Home / โรแมนติก / กรงรักอสูร / บทที่ 6...เงื่อนไขแสนร้าย

Share

บทที่ 6...เงื่อนไขแสนร้าย

หญิงสาวไม่รอให้ใครเชิญซ้ำ ขายาวเรียวพาร่างระหงขึ้นสู่ชั้นดาดฟ้าในทันที ต่อเมื่อเห็นว่ามีคนตั้งมากมายอยู่ที่นั่น ความตกใจระคนสงสัยที่กรูเข้ามาในสมองกลับยิ่งทบทวีคูณ ผู้ชายรูปร่างกำยำเสียเป็นส่วนใหญ่ ยืนนิ่งเป็นกำแพงหินราวกับกำลังจะทำพิธีกรรมอะไรกันสักอย่าง คนเหล่านั้นแค่กลิ้งสายตามามองเธอชั่วแวบแล้วหันกลับไปมองจุดศูนย์กลางของพวกเขาต่อ แต่เธอไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น กวาดสายตามองหาพ่อบังเกิดเกล้าทุกซอกทุกมุม

“พ่อคะ! อยู่ที่ไหนคะ อรมาแล้ว ออกมาเถอะค่ะ”

เธอป้องปากตะโกนเรียกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร้องจนคอระบมก็ไม่ปรากฏเงาของนายนภดล อรดีก้าวเดินไปข้างหน้าช้า ๆ มองหาบิดาจากในแถว แต่เปล่าเลย พ่อของเธอไม่ได้อยู่ที่นี่

ขณะคนยืนหันหลังตรงริมตึก ส่ายหน้าอย่างนึกขำ ความสุขใจของเขาคือการได้เห็นใครสักคนลนลานร้องขอชีวิตหรือไม่ก็ตะโกนขอความช่วยเหลือ อย่างยัยนี่มันตัวตลกของแท้เลยเชียว เขาหัวเราะทำลายความเงียบหดหู่ บรรดาลูกน้องทั้งฝูงของเขาก็ขบขันตามนายไปติด ๆ มีแต่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่เครียดจนสมองจะทะลุ ขบกัดกรามจนหน้าตึง สองมือกำหมัดแน่นจนเกร็งไปทั้งแขน เดินตึงตังไปหยุดอยู่ข้างหลังของมนุษย์สวมสูท คนที่น่าจะใหญ่ที่สุดบนนี้

“นี่คุณ…คุณใช่ไหม ที่ส่งลูกน้องกล้ามเหี่ยว ๆ ลงไปจับฉันขึ้นมา”

ถ้ามีกระบอง เธอจะเหมือนยักษ์ ดวงตาถลนเบ้าจ้องแผ่นหลังอันงามสง่านั้นตาเป็นมัน เธอเล็งตรงกลางหลัง อาจมีการถีบตกตึกเพื่อป้องกันตัว ผู้เป็นเจ้าของคำสั่งยังหัวเราะต่อ ใช่ คำสั่งเขา แต่ลูกน้องไม่ได้ทำตามทุกอย่าง เพราะเขาสั่งให้ไปลากขึ้นมา แต่นี่

“มีปัญหาอะไรกับฉันมิทราบ!”

มีปัญหา? ...นี่มันต้องเขาที่ต้องพูดคำนี้

“ร้องเรียกหาพ่อซะดังเชียวนะสาวน้อย สงสัยคงอยากจะเจอพ่อมากล่ะซี่”

“โฮะ! “สาวน้อยหัวเราะเสียงเครียดแล้วทำเสียงเข้ม “ก็ไอ้ลูกน้องเวรตะไลของคุณบอกว่าคุณมีธุระเกี่ยวกับเรื่องพ่อของฉันจะพูดกับฉันไม่ใช่เหรอ…นี่เสี่ย…อย่าทำให้ฉันต้องเสียเวลานะ จับตัวพ่อฉันไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ใช่ไหม ฉันต้องเห็นหน้าพ่อฉันก่อนถึงจะยอมจ่าย โปรดอย่าทำให้ฉันอารมณ์เสียไปมากกว่านี้เลย เพราะคืนนี้ฉันยังต้องพอกหน้าด้วย”

ภาคินยิ้มมุมปาก…เธอไม่ใช่ลูกแมวเสียแล้ว ท่าทางจะเป็นสุนัขล่าเนื้อเสียมากกว่า ได้…ร้ายแบบนี้ก็ดี เกมมันจะได้สนุกขึ้น

“ใจร้อนจริงๆ นะอีหนู” เขาค่อยๆ หมุนตัวหันมาเผชิญหน้า เผยความเป็นจริงตรงข้ามกับที่เธอจินตนาการเอาไว้ตั้งแต่ทีแรก…ไม่แก่ไม่เหี่ยว แถมยังหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวอีกต่างหาก ดวงตาคมกริบรีสวยดูมีเสน่ห์ลึกลับ ริมฝีปากแดง จมูกโด่ง โครงหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ…พระเจ้า…เขาคือประติมากรรมงดงามจากสรวงสวรรค์หรือเป็นของขวัญจากนรกกันแน่

“ขอเวลาเสี่ยสูบบุหรี่อีกสักประเดี๋ยวไม่ได้รึไง”

ครั้นดวงตาประสบกับความงดงามที่สะพรั่งอยู่ในแสงจันทร์ของหญิงสาวตรงหน้าระยะประชิดเช่นนี้ หัวใจของเขาถึงกับกระโตกกระตากขึ้นมาราวกับตื่นเต้นที่สุดในชีวิต นี่เหรอผู้หญิงที่กระโดดออกมาจากภาพถ่ายใบนั้น เขาปากสั่นเล็กน้อย ขณะเชิดหน้าท้าทาย เพื่อระงับความพลุ่งพล่านในตัว อย่านะ อย่าทรยศกับความภาคภูมิใจในความร้ายกาจของตัวเองเด็ดขาด

“ว่ายังไงละ มีธุระอะไรเกี่ยวกับพ่อของฉัน!”

ใบหน้าของเจ้าหล่อนถมึงทึงจนชายหนุ่มสะอึกไปอึดใจใหญ่ ความผันผวนในอกวูบวาบหวั่นไหวไม่นานนัก ชายหนุ่มกลับมาปั้นหน้าโหดได้อีกครั้ง ส่งน้ำเสียงเข้มข้นรอดไรฟัน

“หยุดพูดจาสามหาวกับฉันได้แล้ว!” เขาเอียงใบหน้าเล็กน้อย พุ่งนิ้วชี้มาที่หน้าผากหน้าเธอ หญิงสาวตกใจถึงกับถอยล่นไปหลายก้าว “เธอไม่มีสิทธิ์มาทำปากดีและก็ท่าทางยึกยักกับเจ้าหนี้แบบนี้ รู้ไหม”

“เจ้าหนี้!”

“ถูกต้อง”

เธอสะบัดหน้าช้า ๆ ไปเป็นลูกหนี้ไอ้มหาโหดนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน…เป็นไปไม่ได้

“ขี้โม้ ฉันไปเป็นหนี้คุณตั้งแต่ชาติปางไหนมิทราบ เฮอะ..อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของคุณ ฉันไม่ชอบ”

ภาคินไล่เสียงหัวเราะออกจากคอทีละนิด ๆ กระทั่งดังพอจะจุดชนวนความครื้นเครงให้แก่ลูกน้อง ทุกคนหัวเราะร่วมกันอีกครั้งโดยมีหญิงสาวเป็นจุดศูนย์รวมสายตา อรดีแทบจะสะกดกลั้นความขุ่นข้นในอกไว้ไม่ไหว หายใจแรงจนอกกระเพื่อม มือที่กำแน่นง้างเล็บออกช้าๆ เธอพร้อมจะตะปบข่วนใบหน้าไอ้ตัวร้ายให้มันย่อยยับคามือ

“ขำอะไรกันนักหนามิทราบ ประสาทเสียกันรึไง!”

เธอตะโกนจนตัวโยน ดวงตากลมโตคลอน้ำทั้งสองข้าง หัวหน้าใหญ่เงียบกริบ จ้องเธอตาเป๋ง ขณะเสียงหัวเราะของทุกคนก็ค่อย ๆ หรี่เสียงลง เหลือแต่เจียงที่ยังดังแว่ว ๆ ก็จนกว่าจะได้ยินเสียงคำรามจากนายน้อยของเขา

“เอาล่ะ” เขาทิ้งบุหรี่ลงที่พื้นแล้วใช้เท้าเหยียบจนแบนบี้ ใบหน้าเย็นชาแต่ดวงตาร้อนแรงดังแสงพระอาทิตย์ “อีหนู ช่วยฟังเสี่ยพูดให้ดี ๆ นะ…ป๊ะป๋าของหนูติดหนี้บ่อนของเสี่ยอยู่สิบล้านบาทถ้วน ฟังให้ชัด ๆ นะ สิบล้านบาทถ้วน หนูได้ยินชัดเจนไหมจ๊ะ”

ชัดเจนที่สุด แต่เธออยากให้หูฝาดหรือประสาทรับรู้เฝื่อนเสียแล้ว ดวงตาของเจ้าหล่อนลุกวาวก่อนจะกลิ้งวนไปมาเหมือนคนเพิ่งถูกหมุนรอบตัวสักร้อยรอบ

“เป็นไปไม่ได้ ใครที่ไหนจะโง่เป็นควายให้พ่อฉันเป็นหนี้ได้ขนาดนั้น” คำพูดคร่ำครวญของเธอทำให้เจ้าของเงินทำหน้าแทบไม่ถูก “ไม่จริงหรอก พ่อฉันจะไปเป็นหนี้คุณตั้งสิบล้านได้ยังไง ถ้าเขามีเงินเยอะขนาดนั้น ป่านนี้ครอบครัวฉันก็สบายไปแล้วสิ”

“แต่มันเป็นไปแล้วนี่” รอยยิ้มเป็นประกาย ส่ายหน้าเวทนา “ตอนนี้พ่อของคุณถูกผมจับขังเอาไว้ที่เกาะ เพราะมันไม่มีปัญญาจะจ่าย นอนรอวันตายอยู่ในความมืดที่สุดแสนจะเดียวดาย”

เขาโกหกเพื่อจะหลอกให้ทายาทหนี้ตายใจ หึ ๆ

“ป่าเถื่อน! นี่มันเรื่องผิดกฎหมายนะ”

“แล้วใครว่าถูกล่ะ” เขายกไหล่ “อะไรที่มันผิดกฎหมายน่ะ มันคือความสุขของผมเสมอ”

“เลว!”

“ฮะฮะ…ใคร ๆ ก็พูดอย่างนี้แหละ ผมชินซะแล้ว เอาละคุณผู้หญิง เรามาตกลงกันดี ๆ จะดีกว่าไหม ในฐานะเจ้าหนี้สุดระยำกับลูกหนี้ก้นใหญ่”

อรดีถึงกับอ้าปากหวอ จับก้นของตนเองหมับ ทุกคนพากันหัวเราะคิก

“ฉันไม่ใช่ลูกหนี้คุณ”

“งั้นผมจะฆ่าพ่อคุณซะ!”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • กรงรักอสูร   ตอนจบ...ลูกแฝดของเรา

    ภาคินเดินผ่านโถงประตูทางเข้าขนาดใหญ่ มาเหยียบยืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้นสู่ชั้นบน เขาเงยหน้ากวาดมองบ้านที่ไม่ได้กลับมานานหลายเดือน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกซอกหลืบยังคงอยู่ในสภาพดั้งเดิม ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้งอย่างเหนื่อยหน่าย มิใช่หน่ายจากการเดินทางอันแสนสั้น แต่เหนื่อยกับความทรงจำเดิม ๆ ที่มักจะไหลผ่านเข้ามาทุกครั้ง เมื่อต้องมาเยือนในที่ที่เขากับเธอเคยเดินทางมาด้วยกันไม่ทันนานนักที่เขาจมหายในภวังค์อันแสนเศร้า มีบางเสียงดังแว่วมาเข้าหู เสียงประหลาดนั่นดังมาจากด้านบนอย่างแน่นอน เขาเอะใจอะไรบางอย่าง ใจเต้นตูมๆขณะเยื้องย่างขึ้นสู่ด้านบนด้วยความเร็วรี่“ไม่ใช่แน่ สมองเราเบลอไปใช่ไหม”เจ้าหนุ่มมาหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องนอนของตัวเอง เสียงหายใจถี่ยิบดังกังวานสดใส เขาแนบใบหูข้างขวาเข้าประกบที่บานไม้แข็งแรง เงี่ยหูฟังเสียงที่ถูกส่งมาจากด้านใน ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งตื่นเต้นรนราน ใจมันรู้สึกแปลกๆพิกล แต่ยิ่งเสียงนั่นดังจนจวนจะทะลุหูเขาได้ ใจของเขากลับพองตัวขึ้นจนใหญ่กว่าเกาะสราญรมย์แล้วด้วยซ้ำ เขาไม่คิดจะเคาะประตูเลยแม้แต่น้อยภาคินภาวนาระงมว่าเสียงเด็กร้องที่เขาได้ยินเต็มสองรูหู ไม่ได้อยู่ในความฝั

  • กรงรักอสูร   บทที่ 104...เลิกรอเธอได้แล้ว

    “ยังไม่มีวี่แววเลยครับ เธอใจแข็งจัง”ภาคินยื่นบุหรี่ให้พ่อของอรดี เขารับไปคาบ แล้วรอปลายไฟแช็กจากเจ้าหนุ่ม“พาหลานของพ่อไปอยู่เสียที่ไหน”“เธอน่าจะติดต่อมาหาคุณบ้าง”“ผมรอคอย หวังว่าสักวัน”เขาสังเกตเห็นว่านายนภดลมีหงอกเพิ่มขึ้น นั่นคงเป็นเพราะความเครียดเรื่องลูกสาวจอมดื้อ ภาคิน ปล่อยควันบุหรี่เป็นสาย แสงตะวันสุดท้ายกำลังจะบอกลาเส้นขอบฟ้าอีกครั้ง“ผมไม่อยากให้คุณไปจากที่นี่”“ถึงที่นี่จะไม่ใช่กาสิโนอีกแล้ว แม้จะเป็นสวนสนุกที่มีแต่พวกเด็กๆ ถ้าคุณยังคิดจะจ้างคนแก่คนนี้ ผมก็ยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนคุณเพื่อรอคอยลูกสาวกลับมา อย่างน้อยก็จนกว่าคุณจะเลิกตามหาลูกสาวของผม หรือมีภรรยาใหม่”เจ้าหนุ่มสูดควันเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะดีดเถ้าทิ้งลงในถ้วยใบเล็กใกล้มือ เขายิ้มบางๆ“ภรรยาของคุณเป็นคนยังไงครับ”“ถ้าคุณรู้ว่าเธอเป็นคนยังไงและคุณเชื่อคำโบราณที่ว่าดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ คุณคงไม่กล้าแตะอรดีแน่ ผมรับประกัน”หนึ่งปีผ่านไปช้า ๆ ภาคินรู้สึกถึงความยาวนานที่เขาต้องประสพกับความทรมาน อ้างว้าง เดียวดายราวกับสิบปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาหวาดกลัวเล่นงานเขาจนใจพังพินาศไปหมด ที่เขาฝืนยืนอยู่ได้จนทุกวัน

  • กรงรักอสูร   บทที่ 103...เธออยู่ไหน

    “ตอนปลายเดือนฉันได้รับใบเสร็จจ่ายเงินค่าเบอร์โทรศัพท์บ้านทุกเดือน แล้วในกระดาษแผ่นนั้นก็ระบุเบอร์โทรศัพท์ของใครบางคนหลายครั้งซึ่งไม่ใช่ฝีมือการกดของฉันอย่างแน่นอน ฉันจึงได้รู้ว่าคนที่ซื้อคอนโดของอรไปคือพี่โตค่ะ”“พี่โต” เขาพอจะเค้าหน้าหนุ่มใหญ่เจ้าของกล้องที่เขาช่วยทำพังเมื่อครั้งไปทำงานที่เกาะมุกคราวก่อนออก “ผมจะไปหาหมอนั่นเดี๋ยวนี้”ชิดชนกยกสองมือขึ้นห้าม “ใจเย็นสิคะคุณภาคิน เราสองคน คือฉันหมายถึงฉันกับนายเช็คน่ะค่ะ เราไปสอบถามพี่โตมาแล้วเมื่อเช้านี้เอง เป็นเพราะมีเช็คไปด้วยทุกอย่างก็เลยง่ายขึ้น” สาวเจ้าหันไปยิ้มหวาน กระพริบตาปริบๆให้บุรุษยอดดวงใจ ภาคินกระแอมเสียงดังขร่มด้วยความหมั่นไส้“ตกลงว่าไงเช็ค อยากได้เงินขอเมียสักล้านสองล้านไหม”ดวงตาสมุนคู่ใจเกิดประกาย รีบรายงานนายน้อยทันท่วงที“หมอนั่น บอกว่าคุณอรดีไปสิงคโปร์กับช่างภาพที่ชื่อปีเตอร์ครับ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนนี่เอง นี่ครับนายน้อย เบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานที่นายปีเตอร์ทำงานอยู่”“สิงคโปร์”แผนที่ประเทศสิงคโปร์ลอยผ่านหน้าเขาไปช้า ๆ รูปปั้นสิงโตทะเลพ่นน้ำใส่หน้าของเขาจนเปียกปอนไปหมด ภาคินกำลังจินตนาการว่าอรดีกำลังเดินชอปปิ้งอยู่ใ

  • กรงรักอสูร   บทที่ 102...ผมคิดถึงคุณใจจะขาด

    “แต่ว่าตอนนี้ คุณอรดีไม่รู้ว่าเธอหายไปอยู่ที่ไหนสิครับ”ภาคินหยุดทุกอย่างแม้แต่ลมหายใจ แล้วมองหน้าเช็คนิ่ง ๆ เช็คยกไหล่ แบฝ่ามือที่ว่างเปล่าทั้งสองด้าน เช็คไม่เคยมีท่าทางแบบนี้ ดูเป็นคนละคนกับที่เขาเคยรู้จัก ใครเสี้ยมสอนให้สมุนคู่ใจของเขาทำซุ่มเสียงไม่ยี่หระต่อความทุกข์ของนายแบบนี้ ราวกับสมน้ำหน้าเขาอย่างนั้น“แหล่งข่าวของผม บอกว่าเธอหายตัวไปเกือบสัปดาห์แล้วครับ ไม่มีใครติดต่อเธอได้ และเธอก็ไม่ยอมติดต่อกลับมาหาใครอีกเลย เหมือนกับว่าเธอจงใจจะไปนะครับ อาจเพราะเธอตั้งท้องก็ได้ ท้องไม่มีพ่อสำหรับผู้หญิง เป็นเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้าที่สุด และท้องสำหรับคนมีชื่อเสียง คงเป็นอะไรที่คล้ายกับโลกแตก”คนฟังเงียบกริบ เพราะหัวใจเขาต่างหากที่กำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ในคอตีบตันไปหมด“ถ้าไม่มีพ่อ แล้วไอ้หนูนั่นจะไปอยู่ในท้องของเธอได้ยังไง คุณคิดว่าจะหนีผมไปอยู่ที่ไหนได้อรดี คอยเดี๋ยว ผมจะไปล่าหัวคุณกลับมาด้วยมือของผมเอง”ท้องฟ้าสว่างสวยทีเดียวถ้าคนที่มองขึ้นไปไม่ได้มีความเครียดห่อหุ้มสมอง ตาพร่า ล้า ช้ำ บวม แดง และไม่ได้รู้สึกว่ามีสิ่งปฏิกูลอัดแน่นอยู่ในช่องท้องตลอด

  • กรงรักอสูร   บทที่ 101...ผมผิดไปแล้ว ยกโทษให้ผมเถอะนะ

    “รับผิดชอบยังไง แม้แต่จูบ ผมก็ไม่เคยคิดจะทำกับคุณเลย แล้วคุณจะเป็นภรรยาของผมได้ยังไง คุณคงไม่เคยเห็นว่าจริงๆแล้วผมเป็นคนยังไงปารดา ก่อนที่ผมจะยิงคุณไส้แตก กรุณารีบยกก้นของคุณออกไปจากห้องทำงานของผมเดี๋ยวนี้ หรือมากกว่านั้น ออกไปจากเกาะเฮงซวยนี่ซะ”ปารดากลืนน้ำลายเฮือก ถอยล่นไปจนชิดบานประตู“คอยดูเถอะ ฉันจะฟ้องหย่าเรียกค่าเสียหายให้คุณหมดตัวเลย”เขาหัวเราะหึ ๆ ส่ายหน้าราวกับเห็นลาโง่เต้นระบำอยู่ตรงหน้า“เชิญเลย ถ้าคุณคิดว่ามันควรจะเป็นอย่างนั้น คุณคงรวยเละ ถ้าหากว่าใบทะเบียนสมรสที่คุณจดกับผมไม่ได้เป็นของปลอม และเจ้าหน้าที่พวกนั้นไม่ใช่ลูกน้องที่ผมกุขึ้นมาให้ผู้หญิงหน้าเงินอย่างคุณตื่นเต้นตาโต”“อะไรนะ”“กลับไปหาพ่อซะไป แล้วก็กลับไปหาผู้ชายรวยๆหน้าโง่คนอื่นแต่งงานด้วย คนสวยอย่างคุณคงมีใครสักคนหลงเข้ามาบ้างละ”ปารดากรีดร้องจนสุดเสียง แล้วก็เต้นเร่าดีดดิ้นราวกับเด็กน้อยที่ถูกบังคับให้ไปโรงเรียนวันแรก แววตาคลอน้ำคลั่งแค้นเขม้นมองบ่อเงินบ่อทองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะดึงประตูเปิดออกแล้วก้าวล่วงไป แรงกระแทกดังสนั่น จนข้าวของตามตู้โชว์บางชิ้นยังสั่นไม่หาย แม้จะผ่านมาหลายวินาทีแล้วก็ตามภาคินวางห

  • กรงรักอสูร   บทที่ 100...เธอกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น

    “ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคนสวยอย่างคุณ”เขายื่นมือมาให้จับ ดวงตาเปล่งรอยแจ่มใส เธอรับรู้ได้ถึงความจริงใจของหนุ่มลูกครึ่ง เธอกับลูกจึงยื่นมือไปจับตอบน้ำใจของเขา“ฉันก็สุดแสนจะยินดีค่ะคุณปีเตอร์”ลูกต้องร่วมมือกับแม่นะ อย่าเพิ่งเกเรจนทำให้ผิวหน้าท้องของแม่ยืดออก อดทนไว้แค่สัปดาห์หน้าเท่านั้น หลังจากแม่เปลือยกายเพื่อถ่ายงานศิลปะจากฝีมือช่างภาพชื่อดังที่ติดอันดับเอเชียแล้ว เราสองคนก็จะไปหาที่อยู่ใหม่ ที่ไหนก็ได้ ที่สงบ ๆ อากาศดี และไม่มีคนรู้จักอรดีไม่ได้กลัวว่าจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านหรอกนะ แต่เธอหวาดกลัวต่อเจ้าพ่อไห่ปิง เพราะตาเฒ่าเคยบอกเอาไว้ว่าจะยึดลูกคนแรกของเธอกับหมอนั่นไปเป็นสมบัติส่วนตัว“มันเรื่องอะไรที่แม่จะต้องทำอย่างนั้น อดทนเอาไว้ลูก เดี๋ยวเราก็เจอทางออกจนได้นั่นแหละ”นอกจากเธอจะตกลงทำงานกับปีเตอร์ในปลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้แล้ว ช่วงกลางสัปดาห์ พี่โตก็เซ็นต์เช็กซื้อคอนโดมิเนียมของเธอด้วยราคางดงาม นับว่าโชคที่ที่พี่โตกำลังมองหาที่อยู่ให้เมียน้อยที่เพิ่งตกลงจะแอบอยู่ด้วยกันอรดีสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้แก่ใคร แลกกับที่พี่โตเองก็จะไม่บอกเรื่องที่เธอบินไปเปลื้องผ้าที่สิงคโปร์ให้ใครฟังด้ว

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status