Masuk@ บ้านซายน์
หลังบังคับคนตัวสูงด้วยการอยากกลับบ้านพักผ่อน ทั้งที่เขาจะตามเอาเรื่องพวกคนร้าย ยังไม่ทันเห็นหน้าในภาพวงจรปิดสักเสี้ยวเดียว คนตัวเล็กรีบชิ่งขึ้นรถโบกไล่ยามผู้หวังดี "ถามจริงๆเหอะ แทนที่จะทำแผลก่อน นี่เธอดันกลัวหน้าไม่สวยเนี้ยนะ" เขาก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ตอนมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่คนบาดเจ็บถามหานั่นคือกระเป๋าครีมบำรุงในรถตัวเอง เขาเร่งจัดการใช้วินลูกน้องคนสนิทเตรียมสถานที่ส่วนตัว ให้เธอมีหน้าที่แค่ขึ้นบ้านไปอาบน้ำ รอทานข้าวมื้อค่ำพร้อมอุปกรณ์ทำแผลเท่านั้น "ตากแดดทั้งวันหน้าไม่ดำก็ให้รู้ไปสิ" ร่างอรชรในชุดนักศึกษาก้าวเท้าขึ้นบรรไดอ้อยอิ่ง ชะโงกหาสัตว์สี่เท้า แทบเป็นเพื่อนคนนึงยามเหงา เวลาเจ้าของบ้านไม่อยู่ "เธอจะเอาอะไร" เขาไม่ใช่พระเอกดั่งในละคร ถึงเดาความประสงค์นางเอกทุกบทบาทได้ดี "ไลล่าลูกสาวฉันล่ะ" "ทีงี้เรียกลูกสาวได้เต็มปาก" "คนถามดีๆนะซายน์!" "ลูกน้องฉันพามันไปเดินเล่นอยู่ หัดใจเย็นหน่อยดิ" พอเข้าห้องพื้นที่ส่วนตัวได้ ร่างอรชรล้มนอนแผ่หราบนเตียงกว้าง สูดกลิ่นน้ำหอมชายติดผ้าปู ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าไร้กังวล ชนิดดั่งสารเสพติดคุ้นเคย พลางหยิบโทรศัพท์มือถือกดต่อสายหาบุพการี เพื่ออยากโอ้อวดผลงานของวันนี้ ระหว่างน้ำเสียงหวานคุยโอ้อวด คงไม่รู้ว่าตัวเองโชว์เนินสาวใส่เพนตี้สีนู้ดอยู่ คนตัวสูงรีบปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตเผยกล้ามเนื้อแน่นส่วนบน เปิดเลื่อนประตูบานกระจกริมระเบียง หยิบบุหรี่จุดไฟแช็คพ่นควันฟุ้ง รับสารนิโคตินกึ่งเสพติดกลิ่นเช่นกัน ท่ามกลางท้องฟ้าไร้แสงดาว เปล่งประกายเพียงดวงจันทร์ ทุกสรรพสิ่งรวมกระทั่งสายลมยามค่ำคืนไม่ช่วยให้ใจเย็นลง เขารีบล้วงกระเป๋ากางเกงสแลคดำ กดโทรศัพท์พิมพ์ข้อความบอกใครบางคนช่วงคนเจ็บคุยเจื้อยแจ้ว "เมื่อไหร่ไลล่าจะขึ้นมา" เพียงไม่นานนัก มารีนชะโงกหน้าผ่านประตูบานเลื่อน แววตากลมสะท้อนประกายรับแสงจันทร์ ยังสวมใส่ชุดเดิมจากรั้วมหาวิทยาลัยแม้สภาพอิดโรยเต็มที "รีบให้มาขัดพ่อมันทำไม" บุหรี่ที่มือเริ่มไร้ประโยชน์เสียดื้อๆ เขาบดขยี้ดับไฟตรงราวระเบียง ท่ามกลางใบหน้านิ่งเรียบ "พ่อมันจะกระโดดระเบียงลงไปตายเหรอ" ลูกกระต่ายแกล้งตีเนียนราวใสซื่อ ทว่าคนฟังดันรู้นิสัยเธอดี "ป่าว...จะกระแทกแม่มันในอ่างให้ร้องครางต่างหากเล่า" "ปะปล่อย!" กลายเป็นน้ำเสียงหวานเอ่ยตะกุกตะกัก คนตัวสูงพุ่งคว้าร่างอรชรแนบอก ใช้ท่าเบสิคเลียนแบบอุ้มเจ้าสาว ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้จุดประสงค์ดี "เสียใจด้วย อยากช้าเอง" เขาให้เวลาเธอแล้วต่างหาก เจ้าตัวอยากลีลานอนยั่วยวนบนเตียงก่อนทำไม สองเท้าใหญ่มุ่งเข้าห้องน้ำส่วนตัว วางร่างบอบลองในมือยืนสัมผัสพื้นกระเบื้อง "ฉันยังเจ็บ...อื้อ" ฝ่ามือหนาประคองแก้มเนียนข้างซ้าย ปิดริมฝีปากจูบดูดดื่ม เขาไม่ได้ลืมว่าหญิงสาวมีบาดแผล เพราะบัดนี้รสคาวคละคลุ้งผสมน้ำลายแล้ว ซายน์กำลังหลอกล่อเหยื่อตัวน้อย เคลิบเคลิ้มจนเรือนร่างอ่อนระทวย เปลื้องอาภรณ์ออกได้รวดเร็ว ตามด้วยเสื้อผ้าทั้งตัวกำยำ สองคนยืนโอบแนบแน่นพ่นพิษสวาท "เลือดเธอมันหวานตลอดเลยนะ" เขาค่อยๆถอนจูบออกช้าๆ แนบแก้มสากประกบหน้าเนียน กระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพล่า ความกระสันปลุกกำเริบหนัก "โรคจิต!""เฉพาะเธอไง" คนบอกโอบอุ้มเรือนร่างบางอีกครั้ง ก้าวขาจุ่มในอ่างแช่ตัว ใช้ช่วงเวลาเธอคุยโทรศัพท์ ผสมสบู่ตีฟองกับน้ำอุ่นรอ ร่างกำยำนั่งอยู่ข้างล่าง วางคนตัวเล็กทับสะโพกชาย แค่สัมผัสหวืวหวาชนท่อนเอ็นอุ่น ทำผิวขาวละเอียดแดงระเรื่อ วางมือประคองตรงแผงอกกว้าง แกล้งเบื่อนหน้าหนีสนใจทางอื่น "นายเคยเห็นน้ำตาจระเข้ไหมล่ะ" ใครจะเชื่อกันลงเล่า ชายคาสโนว่าผู้ช่ำชองเพศสตรี จู่ๆระบุความสำคัญแก่อีกฝ่าย ดวงตากลมเหลือบสนใจ มือบางลูบไล้สร้อยเงินประดับเกียร์ของพวกนักศึกษาวิศวะ เธอแทบไม่เคยเขาถอดเลยสักครั้งเดียว "ไม่อ่ะ เพราะฉันคือก็อตซิลล่าพ่นแต่ไฟบ้าบอ!" "หึ..หึ..นายมันบ้าจริงๆ" ใช่เธอเคยบอกชายหนุ่มไปแบบนี้ แต่คืนนั้นฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าสิง แล้วคาดว่าซายน์ก็คงไม่ต่างกัน ไม่นึกว่าเขายังจดจำราวเรื่องตลกเสียอีก เสียงหัวเราะกลบเกลื่อนอาการเขินอาย พานดวงตาสองคู่สบมองกัน "แต่เธอคงไม่รู้ไปข้อนึง" "........" ใบหน้าสากดันจริงจังเฉย ยิ่งกระตุ้นนิสัยอยากรู้ นิ่งสงบเฝ้ารอบคำตอบ ลืมกระทั่งกิจกรรมต่อจากนี้ "ฉันชอบพ่นน้ำKวยมากกว่า"สวบ~ "อื้อ...มะไม่บอก...อ๊ะ...ก่อน...อ๊ะ" ยิ่งกว่าตกใจในคำตอบอีก แก่นกายเกินไซส์มาตรฐานไทย กระแทกใส่ร่องสวาทเพียงพรวดเดียว โดยสะโพกมนโดนล็อคทำตามสั่งแทน"โรคจิตจริงๆคือการเห็นเหยื่อทรมาน" แม้ร่างบางอยู่ข้างบน ไม่มีสิทธิ์ควบคุมการเชื่อมต่อได้เลย ปากหยักกระตุกยิ้ม ยามเห็นใบหน้าสวยส่ายพลันวัน คงนึกกลัวสิ่งที่เขาพูดแกล้งไป สายไหลกระฉอกล้นตามแรงส่ง ได้อารมณ์ปรารถนาปรี่เปรม "อ๊ะ...อ๊า...ซะซายน์...จะจุก...อ๊ะ.." มีเพียงบ่ากว้างเท่านั้นช่วยระบายความเสียวสะท้าน จับยึดทรงตัวกันลื่นล้มทับ เต้าอวบกระเพื่อมน่าหมั่นเขี้ยว ปากหยักรีบครอบครองดูดมูมมาม จนเผลอปล่อยเสียงครางชื่ออีกฝ่ายล่องลอย ยินยอมแอ่นอกรับการกระทำตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! "อ่าส...โครตเสียวเลย" ร่องสวาทบีบรัดความเป็นชายนาบแน่น สยิวซ่านทุกแรงกระแทกเข้าออก ยิ่งอุณหภูมิเย็นจากน้ำในอ่าง ยิ่งกระตุ้นเลือดชายร้อนแล่นพล่าน บีบขย้ำเต้าเนื้อมันส์มือ รั้งลำคอระหงลงขบเม้มสร้างรอยเขี้ยวตราตรึงความเป็นเจ้าของ "สะเสียว..อ๊า...อื้อ...บะเบา..หน่อย.." "ครางมาสิรีน...ให้ลูกน้องฉันมันได้ยินด้วย" ฝ่ายกระทำยิ่งหึกเหิม ล้วงคลี่กลีบกุหลาบงามเน้นสวนกระแทกขึ้นใส่ รับรู้ถึงน้ำหล่อลื่นถูกผลิตไม่ขาดสาย เน้นปลุกปั่นอารมณ์สาว หวังตื่นเต้นจดจ่อทุกแรงเข้าออก แล้วดูเหมือนผลลัพธ์ดีเยี่ยม โพรงสวาทกระตุกตอดไม่แผ่วเบา สร้างความทรมานปนเสียวซ่านทั่วแก่นกาย รีบจับร่างอรชรพลิกตัวจับขอบอ่างแอ่นบั้นท้ายโก่งงอนสวบ~ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! "อื้อ...ซะซายน์..อื้อ..มัน.ลึกเกิน...อื้อ..." ทันทีสอดใส่ได้สำเร็จ สะโพกแกร่งสอบเข้าลึกจนสุดความยาว จุกเสียวทั่วท้องน้อย เม้มกัดปากล่างแน่นกลัวเสียงทะลุผ่านประตูห้อง คนด้านหลังเร่งจังหวะถี่รัว เหมือนรู้ว่าน้ำเมือกใสผลิตระลอกใหญ่ "รอบนี้แมร่งเสียวฉิบเลย...อ่าส" ไม่ใช่แค่เธอซ่านสยิว เขาเองก็ด้วยพร้อมระเบิดในทุกนาที รวบผมสลวยรั้งกระตุก ให้ปากบางเผย่อร้องคราง ใบหน้าสากขบสันกรามขึ้นปูด เน้นลงแรงส่วนล่างกระหน่ำตอกใส่ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! "อร๊ายย/อ่าส์" ห้วงจังหวะสุดท้าย แก่นกายเกร็งกระตุกปล่อยน้ำขาวขุ่นทะลักล้น เห็นไหลเยิ้มปนฟองสบู่ ร่างอรชรสั่นหอบเหนื่อย ทิ้งลำตัวนั่งลงในอ่างพักหายใจ "จะอาบน้ำให้เอาไหม" คนริเริ่มเกมส์สวาทกดปั๊มสบู่ถูสองมือ แฝงรอยยิ้มร้ายราวราชสีห์ยังกินเหยื่อไม่อิ่ม หวังใช้วิธีหลอกล่อให้สำเร็จ ........................................."ไม่!!!ได้โปรดนะรีนนะ ข้าวจะไม่ยุ่งอะไรกับรีนอีกเลย""ใช่ๆพวกเราจะไม่ยุ่งอะไรกับรีนอีกเลย ปล่อยเราไปเถอะนะ" สองเสียงร้องประสาน หวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่นระริก บอดี้การ์ดชุดดำเข้าควบคุมล็อคตัวแน่นติดพนักเก้าอี้ เมื่อหญิงสาวตรงหน้ารับอาวุธมีดจากชายหนุ่มร่างสง่า นำมาถือควงเล่นเป็นภาพชวนหวาดเสียว ทุกคนพอทราบดีว่าเธอคือทายาทมาเฟียรุ่นใหญ่ แต่ใครจะนึกว่าภาพลักษณ์สาวนักดีไซเนอร์ ดันดึงพันธุกรรมถ่ายทอดเสมือนทั้งหมด"ฉันปล่อยไปอยู่แล้วไม่ต้องห่วงนะแต่...." มารีนลากเสียงยาว ชวนคนฟังหัวใจแทบหยุดเต้น ลุ้นความคิดของเธอปานเสี่ยงทาย อยากได้หนทางที่ดีกระทั่งลืมผลการกระทำตัวเอง"แต่อะไรรีนว่ามาเลย" ข้าวฟ่างฉีกยิ้มกว้าง ในตอนมีหนทางเอาชีวิตรอดออกไป พยักหน้าให้เพื่อนสาวประเภทสองอดทนรอ"นั่นสิว่ามาเลย เราทำได้ทุกอย่าง" ปริ่มช่วยพูดตามกัน พยามหว่านล้อมขอเมตตา แล้วเป็นจังหวะเดียวกับชายชุดดำช่วยกันยกโต๊ะ นำมาวางไว้ตรงหน้าแก่ผู้ร้ายทั้งสอง ซายน์กระตุกยิ้มมุมปาก มองดูลูกกระต่ายตัวน้อยเลียนแบบสัญชาตญาณของราชสีห์ ทิ้งกายตรงที่นั่งมุมมืดเผยแสงไฟปลายมวนบุหรี่สลัว"อยากรู้ใช่ไหมล่ะว่าแต่อะไร" น้ำเสียงหวานบอกราบ
ผับSK"พวกไอคินไปไหน" ซายน์เอ่ยถามทันที เมื่อมาถึงโซนวีไอพีกลับไม่มีใครนอกจากฮาเกนเท่านั้น ค่ำคืนนี้ใบหน้าเขาดูจริงจัง ราวโกรธแค้นยามพี่สาวถูกรังแก ยิ่งต้องเก็บกลั้นอารมณ์ไม่อยากแพร่งพรายให้บุพการีรู้ บนโต๊ะมีเพียงขวดเหล้าคู่น้ำแข็งเปล่าเท่านั้น บ่งบอกสถานะการณ์ตึงเครียดมากกว่าผ่อนคลาย ร่างสูงรีบนั่งฝั่งตรงข้าม เทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กระดกเพรียว ปลดกระดุมเสื้อต่ำราวกล้ามท้อง"อุ้มสำเร็จแล้วใช่ไหม" คำถามราบเรียบฉายแวงอำมหิตผ่านน้ำเสียงขุ่น ซายน์รีบหนีแอบออกจากบ้าน หลังหญิงสาวรับประทานยาแก้อักเสบ พ่วงฤทธิ์นอนหลับสนิท มีบอดี้การ์ดร่ายล้อมสถานที่พักอาศัย"อยู่หลังบ่อน ไม่ให้ผมปิดปากมันซะเลยล่ะ" ตอนลูกน้องส่งผู้ที่ทำร้ายพี่สาวเข้าโกดังลับ คนอย่างเขาย่อมจัดบทลงโทษสถานแรกให้ผู้เยือน ฮาเกนกระตุกยิ้มเยือกเย็น พลางนึกถึงสาวประเภทสองกรีดร้องปางตาย โดนทรมานมัดลำตัวติดชะงักเก้าอี้เก่าๆ ส่วนนางแบบสาวหวาดกลัวจนสลบแน่นิ่ง "ตายเร็วจะไปสนุกอะไร เหล้าแมร่งรสชาติดีนะ" ระหว่างรุ่นพี่กระดกแก้วดื่ม เขาไม่มีทางรู้ตัวเลยว่าได้เปิดเผยร่องรอยพิษสวาทตรงบ่ากว้าง อีกฝ่ายต่างเก็บรายละเอียดดีเยี่ยม รวมถึงสัดส
@ บ้านซายน์ หลังบังคับคนตัวสูงด้วยการอยากกลับบ้านพักผ่อน ทั้งที่เขาจะตามเอาเรื่องพวกคนร้าย ยังไม่ทันเห็นหน้าในภาพวงจรปิดสักเสี้ยวเดียว คนตัวเล็กรีบชิ่งขึ้นรถโบกไล่ยามผู้หวังดี"ถามจริงๆเหอะ แทนที่จะทำแผลก่อน นี่เธอดันกลัวหน้าไม่สวยเนี้ยนะ" เขาก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ตอนมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่คนบาดเจ็บถามหานั่นคือกระเป๋าครีมบำรุงในรถตัวเอง เขาเร่งจัดการใช้วินลูกน้องคนสนิทเตรียมสถานที่ส่วนตัว ให้เธอมีหน้าที่แค่ขึ้นบ้านไปอาบน้ำ รอทานข้าวมื้อค่ำพร้อมอุปกรณ์ทำแผลเท่านั้น"ตากแดดทั้งวันหน้าไม่ดำก็ให้รู้ไปสิ" ร่างอรชรในชุดนักศึกษาก้าวเท้าขึ้นบรรไดอ้อยอิ่ง ชะโงกหาสัตว์สี่เท้า แทบเป็นเพื่อนคนนึงยามเหงา เวลาเจ้าของบ้านไม่อยู่"เธอจะเอาอะไร" เขาไม่ใช่พระเอกดั่งในละคร ถึงเดาความประสงค์นางเอกทุกบทบาทได้ดี"ไลล่าลูกสาวฉันล่ะ" "ทีงี้เรียกลูกสาวได้เต็มปาก""คนถามดีๆนะซายน์!""ลูกน้องฉันพามันไปเดินเล่นอยู่ หัดใจเย็นหน่อยดิ" พอเข้าห้องพื้นที่ส่วนตัวได้ ร่างอรชรล้มนอนแผ่หราบนเตียงกว้าง สูดกลิ่นน้ำหอมชายติดผ้าปู ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าไร้กังวล ชนิดดั่งสารเสพติดคุ้นเคย พลางหยิบโทรศัพท์มือถือกดต่อสายหาบุ
"เจอสักทีนะอีรีน!" ข้าวฟ่างรีบออกจากมุมมืด ใช้เพื่อนสาวประเภทสองวิ่งดักหน้าไม่ให้มีหนทางหลบหนี"ก็ฉันไง ตาฟาดเห็นเป็นตานีเหรอ" ปากจัดแจ่มแจ้งไม่ได้เกรงกลัวอะไร มารีนกดดีดกุญแจรถหรูหวังว่าปลายแหลมพอช่วยเป็นอาวุธ เผื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายกระทันหัน "ปากดีอย่างนี้ โดนกรีดหน่อยเป็นไง" ปริ่มเพื่อนสนิทข้าวฟ่าง ชูมีดคัตเตอร์สะท้อนความคมกริบ ผ่านแสงไฟสปอร์ตไลท์ คาดว่าแค่ผ่านสัมผัสคงบาดลึกถึงชั้นเนื้อเยื่อผิว"อย่าหมาหมู่ดิ...อีควาย!" นอกจากกุญแจรถในมือ เธอยังมองหาสิ่งของรอบตัว รวบรวมสติของการฝึกป้องกันตัวชั้นสูง เพ่งเล็งคู่กรณีไม่ยอมความให้เสียศักดิ์ศรีหญิงมาดมั่น"เอามันเลยปริ่ม มันกล้าด่าปริ่มก่อน" ข้าวฟ่างเริ่มส่งเสียงยัวยุ กลางมือต้อนให้มารีนก้าวถอยหลัง"อยากโง่โดนอีข้าวเน่าหรอกใช้ก็เข้ามาอีโง่!""มึงเละแน่อีรีน!" ปริ่มวิ่งเข้ากระชากผมยาวสลวย แรงมหาศาลทำเธอเชิดตามกักเก็บอาการเจ็บ แต่สองมือบางรั้งข้อมือถือมีดไว้ พลางจับปลายกุญแจกระแทกใส่ลูกกระเดือกอีกฝ่าย"อึก!!!" ถึงแรงไม่มากไปกว่าปริ่ม แต่ก็กระทบลึกหลอดลม เขารีบกุมลำคอคล้ายหายใจติดขัด ปล่อยมีคัตเตอร์ล่วงหล่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้"อีรีน!กล้
"แหละแล้วก็ถึงแก่เวลาที่เหมาะสม กรรมการจะเริ่มประกาศคะแนนนับบัดนี้" พิธีกรบนเวทีพูดใส่ไมค์โครโฟน ดึงความเงียบเพื่อให้ทุกคนรับฟัง เฝ้ารอใจจดใจจ่อ ระหว่างนั้นดวงตากลมเหลือบเห็น พื้นที่ติดขอบเวทีมีข้าวฟ่างส่งดอกไม้ให้นายแบบ ประมาณประกาศสถานะตัวเอง ท่ามกลางแฟนคลับคนอื่นเบะปากราวหมั่นไส้"รางวัลรองชนะเลิศอับดับที่สองของความคิดสร้างสรรค์คือ...คณะสื่อสารมวลชนครับ" แล้วเสียงตบมือก็ดังลั่น ตามด้วยเหล่านักศึกษากรีดร้อง แม้แต่ผู้เข้าแข่งขันคณะอื่นยังตบมือยินดีชื่นชม"ยัยรีนใจฉันเต้นแรงมากเลย เราจะได้รางวัลไหมอะแก" เยลลี่บีบมือเพื่อนสาวแน่นตึง ค่อนข้างลุ้นคะแนนกันหนักหน่วง เสียงลมใจแทบหยุดตามจังหวะพิธีกรป่าวประกาศ"ได้ไม่ได้ก็เอาสักอย่างแหละ ตอนนี้ใครจะกล้าขึ้นไปรับรางวัลก่อน" ถึงเธอจะเป็นตัวเกร็งในคณะ หากได้รับรางวัลต้องขึ้นบนเวที ใครจะกล้ายืนข้างกรรมการใบหน้าราวเฒ่าหัวงูผ่านชุดเครื่องแบบจัดเต็ม ยิ่งใหญ่กว่าอธิบดีมหาวิทยาลัย"กลัวคนเยอะน่ะสิไม่ว่า" ซายน์พูดเชิงท้าทาย นัยน์ตาคมสะท้อนเปลวไฟ ยามกระทบแสงอ่อนช่วงเย็น ยิ่งผู้คนเยอะยิ่งเบียดเสียดร่างอรชร ใช้ลิ้นสากดุนกระพุ้งแก้มข่มขู่"นายท้าผิดคนแล
"นั่นสิจะพลาดทำไม" ไม่ใช่เสียงของบุคคลแถวนี้ ทว่าเป็นของผู้มาเยือนตึกคณะคนใหม่ นั่นคือมารีนเอง มือบางยังกำเสื้อช็อปสีเลือดหมูแน่น ช่วงอากาศร้อนๆไม่แพ้ข้างในใจระอุกว่า พอชายหนุ่มบอกว่าต้องรีบใช้ เธอก็วานช่างแต่งกายบวกกับเพื่อนสาวดูแลงานต่อ หากอาจารย์คณะเขาเอ็ดดุ จะได้ไม่เสียเวลาอธิบาย แม้รู้ทั้งรู้มหาวิทยาลัยเกือบทั้งหมดจะเกรงใจตระกูลมาเฟียก็ตาม"อ้าว...น้องรีนเอง แล้วนั่นเสื้อช็อปใครว่ะ" คิริวที่เล็งเธอดั่งเป้าหมาย ส่งขนมจีบตั้งแต่สมัยปีหนึ่ง รีบจ้ำอ้าวมาระยะใกล้ ก้มหมายสำรวจป้ายชื่อบุคคลต้องสงสัย"ฝากไปให้เพื่อนด้วย เสียเวลาชะมัด" แต่เธอดันโยนให้อีกฝ่ายรับเสียก่อนทักทาย ชายหนุ่มถือวิสาสะจับเสื้ออ่านชื่อเอา หน้าสวยหงุดหงิดเห็นได้ชัด หมุนตัวเตรียมเดินกลับไปลานเวทีหมับ!!!"รีบกลับไปหาไอเวรเหรอ มานี่สิช่วยดูป้ายหน่อยไหนว่าเก่งออกแบบ" ซายน์ไม่รีรอคว้าข้อมือเล็ก พร้อมดึงเสื้อชอปในมือเพื่อน นัยน์ตาคมกึ่งบังคับสั่งเธอนั่งลงเก้าอี้ตรงกองป้ายมหึมา แล้วนำผ้าบางๆไว้ตกแต่งประดับซุ้ม ปิดชายกระโปรงตัวสั้นร่นขึ้นดูขัดใจ ส่วนเนยถอยหลังเล็กน้อย ส่งสายตาขอความเห็นให้ต้ากับคิริวช่วยชี้แจง ผู้หญิง







