/ รักโบราณ / set : เจ้าขา / ตอนที่2 ท่านอ๋องเจ้าขา ชายามาแล้ว

공유

ตอนที่2 ท่านอ๋องเจ้าขา ชายามาแล้ว

last update 최신 업데이트: 2025-03-26 01:49:29

"ฮือๆ...พระชายาเพคะ...เมื่อไหร่ท่านจะฟื้น...ฮือ"  เอาอีกแล้ว ฉันได้ยินเสียงนี้อีกแล้ว ฉันกระพริบตาช้าๆแล้วมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จูจูกำลังร้องไห้ ส่วนเสี่ยวฮวากำลังนั่งทำหน้าเศร้าและคอยเฝ้าฉันอยู่ 

"พระชายา...ท่านฟื้นแล้ว" เสี่ยวฮวาพูดพร้อมคุกเข่ามานั่งข้างเตียงด้วยความดีใจ จูจูที่ได้ยินอย่างนั้นจึงหยุดร้องไห้แล้วโถมตัวกอดฉัน 

"พระชายา...หม่อมฉันดีใจที่พระองค์ไม่เป็นอะไรเพคะ"

"จูจู...ฉันจะตายเพราะเธอเนี่ยแหละ หนักนะ ลุกออกไป" ฉันนิ่วหน้าร้องโอดโอย

"อุ๊ย หม่อมฉันขออภัยเพคะ" 

"เฮ้อ...หลินหลินเอ๋ย แทงตัวเองทำไมล่ะเนี่ย ไม่ได้กลับบ้านแถมยังต้องมาเจ็บตัวอีก" ฉันบ่นอย่างเซ็งๆ เสี่ยวฮวาจึงถามว่า "พระชายาเพคะ ท่านอยากกลับจวนหรือเจ้าคะ"

"ใช่" 

"แต่ถ้าท่านกลับไป ท่านก็จะเจอนางนะเพคะ หม่อมฉันกลัวว่าท่านจะโมโหจนเสียสุขภาพ" เสี่ยวฮวาทำหน้าลำบากใจ 

"นาง? ใครเหรอ" ฉันทำหน้างง 

"ก็คุณหนูหลินโหรวไงเพคะ" จูจูตอบ 

"แล้วหลินโหรวที่ว่าคือใครล่ะ" 

"พระชายา!!!" เสี่ยวฮวากับจูจูร้องเสียงหลง ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ ก่อนจะจูจูจะพูดด้วยเสียงกระซิบว่า "คุณหนูหลินโหรว น้องสาวต่างมารดาของท่านไงเจ้าคะ นางเป็นลูกสาวของซูฟางอี๋เหนียงไงเพคะ" 

ฉันเริ่มได้กลิ่นตุๆจากเรื่องนี้ จึงมองหน้าทั้งสองคนแล้วพูดว่า "พวกเธอ...เอ่อ...พวกเจ้าเล่าเรื่องทั้งหมดให้ข้าฟังหน่อย" 

"พระชายา...นี่ท่านลืมจริงๆหรือเพคะ" จูจูถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ 

"เล่าให้พระชายาฟังเถอะ เจ้าน่ะอย่ามัวตกใจอยู่เลย" เสี่ยวฮวาพูดกับจูจูก่อนจะหันมาเล่าเรื่องให้ฉันฟังว่า "ซูฟางอี๋เหนียงเดิมทีเป็นลูกพี่ลูกน้องของซูเฟยฮูหยินซึ่งเป็นมารดาของท่าน ครานั้นเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ในตระกูลซู ทุกคนแม้แต่บ่าวไพร่ตายหมด ยกเว้นซูฟางอี๋เหนียงเพียงผู้เดียว ซูเฟยฮูหยินสงสารที่ซูฟางอี๋เหนียงไม่มีที่พึ่งจึงรับมาอยู่ในจวนเสนาบดี แต่ใครจะคิดเล่าว่าซูฟางอี๋เหนียงจะกล้าปีนเตียงของท่านเสนาบดีหลินเว่ยกวนซึ่งก็คือบิดาของท่าน  ซูเฟยฮูหยินทั้งเจ็บใจทั้งปวดจึงล้มป่วยและตายจากไปหลังจากคลอดท่านได้เพียงหนึ่งปีเท่านั้น ส่วนซูฟางอี๋เหนียงก็ตั้งท้องหลังจากที่ซูเฟยฮูหยินตายจนเกิดเป็นคุณหนูหลินโหรวเพคะ" 

"นี่มันพล็อตนิยายน้ำเน่าชัดๆ" ฉันเบะปาก 

"พระชายาเพคะ...ท่านว่าอะไรนะเพคะ?" เสี่ยวฮวาถาม 

"ไม่มีอะไรๆ เจ้าเล่าต่อเถอะ" 

"เมื่อไม่มีซูเฟยฮูหยินแล้ว ท่านก็อยู่อย่างยากลำบากยิ่งนักเพราะซูฟางอี๋เหนียงกลายมาเป็นผู้ดูแลจวน ทั้งอาหารการกินทั้งเสื้อผ้าด้อยกว่าบ่าวรับใช้ที่ต่ำที่สุดในจวนเสียอีก จนกระทั่งพระชายาอายุสิบแปดปีก็มีสมรสพระราชทานของฮ่องเต้ให้ท่านแต่งกับท่านอ๋องเพคะ" 

"แต่ว่าท่านอ๋องกับคุณหนูหลินโหรว..." จูจูเอ่ยขึ้นพลางทำหน้าเหมือนไม่กล้าพูดต่อ 

"รักกัน?" 

"พระชายา...ฮือๆ...ท่านอย่าได้เสียใจเลยนะเจ้าคะ...ถึงยังไงท่านก็ได้สมรสพระราชทานจากฝ่าบาท ท่านก็ยังเป็นถึงพระชายาเอกนะเพคะ" จูจูร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับปาดน้ำตา 

"พระชายาเอก...แสดงว่าต้องมีพระชายารอง" 

"ที่ท่านกระโดดน้ำฆ่าตัวตายเป็นเพราะเรื่องนี้...ท่านอ๋องทรงจะแต่งพระชายารองเข้ามาทั้งๆที่สมรสกับท่านไม่ถึงสองวันด้วยซ้ำ...พระชายา...ท่านจำไม่ได้หรือเพคะ" เสี่ยวฮวาถามพลางร้องไห้สะอึกอีกคน 

"พอๆ ข้าฟังพวกเจ้าร้องไห้จนปวดหูแล้วนะ หยุดร้องเสียที และต่อไปนี้อยู่ต่อหน้าข้าห้ามร้องไห้ และก็ห้ามคุกเข่าด้วย" ฉันหันไปสั่งสองคนด้วยความรำคาญ 

"แต่ว่า" 

"ไม่มีแต่ คำสั่งของข้า พวกเจ้าไม่เชื่อฟังแล้วหรือ?" ฉันหันไปทำหน้าเย็นชาใส่ สองคนนั้นรีบเช็ดหน้าเช็ดตาและนั่งตัวสั่นงกๆเห็นแล้วก็น่าสงสาร ฉันจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงว่า"เรื่องพระชายารองอะไรนั่น ช่างมันเถิด ข้าไม่สนใจแล้ว"  

"พระชายา ท่านทำใจได้จริงๆหรือเพคะ?" จูจูถามด้วยความสัยสัย

"ไอ้...บ้านั่นจะแต่งกับใครก็เรื่องเขาสิ เกี่ยวกับข้าที่ไหน หึ" 

"พระชายา!!! ท่านพูดอย่างนี้ไม่ได้นะเพคะ" เสี่ยวฮวาตกใจรีบถลามาปิดปากฉัน 

"งั้นเปิ่นหวางจะแต่งกับน้องสาวในวันพรุ่งนี้" เสียงดุดันเอ่ยแทรกขึ้น 

"คาระวะท่านอ๋องเจ้าค่ะ" จูจูกับเสี่ยวฮวาทำควาเคารพ ก่อนจะถอยไปยืนอยู่ด้านข้าง 

"จะแต่งก็แต่งสิ เกี่ยวอะไรกับข้า สามีก็ไม่ใช่" ฉันมองหน้าเขาแล้วลอยหน้าลอยตาตอบพร้อมกับเบะปากใส่ หึ ไอ้อ๋องบ้าอำนาจ 

"ปากดีแบบนี้เปิ่นหวางชอบ" เขาพูดพร้อมกับใช้มือมาบีบคางของฉัน 

"โอ๊ย...เจ็บนะ...ปล่อย" ฉันดิ้นพร้อมกับดึงมือเขาออก แต่เขาก็ไม่ขยับสักนิด ได้แต่ดิ้นอยู่อย่างนั้นจนกระทบแผลที่แทงหัวใจตนเองทำให้มีเลือดไหลซึมออกมา ฉันจึงด่าเขาด้วยความโมโห "ไอ้คนบ้า ชอบรังแกผู้หญิง" 

"พระชายา!" จูจูกับเสี่ยวฮวาร้องเรียกท่าทางลุกลี้ลุกลนอยากจะเข้ามาช่วยแต่ไม่กล้า 

"ไสหัวออกไป!!!" เขาเอ่ยด้วยเสียงดุดัน คนที่ได้ยินขาสั่นไปตามๆกัน จูจูกับเสี่ยวฮวารีบวิ่งออกจากห้องอย่างทุลักทุเล 

"พระชายา...เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ...ข้าไม่ใช่สามีของเจ้างั้นหรือ" เขาเหยียดยิ้มที่มุมปาก 

"แล้วมันใช่ไหมล่ะ" ฉันเถียงกลับพร้อมสบตาเขาอย่างไม่ยอมแพ้ ใบหน้าสวยบึ้งตึง 

"เจ้าอยากเข้าหอกับเปิ่นหวางหรือ?" 

"พูดบ้าอะไรเนี่ย?" 

"แต่สตรีเสแสร้งเช่นเจ้า...ไม่คู่ควร" เขาพูดจบก็ปล่อยมือจากการบีบคางฉันอย่างแรง ทำให้ฉันซวนเซเกือบจะล้ม

"โอ๊ย มั่นหน้ามั่นโหนกเหลือเกินพ่อคุณ คิดว่าคนต้องอยากได้ตัวเองขนาดนั้นเลยเหรอ จะบอกอะไรให้นะ ผู้ชายที่หลินหลินเปย์หล่อกว่านี้ นิสัยดีกว่านี้ตั้งเยอะ จะเอาแบบไหน หล่อ น่ารัก เท่ หลินหลินมีในคอลเลคชั่นหมดแหละ ฉันมันตัวแม่ตัวมารดาอ่ะ รู้จักป่ะ" ฉันชี้หน้าเขาด้วยความโกรธพร้อมกับพูดรัวๆ เขามองหน้าฉันด้วยสีหน้าดุดัน แววตาของเขาแทบจะฆ่าคนได้ เขาเดินเข้ามาใกล้แล้วผลักฉันล้มลง จากนั้นจึงคร่อมฉันไว้และพูดว่า "เจ้าคิดจะสวมหมวกเขียวให้เปิ่นหวางหรือ...ฝันไปเถิด....สตรีของข้า...ต่อให้ข้าไม่ชอบก็ยังคงเป็นของข้า" พูดจบเขาก็ยื่นมือมาบีบคอของฉัน 

"กรี๊ดๆ ไอ้บ้า...แค่กๆ...โรคจิต...ฮือๆ...ปล่อยฉันนะ" ฉันดิ้นหนีพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความกลัว ผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว 

"สตรีเสแสร้งเช่นเจ้า รู้จักกลัวด้วยหรือ" เขาแค่นเสียงและปล่อยร่างฉันให้เป็นอิสระ ฉันจึงมองหน้าเขาอย่างด้วยความโกรธแล้วพูดว่า "เหอะ ไอ้ลูกหมา ใครกลัวเจ้ากัน" พูดจบก็...อยู่ต่อทำไมล่ะคะ วิ่งหนีสิคะจะรออะไรล่ะ(⁠T⁠T⁠)

"หึ" เขาแค่นเสียงออกมาแล้วดึงฉันล้มลงไปนอนบนพื้นและขึ้นมาคร่อมฉันอีกครั้ง โอ๊ย ซวยแล้ว(⁠T⁠T⁠)

"พระชายา" เขาเรียกเสียงทุ้มพร้อมกับยิ้มบางๆ ฮือๆ น่าขนลุกชะมัด 

"ทะ....ท่านอ๋อง" ฉันสบตาเขาแล้วเรียกเขาด้วยเสียงแผ่วเบา 

"เมื่อกี้เจ้าด่าเปิ่นหวางหรือ?" 

"ฮะ...ท่านอ๋อง...ท่านทรงล้อหม่อมฉันเล่นแล้ว เมื่อกี้หม่อมฉันไม่ได้ด่าพระองค์นะเพคะ" ฉันแสร้งยิ้มหวานแล้วพูดต่อว่า "คำว่าลูกหมา...เอ่อ...หม่อมฉันทรงหมายถึงว่า...ท่าน...ท่านอ๋อง...น่ารักเหมือนลูกหมาเพคะ" เหอะ อย่างคุณก็แค่หมาขี้เรื้อนเท่านั้นแหละ 

"งั้นหรือ" เขาแสยะยิ้มก่อนจะพูดว่า "คิดว่าเปิ่นหวางอายุสามขวบหรือไร สตรีร้ายกาจเช่นเจ้าหากเปิ่นหวางไม่ลงโทษเสียบ้าง วันหน้าเจ้าคงปีนหัวเปิ่นหวางเล่นแล้ว" พูดจบเขาก็ใช้มือล้วงเข้ามาในกระโปรงของฉันด้วยความรวดเร็ว 

"โอ๊ย!!" ฉันสะดุ้งเฮือก เมื่อเขาใช้นิ้วสากแหย่เข้ามาในรูร่องที่ปิดสนิทโดยที่ไม่ได้มีการเล้าโลมใดๆ ฉันจึงมองสบตาเขา น้ำตาไหลรินลงมา"เจ็บ...ฮึกๆ...ปล่อย" 

"หึ" 

"ปล่อยนะ...มันเจ็บ...ฮือๆ" ฉันดิ้นพล่านเมื่อเขาทำการเพิ่มนิ้วเข้าไปในรู ฉันมองหน้าเขาแล้วพูดว่า"ไอ้สารเลว" 

"เปิ่นหวางเลวได้มากกว่านี้" เขาแสยะยิ้มแล้วเพิ่มนิ้วเข้ามาเป็นสามนิ้วแล้วทำการแหย่เข้าแหย่ออกโดยไม่มีน้ำหล่อลื่น 

"ฮือๆ...เจ็บนะ...ปล่อย....ฮือๆ" 

"ท่านอ๋อง...หม่อมฉันเจ็บ...ฮึกๆ" 

"เหรอ...นั่นคือสิ่งที่เปิ่นหวางต้องการ" พูดจบเขาก็ใช้นิ้วดันพรวดเข้าไปในรู จนฉันรู้สึกทั้งแสบทั้งเจ็บและเหมือนจะได้กลิ่นคาวเลือดด้วย 

"ท่านอ๋อง...ฮึก...ท่านทรงเกลียดหม่อมฉันมากเลยหรือเพคะ...หม่อมฉันทำอะไรผิดต่อท่านกันแน่...ฮือๆ" ฉันถามด้วยน้ำตาที่ไหลนองหน้า เขามองหน้าฉันและหยุดชะงักก่อนจะลุกเดินออกจากเรือน 

"ห้ามพระชายาออกจากเรือน จนกว่าจะมีคำสั่งของข้า!!!" เขาสั่งด้วยน้ำเสียงดุดัน 

"ฮือๆ...ไอ้คนบ้า...คนเฮงซวย...เวรกรรมอะไรของอีหลินหลินเนี่ยต้องมาเจอคนโรคจิตแบบนี้...ฮือๆ...ฉันอยากกลับบ้าน" ฉันนั่งร้องไห้ฟุบหน้าลงกับเข้าทั้งสองข้างก่อนจะผล็อยหลับไป 

 

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • set : เจ้าขา   ตอนที่0 ตอนพิเศษ

    ครึ่งปีต่อมา ราษฎรต่างพากันเดินทางมายังชายแดนของแต่ละแคว้น เนื่องจากในวันนี้จะมีการลงนามสัญญาสงบศึกของทั้งสามแคว้น ซึ่งเริ่มจากแคว้นหลงที่ฮ่องเต้เฟยหรงส่งพระราชสาส์นมายังฮ่องเต้ของแคว้นเว่ยต้าและแคว้นซีฮัน โดยเนื้อหาสำคัญก็คือการที่ราษฎรของทั้งสามแคว้นอยู่เป็นสุข ไม่ต้องรับความเดือดร้อนใดๆจากสงครามระหว่างแคว้นอีกต่อไปแล้ว "ไฮ~" โบตั๋นโบกไม้โบกมือให้ราษฎรที่มารอชมฉากสำคัญของประวัติศาสตร์ระหว่างสามแคว้น โดยตอนนี้ฮ่องเต้เฟยหรงและโบตั๋นยืนอยู่ตรงรอยต่อระหว่างแคว้น แค่ก้าวมาอีกก้าวเดียวก็จะเป็นแคว้นเว่ยต้ากับแคว้นซีฮันแล้ว"โบกมือเป็นนางงามเลยนะแก คิกๆ" หลินหลินที่ยืนอยู่กับท่านอ๋องเซียวหรงอยู่ที่ด้านหลังฮ่องเต้พูดแล้วหัวเราะเบาๆกับท่าทางของเพื่อน"คิกๆ" องุ่นที่ยืนอยู่กับแม่ทัพจางเหว่ย และยืนอยู่ด้านหลังฮ่องเต้แคว้นซีฮันหัวเราะเพื่อนทั้งสองเบาๆ "เริ่มพิธี" เสียงขันทีแคว้นหลงประกาศ ฮ่องเต้เฟยหรงจึงก้าวข้ามเขตแดนของตนมายืนอยู่ในเขตแดนของทั้งสองแคว้น ฮ่องเต้ทั้งสองเห็นอย่างนั้นจึงก้าวข้ามเขตแดนของตนด้วย ทั้งสามแคว้นหยุดอยู่ตรงกลางซึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างแคว้นทั้งสาม ก่อนจะทำการจุดธู

  • set : เจ้าขา   ตอนที่9 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    หลังจากกลับวัง พวกเราก็รีบเข้าห้องมาอาบน้ำ ฉันอาบก่อนแล้วให้เขาอาบทีหลัง โดยฉันไปค้นกระเป๋าแล้วหยิบดิลโด้ที่พกมาด้วยมาเตรียมไว้ จากนั้นจึงแต่งหน้าด้วยความรวดเร็ว ปล่อยผมยาวสยาย แล้วเอาถุงน่องตาข่ายสีดำมาสวมครึ่งขา ก่อนจะมานอนอยู่บนเตียงเพื่อรอเขา "ฝ่าบาทเพคะ~" ฉันร้องเรียกเขาแล้วนอนโพสท่าราวกับนางแบบในนิตยสาร18+ โดยนอนตะแคงข้างพร้อมโชว์ก้นขาวจั๊วแล้วทำสีหน้ายั่วยวน เขาเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับกลืนน้ำลายลงหนึ่งอีก แล้วพูดว่า "เจ้ายั่วยวนเราเก่งนัก" เขาพูดจบก็ใช้มือบีบก้นฉันเบาๆ "ฝ่าบาทเคยเห็นสิ่งนี้ไหมเพคะ" ฉันหยิบดิลโด้ขึ้นมาพร้อมเปิดสั่น"อย่าเพิ่งสิเพคะ...ฝ่าบาทดูนี่เสียก่อน" "มันคืออะไร" เขาถามดวยความสงสัย "ฝ่าบาทว่า...สิ่งนี้มันดูเหมือนอะไรหรือเพคะ" ฉันถามยิ้มๆ "Banana ของเรา" "คิกๆ ใช่เพคะ" ฉันหัวเราะ ก่อนหันหน้ามาแยกขาออกกว้างแล้วใช้ดิลโด้ถูไถกลีบกุกลาบ "อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ" ฉันครางพร้อมทำหน้ายั่วยวน ก่อนจับนิ้วมือเขามาดูดเลีย "เจ้า" เขาพูดได้แค่นั้นก็ยิ้มมุมปากมองฉันอย่างชอบใจ แล้วจับใบหน้าฉันให้หันมาจูบเขา เข้าใช้ลิ้นสอดเข้ามาดูดรักพันเกี่ยวอย่างเร่าร้อน "จ๊วบๆ จ๊วบ" จากนั้

  • set : เจ้าขา   ตอนที่8 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    สองวันต่อมา วันนี้เป็นวันที่เดินทางไปชายแดน โดยการเดินทางครั้งนี้ไปแบบลับๆ มีผู้ติดตามเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ในระหว่างทางฝ่าบาทก็จะคอยสอบถามความเป็นอยู่ของชาวบ้านว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยไม่ได้บอกว่าตนเป็นผู้ใด เพียงบอกว่ามาจากพระราชวังเท่านั้น "เราอยากให้สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสามแคว้นสิ้นสุดลงสักที" เขาเอ่ยด้วยเสียงกลัดกลุ้ม เนื่องจากตลอดทางที่มาแม้จะพูดถึงเรื่องภัยธรรมชาติ แต่ส่วนใหญ่แล้วพูดถึงสถานการณ์ของสามแคว้น "แล้วฝ่าบาทคิดจะทำเช่นใดเพคะ" "ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากจะสงบศึก...จะมีอะไรสำคัญไปกว่าราษฎรของเราอีกล่ะ" "ฝ่าบาทก็ทำให้เป็นจริงสิเพคะ ไม่แน่ว่าแคว้นอื่นๆก็อาจจะเช่นเดียวกับฝ่าบาท" ฉันยื่นมือไปกุมมือเขา "หากเป็นเช่นนั้นจริงๆก็ดียิ่ง เราจะเป็นผู้เริ่มส่งหนังสือสัญญาสงบศึกก่อน" "ฝ่าบาททรงพระปรีชายิ่ง" ฉันยิ้มกว้างและเกาะแขนเขาอย่างออดอ้อน หกวันต่อมา เดินทางมาหลายวันในที่สุดพวกเราก็มาถึงชายแดน วังของฝ่าบาทที่ชายแดนก็ยังคงงดงามวิจิตดังเช่นพระราชในเมืองหลวงเพียงแต่เล็กกว่าเท่านั้น ยังมีความสะดวกสบายอยู่เช่นเดิม สิ่งแรกที่ฉันทำคืออาบน้ำเพราะในระหว่างเดินทางได้อาบน้ำไม่กี่ครั

  • set : เจ้าขา   ตอนที่7 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    วันต่อมา ยามอู่ (11.00 - 12.59 น.) ฉันงัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอ่อนเพลีย ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ก็แฝงไปด้วยความฟิน บอกตรงๆว่าคิดไม่ผิดที่เลือกเขา>⁠.⁠⁠.⁠จากนั้นฉันก็อาบน้ำ แต่งตัว และกินข้าว ก่อนจะเดินออกจากตำหนักของฝ่าบาทและไปตำหนักฮองเฮา ในระหว่างทางที่เดินก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังตะโกนโห่ร้อง"นั่นเสียงอะไรน่ะ" ฉันถามหมิงจู "น่าจะเป็นเสียงฝึกยิงธนูของราชองครักษ์เพคะ หม่อมฉันได้ยินว่าฝ่าบาททรงเสด็จไปทอดพระเนตรด้วยเพคะ" "ยิงธนูเหรอ...น่าสนุกแฮะ" ฉันยิ้มกว้าง จากนั้นจึงเดินไปตามเสียง ก็มาถึงลานกว้าง ที่รอบด้านทำเป็นที่นั่งล้อมรอบเหมือนอัฒจันทร์ มีเป้าธนูขนาดกลางวางเร

  • set : เจ้าขา   ตอนที่6 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    ฉันกับองค์หญิงเฟยเจินนั่งรอฝ่าบาทอยู่ในตำหนัก เราต่างก็รู้สึกกังวล กลัวว่าฝ่าบาทจะได้รับบาดเจ็บ เพราะด้านนอกคงมีเสียงของการต่อสู้อยู่"ทำไมเสด็จพี่เฟยฉีต้องคิดก่อกบฏด้วย...ฮือๆ...เสด็จพี่เฟยหรงทรงดีต่อท่านมากแท้ๆ" องค์หญิงเฟยเจินร้องไห้ "เฮ้อ" ฉันถอนหายใจ ไม่รู้ว่าจะปลอบใจอย่างไร จึงได้แต่กอดปลอบองค์หญิงเฟยเจินพร้อมกับลูบหลังเบาๆ "ฮือๆ...ฮือๆ..." สองชั่วยามต่อมา ฝ่าบาทเดินเข้ามาในตำหนักด้วยชุดที่เปื้อนเลือด "เสด็จพี่" องค์หญิงเฟยเจินวิ่งเข้าไปกอดฝ่าบาทพร้อมกับร้องไห้โฮ "เจ้าอย่าร้องไห้เลย พี่ชายอย่างข้าเจ็บปวดหัวใจนัก...องค์หญิงของข้าเหมาะกับรอยยิ้มนะรู้หรือไม่" ฝ่าบาทลูบหัวองค์หญิงเฟยเจินอย่างแผ่วเบา ก่อนจะบอกข้ารับใช้ให้พาตัวองค์หญิงกลับตำหนัก หลังจากที่องค์หญิงเฟยเจินเดินออกไปแล้ว ฉันก็มองสำรวจเขาว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ "ฝ่าบาท..." ฉันเรียกเขาแล้วกอดเขาไว้ ก่อนจะร้องไห้เสียงดัง"หม่อมฉันกลัวว่าพระองค์จะ...ฮือๆ" "เจ้าห่วงใยเราขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน หืม?"เขาถามเสียงเรียบแต่มีแววหยอกล้อในน้ำเสียง "ฮือๆ..." ฉันทุบอกอกเขาแล้วมองเขาด้วยความโกรธแล้วพูดต่อว่า "เมื่อครู่หม

  • set : เจ้าขา   ตอนที่5 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ฉันเดินมาหยุดอยู่ที่สระบัวด้านหลังวัง และกำลังยืนรอใครบางคนอยู่ "เจ้ามาแล้ว" เสียงทุ้มเอ่ยด้วยความดีใจ เขาก็คือองค์ชายเฟยฉีนั่นเอง "ข้าจะลงมือคืนนี้" ฉันยิ้มร้ายๆและมองสบตากับองค์ชายเฟยฉี "ดีมาก...ถ้าหากสำเร็จ...เจ้าก็จะเป็นฮองเฮาของข้า" เขาแสยะยิ้ม ใบหน้าที่ดูอ่อนโยนกลับบิดเบี้ยว รอยยิ้มของเขามันดูโรคจิตราวกับฆาตรในภาพยนตร์ที่เคยดู เล่นซะฉันขนลุกเกรียว "อย่าลืมที่สัญญาล่ะ" ฉันยิ้มกว้าง ก่อนจะมองซ้ายขวาแล้วรีบเดินจากมา วันนี้เป็นงานวันเกิดขององค์ชายเฟยฉี จึงมีการจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองภายในวัง ฉันเห็นพวกนางกำนัลวิ่งวุ่นกันแต่เช้า มองดูแล้วก็รู้สึกเหนื่อยตาม ฉันเดินตามทางไปเรื่อยๆจนมาถึงห้องทรงงานของฝ่าบาทก็พบว่าฝ่าบาทไม่อยู่ "ฝ่าบาทอยู่ที่ใดหรือ" ฉันถามคนที่เฝ้าอยู่ด้านนอก"เสด็จไปที่สวนพะย่ะค่ะ" เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉันจึงออกจากห้องทรงงานแล้วเดินไปที่สวน เห็นฝ่าบาทกำลังนั่งจิบชาในศาลาเก๋งจีนพลางชมดอกไม้ และมีบรรดาพระสนมนั่งและข้ารับใช้นั่งอยู่บนพื้นหญ้าด้านข้าง "ฝ่าบาทเพคะ ชาที่หม่อมฉันชงรสชาติดีหรือไม่เพคะ" เสียงออดอ้อนที่ฉันจำได้ว่าเป็นเสียงของพระสนมฉางดังขึ้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status