Share

ปีกหัก

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-12 15:32:00

เครื่องตรวจจับควันถูกติดตั้งแทบทุกตารางนิ้ว ยกเว้นห้องใหม่ที่เพิ่งเปิด พวกเขานึกขอบคุณความสะเพร่าของเจ้าหน้าที่ติดตั้งระบบ เบนกับอเล็กซ์จึงได้โอกาสสูบกัญชาอัดปอดกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีสิ่งรบกวน น่าแปลกที่ว่า เบนควรรู้สึกว่าเป็นผู้ชนะ (ซึ่งตอนแรกก็รู้สึกแบบนั้น) ทว่าอารมณ์เริงร่ายินดีกับเรื่องนี้หมดลง เมื่อเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขามีอยู่ทำตัวแปลกไป นับวันอเล็กซ์ยิ่งมีอาการแย่ลง แย่ลง เขาเอาแต่สิงอยู่ในท้องฟ้าจำลองตั้งแต่ที่พบว่ามันเป็นเขตปลอดเครื่องดักจับควัน คิดไปว่าห้องนี้คือพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง เบนมองว่า

อเล็กซ์คงเลือกนอนตายในห้องนี้แน่นอน

อเล็กซ์ค่อนข้างหงุดหงิดในช่วงแรกที่คนอื่นรู้ว่ามีห้องใหม่ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบหรือตื่นเต้นไปกับดวงดาวเท่าไรนัก (เหมือนกับเบน) มีไม่เยอะนักที่จะมานั่งแช่นาน ๆ ดังนั้น ไม่กี่วันผ่านไปจึงเหลือไม่กี่คนที่เข้ามาดู อีกเหตุผลหนึ่งที่แขกมีจำนวนน้อย เพราะอเล็กซ์สูบบุหรี่ เมื่อเขาเริ่มจุด คนเริ่มทยอยหนีออกไป เพราะเหตุนี้ ห้องจึงมีกลิ่นกัญชาเกือบตลอดเวลา อเล็กซ์รู้วิธีไล่คนออกไปจากห้อง เขาต้องการยึดห้องนี้ไว้คนเดียว

“พยายามเข้า อเล็กซ์ ควบคุมพลังของนายให้ได้ นายจะได้ลอยขึ้นไปอยู่กับไอ้ดาวปลอม ๆ พวกนี้” เบนตะโกน พอพูดเสร็จก็ปิดปากหาว เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ลอยอยู่กลางอากาศ มองดูแล้วเหมือนกับราชาแห่งสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน

อเล็กซ์มองขึ้นข้างบนแล้วกระโดดอีกรอบ ร่างสูงทะยานขึ้นสู่อากาศค้างอยู่สักพัก จากนั้นระดับความสูงค่อย ๆ ลดลง อเล็กซ์กำลังเรียนรู้วิธีลอยตัวอยู่ในอากาศและต่อต้านแรงโน้มถ่วง “นั่นแหละ อย่างนั้นแหละ” เบนมองดูเพื่อนตัวเองทั้งที่ตาปรือ อเล็กซ์พยายามอยู่หลายรอบจนครั้งสุดท้าย ศีรษะของเขาพุ่งชนเพดานเข้าอย่างจัง

“โอ้ นายอย่าลืมสิ ว่ามันไม่ใช่ของจริง” แต่น้ำเสียงของเบนกลับกลั้วเสียงหัวเราะ ไม่ใช่สงสารเพื่อน

“โธ่เว้ย!” อเล็กซ์คำรามใส่ตัวเอง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองเบน แล้วส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้

เก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ถูกแรงบางอย่างกระแทกจนพลิกคว่ำ

“ไอ้ชั่ว” เบนเกือบหล่นจากเก้าอี้ โชคดีที่มือข้างขวาคว้าแขนเก้าอี้ได้ทัน เขาควบคุมให้มันเลื่อนลงมาช้า ๆ จนเท้าแตะพื้นและตัวเองปลอดภัย

“แม่ง ไม่เอาแล้วโว้ย ไม่อยู่แล้ว” ชายหนุ่มหัวร้อนขึ้นมาเดี๋ยวนั้นเมื่อถูกกวนโมโหเข้าให้ และอีกเหตุผลหนึ่ง เขาเบื่อมองดาวดิจิทัลเต็มแก่

“ใจเย็น ๆ น่า” อเล็กซ์จุดบุหรี่ขึ้นอีกม้วน นี่เป็นม้วนที่สี่ของเช้าวันนี้แล้ว

“นี่นายเหลืออยู่กี่ซองวะเนี่ย”

“...เอิ่ม เก้า...มั้ง แล้วนายล่ะ เหลืออยู่เท่าไร”

“สิบแปดซอง”

“ให้ฉันสักห้าซองสิ ถ้านายไม่อยากสูบก็ยกให้ฉันซะ”

“ไม่ให้” เบนเลิกคิ้ว กวนประสาท “เว้นแต่ว่านายจะออกจากห้องนี้แล้วหาอะไรอย่างอื่นทำ” หางตาของเบนมองเห็นบิกแบง เขาดูมันเป็นรอบที่สิบแล้ว “ฉันเบื่อ”

“ไม่ ฉันไม่อยากไปไหน นายไปเหอะ หาสาว ๆ ตามที่อยากได้เลย” อเล็กซ์นอนลงบนพื้น นั่งนิ่งราวกับมีคนมาตอกตะปูยึดไว้ เขากอดอกแน่นเหมือนเด็กดื้อ

“เอางี้ แลกกับบุหรี่ห้าซองไหม”

“ไม่”

“งั้นแปดซอง”

“ไม่”

“สิบเลย”

“ไม่”

“เสียสติไปแล้วเหรอไง” เบนเริ่มหมดความอดทน อเล็กซ์คงเสพติดความสันโดษและกัญชามากเกินขนาด และมันอาจส่งผลให้สติของเขาหลุดไปแล้วก็ได้ “นี่นายปลูกกัญชาในสมองเหรอวะ จะอยู่ที่นี่ไปตลอดไม่ได้ ขยับก้นออกมาบ้าง! แล้วนายได้อาบน้ำแล้วหรือยัง”

อเล็กซ์เงียบไปสักพักก่อนตอบเสียงอ่อน “บางทีฉันอาจเบื่อเหมือนนายนั่นแหละ เบน นายอาจจะแก้เบื่อด้วยผู้หญิง ไปเจอคนนู้นคนนี้ แต่สำหรับฉัน แค่นั่งสูบบุหรี่และมองดวงดาวพวกนี้ก็พอแล้ว” เขาปล่อยควันออกจากปากมากมาย “ท้องฟ้าสวยจะตาย ทำไมนายไม่เห็นเหมือนฉันนะ มันทั้งสวยและน่าค้นหา...ใครสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาก็ไม่รู้”

เบนถอนหายใจ “ใช่ ไอ้สวยน่ะสวย แต่มันโคตรน่าเบื่อเลย พวกมันไม่มีชีวิต ไม่มีความรู้สึก อเล็กซ์ นายกำลังจะเหมือนดาวพวกนี้แล้วนะ”

ควันบุหรี่ปกคลุมไปทั่วตัวอเล็กซ์ เหมือนกับตัวของเขากำลังจะเลือนหายไปด้วย “นายไปเหอะ ฉันไม่เป็นไร ฉันจะไม่ไปไหนจนกว่าพวกเขาจะบอกว่าทำไมถึงส่งพวกเรามาที่นี่”

“อย่างกับจะมีใครมาบอกพวกเราอย่างนั้นแหละ”

อเล็กซ์ยังคงไม่ขยับ เบนเลยสะบัดมือตัวเองออก เก้าอี้ที่นั่งโถมใส่เพื่อนที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ทันที

“อย่ากวนได้ไหมวะ!” อเล็กซ์ตะโกนแล้วฟาดมือ ตีกลับการจู่โจมของเบนด้วยพลังของเขาเอง เก้าอี้ในห้องนอนนิ่ง แต่ในลักษณะกระจัดกระจายไปทั่ว “ไปไกล ๆ เลย”

“สมน้ำหน้า ไอ้หน้ากัญชา”

เบนส่ายหน้าเอือม นายมันบ้าไปแล้ว เขาออกจากห้องแล้วปล่อยให้อเล็กซ์หลงอยู่กับจักรวาลและโลกจอมปลอมที่เขาสร้างขึ้น เกือบเดือนแล้วที่ทั้งสองคนอยู่ในสถานที่แห่งนี้ พวกเบนมาถึงเป็นกลุ่มแรก ๆ จึงมีเวลาใช้ทุกพื้นที่จนหมด พวกเขาทดลองทุกสิ่งทุกอย่าง สำรวจทุกซอกทุกมุม จนตอนนี้ไม่มีกิจกรรมอะไรหลงเหลือให้อยากทำอีก ถ้าเกิดทั้งสองต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต เบนคิดว่าเขาคงขาดใจตายเพราะความเบื่อหน่าย นอนสำลักสีขาวจนตาย ส่วนอเล็กซ์ก็กลายเป็นดาวพวกนั้น

เบนคิดถึงเด็กผู้หญิงที่ชื่อ อเล็กซิส แต่เธอมักอยู่กับเพื่อนและพวกพี่น้องโธมัสตลอดเวลา มันเป็นเรื่องยากที่จะทำความรู้จักกับเด็กคนนั้นเมื่อในสายตาโนเอลกับเทสซ่า เขาเป็นไอ้โรคจิต ส่วนไอ้หนุ่มร่างกำยำก็คอยกันไว้ ครั้งล่าสุดซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาได้คุยกับเธอ แก้มของเธอแดงซ่าน เด็กสาวพยายามหลบสายตาเขาอยู่หลายครั้ง ซึ่งมันบ่งบอกว่าเป็นสัญญาณที่ดี แต่ในสัญญาณนั้นมีความลังเลที่ทำให้เบนไม่ได้รวบรัดหรือเร่งความสัมพันธ์ เขาปล่อยให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป

มันมีกฎพื้นฐาน หากคุณต้องการเอาชนะสาวสวย อย่าจีบแซวพร่ำเพรื่อ อย่าทำตัวราวกับว่าคุณพร้อมจะเอาใจเธอทุกอย่าง ทำตัวให้ลึกลับบ้าง ขณะเดียวกันก็เปิดเผยตัวตนออกไป แสดงให้เธอเห็นว่าคุณปรารถนาเธอ ขณะเดียวกัน อย่าลืมทำตัวเป็นสุภาพบุรุษแม้เธอมองออกว่าข้างในคุณเป็นอะไร ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี แต่อย่าทำให้เธอปฏิบัติกับคุณเหมือนเป็นแค่เพื่อน ทำให้เธอรู้สึกว่าคุณปฏิบัติกับเธอพิเศษกว่าใคร แต่บางครั้งก็ทำแบบนี้กับคนอื่นด้วย ทำตัวใกล้ชิด จากนั้นเว้นระยะห่าง แต่ทำให้สาวคนอื่นตกหลุมรักคุณไปด้วย เล่นกับเธอ ทำให้เธอสับสน จนกระทั่งเธอเป็นฝ่ายตามคุณเอง จนกระทั่งเธอตกหลุมรักคุณ ทำลายความเย่อหยิ่งของเธอซะ แล้วคุณจะชนะ

เขาใช้เวลาเกือบชั่วโมงคุยกับเด็กสาวคนหนึ่งโดยที่ไม่ถามชื่อเลย สำหรับพวกสาวช่างฝันหรือปรารถนาในตัวเขาแต่แรก ขั้นตอนอาจรวบรัดได้ เพราะพวกเธอรอคอยเจ้าชายในฝันอยู่ทุกคืน หากเธอเข้าใจว่าเขาเป็นคนนั้น ทุกอย่างก็จะเร็วขึ้น คืนนี้เขาคงไม่ต้องอยู่คนเดียว แต่ความเหงาใช่ว่าจะจากไปเสียทีเดียว หรือว่าเขาควรอยู่กับอเล็กซ์ในห้องนั้น แล้วปล่อยให้กัญชายึดร่างเสีย ทำไมเขาเกิดรู้สึกหมดอารมณ์ ถ้าหากหน้าจอทีวีหน้าห้องอาหารมีข้อความอะไรขึ้นมาบ้างก็คงจะดี เบนตัดสินใจผละจากเด็กสาวคนดังกล่าว

ติดเชื้ออเล็กซ์หรือไงวะ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Undisclosure    หยุดยั้ง

    “แต่คุณบอกว่ามันจะใช้คุณเป็นตัวประกัน” ไมเคิลเถียง“ใช่ ตัวฉัน เพียงแค่ร่างกายที่ยังมีลมหายใจ”อเล็กซิสเข่าอ่อนจนทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนสะอื้นลงกับตักหญิงสาว นาฮีมานาอาจไม่ใช่แม่ของกลุ่มเสี่ยง แต่เปรียบเหมือนกับผู้ใหญ่หรือไม่ก็พี่สาวที่พวกเขารู้สึกสบายใจเวลาเห็นเธอ เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางจิตใจ“แต่ว่า...ก่อนจะออกไป ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”เมื่อนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น นาฮีมานาจับมืออเล็กซิสกับไมเคิล“เผาทุกอย่างในนี้”ทั้งสองพยักหน้า“ถ้าเห็นอะไร ทำใจไว้นะ แต่ฉันคิดว่าอย่าปล่อยไปเลย พวกเขายังไม่รับรู้อะไรหรอก”ทว่าประโยคหลังนั้น ทั้งสองไม่เข้าใจ นาฮีมานาคะยั้นคะยอให้พวกเขาออกไปจากที่นี่อีกครั้ง มืออีกข้างหยิบปืนที่พวกนั้นทิ้งไว้ เธอพยักหน้าให้ทั้งสองเห็นว่าไม่เป็นไร“พวกเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ไปเถิด”“เหลืออีกห้านาที”นาฮีมานาไม่ต้องการให้พวกเขามอง หรือรับรู้ ทั้งสองจึงเดินออกไปหน้าลิฟต์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงได้ยิน

  • Undisclosure    จุดจบของผู้อยู่มานาน

    “พาตัวเธอมา” เธอหันไปสั่งเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง อเล็กซิสไม่มีวันรู้ไม่ถึงหนึ่งนาทีได้ คนของอาร์คาเดียจึงประคองนาฮีมานาออกมา เธออยู่ในสภาพอิดโรย ผมสีดำยุ่งเหยิง แก้มที่ตอบอยู่แล้วลึกลงไปราวกับผิวหนังปกคลุมเพียงโครงกระดูก เธอออกจากกลุ่มไปก่อน อเล็กซิสไม่รู้เลยว่าหญิงสาวโดนจับไปเมื่อไร“ได้โปรด เราพาเธอมาแล้ว”“เหลืออีกสิบนาที” พวกเขามองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเพราะกลัวหนีไม่ทัน“ทำไม ที่นี่จะระเบิดหรือ”พวกเขาส่ายหน้า ทั้งสองไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นนาฮีมานาพยักหน้าให้มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง อเล็กซิสจึงหันไปพยักหน้ากับไมเคิล เขาจึงบอกให้คนที่เหลือออกไป ทั้งหมดทิ้งอาวุธแล้วรีบวิ่งหนี บางคนแย่งกันออกไปจนมีเสียงโวยวายล้มลุกคลุกคลาน ส่วนพวกเขารีบไปประคองนาฮีมานาที่ถูกทิ้งลงกับพื้น“มานา...”หญิงสาวสบตากับทั้งสองแล้วยกมือจับแก้มคนทั้งคู่ เพียงสัมผัสอเล็กซิสกลับรู้สึกสบายตัว อากาศปวดตามตัวและที่หน่วงอยู่ในท้องก็อันตรธานหายไปทันใด เมื่อเธอมองไมเคิลจึงเห็นว่าบาดแผลบนใบหน้

  • Undisclosure    ไม่มีการต่อรอง

    “เหลืออีกยี่สิบนาที”สิ่งที่อเล็กซิสเกลียดที่สุดคือการไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น แม้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ลักพาตัว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวการเป็นใคร ทั้งสองยืนมองนักวิทยาศาสตร์วิ่งหนีออกจากตึกจากบานหน้ากระจกขนาดใหญ่บนชั้นลอยเปิดสู่โถงด้านล่าง ประตูทางออกนั้นไม่ได้เปิดออกไปแล้วเห็นด้านนอก แต่ไปยังลิฟต์ที่เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน โถงด้านล่างกินพื้นที่ถึงห้าชั้น มันกว้างใหญ่ พวกเขาวิ่งหนีขึ้นลิฟต์ บ้างแย่งกัน แต่เพราะจำนวนมีจำกัดจึงไม่อาจขนส่งคนออกไปได้ทันทีแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งหมดอยู่ใต้ดินขณะนั้นไมเคิลปรายตามองทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาไม่ได้สวมชุดทหารสีเทาแต่เป็นสีน้ำตาล ในมือถือปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่เล็งมาแต่ยังไม่ได้ยิง หรือพูดไม่ถูกคือไม่กล้ายิงเพราะกลัวผลโต้ตอบที่รุนแรงกว่า อีกกลุ่มคอยอพยพและจัดระเบียบ พวกเขามองขึ้นมาอย่างหวาดผวา ส่วนเธอกับไมเคิลมองลงไปด้วยสายตาว่างเปล่า“ปล่อยไปเถอะ เราต้องการเพียงมานา”อเล็กซิสไม่ได้ใจดี เธอแค่ไม่อยากเสียเวลาไมเคิลพยักหน้าแต่สายตายังจับจ้อง

  • Undisclosure    ทำลาย

    แม้สายตาจะคอยชำเลืองมองแฝดที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าประตูรอให้พวกมันเข้ามา อเล็กซิสใช้เวลานี้เรียกข้อมูลขึ้นมาเรื่อย ๆ นอกจากจะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของพวกเขาแล้ว พวกมันต้องการเซลล์ไข่ของเธอและสเปิร์มของแฝดเพื่อผสมเทียม สมมติฐานของคนพวกนี้นั่นคือ เธอและไมเคิลเป็นกลุ่มเสี่ยงคู่เดียวที่สามารถให้กำเนิดทายาทที่มีลักษณะพิเศษได้ เหมือนอย่างที่ลูก้าและเจมม่าเคยให้กำเนิดคนทั้งสอง เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงคนอื่นล้วนมีภาวะมีบุตรยากหรืออาจจะถึงขนาดไร้ประสิทธิภาพที่จะมีทายาทเลยก็ว่าได้เพื่ออะไร ผลิต...ผลิตกองทัพผู้มีพลังพิเศษด้วยตัวเองหรือปัญหาคือ เธออยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เอไลโตทั้งหมด หรือบางคน? ที่แน่ ๆ พวกมันใช้คาเรลที่สมควรถูกประหารชีวิตไปแล้วปลอมตัวเป็นไมเคิลมากหลอกเธอเสียงฝีเท้ามากมายมาเป็นโขยงโดยที่แฝดชายยืนรออยู่ อเล็กซิสถอยห่างจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“อยู่เฉย ๆ” คนข้างนอกตะโกนเข้ามา “อย่าขยับไม่อย่างนั้นพวกเราจำเป็นต้องยิง!”ชายหนุ่มผมเงินหัวเราะดูแคลนคนข้างนอก พริบตาเดียวเปลวเพลิงลุกโถมเข้าใส่ประตูด้านหน้า ทีมรักษาความป

  • Undisclosure    ละเลงเลือด

    ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งพร้อมกับสภาพเครื่องมือล้มระเนระนาด รวมทั้งจานที่บรรจุเซลล์ไข่แตกละเอียด เพียงเธอมอง ของเหลวในนั้นแห้งเหือดตรงมุมขวาของห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ อเล็กซิสยกมือขึ้นทำท่าบิด มันแตกแล้วตกลงมา เพียงเท่านั้นเธอรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาไมเคิล แต่เพียงขยับก็เจ็บหน่วงที่ท้อง สุดท้ายกลั้นใจหยิบผ้าคลุมมาพันตัวแล้วเดินไปหาน้องชาย มันไม่ได้เจ็บมากนัก แต่แปลบ ๆ หน่วง ๆ เหมือนเวลาที่เธอเคยมีประจำเดือน“ไมเคิล” เธอจับแก้มที่มีแผลไหม้แล้วสงสารจับใจ ใบหน้าของเขาคือของขวัญล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็อยากจะถนอมดูแล แล้วดูตอนนี้สิ อเล็กซิสดึงเครื่องรัดออกแล้วสวมกอดคนที่นอนอยู่แน่นเพื่อให้เขาฟื้นตัว “ไมเคิล ตื่นสิ ไมเคิล”ชายหนุ่มส่งเสียงครางอือ ๆ เบา ๆ เธอถอนตัวขึ้นมาเพื่อรอให้เขาฟื้น เขาเริ่มขยับริมฝีปาก “รอ...”“ไม่ต้องรอ” เธอบอกพลางกุมมือเขาแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาเมื่อมองแฝดชายราวกับเห็นร่างของซีโน่ที่กำลังจะตาย “ตื่นขึ้นมา ฉันจะปกป้องนายเอง”เขากะพริบตาก่อนจะลืมตามอง ดวงตาสีฟ้าเข้มสบกับของเ

  • Undisclosure    แหกคุก

    มีกี่เรื่องที่ทำให้คนเราฝันร้าย แต่เมื่อตื่นเหมือนกับโผล่ขึ้นผิวน้ำปีศาจในความทรงจำล้วนมีมากหน้าหลายตา และกลุ่มแรกมีชื่อว่าคาเมรอนกับบรูซ ยังดีที่โชคยังเข้าข้าง ต่างกับตอนนี้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจใต้หน้ากาก หมดสิ้นอิสรภาพโดยสิ้นเชิงสติไปไหน เหตุใดจึงรู้สึกล่องลอย บางครั้งตื่นตัว บางครั้งไม่รู้สึกมันมากันเป็นกลุ่ม จับร่างของอเล็กซิสขึงเพื่อเอาบางสิ่งจากกาย หากขัดขืนดิ้นรนก็จะได้รับความเจ็บปวดสาหัสจนไม่อาจขยับได้ไปหลายนาที คงเป็นเพราะกายหยาบนี้ทนทานต่อยาสลบจึงตื่นเร็วเกินไป แต่ต่อให้ทนได้เพียงใดก็ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้พวกมันหยุดไม่เป็นผล แม้เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็ยังไม่ปล่อยอเล็กซิสกับไมเคิลไป พวกมันเอาขาหยั่งออกแล้วปล่อยให้ขาเธอนอนเหยียดยาวโดยมีเครื่องล็อกตรึงไว้ไม่ให้ขยับ“พวกแกต้องชดใช้” เสียงที่ตะโกนออกไปกลั่นออกมาจากความแค้นที่อยู่ลึกสุด แต่กลับฟังดูอ่อนแอเกินกว่าจะขู่ให้ผู้ใดกลัว ตรงกันข้ามกลับเรียกเสียงหัวเราะขำขันแทนเธอหันไปมอง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status