16.05น.
หลังเลิกเรียน มิลลิก็เดินมาหายีนส์ที่ลานจอดรถที่เดิม ระหว่างเดินก็คอยมองซ้ายขวาอยู่ตลอด แต่เธอก็ยังพลาดมองไม่เห็นพี่ชายคนโต ที่อยู่ ๆ ก็เดินมากอดคอเธอจากด้านหลัง “ไปไหนจ๊ะ น้องสาวคนสวยของพี่” “ไหนว่าไม่มาเรียนแล้วไง แล้วมาทำอะไรคะ” “ดูเหมือนเธอจะไม่ดีใจนะที่เจอพี่ แล้วอาการก็ดูแปลก ๆ”มิลลิพยายามเก็บสีหน้าเลิกลั่กของเธอไว้ พี่ชายคนนี้เป็นคนดูคนเก่งมาก เธอไม่เคยโกหกอะไรพี่คนนี้ได้เลย “ดีใจสิคะ แค่สงสัยว่าพี่มาทำอะไรต่างหาก” ฟรินท์ยังคงหรี่ตาจับผิดน้องสาวคนเดียว เขาหันมองลานจอดรถที่รถเริ่มบางตา ก่อนจะถามคำถามที่ทำเอาคนฟังใจกระตุกวูบ“ไม่เอารถมานิ แล้วเดินมาตรงนี้ทำไม” นั่นไง...ที่เธอบอกว่าพี่ชายคนนี้ฉลาด มันคือเรื่องจริง ตอนนี้ในหัวเธอคิดหาทางออกมั่วไปหมด ไม่รู้ว่าต้องโกหกไปแบบไหนพี่ถึงจะเชื่อ แต่ทว่าสวรรค์ก็เหมือนจะเข้าข้างเธอ เมื่อคาเทียร์เดินตรงมาทางนี้พอดี “สวัสดีค่ะ พี่ฟรินท์สุดหล่อ”เสียงหวานสดใสของคาเทียร์ ทำให้ฟรินท์หันมาสนใจ ผู้หญิงที่เป็นเหมือนน้องสาวเขาอีกคน “สวัสดีครับ คาเทียร์คนสวย” “แล้วรถกูจอดตรงนู้น กูไปเข้าห้องน้ำแปบเดียวเดินเลยมาอีกแล้วมึงอ่ะ”มิลลิแอบดีใจที่มีเพื่อนฉลาดขนาดนี้ นึกขอบคุณพ่อกับแม่ ที่เป็นเพื่อนรักกัน จนทำให้เธอกับคาเทียร์รู้ใจกันมากกว่าเป็นพี่น้องแท้ ๆ เสียอีก “กูเดินเพลินไปหน่อย งั้นมิลไปนะคะพี่ชาย” มือหนาของคนเป็นพี่ ยกขึ้นลูบหัวน้องสาวเบา ๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปเอารถที่จอดไว้อีกฝั่ง เมื่อมิลลิเห็นพี่ชายเดินพ้นห่างออกไปแล้ว ก็หันมาออดอ้อนเพื่อนรักทันที “ขอบใจมึงมาก กูเกือบตาย” “กูว่าแล้ว เพราะเจอพี่ฟรินท์เดินลงมาจากตึกพอดี เลยรีบเดินมาหามึง แล้วไหนพี่ยีนส์ล่ะ” หันหน้าไปมองรถสีดำที่จอดอยู่ตรงที่เดิมเป๊ะ ๆ ภายในรถยีนส์นั่งเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้น เขากลับคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ ยิ่งต่อไปถ้าอดีตเพื่อนรักเขารู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับน้องสาวของมัน คงยิ่งกว่าคำว่าสนุก ตอนนี้เขาเห็นคนตัวเล็กแยกกับเพื่อนสนิทของเธอ และรีบเดินตรงมาที่รถเขา“เมื่อกี้ใคร” “ใครคะ? อ๋อ…พี่ชายคนโตของมิลค่ะ” “ไหนว่าไปฝึกงาน” “คงจะเข้ามาหาอาจารย์ค่ะ นี่ดีนะคะมาไม่ทันตอนมิลเดินถึงรถพี่ ไม่งั้นมิลน่าจะได้กลับกับพี่ชายแทน” รถหรูขับออกจากมหาลัย เสียงเพลงที่เจ้าของรถเปิดก่อนหน้า ทำให้คนตัวเล็กดวงตาเริ่มปรือ วันนี้เรียนทั้งวัน ไม่มีพัก ตอนพักก็โดนคนหื่นจับกด ทำให้ตอนนี้อาการง่วงนอนเริ่มถามหา ยีนส์หันไปเห็นเธอเอนตัวนอนลง ก็ไม่ได้สนใจ เขาเร่งความเร็วมุ่งตรงไปยังคอนโดตัวเองทันที ดับเครื่องยนต์สนิทเมื่อถึงลานจอดรถ ร่างหนาก็ลงจากรถไปเปิดประตูอีกฝั่ง โอบอุ้มร่างเล็กแนบอก ก่อนจะพาเข้ามาในลิฟท์ กลิ่นตัวหอม ๆ ของเธอทำเขารู้สึกปั่นป่วนอีกแล้ว แต่เมื่อก้มมองใบหน้ายามหลับ ใบหน้าขาวใสจนเห็นเส้นเลือด เธอน่าจะไม่ได้แต่งหน้าเลย หรือถ้าแต่งก็น้อยมาก แต่ทว่ายังคงดูสวย น่ารัก เหมาะสมกับวัย ผู้หญิงอะไรแก้มใสมาก เมื่อคิดว่าเผลอมองนานไปหน่อย ยีนส์ก็สะบัดหัวไปมา ไล่ความคิดทุกอย่างออกไป เมื่อลิฟท์เปิดออก เขาก็รีบพาเธอเข้าไปในห้องนอนทันที เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้ แต่เธอก็ไม่ได้ตัวเบาขนาดที่ว่า จะอุ้มได้นานกว่านี้ เพราะเมื่อวางก็ทำเอาแขนแกร่งเขาเมื่อยไปเหมือนกัน 17.40 น. ร่างสูงยืนสูบบุุหรี่อยู่ที่ระเบียง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงแล้ว แต่มิลลิยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ยีนส์กดสั่งอาหารเย็นให้มาส่ง ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ฟุ้งไปทั่วบริเวณ ติ้ง. นิ้วเรียวกดเปิดหน้าจอโทรศัพท์เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือน แต่ทว่าชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ ทำเขาต้องคว่ำหน้าจอไปอีกครั้ง จูเน่ คือคนที่ส่งข้อความมาหาเขา เป็นแบบนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว หลังจากที่เลิกกัน นอกจากเดินสวนกันในมหาลัยบ้าง แต่ก็น้อยมาก นาน ๆ ครั้งเขาถึงจะเจอ แต่เรื่องการโทรหรือแชตนั้น เพิ่งมาช่วงนี้ที่เธอมักส่งข้อความแปลก ๆ มาหาเขา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจหรือจะเปิดอ่าน ความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้ผู้หญิงคนนี้มันหมดไปตั้งนานแล้ว หลงเหลือเพียงความเกลียดชัง ความเจ็บปวดที่เขาได้รับตอนนั้น ทำให้เขาเจ็บเจียนตายจริง ๆ ต่อให้เธอส่งมาบอกว่ายังรักเขาอยู่หรืออยากขอคืนดี เขาก็ไม่มีวันกลับไปหาผู้หญิงคนนี้แน่นอน สวบ!!! แขนเล็กโอบรอบลำตัวหนา มิลลิตื่นมาไม่เห็นใคร ก็คิดว่าเขาน่าจะมายืนอยู่ระเบียงตรงนี้ แล้วก็เป็นจริงอย่างเธอคิด“มิลหิวแล้วอ่ะ” “สั่งข้าวให้แล้ว”ควันบุหรี่พ่นออกมาอีกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเขาจะดับมันกับกระถางที่ตั้งเอาไว้ หันกลับมาพาเธอมายืนข้างหน้าเขาแทน มองดูบรรยากาศยามเย็น ที่จากมุมนี้มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจน “มิลนอนกับพี่นะ แต่พรุ่งนี้จะกลับบ้าน” “บ้านพ่อแม่?” “ใช่ค่ะ…ต้องกลับทุกวันเสาร์” “งั้นคืนนี้ ต้องชดเชยให้ฉันนะ” เสียงกระซิบแหบพร่า จงใจเป่าลมหายใจร้อนใส่ใบหูเธอจนขนกายลุกชัน “มิลกลัวว่าสักวันพี่จะเบื่อมิล” “….” “เรื่องของเรามันเริ่มเร็วไปหรือเปล่าคะ” “อะไรคือเร็ว” “ก็แบบว่ามิลยอมพี่ง่ายไปหรือเปล่า ต่อไปพี่จะเบื่อเอาได้ง่าย ๆ” เธอคิดแบบนั้นจริง ๆ ที่เราสองคนกำลังเป็นอยู่ อาจเป็นเพียงความลุ่มหลงชั่วคราว พอหมดความตื่นเต้นเรื่องนี้ เขาอาจจะไปหาผู้หญิงคนใหม่ ถึงตอนนั้นน่าจะเป็นเธอที่เจ็บอยู่ฝ่ายเดียว “คิดมาก”นิ้วเรียวยาวเคาะหน้าผากเธอเบา ๆ ก่อนจะจับใบหน้าเธอให้หันมารับจูบแสนหวาน กับบรรยากาศยามเย็น จูบที่หลอมละลายคนตัวเล็กให้อ่อนระทวยในอ้อมแขนของเขา ลิ้นร้อนเกี่ยวพันลิ้นเล็กกวาดต้อนความหวานในโพลงปากนุ่ม พาความเปียกชื้นไปทั่ว เมื่ออารมณ์กระสันเริ่มมากขึ้น คนตัวสูงก็อุ้มเธอเขาสู่อ้อมกอด พาเข้าไปห้องนอน แล้วบทรักเร่าร้อนก็เริ่มต้นขึ้นทันที 20.20 น. มิลลิกับยีนส์กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ หลังจากพายุสวาทจบลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะพอ แค่ตอนเย็น เพราะตอนนี้เธอกับเขายังอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำกันอยู่อีก “กินเสร็จแล้วไปอาบน้ำกันนะ” “มิลแสบจิ๋มแล้วอ่ะ”คนตัวสูงระบายยิ้มออกมาอย่างขบขัน ก่อนจะรีบปรับให้เป็นปกติ เมื่อรู้ตัวว่าเผลอยิ้มกว้างเกินไป “เพิ่งสามรอบเอง เธอไม่สู้แล้ว?” คำว่าสามรอบเองของเขา ทำให้เธอต้องถลึงตาใส่เขาทันที “ฉันใช้แรงยังไม่บ่น เธอนอนเฉย ๆ บ่น” “มิลไม่ได้นอนเฉย ๆ นะ มิลก็กระแทกสวนพี่ไปเหมือนกัน อีกอย่างของพี่มันก็ใหญ่จนมิลแสบ มิลเคยเห็นขนาดของพี่นี่ มันไม่ใช่ของคนไทยใช่ไหมคะ” “เคยเห็นจากไหน?”นัยน์ตาคมหรี่มองอย่างจับผิด “ในหนังผู้ใหญ่ไง”เมื่อเธอตอบ เขาก็ผ่อนลมหายใจได้ทันที สับสนตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าการที่เธอจะเห็นที่ไหน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขา “เปิดให้ดูหน่อย”มือหนายื่นรีโมทมาตรงหน้าเธอ ทำเอาคนตัวเล็กหัวคิ้วขมวดเข้าหากัน ไม่เข้าใจว่าให้เปิดอะไรให้เขาดู “หนังโป๊ที่เธอดู”เมื่อเขาเฉลย เธอถึงกับตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ “อะไรของพี่อ่ะ ทำไมต้องดู” “ก็ที่เธอว่าของฉันกับของพระเอกหนังโป๊เท่ากันไง ฉันอยากดู” สุดท้ายเธอก็ต้องกดเปิดหนังอย่างว่าที่เคยดู ให้เขาดูในขณะที่เรายังนั่งกินข้าวกันอยู่ ดูไปได้สักพัก เสียงทุ้มก็พึมพำออกมาเบา ๆ “ไม่เห็นเท่ากัน ของฉันใหญ่กว่าตั้งเยอะ”มิลลิหันขวับไปมองเขา นี่เขาไม่พอใจที่เธอเปรียบเทียบอันนั้นของเขากับพระเอกหนังเอวีเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบเขาจะมีมุมนี้ด้วย มันดู…น่ารักดี “ค่ะ มิลก็คิดว่าของพี่ใหญ่กว่า” “ทีหลังไม่ต้องไปดูนะ อยากดูมาดูของฉัน” “แล้วถ้าเกิดมิลเบื่อ…” “เบื่อ!! เบื่ออะไร”เสียงทุ้มพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ มิลลิที่เห็นแบบนั้นก็ชะงักปากตัวเองไว้ทันที “เบื่อว่าพี่ไม่อยู่กับมิลไง จะให้มิลดูที่ไหน”มิลลิรู้ว่าเขาเหมือนไม่พอใจที่เธอพูด เลยเข้ามาออดอ้อนเขาทันที ทำให้คนตัวสูงคลายหัวคิ้วลง เธอจะมาพูดว่าเบื่อไม่ได้ เพราะเขาต่างหากที่ต้องเป็นคนเบื่อและทิ้งเธอไปก่อน ไม่ใช่ให้เธอเป็นฝ่ายเบื่อเขาวันเสาร์ช่วงบ่าย ยีนส์มาส่งมิลลิที่คอนโด วันนี้เธอจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ ก่อนจะลงจากรถก็อิดออดกันอยู่พักใหญ่ ตอนนี้เธอยอมรับอย่างเต็มอกเลยว่าหลงผู้ชายคนนี้อย่างหนัก ระยะเวลาแค่ไม่กี่วันก็ทำให้เธอเป็นมากขนาดนี้ มันอยากจะหอม อยากจะกอดเขาอยู่ตลอดเวลา “มิลไม่อยากกลับเลยอ่ะ” “หึ งั้นก็ไม่ต้องกลับ” “ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่รอ วันนี้นัดกินข้าวพร้อมกันด้วย ถ้ามิลไม่กลับ พี่โซลต้องมาตามแน่ ๆ”เสียงหวานออดอ้อน ยังคงเกาะแขนแกร่งซบหัวเล็กตรงบ่า ก่อนจะตัดใจลงจากรถ ยืนโบกมือให้ยีนส์ออกรถไปก่อนเธอถึงจะเดินเข้าคอนโด “มึงนี่หนักนะ หลงพี่เขาขนาดนี้เลย” เดินมาขึ้นลิฟท์ก็เจอกับคาเทียร์ยืนรอลิฟท์เหมือนกัน ในมือถือของพะรุงพะรัง“มึงมาจากไหน” “กูหิวค่ะ อีฝนก็นอนยังไม่ตื่น ไม่รู้นอนหรือซ้อมตาย กูไปเรียกตั้งนาน” “ไม่กลับบ้านกันเหรอว่ะ” “ไม่ว่ะ อาทิตย์นี้เหนื่อย อยากพักผ่อน”มิลลิแอบอิจฉาเพื่อนสองคน ที่นึกจะทำอะไรก็ได้ มีพี่ชายเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หวงเท่าพี่ชายสองคนของเธอ “เมื่อไหร่มึงจะบอกพี่มึงล่ะ ว่ามีแฟนแล้ว” “เป็นมึงกล้าหรือเปล่า พี่กูเหมือนคนอื่นที่ไหนกัน” “ก็จริง หวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เสียอีก
หนึ่งเดือนผ่านไป “พวกมึงจำค่ายอาสาที่เราลงชื่อไปตอนเปิดเทอมได้ไหม”ปลายฝนหันมาถามเพื่อนสองคน ขณะกำลังนั่งเรียนกันอยู่ “ทำไมว่ะ” “ต้องไปอาทิตย์นี้แล้วนะ ศุกร์เสาร์อาทิตย์” คาเทียร์เป็นคนแรกที่ทำหน้าเบื่อหน่ายออกมา ถ้าไม่ติดว่าได้คะแนนกิจกรรม เธอเป็นคนไม่ชอบอะไรที่ลำบากแบบนี้เลย“กูอยากตาย” “คิดซะว่าเราไปเที่ยวกัน ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานแล้วนะ ตั้งแต่อีมิลติดผัว” “เบาหน่อยพวกมึง”มิลลิปรามเพื่อนเมื่อเริ่มพูดเสียงดัง จนอาจารย์หันหน้ามามอง “แล้วเราต้องมาขึ้นรถกันตั้งแต่ตีสี่นะ อยากจะบ้า”คราวนี้เป็นปลายฝนเองที่บ่น ก็เธอขึ้นชื่อเรื่องนอนตื่นสาย การตื่นเช้าจึงเป็นอะไรที่เธอเกลียดที่สุด “งั้นยกเลิกได้ไหม ค่อยไปกิจกรรมอื่น ได้ข่าวว่าที่นั่นลำบากมากนะมึง ไม่รู้จะมีสัญญาณโทรศัพท์หรือเปล่า” “ไม่ได้อีเทียร์ ลงชื่อไปแล้ว ทำคนอื่นเสียสิทธิ์ โดนหักคะแนนแน่” มิลลินั่งฟังเพื่อนสองคน เธอเองก็เริ่มคิดเหมือนคาเทียร์เหมือนกัน เพราะเธอติดยีนส์มาก หากไปค่ายก็คงไม่ได้เจอเขาในสามวันนั้น แบบนี้เธอคงคิดถึงเขาแย่เลย “นี่มึงก็ไม่อยากไปขึ้นมาเหมือนกันเหรอ” “ปะ เปล่า ไปก็ไป”ใครจะบอกว่าติดแฟน โดนเพื่อนด่าต
ขณะที่กำลังนั่งจูบกันอยู่ที่โซฟา อยู่ ๆ ยีนส์ก็ผละออกจากคนตัวเล็ก ทำทีเป็นนั่งท่าทางเคร่งเครียดจนมิลลิต้องเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัยในการกระทำดังกล่าว “พี่เป็นอะไรคะ หรือว่า…” “เปล่า” “หรือว่าเบื่อมิลแล้ว” จะไม่ให้เธอคิดได้อย่างไร กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มเหมือนทุกที แต่เขาก็หยุดกระทันหัน แถมยังนั่งหน้าเครียดอีก เหมือนกับว่าเขาไม่มีอารมณ์กับเธอแล้ว “ฉันขอถ่ายคลิปตอนเรากำลังเอากันได้หรือเปล่า” มิลลิตกใจกับคำพูดของคนตรงหน้า สีหน้าลำบากใจแสดงออกมาอย่างชัดเจน ไม่คิดว่านี่คือสิ่งที่เขาขอเธอ “ได้หรือเปล่า?”ยีนส์ถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นเธอเงียบไป “คะ คือพี่จะเอาไปทำอะไรคะ” “ฉันจะเก็บไว้ดู ไว้ช่วยตัวเอง เวลาเธอไม่ได้มานอนด้วย ไม่ใช่แค่เธอที่ติดฉันหรอก ฉันเองก็ติดเธอเหมือนกัน” คนตัวเล็กขยับตัวไปมาอย่างอึดอัด สับสนหนักมากกับสิ่งที่เขาพูดออกมา ไม่รู้ว่ามันแปลกไปหรือเปล่า เพราะเธอก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อน ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไง ยีนส์ที่เห็นสีหน้าลำบากใจของเธอ ก็พอจะมีความหวังว่าเธอกำลังสับสน ไม่ได้คิดปฏิเสธเขาเสียทีเดียว“ฉันสัญญาว่าจะดูแค่คนเดียว ฉันเองก็ไม่อยากให้ใครเห็นร่างกายเธอเหม
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง แข่งกับเสียงครางของมิลลิที่ทนทานต่อความเสียวซ่านครั้งนี้ไม่ไหว แท่งเนื้ออุ่นร้อนที่ครูดเข้าออกร่องรักของเธอจนได้ยินเสียงลามก ทำให้เธอยิ่งตัวสั่นเกร็ง เล็บจิกลงบนแผ่นหลังหนาอย่างแรงจนเลือดซิบ “อ๊าสส ตอดดี”เสียงทุ้มครางอย่างชอบใจร่องรักของเธอ ที่ตอดแน่นเข้ากับแก่นกายของเขาได้อย่างลงตัว ก่อนที่เขาจะเอามือไปบีบเค้นเต้าอวบเพื่อเพิ่มความเสียวซ่านให้เธอไปด้วย ใบหน้าหล่อก็ก้มลงไปซุกไซร้ซอกคอหอม ดูดเม้มจนขึ้นรอยแดงแทบทุกจุด ยิ่งตรงจุดกระสันหลังใบหู เขารู้ว่าเป็นจุดอ่อนไหวของเธอ ก็ปาดเลียวนตรงจุดนั้นย้ำ ๆ อยู่หลายครั้ง “อ๊าส อ่ะ อ่ะ อื้อ~” อารมณ์กระสันที่พุ่งสูงจนถึงขีดสุด ทำให้เอวสอบเพิ่มแรงตอกอัดอย่างป่าเถื่อน มันรุนแรงจนมิลลิรู้สึกทนไม่ไหว เป็นการร่วมรักที่เธอรู้สึกว่าเขาจะคลุ้มคลั่งมากกว่าปกติ ได้ยินเสียงคำรามเขาอยู่ตลอดเวลา เธอเองก็รู้สึกเสียวซ่านกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จนลืมเรื่องทุกเรื่องไปหมด หัวสมองว่างเปล่า คนตัวโตพลิกร่างเล็กให้อยู่ในท่าคลานเข่า จับสะโพกสวยขึ้น ก่อนจะสอดเอ็นร้อนเข้าไปใหม่ กระแทกกระทั้นเข้าออกรุนแรงอีกครั้ง
บรรยากาศตอนตีสี่ ที่ทางรุ่นพี่จัดค่ายอาสานัดให้มาขึ้นรถที่ลานเกียร์ของคณะวิศวะ ทำเอาสามสาวหาวแล้วหาวอีก อย่าว่าแต่ตื่นตอนนี้เลย พวกเธอสามคนยังไม่เคยสัมผัสอากาศยามเช้าหกโมงด้วยซ้ำ โชคดีที่พี่ชายพวกเธอเป็นคนไปรับ มิลลิเองก็เพิ่งรู้ก่อนหน้านี้แค่วันเดียวว่าพี่ชายเธอไปด้วย มันก็ดีอยู่หรอกเพราะอย่างน้อยเธอก็ยังมีพี่ชายคอยแบ่งเบาความลำบากของการเดินทาง “เห้ยย!! อีมิล มึงมองทางขวามือที ว่ากูตาฝาดหรือเปล่า” “พี่ยีนส์กับเพื่อนเขานี่”เป็นคาเทียร์ที่หันไปเห็นก่อนและเอ่ยออกมา ก่อนที่มิลลิจะหันไปมองบ้าง เห็นเป็นกลุ่มพี่ยีนส์กับเพื่อนจริง ๆ พลันหัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย “เขาไม่บอกมึงเหรอว่าจะมา”ปลายฝนมองหน้าเพื่อนที่ทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก็พอจะเดาเรื่องราวได้ “เขาไม่ได้บอกกู”อันที่ีจริงเมื่อวานนี้เธอกับยีนส์ก็ไม่ค่อยได้คุยกัน เธอโทรไปหาเขาเมื่อวานเขาบอกไม่ว่างจะโทรกลับมา เธอก็เพิ่งเห็นโทรศัพท์ตอนตื่นตีสองว่าเขาโทรมาหาตอนห้าทุ่มกว่า แต่เธอนอนไปแล้วเพราะต้องตื่นเช้าเลยไม่ได้รับ “เขาอาจอยากจะเซอร์ไพรส์มึงก็ได้ อย่าคิดมากนะ” มิลลิหยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความหาเขา เธอมองดูจากตรงน
การเดินทางยาวนานกว่าหกชั่วโมงจบลงเมื่อถึงปลายทาง มิลลิและเพื่อนสองคนแทบจะลุกขึ้นจากที่นั่งไม่ได้เพราะปวดเมื่อยตามร่างกาย พวกเธอเป็นประเภทไม่ค่อยออกกำลังกาย ใช้ชีวิตแค่กินกับนอน ร่างกายเลยไม่ทนทานกับการนั่งรถนานขนาดนี้ โชคยังดีที่นั่งรถแบบรวดเดียวจบ ไม่ต้องต่อรถเข้ามา เพราะโรงเรียนที่ทางค่ายอาสาเลือก ค่อนข้างมีความทุรกันดานพอสมควร “กูจะตายอยู่แล้ว”เสียงคาเทียร์บ่นในขณะที่ยังคงยืนซบมิลลิที่ยืนทำหน้าตาบูดบึ้ง ส่วนพี่ชายทั้งสามคนเดินหายไปสูบบุหรี่ ตอนนี้ที่พวกเธอยืนกันอยู่คือบริเวณลานกว้างของโรงเรียน เพื่อรอประธานค่ายเข้ามาพูดคุยและบอกกล่าวกำหนดการต่าง ๆ “แล้วพวกมึงดูดิ๊ พวกเราต้องนอนที่นี่จริง ๆ เหรอ” “กูว่าน่าสนุกดีนะ”ปลายฝนกลับเห็นต่าง เพราะการที่จะได้มาที่แบบนี้ เธอมองว่ายากมากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย หากไม่ได้มาค่ายอาสา “นอนไม่ได้แล้วจะมาทำไม”คาเทียร์ตวัดสายตามองเสียงปริศนาที่เหมือนกำลังต่อว่าเธอ “แล้วพี่มาเกี่ยวอะไรด้วย”เมื่อเห็นต้นตอของเสียงที่ว่า ที่ยืนห่างออกไปประมาณสองเมตร คาเทียร์ก็แยกเขี้ยวใส่ทันที “ก็น้องบอกนอนไม่ได้นี่ครับ พี่ก็แค่สงสัย” ตะวันยังคงพูดกวนประสาทเจ้าของ
“ฉันไม่บอกเรื่องค่ายก็เพราะอยากมาเซอร์ไพรส์เธอ ไม่ตอบข้อความก็เพราะอยากบอกเธอเอง” ดวงตากลมจ้องมองนัยน์ตาคมของเขา เธออยากรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดจริงหรือเปล่า แต่ก็เหมือนเดิมคือเธอไม่สามารถอ่านแววตาเขาได้เลย “พูดจริงแน่นะคะ“ คนตัวสูงไม่ตอบแต่ฉวยโอกาสจูบเธอแทน ตอนแรกเธอก็ไม่ได้จูบตอบเขา แต่เพราะความช่ำชองทำให้เธอคล้อยตามเขาได้ไม่ยาก แขนเล็กก็ยกขึ้นเกี่ยวคอแกร่งของเขาทันที เป็นการจูบกันนอกสถานที่ครั้งแรก ท่ามกลางบรรยากาศป่าเขา ที่มีลมยามเย็น พัดมากระทบผิวกาย สร้างความรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ “อืม”เสียงครางทุ้มในลำคอเมื่อได้สอดลิ้นร้อนเข้าไปกวาดชิมความหวานในโพลงปากนุ่ม จากจูบแสนหวานก็เริ่มทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมือหนายกขึ้นมาบีบเค้นเต้าอวบผ่านเสื้อยืดตัวบาง มิลลิที่กลัวจะเลยเถิดไปไกล ก็รีบผละริมฝีปากออกทันที“พอแล้วค่ะ” ก่อนจะสวมกอดร่างหนาของยีนส์ ความรู้สึกตอนนี้คือดีขึ้นกว่าเมื่อตอนเช้ามาก ๆ ดูเหมือนว่าเขาจะมีอิทธิพลกับหัวใจเธอมากจริง ๆ อยากจะโกรธเขานานกว่านี้ แต่แค่เขาแก้ตัวนิด ๆ หน่อย ๆ เธอก็พร้อมจะเชื่อใจเขาหมดทุกอย่าง “คืนนี้มาเจอกันได้ไหม” “เจอที่ไหนคะ เราก็อยู่ที่เดียวกัน
มิลลิยืนรอยีนส์ไม่นาน ก็เห็นเขาเดินตรงมาหา ใบหน้าดูเหนื่อยกว่าปกติ“เหนื่อยเหรอคะ” “อืม เมื่อวานพี่เธอสงสัยหรือเปล่า” “ค่ะ ตามติดมิลแจเลย กว่าจะกลับไปนอนก็เกือบสามทุ่มนู่นค่ะ” เมื่อวานตอนที่เขายืนหลังต้นไม้ เขามั่นใจว่าอดีตเพื่อนรักของเขาหันมาเห็นเขาแน่ แต่ทำไมมันถึงยังทำเฉยกับเขา เมื่อเช้าตอนเดินสวนกัน โซลยังทำเป็นไม่เห็นเขาด้วยซ้ำ นับว่าเป็นเรื่องแปลกมาก “ทำไม่พี่ทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ”คนตัวเล็กมองใบหน้าเขา ที่เหมือนไม่เชื่อที่เธอพูด “ฉันอยากกอดเธอ แต่ตรงนี้กอดไม่ได้” เมื่อเขาพูดแบบนี้ เธอก็เดินเข้าไปสวมกอดเขาทันที ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าเขาเป็นอะไรเสียอีก ทำไมถึงดูเหนื่อย ๆ เธอเองก็อยากให้กำลังใจเขาเหมือนกัน “ดีขึ้นไหมคะ” “นิดหน่อย แต่ถ้าได้จูบด้วยจะดีมาก”มิลลิระบายยิ้มออกมากับคำพูดของเขา วันนี้เธอว่าเขาอ้อนเธอมากผิดปกติ แต่เธอกลับชอบให้เขาเป็นแบบนี้ เพราะมันเหมือนว่าเขารักเธอมาก “ไว้คืนนี้นะคะ มิลจะหาทางมาหาพี่ กลางคืนไม่ค่อยมีคนเห็นเท่าไหร่” เราสองคนยังคงกอดกันอยู่อย่างนั้น ไม่ได้รีบผละออกจากกันทันที ถึงตรงนี้จะเป็นทางเข้าหมู่บ้าน แต่ตรงที่เธอยืนอยู่กับเขาเป็นต้นไม้ใหญ่ข้างทาง
หลังจากบทรักตอนเที่ยงจบลง ท้องของมิลลิก็ส่งเสียงประท้วงเสียงดัง ตอนแรกคนตัวสูงอยากจะต่อรอบกับเธอด้วยซ้ำ เพราะบรรยากาศที่เป็นใจ ถึงจะร้อนไปหน่อย แต่มีความตื่นเต้นจากการทำรักเอาท์ดอร์ครั้งแรก แต่ทว่าคนตัวเล็กขอพักกินข้าวก่อน "ประจำเดือนมิลมาอยู่หรือเปล่า” ยีนส์ต้องถามภรรยาเรื่องนี้ เพราะหลังจากเธอเรียนจบก็ไม่ได้กินยาคุมอีก แต่ผ่านมาเกือบสามเดือน ทำไมเธอถึงยังไม่ท้องสักที ทั้งที่เขาขยันทำการบ้านกับเธอแทบตาย งัดกลเม็ดทุกอย่างมาใช้หมดแล้ว แต่ทว่ายังไร้วี่แวว “ที่จริงประจำเดือนมิลก็มาไม่ปกติอยู่แล้ว แต่เพื่อความสบายใจของพี่ มิลจะตรวจหลังจากเรากลับนะคะ” “เมื่อวานพ่อตาบอกว่าพี่ไม่มีน้ำยา”มิลลิหัวเราะออกมา เมื่อนึกถึงคำพูดของพ่อที่บ่นเธออยู่ทุกวันว่าเมื่อไหร่จะมีหลานให้ท่านสักที “หรือพี่จะไม่มีน้ำยาอย่างพ่อตาว่าจริง ๆ”เขายังคงคิดมากเรื่องนี้อยู่ ก็เขาอยากมีลูก พ่อกับแม่ของเขาก็อยากมีหลานหลาย ๆ คน “พี่อย่าคิดมากสิคะ มิลเพิ่งปล่อยได้แค่สองเดือนกว่า ๆ เอง ใครจะไปรู้ตอนนี้มิลอาจจะท้องแล้วก็ได้” “งั้นเราไปซื้อที่ตรวจมาตรวจเลยได้ไหม พี่อยากรู้ตอนนี้เลย มิลก็รู้ว่าพี่อยากมีลูกขนาดไหน” สุดท้าย
หลังจากงานแต่งจบลง ยีนส์และมิลลิก็รีบไปสนามบินทันที ทั้งคู่จะไปฮันนีมูนกันที่มัลดิฟส์ เป็นเจ้าสาวที่จองตั๋วเครื่องบินและที่พักเองหมดทุกอย่าง กำหนดการเที่ยวทุกอย่างใช้เวลา4วัน3คืน “มิลตื่นเต้นอยากเห็นทะเลใจจะขาดแล้วค่ะ”มิลลิเดินควงแขนสามีหนุ่มหล่อ เพื่อไปยังรถตู้ของโรงแรมที่เธอจองเอาไว้ แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาตีสี่กว่าแล้ว อีกทั้งยังเหนื่อยกับงานแต่ง แต่เธอกลับไม่รู้สึกง่วงสักนิด เพราะทะเลที่นี่ เธอใฝ่ฝันจะมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว “พี่อยากให้มิลพักหน่อยนะ”ยีนส์พูดไปตามที่คิด เพราะตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนถึงตอนนี้ เขายังไม่เห็นเธอหลับเลย ทั้งที่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อแต่งหน้า ทำผม ไหนจะยุ่งกับงานแต่งทั้งวัน เสร็จจากงานก็เที่ยงคืน ก็รีบมาสนามบินทันที เป็นเขาเสียอีกที่รู้สึกอ่อนเพลียมาก “ถึงที่พักแล้วค่อยนอนก็ได้ค่ะ สามีของมิลเหนื่อยแล้วเหรอคะ” “พี่ยอมแพ้มิล” รถตู้ของที่พักเข้ามาจอดตรงส่วนของโรงแรม แต่มิลลิจองเป็นที่พักติดทะเลไว้ เลยต้องใช้เวลาเดินไปอีก ขนาดว่าตอนนี้ตีห้า แต่ก็ยังมองเห็นความสวยงามของทะเล พนักงานของโรงแรมพาเดินไปตามสะพานไม้ที่พาไปยังที่พักเป็นหลังที่สร้างอยู่ในทะเล ก่อนที่จะหย
ยีนส์ขับรถหรูเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ เพื่อส่งมิลลิลงก่อน ส่วนเขาก็ขับไปจอดในลานจอดรถ ก่อนจะเดินลงมาหาเธอที่ยืนรออยู่ พร้อมกับว่าที่พ่อตา ว่าที่แม่ยาย และพี่ชายสองคนของเธอ คนตัวสูงยอมรับว่าประหม่ามาก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่ากลัวอะไรขนาดนั้น เขาเองก็เป็นลูกผู้ชายมากพอ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้อยู่แล้ว เพราะงั้นไม่ว่าจะโดนอะไรเขาก็พร้อมจะยอมรับ ขอแค่อย่างเดียวอย่าให้เขาเลิกคบกับมิลลิ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่เขาจะไม่ยอม “สวัสดีครับ”ยีนส์ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง และพี่ชายคนโตของมิลลิด้วยท่าทางปกติ ผิดกับสายตาของว่าที่พ่อตา ที่ดูเหมือนจะไม่พอใจเขามาก ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงแต่สบัดหน้าหนีเขา ไม่รับไหว้เขาเหมือนอย่างแม่ของเธอ “เข้าบ้านกันดีกว่า มิลพาพี่เขาเข้ามาเร็วลูก” มิลลิจับมือของเขา เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน ตรงที่พ่อกับแม่นั่งรออยู่คือห้องรับแขกของบ้าน ยีนส์ทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับพ่อแม่ของมิลลิทันที ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว จากตอนแรกที่ไม่รู้สึกอะไร เจอแบบนี้เขาเองก็ต้องกุมมือเข้าหากันเพื่อลดอาการประหม่าของตัวเองตอนนี้ “เรื่องที่ผ่านมา แม่จะไม่พูดถึงมันนะ แต่หลังจากนี้
“แบบวันนี้ คือแม่พี่ชอบมิลหรือเปล่าคะ”มิลลิถามขึ้นตอนที่กลับมาถึงคอนโดของยีนส์แล้ว “ใช้คำว่าถูกใจเลยดีกว่า” เขาไม่ได้อวยเธอเกินจริง แต่การที่แม่เอ่ยปากชวนเธอไปชิมขนมที่ร้าน มันเป็นสัญญาณว่าแม่เขาถูกใจเธอมาก “แต่มิลก็อยากจะตีพี่เหลือเกิน รู้ว่ามิลชอบกินขนม ยังไม่บอกมิลอีกว่าแม่พี่เปิดร้านขนม” เธอทำหน้างอนเขาและทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟา โดยยีนส์ก็เดินเข้ามากอดเธอ ยกตัวเธอขึ้นนั่งบนตักของเขา ก่อนที่จะกดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากนุ่มของเธอเบา ๆ “พี่กลัวมิลจะไม่อยากเจอแม่พี่ต่างหาก อีกอย่างตอนนั้นพี่ก็ยังไม่รู้ใจตัวเองด้วย หลังจากนี้พี่จะพาไปจนมิลเบื่อเลยดีไหมครับ” “ดีค่ะ มิลอยากเปิดร้านขนมมาตั้งนานแล้ว” “เรียนบริหารแต่ไปเปิดร้านขนมเหรอ” “ความชอบกับความฝันมันต่างกันค่ะ มิลเรียนบริหารเพราะเห็นพี่ชายคนโตเรียนค่ะ อีกอย่างเรียนจบมิลก็ต้องไปทำงานกับบริษัทของพ่อ” “แล้วไอ้โซลล่ะ มันเรียนวิศวะเครื่องยนต์นะ” “พ่อมีบริษัทผลิตยานยนต์ค่ะ พี่โซลตามพ่อไปทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ เลยอยากเป็นอย่างพ่อ” “นี่พี่ตกถังข้าวสารเหรอเนี๊ยะ ต่อไปมิลต้องเลี้ยงพี่ด้วยนะ” “พี่รวยกว่ามิลอีกนะคะ เป็นลูกคนเดียวด้วย พี่นั่น
“พี่ไม่แปลกใจเลย ทำไมพี่ชายมิลถึงหวงมิลนัก” “ใช่ค่ะ เราห่างกันคนละปีกว่า ๆ เอง คลอดปุ๊บ แม่ก็ท้องปั๊บเลย” “อาทิตย์หน้าไปกินข้าวบ้านพี่บ้างสิ พี่อยากให้แม่กับพ่อพี่ได้รู้จักว่าที่ลูกสะใภ้” “พี่เคยพาแฟนเก่าเข้าบ้านหรือเปล่าคะ” ที่ถามไม่ใช่ว่าเพราะเธอโกรธหรอก เธอเองก็ทำใจเรื่องใจอดีตเขาได้แล้ว เพียงแต่ถามเพื่อจะได้ทำตัวถูกเวลาเจอหน้าพ่อกับแม่ของเขา “ไม่เคย ตอนนั้นพี่เพิ่งเรียนปีหนึ่งเองนะ ยังไม่คิดเรื่องนี้เลย” “….” “แต่ตอนนี้พี่คิดแล้วนะ พี่เป็นคนรักคนยากนะมิล ถ้าพี่รักแล้ว พี่ก็อยากจะคบกับเขาให้นานที่สุด” ยิ่งเขาพูด เธอก็ยิ่งเขินหน้าแดงจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็ไม่อยากจะคิดหรอกว่าเธอโชคดีแค่ไหน ที่ได้เป็นคนนั้นในใจเขา เรื่องของความรัก มันไม่ใช่อีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายโชคดีอย่างเดียว แต่มันคือการที่คนสองคนโชคดีทั้งคู่ต่างหากที่ได้มาเจอกัน ตอนนี้อยากจะบอกแฟนเก่าของเขาเหลือเกินว่าขอบคุณนะคะ ที่ทิ้งเขามาจนเจอกับเธอ 21.30 น. บรรยากาศในผับสุดหรูของพายุ ที่มีศักดิ์เป็นลุงของมิลลิ เธอไม่ค่อยได้มาที่นี่ นอกจากว่าจะมาพี่ชายหรือคนเป็นพ่อ เวลามีงานฉลองอะไร ครอบครัวของเธอมักจะเลือกมาฉลองกันที่นี่
“กว่าครอบครัวมิลจะยอมรับพี่ กระดูกพี่ไม่หักไปก่อนเหรอ” “หักไม่ได้คะ มิลไม่ยอมหรอก ว่าแต่….” “แต่อะไร?” “ว่าแต่มีตรงไหนให้พ่อมิลทำพี่ได้อีกบ้างค่ะ หน้าโดนแล้ว ขาโดนแล้ว งั้นหลังได้ไหมคะ” “มิลลิ”เสียงทุ้มเรียกชื่อเธออย่างไม่เชื่อ ตอนแรกเขาก็คิดว่าเธอพูดเล่น แต่ทำไมท่าทางเธอตอนนี้ถึงดูจริงจังขนาดนี้ “คิก คิก มิลพูดเล่นค่ะ เหลือด่านสุดท้ายแล้วนะคะ” มิลลิเข้าไปออดอ้อนแฟนหนุ่ม ตอนนี้ที่พวกเธอนั่งอยู่ท่ามกลางสายตาของเพื่อนสนิทมิลลิสองคน ตรงใต้ตึกคณะบริหาร ทำให้เพื่อนสองคนนั่งมองเธอด้วยสายตาหมั่นไส้ “งั้นมิลก็ต้องปลอบใจพี่ด้วยนะ ดูสิ”เขาเอียงหน้าให้เธอดูรอยแผลตรงมุมปาก คนตัวเล็กหันซ้าย หันขวา ก่อนจะกดริมฝีปากลงไปเบา ๆ อย่างเอาใจ “แหวะ!!! อีมิล กูจะอ้วก” คาเทียร์มองบนทนความคลั่งรักของคู่นี้ไม่ไหว ต้องทำท่าอ้วกออกมา โดยมีปลายฝนนั่งหัวเราะอยู่ข้าง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่สนใจพวกเธอสักนิด ยังคงนั่งออดอ้อนกันอยู่แบบนั้น ราวกับว่าโลกนี้มีเพียงสองเรา “ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ยีนส์จะเป็นคนคลั่งรักขนาดนี้”ปลายฝนพูดขึ้นขณะเดินไปเรียนวิชาช่วงเช้า “ไม่ใช่แค่พี่ยีนส์หรอก อีเพื่อนตัวดีของเราก็น้อยห
ยีนส์ทำสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินลงมาส่งเธออย่างไม่เต็มใจ เมื่อเห็นสีหน้ายียวนของไอ้เพื่อนเวร เขาก็ชักสีหน้าใส่มันทันที “ทำไมมึงทำหน้าบูดแบบนั้นล่ะว่ะ” โซลแซวด้วยรอยยิ้มขบขัน เขารู้ว่ามันไม่เต็มใจจะให้น้องสาวเขากลับ ยอมรับว่าที่มารับมิลลิ ก็เพราะเขาอยากแกล้งมันโดยตรง หมั่นไส้มันที่เคยทำกับน้องเขา แล้วมาดี๊ด๊าเมื่อน้องเขาให้อภัยมันง่าย ๆ “ไอ้เวร มึงเอาคืนกูที่น้องมึงให้อภัยกูใช่ไหม” “ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”โซลหัวเราะเสียงดัง ไม่อยากเชื่อว่ามันจะอ่านใจเขาออกขนาดนี้ “สัด!!! กูขอแช่งให้มึงโดนบ้างเวลามึงมีความรัก มึงคอยดู” “แม่ง!!! แช่งเป็นเด็ก ๆ แต่กูคงไม่มีวันนั้นว่ะ ขอโทษด้วยนะ เพราะคนอย่างกูไม่รักใครง่าย ๆ เหมือนมึงหรอก” มิลลิยืนมองพี่ชายกับแฟนยืนเถียงกันแบบเด็ก ๆ แล้วก็ส่ายหัวออกมา ดูท่าว่าเธอจะต้องเจอแบบนี้ไปตลอด เพราะสองคนนี้ดูเป็นคนไม่ยอมใครทั้งคู่ “ไปได้แล้วค่ะ”เธอตัดบทก่อนจะขึ้นไปรอบนรถคนเป็นพี่ชาย มองเห็นสองคนยังยืนเถียงกันต่อ จนเธอต้องเปิดกระจกตะโกนเรียกพี่ชายให้ขึ้นรถได้แล้ว “เตรียมจะบอกพ่อกับแม่เมื่อไหร่” ระหว่างที่นั่งบนรถ พี่ชายก็ถามเธอถึงเรื่องนี้ แต่ก็เป็นเ
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! เสียงตอกอัดเข้าออกรุนแรงอย่างดิบเถื่อน จนร่างเล็กโยกโคลงตามแรงกระแทกนั้น เธอต้องเอามือขึ้นเกาะบ่าเขาไว้ เล็บจิกเกร็งตรงผิวเนื้อเขาจนเลือดซิบ ใบหน้าสวยเหยเก หลับตาคราญครางเสียงดังด้วยความเสียวซ่าน ทุกจังหวะการกระแทกที่เพิ่มระดับความแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามความกระสันที่พุ่งสูงขึ้น เหงื่อเม็ดโตผุดพลายบนใบหน้าหล่อเหลา กรามหนาขบเข้าหากันแน่นทุกครั้งที่ร่องรักของเธอตอดรัดเอ็นร้อนของเขาแรง ๆ รัว ๆ “อ๊าสส ตอดแรง พี่เสียวหัวมากเลยครับ” เสียงทุ้มครางกระเส่า พร้อมคำพูดหวานหู ที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน ยิ่งมาพูดเวลานี้ ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านขึ้นถึงขีดสุด ร่างหนายังคงขยับโยกไปมาอย่างไม่ลดระดับความแรง มือหนาเอื้อมไปบีบเค้นอกอวบของเธอไปด้วย “มิลไม่ไหวแล้วค่ะ อื้อ~ อ๊าสส” มิลลิสะบัดหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ร้องครางเสียงดัง ก่อนที่เธอจะกระตุกตัวเกร็งปลดปล่อยออกมาทันที “อร้ายย”เมื่อเห็นเธอเสร็จแล้ว ยีนส์ก็เร่งความเร็วถึงขีดสุด กระแทกเข้าออกถี่ ๆ แรง ๆ ก่อนที่เขาจะแตกพร่า ฉีดอัดน้ำรักเข้าไปในร่องรักของมิลลิจนหมด “อึก อ๊าส”ครวญครางออกมาอย่างสุขสม ยีนส์แช่เอ็นร้อนเอาไว้ ไม่ได้ถอดอ
เมื่อประตูคอนโดเปิดออก ยีนส์ก็ผลักคนตัวเล็กติดผนังทันที แววตาคมเต็มไปด้วยเปลวเพลิง ร่างกายเครียดเกร็งไปหมดทุกส่วน บางอย่างที่แข็งขืนอยู่นาน ยิ่งทวีความต้องการมากขึ้น ริมฝีปากหนาก้มลงจูบดูดดื่มกับริมฝีปากอวบอิ่ม ส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อน เกี่ยวพันกับลิ้นเล็ก รสจูบแผดเผาร่างกายมิลลิจนร้อนรุ่มไปหมด ใจเต้นเสียงดังโครมคราม มันแตกต่างจากจูบทุกครั้งที่ผ่านมา นอกจากความเร่าร้อนแล้ว ยังเต็มไปด้วยความดุดัน ลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร มือเล็กยกขึ้นเกี่ยวคอแกร่ง เมื่อถูกความกระสันเสียวเล่นงานไม่หยุด จนร่างกายอ่อนปวกเปียกยืนทรงตัวแทบไม่ได้ มือหนาของคนตัวสูงยกขึ้นบีบสะโพกสวยอย่างจงใจ เขาค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง ของคนตัวเล็ก ก่อนจะมาเจอกับก้อนกลมด้านหน้าสองลูก ที่เขาออกแรงบีบเค้นมากกว่าปกติ ริมฝีปากก็ยังดูดดึงกันอยู่อย่างนั้น “อืม”เสียงทุ้มครางออกมาอย่างถูกใจ ก่อนจะผละริมฝีปากออกไป“พี่เจ็บจังเลยครับ” “ให้มิลทำยังไงคะ”รอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่ส่งมา ทำให้เธอเขินอาย หน้าแดงก่ำ ช่วงริมฝีปากไม่สามารถหุบยิ้มได้ “มิลอยากทำยังไงกับพี่ครับ” “มิลอยากทำแผลให้พี่ค่ะ”ยีนส์กรอกตามอ