สองสาวสะดุ้งพร้อมกันเมื่อเสียงห้าว ๆ ทะลุกลางปล้องขึ้นมา
"โอ๊ย! ตกใจหมดไอ้...เวย์"
แวนพูดโกรธ ๆ เพราะพี่ชายโผล่หน้าไม่ให้สุ้มให้เสียง
เวย์ไม่สนใจน้องสาวฝาแฝด เขาปรายตามองไปยังอีกคนที่อยู่ในห้องอ่านหนังสือนั้นด้วย
ธูปหอมก็ไม่สนใจเขา เมื่อกี้เธออาจสะดุ้ง แต่พอตั้งสติได้ เธอก็ทำเหมือนเขาเป็นอากาศธาตุเหมือนเดิม...
"พี่ธูปยังไม่เลิกเกลียดเวย์อีกเหรอ"
เป็นแวนที่เอ่ยถามตรง ๆ จนมีแม่บ้านคนหนึ่งเผลอหัวเราะออกมา คุณวิภาต้องหันไปส่งสายตาดุให้
ธูปหอมอึกอัก ถ้าอยู่แค่สองสามคนเธอก็อยากจะพูดต่อ แต่นี่ในห้องอ่านหนังสือตอนนี้ มีคนมากเกินไป
เธอเลยสงบปากสงบคำไว้ดีกว่าเพราะถึงอย่างไรวาริทก็เป็นเจ้าถิ่น เป็นลูกชายเจ้าของบ้านเชียวนะ!
แต่วาริทเองที่ยังคงพูดขึ้นมา
"เลิกเกลียดได้แล้วมั้ง ต้นข้าวมีแฟนใหม่ไปแล้วนี่"
ต้นข้าว...หนึ่งในอดีตคนคุยของวาริท
"อ๋อเหรอ"
คนเป็นแฝดน้องพยักหน้ารับรู้
"แต่ว่าตอนเวย์บอกเลิกพี่ต้นข้าวใหม่ ๆ พี่เค้าตาบวมมาเรียนทุกวันเลยนะ ถ้าแวนเป็นเพื่อนพี่ต้นข้าวก็คงเกลียดเวย์เหมือนกัน เนาะพี่ธูปเนาะ"
แวนพูดอย่างเอาใจรุ่นพี่ที่มีสถานะเป็นติวเตอร์ส่วนตัวด้วย
ธูปหอมยิ้มแหย ๆ สรุปเธอก็ต้องยอมรับจริง ๆ สินะว่า 'ไม่ชอบหน้า' วาริทจริง ๆ
ก็จะเอาอะไรมาชอบ ในเมื่อเพื่อนร่วมสาขาของเธอ 30 คน เคยควงกับไอ้เวย์วาริทนี่ไปแล้ว 3 คนจนครั้งหนึ่งสามคนนั้นถึงกับไม่ยอมพูดกัน ลำบากเพื่อน ๆ ต้องช่วยไกล่เกลี่ยให้
แถมหนึ่งในสามที่ดูจะมีภาษีดีที่สุดอย่างต้นข้าว ถึงขนาดโพสต์ลงรูปไปเที่ยวเกาะกลางทะเลอันดามันด้วยกันกับเวย์ แต่พอกลับมาวันจันทร์กลับตาบวมตุ่ยเพราะโดนเทกะทันหัน
ชื่อของเวย์ วาริท จึงเป็นของแสลงสำหรับสาขาของเธอมาตั้งแต่นั้น
นี่ถ้าเพื่อน ๆ รู้ว่าธูปหอมได้มาเป็นติวเตอร์ส่วนตัวให้น้องสาวฝาแฝดของนายเวย์ ไม่รู้เธอจะโดนโกรธไปด้วยมั้ย
"แต่เดี๋ยว เมื่อกี้แกว่าไงนะเวย์ กฎข้อที่สามของพ่อคือห้ามเอาคนแปลกหน้าเข้ามาบ้านเหรอ...ใช่ที่ไหน กฎข้อที่สามคือ..."
"ช่างเหอะ ฉันพูดเล่น"
เด็กหนุ่มพูดแทรกขึ้นมา เดินเฉียดมาหยิบผลไม้เข้าปากแบบส่ง ๆ
วาริทกับเวฬุกาเห็นแฝดคนละฝา รูปร่างหน้าตาจึงไม่ได้พิมพ์เดียวกันเป๊ะแบบพวกแฝดแท้
แต่สิ่งที่คล้ายกันคือความสูง แม้แฝดน้องจะสูงไม่เท่าแฝดพี่ แต่เวฬุกาก็สูงเกินมาตรฐานวัยรุ่นไทย แถมยังผอมบางจนเหมือนจะหักได้
ไม่เหมือนวาริทที่สูงและมีมัดกล้าม ผลพวงมาจากการเข้ายิมเป็นประจำนั่นแหละ
และอีกอย่างที่คู่แฝดเหมือนกันคือคิ้วเข้มได้รูปกับดวงตาโตคู่สวยสีน้ำตาลคาราเมล...
"แล้วทำไมวันนี้กลับเร็ว ตะวันยังไม่ตกดินเลย"
แฝดน้องถาม แฝดพี่ยักไหล่
"กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปด้วยกันมั้ย"
"ไปไหน?"
"ร้านพี่ยศ"
เวย์เอ่ยชื่อผับแห่งหนึ่งในย่านการค้าชื่อดังของกรุงเทพฯ แวนหน้าบึ้งตาโตทันควัน
"ตลกแระ อายุยังไม่ถึงห้ามเข้า ไม่อย่างนั้นจะฟ้องพ่อ"
คนเป็นน้องเพราะคลานตามออกมาทีหลัง เอ่ยเสียงห้วนและดัง แม้เจ้าตัวจะห้าว แต่เรื่องให้ทำอะไรแหกกฎนี่ลืมไปได้เลย คนอย่างเวฬุกาไม่เคยและไม่สรรหาทำ
'ไม่ใช่เพราะเป็นคนดีอะไรหรอกนะพี่ธูป แต่มันยุ่ง แวนขี้เกียจ ไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยากหรือตื่นเต้น ทำตามกฎไปเลยดีกว่าง่ายดี ไม่ต้องหาทางหนีทีไล่หรือทำอะไรลับ ๆ ล่อๆ ด้วย'
แวนเคยบอกตอนรู้จักกับธูปหอมใหม่ ๆ รุ่นพี่อย่างธูปหอมรู้สึกชอบรุ่นน้องคนนี้ขึ้นมาทันที
แต่ดูเหมือนจะตรงข้ามกับแฝดพี่ชายของเธอเหลือเกิน
"รู้ได้ไงว่าอายุไม่ถึง ฉันจะยี่สิบแล้ว ตีนับเป็นยี่สิบได้แล้ว"
"แกจะยี่สิบได้ยังไงไอ้เวย์ แกเกิดก่อนฉันสามสิบนาที!"
"นั่นน่ะสิคะคุณหนู อีกไม่กี่วันก็จะยี่สิบแล้ว ค่อยรอให้ถึงวันที่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ดีกว่านะคะ"
คุณวิภาที่นิ่งฟังอยู่นานเอ่ยอย่างอดไม่ได้...
หัวหน้าแม่บ้านห่วงใยและรักสองพี่น้องอย่างจริงใจตามประสาคนที่อยู่เห็นกันมาตั้งแต่วันแรกที่คู่แฝดเกิด
"เอางั้นก็ได้ ผมเชื่อคุณวิภา แล้วแกไม่ต้องไปฟ้องพ่อแล้วนะไอ้แวน"
"เออ! ให้มันจริงเหอะ"
เด็กสาวมองพี่ชายตาขุ่น วาริทเหลือบมองรุ่นพี่ร่วมมหาวิทยาลัยอย่างธูปหอมอีกแวบหนึ่งก่อนเดินออกจากห้องอ่านหนังสือไป คงจะกลับไปยังห้องส่วนตัวของเขาที่อยู่ชั้นสองของคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนี้
รุ่นน้องอย่างวาริทจะแอบไปเที่ยวผับหรือเปล่านั้น ธูปหอมไม่สนใจและไม่เก็บเรื่องเขามาคิดอีก อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา คนขับรถบ้านธนภัทร์ก็ขับรถไปส่งเธอที่ห้องเช่าเหมือนเช่นเคย แถมยังมีกล่องใส่ขนม ผลไม้ และอาหารคาวหวานอื่น ๆ ตามที่เวฬุกาสั่งให้แม่บ้านเตรียมไว้ให้ รวม ๆ แล้วก็ยี่สิบกล่องพอดีเป๊ะ!
"รุ่นน้องที่ธูปไปติวให้ เขาให้ห่อของกินกลับมาจ้ะแม่"
ธูปหอมบอกคนเป็นแม่ที่กลับจากขายของแล้วตกใจที่เห็นของกินเต็มบ้าน
"เขาก็รู้นะจ๊ะว่าบ้านเราขายขนม แต่เขามีเยอะจนกินกันไม่หมด...พวกขนมฝรั่งน่ะแม่ เก็บใส่กล่องกินได้หลายวัน บางอันกินได้เป็นเดือนเลย"
"ของเหลือ ๆ เขาทั้งนั้น"
ธิดาไม่ได้พูด เพราะคนเป็นแม่รู้ค่าของสิ่งของทุกสิ่งที่ได้มาอย่างสุจริต
แต่คนที่พูดคือเทียนธรรม...ลูกชายคนเล็กวัยสิบหกปีที่เพิ่งกลับจากโรงเรียน เสื้อผ้านักเรียนม.ปลายยังมอมแมมและเปียกเหงื่อซ่กเพราะก่อนกลับบ้านเขาจะเล่นบาสกับเพื่อนจนฟ้ามืดเสมอ
"ไม่ได้เหลือ เขาแบ่งใส่กล่องให้อย่างดี เขาแค่มีเยอะ"
"ก็นั่นแหละ ของเหลือของพวกคนรวย เขาทำทานนะไม่รู้หรือไง"
"เทียน! ไม่พูดแบบนั้นสิลูก"
"แล้วแม่จะให้พูดยังไง เทียนคิดแบบไหนก็พูดแบบนั้น หรือไม่จริง"
"คิดแบบไหนก็พูดแบบนั้น? ถ้างั้นคิดอะไรดี ๆ ไม่ดีกว่าหรือ คิดว่าได้ของดี ๆ มากินฟรี เงินก็ไม่ต้องจ่ายสักบาท"
ธูปหอมบอกน้องชายอย่างใจเย็น
"เทียนไม่เชื่อว่ามีของฟรีบนโลกนี้ โดยเฉพาะพวกคนรวย ๆ วันนี้เขาอาจยังไม่หวังอะไรจากเรา แต่สิ่งหนึ่งที่เขาได้ไปแน่นอนคือได้ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณ...แล้วสักวันเขาก็จะกลับมาทวงบุญคุณพี่ไงพี่ธูป"
ธูปหอมนิ่งไป ใจหนึ่งยอมรับว่าสิ่งที่น้องชายพูดนั้นมีเหตุผล แต่ถ้าเทียนธรรมรู้จักรุ่นน้องของเธออย่างเวฬุกา จะรู้ว่าเด็กสาวคนนั้นมีแต่ความจริงใจและน้ำใจที่ไม่มีอะไรเคลือบแฝง
แต่เทียนก็ไม่อยู่รอให้พี่สาวอธิบาย เพราะเขาเดินเข้าห้องส่วนตัวไปไม่สนใจอาหารการกินที่เต็มโต๊ะ
ธิดาถอนหายใจ หันมายิ้มเหนื่อย ๆ ให้ลูกสาวคนโต
"หมู่นี้เป็นอะไรไม่รู้ แม่พูดอะไรก็ไม่เข้าหู ดูหงุดหงิดงุ่นง่านไปหมด"
"วัยรุ่นมั้งแม่"
ธิดาได้ยินลูกสาวตอบก็ยิ้มอีก แต่ครั้งนี้เป็นยิ้มชื่นใจ
"แต่ทำไมธูปไม่เคยทำให้แม่ปวดหัวเลยล่ะ ธูปก็วัยรุ่นนี่นา"
"หนูเป็นลูกคนโตไงแม่"
ธูปหอมตอบสั้น ๆ เหมือนว่าแค่คำนั้นก็อธิบายทุกอย่างได้หมดแล้ว
รถเบนซ์สีดำเป็นมันเงาแล่นมาเทียบขอบฟุตปาธช้า ๆ ก่อนที่คนขับรถจะรีบวิ่งอ้อมลงมาเปิดประตูรถให้เด็กสาวในชุดนักศึกษาที่สวยน่ารักเหมือนดาราสักคนขนมเค้กปัดปอยผมสีน้ำตาลอ่อนที่ระแก้มอยู่ไปด้านหลังเล็กน้อยก่อนจะก้าวขึ้นรถด้วยท่วงท่าเรียบง่ายแต่ดูงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ ประตูปิดลง คนขับกลับขึ้นที่นั่งแล้วแล่นออกจากมหาวิทยาลัยไปอย่างนุ่มนวล"ให้กลับบ้านเลยไหมครับคุณหนู"คนรถเอ่ยถามอย่างสุภาพ เพราะปกติหลังเลิกเรียน ถ้าไม่นัดเพื่อน ๆ กินข้าว 'คุณหนูเค้ก' ก็จะให้ไปส่งที่ห้างฯ เพื่อเดินเล่นสักสองสามชั่วโมง"ไปบ้านแวน"ขนมเค้กบอกสั้น ๆ คนรถรับทราบ บ้านคุณหนูแวนเพื่อนสนิทของคุณหนูขนมเค้กเขาคุ้นเคยดี เพราะรับส่งเด็กสาวมาตั้งแต่เธอยังเรียนมัธยมฯ ต้นขนมเค้กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด เปิดดูอินสตาแกรมของรุ่นพี่อย่างนิชาเป็นอย่างแรกไอจีของรุ่นพี่เชียร์หลีดเดอร์ปรากฏเป็นภาพวิวทะเลที่แต่งภาพเป็นขาวดำ กับประโยคสั้น ๆ พิมพ์ว่า'ขอให้รักครั้งใหม่ไม่เจอคน here here แบบคุณ'ยอดกดถูกใจหลักหมื่น คอมเมนต์ให้กำลังใจอีกเป็นพันขนมเค้กก็พิมพ์ส่งรูปหัวใจกับดอกไม้ไปให้ด้วย'กอด ๆ นะพี่สาว รักเสมอนะคะ'ถ้อยคำน่ารัก แต่คนกดส่งก
สองสาวสะดุ้งพร้อมกันเมื่อเสียงห้าว ๆ ทะลุกลางปล้องขึ้นมา"โอ๊ย! ตกใจหมดไอ้...เวย์"แวนพูดโกรธ ๆ เพราะพี่ชายโผล่หน้าไม่ให้สุ้มให้เสียงเวย์ไม่สนใจน้องสาวฝาแฝด เขาปรายตามองไปยังอีกคนที่อยู่ในห้องอ่านหนังสือนั้นด้วยธูปหอมก็ไม่สนใจเขา เมื่อกี้เธออาจสะดุ้ง แต่พอตั้งสติได้ เธอก็ทำเหมือนเขาเป็นอากาศธาตุเหมือนเดิม..."พี่ธูปยังไม่เลิกเกลียดเวย์อีกเหรอ"เป็นแวนที่เอ่ยถามตรง ๆ จนมีแม่บ้านคนหนึ่งเผลอหัวเราะออกมา คุณวิภาต้องหันไปส่งสายตาดุให้ธูปหอมอึกอัก ถ้าอยู่แค่สองสามคนเธอก็อยากจะพูดต่อ แต่นี่ในห้องอ่านหนังสือตอนนี้ มีคนมากเกินไปเธอเลยสงบปากสงบคำไว้ดีกว่าเพราะถึงอย่างไรวาริทก็เป็นเจ้าถิ่น เป็นลูกชายเจ้าของบ้านเชียวนะ!แต่วาริทเองที่ยังคงพูดขึ้นมา"เลิกเกลียดได้แล้วมั้ง ต้นข้าวมีแฟนใหม่ไปแล้วนี่"ต้นข้าว...หนึ่งในอดีตคนคุยของวาริท"อ๋อเหรอ"คนเป็นแฝดน้องพยักหน้ารับรู้"แต่ว่าตอนเวย์บอกเลิกพี่ต้นข้าวใหม่ ๆ พี่เค้าตาบวมมาเรียนทุกวันเลยนะ ถ้าแวนเป็นเพื่อนพี่ต้นข้าวก็คงเกลียดเวย์เหมือนกัน เนาะพี่ธูปเนาะ"แวนพูดอย่างเอาใจรุ่นพี่ที่มีสถานะเป็นติวเตอร์ส่วนตัวด้วยธูปหอมยิ้มแหย ๆ สรุปเธอก็ต้องยอมรับ
ณ คฤหาสน์ธนภัทร์แม่บ้านสามคนในชุดสีน้ำเงินสดใส เดินเรียงแถวเข้ามาในห้องอ่านหนังสือคนหนึ่งยกถาดใส่ผลไม้ที่แกะและปอกไว้เรียบร้อยคนที่สองเป็นถาดขนมจำพวกเค้ก คุกกี้ บิสกิต ขนมอบและคนที่สามเป็นถาดเครื่องดื่ม ทั้งชา กาแฟ โกโก้ น้ำผลไม้และน้ำอัดลมทั้งหมดเพื่อบริการเด็กสาวสองคนที่กำลังนั่งติวกันอยู่ที่โต๊ะไม้โอ๊กกลางห้องคนหนึ่งสวมแว่นสายตา ผมมัดรวบเป็นหางม้า อีกคนที่ตัวผอมกว่าตัดผมสั้นเหมือนเด็กผู้ชาย"พักกินของว่างก่อนดีไหมคะคุณหนู"คนที่เอ่ยถามคือคุณวิภา หัวหน้าแม่บ้านที่เดินตามเข้ามาเป็นคนที่สี่...สูงวัยที่สุดและสีหน้าท่าทางชวนให้นึกถึงครูไหวใจร้าย*‘คุณหนู’ ของวิภาคือเด็กสาวผมสั้น เธอเงยหน้าขึ้นสบตาหัวหน้าแม่บ้านอย่างซาบซึ้งที่มาช่วยชีวิต"นั่นน่ะสิ แวนว่าพักก่อนดีกว่า""แต่แวนตกลงกับพี่ว่าจะแปลหน้านี้ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยพักนะ”คนใส่แว่นเอ่ยท้วง แวน หรือเวฬุการ้องโอดโอย“พี่ธูป แวนคิดไม่ออกแล้ว ขอพักเติมสมองก่อนเหอะนะ นะ พลีส”“นั่นน่ะสิคะ คุณครูจะเข้มงวดอะไรกับคุณหนูนักหนา คนเราน่ะตึงเกินไปก็ไม่ดีนะคะ”คนถูกเรียกว่าคุณครูกะพริบตาปริบ เอ่ยตอบกลับไป“ผมของคุณแม่บ้านก็ไม่เคยหย่อนเลยน
อายุแค่ 19แต่วาริท หรือ "เวย์" ก็ถูกคนในคณะตั้งฉายาให้แล้วว่า "เสือหิมะ"เพราะความเป็นนักล่ากับความเย็นชา ที่มารวมอยู่ในตัวคนคนเดียวกันหลายคนไม่เชื่อและอยากท้าทาย เพราะคิดว่าถ้าเหยื่อ 'เด็ด' ก็น่าจะหยุดเสือได้คนล่าสุดที่คิดจะหยุดเสือ คือเชียร์หลีดเดอร์ที่อยู่คณะบัญชี...พี่นิชา"เวย์! อ่านไม่ตอบ บล็อกเหรอ?"รุ่นพี่สาวมารออยู่ได้สักพักแล้ว และเดินดุ่มเข้ามาทันทีที่วาริทก้าวลงจากรถบีเอ็มสปอร์ตสีน้ำเงินที่แล่นมาจอดข้างคณะเด็กหนุ่มตัวสูง 185 เซนติเมตรที่เพิ่งก้าวลงจากรถ เก็บกุญแจรถลงกระเป๋ากางเกง ก้มมองรุ่นพี่คนสวยด้วยสีหน้าราบเรียบ"ว่าไง? บล็อกกันแล้วใช่มั้ย""ก็คงงั้นมั้งครับ""ทำไมวะ จะบอกเลิกก็บอกกันดี ๆ สิ จะมาบล็อกเพื่อ? กระจอกว่ะ""ครับ กระจอก พอใจยัง"เวย์พูดเรียบ ๆ และทำท่าจะเดินไปอีกทาง แต่นิชาจับแขนเขาไว้ก่อนแววตาโกรธขึ้งหายไปแล้ว แถมยังมีหยาดน้ำใส ๆ คลออยู่ในนั้น"เดี๋ยวสิ เราทำอะไรผิด อย่างน้อยก็น่าจะบอกกันสิ""พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่" เวย์ตอบ และโน้มหน้ามากระซิบเบา ๆ"แต่คืนนั้นพี่ยืนยันจะให้ผมทำต่อ...ทั้งที่ผมบอกข้อตกลงไปแล้ว จำไม่ได้เหรอ"นิชากัดริมฝีปาก ใช่...เขาบอกเธอ