Home / โรแมนติก / กลรักปีนเกลียว / ตอนที่ 9 "กลัวเข็มฉีดยา!"

Share

ตอนที่ 9 "กลัวเข็มฉีดยา!"

last update Huling Na-update: 2025-11-21 13:46:42

ทันทีที่เอกขับรถไปจอดที่หน้าอาคารฉุกเฉิน เขาก็รีบบอกเจ้าหน้าที่ "น้องเขาโดนหมาจรจัดกัดมาครับ จะพามาฉีดวัคซีน"

ฝนยืนนิ่ง หน้าซีด ตัวแข็ง ไม่ยอมเดินเข้าไป เอกจึงคว้าแขนเธอไว้ "เจ็บขาเหรอ? เดินไม่ไหวแล้ว? เอารถเข็นไหม?"

"ไม่ได้เจ็บ! ไม่ได้เป็นไร!" เธอดิ้นพยายามจะขัดขืนไม่ยอมเข้าไป เอกก็คว้าแขนเธอแล้วเดินตามพยาบาลเข้าไป แต่จังหวะเดียวกันนั้นเองก็มีเสียงสัญญาณฉุกเฉินดังขึ้น ตามมาด้วยรถเข็นผู้ป่วยที่ถูกพยาบาลและเจ้าหน้าที่เข็นอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าห้องฉุกเฉิน ในรถเข็นมีคนไข้ผู้ชายคนหนึ่งเลือดอาบเต็มตัว เอกเห็นภาพก็ถึงกับผงะตกใจ แต่ฝนที่อยู่ใกล้ที่สุดกลับแข็งทื่อ ตัวสั่น และกำลังจะล้มลง

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งเรียกชื่อฝน "อ้าวฝน! ใครเป็นอะไร? ทำไมไม่เห็นจะโทรบอกพี่?"

ชายในชุดคุณหมอที่กำลังเดินมาพอดี เห็นท่าทางของฝนก็รีบเข้ามาประคองตัวเธออย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งดึงตัวฝนเข้ามากอดแนบอกอย่างแผ่วเบา ขณะที่อีกมือค่อย ๆ กดศีรษะของเธอไว้ไม่ให้เงยหน้าขึ้นไปมองภาพที่อยู่ตรงหน้า เขาแนบกระซิบที่ข้างหูของเธออย่างนุ่มนวล "ไม่เป็นไรนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้ว หลับตาไว้ หายใจเข้าลึก ๆ นะ"

ฝนรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างประหลาด เธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ น้ำตาคลอเบ้า แต่เมื่อเห็นว่าใบหน้าของคนที่กอดเธอไว้คือใคร เธอก็ดีใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา "พี่หมอกฤษณ์..." เธอเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบา

"เป็นอะไรเนี่ย? ทำไมหน้าซีดขนาดนี้? เหงื่อก็แตกด้วย" คุณหมอใช้มือแตะหน้าผากของฝน เอกทำหน้างงที่ทั้งสองดูสนิทกัน

"เอ่อ...รู้จักกันหรอครับ?" เอกถาม

"อ๋อครับ นี่คุณคือ...?" เสียงคุณหมอลากยาว

"ผมเป็น...ถ้าตอนนี้ก็คือเป็นผู้ปกครองแล้วกันครับ" เอกตอบ

คุณหมอทำหน้างง "ผู้ปกครองหรอ?" แล้วหันไปถามฝน ฝนจึงก้มหน้าลงแล้วบอกว่า "ฝนฝึกงานอยู่กับเขา เขารู้จักกับคุณพ่อค่ะพี่หมอ"

"อ๋อครับ ผมหมอกฤษณ์ครับ 

"ผมเอกภพครับ ยินดีที่ได้รู้จัก"

"ฝน...เดี๋ยวไปทางนี้กับพี่นะ พี่ทำเรื่องให้" คุณหมอหันไปบอกฝน และให้พยาบาลทำเรื่องให้ "ไปฉีดยา"

ฝนไม่ยอมเดิน เอกยังคงงงกับท่าทางของเธอ แต่หมอกฤษณ์ดูเหมือนจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเอื้อมมือมาจับมือเล็ก ๆ ของฝน แล้วพูดอย่างอ่อนโยน "ไม่เป็นไรนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัว หายใจเข้าลึก ๆ นะ" พร้อมกับลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน

ใบหน้าของฝนยิ่งดูเป็นกังวลมากขึ้น ทำให้เอกไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลย หมอกฤษณ์ค่อย ๆ พยุงฝนไปที่ห้องสำหรับฉีดวัคซีน

"คุณพยาบาลครับ เดี๋ยวคนไข้คนนี้ผมดูแลเอง รบกวนเตรียมยาไว้ให้ผมด้วยนะครับ...แล้วก็ขอถุงพลาสติกกับกระดาษทิชชูไว้ด้วยครับ"

เอกยืนมองอย่างงุนงง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะคิดว่าคงเป็นขั้นตอนปกติของหมอ ระหว่างที่ฝนกำลังจะถูกฉีดยา เอกที่มองผ่านม่านบาง ๆ เห็นท่าทางของฝนดูเหมือนจะกลัวเข็มมาก เธอหลับตาปี๋ หันหน้าหนีไปอีกฝั่ง ในมือบีบแขนตัวเองแน่น พร้อมกับกัดฟัน นั่นทำให้เอกเข้าใจได้ทันทีว่า ฝนมีอาการกลัวเข็มฉีดยาอย่างรุนแรง เขาก็ไม่พูดอะไร ทำเหมือนไม่ได้เห็น

หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงอ้วก เอกรีบหันกลับไปมองอีกครั้ง เห็นฝนกำลังนั่งอ้วกและหมอค่อย ๆ ลูบหลังให้ และเช็ดปากให้ นั่นยิ่งทำให้เอกแปลกใจมาก "สาวน้อยแสนซนที่ดูแก่นแก้วไม่กลัวอะไรคนนี้ กลับกลัวแค่เข็มฉีดยา?"

หลังฉีดยาเสร็จ โดยปกติคนไข้น่าจะลุกขึ้นได้ แต่หมอกลับให้ฝนทิ้งตัวลงนอนพักครู่หนึ่ง คุณหมอเดินออกมาหาเอก

"เมื่อกี้เห็นแล้วใช่ไหมครับ? ถ้าเห็นแล้ว ก็ช่วยทำเป็นไม่รู้เรื่องได้ไหมครับ เจ้าตัวเขาไม่ให้ใครรู้เรื่องนี้ แต่ดูแล้วคุณน่าจะเห็นกับตาแล้ว"

"อ๋อครับ คือ...เธอมีอาการแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?" เอกถามด้วยความอยากรู้

"จริง ๆ แล้ว...ตั้งแต่ผมรู้จักเธอเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นเธอหัวแตก แต่เธอก็ไม่ได้มีอาการเจ็บหรือร้องไห้อะไร แต่พอเธอเห็นว่าตัวเองหัวแตกและมีเลือดไหล เธอก็หมดสติไปเลยครับ"

หมอกฤษณ์อธิบายเพิ่มเติม "หลังจากนั้น เวลาที่มีฉีดวัคซีนหรืออะไร ฝนเขาก็มักจะแอบหนีอยู่เป็นประจำ ยิ่งนานวันก็ยิ่งรู้ว่าเขาไม่ชอบทุกอย่างที่อยู่ในโรงพยาบาล เธอบอกไม่ชอบเข็ม ไม่ชอบกลิ่นของโรงพยาบาล แม้กระทั่งเลือดก็เห็นไม่ได้เลย อาการเหล่านี้เป็นภาวะโรคกลัว (Phobia) ชนิดหนึ่งครับ เรียกว่า โรคกลัวเลือด-การบาดเจ็บ-เข็ม (Blood-Injection-Injury Phobia) 

"อาการที่คุณเห็นเมื่อกี้ที่หน้าซีด เป็นลม หรือคลื่นไส้ คือการตอบสนองของระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งต่างจากคนส่วนใหญ่ที่หัวใจจะเต้นแรงเวลาตกใจ แต่ในผู้ที่เป็นโรคนี้ หัวใจจะเต้นช้าลงและความดันโลหิตจะลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ จนเกิดอาการหน้ามืดและเป็นลมได้"

"ยังไงก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้หน่อยนะครับ สงสารเขา ไม่อยากให้เขาเสียหน้า ขอเถอะนะครับ"

"ครับ เข้าใจแล้วครับ" เอกพยักหน้า

"งั้นตามผมมาที่ห้องหน่อยครับ" หมอกฤษณ์พาเอกไปที่ห้อง จากนั้นเขาก็อธิบายเกี่ยวกับอาการและสิ่งที่ต้องปฏิบัติ "ฝนต้องมาฉีดยาให้ครบจำนวนเข็ม ตามโปรแกรมคือมีทั้งวัคซีนบาดทะยักและวัคซีนพิษสุนัขบ้า วัคซีนบาดทะยักผมต้องฉีดให้อยู่แล้วครับ เพราะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาผมคิดว่าเธอคงไม่ได้ฉีดหรอก เพราะกลัวเข็มขนาดนั้น"

"หลังจากนี้ก็ต้องมาตามนัดนะครับ แต่ถ้าผมจะรบกวนก็คือต้องมีคนพาเธอมา ถ้าไม่อย่างนั้นเธอก็จะแอบหนีอยู่ดี ยังไงก็มาไม่ถึงโรงพยาบาล จะเป็นที่บ้านหรือจะรบกวนคุณก็ได้นะครับ ยังไงก็ฝากด้วย หรือถ้ามันเกินหน้าที่ เดี๋ยวผมโทรบอกคุณอานพก็ได้ครับ?"

เอกสงสัย "คุณหมอรู้จัก...คุณอานพด้วยเหรอครับ?"

"อ๋อครับ เป็นคุณอาของผมเอง"

"อ้าว! งั้นคุณก็เป็นพี่ชายที่ฝนพูดถึงสิ"

"อ๋อครับ เธอพูดถึงผมด้วยหรอครับ?"

"เธอก็บอกว่ามีทั้งพี่ชายและพี่สาวประมาณนี้ครับ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคุณหมอ...แล้วคุณหมอทำไมถึงมาเป็นหมอครับ น้องสาวกลัวเข็มฉีดยา แต่ทำไมพี่ชายดันมาเป็นหมอ?"

หมอกฤษณ์ใช้สายตาหวานซึ้งเมื่อพูดถึงฝน "ที่ต้องเป็นหมอ...ก็เพราะเธอนี่แหละครับ"

เอกอึ้งไปกับคำตอบนั้น ทำให้เขารู้สึกสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมากขึ้นกว่าเดิม ว่ามันคืออะไรกันแน่?

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 37 ตอนพิเศษ

    นพพลเริ่มสงสัยตอนไหน?เรื่องราวทั้งหมดต้องย้อนกลับไปในงานแต่งงานของฟ้า ลูกสาวคนกลางของนพพล ที่นั่นนพพลได้เจอกับเอกเป็นครั้งแรก และรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เมื่อได้พูดคุยก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดู เขาจึงแลกช่องทางการติดต่อกับเอกไว้เมื่อรู้ว่าเอกต้องย้ายมาทำงานที่สาขาต่างจังหวัดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน นพพลจึงชวนเอกให้มาเช่าบ้านใกล้ๆ ซึ่งในตอนนั้นเขายังไม่ได้มีความสงสัยใดๆจนกระทั่งวันหนึ่ง ท่อน้ำที่บ้านแตก เอกได้เข้ามาช่วยซ่อมจนเสื้อผ้าเปียก นพพลจึงให้ฝนนำเสื้อมาให้เอกเปลี่ยน ขณะที่เอกถอดเสื้อ นพพลได้เห็นปานรูปใบหม่อนใต้ราวนมของเอก ซึ่งทำให้เขาตกใจและเริ่มสงสัยในตัวเอกอย่างมากหลังจากนั้น ในวันที่ฝนหมดสติและเอกโทรศัพท์ให้นพพลไปหาที่บ้าน ขณะที่เอกกำลังอุ้มฝนไปวางบนที่นอน นพพลได้แอบเข้าไปในห้องน้ำและเก็บเส้นผมรวมถึงแปรงสีฟันของเอกมา เพื่อนำไปตรวจ DNAนพพลจัดการเรื่องทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว เพราะเขาไม่อยากให้ประทินต้องผิดหวังหากผลตรวจออกมาไม่ใช่พ่อลูกกัน เขาอยากจะแน่ใจก่อนถึงจะบอกทุกคน เขาพยายามหาโอกาสให้ประทินได้พบกับเอกที่เขื่อน และตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ประทินฟัง แต่โชคร้ายที่นพพลกลับพลัด

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 36 ความรักที่แบ่งบาน(ตอนจบ)

    บรรยากาศยามเช้าตรู่ ณ กระท่อมน้อยริมบึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แสงแดดสีทองสาดส่องกระทบผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ ดอกบัวสีชมพูและขาวพากันชูช่อบานรับแสงอรุณราวกับกำลังยิ้มทักทาย สายลมพัดเอื่อยๆ พากลิ่นหอมของดอกไม้ป่าลอยมาตามลม ผีเสื้อหลากสีโบยบินไปมาอย่างร่าเริง เถาไม้เลื้อยที่เคยดูโรยรากลับเขียวชอุ่มและมีดอกไม้เล็กๆ แซมอยู่ประปราย เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังแว่วมาจากป่า บรรยากาศโดยรอบอบอวลไปด้วยความสุขและความหวัง ราวกับธรรมชาติกำลังเยียวยาบาดแผลที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้บนเฉลียงไม้เล็กๆ ของกระท่อมกลางบึง ฝน นั่งอยู่คนเดียวในชุดสีขาวเรียบง่าย ใบหน้าของเธอดูสงบและผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สายตาของเธอมองไปยังผืนน้ำนิ่งๆ ที่สะท้อนเงาของท้องฟ้าสีคราม เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รับเอาความสดชื่นจากธรรมชาติเข้าสู่ปอดอย่างเต็มที่ในวินาทีนั้นเอง อ้อมแขนแกร่งก็โอบเข้าที่เอวของเธอจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา พร้อมกับกลิ่นหอมสะอาดของเสื้อเชิ้ตสีขาวที่คุ้นเคย เอก ยืนอยู่ด้านหลังของเธอด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่ดูสมบูรณ์แบบ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรักที่ยากจะปิดบัง ทั้งคู่ทอดสายตามองยาวไปยังผืนน้ำเบื้องหน้าพ

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 35 ความจริงที่เปิดเผย

    เปลือกตาสีไข่ค่อยๆ ขยับ ก่อนที่นิ้วกลางจะกระตุกขึ้นอย่างแผ่วเบา พลอยใสที่นั่งอยู่ข้างเตียงรู้ทันทีว่าเพื่อนของเธอกำลังจะฟื้น ฝนค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นพลอยใสนั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้องด้วยความสงสัยและความงุนงง ในใจเธอยังคงตั้งคำถาม "ฉันยังมีชีวิตอยู่เหรอ? ฉันยังไม่ตายอีกเหรอ?" ภาพสุดท้ายที่จำได้ก่อนหมดสติคือภาพของเอกกับแม่ที่อยู่ข้างๆฝนหันไปถามพลอยใส "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วแกมาได้ยังไง?"พลอยใสไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับพูดขึ้นเสียงสั่นเครือ "ฝน แกเป็นอะไร ทำไมแกไม่บอกฉัน! ทำไมถึงคิดแบบนี้ได้ยังไง แกรู้ไหมว่าถ้าแกเป็นอะไรไป จะมีคนอีกตั้งหลายคนที่เสียใจ...ทำไมถึงคิดสั้นแบบนี้!" พลอยใสโผเข้ากอดเพื่อนรักที่กำลังอ่อนเพลียจนพูดอะไรไม่ออก มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างเงียบๆทันใดนั้น ฟ้าเปิดประตูเข้ามา "ฝน! เป็นยังไงบ้าง? พี่ได้ข่าวก็รีบมาเลย ทำไมทำแบบนี้ มีอะไรทำไมไม่บอกพี่!" ฟ้าโผเข้ากอดน้องสาวแล้วร้องไห้ ฝนร้องไห้ตามอีกครั้ง กอดพี่สาวด้วยความเสียใจกับเรื่องราวที่ตัวเองต้องเผชิญ เธอได้แต่ร้องไห้โดยไม่พูดอะไร พลอยใสทำได้เพียงลูบหลังปลอบใจ ก่อนจะหันไปมองฟ้าด้วยความไม่เข้า

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 34 อำลาเพื่อมาเจอกัน

    ฝนกอดรองเท้าข้างน้อยของพ่อไว้แน่น ความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวด ด้วยความสิ้นหวัง รู้ตัวอีกที เธอก็ไปยืนอยู่ริมตลิ่งของเขื่อนชลประทาน สายตาเหม่อมองไปยังผืนน้ำกว้างที่นิ่งสงบ ราวกับกำลังรอคอยที่จะกลืนกินความเจ็บปวดทั้งหมดของเธอลงไป"พ่อ...หนูจะตามพ่อไป..." เธอพึมพำ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน ความทรงจำที่เคยมีร่วมกับพ่อฉายชัดขึ้นในหัว ภาพที่พ่อเคยยิ้มให้เธอ เคยโอบกอดเธออย่างอบอุ่น และภาพที่พ่อบอกว่าเขาจะไม่มีวันทิ้งเธอไปไหนแต่ตอนนี้...พ่อไม่อยู่แล้ว...และคนที่เธอรักก็กำลังทำให้เธอเจ็บปวดที่สุดฝนค่อย ๆ ยื่นมือออกไป ปล่อยรองเท้าข้างน้อยของพ่อให้ร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำช้า ๆ ราวกับกำลังปล่อยความหวังสุดท้ายในชีวิตให้จมหายไปกับสายน้ำนั้น"ลาก่อน...ทุกอย่าง..."ในวินาทีนั้นเอง...เธอก็ตัดสินใจที่จะไม่ทนต่อความเจ็บปวดอีกต่อไป ร่างของเธอค่อย ๆ ก้าวเดินลงไปในน้ำอย่างเชื่องช้า น้ำที่เย็นเยียบไม่สามารถหยุดยั้งความรู้สึกที่ร้อนรุ่มในหัวใจได้ เธอเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผืนน้ำค่อย ๆ กลืนร่างของเธอไปจนมิดและในตอนนั้นเอง...ทุกอย่างก็ดับลง...เธอรู้สึกเหมือนร่างกายลอยเคว้งคว้

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 33 โลกที่พังทะลาย

    "ผมไม่เข้าใจเลยครับคุณอา ท่าทีของนวลในตอนนั้น..."นวล มองซ้ายมองขวา เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ไม่ควรใช้เสียง นวลจึงรากเอกออกมา ยังบริเวณข้างนอกวอร์ด จาก สถานที่ ที่ห้ามรบกวนผู้ป่วยและ บุคลากรของโรงพยาบาลเอกมองหน้าอาด้วยความสับสน ทั้งที่เขาชื่อเอก แต่ทำไมทุกคนถึงเรียกเขาว่า 'นนท์' นนท์เป็นใคร แล้วเอกคือนนท์ นนท์คือเอกจริงหรือ? ความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ"ภาพความทรงจำเมื่อ 28 ปีก่อนย้อนกลับมาฉายซ้ำในหัวนวล"วันนั้น เอก หรือ นนท์ ในวัยเด็กกำลังจะไปเยี่ยมน้องสาวคนใหม่ที่เพิ่งคลอดได้ไม่กี่เดือนพร้อมกับพ่อ ขณะที่พ่อกับอาขอตัวไปทำธุระ เอกจึงต้องอยู่กับนวลที่โรงพยาบาลนวลพาน้องสาวตัวน้อยมาฉีดวัคซีน เอกเลยตามมาด้วย แต่แล้วพ่อของเอกก็ขอตัวไปทำธุระอีก ปล่อยให้เอกอยู่กับนวลและน้องสาวตัวน้อยลำพังขณะที่นวลกำลังติดต่อชำระเงินค่าบริการโรงพยาบาล ก็มีหญิงสาวเสียสติคนหนึ่งเดินมาอุ้มน้องสาวตัวน้อยไป เธอคิดว่าเด็กคนนั้นคือลูกของตัวเองที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน เอกเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งตามไปทันทีแต่ในระหว่างที่กำลังวิ่งตามออกไปนั้นเอง รถคันหนึ่งก็เฉี่ยวเข้าที่ร่างของเอ

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 32 ในที่สุด...ก็เจอแล้ว

    ฝนตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดที่อบอุ่นของเอก เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาที่ยังคงหลับใหลอย่างมีความสุข รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนของเขาฝนเดินไปที่ระเบียงและมองออกไปยังวิวทะเลที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เธอรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในความฝัน ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุข ความรัก และความอบอุ่นเข้ามาแทนที่ความเหงาที่เคยมีในใจมาตลอด ฝนยืนมองวิวอยู่นาน ก่อนที่วงแขนแข็งแรงของเอกจะเข้ามากอดเธอจากด้านหลัง พร้อมกับจุมพิตที่ท้ายทอยแผ่วเบา"ฝนไม่หนีไปจากพี่จริงๆ ด้วย..." เอกพึมพำด้วยเสียงแหบพร่าในยามเช้า ฝนจึงหันไปมองเขาแล้วซบหน้าลงกับแผงอกที่เปลือยเปล่าของเขาอย่างออดอ้อน"จะให้ฝนหนีไปจากความโรแมนติกของพี่เอกได้ยังไงคะ" เธอกระซิบตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส เอกหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ก่อนจะกอดเธอไว้แน่นขึ้น"พี่รักฝนนะครับ""ฝนก็รักพี่เอกค่ะ...รักหมดหัวใจเลย"เอกก้มลงจูบฝนอย่างดูดดื่มอีกครั้ง เป็นการเริ่มต้นที่แสนโรแมนติกของทั้งคู่"พี่เอกคะ... กลับจากที่นี่ เราเข้าไปหาแม่ของฝนดีไหมคะ"เอกที่กำลังกอดเธออยู่จากด้านหลังคลายอ้อมกอดเล็กน้อย ก่อนจะหันมาสบตาเธออย่าง

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status