Share

ปีกหัก

last update Last Updated: 2025-02-12 15:32:00

เครื่องตรวจจับควันถูกติดตั้งแทบทุกตารางนิ้ว ยกเว้นห้องใหม่ที่เพิ่งเปิด พวกเขานึกขอบคุณความสะเพร่าของเจ้าหน้าที่ติดตั้งระบบ เบนกับอเล็กซ์จึงได้โอกาสสูบกัญชาอัดปอดกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีสิ่งรบกวน น่าแปลกที่ว่า เบนควรรู้สึกว่าเป็นผู้ชนะ (ซึ่งตอนแรกก็รู้สึกแบบนั้น) ทว่าอารมณ์เริงร่ายินดีกับเรื่องนี้หมดลง เมื่อเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขามีอยู่ทำตัวแปลกไป นับวันอเล็กซ์ยิ่งมีอาการแย่ลง แย่ลง เขาเอาแต่สิงอยู่ในท้องฟ้าจำลองตั้งแต่ที่พบว่ามันเป็นเขตปลอดเครื่องดักจับควัน คิดไปว่าห้องนี้คือพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง เบนมองว่า

อเล็กซ์คงเลือกนอนตายในห้องนี้แน่นอน

อเล็กซ์ค่อนข้างหงุดหงิดในช่วงแรกที่คนอื่นรู้ว่ามีห้องใหม่ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบหรือตื่นเต้นไปกับดวงดาวเท่าไรนัก (เหมือนกับเบน) มีไม่เยอะนักที่จะมานั่งแช่นาน ๆ ดังนั้น ไม่กี่วันผ่านไปจึงเหลือไม่กี่คนที่เข้ามาดู อีกเหตุผลหนึ่งที่แขกมีจำนวนน้อย เพราะอเล็กซ์สูบบุหรี่ เมื่อเขาเริ่มจุด คนเริ่มทยอยหนีออกไป เพราะเหตุนี้ ห้องจึงมีกลิ่นกัญชาเกือบตลอดเวลา อเล็กซ์รู้วิธีไล่คนออกไปจากห้อง เขาต้องการยึดห้องนี้ไว้คนเดียว

“พยายามเข้า อเล็กซ์ ควบคุมพลังของนายให้ได้ นายจะได้ลอยขึ้นไปอยู่กับไอ้ดาวปลอม ๆ พวกนี้” เบนตะโกน พอพูดเสร็จก็ปิดปากหาว เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ลอยอยู่กลางอากาศ มองดูแล้วเหมือนกับราชาแห่งสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน

อเล็กซ์มองขึ้นข้างบนแล้วกระโดดอีกรอบ ร่างสูงทะยานขึ้นสู่อากาศค้างอยู่สักพัก จากนั้นระดับความสูงค่อย ๆ ลดลง อเล็กซ์กำลังเรียนรู้วิธีลอยตัวอยู่ในอากาศและต่อต้านแรงโน้มถ่วง “นั่นแหละ อย่างนั้นแหละ” เบนมองดูเพื่อนตัวเองทั้งที่ตาปรือ อเล็กซ์พยายามอยู่หลายรอบจนครั้งสุดท้าย ศีรษะของเขาพุ่งชนเพดานเข้าอย่างจัง

“โอ้ นายอย่าลืมสิ ว่ามันไม่ใช่ของจริง” แต่น้ำเสียงของเบนกลับกลั้วเสียงหัวเราะ ไม่ใช่สงสารเพื่อน

“โธ่เว้ย!” อเล็กซ์คำรามใส่ตัวเอง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองเบน แล้วส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้

เก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ถูกแรงบางอย่างกระแทกจนพลิกคว่ำ

“ไอ้ชั่ว” เบนเกือบหล่นจากเก้าอี้ โชคดีที่มือข้างขวาคว้าแขนเก้าอี้ได้ทัน เขาควบคุมให้มันเลื่อนลงมาช้า ๆ จนเท้าแตะพื้นและตัวเองปลอดภัย

“แม่ง ไม่เอาแล้วโว้ย ไม่อยู่แล้ว” ชายหนุ่มหัวร้อนขึ้นมาเดี๋ยวนั้นเมื่อถูกกวนโมโหเข้าให้ และอีกเหตุผลหนึ่ง เขาเบื่อมองดาวดิจิทัลเต็มแก่

“ใจเย็น ๆ น่า” อเล็กซ์จุดบุหรี่ขึ้นอีกม้วน นี่เป็นม้วนที่สี่ของเช้าวันนี้แล้ว

“นี่นายเหลืออยู่กี่ซองวะเนี่ย”

“...เอิ่ม เก้า...มั้ง แล้วนายล่ะ เหลืออยู่เท่าไร”

“สิบแปดซอง”

“ให้ฉันสักห้าซองสิ ถ้านายไม่อยากสูบก็ยกให้ฉันซะ”

“ไม่ให้” เบนเลิกคิ้ว กวนประสาท “เว้นแต่ว่านายจะออกจากห้องนี้แล้วหาอะไรอย่างอื่นทำ” หางตาของเบนมองเห็นบิกแบง เขาดูมันเป็นรอบที่สิบแล้ว “ฉันเบื่อ”

“ไม่ ฉันไม่อยากไปไหน นายไปเหอะ หาสาว ๆ ตามที่อยากได้เลย” อเล็กซ์นอนลงบนพื้น นั่งนิ่งราวกับมีคนมาตอกตะปูยึดไว้ เขากอดอกแน่นเหมือนเด็กดื้อ

“เอางี้ แลกกับบุหรี่ห้าซองไหม”

“ไม่”

“งั้นแปดซอง”

“ไม่”

“สิบเลย”

“ไม่”

“เสียสติไปแล้วเหรอไง” เบนเริ่มหมดความอดทน อเล็กซ์คงเสพติดความสันโดษและกัญชามากเกินขนาด และมันอาจส่งผลให้สติของเขาหลุดไปแล้วก็ได้ “นี่นายปลูกกัญชาในสมองเหรอวะ จะอยู่ที่นี่ไปตลอดไม่ได้ ขยับก้นออกมาบ้าง! แล้วนายได้อาบน้ำแล้วหรือยัง”

อเล็กซ์เงียบไปสักพักก่อนตอบเสียงอ่อน “บางทีฉันอาจเบื่อเหมือนนายนั่นแหละ เบน นายอาจจะแก้เบื่อด้วยผู้หญิง ไปเจอคนนู้นคนนี้ แต่สำหรับฉัน แค่นั่งสูบบุหรี่และมองดวงดาวพวกนี้ก็พอแล้ว” เขาปล่อยควันออกจากปากมากมาย “ท้องฟ้าสวยจะตาย ทำไมนายไม่เห็นเหมือนฉันนะ มันทั้งสวยและน่าค้นหา...ใครสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาก็ไม่รู้”

เบนถอนหายใจ “ใช่ ไอ้สวยน่ะสวย แต่มันโคตรน่าเบื่อเลย พวกมันไม่มีชีวิต ไม่มีความรู้สึก อเล็กซ์ นายกำลังจะเหมือนดาวพวกนี้แล้วนะ”

ควันบุหรี่ปกคลุมไปทั่วตัวอเล็กซ์ เหมือนกับตัวของเขากำลังจะเลือนหายไปด้วย “นายไปเหอะ ฉันไม่เป็นไร ฉันจะไม่ไปไหนจนกว่าพวกเขาจะบอกว่าทำไมถึงส่งพวกเรามาที่นี่”

“อย่างกับจะมีใครมาบอกพวกเราอย่างนั้นแหละ”

อเล็กซ์ยังคงไม่ขยับ เบนเลยสะบัดมือตัวเองออก เก้าอี้ที่นั่งโถมใส่เพื่อนที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ทันที

“อย่ากวนได้ไหมวะ!” อเล็กซ์ตะโกนแล้วฟาดมือ ตีกลับการจู่โจมของเบนด้วยพลังของเขาเอง เก้าอี้ในห้องนอนนิ่ง แต่ในลักษณะกระจัดกระจายไปทั่ว “ไปไกล ๆ เลย”

“สมน้ำหน้า ไอ้หน้ากัญชา”

เบนส่ายหน้าเอือม นายมันบ้าไปแล้ว เขาออกจากห้องแล้วปล่อยให้อเล็กซ์หลงอยู่กับจักรวาลและโลกจอมปลอมที่เขาสร้างขึ้น เกือบเดือนแล้วที่ทั้งสองคนอยู่ในสถานที่แห่งนี้ พวกเบนมาถึงเป็นกลุ่มแรก ๆ จึงมีเวลาใช้ทุกพื้นที่จนหมด พวกเขาทดลองทุกสิ่งทุกอย่าง สำรวจทุกซอกทุกมุม จนตอนนี้ไม่มีกิจกรรมอะไรหลงเหลือให้อยากทำอีก ถ้าเกิดทั้งสองต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต เบนคิดว่าเขาคงขาดใจตายเพราะความเบื่อหน่าย นอนสำลักสีขาวจนตาย ส่วนอเล็กซ์ก็กลายเป็นดาวพวกนั้น

เบนคิดถึงเด็กผู้หญิงที่ชื่อ อเล็กซิส แต่เธอมักอยู่กับเพื่อนและพวกพี่น้องโธมัสตลอดเวลา มันเป็นเรื่องยากที่จะทำความรู้จักกับเด็กคนนั้นเมื่อในสายตาโนเอลกับเทสซ่า เขาเป็นไอ้โรคจิต ส่วนไอ้หนุ่มร่างกำยำก็คอยกันไว้ ครั้งล่าสุดซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาได้คุยกับเธอ แก้มของเธอแดงซ่าน เด็กสาวพยายามหลบสายตาเขาอยู่หลายครั้ง ซึ่งมันบ่งบอกว่าเป็นสัญญาณที่ดี แต่ในสัญญาณนั้นมีความลังเลที่ทำให้เบนไม่ได้รวบรัดหรือเร่งความสัมพันธ์ เขาปล่อยให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป

มันมีกฎพื้นฐาน หากคุณต้องการเอาชนะสาวสวย อย่าจีบแซวพร่ำเพรื่อ อย่าทำตัวราวกับว่าคุณพร้อมจะเอาใจเธอทุกอย่าง ทำตัวให้ลึกลับบ้าง ขณะเดียวกันก็เปิดเผยตัวตนออกไป แสดงให้เธอเห็นว่าคุณปรารถนาเธอ ขณะเดียวกัน อย่าลืมทำตัวเป็นสุภาพบุรุษแม้เธอมองออกว่าข้างในคุณเป็นอะไร ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี แต่อย่าทำให้เธอปฏิบัติกับคุณเหมือนเป็นแค่เพื่อน ทำให้เธอรู้สึกว่าคุณปฏิบัติกับเธอพิเศษกว่าใคร แต่บางครั้งก็ทำแบบนี้กับคนอื่นด้วย ทำตัวใกล้ชิด จากนั้นเว้นระยะห่าง แต่ทำให้สาวคนอื่นตกหลุมรักคุณไปด้วย เล่นกับเธอ ทำให้เธอสับสน จนกระทั่งเธอเป็นฝ่ายตามคุณเอง จนกระทั่งเธอตกหลุมรักคุณ ทำลายความเย่อหยิ่งของเธอซะ แล้วคุณจะชนะ

เขาใช้เวลาเกือบชั่วโมงคุยกับเด็กสาวคนหนึ่งโดยที่ไม่ถามชื่อเลย สำหรับพวกสาวช่างฝันหรือปรารถนาในตัวเขาแต่แรก ขั้นตอนอาจรวบรัดได้ เพราะพวกเธอรอคอยเจ้าชายในฝันอยู่ทุกคืน หากเธอเข้าใจว่าเขาเป็นคนนั้น ทุกอย่างก็จะเร็วขึ้น คืนนี้เขาคงไม่ต้องอยู่คนเดียว แต่ความเหงาใช่ว่าจะจากไปเสียทีเดียว หรือว่าเขาควรอยู่กับอเล็กซ์ในห้องนั้น แล้วปล่อยให้กัญชายึดร่างเสีย ทำไมเขาเกิดรู้สึกหมดอารมณ์ ถ้าหากหน้าจอทีวีหน้าห้องอาหารมีข้อความอะไรขึ้นมาบ้างก็คงจะดี เบนตัดสินใจผละจากเด็กสาวคนดังกล่าว

ติดเชื้ออเล็กซ์หรือไงวะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Undisclosure    บทนำเล่ม 3 จบ

    บราวน์ละสายตาจากเอกสารตรงหน้า วาร์กเนอร์เป็นหัวหน้าทีมคนก่อน“ครับ” เขาตอบสั้น ๆ แต่นัยน์ตาจับจ้องที่ดวงหน้าผู้ถาม สีหน้าของเดวิสดูซีดลงเล็กน้อย นัยน์ตาหม่นแสงลงคล้ายกับไม่สบายใจ เขาไม่แน่ใจนักว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งสองไปถึงขั้นไหน แต่คงมากพอที่จะให้วาร์กเนอร์พยายามหาข้อมูลไปประเคนชายหนุ่มคนนี้ได้งี่เง่า โดยเฉพาะวาร์กเนอร์ที่ดันผันตัวจากไฟเป็นหิ่งห้อย“พวกเราตกใจนิดหน่อยว่าอาจมีปัญหาอะไรหรือไม่...” ดูเหมือนเขาพยายามจะหาเหตุผลเพื่อไม่ให้ตัวเองดูผิดปกตินัก นายน้อยโวลคอฟคลี่ยิ้มน้อย ๆ “...หรือมีข้อตกลงที่ฝ่ายคุณไม่พอใจเป็นต้น”“ไม่หรอกครับ” บราวน์ตอบทันที “ทุกอย่างเรียบร้อยดี เพียงแต่คุณวาร์กเนอร์ถูกย้ายไปประจำตำแหน่งอื่นที่เหมาะสมกว่า ทีแรกผมกังวลที่ต้องมาประสานงานต่อ แต่อย่างที่เห็น ทุกอย่างเรียบร้อยดี อีกอย่างการโยกย้ายก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจเบื้องบน มัน...ค่อนข้างจะเป็นเรื่องภายใน ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ...” เขาวางมือลงบนโต๊ะ “...งานตรงนี้หรอกครับ”ในห้องเงียบไปสักพัก เค

  • Undisclosure    บทนำเล่ม 3 ต่อ

    ปัญหาไม่ใช่เนื้อหางานหรือรูปแบบของงานแต่อย่างใด แต่มันคือเหตุใดต้องเป็นเขาระแคะระคาย? ก็อาจเป็นไปได้ แต่อย่างที่บราวน์สรุปไปก่อนหน้า เมื่อไม่ลงมือก็แปลว่าขาดหลักฐาน เมื่อไม่จัดการก็แปลว่ายังต้องการอยู่ดังนั้นหากบราวน์จะรู้สึกเสียวสันหลังนิดหน่อยก็ไม่แปลกนัก การประสานงานกับคนภายนอก ทั้งยังต้องระมัดระวังข้อมูลไม่ให้รั่วไหล ยิ่งบราวน์ตงิดใจว่าถูกจับตามอง หากแม้เขาระวังตัวเพียงใด แต่คนใต้อำนาจเกิดสะเพร่าขึ้นมาโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ อย่างไรเสียเขาก็ต้องโดน...ก็นะ ถ้านี่ไม่ใช่กับดักขอเถอะ อย่างน้อยให้ส่งของก่อนสักพัก เคย์ซี่เข้ามาเสิร์ฟกาแฟ เมื่อเธอหันหลัง บราวน์อดไม่ได้เหลือบมองบั้นท้ายกลมกลึง กระโปรงของเธอยาวพอดีเข่า แต่เพราะมันรัดรูปจนเห็นเป็นทรงสวย...ผลของการสควอทสินะ เขาสังเกตเรียวขาที่มีเส้นกล้ามเนื้อบ่งบอกว่าออกกำลังกายอย่านอกเรื่อง เขาส่ายหัว อย่างไรก็เป็นผู้ชาย มองนิดมองหน่อยไม่เป็นไรแต่อย่าทำให้สมาธิเสียก็เท่านั้น เขายักไหล่ให้ตัวเองแล้วมองข่าวบนจอโทรทัศน์“...กองทัพส่งกำลังเสริมเข้าต้านฝ่ายก่อกา

  • Undisclosure    บทนำเล่ม 3

    เสียงพูดคุยเซ็งแซ่ผสานไปกับเสียงแตรรถ เครื่องยนต์ และประกาศต่าง ๆ ไม่ว่าจะโฆษณาเชิญชวนซื้ออาหารกล่องยามเช้า ไปจนถึงเครื่องดื่มบำรุงกำลัง รณรงค์ให้สวดมนต์เพื่อขอให้พระผู้เป็นเจ้าโปรดประทานอภัยแก่บาปของมนุษย์ บางคนหยุดแวะสนทนากับคนรู้จัก บ้างเดินฝ่าฝูงชนเพื่อรีบเข้าไปแตะบัตรให้ทัน ส่วนเขาเพียงแค่หยุดมองหนังสือพิมพ์ที่แขวนเรียงกันอยู่บนเพิงขาย ชายคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาทักคนแปลกหน้าเพียงเพื่อถามเรื่องราวที่ปรากฏอยู่บนข่าวหน้าหนึ่ง“คุณว่าไง” ชายวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปลายกระตุกแขนเสื้อโดยไม่คำนึงถึงมารยาทนอกจากอยากสนทนาล้วน ๆ หากไม่ใช่เพราะเขาอยากสัมผัสชีวิตมนุษย์เงินเดือนครั้งแรก อยากเห็นหน้าค่าตาผู้คนในสำนักงานจึงยอมเสียเวลาให้คนขับรถจอดตรงหัวมุมตึก ก็เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใส่สูท ไม่ใช่เครื่องแบบผ้าหนาและอาวุธครบมือ“ว่าไง จริงไหม คุณว่าเด็กพวกนั้นจะกล้าเผาจริงหรือ”บราวน์เลิกคิ้วพลางชายหางตามองคนดังกล่าว แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจหากแต่ยัดหนังสือพิมพ์ใส่มือเขา “เงียบทำไมเล่า คุณทำงานในนั้นก็ต้องรู้บ้างสิ” สายตาของเขาประเมินมองสำรวจอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ชายคนนี้จงใจเข้ามาทักเพราะรู้

  • Undisclosure    บทส่งท้ายเล่ม 2 จบ

    “สำหรับคำถามสุดท้ายขอติดไว้ก่อน เรื่องมันยาว” เธอตอบแล้วหันกลับไปเช็กจอมอนิเตอร์อีกครั้ง สักพักมีสัญญาณกะพริบขึ้นมา เธอรีบกดปุ่มหนึ่งบนแผงวงจรแล้วกระชากไมโครโฟนมาจ่อปาก “ฮัลโหล”พวกเขาได้ยินเสียงซ่าอยู่ราว ๆ สามสิบวินาที ต่อจากนั้นเป็นคำด่าหยาบคายล้วน ๆ หญิงสาวผมดำสั่นหัวเล็กน้อยแล้วหันมามองเขา ก่อนจะยื่นไมโครโฟนให้ “บอกชื่อตัวเอง พูดกับพวกเขาที” มันไม่ใช่คำขอร้อง เพราะไมโครโฟนถูกยัดใส่มือจอห์นแล้ว“ฮัลโหล” เขาพูดใส่ไมค์มีเสียงด่ากลับมาอีกรอบ ประมาณว่า ไปตายซะ สารเลว นีโอนาซี และอีกมากมายที่ออกมาราวกับฟังเพลงแร็ป“เอิ่ม” เขากระแอม “ผมชื่อ จอห์น ลีลอยด์ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณ และ...กับผม...”เสียงในสายหยุด เขาได้ยินเสียงผู้หญิงแทรกขึ้นมาว่า “พูดดี ๆ สิ เรมี!”“คุณคือจอห์น ลีลอยด์?” ผู้ถือสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอ่อนลงในพริบตา“ใช่” จอห์นตอบ“ใครวะ” เขาได้ยินเสียงแทรก ผู้หญิงคนเดิมด่าคนที่แทรกขึ้น

  • Undisclosure    บทส่งท้ายเล่ม 2 ต่อ

    เขาส่ายหน้าอีกครั้ง จนปัญญาจะตอบ โรซ่ามองหาวัตถุแข็ง ๆ มาทุบกระจก แต่ก็ไม่มีแถวนั้น จอห์นจึงต้องลองใช้ความสามารถดังกล่าวอีกครั้ง กว่าจะปลุกทุกคนจนครบก็แทบหอบ แถมโรซ่ายังซักถามไม่หยุดว่าเขากลายเป็นกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่เมื่อไร แถมยังตะบึงตะบอนงอนที่เขาไม่ยอมบอกอยู่ราวสิบนาทีพวกเขามีกันทั้งหมดยี่สิบเอ็ดคน จอห์นเดินนำทุกคนออกไปจากห้อง ทั้งหมดทำท่าเหมือนเด็กน้อยเล่นซ่อนแอบ ต่างระมัดระวังสุดฤทธิ์ แต่เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ ก็พบว่ามันเป็นตึกที่ถูกทิ้ง ยังไม่ถึงกับร้างเพราะระบบไฟฟ้าทำงานปกติ ห้องหับส่วนใหญ่นั้นปิดเงียบ ไม่มีใครอยู่เลย สถานที่ที่พวกเขาถูกจับมานอนนั้นมีลักษณะเหมือนตึกทดลอง มีส่วนสำนักงานที่ประกอบไปด้วยโต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์จอบางเฉียบ ห้องประชุม ห้องทดลองที่ปราศจากสิ่งของทดลองใด ๆ ทั้งหมดจึงพยายามหาทางออก แต่เพราะไม่รู้เส้นทางก็กลายเป็นเดินสำรวจมากกว่าไม่มีใครรู้ว่าวันนี้วันที่เท่าไร เวลาอะไร ผ่านไปร่วมสามชั่วโมง แต่ละคนเริ่มหมดแรง จนกระทั่งโรซ่าเจอบันไดขึ้นไปอีกชั้น ที่นั่นเอง พวกเขาเห็นว่ามีห้องหนึ่งมีแสงสว่างมันคล้ายกับห้องควบคุมในยานอวกาศ แบบที่เขาเคยแสดงเป

  • Undisclosure    บทส่งท้ายเล่มสอง

    เสียงผู้คนมากมายดังอื้ออึงอยู่รอบตัว แต่หนังตาหนักเกินกว่าจะลืมขึ้นได้ เสียงของใคร เสียงคนพวกไหน ถึงเวลาไปทำงานแล้วหรือยัง นาฬิกาไม่ปลุกสักที วันนี้เขาต้องทำอะไรนะ หรือว่าตอนนี้นอนอยู่ในบ้านหลังเก่า เมืองบลูเบลล์อันแสนสงบสุข เขานึก แต่ดูเหมือนสมองทำงานเชื่องช้าไม่ทันใจ หรือว่าวันนี้มีถ่ายแบบ หรือว่าเข้าฉาก ทำไมคนเยอะขนาดนี้ ใครเข้ามาในรถเทรลเลอร์ หรือว่าเขาแอบงีบหลับ ตื่นสิ ตื่นสักทีตื่น!แสงไฟสีขาวสลัวไม่ได้ทำให้แสบตาเท่าไรนัก แต่สติของเขานี่สิยังหน่วงแปลก ๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกแน่นหน้าอกจนไอออกมารัว ๆ มือทั้งสองข้างยื่นออกไปแต่...ติดกระจก อะไรกัน เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ตัวเขานอนเหยียดยาวอยู่ในโลงแก้วนี่นา คิดแล้วก็มองไปรอบ ๆเขานอนอยู่ในโลงแก้วจริง! แต่จะว่าอย่างไรดี มันไม่ได้อับจนหายใจไม่ออก กลับโล่งจมูกดีด้วยซ้ำ กระจกโค้งมนพอให้คนข้างในพลิกตัวนอนได้ แต่ใช่เวลาพลิกตัวแล้วหลับต่อหรือเปล่า...แน่นอนว่าไม่ใช่ เขาหันไปทางซ้ายจึงเห็นร่างหญิงสาวผมสีทองนอนหลับสนิทราวกับเจ้าหญิงนิทรา เธอสวมชุดสีแขนยางกางเกงขายาวสีขาวสะอาดเหมือนกับเขาเลย หันไปทางขวาก็เจอผู้ชายนอนอยู่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status