รอบที่สิบแล้วละ เอสดูเงินในบัญชีเกือบสามพันล้าน เขากลัวว่าพอไปถึงแล้วเงินจหายไป กลัวว่าเขาจะดูผิด เมื่อวันก่อนเขายังเป็น คนเก็บตัวเล่นเกมหาเงินประทังชีวิตไปวัน ๆ แต่ตอนนี้เขาเรียกตัวเองว่าเศรษฐีได้เลย
วันนี้ระบบอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นใหม่คงใช้เวลานาน นอกจากดูรถแล้ววันนี้กะว่าจะไปหาซื้อบ้านอยู่สักหลัง ยุคนี้คนนิยมบ้านไฮเทค มีระบบความปลอดภัยสูง ส่วนใหญ่จะเป็นเหมือนคอนโด แต่มีความพิเศษคือสามารถป้องกันนิวเคลียร์ได้ ใช่แล้วเป็นเชฟเฮาส์ดี ๆ นี้เอง ผ่านไปเกือบสิบนาทีรถแท็กซี่ก็มาจอดที่หน้าร้าน RC SPORT ที่นี้ตกแต่งหรูหรา ร้านขนาดใหญ่ ผนังเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นรถสวย ๆ ด้านใน กับสาวสวยที่ให้บริการเป็นพิเศษ บอกตามตรงรถกับสาวมันดึงดูดจริง ๆ เมื่อก่อนก็คงได้แต่ฝันเท่านั้น เห็นคนอื่นมีรถมีสาว มีเงินก็ได้แต่ตัดพ้อ และพยายามหนีจากตรงนั้น และบอกตัวเองว่า เราอยู่คนเดียวใช้ชีวิตแบบนี้ก็ได้ แต่ตอนนี้ไม่คิดแบบนั้นอีกแล้ว “สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่ RC SPORT” พนักงานสาวเดินมาทักทายตามมารยาท ด้วยรอยยิ้มสุดสวย “คุณลูกค้าต้องการให้ช่วยอะไรไหมคะ?” เอสมองพนักงานจะลืมคำพูดตัวเอง เพราะเธอสวยจริง ๆ คนที่จะทำงานที่นี้ได้ต้องสวยเท่านั้น เคยได้ยินอยู่บ้ง “....เอ่อ...โทษที่ผม” “พี่เอสหรอ...?” ทันใดนั้นเสียงใสของอีกคนก็ดังมาจากด้านข้าง เสียงนี้คุ้นหูมากจนต้องหันไปมอง ใบหน้าหวาน ๆ ปากเล็กอมชมพู ปัดแก้มอ่อน ๆ ดวงตากลมโตคิ้วโค้งสวยเข้ากับหุ่นเพรียวสูง สัดส่วนแบบนี้ทำเอาผู้ชายหลายคนถูกสะกดในทันที หนึ่งในนั้นคือเอส เพราะเธอสวยมาก มากกว่าตอนถ่ายทอดสดอีก ตอนเรียนยังไม่สวย แถมเป็นสาวเฉิ่มอีกด้วย “มินนี่หรอ...แทบจำไม่ได้เลย เธอสวยขึ้นมากเลยนะ” มินนี่ยิ้มร่าก่อนจะตอบ “ก็เหมือนเดิม ว่าแต่พี่เอสทำอะไรอยู่ทำไมหน้าตาเป็นแบบนี้ กินข้าวบ้างไหมเนี่ย” เธอสำรวจร่างกายของเขา เธอมักจะเป็นห่วงเวลาที่เจอกันตอนเรียนก็ชอบเป็นหวง แต่ตอนนั้นคบกับคนอื่นเลยไม่คิดอะไร แถมยังถูกห้ามให้เข้าใกล้มินนี่อีก เอสจึงไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรนอกจากพี่น้อง แม้จะรู้ว่าเธอชอบตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดนอกใจ ทว่าตอนนี้ถ้าย้อนกลับไปได้จะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่ ช่างเถอะตอนนี้เธอคงมีแฟนไปแล้ว “ไม่ต้องเป็นห่วง ช่วงนี้ทำงานหนักไปหน่อย” “ทำไมมาคนเดียว แล้วแฟนพี่ไปไหนหรอ” เธอมองหาแฟนของเขา เพราะปกติตัวติดกันตลอด “เลิกไปแล้ว” เอสพูดเสียงเบา เพราะไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน ตั้งแต่เธอเข้ามาพนันคนแรกที่เห็นก็หันหน้าหนีไปรับลูกค้าคนอื่น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ “จริงเหรอ...ก็ดีแล้ว” เธอยิ้มเหมือนเป็นเรื่องดีสำหรับเธอเลย “พี่เอสตอนนี้หนูไม่ว่างด้วยสิ เพราะรอลูกค้ามาซื้อรถ” เธอดูนาฬิกาข้อมือเพราะเลยเวลาพักเที่ยงมาแล้วแต่คนที่จะมาก็ยังไม่มา แต่เธอต้องรอต่อไป “ ถ้างั้นคืนนี้ไปดืมกันไหมค่ะ อยากคุยเรื่องต่าง ๆ กับพี่ดวย” “เออ...ลูกค้าคนที่จะมาซื้อรถคือ...” “อ้าว...นึกว่าใครที่แท้ก็นายเองเหรอเนี่ย มาทำอะไรที่นี่เหรอ” มีสิงคนเดินเข้าประตูมา ทั้งสองตัวติดกันเป็นตังเมเลย จรมินนี่แอบมากระซิบว่า “เหมือนเห็นตอนที่พี่คบกับเธอเย ตัวติดกันแบบนี้ แฮ่ ๆ” ก็คงใช่แหละ ตอนนั้นอะไรก็ดีเพราะยังเป็นวัยรุ่น มีเงินกินมาม่าก็มีความสุข แต่ตอนนี้ทุกอย่างต้องเอาหน้าตาในสังคมมาก่อน สองคือการงาน ไม่งั้นคงไม่มีใครอยากคบหา “เอะ นี่เธอคือยัยเฉิ่มคนนั้นเหรอ ไปทำศัลยกรรมมาเหรอหน้าเปลี่ยนไปเยอะ ก็เนอะไม่สวยต้องพยายามให้มาก” “หรือว่ารู้ข่าวฉันทิ้งเอสเลยอยากได้เขา เธอคงไม่ตาต่ำแบบนั้นใช่ไหม หึ ๆ" เธอพูดพลางถูไถต้นแขนของแฟนหนุ่ม ไม่อายคนอื่นบ้างเลย “เธอไม่ควรพูดแบบนี้นะ มีสิทธิ์อะไรมาว่าคนอื่น” เอสสวนกลับเพราะทนไม่ได้ อีกอย่างมินนี่เป็นพนักงานที่นี่ ก็ต้องทนรับอย่างเดียวไม่กล้าทำให้ลูกค้าไม่พอใจแน่ เพราะถ้าถูกร้องเรียนก็ต้องออกจากงานอีก “ทำไม! มีปัญหาเหรอ พวกเราเป็นลูกค้านะ” เอ็มแฟนหนุ่มของวิภาดา เขาพูดด้วยสายตาจับจ้องไปทางมินนี่ สายตาหยาดเยิ้มจนวิภาดาต้องกระตุกแขนแรง ๆ เพื่อดึงสติเขา “ลูกค้าก็ไม่ควรพูดจาแบบนี้ ทำไมคิดว่าตัวเองพิเศษกว่าคนอื่นเหรอ” “พี่เอสพอก่อน เดี๋ยวเป็นเรื่อง” หลังจากฟังทั้งสองปล่อยคำพูดใส่กันดูเหมือนเรื่องจะวุ่นวาย เธอจึงห้ามเอาไว้ ก็ไม่คิดด้วยว่ารุ่นพี่ที่ยอมคนอื่นมาตลอดจะสู้กลับแบบนี้ “ฟังที่เธอพูดดี ๆ ไม่งั้นทั้งสองคนอย่าหวังว่าจะมีงานทำตลอดชีวิต โดยเฉพาะเธอรู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นใคร” “ขอโทษจริง ๆ ค่ะ คุณลูกค้าคงไม่ถือสา...” “ไม่เป็นไรครับ สำหรับน้องพี่ไม่ถือสา แค่มาดื่มกับพวกพี่คืนนี้เรื่องวันนี้ก็จบ” ท่าทีของมินนี่ทำให้เอ็มได้ใจ อยากจะได้มากกว่านี้ สำหรับพนักงานแล้วสิ่งที่กลัวที่สุดคือตกงาน โดยเฉพาะงานที่ได้เงินเดือนห้าหมื่นต่อเดือนแบบนี้ “พี่เอ็มอย่าแม้แต่จะคิด...” “ดาอย่าเรื่องมากสิ” คำพูดของวิภาดาไม่มีผลอะไร เธอเป็นแค่ของเล่นสำหรับเอ็มเท่านั้น “ว่าไงคิดดี ๆ นะ น้องคงไม่อยากตกงานใช่ไหม” มินนี่กำหมัดแน่น จะทำอะไรได้เพราะเธอแก้ต่างอะไรไม่ได้ ถ้าผู้จัดการรู้เรื่องต้องโทษเธอแน่ แต่ถ้าทำตามเธอคงไม่รอดแน่ ทั้งที่ระมัดระวังตัวอยู่ตลอดแท้ ๆ “คือว่า...” “ อย่าไปสนใจเลย” เอสจับมือเธอไว้ ตอนนี้เธอคงกลัวมาแน่ ๆ แม้จะทำหน้าไร้กังวลออกมา มินนี่ได้สติเธอใจเต้นแรงเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกจับมือ แต่ต่อจากนี้งานของเธอจะเป็นยังไง “พี่เอสไม่ต้องห่วง หนูไม่เป็นไรค่ะ” เธอฝืนยิ้มอย่างมืออาชีพ งานแบบนี้จะให้คนรู้ความรู้สึกไม่ได้สินะ “คำพูดของพวกเธอ อย่าไปฟัง ฉันเองก็เป็นลูกค้า จะเป็นพยานให้เอง” “ว่าไงนะ ฉันฟังผิดไปหรือเปล่า” “ไม่คิดว่านายจะอยากช่วยเธอจนต้องพูดแบบนี้ ฉันผิดหวังจริง ๆ ที่เคยคบกับนาย” “แกคิดว่าตัวเองจะเป็นลูกค้าของที่นี่เหรอ ฝันอยู่หรือเปล่า หัดส่องกระจกดูตัวเองหน่อย" เอ็มเดินมายืนต่อหน้าเอส ก่อนจะจับปกเสื้อสูทของเขาดูตั้งแต่หัวจรดศีรษะ ก่อนจะพูดต่อ “ดูตัวเองสิ ว่าคู่ควรกับที่นี่หรือเปล่า ไอ้กระจอก” เอสได้แต่ยิ้มในใจ ถ้าเป็นเมื่อสองวันก่อนคงจะแบบนั้น แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว “ทำไม เป็นฉันไม่ได้เลยเหรอ อย่าตัดสินคนอื่นจากเมื่อวันก่อนสิ บางทีนายอาจจะหน้าแตกก็ได้นะ” เอสไม่คิดจะยอมอ่อนให้ เขาไม่ใช่คนแบบนั้นอีกแล้ว “กล้าดีนะ ถ้างั้นฉันอยากจะรู้ว่าแกจะมีปัญญาซื้อล้อรถของที่นี่หรือเปล่า" “จัดการเลยพี่เอ็ม อวดดีแบบนี้ก็สมแล้วที่เป็นได้แค่ไอ้ขี้แพ้" วิภาดาเข้ามาแนบชิดแฟนหนุ่มอีกครั้ง เหมือนกลัวว่าเขาจะหายไป ก่อนจะหันไปเรียกพนักงานคนแรกที่ทักทายเอส “รบกวน ทางนี้หน่อยค่ะ” เมื่อเรื่องยุ่งขนาดนี้มินนี่จึงไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ถ้าเกิดว่าพวกเขาทำให้เอสถูกชาวเน็ตทัวร์ลงคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้แน่ สังคมตอนนี้มันโหดร้ายแค่ไหนใครไม่รู้บ้าง “พี่เอส...พอเถอะเดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องนี้หนูจัดการเองพี่กลับไปก่อนนะ” “มินนี่ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวจัดการให้เอง” “พี่...พวกเขาเป็นใครพี่ก็รู้ เชื่อหนูนะ” สีหน้าร้อนรนของมินนี่ทำให้พวกนั้นได้ใจ คิดว่าเรื่องนี้พวกเขาจะต้องได้รับคำขอโทษที่สมน้ำสมเนื้อแน่ ๆ “อย่าหนีสิ แค่นี้ก็ไม่เหลือหน้าให้อายแล้วนะ” “เห็นแกวันเก่า ๆ ถ้าแกอยากให้เราปล่อยไปก็คุกเข่าขอโทษสิ เดี๋ยวจะถ่ายเก็บไว้เตือนคนอื่นด้วย” เอสยังคงนิ่ง ทำให้ทั้งสองไม่พอใจจึงเรียกพนักงานอีกคนมาจัดการ ทันทีที่เห็นเรื่องราว และ ได้ฟังจากปากของเอ็มกับวิภาดา พนักงานสาวคนนั้นยิ่งเกลียดคนจนเป็นทุนเดิม และรู้ว่าเอ็มคือใครก็เต็มใจช่วยทันที “ก็คิดอยู่แล้วว่าคนแบบนี้เหรอจะมาที่นี่เพื่อซื้อรถ ที่แท้ก็คนรู้จักของเธอเหรอมินนี่" แอน พนักงานที่ชอบชิงดีชิงเด่นกับมินนี่พูดเสียงดัง จนพนักงานทุกคน และลูกค้าที่กำลังขอคำปรึกษาที่ล๊อบบี้ต่างมองมาที่พวกเธออยู่ “เธอก็รู้ว่าพาคนรู้จักมาเดินเล่นแบบนี้ไม่ได้ เธอคงอยากโดนไล่ออกสินะ” เมื่อได้ยินแบบนั้น คนที่ให้ความสนใจต่างพากันมุงดู แถมยังถ่ายวิดีโออัพลงแอปฟ้า แอปดำเพื่อให้คนอื่นดู “ก่อนอื่น ผมเป็นลูกค้าเหมือนกัน และขอความเป็นส่วนตัวด้วยครับ พวกคุณกำลังล้ำความเป็นส่วนตัวผมอยู่ ถ้าไม่อยากโดนฟ้องก็เก็บมือถือไว้ด้วย" “เป็นแค่ขอทานยังคิดว่าจะเป็นลูกค้าที่นี่เหรอ” “พนักงานทำอะไรอยู่จับมันออกไปสิ" พนักงานสาวคนนั้นก็รู้เรื่องดีจึงได้แต่ยิ้ม และขอให้ทุกคนอย่าถ่ายวิดีโอให้ติดหน้าเขา เพราะเธอจะให้เฉลยตอนที่ไล่เอสออกไปตอนสุดท้าย “ถ้างั้นเรามาดูกันว่านายจะเป็นลูกค้าจริงหรือเปล่า” “ได้สิ...กลัวซะทีไหน"รอบที่สิบแล้วละ เอสดูเงินในบัญชีเกือบสามพันล้าน เขากลัวว่าพอไปถึงแล้วเงินจหายไป กลัวว่าเขาจะดูผิด เมื่อวันก่อนเขายังเป็น คนเก็บตัวเล่นเกมหาเงินประทังชีวิตไปวัน ๆ แต่ตอนนี้เขาเรียกตัวเองว่าเศรษฐีได้เลยวันนี้ระบบอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นใหม่คงใช้เวลานาน นอกจากดูรถแล้ววันนี้กะว่าจะไปหาซื้อบ้านอยู่สักหลัง ยุคนี้คนนิยมบ้านไฮเทค มีระบบความปลอดภัยสูง ส่วนใหญ่จะเป็นเหมือนคอนโด แต่มีความพิเศษคือสามารถป้องกันนิวเคลียร์ได้ ใช่แล้วเป็นเชฟเฮาส์ดี ๆ นี้เองผ่านไปเกือบสิบนาทีรถแท็กซี่ก็มาจอดที่หน้าร้าน RC SPORT ที่นี้ตกแต่งหรูหรา ร้านขนาดใหญ่ ผนังเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นรถสวย ๆ ด้านใน กับสาวสวยที่ให้บริการเป็นพิเศษ บอกตามตรงรถกับสาวมันดึงดูดจริง ๆ เมื่อก่อนก็คงได้แต่ฝันเท่านั้น เห็นคนอื่นมีรถมีสาว มีเงินก็ได้แต่ตัดพ้อ และพยายามหนีจากตรงนั้น และบอกตัวเองว่า เราอยู่คนเดียวใช้ชีวิตแบบนี้ก็ได้ แต่ตอนนี้ไม่คิดแบบนั้นอีกแล้ว“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่ RC SPORT” พนักงานสาวเดินมาทักทายตามมารยาท ด้วยรอยยิ้มสุดสวย “คุณลูกค้าต้องการให้ช่วยอะไรไหมคะ?”เอสมองพนักงานจะลืมคำพูดตัวเอง เพราะเธอสวยจริง ๆ คนที่จะทำงานที่
ตอนนี้เรื่องไปกันใหญ่แล้ว ทำไมคนพวกนี้ถึงสมองช้าแบบนี้ โดยเฉพาะเธอที่ปากจัด ไม่ตรวจสอบความจริงก่อนทำอะไร เดี๋ยวก็หน้าแตกที่หลัง“ผมว่าอย่าด่วนตัดสินใจเลยนะครับ เพราะนามบัตรนี้เป็นของจริง คุณน่าจะรู้นะว่าหมายถึงอะไร”“อย่ามาพูดดีเลย นายคงขโมยมา หรือไม่ก็เก็บได้สินะ เพราะดูจากตัวของนาย....” เธอมองตั้งแต่หัวจรดศรีษะ ก่อนจะเบะปากใส่ “แม้แต่ พนักงานล้างส้วมยังไม่คู่ควร” “จะยืนบื้ออยู่ทำไม ลากตัวออกไป”“ครับ”รปภ สองคนกำลังเดินมาจับตัวคนออกไป แต่แล้วพนักงานคนสวยอีกคนก็เข้ามาขวาง เธอเอาตัวมาบังเอาไว้“ ไม่ได้นะ ยังไงเขาก็เป็นลูกค้าก็ควรต้อนรับสิ ส่วนเรื่องนัดเจอกันท่านประธานก็ให้ท่านตัดสินใจเอง” เธอพูดอย่างกล้าหาญ ทว่าฝ่ามือของรุ่นพี่ก็ง้างจะตบเธอเช่นกัน ตอนนี้เธอต้องโดนสินะ สำหรับที่นี่ใครไม่รู้ว่ารุ่นพี่เธอยิ่งใหญ่แค่ไหนถ้าเทียบกับเด็กใหม่อย่างฟ้า เธอเตรียมใจจะถูกตบแล้ว แต่ยังไม่รู้สึกเจ็บจึงลืมตาขึ้นมาดู เป็นลูกค้าที่หยุดมือเอาไว้“กล้าดียังไงมาทำตัวอวดดีที่นี่ ลาดมันออกไปทั้งสองคนเลย”ตอนนี้ไม่ใช่แค่สองคน แต่เป็นสีคนที่กำลังจะรวบตัวเขาออกไป รวมถึงพนักงานที่ทำงานดีแบบนี้ด้วย แต่แล้วควา
เช้าวันนี้เป็นเช้าที่รู้สึกดีจริง ๆ เป็นครั้งแรกที่เขาได้นอนเต็มอิ่ม เอสลุกขึ้นทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนจะออกจากบ้านไปตอนแปดโมงเช้า พอเปิดประตูเขาก็เห็นป้าสามคนที่นั่งคุยกันอยู่‘เจอป้าสามคนอีกแล้ว เฮ้อ’ เขาเดินผ่านไปเพื่อไม่ให้พวกป้า ๆ เห็นแต่ว่าสายตาของป้าดีกว่าตาเหยี่ยวอีก เมื่อเห็นเอสเดินออกมาป้าก็เรียกพวก ๆ ไปมอง“พ่อหนุ่ม ยังไม่ได้งานทำอีกเหรอ ให้ลูกป้าช่วยหนือเปล่า ที่บริษัทยังขาดพนักงานล้างส้วมอยู่พอดี”“เป็นเด็กรุ่นใหม่อย่าเลือกงานจะดีกว่านะ สมัยนี้งานยิ่งหายากมาก"“ป้าว่า..."“ขอบคุณที่หวังดี แต่ไม่ต้องครับผมกำลังจะย้ายออก จะไปซื้อบ้านย่านคนรวยเขาอยู่กัน" ทั้งสามคนเงียบกริบก่อนที่เอสจะพูดต่อ ”ส่วนงานไม่ต้อง ผมเป็นนักลงทุนรายใหญ่รอเงินปันผลก็เหลือแล้ว”ป้าสามคนได้แต่มองตามหลังอย่างสงสัย ว่าเด็กคนนี้มันบ้าถึงขั้นนี้แล้วเหรอ ถึงกับกล้าโกหกปั่นน้ำเป็นตัวแบบนี้“สงสัยมันจะบ้าไปแล้ว”“ อยู่คนเดียวนาน ๆ ก็บ้าได้แนะ"ก่อนอื่นต้องซื้อรถสักคัน พอดูเงินในบัญชีก็คงหายห่วง ถ้างั้นก็เอารุ่นที่สวย ๆ สปอร์ตไปเลย เอสเรียกแท็กซี่เพื่อไปยังร้านขายรถ “ไปร้านRC SPORTS ครับ”“ครับผม"ระหว่
จากสถานการณ์ตอนนี้แค่มองดูก็รู้ว่าบริษัทใหญ่ ๆ หายเจ้ามีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันชัดเจน เพราะแบบนี้ถ้าหากคุณอยากจะอยู่รอด ก็ไม่ควรเป็นหมาป่าเดียวดาย เพราะจะถูกบีบเหมือนบริษัท food & mart“หลังจากดูข้อมูลบริษัทแล้ว คิดว่าไงหรอ ฉันคิดว่าสามารถลงทุนได้นะ" เอสพูดกับระบบ“ข้อมูลที่ให้มาก็ไม่เลว จากตัวเลือกบริษัทอื่น ๆ คิดว่านี้คงเป็นบริษัทที่กำไรน้อยสุด แต่จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น หรืออาจะพุ่งทะยานไปเลยก็ได้ คิดถูกแล้วที่เลือกบริษัทนี้”ขนาดระบบยังสนับสนุน นับว่าเรียนมาไม่เสียเปล่าจริง ๆ ก่อนอื่นต้องสร้างบริษัทบังหน้า และใช้บริษัทนั้นลงทุน แน่นอนว่าระบบสามารถทำได้ และ ไม่มีใครสงสัยด้วยระหว่างรองานเริ่มเขาก็เลื่อนดูข้อมูลบริษัทอื่น ๆ ที่น่าสนใจไปด้วย มีหลายบริษัทที่เขาสนใจ“ สวัสดี ผมขอนั่งด้วยคนนะครับ” มีชายหนุ่มสวมชุดสูทดูดี ท่าทางสุขุม แถมอายุก็พอ ๆ กัน หรือเขาจะเป็นคนจนเหมือนเอสถึงไม่มีใครให้นั่งด้วย ทว่าการที่เขามานั่งตรงนี้ก็นับว่าแปลกแล้ว เพราะสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขาไม่ว่าจะเป็นใคร โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทใหญ่ เขาเป็นใครกันแน่“ตามสบายเลยครับ”“ขอบคุณครับ ผมชื่ออเล็กซ์ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
หลังจากยืนรอขึ้นลิฟต์รอบถัดไป เขาก็ขึ้นมาถึงที่จัดงาน ทว่าสิ่งที่เขาเห็นก็คือห้องจัดงานขนาดใหญ่ มีโต๊ะหลายตัว ตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสี มีอาหารและเครื่องดื่มสุดหรู สมกับที่เป็นงานระดับประเทศนี้เป็นงานแรกที่เขามา เห็นแต่ในทีวีไม่คิดว่าจะได้มาเจอกับตัว แต่คนที่เก็บตัวไม่ยุ่งกับใครเลย ก็ได้แต่หาที่เงียบ ๆ นั่ง ทว่าก่อนจะเดินเข้าไป เอสหายใจเข้าแรง ๆ ไม่คิดว่าจะเจอแต่เรื่องยุ่งยากเอาพยายามทำตัวให้กลมกลืน เพราะไม่อยากมีเรื่อง"หยุดก่อน...ใครอนุญาตให้เขาไป"พวกนั้นอีกแล้ว พวกเขาเป็นพนักงานที่รับผิดชอบงาน ดูจากการแต่งตัวก็พอเดาออก“คนอย่างนายกล้าเดินเข้ามางานนี้ด้วยเหรอ ไม่ดูสารรูปตัวเองเลย" เอ็มยืนเท้าเอวพูด พร้อมกับมองดูด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ “ใครเหรอ?” ชายอายุราวห้าสิบถามขึ้น ดูจากการวางตัวน่าจะเป็นเจ้านายของเอ็มเขาไม่รอช้าเปลี่ยนจากท่าที่อวดเบ้งเป็นประจบสอพลอทันที “อย่าสนใจเลยครับหัวหน้า หมอนี้ก็แค่พวกขี้แพ้ที่โชคดีได้บัตรมา เขาไม่มีงานทำด้วยซ้ำ จะมีเงินมาลงทุนได้ไง คิดว่าใส่สูทจากตลาดนัด แล้วจะเปลี่ยนตัวเองได้เหรอ”ว่าแล้วต้องเป็นแบบนี้ แต่ก็ช่างเถอะไม่เห็นจะสนใจอะไร แม้จะเป็นเสื้อผ้ารา
แสงจากหน้าจอมือถือส่องสว่าง ดวงตาแดงก่ำเพราะอดนอนหลายวันของเขาจ้องไม่กระพริบ เมื่อหลายนาทีก่อนเขายังเป็นคนขี้แพ้ และ สิ้นหวัง แต่ตอนนี้ราวกับว่าได้รับการเยียวยาทุกอย่าง“เงินเยอะขนาดนี้ เอาไปทำอะไรดี เราเองก็ไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนด้วยสิ”เอสใช้ชีวิตโดยไร้ความหวังมานาน ทำให้ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะลงทุนอะไร จะบริหารเงินแบบไหนดี คิดอะไรไม่ออกเลย“แต่ว่านะ...ไม่ไหวแล้ว" ลมหายใจของเขาเข้าออกแผ่วเบา ร่างกายผอมแห้งได้หลับไปแล้ว เพราะเล่นเกมติดต่อกันโดยไม่พักถึงสองวัน อีกอย่างคงเป็นเพราะทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี เขาจึงไร้กังวล..หน้าจอ LED ขนาดใหญ่ บนตึกระฟ้าในใจกลางเมืองกำลังแสดงภาพเคลื่อนไหวของโฆษณา ช่วยดึงดูดความสนใจด้วยดาราชื่อดัง ก่อนจะถูกตัดบทเพราะข่าวด่วนข่าวด่วนที่ไม่มีใครอยากให้มี“ข่าวด่วนมาอีกแล้ว ทุกช่องทางออนไลน์เลยนะ ครั้งนี้เป็นอะไรอีกล่ะ ลดพนักงานหรือลดค่าจ้างงาน” “ได้ข่าวว่า บริษัทใหญ่กำลังจะยื่นฟ้องล้มละลาย ที่เคยเป็นข่าวล้มละลายไง"“หมายถึง บริษัทที่รับพนักงานเยอะ ๆ ตอนนั้นหรอ ฉันพอรู้จัก แบบนี้คงแย่แน่ คนตกงานหลายหมื่นคนเลยขอบอก" กลุ่มคนเดินชนไหล่กันไปมา ต่างหยุดมองดูกา