ณ คฤหาสน์ธนภัทร์
แม่บ้านสามคนในชุดสีน้ำเงินสดใส เดินเรียงแถวเข้ามาในห้องอ่านหนังสือ
คนหนึ่งยกถาดใส่ผลไม้ที่แกะและปอกไว้เรียบร้อย
คนที่สองเป็นถาดขนมจำพวกเค้ก คุกกี้ บิสกิต ขนมอบ
และคนที่สามเป็นถาดเครื่องดื่ม ทั้งชา กาแฟ โกโก้ น้ำผลไม้และน้ำอัดลม
ทั้งหมดเพื่อบริการเด็กสาวสองคนที่กำลังนั่งติวกันอยู่ที่โต๊ะไม้โอ๊กกลางห้อง
คนหนึ่งสวมแว่นสายตา ผมมัดรวบเป็นหางม้า อีกคนที่ตัวผอมกว่าตัดผมสั้นเหมือนเด็กผู้ชาย
"พักกินของว่างก่อนดีไหมคะคุณหนู"
คนที่เอ่ยถามคือคุณวิภา หัวหน้าแม่บ้านที่เดินตามเข้ามาเป็นคนที่สี่...สูงวัยที่สุดและสีหน้าท่าทางชวนให้นึกถึงครูไหวใจร้าย*
‘คุณหนู’ ของวิภาคือเด็กสาวผมสั้น เธอเงยหน้าขึ้นสบตาหัวหน้าแม่บ้านอย่างซาบซึ้งที่มาช่วยชีวิต
"นั่นน่ะสิ แวนว่าพักก่อนดีกว่า"
"แต่แวนตกลงกับพี่ว่าจะแปลหน้านี้ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยพักนะ”
คนใส่แว่นเอ่ยท้วง แวน หรือเวฬุการ้องโอดโอย
“พี่ธูป แวนคิดไม่ออกแล้ว ขอพักเติมสมองก่อนเหอะนะ นะ พลีส”
“นั่นน่ะสิคะ คุณครูจะเข้มงวดอะไรกับคุณหนูนักหนา คนเราน่ะตึงเกินไปก็ไม่ดีนะคะ”
คนถูกเรียกว่าคุณครูกะพริบตาปริบ เอ่ยตอบกลับไป
“ผมของคุณแม่บ้านก็ไม่เคยหย่อนเลยนะคะ มัดเรียบตึงตลอด ไม่สงสารหนังศีรษะบ้างหรือคะ คนเราน่ะตึงเกินไปก็ไม่ดีนะคะ”
วิภาสะดุ้งที่ถูกย้อน ยกมือแตะเรือนผมสีดำแซมเทาที่ไว้ทรงเดียวมาตลอดปีตลอดชาตินั่นคือมัดรวบตึงอย่างยัยเด็กคุณครูนี่ว่าไว้จริง ๆ
ตอนนี้นอกจากผม จึงยังมี ‘หน้า’ ของคุณแม่บ้านอีกคนที่ตึง มึนตึง ค้อนปะหลับปะเหลือก
“โอเค ๆ ก็ได้ พี่ก็หิวขนมแล้วเหมือนกัน”
ธูปหอม ยอมอ่อนข้อให้ลูกศิษย์ที่อายุห่างกันแค่สามปี แวนร้องดีใจ วางดินสอกดในมือแล้วหันไปสนใจถาดใส่ขนมกับผลไม้ทันที...
ธูปหอมหันไปสนใจของกินบ้าง หยิบส้อมจิ้มกินเงาะสด ๆ ที่แกะเปลือกมาให้แล้ว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความพิถีพิถันอย่างหรูหราที่เธอได้สัมผัสจากคนบ้านนี้ ไม่ใช่แค่ทำให้สมาชิกในบ้าน แต่ ‘แขก’ ของคนในบ้านอย่างเช่นเธอที่เป็นติวเตอร์ ก็ได้รับการดูแลอย่างดีไปด้วย
สมเป็นบ้านมหาเศรษฐีที่ขึ้นชื่อเรื่องความใจดีอันดับต้น ๆ ของประเทศจริง ๆ
ธูปหอมไม่รู้ตัวว่าเผลอถอนหายใจออกมา แต่แวนสังเกตและรู้ด้วยว่าติวเตอร์ของเธอกำลังคิดถึงใคร เด็กสาวจึงหันไปบอกแม่บ้านที่ยืนคอยรับใช้อยู่ใกล้ ๆ
“มีอีกไหม ขนมกับผลไม้นี่น่ะ”
“มีอีกเยอะเลยค่ะ คุณหนูต้องการรับเพิ่มหรือคะ”
“ใส่กล่องมาให้ทีได้ไหม สักสิบกล่อง ยี่สิบกล่อง ถ้ามีกับข้าวหรืออาหารก็ใส่กล่องมาให้ด้วยนะ”
วิภาได้ยินก็นิ่งไป แต่ไม่ถามและไม่ท้วง แค่หันไปพยักหน้าเป็นสัญญาณให้แม่บ้านอีกสองคนรีบกลับไปในครัวเพื่อทำตามคำสั่งของคุณหนูแวนโดยเร็ว
ธูปหอมไม่ถามว่าเด็กสาวรุ่นน้องจะเอาไปทำอะไร เธอไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น ไม่ชอบถามอะไรซอกแซก และไม่ชอบเมาธ์มอยเรื่องใครด้วย
นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้แวน เวฬุกา ชื่นชอบรุ่นพี่คนนี้เป็นพิเศษ ถึงขั้นจับเซ็นสัญญาว่าจ้างเป็นติวเตอร์นานจนกว่าเธอจะเรียนจบปริญญาตรีเลยทีเดียว
“พี่ธูป ถ้าพี่ธูปเรียนจบแล้วจะไปสมัครเป็นครูมั้ย”
แวนเอ่ยถามพลางกินผลไม้ไปด้วย
“แม่ก็อยากให้พี่สมัครสอบราชการครู แต่พี่อยากทำงานอิสระมากกว่า”
“เพราะได้เงินเยอะกว่าใช่ไหม”
แวนถามอย่างรู้ใจ ธูปหอมพยักหน้า
หญิงสาวเรียนอยู่ปีสี่แล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบ แม่พูดมาตลอดว่าอยากให้ธูปหอมรับราชการเหมือนคนเป็นพ่อ
‘ธูปเรียนเก่ง หัวดี แม่ว่าธูปต้องได้เป็นใหญ่เป็นโตแน่ ๆ’
แม่ของธูปหอมพูดแบบนี้เสมอ ส่วนหนึ่งคงเพราะไม่อยากให้ลูกสาวคนโตต้องลำบากเหมือนตัวเองที่เป็นแม่ค้าขายขนมธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น
"ถ้าพี่ธูปอยากทำงานอิสระ ก็คงไม่อยากมาทำงานกับพ่อสินะ"
แวนเอ่ย น้ำเสียงเสียดาย
"พ่อเคยบอกว่าถ้าพี่ธูปอยากทำงานที่ธนภัทร์ พ่อมีตำแหน่งให้ทันที ไม่ต้องสัมภาษณ์ด้วยเพราะแค่พี่ธูปมาเป็นติวเตอร์ให้ก็ถือว่าสอบผ่านแล้ว"
"คุณวิกรมใจดีมาก"
ธูปหอมเอ่ยจากใจ
ติวเตอร์ที่แทบไม่มีความสำคัญอะไรอย่างธูปหอมเคยเจอ "วิกรม" บิดาของเวฬุกาแค่สองครั้ง คุยกันนับคำได้เพราะนักธุรกิจใหญ่งานรัดตัว แต่เด็กสาวก็สัมผัสความเมตตาของชายวัยห้าสิบคนนั้นได้
"อืม พ่อแวนก็ใจดีจริง ๆ นั่นแหละ ขออะไรก็ให้ อยากได้อะไรก็ให้คนจัดมาให้หมดทุกอย่าง"
"โอ้โห ทุกอย่างเลยหรือ"
ธูปหอมถาม ตาโตนิด ๆ
"ใช้คำว่าเกือบทุกอย่างดีกว่าพี่ธูป เพราะมีแค่สามอย่างที่พ่อห้ามไว้เด็ดขาด อย่างแรกคือ อย่าทำผิดกฎหมาย ถ้ามีเรื่องขึ้นมาพ่อจะไม่ช่วย สองอย่าแตะต้องอบายมุขทุกชนิด บุหรี่ กัญชา ยาเสพติด การพนัน ห้ามเด็ดขาด ถ้ารู้ว่าไปยุ่งเมื่อไหร่จะริบบัตรเครดิตคืนทันที..."
แวนบอก พลางลดเสียงกระซิบ "...แต่เหล้า เบียร์ กับไวน์ ดื่มได้นะ"
"อ้าว? แล้วเหล้า เบียร์ กับไวน์มันไม่ใช่อบายมุขหรือไง" ธูปหอมถามงง ๆ
"ก็ใช่แหละ แต่พ่อบอกว่าดื่มได้นิดหน่อยพอให้เข้าสังคม แต่ความจริงคือ พ่อคงอยากซื้อธุรกิจไวน์จากเพื่อนพ่อคนนึง จะห้ามลูกดื่มไวน์เองก็คงแปลก ๆ ก็เลยหยวน ๆ ให้ แต่ก็สั่งไว้เฉียบขาดว่ากินได้ แต่อย่าให้เหล้ามากินเราก็พอ'
ธูปหอมพยักหน้าหงึก ๆ พอจะเข้าใจความหมายของวิกรม
"แล้วอย่างที่สามล่ะ"
"อย่างที่สามก็คือ อย่าพาคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน!"
/// โปรดอ่านต่อในตอนที่ 3 ///
* "ครูไหวใจร้าย" วรรณกรรมไทยเขียนโดยผกาวดี อุตตโมทย์ เป็นเรื่องของคุณครูไสว ครูใกล้เกษียณที่มีชื่อเสียงเรื่องความเข้มงวด เจ้าระเบียบ และดุจนทุกคนเกรงกลัว แต่เนื้อแท้มีจิตใจเมตตาเป็นอย่างมาก, พิมพ์ครั้งแรกพ.ศ. 2509และได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 หนังสือดีที่เด็กและเยาวชนไทยควรอ่าน (โดยโครงการวิจัยของ สกว. พ.ศ. 2543 )
รถเบนซ์สีดำเป็นมันเงาแล่นมาเทียบขอบฟุตปาธช้า ๆ ก่อนที่คนขับรถจะรีบวิ่งอ้อมลงมาเปิดประตูรถให้เด็กสาวในชุดนักศึกษาที่สวยน่ารักเหมือนดาราสักคนขนมเค้กปัดปอยผมสีน้ำตาลอ่อนที่ระแก้มอยู่ไปด้านหลังเล็กน้อยก่อนจะก้าวขึ้นรถด้วยท่วงท่าเรียบง่ายแต่ดูงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ ประตูปิดลง คนขับกลับขึ้นที่นั่งแล้วแล่นออกจากมหาวิทยาลัยไปอย่างนุ่มนวล"ให้กลับบ้านเลยไหมครับคุณหนู"คนรถเอ่ยถามอย่างสุภาพ เพราะปกติหลังเลิกเรียน ถ้าไม่นัดเพื่อน ๆ กินข้าว 'คุณหนูเค้ก' ก็จะให้ไปส่งที่ห้างฯ เพื่อเดินเล่นสักสองสามชั่วโมง"ไปบ้านแวน"ขนมเค้กบอกสั้น ๆ คนรถรับทราบ บ้านคุณหนูแวนเพื่อนสนิทของคุณหนูขนมเค้กเขาคุ้นเคยดี เพราะรับส่งเด็กสาวมาตั้งแต่เธอยังเรียนมัธยมฯ ต้นขนมเค้กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด เปิดดูอินสตาแกรมของรุ่นพี่อย่างนิชาเป็นอย่างแรกไอจีของรุ่นพี่เชียร์หลีดเดอร์ปรากฏเป็นภาพวิวทะเลที่แต่งภาพเป็นขาวดำ กับประโยคสั้น ๆ พิมพ์ว่า'ขอให้รักครั้งใหม่ไม่เจอคน here here แบบคุณ'ยอดกดถูกใจหลักหมื่น คอมเมนต์ให้กำลังใจอีกเป็นพันขนมเค้กก็พิมพ์ส่งรูปหัวใจกับดอกไม้ไปให้ด้วย'กอด ๆ นะพี่สาว รักเสมอนะคะ'ถ้อยคำน่ารัก แต่คนกดส่งก
สองสาวสะดุ้งพร้อมกันเมื่อเสียงห้าว ๆ ทะลุกลางปล้องขึ้นมา"โอ๊ย! ตกใจหมดไอ้...เวย์"แวนพูดโกรธ ๆ เพราะพี่ชายโผล่หน้าไม่ให้สุ้มให้เสียงเวย์ไม่สนใจน้องสาวฝาแฝด เขาปรายตามองไปยังอีกคนที่อยู่ในห้องอ่านหนังสือนั้นด้วยธูปหอมก็ไม่สนใจเขา เมื่อกี้เธออาจสะดุ้ง แต่พอตั้งสติได้ เธอก็ทำเหมือนเขาเป็นอากาศธาตุเหมือนเดิม..."พี่ธูปยังไม่เลิกเกลียดเวย์อีกเหรอ"เป็นแวนที่เอ่ยถามตรง ๆ จนมีแม่บ้านคนหนึ่งเผลอหัวเราะออกมา คุณวิภาต้องหันไปส่งสายตาดุให้ธูปหอมอึกอัก ถ้าอยู่แค่สองสามคนเธอก็อยากจะพูดต่อ แต่นี่ในห้องอ่านหนังสือตอนนี้ มีคนมากเกินไปเธอเลยสงบปากสงบคำไว้ดีกว่าเพราะถึงอย่างไรวาริทก็เป็นเจ้าถิ่น เป็นลูกชายเจ้าของบ้านเชียวนะ!แต่วาริทเองที่ยังคงพูดขึ้นมา"เลิกเกลียดได้แล้วมั้ง ต้นข้าวมีแฟนใหม่ไปแล้วนี่"ต้นข้าว...หนึ่งในอดีตคนคุยของวาริท"อ๋อเหรอ"คนเป็นแฝดน้องพยักหน้ารับรู้"แต่ว่าตอนเวย์บอกเลิกพี่ต้นข้าวใหม่ ๆ พี่เค้าตาบวมมาเรียนทุกวันเลยนะ ถ้าแวนเป็นเพื่อนพี่ต้นข้าวก็คงเกลียดเวย์เหมือนกัน เนาะพี่ธูปเนาะ"แวนพูดอย่างเอาใจรุ่นพี่ที่มีสถานะเป็นติวเตอร์ส่วนตัวด้วยธูปหอมยิ้มแหย ๆ สรุปเธอก็ต้องยอมรับ
ณ คฤหาสน์ธนภัทร์แม่บ้านสามคนในชุดสีน้ำเงินสดใส เดินเรียงแถวเข้ามาในห้องอ่านหนังสือคนหนึ่งยกถาดใส่ผลไม้ที่แกะและปอกไว้เรียบร้อยคนที่สองเป็นถาดขนมจำพวกเค้ก คุกกี้ บิสกิต ขนมอบและคนที่สามเป็นถาดเครื่องดื่ม ทั้งชา กาแฟ โกโก้ น้ำผลไม้และน้ำอัดลมทั้งหมดเพื่อบริการเด็กสาวสองคนที่กำลังนั่งติวกันอยู่ที่โต๊ะไม้โอ๊กกลางห้องคนหนึ่งสวมแว่นสายตา ผมมัดรวบเป็นหางม้า อีกคนที่ตัวผอมกว่าตัดผมสั้นเหมือนเด็กผู้ชาย"พักกินของว่างก่อนดีไหมคะคุณหนู"คนที่เอ่ยถามคือคุณวิภา หัวหน้าแม่บ้านที่เดินตามเข้ามาเป็นคนที่สี่...สูงวัยที่สุดและสีหน้าท่าทางชวนให้นึกถึงครูไหวใจร้าย*‘คุณหนู’ ของวิภาคือเด็กสาวผมสั้น เธอเงยหน้าขึ้นสบตาหัวหน้าแม่บ้านอย่างซาบซึ้งที่มาช่วยชีวิต"นั่นน่ะสิ แวนว่าพักก่อนดีกว่า""แต่แวนตกลงกับพี่ว่าจะแปลหน้านี้ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยพักนะ”คนใส่แว่นเอ่ยท้วง แวน หรือเวฬุการ้องโอดโอย“พี่ธูป แวนคิดไม่ออกแล้ว ขอพักเติมสมองก่อนเหอะนะ นะ พลีส”“นั่นน่ะสิคะ คุณครูจะเข้มงวดอะไรกับคุณหนูนักหนา คนเราน่ะตึงเกินไปก็ไม่ดีนะคะ”คนถูกเรียกว่าคุณครูกะพริบตาปริบ เอ่ยตอบกลับไป“ผมของคุณแม่บ้านก็ไม่เคยหย่อนเลยน
อายุแค่ 19แต่วาริท หรือ "เวย์" ก็ถูกคนในคณะตั้งฉายาให้แล้วว่า "เสือหิมะ"เพราะความเป็นนักล่ากับความเย็นชา ที่มารวมอยู่ในตัวคนคนเดียวกันหลายคนไม่เชื่อและอยากท้าทาย เพราะคิดว่าถ้าเหยื่อ 'เด็ด' ก็น่าจะหยุดเสือได้คนล่าสุดที่คิดจะหยุดเสือ คือเชียร์หลีดเดอร์ที่อยู่คณะบัญชี...พี่นิชา"เวย์! อ่านไม่ตอบ บล็อกเหรอ?"รุ่นพี่สาวมารออยู่ได้สักพักแล้ว และเดินดุ่มเข้ามาทันทีที่วาริทก้าวลงจากรถบีเอ็มสปอร์ตสีน้ำเงินที่แล่นมาจอดข้างคณะเด็กหนุ่มตัวสูง 185 เซนติเมตรที่เพิ่งก้าวลงจากรถ เก็บกุญแจรถลงกระเป๋ากางเกง ก้มมองรุ่นพี่คนสวยด้วยสีหน้าราบเรียบ"ว่าไง? บล็อกกันแล้วใช่มั้ย""ก็คงงั้นมั้งครับ""ทำไมวะ จะบอกเลิกก็บอกกันดี ๆ สิ จะมาบล็อกเพื่อ? กระจอกว่ะ""ครับ กระจอก พอใจยัง"เวย์พูดเรียบ ๆ และทำท่าจะเดินไปอีกทาง แต่นิชาจับแขนเขาไว้ก่อนแววตาโกรธขึ้งหายไปแล้ว แถมยังมีหยาดน้ำใส ๆ คลออยู่ในนั้น"เดี๋ยวสิ เราทำอะไรผิด อย่างน้อยก็น่าจะบอกกันสิ""พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่" เวย์ตอบ และโน้มหน้ามากระซิบเบา ๆ"แต่คืนนั้นพี่ยืนยันจะให้ผมทำต่อ...ทั้งที่ผมบอกข้อตกลงไปแล้ว จำไม่ได้เหรอ"นิชากัดริมฝีปาก ใช่...เขาบอกเธอ