“ท่าทางคุณจะรักพ่อมากนี่ แล้วทำไมต้องปิดบังประวัติของตัวเองด้วยล่ะ”
เธอตื่นจากภวังค์ หันไปมองคนถามตาปริบๆ
“ฉันไม่ได้ปิดบัง แค่ไม่พูดถึง” เธอยื่นถ้วยบะหมี่ให้เขา “นี่ไง อาหารที่ทำได้รวดเร็วที่สุดและฉันก็ทำมันได้อร่อยที่สุดด้วย รับรองความปลอดภัยทุกประการ”
เขายิ้มๆขณะรับถ้วยบะหมี่แล้วก็ใช้ตะเกียบเกี่ยวลากเส้นเกือบหมดถ้วยเข้าปากทันที เคี้ยวเหมือนคนตายอดตายอยาก
“ฉันถามคุณจริง ๆ เถอะ คุณเก็บดอกเบี้ยแบบนี้กับลูกหนี้ทุกคนรึเปล่า หรือว่ามีแค่ฉันคนเดียวที่ซวย”
ภาคินหยุดกึก พวงบะหมี่ยังคาอยู่ที่ปาก
เธอส่งสายตาอ่อนล้าสิ้นหวัง ขณะเดินหลีกหนีเขาออกไปจากครัวแล้วกลับเข้าไปในห้องนอน จัดการลงกลอนล็อกประตูจนแน่นหนา ความรู้สึกทดท้อส่งเธอเข้าสู่โลกส่วนตัว อรดีร้องไห้ ทั้งที่เคยสัญญากับตัวเองเอาไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้อีกเลยหลังจากที่มารดาผู้เป็นที่รักยิ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่เธออายุหกขวบ เธอขู่ตัวเองว่าจะเข้มแข็ง ต่อสู้กับสังคมอันโหดร้ายโดยให้ความหวังเป็นพลังชีวิต หวังว่าสักวันหนึ่ง เธอและพ่อจะรวยและมีความสุขอยู่ในคฤหาสน์ที่สวยงามยิ่งกว่าบ้านของตระกูลพัฒน์ชนะพงศ์
แล้วนี่มันอะไรกัน ตั้งแต่หมอนี่โผล่มา
“ทุกอย่างกำลังจะพังพินาศ เพราะมันคนเดียว ไอ้ปิศาจภาคิน”
ส่วนคนเป็นเจ้าหนี้ถึงกับกลืนไม่ลง กับคำถามของเธอ ใช่ เขากำลังทำอะไรอยู่ ทิ้งงานที่เกาะมาพักร้อนในกรุงเทพฯ ขยัยอาณาจักรหรือตั้งใจมาทวงหนี้…ทั้งๆที่เป็นลูกน้องคนไหนก็ได้ แต่เขาลงมือทำเสียเอง เพราะอะไร?
“ใครบอกกันว่าคุณคนเดียวที่ซวย ยังมีอีกซี่ อย่างน้อยก็สองละ”
มันคือการชำระความชิงชังที่ล้นอกให้เบาบางลงต่างหาก สำหรับแม่นางเอกสาว เธอเป็นหมากตัวสำคัญที่เขาจะใช้เดินไปสู่ความสำเร็จในเกมสายเลือดครั้งนี้เท่านั้น โน่น…คนที่จะเจ็บปวดยิ่งกว่า คุณนายกับลูกชายสุดที่รัก มันคุ้มจะตายกับการลงทุนเข้ามาในมหานคร
“แล้วนายจะได้รู้ว่าความเจ็บปวดจากการถูกขโมยของรักมีรสชาติแบบไหน ฉันจะทำให้นายรู้ว่าการตายทั้งเป็นมันสนุกไม่ใช่เล่น”
พระจันทร์กลมโตลอยเด่นประดับฟ้า ส่องแสงนวลลงมายังร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสเหนือยอดตึก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สองหนุ่มสาวที่กำลังถูกจับตามองนั่งอยู่ที่โต๊ะริมสุดซึ่งมีความเป็นส่วนตัวสูง นางเอกสาวดาวรุ่งควงคู่มากับผู้ชายในเครื่องแบบที่มีชื่อเสียงในวงสังคมไม่น้อยไปกว่ากัน ตอกย้ำข่าวลือของคนคู่นี้ด้วยภาพสวีทหวานที่ไม่เกรงกลัวสายตาใคร
พีระนันทน์กุมมือของอรดีเอาไว้ตลอดเวลา ส่งประกายรอยยิ้มอบอุ่นสื่อถึงหัวใจที่มอบให้อย่างจริงใจเรื่อยมา
“อรรู้ไหม อรทำให้พีมีความสุขมาก สุขจนล้นทะลักไปหมด”
เจ้าหล่อนยิ้มจืด ดวงตายังคงซ่อนแววกังวล
“พีมีความสุข แต่คุณหญิงแม่ของพีสิ ป่านนี้ไม่รู้ว่ากำลังแช่งชักหักกระดูกอรอยู่รึเปล่า”
“ไม่เอาน่า คุณแม่ดูดุก็จริง แต่ไม่ได้เป็นคนใจร้ายขนาดมานั่งแช่งว่าที่ลูกสะใภ้หรอกนะ” ส่งสายตาหวานเชื่อมแล้วเขาก็กวักเมือเรียกบริกร สั่งให้เสิร์ฟของหวานทันที ก่อนที่บรรยากาศมันจะเสียไปเพราะคำว่า ‘แสงเดือน’
“พีสั่งเค้กกลิ่นวานิลลาที่อรชอบมาให้ด้วย ลองดูสิ”
เค้กชิ้นใหญ่ถูกเลื่อนไปวางตรงหน้าหญิงสาว เธอหรี่ตามองชายหนุ่มตรงหน้าแล้วหัวเราะ
“อย่าบอกนะพี ว่าจะทำน้ำเน่า โดยการใส่แหวนลงไปในเค้กนี่”
พีระนันทน์ถึงกับอ้าปากหวอ แก้มแดงเพราะเขินเกินทน
“เปล่านะ พีไม่คิดทำอะไรเพี้ยนๆแบบนั้นหรอก วางใจได้น่า แต่แค่จะขอเต้นรำด้วยสักเพลงหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ทราบว่าคุณนางเอกสุดสวยจะเมตตาผมรึเปล่าครับ”
อรดีจ้องพีระนันทน์ตรงๆเพราะแปลกตา ทั้งที่รู้จักกันมานานนับสิบปี เขาดูตื่นเต้นลนลานจนเกินธรรมดา ดูไม่เหมือนหนุ่มผู้พกพาความมั่นใจมาเต็มบ่าเหมืนวันก่อน ๆ หญิงสาวยื่นมือให้ชายหนุ่มที่โค้งให้จับด้วยความยินดี แต่ทว่า การเต้นรำเคล้าแสงจันทร์คลอเสียงหวานจากเปียโนไม่ทันจะจบเพลง โทรศัพท์ของผู้กองหนุ่มก็ดังขึ้นขั้นความสุขเสียก่อน คนบ้างานอย่างเขาละมือจากหญิงสาวทันที แล้วขอตัวออกไปรับโทรศัพท์ไกลๆ
ไม่นานนัก พีระนันทน์ก็กลับมาที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง พร้อมกับข่าวที่อรดีสามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า
“อรครับ พอดีมันมีงานด่วนเข้ามาน่ะครับ ช่วงนี้พวกแก๊งค์มาเฟียทวงหนี้อาละวาดหนักเหลือเกิน งั้นเรากลับกันเลยได้ไหมครับ ผมจะไปส่งคุณก่อน”
อรดีใบหน้าเซียวลงไปถนัดใจ แต่เธอไม่ใช่คนเรื่องมากอยู่แล้ว
“อรว่าคุณรีบไปทำงานจะดีกว่าค่ะ เดี๋ยวอรกลับแท็กซี่เองก็ได้”
“ไม่ได้หรอกอร พีไปรับอรมา แล้วพอกลับจะให้อรนั่งแท็กซี่กลับได้ยังไง”
อรดีแววตาจริงจัง เอื้อมมือไปจับมือของตำรวจหนุ่มแล้วบีบ
“แต่อรอยากให้พีรีบไปลากหัวไอ้แก๊งค์มาเฟียเข้าตะรางให้หมด บ้านเมืองจะได้สงบสุขซะที รีบไปนะคะ อย่าให้พวกมันรอดไปได้อีก อรจะเอาใจช่วยค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงอรหรอกนะคะ อรดูแลตัวเองได้”
เธออนุญาตและส่งเสริมอย่างออกนอกหน้า จนพีระนันทน์อดลังเลใจไม่ได้ว่าเพราะประชดหรือเอาใจช่วยจริง ๆ แต่อรดีไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาสักหน่อย เธอไม่ได้งี่เง่าไร้สาระเหมือนกับผู้หญิงทั่วไป เขาจึงรีบออกจากร้านอาหารหรูไปตามการเร่งเร้าขอร้องจากเธอนั่นเอง
“อรจะสบายใจมากถ้าไม่มีคนเลวพวกนี้ครองเมือง”
คู่ควงไปแล้ว เหลือแต่เธอ นั่งเดียวดายอยู่ตรงที่เดิม มองไปยังเบื้องหน้า แสงไฟจากตึกรามบ้านช่องส่องประกายระยิบระยับอวดตา เธอทอดถอนลมหายใจไปในสายลมหนาวที่พัดมาวนเวียนเนื้อกายเป็นระลอก เธอกกกอดตัวเอง ดวงตาเหม่อลอยหม่นหมอง
กระทั่งเธอตัดสินใจหันกลับมาอีกครั้ง แล้วภาพที่ได้เห็นกับตาก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจจนไม่อยากจะเชื่อสายตา…หมอนั่นควงมากับสาวสวย!
ภาคินเดินผ่านโถงประตูทางเข้าขนาดใหญ่ มาเหยียบยืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้นสู่ชั้นบน เขาเงยหน้ากวาดมองบ้านที่ไม่ได้กลับมานานหลายเดือน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกซอกหลืบยังคงอยู่ในสภาพดั้งเดิม ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้งอย่างเหนื่อยหน่าย มิใช่หน่ายจากการเดินทางอันแสนสั้น แต่เหนื่อยกับความทรงจำเดิม ๆ ที่มักจะไหลผ่านเข้ามาทุกครั้ง เมื่อต้องมาเยือนในที่ที่เขากับเธอเคยเดินทางมาด้วยกันไม่ทันนานนักที่เขาจมหายในภวังค์อันแสนเศร้า มีบางเสียงดังแว่วมาเข้าหู เสียงประหลาดนั่นดังมาจากด้านบนอย่างแน่นอน เขาเอะใจอะไรบางอย่าง ใจเต้นตูมๆขณะเยื้องย่างขึ้นสู่ด้านบนด้วยความเร็วรี่“ไม่ใช่แน่ สมองเราเบลอไปใช่ไหม”เจ้าหนุ่มมาหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องนอนของตัวเอง เสียงหายใจถี่ยิบดังกังวานสดใส เขาแนบใบหูข้างขวาเข้าประกบที่บานไม้แข็งแรง เงี่ยหูฟังเสียงที่ถูกส่งมาจากด้านใน ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งตื่นเต้นรนราน ใจมันรู้สึกแปลกๆพิกล แต่ยิ่งเสียงนั่นดังจนจวนจะทะลุหูเขาได้ ใจของเขากลับพองตัวขึ้นจนใหญ่กว่าเกาะสราญรมย์แล้วด้วยซ้ำ เขาไม่คิดจะเคาะประตูเลยแม้แต่น้อยภาคินภาวนาระงมว่าเสียงเด็กร้องที่เขาได้ยินเต็มสองรูหู ไม่ได้อยู่ในความฝั
“ยังไม่มีวี่แววเลยครับ เธอใจแข็งจัง”ภาคินยื่นบุหรี่ให้พ่อของอรดี เขารับไปคาบ แล้วรอปลายไฟแช็กจากเจ้าหนุ่ม“พาหลานของพ่อไปอยู่เสียที่ไหน”“เธอน่าจะติดต่อมาหาคุณบ้าง”“ผมรอคอย หวังว่าสักวัน”เขาสังเกตเห็นว่านายนภดลมีหงอกเพิ่มขึ้น นั่นคงเป็นเพราะความเครียดเรื่องลูกสาวจอมดื้อ ภาคิน ปล่อยควันบุหรี่เป็นสาย แสงตะวันสุดท้ายกำลังจะบอกลาเส้นขอบฟ้าอีกครั้ง“ผมไม่อยากให้คุณไปจากที่นี่”“ถึงที่นี่จะไม่ใช่กาสิโนอีกแล้ว แม้จะเป็นสวนสนุกที่มีแต่พวกเด็กๆ ถ้าคุณยังคิดจะจ้างคนแก่คนนี้ ผมก็ยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนคุณเพื่อรอคอยลูกสาวกลับมา อย่างน้อยก็จนกว่าคุณจะเลิกตามหาลูกสาวของผม หรือมีภรรยาใหม่”เจ้าหนุ่มสูดควันเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะดีดเถ้าทิ้งลงในถ้วยใบเล็กใกล้มือ เขายิ้มบางๆ“ภรรยาของคุณเป็นคนยังไงครับ”“ถ้าคุณรู้ว่าเธอเป็นคนยังไงและคุณเชื่อคำโบราณที่ว่าดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ คุณคงไม่กล้าแตะอรดีแน่ ผมรับประกัน”หนึ่งปีผ่านไปช้า ๆ ภาคินรู้สึกถึงความยาวนานที่เขาต้องประสพกับความทรมาน อ้างว้าง เดียวดายราวกับสิบปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาหวาดกลัวเล่นงานเขาจนใจพังพินาศไปหมด ที่เขาฝืนยืนอยู่ได้จนทุกวัน
“ตอนปลายเดือนฉันได้รับใบเสร็จจ่ายเงินค่าเบอร์โทรศัพท์บ้านทุกเดือน แล้วในกระดาษแผ่นนั้นก็ระบุเบอร์โทรศัพท์ของใครบางคนหลายครั้งซึ่งไม่ใช่ฝีมือการกดของฉันอย่างแน่นอน ฉันจึงได้รู้ว่าคนที่ซื้อคอนโดของอรไปคือพี่โตค่ะ”“พี่โต” เขาพอจะเค้าหน้าหนุ่มใหญ่เจ้าของกล้องที่เขาช่วยทำพังเมื่อครั้งไปทำงานที่เกาะมุกคราวก่อนออก “ผมจะไปหาหมอนั่นเดี๋ยวนี้”ชิดชนกยกสองมือขึ้นห้าม “ใจเย็นสิคะคุณภาคิน เราสองคน คือฉันหมายถึงฉันกับนายเช็คน่ะค่ะ เราไปสอบถามพี่โตมาแล้วเมื่อเช้านี้เอง เป็นเพราะมีเช็คไปด้วยทุกอย่างก็เลยง่ายขึ้น” สาวเจ้าหันไปยิ้มหวาน กระพริบตาปริบๆให้บุรุษยอดดวงใจ ภาคินกระแอมเสียงดังขร่มด้วยความหมั่นไส้“ตกลงว่าไงเช็ค อยากได้เงินขอเมียสักล้านสองล้านไหม”ดวงตาสมุนคู่ใจเกิดประกาย รีบรายงานนายน้อยทันท่วงที“หมอนั่น บอกว่าคุณอรดีไปสิงคโปร์กับช่างภาพที่ชื่อปีเตอร์ครับ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนนี่เอง นี่ครับนายน้อย เบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานที่นายปีเตอร์ทำงานอยู่”“สิงคโปร์”แผนที่ประเทศสิงคโปร์ลอยผ่านหน้าเขาไปช้า ๆ รูปปั้นสิงโตทะเลพ่นน้ำใส่หน้าของเขาจนเปียกปอนไปหมด ภาคินกำลังจินตนาการว่าอรดีกำลังเดินชอปปิ้งอยู่ใ
“แต่ว่าตอนนี้ คุณอรดีไม่รู้ว่าเธอหายไปอยู่ที่ไหนสิครับ”ภาคินหยุดทุกอย่างแม้แต่ลมหายใจ แล้วมองหน้าเช็คนิ่ง ๆ เช็คยกไหล่ แบฝ่ามือที่ว่างเปล่าทั้งสองด้าน เช็คไม่เคยมีท่าทางแบบนี้ ดูเป็นคนละคนกับที่เขาเคยรู้จัก ใครเสี้ยมสอนให้สมุนคู่ใจของเขาทำซุ่มเสียงไม่ยี่หระต่อความทุกข์ของนายแบบนี้ ราวกับสมน้ำหน้าเขาอย่างนั้น“แหล่งข่าวของผม บอกว่าเธอหายตัวไปเกือบสัปดาห์แล้วครับ ไม่มีใครติดต่อเธอได้ และเธอก็ไม่ยอมติดต่อกลับมาหาใครอีกเลย เหมือนกับว่าเธอจงใจจะไปนะครับ อาจเพราะเธอตั้งท้องก็ได้ ท้องไม่มีพ่อสำหรับผู้หญิง เป็นเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้าที่สุด และท้องสำหรับคนมีชื่อเสียง คงเป็นอะไรที่คล้ายกับโลกแตก”คนฟังเงียบกริบ เพราะหัวใจเขาต่างหากที่กำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ในคอตีบตันไปหมด“ถ้าไม่มีพ่อ แล้วไอ้หนูนั่นจะไปอยู่ในท้องของเธอได้ยังไง คุณคิดว่าจะหนีผมไปอยู่ที่ไหนได้อรดี คอยเดี๋ยว ผมจะไปล่าหัวคุณกลับมาด้วยมือของผมเอง”ท้องฟ้าสว่างสวยทีเดียวถ้าคนที่มองขึ้นไปไม่ได้มีความเครียดห่อหุ้มสมอง ตาพร่า ล้า ช้ำ บวม แดง และไม่ได้รู้สึกว่ามีสิ่งปฏิกูลอัดแน่นอยู่ในช่องท้องตลอด
“รับผิดชอบยังไง แม้แต่จูบ ผมก็ไม่เคยคิดจะทำกับคุณเลย แล้วคุณจะเป็นภรรยาของผมได้ยังไง คุณคงไม่เคยเห็นว่าจริงๆแล้วผมเป็นคนยังไงปารดา ก่อนที่ผมจะยิงคุณไส้แตก กรุณารีบยกก้นของคุณออกไปจากห้องทำงานของผมเดี๋ยวนี้ หรือมากกว่านั้น ออกไปจากเกาะเฮงซวยนี่ซะ”ปารดากลืนน้ำลายเฮือก ถอยล่นไปจนชิดบานประตู“คอยดูเถอะ ฉันจะฟ้องหย่าเรียกค่าเสียหายให้คุณหมดตัวเลย”เขาหัวเราะหึ ๆ ส่ายหน้าราวกับเห็นลาโง่เต้นระบำอยู่ตรงหน้า“เชิญเลย ถ้าคุณคิดว่ามันควรจะเป็นอย่างนั้น คุณคงรวยเละ ถ้าหากว่าใบทะเบียนสมรสที่คุณจดกับผมไม่ได้เป็นของปลอม และเจ้าหน้าที่พวกนั้นไม่ใช่ลูกน้องที่ผมกุขึ้นมาให้ผู้หญิงหน้าเงินอย่างคุณตื่นเต้นตาโต”“อะไรนะ”“กลับไปหาพ่อซะไป แล้วก็กลับไปหาผู้ชายรวยๆหน้าโง่คนอื่นแต่งงานด้วย คนสวยอย่างคุณคงมีใครสักคนหลงเข้ามาบ้างละ”ปารดากรีดร้องจนสุดเสียง แล้วก็เต้นเร่าดีดดิ้นราวกับเด็กน้อยที่ถูกบังคับให้ไปโรงเรียนวันแรก แววตาคลอน้ำคลั่งแค้นเขม้นมองบ่อเงินบ่อทองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะดึงประตูเปิดออกแล้วก้าวล่วงไป แรงกระแทกดังสนั่น จนข้าวของตามตู้โชว์บางชิ้นยังสั่นไม่หาย แม้จะผ่านมาหลายวินาทีแล้วก็ตามภาคินวางห
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคนสวยอย่างคุณ”เขายื่นมือมาให้จับ ดวงตาเปล่งรอยแจ่มใส เธอรับรู้ได้ถึงความจริงใจของหนุ่มลูกครึ่ง เธอกับลูกจึงยื่นมือไปจับตอบน้ำใจของเขา“ฉันก็สุดแสนจะยินดีค่ะคุณปีเตอร์”ลูกต้องร่วมมือกับแม่นะ อย่าเพิ่งเกเรจนทำให้ผิวหน้าท้องของแม่ยืดออก อดทนไว้แค่สัปดาห์หน้าเท่านั้น หลังจากแม่เปลือยกายเพื่อถ่ายงานศิลปะจากฝีมือช่างภาพชื่อดังที่ติดอันดับเอเชียแล้ว เราสองคนก็จะไปหาที่อยู่ใหม่ ที่ไหนก็ได้ ที่สงบ ๆ อากาศดี และไม่มีคนรู้จักอรดีไม่ได้กลัวว่าจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านหรอกนะ แต่เธอหวาดกลัวต่อเจ้าพ่อไห่ปิง เพราะตาเฒ่าเคยบอกเอาไว้ว่าจะยึดลูกคนแรกของเธอกับหมอนั่นไปเป็นสมบัติส่วนตัว“มันเรื่องอะไรที่แม่จะต้องทำอย่างนั้น อดทนเอาไว้ลูก เดี๋ยวเราก็เจอทางออกจนได้นั่นแหละ”นอกจากเธอจะตกลงทำงานกับปีเตอร์ในปลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้แล้ว ช่วงกลางสัปดาห์ พี่โตก็เซ็นต์เช็กซื้อคอนโดมิเนียมของเธอด้วยราคางดงาม นับว่าโชคที่ที่พี่โตกำลังมองหาที่อยู่ให้เมียน้อยที่เพิ่งตกลงจะแอบอยู่ด้วยกันอรดีสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้แก่ใคร แลกกับที่พี่โตเองก็จะไม่บอกเรื่องที่เธอบินไปเปลื้องผ้าที่สิงคโปร์ให้ใครฟังด้ว