Share

บทที่ 5 ถูกความกำหนัดครอบงำ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-12 00:03:34

เขาหยุดกัดทันทีแต่ยังไม่ยอมคลายอ้อมกอด หญิงสาวได้แต่หอบหายใจกับเรื่องตื่นตระหนกและแปลกประหลาดนี้ นางพยายามผลักเขาหลายครั้งแล้วแต่ไม่อาจจับต้องได้ มีเพียงเขาที่กอดรัดและสัมผัสนางได้อยู่ฝ่ายเดียว

“ปล่อยข้า อย่าทำเช่นนี้” นางพยายามเอ่ยปากขอร้อง

“...” อีกฝ่ายแนบริมฝีปากที่คอของนาง เขาคล้ายขยับปากพูดบางอย่าง แต่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาอีก

“ปล่อยข้าเถิด เนื้อของข้าไม่อร่อย ข้าแก่แล้ว หนังก็เหนียวเคี้ยวลำบาก อย่ากินข้าเลย” นางขอร้องอย่างหมดหนทาง ในใจหวาดกลัวยิ่ง

แต่ร่างมวลน้ำกลับทำเพียงเงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาว เขาค่อยๆคลายอ้อมกอดและยอมปล่อยตัวนางในที่สุด ยามนี้แม้จะเห็นเป็นร่างบุรุษชัดเจน แต่บนใบหน้ายังเห็นไม่ชัด ทั่วร่างของเขายังคงมีน้ำล้อมรอบ บางจุดยังคงโปร่งใสจนสามารถมองทะลุได้

แม้ไม่เห็นใบหน้าชัดแต่โม่เหนียงยังคงรู้สึกว่าเขาขมวดคิ้วอย่างเศร้าสร้อย เขาพยายามขยับปากเอ่ยคำพูด แต่กลับไม่มีเสียงใดออกมา โม่เหนียงได้แต่ขมวดคิ้วตอบกลับเพราะไม่อาจเข้าใจว่าเขาต้องการอะไร จนในที่สุดเขาก็ถอดใจ เอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้าของหญิงสาว

หลินโม่เหนียงจากที่หวาดกลัวกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นและความสบายจากสัมผัสนั้น นางเห็นอยู่ชัดเจนว่าปลายนิ้วนั้นก่อตัวจากน้ำ แต่ยามที่มันสัมผัสแก้มกลับรู้สึกถึงมือของอีกฝ่าย

ฝ่ามืออบอุ่นคลอเคลียที่ข้างแก้มอยู่ครู่หนึ่ง ระหว่างที่โม่เหนียงยังคงเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสนั้น เขาก็เลื่อนปลายนิ้วมาลูบไล้ที่ริมฝีปากของนาง ลูบไปมาจนหัวใจของโม่เหนียงเริ่มระส่ำไม่เป็นจังหวะ ยิ่งลูบ ใบหน้ามวลน้ำไม่ชัดเจนนั้นก็ยิ่งขยับเข้ามาใกล้

ในหัวของโม่เหนียงรู้แจ้งว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ แต่กลับหวั่นไหวจนไม่อาจขยับหนี นางยังจำจูบใต้น้ำตกได้ สิ่งที่เขาทำ เวลาที่เขาสัมผัส ช่างเป็นความวาบหวามที่เกินจะห้ามใจ 

นางไม่อยากยอมรับ แต่ก็รู้ตัวดีว่ารอคอยให้เขาจูบนางอีกครั้ง ขนาดว่าเมื่อครู่ที่เขาอุกอาจขโมยจูบ แม้นางจะตกใจและกลัวแต่ไม่มีความรู้สึกรังเกียจสักนิด ในใจลึกๆ นางยังรู้สึกพึงพอใจอีกด้วย

แน่นอน เขาจูบลงมาอีกครั้ง โม่เหนียงที่เมื่อครู่ยังกลัวว่าเขาจะจับนางกิน ยามนี้กลับตอบรับจูบของเขา ราวกับไม่อาจยับยั้งชั่งใจ หญิงสาวรู้สึกว่าแปลกประหลาดยิ่ง แม้คิดได้ว่าอีกฝ่ายอาจร่ายเวทใส่ตัวเอง แต่ความตื่นเต้นวาบหวามก็ยังคงมีมากกว่า ทำให้ในหัวไม่อาจคิดได้อย่างกระจ่างแจ้ง

หลินโม่เหนียงจำได้เพียงว่าเขาจูบและเริ่มสัมผัสไปที่สะโพก นางรู้สึกเวียนศีรษะและใกล้หมดลม จากนั้นทุกสิ่งอย่างก็มืดลงทันที

สายลมพัดรุนแรง ส่งเสียงหวีดหวิวจนโม่เหนียงต้องลืมตาตื่น นางรู้สึกสดชื่นยิ่งนัก แม้ว่าลืมตาแล้วทุกอย่างจะยังคงมืดสลัว แต่ก็พอรับรู้ได้ว่าใกล้เช้าแล้ว เพราะด้านนอกเริ่มมีแสงสีเทา 

โม่เหนียงลุกขึ้นนั่ง เตียงนอนของนางเปียกชุ่มไปหมด ดูแล้วน่าตกใจอยู่บ้าง ไม่ต้องใช้เวลานึกคิด ภาพเหตุการณ์เมื่อวานก็วิ่งเข้ามาในความทรงจำ นางใช้เวลาตกใจอยู่สักครู่ เมื่อก่อนเคยมีเหตุการณ์เช่นนี้บ้าง แต่ส่วนใหญ่เตียงจะเปียกเพียงครึ่งเดียว แต่วันนี้ทั้งเตียงนอนของนางเปียกน้ำจนชุ่มไปหมด

แทนที่จะหวาดกลัว หญิงสาวฟังเสียงลมพัดจนหนวกหูนั่นแล้วทำเพียงสงสัยว่าเหตุใดตัวเองไม่รู้สึกหนาวทั้งที่เปียกไปหมดเช่นนี้ นางลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จัดการเก็บผ้าห่มผ้าปูที่เปียกโชก จากนั้นก็เข้าครัวและเตรียมอาหารเช้า ทำทุกอย่างราวกับเป็นเรื่องปกติ 

หลังจากเช้าวันที่แสนวุ่นวาย หลินโม่เหนียงแม้จะทำตัวปกติ แต่นางยังจดจำเรื่องราวเมื่อวานได้ไม่ลืม นางรอแล้วรอเล่าพระอาทิตย์กลับไม่ยอมออกมา วันนี้ลมแรง ท้องฟ้าปิดและมืดสลัว นางตัดสินใจเดินออกไปทางน้ำตกทั้งที่อากาศเลวร้ายเช่นนั้น

หญิงสาวถอดเสื้อผ้า เดินไปยืนใต้น้ำตก นางพยายามให้น้ำกระเซ็นถูกปลายยอดถันด้วยความตื่นเต้น ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นครั้งแรกที่นางกล้าทำเรื่องเหลวไหลน่าอับอายเช่นนี้ 

ความรู้สึกยามน้ำตกไหลผ่านทรวงอกนั้น ช่างราวกับมีใครมาสัมผัสก็ไม่ปาน นำพาให้ความวาบหวามเพิ่มพูนหลายเท่าทวี แม้สัมผัสจะรุนแรงไปบ้าง แต่ก็ทำให้ปราณขุ่นใต้ท้องน้อยเดือดคลั่ง 

หลินโม่เหนียงโยนทิ้งความอับอาย ถูกความกำหนัดครอบงำจนหน้ามืดตามัว นางยกสองมือมาบีบนวดและประคองอกอิ่ม หลับตาลงให้สัมผัสรับรู้ทางร่างกายชัดเจนยิ่งขึ้น นางอยากถูกสัมผัส ไม่อาจทำใจลืมเรื่องเมื่อวานได้แม้สักชั่วลมหายใจ 

อากาศหนาวและสายน้ำเย็นเสียดกระดูกไม่อาจดับความร้อนรุ่มในกายของหญิงสาว โม่เหนียงเริ่มใช้มือของตัวเองสัมผัสไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย จินตนาการถึงร่างบุรุษโปร่งใส มือหนึ่งลูบไปยังกลีบท้อระหว่างขา อีกมือนวดคลึงทรวงอก ยามที่น้ำตกไหลรดยอดถัน แม้จะหนาวสั่นแต่ความรู้สึกกระสันกลับยิ่งรุนแรง

โม่เหนียงยืนเบียดสองขาไปมาให้นิ้วมืออุ่นสัมผัสกลีบท้อ แต่เบียดเช่นไรก็ไม่อาจดับกระหาย ความสุขสมคล้ายหยุดอยู่ครึ่งทาง ไม่อาจเพิ่มไปมากกว่านี้ได้ แม้นางจะยังอยากให้สุขสมยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่อาจพาตัวเองไปยังจุดสุขสมนั้นได้ จนนางต้องขยับปลายนิ้วมือ แต่ก็ยังคงร้อนรุ่มเช่นเดิม

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 16 ชีวิตแสนสุข (ตอนจบ)

    เสี่ยวอวี้ เสี่ยวหยาง เสี่ยวชิง และเสี่ยวหลันโผเข้ากอดนางแน่น ดวงตาเปียกชุ่มด้วยน้ำตาแห่งความปลื้มปีติ หลังจากที่ต้องทนทุกข์ใจกับข่าวร้ายที่ท่านน้ากระซิบบอกว่าอาจไม่ได้พบมารดาอีกหลายวัน หรือตลอดไป ไป๋อวิ๋นเหยาใช้เวลาปลอบโยนลูกๆ ที่ยังไม่คลายจากความหวาดหวั่น เสียงหัวเราะและรอยยิ้มกลับมาเติมเต็มจวนไป๋อีกครั้ง แต่ลึกลงไปในใจของนาง ความกังวลยังคงรุกล้ำเงียบงัน วันแล้ววันเล่า นางเฝ้ารอการกลับมาของสามีผู้เป็นที่รัก แต่มีเพียงสายลมหนาวยามค่ำคืนเท่านั้นที่ตอบกลับมา องค์หญิงหว่านหนิงถูกประกาศว่าถูกไฟไหม้เสียชีวิต เพราะเมามายเกินไประหว่างคืนเทศกาลโคมไฟ และจวนไป๋ก็ได้รับเงินมากมายจากราชสำนักเพื่อบำรุงซ่อมแซมจวน แต่ไร้เงาของเฉินซูเหยา เวลาล่วงผ่านไปนานนับเดือน แต่สามีของไป๋อวิ๋นเหยาก็ยังไม่กลับมา นางเฝ้ารอด้วยความทุกข์ใจจนแทบทนไม่ไหว ความเงียบงันที่ไม่มีแม้เงาของเขาทำให้นางตัดสินใจลงมือเอง แม้จะเป็นเพียงบุตรีของอดีตบัณฑิต แต่ด้วยแรงแห่งความรักและความหวัง นางจึงพยายามหาหนทางติดต่อองค์รัชทายาท ทุกก้าวของนางเต็มไปด้วยอุปสรรค สายตาดูแคลน และเสียงกระซิบวิจารณ์ แต่ไป๋อวิ๋นเหยาก็ไม่ยอมแพ้ กระทั่งวัน

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 15 สัญญาปากเปล่า

    ความรู้สึกผิดท่วมท้น นางเงยหน้ามองชายผู้เคยเป็นดั่งเงาในชีวิตด้วยน้ำตาที่รินไหล เขาต้องการให้นางเจ็บปวดเพื่อนางจะได้หันหน้าหนี เพื่อนางจะได้ปลอดภัย และนางก็เป็นเช่นนั้น เกลียดเขาจนวันสุดท้ายของชีวิต แม้เขาจะรอนางอย่างเดียวดายที่สะพานไน่เหอ หลายปี แต่นางก็ยังเกลียดเขา “ข้า..ข้ามันเห็นแก่ตัวนัก” เสียงแหบพร่าของไป๋อวิ๋นเหยาสั่นเทา นางสะอื้นน้ำตารื้น “..เหตุใดจึงเป็นเหยาเหยาเห็นแก่ตัวเล่า..ข้าต่างหากที่เห็นแก่ตัว ข้าต่างหากที่ทำให้เจ้าเจ็บปวด ทำให้เจ้าต้องเดือดร้อน” เขากอดรัดภรรยาไว้จนแน่น “เจ้าคิดจะตายลำพัง!” นางก่นด่า หากเมื่อคืนนี้นางไม่เข้าไปในเรือนหลัง เขาก็คงจะตายลำพังอีกแล้ว “ข้าเตรียมทางหนีไว้แล้ว เจ้าไม่เห็นหรือ ทางที่ข้าพาเจ้าหนีมาอย่างไรเล่า” เขาลูบหัวของภรรยาเบาๆ “แต่หากข้าไม่เข้าไป เจ้าก็จะรอจนแม่ทัพหนุ่มที่เผาภูเขาลูกนั้นเข้ามาในจวน แล้วเจ้าค่อยเผาใช่หรือไม่!!” นางเข้าใจความตั้งใจของเขาดี เขาคงคิดจะเสียสละชีวิตเพื่อลากทุกคนไปกับเขา “..เหยาเหยาไม่ต้องกังวล ข้าจะหาทาง” “แล้วเราจะทำเช่นไรต่อไปดี ข้า..ข้าทำให้เจ้า..ข้าทำแผนของเจ้าพัง” “เหยาเหยาไม่ต้องกังวล” เขาเพียงพูดพร

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 14 เรื่องที่สามีเล่า

    เฉินซูเหยากอดร่างของภรรยาไว้ในอ้อมแขน ร่างของนางที่ยังอ่อนแรงพิงเขาอย่างตกตะลึงในความจริง นางเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม“เจ้ากล้าโกหกข้าหรือ” ไป๋อวิ๋นเหยาท้วงติงไม่พอใจ เขาหัวเราะขบขัน ไม่เห็นการข่มขู่ของภรรยาอยู่ในสายตา เขาเพียงเริ่มเล่าถึงความหลังที่เกิดขึ้นต่อไปพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น มองภรรยาด้วยความรักใคร่ ไป๋เหวินหยาง เป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการศึกสงคราม แต่ก็เป็นบัณฑิตมากความสามารถ มีสายตาที่มองทะลุความสามารถของคน แม้จะรู้ว่าเฉินซูเหยาเป็นบุตรนอกสมรสของแม่ทัพหยวนกวน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ก็ยังยื่นมือมาช่วยเหลือเฉินซูเหยาไว้ ช่วยปกปิดภูมิหลังของเขา ซ่อนเขาจากศัตรูของแม่ทัพ สั่งสอนเขาราวกับศิษย์คนหนึ่ง หลังจากเด็กหนุ่มสอบได้เป็นจอหงวน ชีวิตของเขาก็เริ่มรู้สึกสงบสุข ได้แต่งงาน เขาไม่เคยคิดแก้แค้นให้บิดาเลยแม้แต่น้อย เพราะกำลังของเขาไม่มากพอ และที่สำคัญ เขาแต่งงานกับหญิงสาวตรงหน้าแล้ว เขาไม่อยากให้ภัยอันตรายใดๆ มาถึงจวนไป๋ หรือครอบครัวของนาง เขาจึงเลือกที่จะวางอดีตลง หรืออย่างน้อยก็พยายามวาง แต่ในใต้หล้านี้ ความตั้งใจหรือจะสู้ฟ้าลิขิต หลังจากเฉินซูเหยาได้ร

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 13 รสรัก (NC)

    “อ้า..เหยาเหยา..” เขาครางแหบพร่าไป๋อวิ๋นเหยาแทบอยากจะกรีดร้อง เพราะรู้สึกว่าความร้อนแท่งใหญ่ที่ค่อยๆ ซึมเข้ามา เหมือนเปลวเพลิงกำลังกัดกิน ทุกอณูของร่างเริ่มร้อนจนเหมือนจะระเบิด ความกำหนัดที่เขาเพาะบ่มตลอดการย่างกำลังทวีขึ้น ความรู้สึกถูกเผาผลาญนั้นเหมือนจี้ถูกจุดร่างกายของไป๋อวิ๋นเหยาสั่นระริกโดยไม่อาจควบคุม พวยพุ่งความสุขสมออกมาจนท่วมรอบเอวสามี เขาไม่ได้รังเกียจ อีกทั้งยังกอดนางแน่นยิ่งขึ้น งัดเอวขึ้นเพื่อกดแท่งหยกซ้ำๆ บนจุดแสนหวานในร่องรักของภรรยา “เหยาเหยากล้าพวยพุ่งน้ำพุใส่ข้าแล้วหรือ” เขาล้อเลียน ยิ้ม บางเบาพึงพอใจ ระหว่างที่ยังคงบดสะโพกต่อไป ไป๋อวิ๋นเหยาใบหน้าแดงก่ำอยากร้องไห้ นางสั่นระริกสุขสมไปทั่วร่าง เขายังกล้าล้อเล่นเช่นนี้อีก เมื่อก่อนเขาชอบขอจะดูนางปลดเบา อย่างไรนางก็ไม่ให้ เขาจึงได้แต่ทำใจ วันนี้นางพวยพุ่งใส่เขาเช่นนี้ ไม่ใช่นางกล้าหาญหรือจงใจ แต่เพราะนางควบคุมไม่ได้จริงๆ และนางกล้าสาบานว่านี่ไม่ใช่การปลดเบาเขาต่างหากที่ทำให้นางควบคุมตัวเองไม่ได้เช่นนี้!“ชู่ว..ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือ เหยาเหยาเย้ายวนยิ่ง” เขาชื่นชม ก้มลงจูบซับน้ำที่เอ่อล้นขอบตาของภรรยา ลิ้มเลียน้ำตาของ

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 12 ขับยาพิษและหมูยาง

    มือของเขาเคลื่อนไปจับมือของนางที่อ่อนปวกเปียกเพราะพิษกำยาน และเริ่มนวดเบาๆ ที่ปลายนิ้ว ไล่ไปจนถึงฝ่ามืออย่างทะนุถนอม แม้มือของเขาเองจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่มันกลับไม่หยุดความพยายามของเขาแม้แต่น้อย ราวกับจะทำทุกวิถีทางให้นางรู้สึกร้อนรุ่มขึ้น นางได้แต่มองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความอึดอัดปนความสับสน แม้จะอยากปฏิเสธ แต่ความรู้สึกอ่อนโยนที่เขามอบให้ กลับทำให้นางไม่อาจห้ามหัวใจของตัวเองไม่ให้เต้นระรัว เด็กสารเลวนี่ วางแผนจะรวบนางนานแล้วหรือ! นางคิดว่าท่านพ่อบังคับเขาให้แต่งเสียอีก ที่แท้เขาก็ไม่ได้ใสซื่อมือของเฉินซูเหยาค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาที่ปลายเท้าของนางเขาเริ่มนวดที่ฝ่าเท้า ไล่ขึ้นไปจนถึงข้อเท้าอย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขาช่างอ่อนโยนและตั้งใจ เหมือนพยายามจะบรรเทาความชาและขับพิษให้นางให้ได้มากที่สุด แต่สายตาหื่นกระหายกลับพูดสิ่งอื่น “เลือดลมของเจ้าจะต้องรีบขับออก” เขาพูดเบาๆ พลางจ้องมองใบหน้าของนางที่เริ่มแดงจนคล้ำ แม้ในใจไป๋อวิ๋นเหยาจะยังคงประท้วงอยู่ แต่ร่างกายกลับยอมรับสัมผัสของเขาอย่างเต็มใจ นางหลับตาลงเล็กน้อย ปล่อยให้ความร้อนรุ่มจากพิษสมุนไพรและสัมผัสของเขาไหลเวียนไปทั่วร่าง ท่ามกล

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 11 ยาแรง

    “...” ไป๋อวิ๋นเหยาส่งสายตาขุ่นเคืองไปยังเขา แต่กลับทำให้เขายิ่งหัวเราะชอบใจ “ดื่มเถิด ข้าจะช่วยพยุงเจ้าเอง” เขาประคองนางขึ้นอย่างระมัดระวัง แม้บาดแผลของเขาจะส่งผลให้ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไป ด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่แสดงอาการใดๆ เพียงใช้แขนที่มั่นคงรองรับร่างของนางไว้ริมฝีปากของนางสัมผัสกับของเหลวสีเขียวเข้ม กลิ่นของมันไม่ชวนดื่มเอาเสียเลย ทว่าด้วยแรงผลักดันจากแววตาที่มุ่งมั่นน่ารัdของเขา ไป๋อวิ๋นเหยาจึงกล้ำกลืนมันลงคอไปอย่างยากลำบากเมื่อนางยอมดื่มจนหมด เฉินซูเหยาก็โยนถ้วยใบไม้ทิ้ง จากนั้นก็ก้มลงไปจุมพิตนาง เรียวลิ้นกวาดสัมผัสยาสมุนไพรขมๆ ในปากอิ่มของภรรยาอย่างหิวโหย ไป๋อวิ๋นเหยาเบิกตาโพลง ตกใจราวสาวน้อยที่เพิ่งเคยจุมพิตนางรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปพบกับเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดที่ขโมยจุมพิตแรกของนาง ราวเด็กหนุ่มเอาแต่ใจผู้นั้นยังคงอยู่ไม่หายไปไหน “เจ้ายังขยับไม่ได้ แต่เลือดเริ่มไหลเวียนดีขึ้นแล้ว อีกไม่นานเจ้าจะหาย” เขากระซิบบนริมฝีปากของภรรยา เหมือนปลอบเด็กน้อย เขาชอบทำเช่นนี้เสมอ ป้อนยานางและตามด้วยจุมพิตขมปนหวาน เขาทำเช่นนี้ทุกครั้งที่นางป่วย เอาใจใส่นางและกลั่นแกล้งนาง ร่างแน่นิ่งซึ่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status