หน้าหลัก / แฟนตาซี / Undisclosure / เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันหรือ?

แชร์

เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันหรือ?

ผู้เขียน: Jes/JinMingZin/Quendaya
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-12 13:26:42

“อเล็กซ์-ฟะ-ฟัง-ฉะ-ฉันนะ” เดวี่รีบดึงผ้าห่มมาคลุมตัว ดังนั้นจูนจึงต้องรีบกระโจนไปที่เสื้อผ้าของเธอเพื่อปกปิดร่างกายตัวเอง ดวงตาสีฮาเซลที่แสนหวานซึ้งของเดวี่คลอไปด้วยน้ำตาที่ออกมาจากความรู้สึกผิดเมื่อโดนจับได้ “ฉะ-ฉัน อธิบายได้” เสียงแหบเสน่ห์ของเขาตอนนี้กลับฟังแล้วเหมือนมีเสลดติดคอ ปากของเขาสั่นราวกับเป็นอาชญากรที่ถูกตำรวจอย่างอเล็กซิสบุกเข้าจับกุม ท่อนอกแน่นเปลือยเปล่ากลับเต็มไปด้วยรอยลิปสติกสีแดงของจูน แล้วยังมีรอยช้ำมากมาย อเล็กซิสพอจินตนาการออกว่าเขาได้มาอย่างไร เธอมองรอยลิปสติกบนใบหน้าของเขา พยายามยึดมือตัวเองไว้กับตัวเพื่อไม่ให้มันฝากรอยมือไว้บนหน้าหล่อ ๆ นั้น

น้ำตาค่อย ๆ ไหลอาบแก้ม เหมือนทุกอย่างช้าลงแม้แต่ระบบความคิดในหัว อเล็กซิสพยายามไม่ร้องไห้ออกมา แต่ดูเหมือนเขื่อนในลูกตาจะแตกออกเสียแล้ว พวกเขาทำแบบนี้ได้ยังไง แล้วทำไมมันเจ็บปวดถึงขนาดนี้ อเล็กซิสเคยคิดว่าชีวิตของเธอมาถึงจุดสูงสุด และจะดีกว่านี้ต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเดวี่ทำลายความรู้สึกนั้นลงอย่างย่อยยับ

ชีวิตที่เกือบสมบูรณ์ ใช่สิ มันแค่เกือบนี่นา

ตาของอเล็กซิสกับจูนสบกันจนได้ ไม่มีน้ำตา ไม่มีความรู้สึกผิด ไม่มีคำขอโทษอยู่ในนั้นแม้แต่น้อย สุดท้าย จูนเลือกที่จะยืนนิ่งแล้วหลบสายตาเพื่อนรัก จูนพยายามที่จะแต่งตัวให้เรียบร้อย ทำสีหน้าราวกับว่าอเล็กซิสกับเอโลดี้บุกเข้าห้องมาอย่างไร้มารยาท อเล็กซิสไม่ได้ยินอะไรเลยจนกระทั่งเอโลดี้พูดข้างหู

“อเล็กซ์อย่าเสียใจไปเลยนะ” จากนั้นเอโลดี้จ้องไปที่จูนแล้วด่าทออีกครั้ง “อีแรด! เธอทำแบบนี้ได้ยังไง ทั้งสองคนเลย”

“ขอโทษ ฉะ-ฉะ-ฉัน” เดวี่พยายามจะพูดออกมา เขากลายเป็นคนติดอ่างมาได้สักพักแล้ว

อเล็กซิสไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงอยู่ด้วยกันแบบนี้ ในเมื่อจูนไม่เคยสนใจเดวี่เลยสักนิด จูนฝันหวานอยากเดตกับผู้ชาย ไม่ใช่เด็กผู้ชาย ผู้ชายที่ดีพร้อมและไม่มีข้อติ แน่นอนว่าเดวี่อาจจะหล่อและฮอต แต่จูนชอบพูดว่าเดวี่เป็นเด็กน้อยเบบี๋โตแต่ตัว และใช่ เดวี่เป็นแค่เด็กหนุ่มขี้อายพูดน้อย เขาก็อีกคน เคยบอกว่ารักอเล็กซิส...รักในแบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน พวกเขาจะแก่ไปพร้อมกัน ใช้ชีวิตและทำตามความฝันไปร่วมกัน ทุกอย่างที่เขาสัญญาตั้งแต่จูบแรกจนถึงคืนงานพรอมพังหมดทุกอย่าง แน่สิ จูนสวยนี่นา สวยมาก เป็นคนที่สวยที่สุด...แล้วยังเป็นนังเพื่อนตัวแสบอีกด้วย

“นายรักจูนใช่ไหม บอกฉันมาสิ ถ้าพวกเธอรักกัน ฉันจะเดินออกเอง ไม่ ไม่ ฉันออกมาแล้ว” นั่นคือสิ่งเดียวที่เธอพอจะพูดออกมาได้...ถามพวกเขา ยอมแพ้ให้กับความรักของพวกเขา

“ไม่” เดวี่ตอบอย่างมั่นใจ ครั้งนี้คำพูดของเขาไม่ทรยศตัวเอง “ไม่นะ อเล็กซ์”

คำตอบของเดวี่เหมือนจุดชนวนความขัดแย้งให้กับจอมหักหลังทั้งสองคน ทั้งสองจ้องมองกันเอง และเป็นฝ่ายจูนที่โกรธ คำแรกที่เธอหลุดพูดออกมาคือ “ว่าไงนะ ‘ไม่’ งั้นเหรอ”

 “ไม่เอาน่าจูน เธอรู้ว่าทำไมเธอถึงอยู่ในห้องของฉัน”

“แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ในห้องของนายได้เล่า!”

“ก็ได้ ฉันจะปล่อยให้พวกเธอตกลงกันก็แล้วกัน” อเล็กซิสจับมือเอโลดี้ขณะที่เดวี่ดึงมือ

อเล็กซิสไม่ให้ไป

“ฉันขอโทษ ใช่ ฉะ ฉันเคยชอบจูนมาก่อน แต่มันนานมาแล้ว และตอนนี้ฉันรักเธอนะ รักเธอ อเล็กซ์ รักจริง ๆ” เขาประคองใบหน้าของแฟนสาว หวังว่าเธอจะเชื่อใจเขาอีกครั้งหนึ่ง “มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันทำให้เธอเสียใจ ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ให้อภัยเดวี่ของเธอนะ”

อเล็กซิสได้ยินเสียงเอโลดี้พยายามกลั้นไม่ให้หัวเราะใส่จูน แต่เอาเข้าจริงกลับไม่รู้สึกว่าตัวเองชนะเลยเมื่อถูกเลือก ตรงกันข้าม มันกลับเป็นความรู้สึกที่แย่มากเหมือนเธอเป็นสิ่งของ หากพิจารณาสภาพห้องของเดวี่ และรอยจูบบนตัวของเขาและจูน อเล็กซิสนึกสงสัยว่าพวกเขาทำแบบนี้ลับหลังเธอมากี่ครั้งแล้ว แถมเขายังบอกอีกว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ ใช่เหรอ

สิ่งที่เธอไม่เข้าใจที่สุดคือทำไมจูนทำแบบนี้กับเธอได้ พวกเธอเป็นเพื่อนรักกันมานานมาก ลึก ๆ แล้วอเล็กซิสคิดว่าจูนไม่เคยรู้สึกอะไรกับเดวี่เลย หรือเป็นเพราะว่า เดวี่กลายเป็นดาวเด่นกองกลางที่ทำให้ทีมฟุตบอลโรงเรียนได้ถ้วยรางวัล แถมยังเพิ่งได้ตำแหน่งราชางานพรอมพร้อมกับอเล็กซิสมาหมาด ๆ

แต่ทำไมจูนถึงมีพฤติกรรมแบบนี้ในเมื่อเธอก็รู้ว่าเดวี่เป็นแฟนของเพื่อนรักตัวเองไม่ใช่เหรอ อเล็กซิสคิดว่าจูนรักอเล็กซิสเหมือนที่เธอรักจูนเสียอีก

 “จูนยั่วนายเหรอ เดวี่” เอโลดี้ถาม ยังคงจ้องไปที่คู่ปรับของตัวเอง พวกเธอไม่เคยเป็นเพื่อนกันเลยแม้จะอยู่กลุ่มเดียวกัน และแม้ทั้งสองจะมีอเล็กซิสเป็นเพื่อนรักเหมือนกัน

“หุบปาก ใครถามความเห็นเธอไม่ทราบ” จูนคำรามใส่ ยังคงโมโหเดวี่อยู่

“มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันขอโทษ” เดวี่หันไปหาจูน “ฉันขอโทษ” แต่จูนไม่ยอมรับคำขอโทษของเขา

“นายมันห่วยจริง ๆ นายอยากนอนกับฉัน แอบมองฉันทีเผลอ จูบฉัน แล้วเรื่องเมื่อคืนล่ะ สุดท้ายแล้วไง นายบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ งั้นเหรอ ไอ้คนขี้ขลาด!”

เหมือนกับมีมีดเล่มใหญ่อีกด้ามแทงมิดเข้ากลางหัวใจเดี๋ยวนั้น อเล็กซิสต้องการคำตอบจากแฟนหนุ่ม

“ใช่ ฉันอยากรู้อยากลอง ฉันผิดเอง ฉันรู้ว่าเธอใช้ฉันเพื่อเอาคืนอเล็กซ์ ถ้าจะมีใครที่โง่และเห็นแก่ตัวก็คือฉันคนเดียว” เดวี่สารภาพเสียงอ่อน

“เดี๋ยวนะ ทำไมเธอต้องเอาคืนฉันด้วย” อเล็กซิสโพล่งออกไป เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่สำหรับเธอมาก “ทำไมเหรอจูน เกิดอะไรขึ้นกับพวกเรากันแน่” มือที่ถือของฝากสั่นระริกตามแรงโกรธที่พยายามเก็บไว้ข้างใน

เด็กสาวจ้องมองเข้าไปยังดวงตาของเพื่อน ครั้งนี้เห็นน้ำตาที่กำลังเอ่อ เป็นครั้งแรกที่

อเล็กซิสตระหนักแล้วว่า เธอไม่เคยเข้าใจจูนเลยแม้แต่น้อย

“อีนี่มันอิจฉาเธอ” เอโลดี้เปิดเผยความคิดของจูนให้เธอฟัง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Undisclosure    หยุดยั้ง

    “แต่คุณบอกว่ามันจะใช้คุณเป็นตัวประกัน” ไมเคิลเถียง“ใช่ ตัวฉัน เพียงแค่ร่างกายที่ยังมีลมหายใจ”อเล็กซิสเข่าอ่อนจนทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนสะอื้นลงกับตักหญิงสาว นาฮีมานาอาจไม่ใช่แม่ของกลุ่มเสี่ยง แต่เปรียบเหมือนกับผู้ใหญ่หรือไม่ก็พี่สาวที่พวกเขารู้สึกสบายใจเวลาเห็นเธอ เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางจิตใจ“แต่ว่า...ก่อนจะออกไป ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”เมื่อนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น นาฮีมานาจับมืออเล็กซิสกับไมเคิล“เผาทุกอย่างในนี้”ทั้งสองพยักหน้า“ถ้าเห็นอะไร ทำใจไว้นะ แต่ฉันคิดว่าอย่าปล่อยไปเลย พวกเขายังไม่รับรู้อะไรหรอก”ทว่าประโยคหลังนั้น ทั้งสองไม่เข้าใจ นาฮีมานาคะยั้นคะยอให้พวกเขาออกไปจากที่นี่อีกครั้ง มืออีกข้างหยิบปืนที่พวกนั้นทิ้งไว้ เธอพยักหน้าให้ทั้งสองเห็นว่าไม่เป็นไร“พวกเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ไปเถิด”“เหลืออีกห้านาที”นาฮีมานาไม่ต้องการให้พวกเขามอง หรือรับรู้ ทั้งสองจึงเดินออกไปหน้าลิฟต์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงได้ยิน

  • Undisclosure    จุดจบของผู้อยู่มานาน

    “พาตัวเธอมา” เธอหันไปสั่งเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง อเล็กซิสไม่มีวันรู้ไม่ถึงหนึ่งนาทีได้ คนของอาร์คาเดียจึงประคองนาฮีมานาออกมา เธออยู่ในสภาพอิดโรย ผมสีดำยุ่งเหยิง แก้มที่ตอบอยู่แล้วลึกลงไปราวกับผิวหนังปกคลุมเพียงโครงกระดูก เธอออกจากกลุ่มไปก่อน อเล็กซิสไม่รู้เลยว่าหญิงสาวโดนจับไปเมื่อไร“ได้โปรด เราพาเธอมาแล้ว”“เหลืออีกสิบนาที” พวกเขามองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเพราะกลัวหนีไม่ทัน“ทำไม ที่นี่จะระเบิดหรือ”พวกเขาส่ายหน้า ทั้งสองไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นนาฮีมานาพยักหน้าให้มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง อเล็กซิสจึงหันไปพยักหน้ากับไมเคิล เขาจึงบอกให้คนที่เหลือออกไป ทั้งหมดทิ้งอาวุธแล้วรีบวิ่งหนี บางคนแย่งกันออกไปจนมีเสียงโวยวายล้มลุกคลุกคลาน ส่วนพวกเขารีบไปประคองนาฮีมานาที่ถูกทิ้งลงกับพื้น“มานา...”หญิงสาวสบตากับทั้งสองแล้วยกมือจับแก้มคนทั้งคู่ เพียงสัมผัสอเล็กซิสกลับรู้สึกสบายตัว อากาศปวดตามตัวและที่หน่วงอยู่ในท้องก็อันตรธานหายไปทันใด เมื่อเธอมองไมเคิลจึงเห็นว่าบาดแผลบนใบหน้

  • Undisclosure    ไม่มีการต่อรอง

    “เหลืออีกยี่สิบนาที”สิ่งที่อเล็กซิสเกลียดที่สุดคือการไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น แม้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ลักพาตัว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวการเป็นใคร ทั้งสองยืนมองนักวิทยาศาสตร์วิ่งหนีออกจากตึกจากบานหน้ากระจกขนาดใหญ่บนชั้นลอยเปิดสู่โถงด้านล่าง ประตูทางออกนั้นไม่ได้เปิดออกไปแล้วเห็นด้านนอก แต่ไปยังลิฟต์ที่เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน โถงด้านล่างกินพื้นที่ถึงห้าชั้น มันกว้างใหญ่ พวกเขาวิ่งหนีขึ้นลิฟต์ บ้างแย่งกัน แต่เพราะจำนวนมีจำกัดจึงไม่อาจขนส่งคนออกไปได้ทันทีแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งหมดอยู่ใต้ดินขณะนั้นไมเคิลปรายตามองทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาไม่ได้สวมชุดทหารสีเทาแต่เป็นสีน้ำตาล ในมือถือปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่เล็งมาแต่ยังไม่ได้ยิง หรือพูดไม่ถูกคือไม่กล้ายิงเพราะกลัวผลโต้ตอบที่รุนแรงกว่า อีกกลุ่มคอยอพยพและจัดระเบียบ พวกเขามองขึ้นมาอย่างหวาดผวา ส่วนเธอกับไมเคิลมองลงไปด้วยสายตาว่างเปล่า“ปล่อยไปเถอะ เราต้องการเพียงมานา”อเล็กซิสไม่ได้ใจดี เธอแค่ไม่อยากเสียเวลาไมเคิลพยักหน้าแต่สายตายังจับจ้อง

  • Undisclosure    ทำลาย

    แม้สายตาจะคอยชำเลืองมองแฝดที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าประตูรอให้พวกมันเข้ามา อเล็กซิสใช้เวลานี้เรียกข้อมูลขึ้นมาเรื่อย ๆ นอกจากจะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของพวกเขาแล้ว พวกมันต้องการเซลล์ไข่ของเธอและสเปิร์มของแฝดเพื่อผสมเทียม สมมติฐานของคนพวกนี้นั่นคือ เธอและไมเคิลเป็นกลุ่มเสี่ยงคู่เดียวที่สามารถให้กำเนิดทายาทที่มีลักษณะพิเศษได้ เหมือนอย่างที่ลูก้าและเจมม่าเคยให้กำเนิดคนทั้งสอง เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงคนอื่นล้วนมีภาวะมีบุตรยากหรืออาจจะถึงขนาดไร้ประสิทธิภาพที่จะมีทายาทเลยก็ว่าได้เพื่ออะไร ผลิต...ผลิตกองทัพผู้มีพลังพิเศษด้วยตัวเองหรือปัญหาคือ เธออยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เอไลโตทั้งหมด หรือบางคน? ที่แน่ ๆ พวกมันใช้คาเรลที่สมควรถูกประหารชีวิตไปแล้วปลอมตัวเป็นไมเคิลมากหลอกเธอเสียงฝีเท้ามากมายมาเป็นโขยงโดยที่แฝดชายยืนรออยู่ อเล็กซิสถอยห่างจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“อยู่เฉย ๆ” คนข้างนอกตะโกนเข้ามา “อย่าขยับไม่อย่างนั้นพวกเราจำเป็นต้องยิง!”ชายหนุ่มผมเงินหัวเราะดูแคลนคนข้างนอก พริบตาเดียวเปลวเพลิงลุกโถมเข้าใส่ประตูด้านหน้า ทีมรักษาความป

  • Undisclosure    ละเลงเลือด

    ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งพร้อมกับสภาพเครื่องมือล้มระเนระนาด รวมทั้งจานที่บรรจุเซลล์ไข่แตกละเอียด เพียงเธอมอง ของเหลวในนั้นแห้งเหือดตรงมุมขวาของห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ อเล็กซิสยกมือขึ้นทำท่าบิด มันแตกแล้วตกลงมา เพียงเท่านั้นเธอรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาไมเคิล แต่เพียงขยับก็เจ็บหน่วงที่ท้อง สุดท้ายกลั้นใจหยิบผ้าคลุมมาพันตัวแล้วเดินไปหาน้องชาย มันไม่ได้เจ็บมากนัก แต่แปลบ ๆ หน่วง ๆ เหมือนเวลาที่เธอเคยมีประจำเดือน“ไมเคิล” เธอจับแก้มที่มีแผลไหม้แล้วสงสารจับใจ ใบหน้าของเขาคือของขวัญล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็อยากจะถนอมดูแล แล้วดูตอนนี้สิ อเล็กซิสดึงเครื่องรัดออกแล้วสวมกอดคนที่นอนอยู่แน่นเพื่อให้เขาฟื้นตัว “ไมเคิล ตื่นสิ ไมเคิล”ชายหนุ่มส่งเสียงครางอือ ๆ เบา ๆ เธอถอนตัวขึ้นมาเพื่อรอให้เขาฟื้น เขาเริ่มขยับริมฝีปาก “รอ...”“ไม่ต้องรอ” เธอบอกพลางกุมมือเขาแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาเมื่อมองแฝดชายราวกับเห็นร่างของซีโน่ที่กำลังจะตาย “ตื่นขึ้นมา ฉันจะปกป้องนายเอง”เขากะพริบตาก่อนจะลืมตามอง ดวงตาสีฟ้าเข้มสบกับของเ

  • Undisclosure    แหกคุก

    มีกี่เรื่องที่ทำให้คนเราฝันร้าย แต่เมื่อตื่นเหมือนกับโผล่ขึ้นผิวน้ำปีศาจในความทรงจำล้วนมีมากหน้าหลายตา และกลุ่มแรกมีชื่อว่าคาเมรอนกับบรูซ ยังดีที่โชคยังเข้าข้าง ต่างกับตอนนี้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจใต้หน้ากาก หมดสิ้นอิสรภาพโดยสิ้นเชิงสติไปไหน เหตุใดจึงรู้สึกล่องลอย บางครั้งตื่นตัว บางครั้งไม่รู้สึกมันมากันเป็นกลุ่ม จับร่างของอเล็กซิสขึงเพื่อเอาบางสิ่งจากกาย หากขัดขืนดิ้นรนก็จะได้รับความเจ็บปวดสาหัสจนไม่อาจขยับได้ไปหลายนาที คงเป็นเพราะกายหยาบนี้ทนทานต่อยาสลบจึงตื่นเร็วเกินไป แต่ต่อให้ทนได้เพียงใดก็ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้พวกมันหยุดไม่เป็นผล แม้เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็ยังไม่ปล่อยอเล็กซิสกับไมเคิลไป พวกมันเอาขาหยั่งออกแล้วปล่อยให้ขาเธอนอนเหยียดยาวโดยมีเครื่องล็อกตรึงไว้ไม่ให้ขยับ“พวกแกต้องชดใช้” เสียงที่ตะโกนออกไปกลั่นออกมาจากความแค้นที่อยู่ลึกสุด แต่กลับฟังดูอ่อนแอเกินกว่าจะขู่ให้ผู้ใดกลัว ตรงกันข้ามกลับเรียกเสียงหัวเราะขำขันแทนเธอหันไปมอง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status