Home / แฟนตาซี / Undisclosure / แฟนกับเพื่อนสนิท

Share

แฟนกับเพื่อนสนิท

last update Huling Na-update: 2025-02-12 13:25:48

แต่พออเล็กซิสเดินออกมาจากห้อง กลับเห็นเอโลดี้กำลังนั่งหัวเราะร่วนอยู่กับเจสซี่และชาร์ลี พวกเขาควรออกไปได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าคงคุยติดลมกันสนุก บางครั้งอเล็กซิสอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเจสซี่ชอบผู้หญิง เอโลดี้คงเป็นคนแรกที่เขาชอบ เพราะว่าทั้งสองเข้ากันได้ดีมาก เจสซี่ชอบและเอ็นดูเอโลดี้ไม่ต่างจากน้องสาวอีกคนเลยทีเดียว

แต่ว่า ก็แค่น้องสาวอีกคน

“โทษทีที่ให้รอนะ” อเล็กซิสแทรก

ชาร์ลีกระโดดลิงโลดเหมือนรอโอกาสนี้มานานแล้ว “เย่ เราออกไปได้แล้วใช่ไหมครับ แล้วพี่ไบรซ์ล่ะครับ”

อเล็กซิสทำหน้าเศร้า “ไบรซ์ไม่ยอมพักอ่านหนังสือเลยอะเจ้าลิง เหลือแต่พวกเรานี่แหละ และอาจจะมีเดวี่อีกคนแทนนะ แต่ว่าทำไมถึงยังนั่งกันอยู่ล่ะ”

เอโลดี้ลุกขึ้น “อ้อ ฉันลืมบอกเธอไปว่า ฉันไปกับเธอนะอเล็กซ์”

เด็กสาวในเสื้อยืดสีขาวจ้องเขม็งไปที่เพื่อน ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เพราะเธออยากไปหาเดวี่ที่บ้านเพียงลำพังมากกว่ามีเพื่อนติดสอยห้อยตามไปด้วย

ไม่ได้ตกลงกันไว้อย่างนี้นี่นา

เอโลดี้จ้องกลับด้วยดวงตาสีน้ำตาลเข้มแฝงข้อความเป็นนัยว่า “เออออกับฉันเหอะน่า”

เจสซี่มองสลับระหว่างอเล็กซิสกับเอโลดี้ ไม่เข้าใจว่าพวกผู้หญิงเล่นอะไรกัน

“สรุปแล้วยังไงครับ คุณสุภาพสตรีทั้งสอง” เจสซี่ถาม

“โอเค ตามนั้น” อเล็กซิสสรุป เจสซี่ยังคงสงสัยแต่จับมือชาร์ลีเดินออกจากบ้านไปแต่โดยดี มีอเล็กซิสและเอโลดี้เดินตามเหมือนลูกเป็ด เพื่อนของเธอขี่จักรยานมาเอง ส่วนชาร์ลีนั่งซ้อนท้ายเจสซี่ และอเล็กซิสใช้จักรยานอีกคัน

“ฉันคิดว่าเธออยากไปกับเขาซะอีก” อเล็กซิสพูดขึ้นเมื่อพี่ชายและน้องชายขี่จักรยานออกไปแล้ว

เด็กสาวร่างเล็กยิ้มเหนื่อยอ่อน “อเล็กซ์ เขาไม่ชอบฉันเลยสักนิด ให้ตายเถอะ ก็แค่เห็นเป็นเพื่อนน้องสาว ก็ดีอยู่หรอกนะที่ได้อยู่กับเขา แต่มันเจ็บด้วยเวลาเขาเอาแต่พูดถึงโจชัว แถมชอบพูดให้ฟังจังเลย งี่เง่าชะมัด” เอโลดี้หุบปาก เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “โทษนะ ฉันลืมไปว่าเธอคงอยากย่องเข้าห้องเดวี่คนเดียว จะได้กระซิบข้างหูของเขา ปลุกเขาด้วยเสียงหวาน ๆ ของเธอ “ตื่นสิคะที่รัก” จากนั้นเขาจะลุกขึ้นจากที่นอนพร้อมกับท่อนบนอันเปลือยเปล่า เดวี่คงใส่แค่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวเวลานอน ใช่ไหมล่ะ”

เด็กสาวผมสีน้ำตาลทำเสียงไม่พอใจที่เพื่อนแหย่

“เซออออร์ไพรส์ไหมที่รัก จุ๊บ ๆ” เอโลดี้หัวเราะ ชอบใจที่ได้แกล้งเพื่อน “เอ หรือมากกว่าจูบกันแน่น้า”

“เงียบน่า” อเล็กซิสรีบเดินไปเอาจักรยาน หน้าแดงก่ำ “ถ้าเธอไม่หยุด ฉันจะบอกเจสซี่ว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา”

อเล็กซิสยิ้มเช่นคนที่กำชัยชนะไว้ในมือ เอโลดี้ตีแขนอเล็กซิสแล้วรีบไปเอาจักรยานของตัวเอง หน้าแดงหูแดงพอกัน

“เอ้อ เกือบลืมเลย” อเล็กซิสมอบพาเลทลิปสติกให้กับเพื่อน

“ว้าว อะไรเนี่ย” เอโลดี้ทำตาโต “เพื่อนรัก รักเธอจริง ๆ” เด็กสาวกอดคออเล็กซิส “ได้มาฟรีเหรอ นี่ฉันชักอยากจะทำงานแบบเธอบ้างแล้วนะ”

“ไม่ใช่ของฟรีแน่นอน คิดว่าฉันดังขนาดนั้นเลยเหรอ ได้ส่วนลดจากรุ่นพี่น่ะ ส่วนน้ำหอมอันนี้ของจูน” อเล็กซิสอวดขวดสีชมพูทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนให้ดู “แอบเห็นว่าจูนอยากได้” เอโลดี้ปิดปากเงียบเมื่อเธอพูดถึงชื่อศัตรู

“ชวนจูนมาด้วยเหรอ”

“เปล่า ฉันไม่อยากนั่งอยู่ท่ามกลางสงครามเย็นระหว่างพวกเธอสองคนหรอกนะ แค่คิดว่าจะเอาไปให้จูนที่บ้านเย็นนี้ แน่นอนว่าไม่ชวนเธอไปด้วยอยู่แล้ว ไม่เอาน่า อย่าทำหน้ามุ่ยสิ พวกเราเรียนจบกันแล้วนะ เอดี้”

“แล้วไง จูนเกลียดฉัน ฉันก็เกลียดจูน ไม่มีอะไรห้ามความรู้สึกนี้ได้หรอกน่า”

“ตกลง ๆ ไม่พูดแล้ว” อเล็กซิสยอมแพ้ ไม่กล้าหยิบยกอะไรที่เกี่ยวกับเพื่อนอีกคนมาพูดให้เอโลดี้ระคายหูอีก ทั้งสองจะได้ขี่จักรยานไปบ้านเดวี่โดยไม่ต้องเถียงกันระหว่างทาง

บ้านของเดวี่ตั้งอยู่บนถนนที่อยู่ทางทิศใต้ของเมือง ตัวบ้านค่อนข้างใหญ่กว่าบ้านของพวกเดวิสประมาณหนึ่ง เมื่อเด็กสาวทั้งสองคนมาถึง ก็เห็นว่าไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากเจ้าตัวเพราะยังเห็นจักรยานของเขาจอดอยู่ แต่รถของคุณและคุณนายมอนเทสหายไป แสดงว่าพ่อแม่ของเขาไม่อยู่บ้าน ซึ่งเป็นปกติเพราะเป็นวันทำงานของพวกผู้ใหญ่

“เขาอยู่บ้านนี่นา ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะ” อเล็กซิสพึมพำกับตัวเอง

“นอนติดเตียงอยู่มั้ง” เอโลดี้ว่า ได้ยินที่เพื่อนบ่น “เดวี่นอนกรนหรือเปล่า”

อเล็กซิสทำเป็นไม่ได้ยินคำถามของเพื่อน แต่เมื่อเธอมองไปเรื่อย ๆ สายตากลับสะดุดอยู่ที่จักรยานปริศนาคันหนึ่งที่จอดอยู่ใกล้โรงรถ จักรยานทาสีส้ม สีโปรดของจูน

ไม่หรอก ไม่ใช่แค่สีโปรด แต่เป็นจักรยานของจูนเลยต่างหาก

เอโลดี้มองตามเพื่อน พอเห็นก็พูดขึ้นมาว่า “จริง ๆ แล้ว ฉันก็อยากจะบอกกับเธอเรื่องนื้มาสักพัก แต่เพราะฉันไม่มีหลักฐาน...”

อเล็กซิสจ้องเข้าไปในดวงตาเพื่อนสนิท เข้าใจแจ่มแจ้งว่าเอโลดี้หมายถึงอะไร จากนั้นสั่นหัวปฏิเสธข้อสงสัยนั้น เดวี่เป็นรักแรกของเธอและจะเป็นรักสุดท้าย พวกเขาคบกันมาหนึ่งปีและความสัมพันธ์ก็ดำเนินไปได้ดี เขาไม่มีนิสัยเจ้าชู้ และที่สำคัญ จูนเป็นเพื่อนสนิทของเธอด้วย แค่นี้ก็คงไม่มีอะไรน่าสงสัยแล้ว

“พวกเขาเป็นเพื่อนกัน เหมือนเธอกับเขาไง เข้าบ้านเถอะ...” เอโลดี้ดึงมือเธอไว้แล้วกระซิบว่า “อย่าทำเสียงดังดีกว่า อย่าโกหกตัวเองเลยนะอเล็กซ์ ทำไมจูนถึงอยู่กับแฟนของเธอในเวลาที่พ่อแม่ของเขาไม่อยู่บ้าน แล้วพวกเขาคิดว่าเธอไม่อยู่ในเมืองเล่า”

“จูนเป็นเพื่อนพวกเรานะ เพื่อนสนิทของพวกเรานะ” อเล็กซิสพยายามปฏิเสธข้อสงสัยของเอโลดี้ “เธอก็สนิทกับเขาเหมือนกัน น่าจะรู้ว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น” เด็กสาวไม่รู้ตัวเลยว่าเน้นคำทุกคำเพื่อบังคับให้เชื่อคำพูดของตัวเอง หัวใจของเธอเต้นแรงจนเหมือนมันอยากจะดิ้นหลุดออกมาจากอก

“ให้ฉันแก้คำพูดเธอก่อนนะอเล็กซ์ อย่างแรก จูนเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ไม่ใช่ของฉัน และตั้งแต่เธอเข้าสังกัดโมเดลลิ่ง ฉันไม่แน่ใจเท่าไรนะจ๊ะ และสอง เดวี่ก็เป็นเพียงเด็กผู้ชายคนหนึ่ง” เอโลดี้ยังให้เหตุผลต่อ “เธอก็น่าจะรู้ดีนะ ปกติแล้วไม่มีใครอยู่กับแฟนของเพื่อนสนิทในบ้านของเขา ทั้งเวลาที่พ่อแม่ของเขาอยู่บ้านหรือไม่อยู่ก็ตาม”

“พวกเขาคุยกันอยู่มั้ง” อเล็กซิสพยายามหาข้อแก้ตัวให้คนทั้งคู่ แต่ยิ่งพูด ตัวเธอกลับยิ่งดูโง่เหมือนหยิบเขามาสวมด้วยตัวเองซะอย่างนั้น

เอโลดี้กลอกตา “ฉันเกลียดไอ้นิสัยโลกสวยแบบเว่อร์ ๆ ของเธอจริง ๆ เธอพยายามจะปฏิเสธความจริงใช่ไหมล่ะ ใช่ไหม”

ประโยคนี้คุ้น ๆ เหมือนเจสซี่เคยบอกกับเธอเลย

“ไม่ใช่สักหน่อย! ฉันก็แค่...”

“ชู่ววว เบาสิ ก็ได้ ๆ เธอไม่ได้โลกสวยเกินไป แต่เธอกำลังโกหกตัวเองอยู่ ฉันรู้นะว่า ลึก ๆ เธอเห็นด้วยกับฉัน”

อเล็กซิสยอมรับว่าเธอหมดความกล้าที่จะเข้าไปในบ้านหลังนี้ ในใจครึ่งหนึ่งก็คิดตามข้อสงสัยของเอโลดี้ แต่อีกครึ่งก็พยายามที่จะไม่คิดให้เสียใจ เพราะแค่สงสัยยังทำให้เธอเจ็บปวดได้ขนาดนี้ ราวกับมีเข็มด้ามเล็กนับร้อยที่มองไม่เห็นทิ่มแทงใจอยู่

“เราจะไม่เคาะประตู” เด็กสาวร่างเล็กลองง้างหน้าต่าง “ไม่ล็อกแฮะ” เธอเปิดออกแล้วพยายามปีนเข้าไปข้างใน

“ช่วยฉันทีสิยะ” เอโลดี้เร่งอเล็กซิส

พวกเธอแทบจะเดินย่องกันอยู่แล้ว แต่เพราะเดวี่ไม่ได้อยู่ข้างล่าง จึงง่ายที่จะย่องขึ้นข้างบนต่อไปโดยที่ไม่จำเป็นต้องระวังตัวมากมาย ยิ่งเดินเข้าใกล้ห้องของเดวี่เท่าไร อเล็กซิสยิ่งใจเต้นระทึก ตรรกะของเอโลดี้นั้นฟังดูมีเหตุผลใช้ได้เลยทีเดียว แต่เธอขอให้มันผิดเถอะ

เอโลดี้ค่อย ๆ บิดลูกบิดประตู มันไม่ได้ล็อกเหมือนกับประตูข้างล่าง ทันทีที่เพื่อนสาวผลักประตูเปิดออก วินาทีนั้นหัวใจของอเล็กซิสหยุดเต้นลงทันที เธอดีใจที่เอโลดี้มากับเธอแทนที่จะไปกับเจสซี่ เพราะมิฉะนั้น เธอจะต้องเห็นภาพนี้คนเดียว

จูนกับเดวี่นอนอยู่ด้วยกันอย่างที่เอโลดี้คาดการณ์ไว้ทุกประการ นอนบนเตียงเดียวกัน ใต้ผ้าห่มเดียวกัน กอดก่ายและเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ เสื้อผ้าของพวกเขากระจัดกระจาย ทั้งสองคงผ่านค่ำคืนที่สนุกสุดเหวี่ยงเชียวล่ะ

ถ้วยรางวัลลอยลิ่วไปทางคนทั้งสองแล้วตกลงที่ท้องของเดวี่พอดิบพอดี ไม่ใช่ฝีมือของอเล็กซิสหรอก แต่เป็นฝีมือของเอโลดี้ต่างหาก เด็กสาวผมสีเข้มตะโกนด่าทอคนทั้งสองอย่างบ้าคลั่ง “เห็นไหมล่ะ ฉันบอกเธอแล้ว เดฟ นายมันอุบาทว์ที่สุด ส่วนเธอ ยัยผู้หญิงสกปรก!”

พวกเขาตะลึงตะลาน ทั้งตื่นจากนิทราและตกใจในคราวเดียวกัน อเล็กซิสไม่รู้ว่าเธอควรจะรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ เธอควรโกรธ หึง กรีดร้องจนเป็นบ้า หรือ ร้องไห้แสดงความผิดหวัง สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกคือความว่างเปล่าในอกราวกับหัวใจของเธอหายไปเดี๋ยวนั้น

นึกว่าเรารักกันเสียอีก

คนสำคัญสองคนในชีวิตของเธอกลับหักหลังเธอด้วยวิธีการที่แย่ที่สุด บางครั้งความว่างเปล่าคือความเจ็บปวดที่เลวร้ายขั้นสุด ฉากตรงหน้าทำเอาอเล็กซิสพูดไม่ออก

พวกเขาทำแบบนี้ได้ยังไงกัน

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • Undisclosure    หยุดยั้ง

    “แต่คุณบอกว่ามันจะใช้คุณเป็นตัวประกัน” ไมเคิลเถียง“ใช่ ตัวฉัน เพียงแค่ร่างกายที่ยังมีลมหายใจ”อเล็กซิสเข่าอ่อนจนทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนสะอื้นลงกับตักหญิงสาว นาฮีมานาอาจไม่ใช่แม่ของกลุ่มเสี่ยง แต่เปรียบเหมือนกับผู้ใหญ่หรือไม่ก็พี่สาวที่พวกเขารู้สึกสบายใจเวลาเห็นเธอ เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางจิตใจ“แต่ว่า...ก่อนจะออกไป ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”เมื่อนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น นาฮีมานาจับมืออเล็กซิสกับไมเคิล“เผาทุกอย่างในนี้”ทั้งสองพยักหน้า“ถ้าเห็นอะไร ทำใจไว้นะ แต่ฉันคิดว่าอย่าปล่อยไปเลย พวกเขายังไม่รับรู้อะไรหรอก”ทว่าประโยคหลังนั้น ทั้งสองไม่เข้าใจ นาฮีมานาคะยั้นคะยอให้พวกเขาออกไปจากที่นี่อีกครั้ง มืออีกข้างหยิบปืนที่พวกนั้นทิ้งไว้ เธอพยักหน้าให้ทั้งสองเห็นว่าไม่เป็นไร“พวกเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ไปเถิด”“เหลืออีกห้านาที”นาฮีมานาไม่ต้องการให้พวกเขามอง หรือรับรู้ ทั้งสองจึงเดินออกไปหน้าลิฟต์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงได้ยิน

  • Undisclosure    จุดจบของผู้อยู่มานาน

    “พาตัวเธอมา” เธอหันไปสั่งเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง อเล็กซิสไม่มีวันรู้ไม่ถึงหนึ่งนาทีได้ คนของอาร์คาเดียจึงประคองนาฮีมานาออกมา เธออยู่ในสภาพอิดโรย ผมสีดำยุ่งเหยิง แก้มที่ตอบอยู่แล้วลึกลงไปราวกับผิวหนังปกคลุมเพียงโครงกระดูก เธอออกจากกลุ่มไปก่อน อเล็กซิสไม่รู้เลยว่าหญิงสาวโดนจับไปเมื่อไร“ได้โปรด เราพาเธอมาแล้ว”“เหลืออีกสิบนาที” พวกเขามองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเพราะกลัวหนีไม่ทัน“ทำไม ที่นี่จะระเบิดหรือ”พวกเขาส่ายหน้า ทั้งสองไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นนาฮีมานาพยักหน้าให้มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง อเล็กซิสจึงหันไปพยักหน้ากับไมเคิล เขาจึงบอกให้คนที่เหลือออกไป ทั้งหมดทิ้งอาวุธแล้วรีบวิ่งหนี บางคนแย่งกันออกไปจนมีเสียงโวยวายล้มลุกคลุกคลาน ส่วนพวกเขารีบไปประคองนาฮีมานาที่ถูกทิ้งลงกับพื้น“มานา...”หญิงสาวสบตากับทั้งสองแล้วยกมือจับแก้มคนทั้งคู่ เพียงสัมผัสอเล็กซิสกลับรู้สึกสบายตัว อากาศปวดตามตัวและที่หน่วงอยู่ในท้องก็อันตรธานหายไปทันใด เมื่อเธอมองไมเคิลจึงเห็นว่าบาดแผลบนใบหน้

  • Undisclosure    ไม่มีการต่อรอง

    “เหลืออีกยี่สิบนาที”สิ่งที่อเล็กซิสเกลียดที่สุดคือการไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น แม้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ลักพาตัว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวการเป็นใคร ทั้งสองยืนมองนักวิทยาศาสตร์วิ่งหนีออกจากตึกจากบานหน้ากระจกขนาดใหญ่บนชั้นลอยเปิดสู่โถงด้านล่าง ประตูทางออกนั้นไม่ได้เปิดออกไปแล้วเห็นด้านนอก แต่ไปยังลิฟต์ที่เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน โถงด้านล่างกินพื้นที่ถึงห้าชั้น มันกว้างใหญ่ พวกเขาวิ่งหนีขึ้นลิฟต์ บ้างแย่งกัน แต่เพราะจำนวนมีจำกัดจึงไม่อาจขนส่งคนออกไปได้ทันทีแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งหมดอยู่ใต้ดินขณะนั้นไมเคิลปรายตามองทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาไม่ได้สวมชุดทหารสีเทาแต่เป็นสีน้ำตาล ในมือถือปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่เล็งมาแต่ยังไม่ได้ยิง หรือพูดไม่ถูกคือไม่กล้ายิงเพราะกลัวผลโต้ตอบที่รุนแรงกว่า อีกกลุ่มคอยอพยพและจัดระเบียบ พวกเขามองขึ้นมาอย่างหวาดผวา ส่วนเธอกับไมเคิลมองลงไปด้วยสายตาว่างเปล่า“ปล่อยไปเถอะ เราต้องการเพียงมานา”อเล็กซิสไม่ได้ใจดี เธอแค่ไม่อยากเสียเวลาไมเคิลพยักหน้าแต่สายตายังจับจ้อง

  • Undisclosure    ทำลาย

    แม้สายตาจะคอยชำเลืองมองแฝดที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าประตูรอให้พวกมันเข้ามา อเล็กซิสใช้เวลานี้เรียกข้อมูลขึ้นมาเรื่อย ๆ นอกจากจะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของพวกเขาแล้ว พวกมันต้องการเซลล์ไข่ของเธอและสเปิร์มของแฝดเพื่อผสมเทียม สมมติฐานของคนพวกนี้นั่นคือ เธอและไมเคิลเป็นกลุ่มเสี่ยงคู่เดียวที่สามารถให้กำเนิดทายาทที่มีลักษณะพิเศษได้ เหมือนอย่างที่ลูก้าและเจมม่าเคยให้กำเนิดคนทั้งสอง เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงคนอื่นล้วนมีภาวะมีบุตรยากหรืออาจจะถึงขนาดไร้ประสิทธิภาพที่จะมีทายาทเลยก็ว่าได้เพื่ออะไร ผลิต...ผลิตกองทัพผู้มีพลังพิเศษด้วยตัวเองหรือปัญหาคือ เธออยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เอไลโตทั้งหมด หรือบางคน? ที่แน่ ๆ พวกมันใช้คาเรลที่สมควรถูกประหารชีวิตไปแล้วปลอมตัวเป็นไมเคิลมากหลอกเธอเสียงฝีเท้ามากมายมาเป็นโขยงโดยที่แฝดชายยืนรออยู่ อเล็กซิสถอยห่างจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“อยู่เฉย ๆ” คนข้างนอกตะโกนเข้ามา “อย่าขยับไม่อย่างนั้นพวกเราจำเป็นต้องยิง!”ชายหนุ่มผมเงินหัวเราะดูแคลนคนข้างนอก พริบตาเดียวเปลวเพลิงลุกโถมเข้าใส่ประตูด้านหน้า ทีมรักษาความป

  • Undisclosure    ละเลงเลือด

    ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งพร้อมกับสภาพเครื่องมือล้มระเนระนาด รวมทั้งจานที่บรรจุเซลล์ไข่แตกละเอียด เพียงเธอมอง ของเหลวในนั้นแห้งเหือดตรงมุมขวาของห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ อเล็กซิสยกมือขึ้นทำท่าบิด มันแตกแล้วตกลงมา เพียงเท่านั้นเธอรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาไมเคิล แต่เพียงขยับก็เจ็บหน่วงที่ท้อง สุดท้ายกลั้นใจหยิบผ้าคลุมมาพันตัวแล้วเดินไปหาน้องชาย มันไม่ได้เจ็บมากนัก แต่แปลบ ๆ หน่วง ๆ เหมือนเวลาที่เธอเคยมีประจำเดือน“ไมเคิล” เธอจับแก้มที่มีแผลไหม้แล้วสงสารจับใจ ใบหน้าของเขาคือของขวัญล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็อยากจะถนอมดูแล แล้วดูตอนนี้สิ อเล็กซิสดึงเครื่องรัดออกแล้วสวมกอดคนที่นอนอยู่แน่นเพื่อให้เขาฟื้นตัว “ไมเคิล ตื่นสิ ไมเคิล”ชายหนุ่มส่งเสียงครางอือ ๆ เบา ๆ เธอถอนตัวขึ้นมาเพื่อรอให้เขาฟื้น เขาเริ่มขยับริมฝีปาก “รอ...”“ไม่ต้องรอ” เธอบอกพลางกุมมือเขาแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาเมื่อมองแฝดชายราวกับเห็นร่างของซีโน่ที่กำลังจะตาย “ตื่นขึ้นมา ฉันจะปกป้องนายเอง”เขากะพริบตาก่อนจะลืมตามอง ดวงตาสีฟ้าเข้มสบกับของเ

  • Undisclosure    แหกคุก

    มีกี่เรื่องที่ทำให้คนเราฝันร้าย แต่เมื่อตื่นเหมือนกับโผล่ขึ้นผิวน้ำปีศาจในความทรงจำล้วนมีมากหน้าหลายตา และกลุ่มแรกมีชื่อว่าคาเมรอนกับบรูซ ยังดีที่โชคยังเข้าข้าง ต่างกับตอนนี้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจใต้หน้ากาก หมดสิ้นอิสรภาพโดยสิ้นเชิงสติไปไหน เหตุใดจึงรู้สึกล่องลอย บางครั้งตื่นตัว บางครั้งไม่รู้สึกมันมากันเป็นกลุ่ม จับร่างของอเล็กซิสขึงเพื่อเอาบางสิ่งจากกาย หากขัดขืนดิ้นรนก็จะได้รับความเจ็บปวดสาหัสจนไม่อาจขยับได้ไปหลายนาที คงเป็นเพราะกายหยาบนี้ทนทานต่อยาสลบจึงตื่นเร็วเกินไป แต่ต่อให้ทนได้เพียงใดก็ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้พวกมันหยุดไม่เป็นผล แม้เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็ยังไม่ปล่อยอเล็กซิสกับไมเคิลไป พวกมันเอาขาหยั่งออกแล้วปล่อยให้ขาเธอนอนเหยียดยาวโดยมีเครื่องล็อกตรึงไว้ไม่ให้ขยับ“พวกแกต้องชดใช้” เสียงที่ตะโกนออกไปกลั่นออกมาจากความแค้นที่อยู่ลึกสุด แต่กลับฟังดูอ่อนแอเกินกว่าจะขู่ให้ผู้ใดกลัว ตรงกันข้ามกลับเรียกเสียงหัวเราะขำขันแทนเธอหันไปมอง

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status