Home / โรแมนติก / กลรักปีนเกลียว / ตอนที่ 36 ความรักที่แบ่งบาน(ตอนจบ)

Share

ตอนที่ 36 ความรักที่แบ่งบาน(ตอนจบ)

last update Last Updated: 2025-11-21 14:16:28

บรรยากาศยามเช้าตรู่ ณ กระท่อมน้อยริมบึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แสงแดดสีทองสาดส่องกระทบผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ ดอกบัวสีชมพูและขาวพากันชูช่อบานรับแสงอรุณราวกับกำลังยิ้มทักทาย สายลมพัดเอื่อยๆ พากลิ่นหอมของดอกไม้ป่าลอยมาตามลม ผีเสื้อหลากสีโบยบินไปมาอย่างร่าเริง เถาไม้เลื้อยที่เคยดูโรยรากลับเขียวชอุ่มและมีดอกไม้เล็กๆ แซมอยู่ประปราย เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังแว่วมาจากป่า บรรยากาศโดยรอบอบอวลไปด้วยความสุขและความหวัง ราวกับธรรมชาติกำลังเยียวยาบาดแผลที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้

บนเฉลียงไม้เล็กๆ ของกระท่อมกลางบึง ฝน นั่งอยู่คนเดียวในชุดสีขาวเรียบง่าย ใบหน้าของเธอดูสงบและผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สายตาของเธอมองไปยังผืนน้ำนิ่งๆ ที่สะท้อนเงาของท้องฟ้าสีคราม เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รับเอาความสดชื่นจากธรรมชาติเข้าสู่ปอดอย่างเต็มที่

ในวินาทีนั้นเอง อ้อมแขนแกร่งก็โอบเข้าที่เอวของเธอจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา พร้อมกับกลิ่นหอมสะอาดของเสื้อเชิ้ตสีขาวที่คุ้นเคย เอก ยืนอยู่ด้านหลังของเธอด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่ดูสมบูรณ์แบบ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรักที่ยากจะปิดบัง ทั้งคู่ทอดสายตามองยาวไปยังผืนน้ำเบื้องหน้าพร้อมกัน ราวกับกำลังมองเห็นอนาคตร่วมกัน

เอกค่อยๆ คลายอ้อมกอดแล้วทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าเธอ หัวใจของฝนเต้นรัวราวกับรอคอยบางอย่าง แต่ในมือของเอกกลับเป็นกล่องกำมะหยี่สีดำที่ไม่ได้บรรจุแหวนเพชรอย่างที่เธอคิดไว้ เขาเปิดมันออก เผยให้เห็น รองเท้าส้นสูงสีครีม ที่คุ้นตา...รองเท้าที่พ่อเธอซื้อให้เป็นของขวัญ!

เอกเอื้อมมือไปจับเท้าเล็กๆ ของเธออย่างทะนุถนอมแล้วบรรจงสวมรองเท้าให้ทั้งสองข้าง น้ำตาของฝนหยดลงอย่างไม่รู้ตัว รองเท้าคู่นี้...รองเท้าที่พ่อของเธอซื้อให้เป็นของขวัญและหายไปจนเธอคิดว่าไม่มีวันได้เจออีก เธอไม่เคยคิดเลยว่ามันจะกลับมาอยู่กับเธออีกครั้งด้วยมือของชายที่เธอรักหมดหัวใจ

"นี่...มันรองเท้าของฝน...ทำไม...ทำไมพี่ถึงมีมันคะ?" เสียงของเธอสั่นเครือไปด้วยความตื้นตัน

เอกเงยหน้าขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนที่สุด "ข้างนึงมันตกอยู่ตรงริมเขื่อนในวันนั้น พี่เห็นแล้วจำได้ทันที...รู้เลยว่ามันเหลือแค่ข้างเดียวเพราะคู่ของมันอีกข้างอยู่กับพี่ไง...ส่วนข้างนี้ก็อยู่กับพี่มาตลอด...จำไม่ได้เหรอ วันนั้นคงจะเมามาก"

ฝนทำหน้างุนงง พยายามนึกย้อนไปในความทรงจำ "ฝนจำได้ว่าใส่ไปงานแต่งพี่ฟ้า...แต่นึกไม่ออกว่ามันหายไปตอนไหน"

เอกหัวเราะเบาๆ ก่อนจะสบตาเธออย่างลึกซึ้ง "ก็วันนั้นฝนถอดมันออกขว้างใส่พี่...แล้วก็วิ่งหนีพี่ไง"

ใบหน้าของฝนแดงก่ำ เธอเริ่มนึกออกถึงเรื่องราวในวันนั้น วันที่เธอเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนหื่นกามแอบดูผู้หญิงในห้องน้ำ ทั้งๆ ที่เป็นเธอเองที่เข้าห้องน้ำผิด ฝนก้มลงหอมแก้มของเอกอย่างแผ่วเบา

"ขอบคุณนะคะ...ขอบคุณพี่มากจริงๆ ...ตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ...แต่พี่กลับเก็บของสิ่งนี้ไว้...ทำไมพี่ไม่ทิ้งมันไปล่ะคะ?"

เอกจับมือของเธอไว้แน่น "จริงๆ แล้วตั้งแต่ก่อนหน้านั้น...พี่ก็เหมือนถูกบางอย่างดึงดูดเข้ามาหาฝนแล้ว...ขอโทษที่แอบหวั่นไหวกับสาวน้อยปากร้ายคนนั้นตั้งแต่แรกเจอ...พี่เก็บรองเท้าคู่นี้ไว้...ด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้ให้มันคืน...โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นสิ่งสำคัญของฝน"

เอกเงยหน้าสบตาเธออย่างอ่อนโยนอีกครั้ง "พี่ต้องขอบคุณรองเท้าคู่นี้...ที่ทำให้พี่ได้กลับมาเจอฝน...ได้มาพบกับครอบครัวที่พลัดพรากมานาน...ขอบคุณพ่อของฝนที่ทำให้พี่ได้มาเจอฝน...และได้มาเจอครอบครัว...จนวินาทีสุดท้ายก็เป็นคุณอาที่ให้ชีวิตกับพี่...เหมือนตั้งแต่ตอนเด็ก...ตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้ว...ท่านกลับมอบหัวใจอีกดวงไว้ให้พี่ดูแล...พี่สัญญาว่าพี่จะดูแลหัวใจดวงนี้ของพี่...ตราบเท่าที่พี่มีลมหายใจ"

"แล้วตอนนี้เรื่องของพี่กับลุงทิน...พี่จำได้หมดแล้วใช่ไหม?"

เอกพยักหน้าช้าๆ "ความทรงจำที่เริ่มกลับมาบ้างแล้ว...แต่ก็ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ที่พี่จำได้แน่ๆ คือก่อนหน้านี้...ก่อนที่พี่จะย้ายมาที่นี่ พี่เข้าใจมาตลอดว่าเราได้เจอกันสี่ครั้ง แต่มันไม่ใช่มันคือห้าครั้งถ้านับย้อนไปเมื่อยี่สิบแปดปีที่แล้ว...วันที่พี่เล่นกับน้องสาวตัวน้อย เธอใช้มือเล็กๆ แตะที่นิ้วชี้ของพี่ชายคนนี้...แววตาของเธอดูน่ารักไร้เดียงสา...มันเหมือนกับแววตาฝนในตอนนี้...พี่ไม่คิดเลย...ว่าครั้งแรกที่เจอกันมันไม่ใช่ที่ทะเลวันที่ฝนเมาจนหลับ...มันกลับเป็นเรื่องราวเมื่อนานมาแล้ว...ชีวิตเราได้เจอกันแล้วก็ได้กลับมาพบกันอีก...ในตอนนี้พี่รู้แล้วว่าตลอดระยะเวลาที่พี่ใช้ชีวิตอยู่มาถึงตอนนี้...ที่รอ...คือรอที่จะได้พบกับฝนนี่เอง"

ฝนซึ้งจนพูดไม่ออก เธอรวบตัวเข้าไปกอดเอกไว้แน่น "ขอบคุณนะคะ...ที่อยู่รอฝนมาจนถึงตอนนี้...ทั้งๆ ที่คนอายุเท่าพี่น่าจะแต่งงานไปแล้วแท้ๆ ...แต่ก็รอจนฝนโตขนาดนี้...ขอบคุณพี่จริงๆ ...ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตฝน...ฝนรักพี่เอกนะคะ"

ทั้งคู่โอบกอดกันท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติ...ในที่สุด หัวใจสองดวงที่เคยแตกสลายก็ได้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง

เอกเอื้อมไปจับมือเรียวเล็กของเธอมาจูบด้วยสัมผัสที่นุ่มนวล ราวกับจะถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดที่มีลงไปในนั้น เขาค่อยๆ ช้อนร่างบางของเธอขึ้นสู่อ้อมแขนแกร่งแล้วเดินเข้าไปในกระท่อม วางร่างหญิงสาวลงบนฟูกนุ่มๆ อย่างทะนุถนอม สายตาของทั้งคู่ประสานกันด้วยความรักที่ล้นปรี่ เอกโน้มตัวลงจุมพิตริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบาเนิ่นนาน...จูบที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรัก ความคิดถึง และความเข้าใจ เอกค่อยๆ ไซ้จูบลงไปตามซอกคอหอมกรุ่นอย่างอ่อนโยน มือของเขาลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเธอ ราวกับกำลังสำรวจทุกตารางนิ้วที่เขาหลงใหลและโหยหา ฝนเองก็ค่อยๆ โอบกอดตอบ ลูบไล้แผงอกแข็งแรงของเขาอย่างช้าๆ ... ลมหายใจของทั้งคู่ผสานกันเป็นหนึ่งเดียวท่ามกลางความเงียบสงบยามเช้าตรู่ มือของเขาที่สอดประสานกับมือของเธอแนบแน่น...เป็นหนึ่งเดียว...ท่ามกลางความรัักอันแสนหวานที่ไม่มีวันสิ้นสุด เป็นการยืนยันว่าหัวใจสองดวงนี้จะไม่มีวันพรากจากกันอีกต่อไป... ความรักของทั้งคู่เบ่งบานอย่างสมบูรณ์แบบในที่สุด...

การสานต่อความฝันของนพพล

หลายปีผ่านไปนับตั้งแต่การจากไปของนพพล เอกและฝนได้สานต่อความฝันที่พ่อเคยเริ่มต้นไว้ ทั้งคู่ร่วมมือกันเปลี่ยนพื้นที่รกร้างให้กลายเป็นสวนผลไม้นานาชนิดที่อุดมสมบูรณ์ ทุกเช้าแสงแดดสาดส่องลงกระทบกับผลไม้ที่ห้อยระย้าเต็มต้น ทั้งทุเรียน เงาะ ลำไย ละไม มะไฟ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ที่นพพลเคยพูดคุยกับเอกไว้

ในวันเปิดตัว "สวนผลไม้และโฮมสเตย์บุฟเฟต์" บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ผู้คนมากมายเดินทางมาสัมผัสกับธรรมชาติและชื่นชมความสวยงามของสวนที่สร้างขึ้นด้วยความรักและความตั้งใจ

เอกยืนอยู่ข้างๆ ฝน ทั้งคู่มองดูผู้คนที่มีความสุขกับการเก็บผลไม้สดๆ จากต้น และกำลังเพลิดเพลินกับการพักผ่อนในโฮมสเตย์ที่อบอุ่น

"ถ้าพ่ออยู่ตรงนี้ พ่อต้องดีใจมากแน่ๆ" ฝนพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม

"ใช่... พ่อตั้งใจอยากให้ชุมชนมีรายได้ มีงานทำ" เอกตอบกลับ "ตอนนี้ความฝันของพ่อเป็นจริงแล้ว"

สานต่อเจตนารมณ์

หลังจากการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จ เอกและฝนพาทีมงานไปนั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ที่นพพลเคยชอบมานั่งเป็นประจำ

"เรามีโปรเจกต์ใหม่ที่จะทำต่อ" เอกเปิดเผย "เราจะตั้งโรงงานแปรรูปผลไม้ขนาดเล็ก เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ส่งออก และจะพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านเกษตรกรรมให้กับชุมชนด้วย"

ทุกคนปรบมือด้วยความยินดี ในขณะที่ฝนยิ้มอย่างมีความสุข เธอมองไปยังป้ายที่ติดอยู่ที่หน้าทางเข้า "สวนเกษตรนพพล" ชื่อนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าความฝันและเจตนารมณ์ของพ่อยังคงอยู่และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

สายลมพัดเอื่อยๆ เอกและฝนยืนเคียงข้างกัน และทั้งคู่มองไปยังเส้นทางข้างหน้าที่ทอดยาวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม พวกเขาไม่ได้แค่สานต่อธุรกิจ แต่ยังสานต่อความฝัน ความรัก และความผูกพันของครอบครัวที่ไม่มีวันสิ้นสุดเจตนารมณ์ของนพพลได้ถูกส่งต่อและจะยังคงเติบโตต่อไปในใจของทุกคนในชุมชนแห่งนี้ตลอดไป...

จบบริบูรณ์

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 37 ตอนพิเศษ

    นพพลเริ่มสงสัยตอนไหน?เรื่องราวทั้งหมดต้องย้อนกลับไปในงานแต่งงานของฟ้า ลูกสาวคนกลางของนพพล ที่นั่นนพพลได้เจอกับเอกเป็นครั้งแรก และรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เมื่อได้พูดคุยก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดู เขาจึงแลกช่องทางการติดต่อกับเอกไว้เมื่อรู้ว่าเอกต้องย้ายมาทำงานที่สาขาต่างจังหวัดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน นพพลจึงชวนเอกให้มาเช่าบ้านใกล้ๆ ซึ่งในตอนนั้นเขายังไม่ได้มีความสงสัยใดๆจนกระทั่งวันหนึ่ง ท่อน้ำที่บ้านแตก เอกได้เข้ามาช่วยซ่อมจนเสื้อผ้าเปียก นพพลจึงให้ฝนนำเสื้อมาให้เอกเปลี่ยน ขณะที่เอกถอดเสื้อ นพพลได้เห็นปานรูปใบหม่อนใต้ราวนมของเอก ซึ่งทำให้เขาตกใจและเริ่มสงสัยในตัวเอกอย่างมากหลังจากนั้น ในวันที่ฝนหมดสติและเอกโทรศัพท์ให้นพพลไปหาที่บ้าน ขณะที่เอกกำลังอุ้มฝนไปวางบนที่นอน นพพลได้แอบเข้าไปในห้องน้ำและเก็บเส้นผมรวมถึงแปรงสีฟันของเอกมา เพื่อนำไปตรวจ DNAนพพลจัดการเรื่องทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว เพราะเขาไม่อยากให้ประทินต้องผิดหวังหากผลตรวจออกมาไม่ใช่พ่อลูกกัน เขาอยากจะแน่ใจก่อนถึงจะบอกทุกคน เขาพยายามหาโอกาสให้ประทินได้พบกับเอกที่เขื่อน และตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ประทินฟัง แต่โชคร้ายที่นพพลกลับพลัด

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 36 ความรักที่แบ่งบาน(ตอนจบ)

    บรรยากาศยามเช้าตรู่ ณ กระท่อมน้อยริมบึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แสงแดดสีทองสาดส่องกระทบผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ ดอกบัวสีชมพูและขาวพากันชูช่อบานรับแสงอรุณราวกับกำลังยิ้มทักทาย สายลมพัดเอื่อยๆ พากลิ่นหอมของดอกไม้ป่าลอยมาตามลม ผีเสื้อหลากสีโบยบินไปมาอย่างร่าเริง เถาไม้เลื้อยที่เคยดูโรยรากลับเขียวชอุ่มและมีดอกไม้เล็กๆ แซมอยู่ประปราย เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังแว่วมาจากป่า บรรยากาศโดยรอบอบอวลไปด้วยความสุขและความหวัง ราวกับธรรมชาติกำลังเยียวยาบาดแผลที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้บนเฉลียงไม้เล็กๆ ของกระท่อมกลางบึง ฝน นั่งอยู่คนเดียวในชุดสีขาวเรียบง่าย ใบหน้าของเธอดูสงบและผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สายตาของเธอมองไปยังผืนน้ำนิ่งๆ ที่สะท้อนเงาของท้องฟ้าสีคราม เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รับเอาความสดชื่นจากธรรมชาติเข้าสู่ปอดอย่างเต็มที่ในวินาทีนั้นเอง อ้อมแขนแกร่งก็โอบเข้าที่เอวของเธอจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา พร้อมกับกลิ่นหอมสะอาดของเสื้อเชิ้ตสีขาวที่คุ้นเคย เอก ยืนอยู่ด้านหลังของเธอด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่ดูสมบูรณ์แบบ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรักที่ยากจะปิดบัง ทั้งคู่ทอดสายตามองยาวไปยังผืนน้ำเบื้องหน้าพ

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 35 ความจริงที่เปิดเผย

    เปลือกตาสีไข่ค่อยๆ ขยับ ก่อนที่นิ้วกลางจะกระตุกขึ้นอย่างแผ่วเบา พลอยใสที่นั่งอยู่ข้างเตียงรู้ทันทีว่าเพื่อนของเธอกำลังจะฟื้น ฝนค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นพลอยใสนั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้องด้วยความสงสัยและความงุนงง ในใจเธอยังคงตั้งคำถาม "ฉันยังมีชีวิตอยู่เหรอ? ฉันยังไม่ตายอีกเหรอ?" ภาพสุดท้ายที่จำได้ก่อนหมดสติคือภาพของเอกกับแม่ที่อยู่ข้างๆฝนหันไปถามพลอยใส "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วแกมาได้ยังไง?"พลอยใสไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับพูดขึ้นเสียงสั่นเครือ "ฝน แกเป็นอะไร ทำไมแกไม่บอกฉัน! ทำไมถึงคิดแบบนี้ได้ยังไง แกรู้ไหมว่าถ้าแกเป็นอะไรไป จะมีคนอีกตั้งหลายคนที่เสียใจ...ทำไมถึงคิดสั้นแบบนี้!" พลอยใสโผเข้ากอดเพื่อนรักที่กำลังอ่อนเพลียจนพูดอะไรไม่ออก มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างเงียบๆทันใดนั้น ฟ้าเปิดประตูเข้ามา "ฝน! เป็นยังไงบ้าง? พี่ได้ข่าวก็รีบมาเลย ทำไมทำแบบนี้ มีอะไรทำไมไม่บอกพี่!" ฟ้าโผเข้ากอดน้องสาวแล้วร้องไห้ ฝนร้องไห้ตามอีกครั้ง กอดพี่สาวด้วยความเสียใจกับเรื่องราวที่ตัวเองต้องเผชิญ เธอได้แต่ร้องไห้โดยไม่พูดอะไร พลอยใสทำได้เพียงลูบหลังปลอบใจ ก่อนจะหันไปมองฟ้าด้วยความไม่เข้า

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 34 อำลาเพื่อมาเจอกัน

    ฝนกอดรองเท้าข้างน้อยของพ่อไว้แน่น ความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวด ด้วยความสิ้นหวัง รู้ตัวอีกที เธอก็ไปยืนอยู่ริมตลิ่งของเขื่อนชลประทาน สายตาเหม่อมองไปยังผืนน้ำกว้างที่นิ่งสงบ ราวกับกำลังรอคอยที่จะกลืนกินความเจ็บปวดทั้งหมดของเธอลงไป"พ่อ...หนูจะตามพ่อไป..." เธอพึมพำ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน ความทรงจำที่เคยมีร่วมกับพ่อฉายชัดขึ้นในหัว ภาพที่พ่อเคยยิ้มให้เธอ เคยโอบกอดเธออย่างอบอุ่น และภาพที่พ่อบอกว่าเขาจะไม่มีวันทิ้งเธอไปไหนแต่ตอนนี้...พ่อไม่อยู่แล้ว...และคนที่เธอรักก็กำลังทำให้เธอเจ็บปวดที่สุดฝนค่อย ๆ ยื่นมือออกไป ปล่อยรองเท้าข้างน้อยของพ่อให้ร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำช้า ๆ ราวกับกำลังปล่อยความหวังสุดท้ายในชีวิตให้จมหายไปกับสายน้ำนั้น"ลาก่อน...ทุกอย่าง..."ในวินาทีนั้นเอง...เธอก็ตัดสินใจที่จะไม่ทนต่อความเจ็บปวดอีกต่อไป ร่างของเธอค่อย ๆ ก้าวเดินลงไปในน้ำอย่างเชื่องช้า น้ำที่เย็นเยียบไม่สามารถหยุดยั้งความรู้สึกที่ร้อนรุ่มในหัวใจได้ เธอเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผืนน้ำค่อย ๆ กลืนร่างของเธอไปจนมิดและในตอนนั้นเอง...ทุกอย่างก็ดับลง...เธอรู้สึกเหมือนร่างกายลอยเคว้งคว้

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 33 โลกที่พังทะลาย

    "ผมไม่เข้าใจเลยครับคุณอา ท่าทีของนวลในตอนนั้น..."นวล มองซ้ายมองขวา เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ไม่ควรใช้เสียง นวลจึงรากเอกออกมา ยังบริเวณข้างนอกวอร์ด จาก สถานที่ ที่ห้ามรบกวนผู้ป่วยและ บุคลากรของโรงพยาบาลเอกมองหน้าอาด้วยความสับสน ทั้งที่เขาชื่อเอก แต่ทำไมทุกคนถึงเรียกเขาว่า 'นนท์' นนท์เป็นใคร แล้วเอกคือนนท์ นนท์คือเอกจริงหรือ? ความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ"ภาพความทรงจำเมื่อ 28 ปีก่อนย้อนกลับมาฉายซ้ำในหัวนวล"วันนั้น เอก หรือ นนท์ ในวัยเด็กกำลังจะไปเยี่ยมน้องสาวคนใหม่ที่เพิ่งคลอดได้ไม่กี่เดือนพร้อมกับพ่อ ขณะที่พ่อกับอาขอตัวไปทำธุระ เอกจึงต้องอยู่กับนวลที่โรงพยาบาลนวลพาน้องสาวตัวน้อยมาฉีดวัคซีน เอกเลยตามมาด้วย แต่แล้วพ่อของเอกก็ขอตัวไปทำธุระอีก ปล่อยให้เอกอยู่กับนวลและน้องสาวตัวน้อยลำพังขณะที่นวลกำลังติดต่อชำระเงินค่าบริการโรงพยาบาล ก็มีหญิงสาวเสียสติคนหนึ่งเดินมาอุ้มน้องสาวตัวน้อยไป เธอคิดว่าเด็กคนนั้นคือลูกของตัวเองที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน เอกเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งตามไปทันทีแต่ในระหว่างที่กำลังวิ่งตามออกไปนั้นเอง รถคันหนึ่งก็เฉี่ยวเข้าที่ร่างของเอ

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 32 ในที่สุด...ก็เจอแล้ว

    ฝนตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดที่อบอุ่นของเอก เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาที่ยังคงหลับใหลอย่างมีความสุข รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนของเขาฝนเดินไปที่ระเบียงและมองออกไปยังวิวทะเลที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เธอรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในความฝัน ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุข ความรัก และความอบอุ่นเข้ามาแทนที่ความเหงาที่เคยมีในใจมาตลอด ฝนยืนมองวิวอยู่นาน ก่อนที่วงแขนแข็งแรงของเอกจะเข้ามากอดเธอจากด้านหลัง พร้อมกับจุมพิตที่ท้ายทอยแผ่วเบา"ฝนไม่หนีไปจากพี่จริงๆ ด้วย..." เอกพึมพำด้วยเสียงแหบพร่าในยามเช้า ฝนจึงหันไปมองเขาแล้วซบหน้าลงกับแผงอกที่เปลือยเปล่าของเขาอย่างออดอ้อน"จะให้ฝนหนีไปจากความโรแมนติกของพี่เอกได้ยังไงคะ" เธอกระซิบตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส เอกหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ก่อนจะกอดเธอไว้แน่นขึ้น"พี่รักฝนนะครับ""ฝนก็รักพี่เอกค่ะ...รักหมดหัวใจเลย"เอกก้มลงจูบฝนอย่างดูดดื่มอีกครั้ง เป็นการเริ่มต้นที่แสนโรแมนติกของทั้งคู่"พี่เอกคะ... กลับจากที่นี่ เราเข้าไปหาแม่ของฝนดีไหมคะ"เอกที่กำลังกอดเธออยู่จากด้านหลังคลายอ้อมกอดเล็กน้อย ก่อนจะหันมาสบตาเธออย่าง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status