Home / มาเฟีย / กรงปรารถนา / บทที่ 2 ฮีโรของต้องรัก - 25%

Share

บทที่ 2 ฮีโรของต้องรัก - 25%

last update Last Updated: 2025-07-10 23:52:23

ชนาธิปพาหญิงสาวมาหยุดยืนที่หลังร้านตรงบริเวณที่เคยพบกันเมื่อวาน ต้องรักเงยหน้ามองเขาแล้วยกมือไหว้พลางกล่าวขอบคุณเบาๆ อยู่ในลำคอ แสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ส่องกระทบด้านหลังของเขา เกิดเงาดำทาบทับลงมาที่ตัวของเธอ ทว่าชั่วขณะหนึ่งหญิงสาวกลับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากการปกป้องคุ้มครองของคนตรงหน้า

“ชื่ออะไร”

น้ำเสียงราบเรียบของเขาไม่ได้ทำให้ต้องรักรู้สึกหวาดหวั่น แต่ที่ทำให้เธอหนักใจขึ้นมาก็คือสถานะของเขาที่เพิ่งประกาศออกมาโต้งๆ ว่าเป็นเจ้าของที่นี่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนต่างหาก

“ตะ...ต้องรักค่ะ”

เธอตอบโดยไม่มองหน้าเขา นัยน์ตาคู่สวยหลุบมองแต่มือตัวเองที่ประสานกันอยู่อย่างเรียบร้อย อีกทั้งเขาเองก็ตัวสูงมาก ถ้าเงยหน้าขึ้นมอง สายตาก็คงไม่พ้นกระดุมเสื้อของเขา

“อืม...ไปทำงานต่อเถอะ ต้องรัก” พูดจบ ร่างสูงสง่าของเขาก็เดินจากไป ทิ้งให้หญิงสาวมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นจนกระทั่งเขาหายลับเข้าไปในตัวอาคาร

หญิงสาวยกมือขึ้นจับต้นแขนของตัวเองพลางทำหน้านิ่ว แรงกระชากของเขาเมื่อครู่ทำให้เธอเจ็บแปลบ

“แรงเยอะจัง”

เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นจับตัวเธอเอาไว้ทั้งสองมือ เธอเองยังดิ้นรนแทบแย่เพื่อให้หลุดจากพันธนาการนั้น แต่เขากลับใช้เพียงมือเดียวก็ดึงเธอออกมาได้

ต้องรักทอดสายตามองไปยังอาคารส่วนบริหารอีกครั้ง ความรู้สึกอ่อนหวานบางอย่างค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในใจอย่างเงียบเชียบจนริมฝีปากอิ่มเผยรอยยิ้มบางเบา

ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยยิ้มไม่ค่อยพูด แต่ต้องรักกลับสัมผัสได้ว่าเจ้านายของเธอที่ชื่อชนาธิปนั้นเป็นคนใจดีไม่น้อยเลยทีเดียว...และต้องรักก็แอบมอบตำแหน่ง ‘ฮีโร’ ให้เขาอยู่ในใจ

เมื่อถึงเวลาผับเลิก ต้องรักแอบมายืนพิงกำแพงนับเงินค่าทิปที่ได้ประจำวันและซุกซ่อนเงินบางส่วนไว้ในช่องลับของกระเป๋าสะพายเช่นเคย แล้วจึงเดินออกจากอาคาร วันนี้เป็นวันหยุดของอนุวัฒน์ จึงไม่เห็นเขามาดักรอพาเธอไปส่งบ้านอย่างเช่นทุกวัน หญิงสาวจึงต้องเดินรวมกลุ่มกับเพื่อนพนักงานคนอื่นๆ ไปยังป้ายรถประจำทางที่อยู่ไม่ไกลจากผับเท่าไรนัก

ระหว่างยืนรอรถ เพื่อนร่วมงานคนอื่นทยอยเดินทางกลับไปแล้วบางส่วน บริเวณนั้นจึงเหลือเพียงต้องรักกับเพื่อนร่วมงานและพนักงานจากผับใกล้เคียงประมาณสิบกว่าคนเท่านั้น จู่ๆ ก็มีรถเก๋งคันหนึ่งขับมาอย่างเร็วแล้วจอดเทียบริมบาทวิถีที่หน้าป้ายรถประจำทางจนเสียงเบรกดังลั่น พร้อมกับที่ประตูรถด้านหลังกับด้านข้างคนขับเปิดออกอย่างรวดเร็ว

ต้องรักตาเบิกโพลงเพราะจำได้ดีว่าชายหนุ่มสองคนนี้เป็นใคร ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขาออกวิ่ง ผู้ชายสองคนนั้นก็ตรงเข้าชาร์ตหญิงสาวพลางลากถูลู่ถูกังไปยังรถท่ามกลางเสียงหวีดร้องโวยวายของต้องรัก

“อย่าเสือกนะเว้ย! ถ้าไม่อยากตาย”

หนึ่งในชายหนุ่มสองคนนั้นชักปืนขึ้นมาขู่คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ และทำท่าว่าจะเข้าช่วยเหลือ ทว่าพอเห็นวัตถุในมือของคนขู่จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง

“ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย ปล่อยฉันนะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”

ต้องรักร้องเรียกให้คนช่วยเสียงดังลั่น หนึ่งในสองคนนั้นเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าจะมีตำรวจผ่านมาจึงตัดสินใจชกท้องของหญิงสาวจนต้องรักทรุดฮวบลง ตัวงองุ้มด้วยความจุก ชายหนุ่มคนนั้นเลยอุ้มเธอไปที่รถได้อย่างง่ายดาย

“ไปเว้ย!”

เมื่อจัดการยัดร่างของต้องรักเข้าไปในรถได้แล้ว รถคันดังกล่าวก็พุ่งทะยานออกไปจากตรงนั้นทันที เพราะขืนอยู่นานกว่านี้คงได้เดือดร้อนกันหมดเป็นแน่ เนื่องจากปืนที่ใช้ขู่ก็เป็นปืนปลอม แถมยังกระทำการอุกอาจดักฉุดหญิงสาวในที่สาธารณะอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทว่าศักดิ์ศรีที่ค้ำคอทำให้ยอมไม่ได้ที่โดนหักหน้าอย่างนั้น

“เป็นไงล่ะ นังตัวดี กูบอกให้มากับกูดีๆ ก็ไม่เชื่อ ชอบให้ใช้กำลังดีนัก อย่าคิดนะว่ากูจะปล่อยให้มึงลอยนวลน่ะ มึงกับเจ้านายมึงทำกูขายขี้หน้าเขาไปทั่ว เพราะฉะนั้นมึงต้องชดใช้ ฮ่าๆ”

เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่ติดกับต้องรักแผดเสียงหัวเราะพร้อมกับใช้มือลูบคลำเรียวขาและแผ่นหลังของหญิงสาวโดยไม่นำพาอาการขัดขืนอันน้อยนิดของเจ้าของร่าง

เพราะความจุกเจ็บที่ช่องท้อง อีกทั้งความคับแคบของเบาะหลัง ต้องรักจึงไม่อาจขยับตัวหนีได้ตามใจนัก อยากกรีดร้องก็ร้องไม่ออก แค่จะอ้าปากหายใจยังรู้สึกยากลำบาก กระบอกตาเริ่มร้อนผ่าว หยาดน้ำเอ่อขึ้นมาคลอจนกระทั่งไหลรินลงอาบแก้ม รู้สึกกลัวจับขั้วหัวใจเมื่อได้ยินผู้ชายสามสี่คนในรถพูดจาหยาบโลนอย่างคะนองปาก

คนพวกนี้กำลังจะพาเธอไปรุมโทรม เคยแต่ดูข่าวยังรู้สึกว่าผู้ถูกกระทำนั้นช่างโชคร้ายนัก ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าตนเองกำลังจะประสบเคราะห์กรรม กลายเป็นเหยื่อเหมือนผู้หญิงเหล่านั้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้

“โอ๋ๆ อย่าร้องไห้สิจ๊ะคนสวย พี่กำลังพาไปเล่นอะไรสนุกๆ นะจ๊ะ ขี้คร้านจะติดใจแล้วร้องบอกพี่จ๋าขออีกยกเพราะหนูชอบ ฮ่าๆ”

พูดพร้อมกับเอาฝ่ามือฟาดไปที่ก้นของหญิงสาวเต็มแรง พลางดึงตัวหญิงสาวให้นั่งหลังตรงเพราะเริ่มทนไม่ไหว จากที่คิดจะหาความสนุกกับร่างแน่งน้อยนี้ในโรงแรมจึงเปลี่ยนมาเป็นขอสนุกกันในรถนี้ก่อน

ต้องรักสะอื้นฮัก ใช้แขนโอบกอดท่อนขาของตัวเองแน่นไม่ยอมปล่อย ด้วยรู้ดีว่าเป้าหมายต่อไปของชายกลัดมันคือหน้าอกของเธอ ชั่ววูบนั้นคิดกระหวัดไปถึงชายหนุ่มที่เธอแอบยกตำแหน่งฮีโรให้เขา เขาจะรู้บ้างหรือไม่ว่าเธอกำลังจะถูกคนเลวพวกนี้กระทำย่ำยี เธออยากเห็นเขาในเวลานี้ อยากให้เขามาช่วยเหลือเกิน ความคิดฟุ้งซ่านนั้นเลยเถิดไปไกลถึงขนาดว่าถ้าหากเขามาช่วยเอาไว้ได้ทัน ไม่ว่าเขาต้องการอะไรเธอก็ยินยอมพร้อมใจให้เขาทุกอย่าง...ทุกอย่างจริงๆ

“เฮ้ย! ฉิบหายแล้ว มึงหักหลบสิวะ เฮ้ย!”

เสียงร้องโวยวายของชายหนุ่มที่กำลังหาทางลวนลามต้องรักดังขึ้นพร้อมกับเสียงโหวกเหวกลั่นรถของคนที่เหลือ หญิงสาวพยายามเงยหน้าขึ้นมองเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยังไม่ทันที่จะเห็นอะไร รถที่นั่งอยู่ก็ดูเหมือนจะเสียหลักพุ่งไปข้างหน้าอย่างแรงจนไปกระแทกกับอะไรบางอย่างเข้า

โครม!

แรงกระแทกจากด้านหน้ารถส่งผลให้ร่างของหญิงสาวโดนอัดเข้ากับเบาะหน้าจนจุกร้าวไปทั้งตัว สมองมึนงงราวกับสิ่งต่างๆ รอบกายกำลังหมุนคว้าง เธอไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนกายไปไหนได้ กำลังกายเริ่มแผ่วลงทุกขณะ รับรู้แต่เพียงว่ากระจกประตูด้านที่ตนนั่งอยู่นั้นถูกทุบจนแตก และใครคนนั้นก็สอดมือเข้ามาปลดล็อกรถแล้วเปิดประตูออกกว้าง ได้ยินเสียงชายหนุ่มที่นั่งประกบเธออีกฝั่งลนลานร้องขอชีวิตก่อนจะถูกกระชากจนร่วงจากรถไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กรงปรารถนา   บทที่ 4 ในอุ้งมืออุ่น - 35%

    ต้องรักพยายามจะยันกายลุกขึ้นนั่ง ทว่ามือของดิลกก็เลื่อนขึ้นมาตรึงข้อมือไว้ทั้งสองข้าง หญิงสาวจึงก่นด่าพร้อมทั้งข่มขู่ด้วยความแค้นเคือง“ไอ้หลก แกฆ่าแม่ฉัน ฉันจะเอาแกเข้าคุกให้ได้ ไอ้เลว!”“กูไม่ได้ฆ่าแม่มึง นังจงมันตกบันไดลงมาเอง”ดิลกรีบแก้ต่างให้ตัวเอง ก่อนจะพูดบางอย่างที่ต้องรักได้ฟังก็ยิ่งโกรธแค้นเป็นร้อยเท่าพันทวี“กะอีแค่ทองเส้นเท่าหนวดกุ้ง แม่มึงจะหวงไว้ทำไมนักหนา กูแค่ขอยืมไปหมุนหน่อยเดียวแต่มันไม่ยอมให้ กูก็ต้องขโมยเอาสิ แม่มึงวิ่งตามกูจะเอาคืนแล้วพลาดตกบันไดมาเองไม่เกี่ยวกับกูสักหน่อย”“ไอ้ชาติชั่ว! ปล่อยนะ ไอ้ทุเรศ! ปล่อยฉัน” ต้องรักดิ้นรนสุดแรงเท่าที่ตัวเองจะมี ปากก็ร้องด่าทอดิลก พ่อเลี้ยงไปด้วย“ปล่อยก็โง่แล้ว กูเล็งมึงมาตั้งนาน ตอนแม่มึงอยู่กูทำอะไรไม่ได้เพราะติดคำสาบานที่ให้ไว้กับแม่มึง แต่ตอนนี้แม่มึงมันก็ตายไปแล้ว ยอมๆ กูไปเถอะน่ากูรู้ว่ามึงเองก็ไม่ได้สดซิงอะไรนักหรอกทำงานกลางคืนอย่างนั้นน่ะ”ถ้อยคำต่ำทรามที่พ่นออกมาจากปากของดิลกทำเอาหญิงสาวแ

  • กรงปรารถนา   บทที่ 3 สูญเสีย - 100%

    “ไปคุยกันที่บ้านเอ็งดีกว่า” พูดจบก็เดินนำหน้าหญิงสาวไปอย่างเชื่องช้า ต้องรักจึงเดินไปข้างๆ พร้อมกับชะลอฝีเท้าให้ช้าลงตามไปด้วยยายสาเป็นคนแก่คนหนึ่งที่คนในซอยมักไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไรนัก อาศัยอยู่เพียงลำพังในบ้านเช่าใกล้วัด นานๆ จึงจะมีลูกหลานมาเยี่ยมมาหาสักครั้ง ซึ่งเธอเองก็ไม่ค่อยเข้าใจลูกหลานของยายสานักว่ากำลังคิดอะไรกันอยู่ ถึงได้ปล่อยปละละเลยให้คนชราที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่เพียงลำพังได้“ยายมีของมาคืนให้เอ็งน่ะ”เมื่อเข้ามาในบ้าน หญิงชราก็นั่งลงที่เก้าอี้แล้วรูดซิปล้วงหยิบเอาถุงกำมะหยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋าเสื้อคอกระเช้าพลางยื่นให้หญิงสาวตรงหน้าต้องรักเอื้อมมือไปรับมา คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างงุนงงสงสัย เห็นยายสาพยักพเยิดให้เธอเปิดถุงออกดูจึงได้รู้ว่าสิ่งที่อยู่ด้านในคือแหวนทองประดับด้วยทับทิมสีแดงเม็ดเดี่ยวๆ ไม่ใหญ่มากนัก แต่มันกลับทำให้หญิงสาวน้ำตารื้นขึ้นมาทันที เพราะจำได้ดีว่าแหวนวงนี้มีความสำคัญกับมารดามากเพียงใด“นังจง แม่เอ็งน่ะเอามาฝากยายไว้ตั้งนานแล้ว เพราะขืนเอาเก็บไว้ที่บ้านไอ้หลกมันคงขโมยไปขายเอาเงิ

  • กรงปรารถนา   บทที่ 3 สูญเสีย - 75%

    ร่างผอมบางของจงรักถูกลุงเพิ่มอุ้มพาไปยังเบาะรถสามล้ออย่างทุลักทุเล โดยมีต้องรักและนวลตามขึ้นไปนั่งอยู่บนพื้นด้วย จากนั้นรถก็มุ่งไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันทีเวลาผ่านไปนานเท่าไรก็สุดรู้เพราะต้องรักไม่ได้สนใจ ตอนนี้สายตาของหญิงสาวจ้องเขม็งไปยังประตูห้องฉุกเฉินที่มารดาเข้าไปอยู่ในนั้นได้พักใหญ่แล้ว การรอคอยช่างแสนทรมาน ยิ่งยาวนานก็ยิ่งรู้สึกราวกับหัวใจถูกบีบอัดให้เล็กลงเรื่อยๆ จนเหมือนจะหายใจไม่ออก“รักเอ๊ย...แม่เอ็งถึงมือหมอแล้ว เอ็งไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ”นวลที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เดินเข้ามาบีบหัวไหล่เบาๆ อย่างปลุกปลอบ ต้องรักหันมามองครู่หนึ่งก่อนน้ำตาที่สู้อุตส่าห์กักเก็บไว้จะไหลทะลักออกมาจากหน่วยตาอีกครั้ง“รักไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น รักกลับมาจากทำงานก็เห็นแม่นอนอยู่หน้าบันไดแล้ว” ต้องรักพูดปนสะอื้น ในขณะที่นวลนั้นทำท่านึกอะไรบางอย่าง“รู้สึกป้าจะได้ยินไอ้หลกมันทะเลาะกับแม่เอ็งนะ เหมือนมันจะเอาอะไรสักอย่างแล้วแม่เอ็งไม่ยอมให้น่ะ ป้าเองก็ไม่ได้สนใจเพราะเห็นทะเลาะกันเกือบทุกวันอยู่แล้ว”ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันต

  • กรงปรารถนา   บทที่ 3 สูญเสีย - 50%

    ต้องรักเดินเกาะกลุ่มกับเพื่อนพนักงานออกมาจากอาคารเพื่อกลับบ้านดังเช่นทุกวัน นัยน์ตาคู่สวยชะเง้อมองไปยังที่จอดรถทางฝั่งของผู้บริหารอย่างลืมตัว รถยุโรปคันหรูที่เธอเคยนั่งยังคงจอดนิ่งอยู่ที่เดิม อันเป็นการบอกว่าเขาคนนั้นยังไม่ได้ออกจากที่นี่ อยากหยุดยืนเพื่อรอส่งตอนที่รถของเขาแล่นผ่าน แต่ก็เกรงว่าหากทำอย่างนั้นเขาจะมองว่าเธอกำลังทอดสะพานให้เขา คิดได้ดังนั้นจึงตัดสินใจเดินตามกลุ่มเพื่อนออกไปทว่ายังไม่ทันเดินพ้นเขตลานจอดรถดี รถคันที่ต้องรักมองดูอยู่เมื่อครู่ก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวแล่นผ่านหน้าของทุกคนไป ต้องรักมองไปยังกระจกของที่นั่งตอนหลังพร้อมกับคลี่ยิ้มให้ มองผิวเผินอาจจะดูเหมือนว่าเธอกำลังยิ้มให้เงาของตัวเองที่สะท้อนกลับมา แต่ใครเลยจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเธอกำลังยิ้มให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลังนั้นต่างหาก“รัก!”ได้ยินเสียงของใครคนหนึ่งเรียกมาจากด้านหลัง แต่เจ้าของชื่อไม่ได้หันกลับไปเพราะมัวแต่มองส่งรถคนนั้นจนกระทั่งลับสายตา พร้อมกับที่ผู้ตะโกนเรียกมาหยุดรถมอเตอร์ไซค์อยู่ข้างๆ“รักขึ้นรถเราเถอะ เดี๋ยวเราไปส่ง”อน

  • กรงปรารถนา   บทที่ 8 เด็กเสี่ย - 100%

    “ไม่เป็นไรหรอกบอย รักกลับเองดีกว่า อีกอย่างนะ ทางไปบ้านบอยกับบ้านรักมันคนละทางกันเลยนะ บอยไม่ต้องไปส่งเราหรอก”ต้องรักรีบปฏิเสธออกมาทันทีพร้อมกับยกแขนของยุวรรณดาขึ้นมาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของเพื่อน“จะสี่โมงแล้วเดี๋ยวเรากลับบ้านก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เจอกันนะ บาย”เมื่อเห็นว่าอีกสิบนาทีจะบ่ายสี่โมง ต้องรักจึงรีบตัดบทแล้วหาทางเลี่ยงออกมาทันที เพราะกลัวว่าอนุวัฒน์จะดึงดันขอไปส่งบ้านให้ได้ เพื่อนชายคนนี้คิดกับตนอย่างไรใช่ว่าเธอจะไม่รู้ แม้ว่าเขาจะดีและมีน้ำใจกับเธอมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถคิดกับเขาเกินเพื่อนได้จริงๆเดินห่างเพื่อนออกมาได้ไม่เท่าไร โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าก็สั่นเตือนขึ้นมาว่ามีคนโทร.เข้า ต้องรักเอามือควานหาโดยไม่หยุดเดิน เมื่อเจอแล้วก็กดรับสายทันที โดยไม่ต้องดูชื่อเพราะรู้ว่าใครโทร.มา“ค่ะ รักกำลังจะถึงหน้ามอแล้วค่ะคุณธิป...ได้ค่ะ”หลังจากวางสาย ร่างเล็กก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางหน้ามหาวิทยาลัย ยิ่งเขาบอกว่ากำลังจอดรถรออยู่ หญิงสาวก็ยิ่งลนลานรีบไปให้ถึงโดยเร็วที่สุดเพราะไม่อยากให้เขารอนาน จึง

  • กรงปรารถนา   บทที่ 3 สูญเสีย - 25%

    ต้องรักตื่นนอนประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง รู้สึกว่าอาการปวดตึงที่ข้อเท้าเริ่มดีขึ้นมาก อาจเป็นเพราะเมื่อตอนเช้ามืดที่ผ่านมาเธอได้เล่าให้มารดาฟังว่าเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนเล็กน้อยจนข้อเท้าแพลง ท่านจึงนวดจับเส้นให้จนสามารถเดินลงน้ำหนักได้เต็มเท้ามากขึ้นหญิงสาวจัดการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ เสร็จเรียบร้อยก็เดินลงไปชั้นล่าง ได้ยินเสียงตำน้ำพริกอยู่ในครัวจึงเดินเข้าไปดูเผื่อมีอะไรที่พอช่วยได้บ้าง“มีอะไรให้ช่วยไหมแม่”ร่างเล็กเดินเข้าไปยืนเมียงมองที่โต๊ะเล็กข้างเตาแก๊สปิกนิก เห็นมีไข่ไก่วางไว้ในชามใบเล็กสองฟอง มีต้นหอมที่ยังไม่ได้ซอยวางอยู่บนเขียง เธอจึงเดินเข้าไปจัดการต่อให้ทันที“งั้นรักเจียวไข่เองนะ” พูดพลางลงมือหั่นต้นหอมสำหรับใส่ไข่เจียว พอดีกับที่มารดาตำน้ำพริกเสร็จจึงหันมาถามบุตรสาวอย่างเอาใจใส่ เพราะเห็นเวลาเพิ่งจะเที่ยงเท่านั้น เท่ากับว่าต้องรักเพิ่งนอนไปได้แค่ห้าชั่วโมง“นอนอิ่มแล้วเหรอลูก น่าจะนอนอีกสักหน่อยไหนๆ ก็หยุดเรียนแล้ว”“ไม่ไหวละจ้ะแม่ ท้องร้องโครกครากเลยต้องลงมาหาอะไรกินนี่แหละ อีกอย่างนะ วันนี้รักจะไปแถวที่ทำงานเร็วกว่าเดิมสักหน่อย ว่าจะลองไปเดินดูห้องเช่าหรืออพาร์ตเมนต์แถว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status