“ทำไมหมอภีร์จุ๊บหน้าผากดาวอีกแล้วคะ”
ภีร์หยุดเท้าที่กำลังจะเดินพ้นประตูห้องแล้วเอี้ยวหน้าหันมามองอ้อมดาว
“จองไว้” แล้วเขาก็หมุนเอี้ยวหน้าเดินต่อ ส่วนคำตอบของนายแพทย์หนุ่มก็ดังก้องในหัวจนสาวน้อยทำงานตรงหน้าต่อไม่ไหว
“จองไว้? จองไว้แบบไหน หมอภีร์คงไม่ใช่ ไม่หรอกดาว” แล้วเธอก็ล้มตัวดิ้นกลิ้งไปกับพื้นพรมของห้องหยิบเสื้อผ้ามาโยนขึ้นกลางอากาศให้หล่นใส่ตัวเอง แม้เฝ้าบอกตัวเองให้เจียมตัวเจียมใจ แต่ก็อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าหมอภีร์มีใจปรารถนาตนเองเช่นกัน
หนึ่งอาทิตย์กับการมีอ้อมดาวมาอาศัยอยู่ด้วย มันไม่ได้ทำให้นายแพทย์หนุ่มรำคาญตาเลยสักนิดกับการตื่นเช้ามาเจอเธอทำมื้อเช้าให้ตัวเอง และมันทำให้อยากกลับมาที่คอนโดทุกวันหลังลงเวรแล้ว ถ้าไม่ง่วงมากก็จะกลับมาที่คอนโด ถ้าขับรถไม่ไหวจะนอนค้างที่โรงพยาบาล
“หอมจัง ทำอะไรให้ฉันทานเด็กน้อย”
“เช้านี้ดาวทำข้าวผัดแหนมค่ะหมอภีร์” เธอตอบพร้อมยกจานข้าวผัดแหนมมาเสิร์ฟพร้อมจานของตนเอง
“อยากกลับบ้านที่กำแพงเพชรไหมปิดเรียนนี้ ฉันมีวันลาพักร้อนที่ยังไม่ได้ใช้ ฉันพาดาวกลับได้นะ”
“กลับไปก็ไม่มียาย อีกอย่างกลับไปก็ทำให้คิดถึงคนที่จากไป ดาวไม่กลับดีกว่าค่ะ เออ...หมอภีร์คะ ดาวว่าจะไปทำงานพาร์ทไทม์กับเพื่อนค่ะ”
“เงินที่ให้ไม่พอใช้รึไงถึงจะไปทำงานพาร์ทไทม์” ภีร์ถามเสียงห้วน
“พอจนเหลือใช้ทุกเดือนเลยค่ะ แต่ดาวก็อยากมีประสบการณ์และอยากทำงานด้วยค่ะ ไม่อยากเกาะหมอภีร์กินอย่างเดียว”
“ฉันบ่นรึยังล่ะว่าลำบาก”
อือ!
สาวน้อยส่ายหน้า
“แล้วยังจะไปทำงานพาร์ทไทม์กับเพื่อนอีกไหม”
“หมอภีร์ไม่อนุญาต ดาวก็ไม่ไปค่ะ แต่ปิดเรียนดาวอยู่ห้องเบื่อๆ ไม่มีอะไรทำเลยนะคะหมอภีร์”
“อยากเรียนอะไรเพิ่มเติมไหม ทำเค้ก ทำขนมหวานอะไรพวกนี้ ฉันเห็นดาวชอบดูคลิปในยูทูบบ่อยๆ น่ะ ถ้าอยากไปเรียนทำบอกได้นะเดี๋ยวพาไปสมัครเรียนคอร์สสั้นๆ ได้ในช่วงปิดเรียน ดาวก็จะมีเพื่อนด้วยจะได้ไม่เหงา ฉันเข้าใจเธอ เพราะฉันไปทำงานไม่มีเวลาอยู่กับดาวได้ทุกวัน” ภีร์บอกเด็กสาว
“ดาวเรียนได้เหรอคะหมอภีร์ แต่ก็สิ้นเปลืองเงินหมอภีร์”
“เรียนได้ถ้าเธออยากเรียน มันจะสิ้นเปลืองกี่ตังค์กันเชียวก็แค่เด็กจะเรียนทำเค้กทำขนม อีกอย่างฉันไม่ขัดสนเรื่องเงิน อยากเรียนอะไร อยากได้อะไรบอกฉัน แต่ห้ามไปทำงานพาร์ทไทม์ให้ตัวเองลำบาก เข้าใจไหม”
“ค่ะ งั้นดาวทำขนมไทยนะคะ เพราะหมอภีร์ชอบทาน ดาวจะได้มาทำให้หมอภีร์ทานค่ะ”
“ถ้าตัวเองไม่ชอบก็ไม่ต้องเรียน เพราะฉันไม่ต้องการให้เธอเรียนเพื่อฉันนะดาว ชีวิตเป็นของเธอ อนาคตก็เป็นของเธอ เธอเลือกและลิขิตเอง แม้ฉันจะเป็นผู้ปกครองเธอก็ตาม แต่เธอก็ไม่ควรทำทุกอย่างเพื่อคนอื่น เข้าใจไหม ก่อนจะลงมือทำอะไรให้คิดถึงตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เข้าใจไหมเด็กดี” คำพูดหลักการ แต่ข้างในใจลึกๆ ของภีร์นั้นยิ้มกริ่มมีความสุขเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยจะไปเรียนเพื่อ ‘ตัวเอง’
“ก็สำหรับดาวแล้วหมอภีร์มาก่อนนี่คะ อีกอย่างดาวก็อยากเรียนทำขนมไทยด้วยค่ะ”
“พูดเอาใจฉันใช่ไหม แต่ก็ขอบคุณที่เห็นฉันเป็นคนสำคัญ ทานมื้อเช้าเถอะเดี๋ยวจะเย็นชืดเสียก่อน ส่วนเรื่องเรียนเดี๋ยวฉันจัดการให้แล้วกัน”
“หมอภีร์ใจดีกับดาวที่สุดในโลกรองจากยายของดาวเลยค่ะ”
“เพราะเธอคือคนในครอบครัวฉันไง ฉันถึงต้องดีกับดาว” แล้วเขาก็ยื่นมือไปจิ้มนิ้วกับลักยิ้มของสาวน้อย มันช่างน่ารักสดใสสมวัยจริงๆ
“หมอภีร์ทำไมชอบจิ้มแก้มของดาวจังคะ”
“ก็มันน่ามันเขี้ยวนี่” เขาตอบแล้วก้มหน้าสนใจข้าวตรงหน้าตัวเอง ส่วนคนได้ฟังก็ยิ้มเขินก้มหน้าจนจะถึงจานข้าวผัดแหนมอยู่แล้ว
หึหึ
ภีร์ขำในคำแม้จะก้มหน้าทานข้าว แต่ทุกการเคลื่อนไหวของเด็กสาวอยู่ในสายตาของเขาตลอด เขาใช้หางตาเหล่มองเป็นระยะ
ธีร์ลงเวรพอดีกับพี่ชายเข้ามาทำงาน จากจะไปพักผ่อนก็เดินตามพี่ไปยังห้องทำงานของพี่ชาย เพื่อพูดคุยกัน เพราะระยะหลังมานี้เจอกันน้อย พูดคุยกันน้อยเหลือเกิน
“เพิ่งลงเวรทำไมไม่ไปพักธีร์”
ภีร์ถามน้องชายที่เดินตามเข้ามาในห้องทำงานและกำลังนั่งตรงข้ามกับตนโดยมีโต๊ะทำงานคั่นกลางอยู่
“ก็พักนี้เราไม่ค่อยได้เจอกัน ผมเลยอยากมาคุยกับพี่น่ะ”
“อือ...งานยุ่ง”
เขาตอบเนิบๆ แล้วลุกขึ้นหยิบเสื้อกาวน์มาสวมทับชุดที่ตัวเองใส่ วันนี้ภีร์ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงสแล็คสีเทาอ่อน
“ช่วงนี้ค้างประจำคอนโดเหรอพี่”
“อือ...นอนสบายกว่านอนห้องพักของโรงพยาบาลจัดให้”
“ก็จริง แล้วเย็นนี้ว่างไหม ลงเวรแล้วผมจะคุยเรื่องอาการป่วยของพ่อน่ะ”
“ได้สิ พี่ก็อยากคุยเรื่องอาการของพ่อเหมือนกัน”
“แล้วผู้หญิงคนนั้นตามตอแยพี่ไหมช่วงนี้ ของผม เธอเงียบไป คงรู้ตัวว่าผม ‘เกลียด’ เข้าไส้” คนที่ธีร์พูดถึงคือมารดาผู้ให้กำเนิดพวกเขานั่นเอง
“ไม่แล้ว คงรู้แล้วว่าตัวเองควรอยู่ตรงไหน ดีเหมือนกันจะได้ไม่เสียสุขภาพจิต ไม่เจอกันตลอดชีวิตยิ่งดี” พูดแล้วก็เจ็บจี๊ดในอก ปากน่ะพูดยังไงก็พูดได้ แต่ความรู้สึกแท้จริงข้างในมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ว่าลึกๆ แล้วภีร์นั้นยัง ‘รัก’ และ ‘ห่วง’ มารดา แม้จะพยายามเกลียดชังแล้วก็ตาม แต่สุดท้ายหัวใจของเขามันก็ไม่เชื่อฟัง มันดื้อดึงจนอยากจะควักออกมาทิ้ง
“งั้นเย็นเจอกันนะพี่ที่ร้านประจำ”
“อือ...เจอกัน”
“อ่า...ไปแล้วครับง่วง ตอนนี้เตียงเรียกผมแล้ว” แล้วธีร์ก็ลุกเดินปิดปากหาวออกจากห้องทำงานของพี่ชาย ส่วนภีร์เมื่อน้องชายไปแล้ว ตัวเองก็พร้อมไปทำงานของตนเช่นกัน
อุ๊ย! เด็กน้อยในชุดนักเรียนคอซอง ผมสั้นเห็นติ่งหูล้มลงกับพื้นหญ้าเมื่อชนเข้ากับกำแพงมนุษย์ตรงหน้า ด้วยความไม่ทันระวัง นายแพทย์หนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำก็ชนเข้ากับเด็กนักเรียนที่วิ่งมาทางตนพอดี “เป็นอะไรรึเปล่าหนู” ภีร์ถามพร้อมย่อตัวคุกเข่ากับพื้นหญ้าหนึ่งข้างแล้วส่งยื่นมือไปให้เด็กนักเรียนจับลุกขึ้น “หนูไม่เป็นอะไรค่ะ ขอโทษด้วยนะคะคุณหมอ” เด็กหญิงอ้อมดาวยื่นมือไปจับมือใหญ่นุ่มของคุณหมอแล้วคุณหมอก็จับดึงพาลุกขึ้น “แล้วจะรีบไปไหนเด็กหญิงอ้อมดาว” เมื่อช่วยดึงเด็กนักเรียนลุกขึ้นก็เอ่ยถามเมื่อได้อ่านชื่อของอ้อมดาวที่อกเสื้อ “หนูรีบกลับบ้านไปหาข้าวให้ยายทานค่ะ พอดีวันนี้ยายหนูไม่สบายค่ะคุณหมอ”&
ณ จังหวัดกำแพงเพชร บ้านเกิดของอ้อมดาว ตอนนี้อ้อมดาวในวัยยี่สิบสามปี เธอเรียนจบปริญญาตรีเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะมีสามีและลูกแล้ว แต่เธอก็ไม่ทิ้งการเรียน เธอโชคดีที่ได้เจอกับหมอภีร์และครอบครัวของหมอภีร์ ที่รักและเอ็นดูตนเอง “ขอบคุณนะคะที่พาดาวกลับมาไหว้ยาย ตา และพ่อกับแม่” เธอหันมาขอบคุณสามีหลังจากไหว้อัฐิของทั้งสามคนที่จากตนไปอยู่อีกภพภูมิหนึ่ง “ฉันจะพาดาวและลูกมาไหว้พวกท่านทุกปี อาทิตย์มาไหว้คุณยายทวด คุณตาทวด และคุณตา คุณยายเร็วลูก” ภีร์เรียกลูกชายวัยสี่ขวบให้มากราบไหว้ท่านทั้งสี่พร้อมตนและภรรยา “ก๊าบ!” หนุ่มน้อยอาทิตย์ ผู้ถอดแบบพ่อมาทุกตารางนิ้วและมีสิ่งเดียวที่เหมือนแม่คือลักยิ้ม และนั่นทำให้พ่อหลงลูกชายมาก จิ้มหยิกแก้มหอมแก้มลูกได้ทั้งวันไม่เบื่อ “ระวังล้มนะลูก” อ้อมดาวบอกลูกชายพร้อมยื่นมือไปให้ลูกน้อยจับ&n
ภีร์ไม่รู้จะขอบคุณอ้อมดาวยังไงดี เพราะมีสาวน้อยเข้ามาในชีวิต โลกของเขาก็เริ่มสว่างสดใสขึ้น เงาดำมืดที่เกาะกินจิตใจก็ถูกดวงดาวดวงนี้ทอแสงกลบจนไม่เหลือเงาดำแฝงเร้นในจิตใจ เมื่อก่อนเขามองไม่เห็นเหตุผลของผู้ใหญ่ว่าเพราะเหตุใดถึงต้องแยกทางและทิ้งตนและน้องชาย พอมาวันนี้ตนเองได้มีครอบครัว เป็นหัวหน้าครอบครัวและกำลังจะเป็นพ่อคนก็ได้รู้และเข้าใจท่านทั้งสอง หากวันนั้นท่านทั้งสองไม่ตัดสินใจแยกทางกันแบบนั้นก็คงจะมีข่าวหน้าหนึ่งสามีภรรยาทะเลาะกันจนพลั้งมือทำร้ายกันถึงชีวิตเป็นได้ “ขอบคุณนะดาว ขอบคุณที่อยู่กับฉันและทำให้ฉันกับพ่อและแม่เข้าใจกัน เพราะมีเธอ ฉันถึงไม่ติดใจเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ขอบคุณที่ฉุดดึงฉันออกมาจากความมืดนั้น” ภีร์บอกภรรยาที่นอนซบอกตนเองพร้อมกับจับกุมมือน้อยทาบทับอกขึ้นมาจูบ “ดาวดีใจนะคะที่หมอภีร์กับคุณพ่อคุณแม่เข้าใจกันได้ จริงๆ แล้วมันไม่เกี่ยวอะไรกับดาวเลยสักนิด ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้เพราะหมอภีร์ ดาวรู้นะคะ แม้ว่าหมอภีร์จะพูดถึงท่านทั้งส
“หมอภีร์คุยกับท่านทั้งสองนะคะ ดาวจะไปช่วยที่ห้องครัวเผื่อมีอะไรให้ช่วยค่ะ”เมื่อเห็นว่าตัวเองควรปล่อยให้พ่อแม่ลูกอยู่คุยกันตามลำพัง แม้ก่อนหน้าบอกสามีแพทย์ว่าตนจะอยู่ด้วย แต่ตอนนี้เขาควรอยู่กับพ่อกับแม่เขาตามลำพังมากกว่า “ไหนบอกจะอยู่กับฉัน” “ดาวไม่ได้ไปไหนค่ะ ดาวก็อยู่ตรงนี้ของหมอภีร์แล้วไงคะ ดาวอยู่ตรงนี้ตลอดค่ะจะไม่ไปไหนจนกว่าหมอภีร์ไม่ต้องการดาวแล้ว” มือเล็กยกจิ้มอกซ้ายของสามีบอกเขาว่าตนอยู่ตรงนี้ของเขาตลอด “ขอบใจนะดาว ขอบใจที่เข้าใจฉัน ระวังด้วยนะเข้าไปในครัวน่ะ ห้ามยกของหนักรู้ไหม”ก่อนหญิงสาวจะลุกเดินจากไปก็ไม่ลืมบอกเธอด้วยความเป็นห่วง “รู้แล้วค่ะ ดาวไปนะคะ คุยกันดีๆ นะคะ หมอภีร์ถามใจตัวเองดีๆ นะคะว่าลึกๆ แล้วหมอภีร์มีความสุขกับที่ผ่านมาแล้วรึยัง ไปนะคะ” แล้วอ้อมดาวก็ลุกเดินออกจากห้องนั่งเล่นปล
ภีร์มองภรรยาเด็กของตนลุกจากเตียงนอนเดินเข้าห้องน้ำ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กในครรภ์อายุได้สี่เดือนสองสัปดาห์ ร่างเล็กเปราะบางเพรียวระหงตอนนี้จับเคล้นตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือ จะว่าไปล้นมือเสียด้วยซ้ำ อ้อมดาวมีน้ำมีนวลอวบอิ่มและสวยวันสวยคืนจนเขาเริ่มหวงเธอ เพราะได้ยินเธอบอกว่าวันสอบปิดภาคเรียนมีหนุ่มต่างคณะมาทำความรู้จัก แต่เธอก็บอกผู้ชายคนนั้นไปว่า ‘แต่งงาน’ แล้ว “ดาวไปซื้อแหวนแต่งงานกันเถอะ เพื่อกันไม่ให้ใครเข้ามาจีบเมียฉัน” ภีร์เดินมาสวมกอดอ้อมดาวจากด้านหลังที่กำลังบีบยาสีฟันใส่แปรงตัวเองกับของเขา “ใครจะมาจีบได้อีกคะ ตอนนี้ท้องดาวก็เริ่มโตแล้วนะคะ ใครก็มองออกว่าดาวกำลัง ‘ท้อง’ ค่ะ” สาวน้อยตอบ “แต่ท้องดาวมองเผินๆ ก็ไม่เหมือนคนท้องนะ” เขาบอกเธอ “แปรงฟันกันเถอะค่ะ แล้วรีบไปทานมื
ภีร์วิ่งเข้ามาในห้องน้ำ เขามาส่องกระจกดูตัวเองในห้องน้ำแล้วก็ขบกรามแน่น เมื่อกี้เขาร้องไห้ ร้องไห้เพราะผู้หญิงคนนั้น สองมือกำแน่นเข้าหากันแล้วเปิดน้ำวักน้ำใส่หน้าตัวเองจนเปียกไปทั้งตัวแล้วทุบชกกระจกตรงหน้าตัวเองเมื่อเห็นว่าตนกำลังอ่อนไหวกับคนที่ทิ้งตนไปตอนนั้นตุ้บ!กระจกร้าวแตกเมื่อโดนกำปั้นใหญ่ชกเต็มแรง และกำปั้นของเขาก็แตกไม่ต่างจากกระจกที่ชก เจ็บมือไม่เท่าไหร่ แต่ใจของเขานี่สิ มันเจ็บเหลือเกินตอนนี้ ไม่เข้าใจว่าตัวเองนั้นต้องการอะไรกันแน่“ให้ช่วยไหมครับ?” เสียงของคนที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาเห็นเขาเอ่ยถาม“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับ ขอโทษด้วยนะครับ” แล้วเขาก็รีบเดินออกจากห้องน้ำไป ส่วนกระจกที่ร้าวเขาค่อยไปแจ้งให้ฝ่ายช่างมาจัดการ เขาจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง เพราะเขาใช้มันระบายอารมณ์“ภีร์” เมริษาร้องเรียกคนที่กำลังเดินผ่านตนเองรั้งไว้พร้อมกับฉวยโอกาสคว้าจับข้อมือใหญ่ดึงรั้งไว้ให้หยุด“ปล่อยเมย์” นายแพทย์หนุ่มเอ่ยเสี