공유

บทที่ 4 สายน้ำหึงหวง

last update 최신 업데이트: 2025-04-12 00:03:14

สตรีอายุยี่สิบปีเป็นวัยกำลังสะพรั่ง หากเป็นหญิงสาวคนอื่นๆ ป่านนี้พวกนางคงแต่งงานมีคู่ ครองรักกันทุกค่ำคืน บางคนอาจมีลูกสองสามคนแล้ว แต่นางกลับต้องมาอยู่บนยอดเขาลำพังเพียงผู้เดียว 

หลินโม่เหนียงกำลังสงสัยว่าความต้องการและความเหงาเปลี่ยวอาจทำให้นางเห็นภาพหลอน แต่คิดอย่างไรสัมผัสชัดเจนเช่นนั้นคงไม่อาจเป็นความคิดฝ่ายเดียวของนางไปได้ แม้นางจะเคยแต่งงานผ่านการเข้าหอมาแล้ว แต่เพียงคืนเดียวคงไม่ทำให้นางรู้แจ้งจนนำมาคิดเพ้อเป็นเรื่องราวได้แน่

หญิงสาวตัดสินใจลองอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

แต่วันรุ่งขึ้นหรือวันถัดมา ต่อให้นางนั่งใต้น้ำตกนานขึ้นเท่าไรก็ไม่อาจสัมผัสถึงสายน้ำอบอุ่นได้เลย จนผ่านไปหลายวัน หลินโม่เหนียงเริ่มแน่ใจว่าอาจเป็นความคิดเพ้อฝันของนางเพียงผู้เดียว

“ขอบคุณ” หลินโม่เหนียงกล่าว วันนี้เป็นวันที่จะมีทหารมาส่งอาหารแห้งและเมล็ดธัญพืชให้นาง 

“ไม่เป็นไร เป็นหน้าที่ข้าอยู่แล้ว หากแม่นางโม่อยู่คนเดียวไม่สะดวกอย่างไร ข้าจะมาหาเจ้าให้บ่อยขึ้นก็ย่อมได้ เจ้าไม่ต้องเกรงใจ” ชายหนุ่มในชุดทหารมองหลินโม่เหนียงด้วยสายตาชื่นชม 

‘สตรีงดงามเช่นนี้ กลับต้องอยู่เดียวดายบนเขา ช่างน่าเสียดาย’ นายทหารครุ่นคิด

“...” หลินโม่เหนียงเงียบ เวลาที่ถูกบุรุษจ้องมองเช่นนี้นางรู้สึกว่าอึดอัดยิ่งนัก 

“หรือเจ้าอยากจะลงเขาไปกับข้าก็ได้นะ ท่านนักพรตไม่ได้บังคับ เขามีเมตตายิ่ง เจ้าไม่ต้องกังวล” นายทหารพูดเกี้ยว เขาจะพยายามเช่นนี้ทุกครั้งที่ได้พบหลินโม่เหนียง แม้นางจะไม่เคยตอบกลับเลย

“...”

“เจ้าอยู่บนเขาเพียงผู้เดียว ไม่เงียบเหงาบ้างหรือ เจ้า..อยากจะ..เอ่อ ไปกับข้า ..เจ้าอย่าเข้าใจผิด ข้า..ข้าเพียงอยากถามว่าเจ้าอยากลงเขาไป..กับข้าหรือไม่ ถึงเจ้าจะอายุมากแล้ว แต่ข้าไม่ถือ เจ้าไม่ต้องกังวล” นายทหารหน้าแดงด้วยความเขินอาย

“ข้ามีคำจะฝากท่านไปบอกท่านนักพรต ฝากบอกเขาว่าข้าเริ่มสัมผัสได้ถึงสายน้ำอบอุ่นแล้ว ขอให้เขาช่วยมาชี้แนะขั้นต่อไปให้ข้าด้วย ขอบคุณ”

กล่าวคำที่ต้องการพูดเสร็จหลินโม่เหนียงก็เข้าบ้านปิดประตู ไม่รอให้คนส่งของได้พูดอะไรตอบ ทหารคนนั้นได้แต่พยักหน้ากับประตูและขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจแม่นางประหลาดผู้นี้

ตลอดหลายปีมานี้ นางอยู่คนเดียวมานาน ลืมไปหมดแล้วว่าควรรักษามารยาทต่อผู้คนอย่างไร และด้วยความกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำเรื่องผิดประเพณีกับนางที่อยู่ที่นี่ลำพัง หญิงสาวจึงเลือกไม่พูดคุยไม่สบตามาตลอด 

ทุกครั้งหากนางได้ยินว่ามีคนขึ้นเขามา นางจะเดินเข้าไปอยู่ในป่า รอให้คนส่งของกลับก่อนจึงจะออกมา นอกจากบางครั้งที่นางต้องการคำชี้แนะจากท่านนักพรตจึงจะออกมารอคนส่งของ ถึงแม้นักพรตจะไม่เคยตอบกลับคำถามของนางเลยสักครั้ง

“เฮ้อ เสียดาย แม้จะหน้าตางดงาม แต่กลับ..” 

หลินโม่เหนียงได้ยินทหารบ่นกับตัวเองระหว่างเดินลงเขาไป นางรู้สึกหายใจทั่วท้องขึ้นมาบ้างแล้ว หลังจากอึดอัดกับสายตาของอีกฝ่ายตลอดการสนทนา นางรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนเลว แม้เขาจะพยายามเกี้ยวนางหลายครั้ง แต่นางไม่ต้องการ

หลังจากเก็บเมล็ดธัญพืชและอาหารแห้งไว้ในครัวเสร็จ หญิงสาวยังต้องผ่าฟืนที่ตัดมาเก็บไว้ เพราะตัวคนเดียวจึงต้องทำงานหนักเองทั้งหมด แต่หลินโม่เหนียงก็ยังพึงพอใจชีวิตเช่นนี้ยิ่ง

เมื่องานหนักจบลง ดวงอาทิตย์เริ่มหลบเข้าหลังเขา หญิงสาวที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อรีบไปล้างเนื้อล้างตัวที่บ่อน้ำ นางไม่อยากต้มน้ำอาบเพราะเสียดายฟืนที่ต้องใช้แรงกายมากมายกว่าจะผ่าเสร็จ นางต้องการเก็บฟืนไว้สำหรับทำอาหารเท่านั้น 

ถึงอย่างไรหญิงสาวก็แช่น้ำเย็นทุกวันอยู่แล้ว การอาบน้ำเย็นจึงไม่ได้น่ากลัวมากเท่าไรนัก 

หลินโม่เหนียงถอดเสื้อลงน้ำ นางไม่กลัวว่าจะมีใครมาพบ เพราะที่นี่มีเพียงนาง แต่ทันทีที่ปลายเท้าของหญิงสาวก้าวลงน้ำ สายน้ำอบอุ่นสายเดิมก็วนมาล้อมรอบตัวนางทันที โม่เหนียงตกใจจนเกือบจมน้ำ แต่สายน้ำอุ่นนั้นกลับโอบอุ้มนางขึ้นมาเหนือน้ำ มันไม่พยายามปกปิดตัวตนสักนิด

“อย่าไป ห้ามไป” เสียงไพเราะทุ้มต่ำของบุรุษเอ่ยออกมาก่อนที่สายน้ำจะรวมตัวเป็นร่างโปร่งใสและรวบกอดโม่เหนียงเข้าสู่อ้อมกอดของเขา

โม่เหนียงทำตัวไม่ถูก ทั้งสัมผัสอบอุ่นของสายน้ำและแรงกอดกระชับ นางไม่แน่ใจว่าตนเองเห็นภาพหลอนไปคนเดียวอีกหรือไม่ แต่ทุกอย่างกลับดูชัดเจนจนคล้ายว่าเกิดขึ้นจริง 

ยังไม่ทันได้คิดตรึกตรองว่าเรื่องประหลาดนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ร่างมวลน้ำอุ่นก็เริ่มกดจูบลงไปที่ริมฝีปาก เริ่มแรกสัมผัสอุกอาจนั้นยังเป็นเพียงน้ำอุ่น แต่เมื่อจูบนานเข้าโม่เหนียงกลับรู้สึกถึงปลายลิ้นและริมฝีปากที่เปียกชุ่มของอีกฝ่าย ราวกับเขามีตัวตนอยู่จริง

ริมฝีปากนั้นจูบดุดันราวกับจะช่วงชิงลมหายใจ หญิงสาวพยายามลืมตาดูว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เห็นคือร่างมวลน้ำที่เคยโปร่งใสยามนี้กลับคล้ายร่างบุรุษซ้อนทับเลือนราง

โม่เหนียงออกแรงผลักแผงอกแต่กลับทะลุออกไป นางไม่อาจสัมผัสเขา แต่ยังคงรู้สึกถึงแรงกอดกระชับของเขา นางทั้งตกใจและหวาดหวั่น ในใจนึกว่าตนเองอาจพบเจอปิศาจเข้าแล้ว แต่ไม่อาจหยุดยั้งริมฝีปากที่เริ่มไล่จูบลงมาที่คอระหง เขาขบกัดบริเวณคออย่างแรงราวกับจะกัดให้เลือดออก

“โอ๊ยย..เจ็บ” โม่เหนียงตะโกนออกไป

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 16 ชีวิตแสนสุข (ตอนจบ)

    เสี่ยวอวี้ เสี่ยวหยาง เสี่ยวชิง และเสี่ยวหลันโผเข้ากอดนางแน่น ดวงตาเปียกชุ่มด้วยน้ำตาแห่งความปลื้มปีติ หลังจากที่ต้องทนทุกข์ใจกับข่าวร้ายที่ท่านน้ากระซิบบอกว่าอาจไม่ได้พบมารดาอีกหลายวัน หรือตลอดไป ไป๋อวิ๋นเหยาใช้เวลาปลอบโยนลูกๆ ที่ยังไม่คลายจากความหวาดหวั่น เสียงหัวเราะและรอยยิ้มกลับมาเติมเต็มจวนไป๋อีกครั้ง แต่ลึกลงไปในใจของนาง ความกังวลยังคงรุกล้ำเงียบงัน วันแล้ววันเล่า นางเฝ้ารอการกลับมาของสามีผู้เป็นที่รัก แต่มีเพียงสายลมหนาวยามค่ำคืนเท่านั้นที่ตอบกลับมา องค์หญิงหว่านหนิงถูกประกาศว่าถูกไฟไหม้เสียชีวิต เพราะเมามายเกินไประหว่างคืนเทศกาลโคมไฟ และจวนไป๋ก็ได้รับเงินมากมายจากราชสำนักเพื่อบำรุงซ่อมแซมจวน แต่ไร้เงาของเฉินซูเหยา เวลาล่วงผ่านไปนานนับเดือน แต่สามีของไป๋อวิ๋นเหยาก็ยังไม่กลับมา นางเฝ้ารอด้วยความทุกข์ใจจนแทบทนไม่ไหว ความเงียบงันที่ไม่มีแม้เงาของเขาทำให้นางตัดสินใจลงมือเอง แม้จะเป็นเพียงบุตรีของอดีตบัณฑิต แต่ด้วยแรงแห่งความรักและความหวัง นางจึงพยายามหาหนทางติดต่อองค์รัชทายาท ทุกก้าวของนางเต็มไปด้วยอุปสรรค สายตาดูแคลน และเสียงกระซิบวิจารณ์ แต่ไป๋อวิ๋นเหยาก็ไม่ยอมแพ้ กระทั่งวัน

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 15 สัญญาปากเปล่า

    ความรู้สึกผิดท่วมท้น นางเงยหน้ามองชายผู้เคยเป็นดั่งเงาในชีวิตด้วยน้ำตาที่รินไหล เขาต้องการให้นางเจ็บปวดเพื่อนางจะได้หันหน้าหนี เพื่อนางจะได้ปลอดภัย และนางก็เป็นเช่นนั้น เกลียดเขาจนวันสุดท้ายของชีวิต แม้เขาจะรอนางอย่างเดียวดายที่สะพานไน่เหอ หลายปี แต่นางก็ยังเกลียดเขา “ข้า..ข้ามันเห็นแก่ตัวนัก” เสียงแหบพร่าของไป๋อวิ๋นเหยาสั่นเทา นางสะอื้นน้ำตารื้น “..เหตุใดจึงเป็นเหยาเหยาเห็นแก่ตัวเล่า..ข้าต่างหากที่เห็นแก่ตัว ข้าต่างหากที่ทำให้เจ้าเจ็บปวด ทำให้เจ้าต้องเดือดร้อน” เขากอดรัดภรรยาไว้จนแน่น “เจ้าคิดจะตายลำพัง!” นางก่นด่า หากเมื่อคืนนี้นางไม่เข้าไปในเรือนหลัง เขาก็คงจะตายลำพังอีกแล้ว “ข้าเตรียมทางหนีไว้แล้ว เจ้าไม่เห็นหรือ ทางที่ข้าพาเจ้าหนีมาอย่างไรเล่า” เขาลูบหัวของภรรยาเบาๆ “แต่หากข้าไม่เข้าไป เจ้าก็จะรอจนแม่ทัพหนุ่มที่เผาภูเขาลูกนั้นเข้ามาในจวน แล้วเจ้าค่อยเผาใช่หรือไม่!!” นางเข้าใจความตั้งใจของเขาดี เขาคงคิดจะเสียสละชีวิตเพื่อลากทุกคนไปกับเขา “..เหยาเหยาไม่ต้องกังวล ข้าจะหาทาง” “แล้วเราจะทำเช่นไรต่อไปดี ข้า..ข้าทำให้เจ้า..ข้าทำแผนของเจ้าพัง” “เหยาเหยาไม่ต้องกังวล” เขาเพียงพูดพร

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 14 เรื่องที่สามีเล่า

    เฉินซูเหยากอดร่างของภรรยาไว้ในอ้อมแขน ร่างของนางที่ยังอ่อนแรงพิงเขาอย่างตกตะลึงในความจริง นางเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม“เจ้ากล้าโกหกข้าหรือ” ไป๋อวิ๋นเหยาท้วงติงไม่พอใจ เขาหัวเราะขบขัน ไม่เห็นการข่มขู่ของภรรยาอยู่ในสายตา เขาเพียงเริ่มเล่าถึงความหลังที่เกิดขึ้นต่อไปพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น มองภรรยาด้วยความรักใคร่ ไป๋เหวินหยาง เป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการศึกสงคราม แต่ก็เป็นบัณฑิตมากความสามารถ มีสายตาที่มองทะลุความสามารถของคน แม้จะรู้ว่าเฉินซูเหยาเป็นบุตรนอกสมรสของแม่ทัพหยวนกวน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ก็ยังยื่นมือมาช่วยเหลือเฉินซูเหยาไว้ ช่วยปกปิดภูมิหลังของเขา ซ่อนเขาจากศัตรูของแม่ทัพ สั่งสอนเขาราวกับศิษย์คนหนึ่ง หลังจากเด็กหนุ่มสอบได้เป็นจอหงวน ชีวิตของเขาก็เริ่มรู้สึกสงบสุข ได้แต่งงาน เขาไม่เคยคิดแก้แค้นให้บิดาเลยแม้แต่น้อย เพราะกำลังของเขาไม่มากพอ และที่สำคัญ เขาแต่งงานกับหญิงสาวตรงหน้าแล้ว เขาไม่อยากให้ภัยอันตรายใดๆ มาถึงจวนไป๋ หรือครอบครัวของนาง เขาจึงเลือกที่จะวางอดีตลง หรืออย่างน้อยก็พยายามวาง แต่ในใต้หล้านี้ ความตั้งใจหรือจะสู้ฟ้าลิขิต หลังจากเฉินซูเหยาได้ร

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 13 รสรัก (NC)

    “อ้า..เหยาเหยา..” เขาครางแหบพร่าไป๋อวิ๋นเหยาแทบอยากจะกรีดร้อง เพราะรู้สึกว่าความร้อนแท่งใหญ่ที่ค่อยๆ ซึมเข้ามา เหมือนเปลวเพลิงกำลังกัดกิน ทุกอณูของร่างเริ่มร้อนจนเหมือนจะระเบิด ความกำหนัดที่เขาเพาะบ่มตลอดการย่างกำลังทวีขึ้น ความรู้สึกถูกเผาผลาญนั้นเหมือนจี้ถูกจุดร่างกายของไป๋อวิ๋นเหยาสั่นระริกโดยไม่อาจควบคุม พวยพุ่งความสุขสมออกมาจนท่วมรอบเอวสามี เขาไม่ได้รังเกียจ อีกทั้งยังกอดนางแน่นยิ่งขึ้น งัดเอวขึ้นเพื่อกดแท่งหยกซ้ำๆ บนจุดแสนหวานในร่องรักของภรรยา “เหยาเหยากล้าพวยพุ่งน้ำพุใส่ข้าแล้วหรือ” เขาล้อเลียน ยิ้ม บางเบาพึงพอใจ ระหว่างที่ยังคงบดสะโพกต่อไป ไป๋อวิ๋นเหยาใบหน้าแดงก่ำอยากร้องไห้ นางสั่นระริกสุขสมไปทั่วร่าง เขายังกล้าล้อเล่นเช่นนี้อีก เมื่อก่อนเขาชอบขอจะดูนางปลดเบา อย่างไรนางก็ไม่ให้ เขาจึงได้แต่ทำใจ วันนี้นางพวยพุ่งใส่เขาเช่นนี้ ไม่ใช่นางกล้าหาญหรือจงใจ แต่เพราะนางควบคุมไม่ได้จริงๆ และนางกล้าสาบานว่านี่ไม่ใช่การปลดเบาเขาต่างหากที่ทำให้นางควบคุมตัวเองไม่ได้เช่นนี้!“ชู่ว..ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือ เหยาเหยาเย้ายวนยิ่ง” เขาชื่นชม ก้มลงจูบซับน้ำที่เอ่อล้นขอบตาของภรรยา ลิ้มเลียน้ำตาของ

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 12 ขับยาพิษและหมูยาง

    มือของเขาเคลื่อนไปจับมือของนางที่อ่อนปวกเปียกเพราะพิษกำยาน และเริ่มนวดเบาๆ ที่ปลายนิ้ว ไล่ไปจนถึงฝ่ามืออย่างทะนุถนอม แม้มือของเขาเองจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่มันกลับไม่หยุดความพยายามของเขาแม้แต่น้อย ราวกับจะทำทุกวิถีทางให้นางรู้สึกร้อนรุ่มขึ้น นางได้แต่มองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความอึดอัดปนความสับสน แม้จะอยากปฏิเสธ แต่ความรู้สึกอ่อนโยนที่เขามอบให้ กลับทำให้นางไม่อาจห้ามหัวใจของตัวเองไม่ให้เต้นระรัว เด็กสารเลวนี่ วางแผนจะรวบนางนานแล้วหรือ! นางคิดว่าท่านพ่อบังคับเขาให้แต่งเสียอีก ที่แท้เขาก็ไม่ได้ใสซื่อมือของเฉินซูเหยาค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาที่ปลายเท้าของนางเขาเริ่มนวดที่ฝ่าเท้า ไล่ขึ้นไปจนถึงข้อเท้าอย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขาช่างอ่อนโยนและตั้งใจ เหมือนพยายามจะบรรเทาความชาและขับพิษให้นางให้ได้มากที่สุด แต่สายตาหื่นกระหายกลับพูดสิ่งอื่น “เลือดลมของเจ้าจะต้องรีบขับออก” เขาพูดเบาๆ พลางจ้องมองใบหน้าของนางที่เริ่มแดงจนคล้ำ แม้ในใจไป๋อวิ๋นเหยาจะยังคงประท้วงอยู่ แต่ร่างกายกลับยอมรับสัมผัสของเขาอย่างเต็มใจ นางหลับตาลงเล็กน้อย ปล่อยให้ความร้อนรุ่มจากพิษสมุนไพรและสัมผัสของเขาไหลเวียนไปทั่วร่าง ท่ามกล

  • กระถางบำเพ็ญเพียรของโม่เหนียง (และรวมเรื่องสั้น)   บทที่ 11 ยาแรง

    “...” ไป๋อวิ๋นเหยาส่งสายตาขุ่นเคืองไปยังเขา แต่กลับทำให้เขายิ่งหัวเราะชอบใจ “ดื่มเถิด ข้าจะช่วยพยุงเจ้าเอง” เขาประคองนางขึ้นอย่างระมัดระวัง แม้บาดแผลของเขาจะส่งผลให้ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไป ด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่แสดงอาการใดๆ เพียงใช้แขนที่มั่นคงรองรับร่างของนางไว้ริมฝีปากของนางสัมผัสกับของเหลวสีเขียวเข้ม กลิ่นของมันไม่ชวนดื่มเอาเสียเลย ทว่าด้วยแรงผลักดันจากแววตาที่มุ่งมั่นน่ารัdของเขา ไป๋อวิ๋นเหยาจึงกล้ำกลืนมันลงคอไปอย่างยากลำบากเมื่อนางยอมดื่มจนหมด เฉินซูเหยาก็โยนถ้วยใบไม้ทิ้ง จากนั้นก็ก้มลงไปจุมพิตนาง เรียวลิ้นกวาดสัมผัสยาสมุนไพรขมๆ ในปากอิ่มของภรรยาอย่างหิวโหย ไป๋อวิ๋นเหยาเบิกตาโพลง ตกใจราวสาวน้อยที่เพิ่งเคยจุมพิตนางรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปพบกับเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดที่ขโมยจุมพิตแรกของนาง ราวเด็กหนุ่มเอาแต่ใจผู้นั้นยังคงอยู่ไม่หายไปไหน “เจ้ายังขยับไม่ได้ แต่เลือดเริ่มไหลเวียนดีขึ้นแล้ว อีกไม่นานเจ้าจะหาย” เขากระซิบบนริมฝีปากของภรรยา เหมือนปลอบเด็กน้อย เขาชอบทำเช่นนี้เสมอ ป้อนยานางและตามด้วยจุมพิตขมปนหวาน เขาทำเช่นนี้ทุกครั้งที่นางป่วย เอาใจใส่นางและกลั่นแกล้งนาง ร่างแน่นิ่งซึ่

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status