ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน พอตื่นมาอีกทีรู้สึกถึงความมืดสลัว ๆ ครั้นขยี้ตาเพื่อปรับโฟกัสจึงรู้ว่านี่คือชั้นจอดรถที่ไหนสักที่
"เดี๋ยวนะ!?" กำลังจะเปิดลงจากรถเพราะคิดว่าเป็นคอนโดฯ ตัวเอง แต่พอมองบริเวณรอบ ๆ ชั้นจอดรถชั้นนี้แล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่
"นายพาฉันมาที่ไหนเนี่ย!" รีบหันไปแว้ด ๆ ใส่คนข้าง ๆ ที่นั่งใช้มือขวาวางพาดพวงมาลัยรถหันหน้ามองฉันกวน ๆ อยู่ก่อนแล้ว
"คอนโดฯ ไง"
ดูความกวนประสาทของหมอนี่แล้วกัน "กิล ฉันรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่คอนโดฯ ฉัน”
“ทั้ง สอง ที่" ฉันเน้นท้ายประโยคชัด ๆ อย่างหัวเสีย
นี่เหนื่อยนะ วันนี้ถ่ายแบบตั้งแต่เช้าจนบ่ายแก่ ๆ ข้าวก็กินไม่ค่อยลงเพราะยังแฮงค์อยู่ แถมยังต้องมาจิกกัดกับไอ้เพื่อนบ้าข้าง ๆ นี่อีก มันเหนื่อยมากบอกเลย
"ก็เธอบอกว่าที่ไหนก็ได้"
ถึงกับอ้าปากเหวอ ฉันพูดแบบนั้นจริง แต่ฉันหมายความว่า ให้เขาเลือกเอาคอนโดฯ ใดคอนโดฯ หนึ่งที่ฉันพักอยู่ "แล้วตกลงนายพาฉันมาที่ไหน"
สูดอากาศเข้าปอดลึก ๆ พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ปรี๊ดแตกไปมากกว่านี้แล้วถามเขา "ขึ้นไปเดี๋ยวก็รู้เอง"
แทนที่ถูกถามแล้วจะตอบ เสียมารยาทไม่พอ ยังเดินดุ่ม ๆ ตรงไปกดลิฟต์ที่อยู่ไม่กี่เมตรจากตรงที่เขาจอดรถไว้
มองเห็นสติ๊กเกอร์ตัวหนังสือขนาดใหญ่ติดอยู่ที่หน้าประตูลิฟต์
'V.I.P ONLY!!'
"นายพาฉันมาคอนโดฯ นายทำไม?"
หลังจากวิ่งตามกิเลนมาขึ้นลิฟต์ที่เขากดรอไว้เสร็จเลยเอ่ยถามเสียงขุ่น
ที่รู้ว่านี่คือคอนโดฯ ของกิเลนเพราะข้อความที่ติดอยู่หน้าลิฟต์
'สำหรับวีไอพีเท่านั้น' ถ้าหมอนี่ไม่ได้เช่าห้องอยู่ที่นี่คงใช้งานลิฟต์ตัวนี้ไม่ได้แน่ๆ
อ้อ สงสัยเหรอว่าเป็นเพื่อนกันทำไมจะไม่รู้ว่านี่คือคอนโดฯ เขาตั้งแต่แรก?
เพราะกิเลนชอบย้ายที่อยู่บ่อย ๆ ก่อนหน้าเขาอยู่นู้น... แถวดอนเมือง
แต่ไม่รู้ว่าย้ายมาอยู่ตรงนี้นานหรือยังเพราะฉันไม่ค่อยได้ขึ้นคอนโดฯ ใครบ่อย ๆ ยกเว้นคอนโดฯ เฮียราชย์ญาติตัวเอง
"สบายใจได้ ฉันไม่พาเธอมาต่อจากเมื่อคืนแน่นอน"
ดูปากหมอนี่เอาแล้วกันว่าเขาสมควรที่จะให้ฉันปรี๊ดแตกใส่หรือเปล่า
เพียะ!!
ไม่พูดแล้ว ขี้เกียจเปลืองน้ำลาย มือน้อย ๆ นี่แหละ ฟาดลงต้นแขนกำยำเขาซะเลย แต่เหมือนแรงฉันจะไม่สะทกสะท้านอะไรร่างกายหมอนี่เลยแฮะ
ดูดิ! มาทำเมินฉันอีก
"นี่นายพักบนหอคอยหรือไงเมื่อไหร่จะถึง"
หลังจากสงบศึกกันแล้ว ฉันก็ยืนมองตัวเลขที่เพิ่มขึ้น ๆ จนทนรอไม่ไหวเพราะไม่ถึงสักที เหนื่อยก็เหนื่อย ง่วงก็ง่วง แถมรู้สึกเหมือนจะวูบให้ได้ สงสัยจะหิวข้าว
ทำไมต้องพาฉันมาทรมานขนาดนี้นะไอ้เพื่อนบ้า! พาลแม่งเลย...
ถ้าไปส่งฉันที่คอนโดฯ ฉัน ป่านนี้ได้นอนพักเอาแรงไปหลายงีบแล้วเถอะ
ติ๊ง!!
ในที่สุดเสียงลิฟต์ก็เปิดจนได้ ฉันเงยหน้ามองตัวเลขสีแดงที่อยู่บนหัว ปรากฏว่านี่คือชั้น 35 จากห้าสิบชั้น
"ทำไมนายไม่พักชั้นบนสุดไปเลย" เหนื่อยไงเลยของพาลสักหน่อย
"อืม น่าคิดนะ บนสุดน่าจะวิวดี" รีบหันกลับไปกรอกตามองบนใส่กิเลนทันที
"ประชดเถอะ!" เผื่อสมองหมอนี่จะช้าจริงเลยบอกให้รู้ตัวไปตรง ๆ ซะเลย
"อ้าว นึกว่าแนะนำ" รอยยิ้มกวนประสาทผุดขึ้นเล็กน้อย
ฟู่... พอเถอะแยมโรล แกไม่สมควรที่จะคุยกับไอ้คุณเพื่อนกิเลนคนนี้ต่อไป
ถึงห้องเขาเมื่อไหร่ สิ่งที่ฉันจะทำอันดับแรกคือเข้าห้องนอนหมอนี่แล้วลงกลอนอย่างดีเพื่องีบสักงีบแล้วค่อยเฉดหัวเขาทิ้งแล้วกลับคอนโดฯ ตัวเอง
ไม่รู้ว่าฉันเผลอหลับในห้องของกิเลนไปนานแค่ไหน ตอนนี้เริ่มสะลึมสะลือรู้สึกตัวเพราะจมูกได้กลิ่นหอมของอะไรสักอย่าง
"อืม" สองจิตสองใจมากตอนนี้ว่าจะตื่นหรือนอนต่อเพราะมันทั้งง่วง แต่ท้องก็ดันมาร้องหิวเพราะไอ้เจ้ากลิ่นหอม ๆ นี่อีก
สวบ!! สุดท้ายจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอนเพราะทนเสียงร้องเรียกของน้ำย่อยในกระเพาะไม่ไหว
แกร๊ก... แอ๊ดดด
ครั้นเปิดประตูออกมา กลิ่นหอม ๆ ของกระเทียมที่ถูกทอดหรือผัดในน้ำมัน ยิ่งลอยมาเตะจมูกเข้าไปใหญ่
"ทำอะไรอะ?" ขาเรียวยาวก้าวเดินตามกลิ่นหอมของอาหารจนมาถึงห้องครัว
พ่อบ้าน ไม่สิ ก็แค่ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งหัวสีเงินสวมเสื้อยืดแขนยาวแล้วถลกพันครึ่งแขน บนตัวมีผ้ากันเปื้อนสีกรมท่าไม่มีลายสวมทับอยู่ ในมือซ้ายถือกระทะส่วนมือขวาถือตะหลิวกำลังผัดอะไรสักอย่างด้วยความคล่องแคล่ว
"ไหนบอกจะนอน นี่ยังไม่ถึงสิบนาทีเลย"
ฉันเอียงคอมองกิเลนอย่างสงสัยที่บอกว่าฉันเข้าไปงีบในห้องเขาทันทีที่มาถึงแต่ยังไม่ถึงสิบนาที
"ก็ใครใช้ให้นายมาทำกับข้าวตอนฉันนอนล่ะ!" หงุดหงิดอีกแล้ว นอนก็นอนไม่เต็มอิ่ม แถมยังจะมาถูกประชดจากไอ้เพื่อนบ้านี่อีก เหมือนหน้าแตกอะ เคยเป็นป้ะ?
"เอ้า อุตส่าห์จะทำให้กินโดนบ่นอีก งั้นเดี๋ยวเอาไปฝากพี่แต้วข้างห้องก็ได้"
ดูปากเขาสิ แค่ประชดนิด ๆ หน่อย ๆ ถึงกับจะเอาอาหารที่น่ากินนั่นไปให้สาวข้างห้อง
หงึก...เพียะ!!"อื้อ เจ๊!""ชู่..!"รีบค้อมหัวขอโทษคนที่นั่งข้าง ๆ ด้านหน้าและด้านหลังทันทีที่เผลอเสียมารยาทเสียงดังในโรงหนังถูกแล้วล่ะ ไอ้ประโยคสารภาพรักที่ได้ยินเมื่อกี้คือเสียงของพระเอกในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เจ๊เอมี่ลากฉันมาดูหลังจากที่เฮียราชันย์วางสายไปราว ๆ ชั่วโมงกว่า ๆ ฉันก็ได้รับสายจากเจ๊เอมี่เธอบอกว่าวันนี้มีหนังที่เธอชอบเข้าโรงฯ เป็นวันแรกและเธออยากไปดูมาก ๆ เลยโทรมาชวนฉัน ตอนแรกก็ปฏิเสธแหละเพราะสภาพฉันตอนนี้เหมือนศพเดินได้ให้ออกไปเจอผู้คนเขาคงวิ่งหนีนึกว่าซอมบีบุกแต่สุดท้ายก็ปฏิเสธเจ๊เธอไม่ลงเมื่อเจ๊เอมี่บอกเหตุผลว่าเธอถูกแฟนคนปัจจุบันบอกเลิกไป ไม่อยากอุดอู้อยู่คนเดียวในห้องเกรงว่าจะคิดสั้นขึ้นมาเฮ้อ..! รู้ทั้งรู้แหละว่านิสัยผู้จัดการส่วนตัวฉันคนนี้ไม่บ้าพอที่จะทำแบบนั้นแต่ก็ไม่อยากปฏิเสธแกเลยยอมรับปาก นี่ยังดีที่เจ๊แกเห็นใจคนไม่ได้หลับได้นอนนัดดูรอบห้าโมงเย็นเลยพอมีเวลางีบยาว"หาวววว" ขนาดว่านอนตั้งแต่เก้าโมงจนสี่โมงเย็นตอนนี้ฉันยังง่วงอยู่เลย"เสียมารยาท มาหาวนอนในโรงหนังต่อหน้าเรื่องที่เจ๊ชอบได้ยังไง" เจ๊เอมี่ว่าให้พร้อมตาที่จิกกัด "ก็มันง่วงน่ะเจ๊""ทำตัวเหมือนค
กริ๊งงงงง เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้นเหมือนเรียกสติฉันยังคงฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งปล่อยให้น้ำใส ๆ ไหลออกมาให้พอใจกริ๊งงง...เป็นอีกครั้งที่โทรศัพท์เครื่องเดิมดังขึ้น ฉันตัดสินใจใช้มือปาดน้ำตาออกลวก ๆ หอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดอึกใหญ่ เทสเสียงตัวเองให้ดูเป็นปกติ ก่อนจะเดินไปยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา[อยู่ห้อง?]เฮียราชันย์เป็นคนโทรเข้ามา แต่นี่มันเช้าไปหรือเปล่าเพราะเพิ่งจะเจ็ดโมงเอง"ค่ะ" พยายามไม่ให้โดนจับได้ว่าตอนนี้ฉันไม่ปกติ[เมื่อคืนเรียกทั้งคืนนึกว่าไม่อยู่]อา จะตอบยังไงดี "เฮียมาตอนที่ออกไปกินมื้อดึกกับลูกหว้าหรือเปล่า"อ้างเพื่อนเอาหน้ารอดสินะ[คงงั้น แล้วกับทำไมไม่บอกว่ากลับ กระเป๋า รถ ก็ทิ้งไว้ที่นี่]ที่นี่? อ้อ เฮียราชันย์คงหมายถึงที่เอ็กซ์ซีดสตรีท สนามแข่งที่เราไปเมื่อคืน"อ้อ ลูกหว้ามารับน่ะ เลยรีบไปหน่อย งอนใครบางคนแถวนี้ด้วยแหละ"แต่งเป็นเรื่องเป็นราวเชียวนะฉัน[ไม่มีอะไรหรอก โดนเด็กมันหลอกมา แต่จัดหนักให้แล้ว โดยเฉพาะพี่ชายมัน]จึก! ฉันกัดปากจนเจ็บจี๊ดเด็กที่เฮียราชันย์พูดถึงคงไม่พ้นคนชื่อทิว ส่วนพี่หมอนั่นก็คงไม่พ้นคนชั่วที่มันมอมเหล้าและใส่ยานรกนั่นให้ฉันกินว่าแต่...
"รีบ ไส หัว ออก ไป จาก ห้อง ฉัน" เสียงกดต่ำที่ฟังดูก็รู้ว่าตอนนี้เธอระงับอารมณ์เดือดไว้มากแค่ไหนเอ่ยส่งมา"โทษทีว่ะ" ผมส่ายหน้าก่อนเอ่ยต่อ "นี่มันห้องฉัน"มือกอดอกทำหน้ากวนบาทาใส่เล็กน้อย ปรายสายตามองไปทั่วห้องเพื่อสำทับคำพูดตัวเองว่าเป็นเรื่องจริง แยมโรลอาจจะจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เพราะเมามากบวกกับฤทธิ์ยานรกนั่นเลยคิดว่าเธออยู่ห้องของตัวเอง"งั้นฉันไปเอง" ร่างบางเตรียมหันหลังเดินไปทางห้องน้ำ แต่ปากผมมันไวกว่าเลยพูดรั้งเธอไว้ "จะออกไปชุดไหน? เมื่อคืนเราร้อนแรงกันจนเสื้อผ้าเธอ..."ผมหยุดคำพูดไว้ก่อนจะปรายตามองไปยังเสื้อผ้าที่แทบจะกลายเป็นเศษผ้าจากฝีมือผม "ห้องฉันขึ้นไปแค่สองชั้น คงไม่ตายถ้าจะใส่ชุดของนายก่อน"นี่แหละผู้หญิงที่ชื่อแยมโรลที่ผมรู้จัก เธอยอมหักแต่ไม่ยอมงอกล้าได้กล้าทำ แล้วสุดท้ายเรื่องคืนนี้ก็จะจบด้วยการเป็นความลับตลอดกาลของเราสองคน"เอาสิ อยากได้ตัวไหนเชิญเลือกเลย""เสื้อ 'ผัว' เมียอย่างเธอมีสิทธิ์ทุกตัว"ผมนั่งกลั้นขำเมื่อคนตรงหน้าอยากจะระเบิดเสียงกรีดร้องออกมาแต่กักกันไว้ก่อนเท้าน้อย ๆ จะกระทืบลงพื้นเสียงดังหนึ่งทีแล้วหนีเข้าห้องน้ำไปผมนอนพิงหัวเตียงอยู่ที่เดิมพลางคิด
"เลว!" คำทักทายแรกของเช้าวันนี้"ใคร?" ผมเลิกคิ้วถามพร้อมหันไปประจันหน้ากับเจ้าของฝ่ามือนั้น"ต้องให้บอก?" แยมโรลหน้าแดงก่ำ ผมเห็นตาเธอแดงด้วยนี่ไม่รู้ว่าตื่นก่อนผมนานแค่ไหน แต่เดาว่าน่าจะไม่นานเท่าไหร่เพราะไม่งั้นผมคงไม่ได้เจอหน้าเธอแบบนี้ "เธอเริ่มก่อน"เพียะ!! หน้าผมสั่นเล็กน้อยเมื่อฝ่ามือที่มีนิ้วทั้งห้าอันเป็นองค์ประกอบประทับลงแก้มขวาอีกข้างอย่างแรง"นายมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย" เสียงเธอสั่น คงกำลังเก็บอาการบอกแล้วว่าแยมโรลฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอไม่ยอมให้ผมเห็นด้านอ่อนแอหลังจากเจอเรื่องเมื่อคืนแน่นอน"ใช่ไม่ใช่ เมื่อคืนเธอก็พิสูจน์มันไปแล้ว"หมับ..."สองครั้งก็เกินพอ อย่าคิดว่าใจดีด้วย ที่ให้ตบเมื่อกี้เพราะอยากให้ระบายออกมา ไม่ใช่ยอม" ผมพูดด้วยโทนเสียงค่อนข้างเย็นชาและเยือกเย็นเมื่อกี้ให้ตบไปฟรี ๆ สองทีก็มากเกินแล้วแต่ถ้ามีครั้งที่สามสงสัยผมต้องหาอะไรมาตอบแทนความเจ็บนั้นแล้วล่ะ"ปล่อย! แล้วจะไปตายที่ไหนก็เชิญ!"อา... คนอะไรวะตื่นมาเป็นตบ นั่งสงบแล้วกลับไล่ให้ไปตายนี่ผัวนะเว้ย! ผัวสด ๆ ร้อน ๆ ทำไมเขี่ยกันทิ้งง่ายขนาดนี้วะ"ยังจะนั่งบื้อทำซากอะไร ออกไปได้แล้ว!"ผมเ
พับ พับ พับผมรู้ว่าท่านี้มันทั้งลึก และจุกแน่น แต่ก็ซ่านเสียวจนทนไม่ไหว แยมโรลส่งเสียงครางครั้งแล้วครั้งเล่าจนผมคุมสติตัวเองไม่อยู่ จับขาอีกข้างเธอมาแนบลำตัว จับยึดสะโพกหนาให้มั่นแล้วใส่แรงขยับไม่ยั้ง"อ๊ะ อ๊ะ อ้า"มือบางสวมกอดรอบคอ ใบหน้าฟุบลงบนไหล่กว้างเพื่อป้องกันตัวเองจะหล่นแรงจนับของผมยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง หน้าอกทั้งสองข้างกระเพื่อมชนแผงอกแกร่งผมจนมังกรแข็งสุดระดับ"ซี้ดดด เป็นแมวหรือไง" ความแสบแล่นวาบบนต้นคอเมื่อเล็บทั้งหาข่วนไม่ยั้งยิ่งเจ็บอารมณ์ยิ่งมา ผมสอบสะโพกอย่างถี่รัว ก้มลงดูดซอกคอขาวเนียนจนเป็นจ้ำแดง ๆ สอบสะโพกอีกสองสามทีทั้งผมและเธอก็ปลดปล่อยสายธารมหาศาลออกมาพร้อมกัน"กรี๊ดดดด / อา"แยมโรลทิ้งน้ำหนักตัวมาที่ผมเต็ม ๆ ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ากระทบเนินไหปลาร้าผมด้วยระดับถี่เร็ว"พอหรือยัง" ผมกระซิบถามข้างใบหู แต่ไร้ซึ่งคำตอบ ได้กลับมาแค่ความแสบบนปีกไหล่ทั้งสองข้างจากแมวน้อยตัวนี้"ล้างตัวมั้ย?" เห็นลมหายใจเธอเริ่มปกติจึงเอ่ยถาม"..." และเป็นอีกครั้งที่คนถูกถามเงียบกลับมาผมเริ่มจะเข้าใจว่าตอนนี้ฤทธิ์ยาน่าจะเริ่มคลายตัวแล้ว และคนตัวเล็กคงจะหมดแรง "งั้นก็ไปนอนบนเตียง เดี๋ยวเช
KILEN'S PARTฉวยโอกาสไหมนาทีนี้ผมไม่สนแล้ว ก็ใครบอกให้เธอมายั่วผมก่อนเองล่ะ คนนะครับไม่ใช่แท่งปูนที่จะไม่รู้สึกอะไรเมื่อมีร่างเปลือยเปล่าน่าขยี้มาคร่อมขี่บนตักแบบนี้กึก.."อื้อ" รวดเร็วราวฟ้าฟาดเมื่อน้องชายผมที่ปวดตุบค่อย ๆ เข้าไปสำรวจด้านในที่พร้อมรบแล้วครึ่งหนึ่ง"เธอยั่วฉันเองนะ แยมโรล" ปากผมพร่ำบอกเธอ พร้อมกับควบคุมอารมณ์ดิบเถื่อนที่เวลามีเซ็กซ์แล้วผมจะปลดปล่อยมันออกมา"อื้อ" เสียงครางน่ารักชวนสยิวดังขึ้น และผมจะถือว่านั่นคือคำตอบว่าเธออนุญาตผมแล้วสวบ สวบ...ผมเริ่มขยับส่วนนั้นที่แข็งจนปวดไปมาเล็กน้อย แยมโรลเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดเพราะนี่คือครั้งแรกของเธอหมับ..."อืม" ผมคว้าใบหน้าสวยเข้ามาใกล้ก่อนจะประกบจูบหลอกล่อให้เธอลืมความเจ็บแสบด้านล่าง ค่อย ๆ หมุนควงมังกรที่โตเต็มที่เข้าออกช้า ๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมอเพื่อให้ส่วนนั้นคุ้นชิน"อื้อ"ฉิบหาย! เจ็บเป็นบ้า เมื่อเล็บยาว ๆ ทั้งจิกทั้งข่วนแผ่นหลังผมตอนที่เผลอสอบสะโพกแรงไปหน่อยสวบ สวบ สวบเมื่อเครื่องเริ่มร้อน ทุกอย่างเริ่มเข้าที่ผมจึงเร่งความเร็วขึ้นมาอีกสองระดับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องทั่วห้องน้ำ หน้าอกเต่งตึง ยอดอกชูชันสีสวยทำผม