Home / รักโบราณ / กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1 / บทที่ 3 สวัสดีโลกเบื้องล่าง หวางเยว่เล่อมาเยือนแล้ว

Share

บทที่ 3 สวัสดีโลกเบื้องล่าง หวางเยว่เล่อมาเยือนแล้ว

Author: Iris_
last update Last Updated: 2025-01-09 23:14:28

     เมืองชิวหวาเตียนเป็นเมืองท่าอันเงียบสงบของชายแดนเชื่อมระหว่างตำหนักลอยฟ้าเทียนฝูและโลกเบื้องล่าง แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายพันปีแต่เมืองนี้ก็ยังเงียบสงบสุขเพราะไม่มีใครหน้าไหนกล้าบุกรุกตำหนักลอยฟ้าแห่งนี้

     “ว้าวนี้น่ะหรอเมืองชิงหวาเตียน นั่นข้าเห็นโลกเบื้องล่างแล้วดูสิพี่เล่อเล่อสวยจริงๆ ตำหนักของเราอยู่สูงขนาดนี้เชียว”

     “หะ ห้ะ นี่มันอะไรกันเนี่ย” คุนฟู่ยังตกใจไม่หายก็ตกใจอย่างต่อเนื่องเมื่อมองไปรอบๆแล้วพบว่าตอนนี้เขายืนอยู่บนหอคอยปราการของเมืองชิงหวาเตียน ชายแดนห่างไกลจากที่ตั้งสำนักหลายพันลี้ภายในพริบตาเดียว หรือว่าเขาคงเมาแล้วจริงๆ เมื่อมองไปทางคุณหนูทั้งสองที่กำลังยิ้มและมองไปรอบๆแล้วยิ่งเข้าใจ ความจริงแล้วเขาแค่หลอนเมาหลับไปนี่เอง คงเป็นในฝันแน่นอน คุณหนูทั้งสองไหนเลยจะกล้าหนีออกจากตำหนักเทียนฝูไปยังโลกเบื้องล่าง

     ป้ายหยกบัญชาเมฆาแม้แต่นายท่านเหนือหัวของคุณฟู่ยังมิสามารถครอบครองได้ ไหนเลยคนสนิทเช่นเขาจะล่วงรู้ความสามารถของมันได้ มิผิดที่เขาจะคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงแค่ความฝัน

     “ฮู้วว เอาล่ะในเมื่อเป็นแค่ฝัน คุณหนูทั้งสองท่านจะให้ข้าทำอะไรล่ะ ข้าช่างแสนดีเสียจริงแม้แต่ในความฝันยังปฎิบัติหน้าที่รับใช้คุณหนูทั้งสอง ฮ่าๆๆๆ ให้ตายสินายท่านจะหาลูกน้องดีๆอย่างข้าได้จากไหนอีก” คุนฟู่ตบเข่าฉาดยกย่องตัวเองเสร็จเขาก็ลุกพรวดพราดขึ้นมาจากการนั่งกองอยู่บนพื้น แม้จะแปลกใจอยู่บ้างแต่เยว่เล่อเพียงบอกแผนไป ในเมื่อเขายอมทำตามแผนก็ดีแล้วมิใช่หรือ

     “ข้ากับซูเจียวจะปลอมตัวเป็นนางคณิกาแล้วให้เจ้าพาออกไป” ซูเจียวยืนฟังแผนการอย่างเงียบๆมีเพียงคุนฟู่เท่านั้นที่ตกใจจนแทบตาย

     “หัวข้าจะหลุดจากบ่าน่ะสิ หากให้อ้างว่าพวกท่านคือนางคณิกาน่ะ!!”

     “ไม่เห็นเป็นไรนิ ยังไงเจ้าก็แอบพาพวกนางออกไปเที่ยวโลกเบื้องล่างด้วยกันบ่อยๆอยู่แล้วนี่ แถมไม่มีใครนอกจากคนในไม่กี่คนที่เคยเห็นหน้าข้ากับซูเจียว อีกอย่างข้าไปแค่ไม่กี่ชั่วยามก็กลับจวนแล้ว”

     แฮะๆ ซูเจียวเก็บความรู้สึกผิดในใจ ไปไม่กี่ชั่วยามหรือ นางดูการแล้วพี่สาวของนางคงเที่ยวเพลินหลายปีแน่...ถ้ายังไม่ถูกจับได้ล่ะนะ

     ระหว่างรอทิ้งให้คุนฟู่ค่อยๆคิดให้ถี่ถ้วนสองพี่น้องก็แอบไปเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสาวใช้ที่เยว่เล่อหยิบติดตัวมาด้วย ซูเจียวได้แต่มองค้อนพี่สาวที่เตรียมการหนีเที่ยวมาดีเหลือเกิน พอพวกนางกลับมาคุนฟู่ที่ดูเหมือนจะกลุ้มใจกลับมาร่าเริงอีกครั้งแล้ว

     “เฮ้อ ข้าจะคิดอะไรเยอะแยะกับความฝันเนี่ย ข้านี่มันโง่จริงๆ ไปกันเถอะคุณหนู ฮ่าๆๆ วันนี้พี่ชายฟู่จะพาพวกท่านไปเที่ยวเอง” ในความฝันคุนฟู่ช่างใจกล้าจริงๆ เขากล้าเอานิ้วชี้หน้าคุณหนูแล้วเอาแต่หัวเราะอย่างนึกสนุก

     สองสาวมองหน้ากันอย่างปลงตก สงสัยคุนฟู่จะเมาแล้วจริงๆแต่มันก็ดีกับแผนการของพวกนาง พวกเขาสามคนเดินไปในเมืองชิงหวาเตียนผ่านย่านการค้าที่ดูมีชีวิตชีวา ผู้คนมากมายทั้งจากเบื้องล่างและคนในตำหนักต่างแลกเปลี่ยนซื้อขายกันอย่างครึกคัก

     “นั่นคืออะไรหรือ” ซูเจียวชี้นิ้วไปทางลูกกลมสีแดงมันวาวเสียบไม้ขายอยู่ร้านริมทาง

     “มันคือถังหูลู่ผลไม้ที่เอาไปเคลือบน้ำตาลเป็นขนมของโลกเบื้องล่างขอรับ เมืองชิวหวาเตียนมีการค้าขายกับโลกเบื้องล่างจึงมีของหลายอย่างแปลกตา คะ คุณ” เมื่อหันหลังไปมองแล้วไม่พบเจ้านายทั้งสองหัวใจของคุนฟู่แทบจะหล่นออกมา ยังดีเห็นพวกนางไปยืนหน้าร้านขายถังหูลู่

     “พ่อค้าอันนี้ขายอย่างไร”

     “ไม้ล่ะ1ก้อนทอง”

     “ฮ้ะ หน้าเลือดเกินไปหรือป่าว แม่นางพวกท่านอย่าโดนพ่อค้าคนนี้หลอกเอา บ้านข้าขายแค่50อีแปะเท่านั้น” ชายหนุ่มแต่งกายดูมีภูมิฐานคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเยว่เล่อที่กำลังควักก้อนทองให้พ่อค้าหน้าเลือดคนนั้น

     “คุณชายเป็นคนจากโลกเบื้องล่างหรือ?” เยว่เล่อขมวดคิ้วสงสัย

     “ใช่แล้ว ข้าตามท่านปู่ขึ้นมาทำธุระที่ตำหนักเทียนฝู”

     “คุณชายไปกันเถอะขอรับ สำหรับคนบนตำหนัก1ก้อนทองไม่นับว่ามากมายอะไร” ผู้ติดตามของชายหนุ่มตามมาดึงแขนคุณชายของตน

     ‘คุณชาย นายท่านกำชับว่าห้ามสร้างเรื่องบนตำหนักเทียนฝูนะขอรับ อีกอย่างแม่นางสองคนนั้นรูปร่างผิวพรรณงดงามคงเป็นคุณหนูตระกูลดีสักตระกูลบนตำหหนัก คิดว่าน่าจะซุกซนปลอมตัวเป็นสาวใช้มาเที่ยวเล่นแน่’

     ‘ข้าแค่จะช่วยคน’

     ‘โถ่ คุณชายท่านดูคนที่วิ่งมาหาพวกนางเสียก่อน ท่านนั้นคือท่านคุนฟู่คนสนิทของเจ้าสำนักมังกรฟ้า มีข่าวลือว่าเขาเจ้าสำราญควงอิสตรีมิซ้ำหน้า แม่นางพวกนั้นอาจเป็นสตรีของท่านคุนฟู่ พวกเราไปกันดีกว่าอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลย’

     คิ้วของเยว่เล่อยิ่งขมวดเมื่อมองสองนายบ่าวซุบซิบพากันเดินออกไป

    “เอ้านี่ของพี่”

     “ขอบใจนะซูๆ” ซูเจียวยื่นถังหูลู่ให้เยว่เล่อหนึ่งไม้ ทั้งคู่เลิกสนใจคุณชายคนนั้น มองคนสนิทของเจ้าสำนักที่วิ่งหอบหายใจมาทางพวกตนแทน

     “พวกท่าน อย่า แฮ่กๆ เฮือก ไปไหนโดยไม่บอกกันอีกได้มั้ย ข้าตกใจจนเกือบตาย”

      เยว่เล่อมิสนใจ มิยอมรับปาก เดินควงแขนซูเจียวผ่านหน้าคุนฟู่ หันกลับมามองยังไม่มี เดินจนสุดทางจึงถึงด่านตรวจขึ้นลงสะพานพาดเมฆา

     “ทางนั้นไงเดี๋ยวข้าไปคุยกับทหารหน้าประตูให้ พวกท่านสองคนรออยู่ตรงนี้เฉยๆละ”

     คุนฟู่ใช้ความกว้างขวางของเขาเข้าไปคุยกับทหารยามตามแผนที่วางไว้

     “ไงอาสื่อวันนี้เจ้าเป็นเวรเฝ้าประตูหรือ”

     “แหมพี่ฟู่ วันนี้จะพาสาวๆจากหอไหนไปเที่ยวโลกเบื้องล่างอีกล่ะ ว้าว ครั้งนี้งามหยดย้อยแถมยังมีตั้งสองคนข้าล่ะอิจฉาพี่จริงๆ” คนจากสำนักนามอาสื่อเอี้ยวตัวไปมองสาวงามสองคนข้างหลังของคุนฟู่ เขามิได้อยู่ตำแหน่งสูงในสำนักจึงไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าคุณหนูทั้งสอง

     “ฮ่าๆๆๆ อะไรกันๆข้ากำลังปฎิบัติหน้าที่อย่างขยันขันแข็งแม้กำลังฝันอยู่ตั้งหากเล่าอาสื่อ เอ้านี่ป้ายสำนักข้า ใส่แค่ชื่อข้าลงทะเบียนก็พอ” เขายื่นป้ายกับถุงเงินก้อนใหญ่ลงไป อาสื่อที่แม้จะงงกับประโยคของเขาแต่เห็นว่าเป็นคนกันเอง และรู้กันดีว่าพี่ฟู่มักจะพาสาวงามออกไปเที่ยวด้วยเสมออยู่แล้วจึงไม่เอะใจปล่อยผ่านไปได้อย่างง่ายดาย

     “วันนี้ดื่มมาเยอะระวังตกสะพานล่ะพี่ฟู่” อาสื่อโบกมือลาทั้งสามคน คุนฟู่ที่ได้ยินจึงหันกลับมาแล้วโบกมือส่งให้อย่างอารมณ์ดีแล้วเดินต่อไป

      “โหวว โลกเบื้องล่างทำไมมีแต่ป่าแบบนี้ไม่มีเมืองเลยหรอ” พวกเขาเดินผ่านสะพานมาสักพักแล้วแต่มองไปข้างล่างก็เห็นแต่ป่า ซูเจียวจึงถามด้วยความสงสัย

     “ใต้ตำหนักเป็นป่าอสูรขนาดกว้างใหญ่ขอรับ พอลงไปจนถึงข้างล่างอีกฝั่งสะพานจะถึงประมาณเขตป่าชั้นกลางของป่าอสูรแถวนั้นมีแค่อสูรขั้นกลางปลอดภัยแน่นอน แต่พวกคุณหนูมาไม่กี่ชั่วยามคงทำได้แค่เดินเล่นแถวสะพานนี่แหละขอรับ”

     “ว่าไงนะ ทำไมล่ะแล้วต้องใช้เวลากี่ชั่วยามกันถึงจะลงไปโลกเบื้องล่างได้” คำตอบของคุนฟู่สร้างความตกใจให้กับเยว่เล่อมาก

     “ต้องใช้เวลา 7 วันเลยขอรับกว่าจะถึงปลายฝั่งอีกด้านของสะพาน ระหว่างสะพานจะมีเกาะลอยฟ้าเล็กๆที่มีโรงเตี๊ยมเป็นจุดพักหลายจุดไว้สำหรับพักระหว่างทาง แต่พวกเราคงไปไม่ถึงโรงเตี๊ยมที่ใกล้ที่สุดด้วยซ้ำล่ะมั้ง”

     “เดี๋ยวนะ สะพานพาดเมฆาทำไมมันถึงยาวขนาดนั้น”

     “เพราะตำหนักลอยฟ้าสูงกว่าโลกเบื้องล่างมาก เพื่อไม่ให้ชันเกินไปสะพานจึงยาวมาก แต่ว่าสำหรับผู้มีพลังปราณและมากวิชาอย่างพวกเราที่มาจากตำหนักเทียนฝูแล้วใช้เวลาเพียง 3 วันนิดๆก็ถึงแล้วขอรับคุณหนูซูเจียว แต่ยังไงคุณหนูทั้งสองวรยุทธ์ไม่ถึงขั้นต้องฝึกอีกมากอย่างน้อยก็7วันแน่ๆ”

     พอได้ยินคำตอบแล้วเยว่เล่อถึงกับตาโตนางรอไม่ไหวหรอก กว่าจะถึงอีกฝั่งของสะพานท่านพ่อได้นำคนมาจับนางกลับไปก่อนแน่ นางเตรียมแผนเพื่อมาโลกเบื้องล่างมากกว่า 5 ปี ตอนนี้ได้ออกมาแล้วจะไม่กลับไปอีก

     “ซูเจียว เจ้ากลัวความสูงมั้ย”

     “ก็ไม่เท่าไร” พวกนางทั้งสองมองกันอย่างสื่อใจแล้วรีบทะยานลงไปจากสะพานพาดเมฆาที่มีความสูงหลายร้อยกิโลเมตร

     “ว้ากกกกก คุณหนูพวกท่านทำอะไรเนี่ย ตายแน่ ข้าตายแน่ ถึงจะเป็นในความฝันก็เถอะ ไม่รู้แล้วโว้ย” คุนฟู่กระโดดตามคุณหนูทั้งสองลงไป การตกจากความสูงขนาดนี้ทำเขาสร่างเมาจนฟื้นสติกลับมาได้แล้ว สายลมที่ตีหน้าจนแสบผิวไปหมดทำให้เขาตื่นรู้ รู้ว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้ฝันไป!!!

     “โถ่โว้ยยยย ข้าโดนหลอกอีกแล้ววว!!!” เสียงร้องโหยหวนของคุนฟู่ดังก้องไปทั่วฟ้า

     เมื่อตั้งสติได้ เขาก็เข้าใจแล้วว่าตอนนี้เขากลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดแบบไม่ได้ตั้งใจไปเสียแล้ว คราวนี้ได้ตายจริงๆแน่ เขายิ้มอย่างหมดอาลัยตายอยากพร้อมร่วงลงสู่โลกเบื้องล่าง ตรงสู่ป่าอสูรชั้นในที่แสนอันตร

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1   บทที่33 สามี ภรรยา และเหล่านายอนุน้อยทั้งสาม?

    หลังจากเดินซื้อของจนหมดเรี่ยวแรงร่างกายของเยว่เล่อก็ล้มตัวนอนบนฟูกนุ่มๆทันทีเมื่อกลับถึงห้อง เป่าตงและเสวี่ยปิงที่นอนรออยู่ในห้องเงยหัวขึ้นมามอง “ไปอาบน้ำก่อนค่อยนอน” เสียงเรียบๆของเป่าตงดังขึ้นมา ตอนนี้มันเหมือนกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กเต็มตัว “ขอนอนพักสักพักค่อยไปอาบ” เยว่เล่อนอนหงายกางแขนกางขาจนเต็มเตียง สายตามองเพดานเตียงอย่างเลื่อนลอย ส่วนหนึ่งในใจตื่นเต้นที่จะได้ออกเดินทางจากทวีปหยางจื่อตี้แล้ว แต่อีกใจหนึ่งก็กังวลอยู่เรื่องหนึ่ง ฟึบ เยว่เล่อตะแคงข้างหันไปมองเป่าตงและเสวี่ยปิงที่นอนอยู่บนเบาะของตัวเอง ตอนแรกนางตกลงกับพวกมันว่าหากข้ามทวีปได้สำเร็จจะปล่อยพวกมันให้เป็นอิสระ…แต่ในใจเยว่เล่อดันเกิดความเห็นแก่ตัวขึ้นมา นางไม่อยากปล่อยพวกมันไปเลย แม้เป่าตงจะขี้บ่น ขี้เหวี่ยง ขี้วีนแค่ไหน แต่มันก็คอยช่วยนางอยู่ข้างๆเสมอ เสวี่ยปิงเองถึงแม้จะเป็นหมาขี้ประจบ แต่มันก็เป็นเหมือนเพื่อนที่ดีของนาง การมีทั้งสองตัวอยู่ด้วยทำให้การเดินทางของนางไม่เหงาเลยสักวัน ทุกวันมีแต่เรื่องสนุกเต็มไปหมด ถ้าจะต้องจากกันในวันพรุ่งนี้… แค่คิดถึงเรื่องน่าเศร้าดวงตาของเยว่เล่อก็เริ่มแดงก่ำ

  • กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1   บทที่32 การรีดไถคนของนางแม้แต่โจรยังต้องชื่นชม

    พอเช้าวันต่อมา เยว่เล่อ ฮุ่ยหมินและเหล่าสหายโจรก็นั่งเรือซ่อมซ่อลำเดิมพร้อมปลาหมึกกลับมายังท่าเรือ สภาพของเหล่าสหายโจรดูย่ำแย่เกินกว่าจะบรรยายได้ เพราะพวกเขาไม่ได้เจอเหล่าสหายพี่น้องกองโจรมาหลายอาทิตย์จึงกินดื่มกันจนเมาหัวราน้ำ ส่วนเยว่เล่อมิได้ร่วมดื่มแต่สภาพกลับไม่ต่างกันเท่าไรนักเมื่อนางเมากลิ่นซากปลาหมึก! เยว่เล่อไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าจะเอาพวกมันไปด้วยทำไม แต่พอนางบอกให้เอาโยนทิ้งไปฮุ่ยหมินก็รีบมาห้ามไว้เพราะบอกว่ากลับไปมือเปล่ามันน่าสงสัย “แหวะ อ้วก” เพียงแค่ขึ้นมาถึงฝั่งเยว่เล่อและเหล่าสหายโจรก็ประจำพุ่มไม้แยกกันอ้วกจนหมดพุง หลังลากสังขารกลับโรงเตี๊ยมได้ หลงจู๊ของโรงเตี๊ยมรีบวิ่งมารายงานคนที่สภาพดีที่สุดเช่นฮุ่ยหมินว่ามีคนฝากจดหมายเอาไว้ให้ เมื่อเขาคลี่จดหมายออกจึงพบว่าเป็นนัดหมายตกลงราคาสินค้า เขามิค่อยพอใจนักที่นางจะขายสิ่งล้ำค่าหายากเช่นไข่ของหงส์เพลิง แต่ในเมื่อตกลงกันแล้วว่าเขาได้เงินนางได้หินนั่นจึงทำอะไรไม่ได้ อีกอย่างคนที่คว้าชัยชนะมาได้ก็คือนาง “น้องสาวเจ้าไหวมั้ยเนี่ย” ฮุ่ยหมินพยุงหิ้วปีกร่างของเยว่เล่อขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ดีๆ “เอ้า จดหมายของเจ

  • กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1   บทที่31 วิชาโจรเงาพรายอสูร 001 ว่าด้วยเรื่องการเป็นโจรที่ดีต้องเป็นคนดีเสียก่อน

    ใช้แรงไปไม่น้อยเมื่อต้องปีนบันไดเชือกมาถึงสามสิบชั้น แต่เพียงแค่ขึ้นมาถึงดาดฟ้าเรือใจของเยว่เล่อก็เต้นระส่ำไปหมด มีเรื่องน่าสนใจให้จ้องมองเต็มไปหมด ทั้งหอคอยปราการที่ตั้งสูงบนนั้นแล้วยังติดตั้งปืนใหญ่เอาไว้ ทั้งยังมีบ่อปลาเสริมมงคล ไหนจะห้องดูหรูหราตกแต่งด้วยทองบนอีกชั้นของดาดฟ้านั่นอีก แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเยว่เล่อที่สุดคงจะเป็นบัลลังก์สีดำสลักลวดลายอสูรตัวใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ นางรีบวิ่งไปดูบัลลังก์สุดอลังการนั่นด้วยความตื่นเต้นในทันที นี่แหละความอลังการที่นางหวังถึง! เยว่เล่อลูบลายสลักด้วยความประณีตอย่างแผ่วเบา พอมาใกล้ๆแล้วบัลลังก์ดูใหญ่กว่าเดิมอีก “ข้าลองนั่งดูได้หรือไม่” เยว่เล่อหันไปถามฮุ่ยหมินกับสหายโจรที่กำลังเดินมาหา “ได้สิ ถ้าเจ้ายอมมาเป็นเมียข้าย่อมมีสิทธินั่งบนบัลลังก์อยู่แล้ว” เยว่เล่อชะงักตูดของตัวเองที่กำลังจะนั่งลงเมื่อยินคำว่า ‘ได้สิ’ แต่เมื่อได้ยินเงื่อนไขข้างหลังจึงรีบยกตูดตัวเองขึ้นมายืน มองบัลลังก์ด้วยสายตาดุจรังเกียจมาก “ชิ แค่รองเท้าข้ายังไม่อยากเอาไปวางเลย” เยว่เล่อสะบัดหน้าหนี กำลังมองหาสิ่งสนุกใหม่ก็ได้ยินเสียงชาย

  • กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1   บทที่30 โจรกระจอก

    เยว่เล่อออกมากับพวกอันหรานและหยู่เซินโดยที่ไม่มีเป่าตงและเสวี่ยปิงตามมาด้วย ท่าเรือในยามค่ำคืนยังคงคึกคักมิต่างจากตอนกลางวัน ตลอดถนนเส้นทางมีโคมไฟจุดจนสว่าง เยว่เล่อสังเกตเห็นว่ามีเรือเข้าออกตลอดเวลา ทั้งยังมีคนของทางการเดินตรวจตราเข้มงวด นางเดินตามอันหรานกับหยู่เซินจนมาพบกับฮุ่ยหมินและฮันสุ่ยยืนพิงกำแพงรออยู่ “ไหนล่ะเรื่องสนุกที่เจ้าว่า” เยว่เล่อถามฮุ่ยหมิน นางไม่เห็นทีท่าว่าท่าเรือที่มีคนเยอะแยะเช่นนี้จะสามารถมีรังโจรซุกซ่อนเอาไว้ได้ “ตามมาสิ” ฮุ่ยหมินตอบ เขาใช้พลังปราณใช่แหวนมิตินำถุงผ้าและเบ็ดตกปลาหลายคันมาถือและแบ่งให้กับลูกน้องของตัวเองเยวเล่อเดินตามเขาไปเรื่อยๆ แม้พวกเขาจะเดินตรงไปที่ท่าเรือแต่นางก็ยังไม่ถามอะไรออกมา พวกเขาเดินตรงไปที่ซุ่มโต๊ะที่มีการตรวจตาคนเข้าออกท่าเรือ “พวกเจ้าจะออกเรือไปทำอะไร” นายตรวจถามเสียงเข้มเมื่อมีชายหนุ่มหน้าตาเจ้าสำอางกับผู้ชายอีกสามคนและมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนยืนอยู่ด้านหลัง ดูน่าสงสัยไม่น้อย “ข้ากับคนในครอบครัวจะออกออกไปตกหมึกน่ะ ท่านเป็นนายตรวจแห่งท่าเรือนี้คงรู้สิน่ะว่าหมึกต้องตกตอนกลางคืนน่ะ” “พวกเจ้าไปได้แ

  • กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1   บทที่29 ไข่สดใหม่จากผู้ผลิต

    ก่อนที่เหตุการณ์เลวร้ายจะเกิดขึ้นเสวี่ยปิงจึงรีบลากคอเป่าตงจนตัวลอยมาวางไว้ข้างหลังผ้าคลุมโต๊ะแล้วกระซิบเสียงลอดไรฟันว่า ‘คอยดูสถานการณ์ไปก่อน’ เป่าตงที่กำลังมึนงงยิ่งงงเข้าไปอีกเมื่ออยู่ๆหมาโง่อย่างเสวี่ยปิงกับไม่ทำเรื่องงี่เง่าแต่กลายเป็นมันเสียเอง “พระเจ้า ข้าขอดูใกล้ๆสักหน่อย” เมื่อพ่อค้าทำท่าจะถลาตัวเข้ามาหยิบไข่ไป เยว่เล่อที่ไหวตัวทันจึงรีบไปหลบหลังฮุ่ยหมินที่ยืนหน้าบึ้งตึงอยู่ ความคิดแรกของพ่อค้าคือจะใช้กำลังแย่งชิงมาต้องตกไปเพราะเขาพึ่งจับได้กับสัมผัสไอปราณที่พึ่งออกมาจากรอบๆตัวของชายหน้าตาเจ้าสำอาง ถึงพ่อค้าจะมีระดับปราณต่ำกว่าจนมิสามารถล่วงรู้ได้ว่าเขาอยู่ระดับไหนแต่จากประสบการณ์ชายคนนี้ย่อมมีระดับไม่ต่ำกว่าระดับหกแน่ ขนของเขาลุกซู่รีบถอยหลังกลับไป “ข้าแค่จะขอตรวจดูเท่านั้นว่าใช่ของจริงหรือป่าว” “พี่ชาย อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเลย ชายสี่คนที่มากับข้าถึงจะดูไม่เอาไหนไปบ้าง ดูติ๊งต๊องไปสักหน่อย แต่พวกเขาเป็นถึงสมาชิกองโจรที่โหมเหี้ยมเช่นกองโจรเงาพรายอสูรเชียวนะ หากเกิดอะไรขึ้นมาร้านเล็กๆของท่านมิรู้ว่าจะมีสิ่งใดเหลือบ้าง…แต่หากคิด ว่าเบื้องหลังท่านยิ่ง

  • กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1   บทที่28 กาชาไข่อสูร

    ณ เมืองท่าของแคว้นซูบรรยากาศอบอ้าวไปด้วยลมร้อนของทะเล กลิ่นเค็มจากสายลมทำให้สมองตื่นตัวแบบน่าประหลาด ทั้งผืนน้ำกว้างใหญ่ หาดทรายและต้นมะพร้าวสูงใหญ่ล้วนเป็นสิ่งที่เยว่เล่อไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิต นางวิ่งเหยียบย่ำทรายนุ่มขาวกับเสวี่ยปิงโดยมีเป่าตงเดิมสง่างามตามมา มันมองเหยียดยัยเด็กฟันน้ำนมและหมาโง่ที่ทำตัวเป็นบ้านนอกไม่เคยเห็นทะเลมาก่อน ซ่า เมื่อคลื่นทะเลซัดพื้นทรายจนมาโดนเท้าของเป่าตง มันตกใจมากจนวิ่งหนีออกจากฝั่งไปไกล สะบัดเท้าเอาน้ำทะเลออกจากฝ่ามือแล้วดม พอได้กินเค็มๆจึงลองชิมอย่างกล้าๆกลัวๆ มันเบิกตาโตทันทีเมื่อพบว่าน้ำมันเค็ม อย่าบอกนะว่าผืนน้ำที่กว้างใหญ่ทั้งหมดนี้คือน้ำเค็มทั้งหมด! ฮุ่ยหมิน ฮันสุ่ย อันหรานและหยู่เซินทำหน้าตายมองภาพคนบ้านนอกตื่นทะเล พวกเขาอยากจะทำเป็นไม่รู้จักกับเยว่เล่อด้วยซ้ำเมื่อเห็นนางสะดุดขาตัวเองแล้วจมทะเลลึกแค่เข่า! เสวี่ยปิงใช้หัวดันหลังเจ้านายตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะจมน้ำตื้นตาย เป็นการตายที่น่าสมเพสมากมิใช่หรือ มันไม่อยากมีประวัติว่าเคยมีเจ้านายโง่ขนาดนี้มาก่อน มันยังไม่อยากถูกลูกหลานตัวเองล้อจนตาย! แค่กๆ เยว่เล่อลุกข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status