แชร์

กลที่ 3

ผู้เขียน: มัญนิตา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-25 19:01:52

เจอกระสุนเฉียดหูไป วายุรู้เลยว่าอยู่ต่อก็ไม่ได้อะไร เขาจึงถลึงตาตวาดบอกคนยิงใส่ว่า “ฝากไว้ก่อนเถอะ!” แล้วหมุนตัวเดินกลับมาขึ้นรถทันที ฝ่ายลูกน้องรีบพยุงกันเดินตาม แต่เดินยังไม่ถึงรถ เสียงเย็นชาก็ดังไล่หลังมา

“อย่าฝากไว้นานนะ เดี๋ยวจะขึ้นสนิม”

“...!”

คล้อยหลังพวกวายุจากไป ชญานินพลันได้สติ รีบสะบัดตัวหนีออกจากอ้อมกอดของคนหน้าเข้มที่แล่นออกไปให้แน่ใจว่าจะไม่ย้อนมาอีก เขาก้มมองเธอเล็กน้อย ก่อนคลายแขนออกให้

“ไม่อยากจะจับนักหรอก”

ชญานินแค่นยิ้มลูบแขนตัวเองป้อยๆ

ไม่อยากจับ?

แต่จับซะแขนเธอเป็นจ้ำเลยนะ!

ท่าทางของเธอทำให้พิชานันท์เข้ามาถามเสียงร้อนรน “เจ็บเหรอ!”

“นิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก”

พิชานันท์ยังคงกวาดตามองจนแน่ใจว่าเพื่อนไม่เป็นไรจริงๆ จึงหันไปพูดกับคนมาช่วยพวกตนเอาไว้ “ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ถ้าพ่อเลี้ยงไม่ได้ผ่านมาช่วยไว้ พวกเราคงแย่แน่ๆ เลย”

ชายหนุ่มพยักหน้าบอก “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”

“เกือบเหมือนกันค่ะ” เธอยิ้มแห้ง ก่อนจะหันมาแนะนำให้เพื่อนรู้ว่าเขาเป็นใคร “นินสงสัยแย่แล้วใช่ไหม นี่คือพ่อเลี้ยงเตชทัต เจ้าของไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดของไทยเลยนะ” ว่าแล้วก็หันไปเอ่ยกับพ่อเลี้ยงหนุ่ม “นี่เพื่อนของขิงเองค่ะ ชื่อชญานิน”

ชญานินยกมือไหว้เขาตามมารยาท ถือว่าขอบคุณที่เขามาช่วยคลี่คลายสถานการณ์เมื่อครู่ด้วย ไหว้เสร็จก็เมินหน้าหนีทันที

พ่อเลี้ยงหนุ่มยกมือรับไหว้คนทำเหมือนไม่อยากพูดกับเขาแล้วบอกกับพิชานันท์อย่างไม่สนใจเธอเช่นกัน “ไปขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวจะตามไปส่งที่ไร่”

“ไม่เป็นไรค่ะ” พิชานันท์รีบโบกมือบอก “เมื่อกี้ขิงบอกให้น้าชาติออกมาแล้ว เดี๋ยวแกมารับค่ะ”

“น่าจะมาแล้วนะ” เตชทัตบอกพลางชี้ไปยังรถที่กำลังแล่นมาทางด้านหลังพวกเธอ เขาจำรถของหัวหน้าคนงานไร่รุ่งรวินท์ได้ดี พอแน่ใจว่าคนที่มาเป็นใคร เขาจึงพยักหน้าให้พิชานันท์แล้วหมุนตัวเดินมาขึ้นรถ ขับออกมาจากตรงนั้น

“เฮ้อ! โชคดีที่พ่อเลี้ยงเตผ่านมาช่วยทันพอดี ไม่งั้นไอ้วายุมันหิ้วเราขึ้นรถไปด้วยแน่”

ชญานินเอ่ยแย้งอยู่ในใจ

ก็ช่วยทันแหละ แต่เขาไม่สนตัวประกันสักนิด ยิงเฉี่ยวหัวเธอไปเลยนะ!

พอชาติชายพาคนงานที่ไร่มาถึงก็ปรี่เข้ามาจับพิชานันท์หมุนดูว่าบาดเจ็บตรงไหนด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “คุณหนูไม่เป็นอะไรนะ! ไหนครับ คนที่มาดักรอมันอยู่ไหน! มันอยู่ที่ไหนครับคุณหนู!”

พิชานันท์ได้แต่ยิ้มปลอบ “น้าชาติใจเย็นก่อน ขิงกับนินไม่เป็นไร พวกมันไปกันหมดแล้ว”

“ดีแล้วครับ ดีแล้ว” ถึงจะบอกอย่างนั้น แต่ชาติชายยังคงมีสีหน้าไม่สู้ดี พยักพเยิดบอกพวกเธอ “ไปครับ มีอะไรไปคุยกันที่ไร่ เดี๋ยวพวกมันจะย้อนกลับมาอีก”

สองสาวมองตาอย่างรู้กันว่าในวันนี้วายุคงไม่ย้อนกลับมาแล้ว...

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น

พวกชาติชายพาพิชานันท์กับชญานินกลับมาถึงไร่รุ่งรวินท์อย่างปลอดภัย

ชญานินก้าวลงจากรถที่แล่นเข้ามาจอดลงหน้าบ้านสองชั้นสีฟ้าตัดขาว หญิงสาวมองรอบๆ อย่างพอใจ มันเป็นบ้านกลางไร่ชาที่ล้อมด้วยต้นไม้ดอกไม้ประดับอย่างสวยงาม เยื้องออกไปด้านข้างยังมีบ้านเล็กไว้รับรองแขกที่มาเยี่ยมเยือนด้วย เดิมทีเธอควรพักที่บ้านนั้น แต่พิชานันท์ให้มาพักด้วยกันบนบ้านใหญ่นี้

“เข้าบ้านกัน” พิชานันท์ควงแขนเรียวเดินขึ้นบ้าน โดยมีชาติชายตามหลังมาติดๆ

หัวหน้าคนงานรอให้สองสาวพักดื่มน้ำครู่หนึ่ง จึงเอ่ยถามเรื่องที่เกิดขึ้นโดยละเอียด พอรู้ว่าใครมาช่วยพวกเธอเอาไว้ และพวกวายุจากไปยังไง เขาก็หัวเราะออกมาอย่างสะใจ บอกคนอย่างวายุต้องเจอคนอย่างพ่อเลี้ยงเตชทัตนี่ละ จากนั้นเขาก็ให้สองสาวไปพัก ตัวเองออกมาจัดการเรื่องต่างๆ ในไร่ต่ออย่างหมดห่วง

เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องตามลำพัง ชญานินถึงนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้รายงานตัวกับมารดา เธอจึงรีบหยิบโทรศัพท์มากดต่อสายทันที รออยู่ครู่หนึ่ง คนปลายสายก็กดรับ

(“ถึงแล้วหรือลูก ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมจ๊ะ”)

หญิงสาวนิ่งไปนิด เมื่อนึกถึงเรื่องที่เจอมา แต่สุดท้ายก็เลือกโกหกให้แม่สบายใจ “ไม่มีค่ะ นินถึงบ้านขิงหอมแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดี ฝากบอกคุณพ่อกับพี่วินด้วยนะคะ”

(“จ้า เที่ยวให้สนุกนะลูก แต่อย่าซนนักละ ไม่ต้องห่วงทางนี้ แม่จะจัดการให้เอง”)

“ขอบคุณค่ะแม่ นินบอกแค่นี้ก่อน เดี๋ยวจะจัดของแล้ว เอาไว้ค่อยคุยกันใหม่นะคะ”

(“โอเคจ้ะ ขอให้พระคุ้มครองลูกแม่นะจ๊ะ”)

“ขอให้พระคุ้มครองแม่เหมือนกันนะคะ” เธอส่งคำอวยพรคืนแล้วค่อยกดวางสาย คิดไปคิดมาก็ยกมือขึ้นพนมร่ายคาถาในใจด้วย

ขอให้พรจากแม่หนุนนำ อย่าให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกเลย สาธุ!

มูเสร็จก็เปิดกระเป๋าเดินทาง จัดข้าวของเครื่องใช้ให้เข้าที่เข้าทางของมัน แล้วค่อยเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดสบายๆ ลงไปเดินเล่นในสวนดอกไม้หน้าบ้านอย่างผ่อนคลาย แต่เดินได้ไม่นาน คุณหนูของบ้านก็ออกมาตามตัว

“เข้าบ้านกันเถอะ กินของว่างวางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างกัน”

“วันหลังก็ได้ ไม่ต้องรีบหรอก”

พิชานันท์ส่ายหน้า “ไม่ได้ๆ ต้องรีบไป เดี๋ยวพี่วินเปลี่ยนใจ ตามมาเอานินกลับไปก่อน”

“นี่แน่ะ! จะพูดเป็นลางทำไมเนี่ย” ชญานินตีแขนคนพูดเป็นลางไม่ดีเบาๆ อีกฝ่ายกลับเถียงตาใส่

“ก็พี่วินน่ะ เอาแน่เอานอนได้ที่ไหน วันดีคืนดีพี่วินอาจจะบุกมารับนินก็ได้”

“มาก็มา ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน”

“อื้อ!”

แล้วสองสาวก็เกี่ยวแขนกันเดินเข้าบ้าน ไม่สนใจอีกว่าเมวินจะบินตามมารับชญานินไหม ปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาแล้วกัน

“แกทำบ้าอะไรลงไป รู้ตัวหรือเปล่า วายุ!” วงศกรตะโกนใส่หน้าลูกชายคนเดียวทันทีที่อีกฝ่ายเดินเข้ามาในบ้าน เขาเพิ่งทราบเรื่องที่มันไปดักฉุดลูกสาวสินธรจากคนสนิทเมื่อกี้นี้เอง

แทนที่จะสำนึก วายุกลับบอกพ่อด้วยสีหน้าเจ็บใจ “ผมแค่อยากช่วย มันเกือบจะสำเร็จอยู่แล้ว แต่ไอ้พ่อเลี้ยงนั่นดันเข้ามาแส่ก่อน”

“พ่อเลี้ยง?”

“ก็ไอ้เตนั่นไง!”

วงศกรนิ่วหน้า “มันเข้ามาขวางแกงั้นเหรอ”

“ใช่! ผมเกือบจะได้ตัวนังสองคนนั้นมาแล้วเชียว”

“พ่อบอกแกแล้วใช่ไหม จะทำอะไรให้มาบอกก่อน อย่าวู่วามเด็ดขาด ทีนี้เราจะทำอะไรก็ยากแล้ว ต่อไปพวกมันคงระวังตัวมากขึ้น”

เบื้องหน้าที่หลายคนรู้ วงศกรคือเสี่ยเจ้าของรีสอร์ตหรูในจังหวัดนี้

ส่วนเบื้องหลัง เขาคือเจ้าพ่อธุรกิจค้าไม้เถื่อนและยาเสพติด!

ที่ดินติดภูเขาท้ายไร่รุ่งรวินท์นั่น วงศกรต้องการเอามาบุกเบิกใช้เป็นเส้นทางในการลำเลียงขนไม้และยาเสพติดข้ามชายแดน วันนี้วายุแล่นไปก่อเรื่องโต้งๆ อย่างนั้น การซื้อขายที่กับพวกมันคงยากขึ้นไปอีกแน่

วายุนึกตามแล้วหน้าเสียขึ้นมาทันที “ผมขอโทษ”

“เฮ้อ! จะไปไหนก็ไปเถอะ”

สุดท้ายเสี่ยวงศกรก็ปล่อยไปเหมือนเคย เพราะวายุเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก อยากได้อะไรพ่ออย่างเขาก็หาให้ตลอด เอาแต่ใจจนเคยตัว จะแก้ไขตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว

“เอายังไงต่อครับนาย” สุธีที่ยังยืนอยู่ไม่ไกลถามขึ้น หลังจากวายุเดินออกไปแล้ว

“ปล่อยเรื่องที่ดินท้ายไร่รุ่งรวินท์ไว้ เอาเรื่องส่งของให้ได้ก่อน”

“ไม่ต้องห่วงครับ ถึงยังไม่ได้ที่ดินตรงนั้นมา แต่เส้นทางที่วางไว้สามารถขนของได้สบาย ไม่มีใครรู้แน่”

วงศกรพยักหน้า ก่อนสั่งกำชับคนสนิทไปจัดการให้เรียบร้อย อย่าปล่อยให้พวกไร่เศรษฐกรมันระแคะระคายเด็ดขาด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 6

    เมื่อกลับมาถึงไร่ก็พอดีกับสินธร พ่อของพิชานันท์กลับจากทำงานในไร่ แม้เรื่องดักฉุดจะผ่านมาสองสามวันแล้ว แต่สินธรยังอดห่วงไม่ได้จริงๆ จึงเรียกสองสาวไปถามไถ่“ไปเที่ยวกันมาสนุกไหมลูก ไม่มีใครมาวุ่นวายด้วยอีกนะ”“ไม่มีเลยค่ะ” พิชานันท์ส่ายหน้าบอกทันที “พวกมันไม่ทำเรื่องเดิมๆ หรอก น่าจะคิดได้ ว่าถ้ามีอะไรขึ้นกับพวกเรา ตัวเองจะถูกสงสัยเป็นคนแรก”“ไม่มีเรื่องอะไรก็ดีแล้ว อีกไม่กี่วันพ่อต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ ไม่รู้พวกมันจะฉวยโอกาสมาเล่นงานเราตอนนั้นไหม ถ้าไม่ใช่งานสำคัญจริงๆ พ่อคงเลื่อนออกไปแล้ว” พ่อเลี้ยงวัยกลางคนพูดอย่างกังวล แต่จะไม่ไปก็ไม่ได้ ไม่ง่ายเลยที่จะนัดเจรจากับคู่ค้าคนนี้ ถ้าเจรจาตกลงร่วมงานกันได้ ไร่รุ่งรวินท์จะได้ทั้งกำไรและช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น เขาเลยเลื่อนนัดออกไปไม่ได้จริงๆพิชานันท์ไม่อยากทำให้บิดาเป็นห่วง รีบบอกด้วยสีหน้าขึงขังเลยทีเดียว “พ่อไม่ต้องห่วง ขิงรับรองว่าช่วงที่พ่อไม่อยู่ ขิงจะไม่ดื้อไม่ซนเลย”“ให้มันจริงเถอะ เราน่ะตัวดี!” สินธรว่าอย่างรู้นิสัยกันดี “พ่อไปตั้งหลายวัน ไม่มีคนคุมแบบนี้ จะก่อเรื่องอะไรบ้างก็ไม่รู้”“โธ่! ขิงไม่ก่อเรื่องหรอกน่า”“สัญญากับพ่อก่อนว

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 5

    เวลาดึกสงัดคืนนั้นณ เพิงเล็กๆ บนต้นไม้ในป่าท้ายไร่เศรษฐกรเตชทัตพาพวกตนุภัทรมาถึงไม่นาน เสียงผิวปากก็ดังมาจากข้างล่างสองครั้ง นี่เป็นสัญญานที่คนของเขาต้องส่งให้ก่อนจะขึ้นมา พอเขาผิวปากยาวๆ ตอบกลับไป ชายสี่คนก็ไต่บันไดขึ้นมาทันที ที่เพิงนี้ไม่มีไฟสว่าง อาศัยแสงจันทร์พอมองเห็นกันรางๆ คนมาใหม่หน้าตาดูธรรมดามาก แต่ฝีมือไม่ธรรมดาเลย รับหน้าที่จับตาดูเสี่ยวงศกรมาสักพักแล้วเมื่อมากันครบแล้ว เตชทัตจึงถามเข้าเรื่องอย่างไม่เสียเวลา “มีข่าวอะไรหรือเปล่า ช่วงนี้พวกมันเคลื่อนไหวบ้างไหม”หนึ่งในสี่คนนั้นตอบทันที “ไม่มีเลยครับ เหมือนทางนั้นจะระวังตัวมากขึ้น อาจเริ่มสงสัยอะไร หรือไม่ก็กำลังจะทำงานใหญ่”“อย่าประมาท จับตาดูไว้ให้ดี มันนิ่งมานานแล้ว คงจะเคลื่อนไหวเร็วๆ นี้แน่นอน” เขาสั่งกำชับ พอนึกถึงเรื่องในวันนี้จึงเสริมไปอีก “บางทีมันอาจจะยุ่งเรื่องที่ดินท้ายไร่รุ่งรวินท์ บ่ายนี้เกิดเรื่องไม่ค่อยดีกับคนของไร่นั้นด้วย”คนบางคนได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับคนของไร่รุ่งรวินท์ก็มุ่นคิ้วถามทันที“เกิดเรื่องไม่ดีกับคนของไร่รุ่งรวินท์? เรื่องอะไรวะ”เตชทัตปรายตามองน้องชายแวบหนึ่ง ก่อนบอก “ขิงหอมเกือบโดนวายุฉุ

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 4

    ‘ไร่เศรษฐกร’ เป็นไร่ชาเก่าแก่ของจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่บนเขาที่มีความสูงกว่า 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล พื้นที่ในไร่ส่วนใหญ่ปลูกต้นชาเป็นทิวแถว อีกส่วนหนึ่งยังมีสภาพเป็นป่าเขาเหมือนเดิม ด้วยมีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ชาของไร่นี้จึงมีคุณภาพดีมาก เป็นที่นิยมของผู้ชื่นชอบชาทั่วโลก ภายใต้แบรนด์ ‘ชาเศรษฐกร’ หรือที่คนเก่าแก่ละแวกนี้เรียกกันว่า ‘ชาเศรษฐี’ นั่นละปัจจุบันไร่เศรษฐกรคือผู้ผลิตชาที่ดีที่สุดของเมืองไทย แต่ละปีทำยอดสั่งซื้อทั้งในและนอกประเทศได้หลายสิบล้านบาท โดยการบริหารจัดการของพ่อเลี้ยงเตชทัต เศรษฐกร ชายหนุ่มหน้าเข้มวัย 32 ปีหลังก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแทนบิดาอย่างเต็มตัว เตชทัตได้บุกเบิกการทำไร่ชาแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมา ขยายพื้นที่นำชาสายพันธุ์ดีๆ มาลงปลูก แปรรูปส่งออกไปตีตลาดชาฝรั่ง สร้างชื่อเสียงและเม็ดเงินมาสู่ไร่แบบทวีคูณ เมื่อขยายตลาดชาประสบความสำเร็จแล้ว เขายังหันมาสนใจเรื่องการทำไร่หมุนเวียน แบ่งที่ดินส่วนหนึ่งทำเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชผัก ผลไม้ และไม้ดอกเมืองหนาวหมุนเวียนไปตามฤดูกาล แบ่งเอาผลผลิตส่วนหนึ่งมาใช้บริโภคภายในไร่เอง อีกส่วนส่งออกไปขาย สร้างรายได้อีกทาง ทุกวันน

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 3

    เจอกระสุนเฉียดหูไป วายุรู้เลยว่าอยู่ต่อก็ไม่ได้อะไร เขาจึงถลึงตาตวาดบอกคนยิงใส่ว่า “ฝากไว้ก่อนเถอะ!” แล้วหมุนตัวเดินกลับมาขึ้นรถทันที ฝ่ายลูกน้องรีบพยุงกันเดินตาม แต่เดินยังไม่ถึงรถ เสียงเย็นชาก็ดังไล่หลังมา“อย่าฝากไว้นานนะ เดี๋ยวจะขึ้นสนิม”“...!”คล้อยหลังพวกวายุจากไป ชญานินพลันได้สติ รีบสะบัดตัวหนีออกจากอ้อมกอดของคนหน้าเข้มที่แล่นออกไปให้แน่ใจว่าจะไม่ย้อนมาอีก เขาก้มมองเธอเล็กน้อย ก่อนคลายแขนออกให้“ไม่อยากจะจับนักหรอก”ชญานินแค่นยิ้มลูบแขนตัวเองป้อยๆไม่อยากจับ?แต่จับซะแขนเธอเป็นจ้ำเลยนะ!ท่าทางของเธอทำให้พิชานันท์เข้ามาถามเสียงร้อนรน “เจ็บเหรอ!”“นิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก”พิชานันท์ยังคงกวาดตามองจนแน่ใจว่าเพื่อนไม่เป็นไรจริงๆ จึงหันไปพูดกับคนมาช่วยพวกตนเอาไว้ “ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ถ้าพ่อเลี้ยงไม่ได้ผ่านมาช่วยไว้ พวกเราคงแย่แน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพยักหน้าบอก “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”“เกือบเหมือนกันค่ะ” เธอยิ้มแห้ง ก่อนจะหันมาแนะนำให้เพื่อนรู้ว่าเขาเป็นใคร “นินสงสัยแย่แล้วใช่ไหม นี่คือพ่อเลี้ยงเตชทัต เจ้าของไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดของไทยเลยนะ” ว่าแล้วก็หันไปเอ่ยกับพ่อเลี้ยงหนุ่ม “นี่เพื่อนของขิงเองค่

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 2

    จากตรงนี้ไปหาไร่รุ่งรวินท์ห่างกันไม่ไกล ถ้าขอความช่วยเหลือจากคนที่ไร่ น่าจะทันอยู่ พิชานันท์จำได้ว่าพ่อไปติดต่องานในเมือง แต่ยังมีหัวหน้าคนงานอยู่ติดไร่เสมอ เธอจึงกดมือถือโทรหาอีกฝ่ายทันที พอเขารับสายก็รัวบอกเลย “น้าชาติรีบออกมาหาขิงด่วนเลยค่ะ ตอนนี้ขิงอยู่ก่อนถึงไร่เราไม่มาก วายุมันพาคนมาดักรออยู่ ไม่รู้คิดจะทำอะไร รีบออกมาเลยค่ะ!”(“อะไรนะครับ! คุณหนูไม่ต้องห่วง ผมจะรีบพาคนไปเดี๋ยวนี้!!”)“เร็วๆ นะคะ” บอกแค่นั้นแล้วพิชานันท์ก็วางสายทันที หันมาพูดกับชญานินด้วยความไม่แน่ใจ “อีกเดี๋ยวคนที่ไร่จะมารับ เราต้องยื้อเวลาไว้ จะไหวไหมเนี่ย”ไหวหรือเปล่าไม่รู้ แต่พอวายุเดินนำลูกน้องมาหา และส่งนักเลงคนนั้นมาบอกให้พวกเธอลงจากรถได้แล้ว พวกเธอก็ทำได้สูดหายใจเข้าลึกๆ สบตาให้กำลังใจกันแวบหนึ่ง ก่อนจะลงจากรถแบบนิ่งๆการออกมาเผชิญหน้ากับผู้ชายตัวใหญ่สี่ห้าคนกลางถนนโล่งๆ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องดี แต่อยู่ในรถก็ไม่ดีเช่นกัน ถ้าพวกมันเข้ามาทุบหรือขับรถชน แล้วลากไปทั้งรถทั้งคนก็น่ากลัวเหมือนกัน ฉะนั้นลงมาคุยถ่วงเวลารอคนมาช่วยน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นยังวิ่งหนีได้...จะหนีรอดหรือเปล่าก็อีก

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 1

    “หมายความว่าไง ลาพักร้อนอย่างนั้นเหรอ!” เสียงลูกชายคนโตของบ้านกฤตพัฒน์ดังลั่น เมื่อได้ฟังน้องสาวคนเดียวบอกว่าต้องการลาไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่เชียงราย“พี่วินจะตะโกนเสียงดังทำไมคะ” ชญานินมองค้อนขวับใส่พี่ชายด้วยใบหน้าแสนงอน แค่เธอจะลาไปเที่ยวนี่มันเรื่องใหญ่ขนาดต้องตะโกนลั่นบ้านเลยหรือไงเมวินขึงตาบอก “ไม่ให้ลา!”“นินจะลา”“ชญานิน”“เอาน่า วินจะอะไรกับน้องนักหนา ปล่อยน้องไปบ้าง” คุณชลวิภาที่นั่งมองอยู่เอ่ยขัดด้วยสีหน้าอ่อนใจ ทำให้คุณอิทธิราชพยักหน้าว่าตามทันที“นั่นน่ะสิ แกก็ปล่อยๆ น้องไปบ้างเถอะ”เมวินทำตาโตมองพ่อ “แต่น้องจะไปเที่ยวถึงเชียงรายเลยนะครับ ไปคนเดียวด้วย จะไม่ให้เป็นห่วงได้ไง น้องเป็นผู้หญิงนะครับพ่อ!”“พ่อก็ห่วงน่า”“แม่ก็ห่วง แต่เราต้องให้น้องได้ลองใช้ชีวิตด้วยตัวเองบ้าง จะไปกำหนดชีวิตน้องไม่ได้นะลูก น้องมีชีวิตของน้อง วินเข้าใจที่แม่พูดหรือเปล่า” คุณชลวิภาไม่รู้ว่าทำไมลูกชายถึงหวงน้องหนักแบบนี้ หวงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย จนตอนนี้ชญานินโตเป็นสาวแล้วก็ยังหวง น้องสาวเลยโสดสนิท ทั้งที่หน้าตาฐานะก็ออกจะเพรียบพร้อม“...” พอไม่มีใครเข้าข้าง เมวินก็ได้แต่ทำหน้าบูด ไม่พูดไม่จาชญานิน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status