆ เผยอขึ้นทีละน้อย ความทรมานของผมเกิดขึ้นได้ตลอดถ้ามีพริกหวานน้อยอยู่ใกล้ ๆ“ปล่อยไหม ปล่อยเถอะ” น้ำเสียงเบาหวิวถามกึ่งขอร้องผมส่ายหน้า กอดรัดเอวเล็กแน่น ถึงสถานการณ์จะสุ่มเสี่ยงแต่ก็ยังอยากอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ “ยังไม่อยากปล่อยเลยค่ะ อยากกอดไปอีกนาน ๆ ดื้อช่วยกอดปืนให้แน่นกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ” ผมแนบปากลงบนหัวไหล่กลมกลึงก่อนจะซุก