แชร์

บทที่2 ผู้(จำยอม)สมรู้ร่วมคิด

ผู้เขียน: Iris_
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-09 23:10:07

     เมื่อตกลงจับมือร่วมสัญญากันได้แล้วเยว่เล่อและซูเจียวจึงมาคุยกันที่โขดหินข้างน้ำตกเพื่อวางแผนการหลบหนี

      “แล้วยังไงล่ะว่าแผนของพี่มาสิ เราจะหนีจากตำหนักลอยฟ้าขนาดใหญ่เท่าทวีปนี้ได้ยังไง ในเมื่อหากอยากลงตำหนักลอยฟ้ามีเพียงทางขึ้นลงทางเดียวเท่านั้นคือสะพานพาดเมฆาที่ยึดแผ่นดินโลกเบื้องล่างกับตำหนักลอยฟ้าเอาไว้ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเราต้องมีป้ายอนุญาติผ่านทางแถมที่นั่นยังมีคนของสำนักเฝ้าเต็มไปหมด”

     “ไม่เห็นจะยากเราก็เดินลงไปเลยสิ จะหลบๆซ่อนๆให้เสียเกียติชาวยุทธุ์ทำไม” คิ้วของซูเจียวกระตุกยิกๆไม่อยากหลบซ่อนเพราะเสียเกียรติ? พี่สาวของนางรู้จักคำนี้ด้วยหรือที่ผ่านมาเห็นทำตลอดจนเคยชินเสียมากกว่า!

     “เอาเถอะ ผ่านคนคุ้มกันน่ะไม่เท่าว่าจะไปถึงขอบตำหนักที่สะพานพาดเมฆาอย่างไร พี่ลืมไปแล้วหรือว่าจวนเราตั้งอยู่กลางตำหนัก ต่อให้ใช้ลมปราณเร่งเดินทางไปขอบตำหนักยังต้องใช้เวลากว่า 1 เดือน ยังไงก็ไม่มีทางหนีรอดคนของสำนักได้ถึงเดือน”

     “ซูเจียว ซูเจียวมีครั้งไหนบ้างที่พี่สาวเจ้าไม่วางแผนให้รอบคอบ เจ้าประมาณข้าไปแล้วจริงๆ” แสงสะท้อนของหยกในมือของเยว่เล่อทำให้ซูเจียวตกใจยิ่ง เพราะมันคือป้ายหยกบัญชาเมฆาสมบัติเทพที่สามารถสั่งการดินแดนลอยฟ้าอย่างตำหนักเทียนฝูให้ลอยไปไหนต่อไหนได้ มันล้ำค่ามากเสียจนแม้แต่เจ้าสำนักอันดับหนึ่งอย่างท่านลุงหลางเหว่ยยังมิอาจครอบครองได้ มันถูกเก็บไว้ในคลังสมบัติของท่านปู่อย่างดี แต่ตอนนี้มันตกมาอยู่ในมือพี่สาวของนางได้อย่างไร

     “พี่ไปเอามันมาได้ยังไงอย่าบอกนะว่าไปขโมยมาน่ะ เรื่องนี้เรื่องใหญ่มากท่านปู่ทวดมอบมันให้ท่านปู่เอง เพราะอย่างนั้นมันไม่จบแค่ถูกทัณฑ์สววรค์แน่”

     “เด็กโง่ ถึงข้าจะกล้าหาญเพียงไรก็ไม่ถึงขั้นกล้าขโมยมันหรอกน่าซูๆ ไอ้นี่น่ะท่านปู่มอบมันให้ข้ากับมือเอง คิกคิก เจ้าจำเมื่อ 5 ปีก่อนที่ข้าเศร้าซึมเพราะเบื่อหน่ายที่อยู่แต่ในจวนจนกินอะไรไม่ได้นั่นรึป่าว ตอนนั้นท่านปู่อดสงสารข้าไม่ได้จนต้องเปิดคลังสมบัติยกมันให้ข้าเลยล่ะ” ท่าทางน่าสงสารราวกับกวางน้อยมาทุกครั้งที่พูดถึงท่านปู่ แต่มีหรือเจียวๆจะดูพี่สาวไม่ออก มองจากนอกตำหนักลงมายังรู้ว่าเล่อเล่อวางแผนเพื่อล่อสมบัติจากท่านปู่

     “พี่จะเคลื่อนตำหนักเทียนฟูลงที่โลกเบื้องล่างหรือ อย่างนั้นแผนเราจะไม่แตกเร็วเกินไปหรอ”

     “แปะ ป้ายหยกบัญชาเมฆาเป็นถึงสมบัติเทพจะทำได้แค่ควบคุมตำหนักเทียนฝูได้อย่างไรเล่า” เยว่เล่อดีดหน้าผากซูเจียวด้วยความเอ็นดูความคิดของนาง

     “แล้วข้าจะรู้ได้ไง พี่บอกข้ามาสิ”

     “เจ้าคิดว่าหลายปีที่ผ่านมาข้าวิ่งวุ่นทั่วตำหนักเทียนฝูไปเพื่ออะไรกัน”

     “เพื่อเที่ยวไง” เหตุผลของซูเจียวทำเอาเยว่เล่อแทบกระอัก

     “อะ แฮ่ม นั่นก็แค่ผลพลอยได้ ความจริงแล้วป้ายบัญชาเมฆานอกจากจะควบคุมตำหนักเทียนฝูได้แล้วยังสามารถพาข้าไปได้ทุกที่ที่ข้าเคยไปในตำหนักเทียนฝูขอเพียงชั่วอึดใจเท่านั้น ค่อยดูนะ” เพียงชั่วพริบตาเยว่เล่อก็หายไปจากสายตาของซูเจียวแล้วไปโผล่บนยอดน้ำตกพร้อมโบกมือส่งให้จากข้างบน อีกชั่วอึดใจก็ปรากฎมาตรงหน้าของซูเจียวอีกครั้ง

     “ไม่อยากจะเชื่อ ทำได้จริงๆด้วยวิเศษมาก ทีนี้เราก็ไปที่โลกเบื้องล่างได้เลยน่ะสิพี่” ซูเจียวตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นจนแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่

     “มันจะง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร ข้าเคยไปไกลมากสุดก็แค่เมืองชิวหวาเตียนที่เป็นเมืองด่านของสะพานพาดเมฆาเท่านั้นแหละ แต่ไม่ต้องห่วงๆ ข้ารู้จักคนที่จะพาเราไปได้จับมือข้าสิ” พอเห็นสีหน้าเป็นกังวลของซูเจียวนางจึงรีบบอกทางออกทันที นางคว้ามือซูเจียวแล้วใช้หยกหายตัวไปที่ย่านเริงรมย์ ณ ร้านอันดับหนึ่งในย่าน หอจันทร์เสี้ยว นางมาเพื่อพบใครบางคน เขาจะเป็นคนพาพวกนางออกจากตำหนักลอยฟ้า บุคคลที่เป็นที่รู้จักของผู้คนอย่างกว้างขวางและมีหน้ามีตาในตำหนักเทียนฝู เขาคือคุนฟู่ผู้ติดตามคนสนิทของท่านพ่อ

     สองสาวพี่น้องมาปรากฏตัวตรงทางเดินของห้องพิเศษชั้นสองของหอจันทร์เสี้ยว เพียงแค่รู้ว่านี่คือหอจันทร์เสี้ยวซูเจียวก็รู้บุคคลโชคร้ายคนนั้นและแผนของพี่สาวแล้ว ดีที่ตรงนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านจึงไม่มีใครเห็นพวกนางปรากฎตัว เยว่เล่อมุ่งตรงไปที่ห้องประจำของคุนฟู่อย่างไม่ลังเลแล้วเปิดประตูเข้าไปอย่างห้าวหาญ

     ปังงง!!!

     “เฮ้ย ใครมันบังอาจ...เฮือก คะ คุณหนูใหญ่...เออ พวกเจ้ารีบออกไปสะ ไป!!!”ความเกี้ยวกราดหายไปเพียงพริบตาเดียวเมื่อเห็นหน้าคุณหนูใหญ่ตัวป่วนของสำนัก คุนฟู่รีบไล่นางคณิกา 2 คนที่กำลังนัวเนียกันอยู่ออกไปทันที

     “ซูเจียวยามนี้ยามอะไรนะบอกข้าที”

     “แหม ตะวันยังจ่อหัวเช่นนี้ก็ต้องเป็นยามโฉ่วสิเล่อเล่อ”คุนฟู่ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นคุณหนูรองตัวป่วนอันดับที่สองเดินตามเข้ามาในห้อง

     “ตายจริง แล้วเหตุใดท่านผู้ติดตามคุนฟู่ของเจ้าสำนักมังกรฟ้าถึงมานั่งดื่มสุราเคล้านารีอยู่ในย่านเริงรมย์แต่หัววันเลยล่ะ”

      “นั่นสิท่านพี่ เขาช่างใจกล้าเสียจริงที่ละเลยหน้าที่หนีมาเช่นนี้ อืมมม ข้าพอจำกฎสำนักได้อยู่บ้าง ข้อที่ 241 ละเลยหน้าที่อันเป็นการไร้ความรับผิดชอบต่อตนเองและสำนัก โทษปลดลดขั้น 3 ตำแหน่ง ข้อ 252 ข้อนี้ร้ายแรงที่สุดลุ่มหลงอิสตรีและสิ่งมึนเมาจนหลงลืมสิ่งที่ควรกระทำ โทษขับไล่ออกจากสำนัก”

     อึก คุนฟู่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ เขาโดนสองพี่น้องคู่นี้ข่มขู่กกลั่นแกล้งจนพาไปทำเรื่องมากมายมาเกินพอแล้ว ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมอีกแล้ว!!

     “เรียนคุณหนูพวกท่านเข้าใจข้าผิดแล้ว เป็นนายท่านที่สั่งให้ข้าพักผ่อนก่อนจะต้องไปช่วยนายท่านตอนค่ำๆนี้ คืนนี้ข้าต้องทำงานล่วงเวลาไหนเลยจะมีเวลาพัก นายท่านมีเมตตาจึงให้ข้ามาพักก่อนจะต้องทำงานหนัก ดังนั้นตอนนี้คือเวลาพักของข้ามิใช่เวลางานขอรับ” ใบหน้าของคุนฟู่เชิดขึ้นอย่างเหนือกว่า เขาเน้นย้ำคำว่าเวลาพักให้คุณหนูทั้งสองฟัง ความหนักแน่นของเขากลับห่อเหี่ยวลงภายในระยะเวลาสั้นๆเมื่อคุณหนูใหญ่ชูสิ่งหนึ่งขึ้นมา

     “จริงหรือข้าไม่รู้ แต่ข้าพอรู้นะว่านี่คือป้ายวีไอพีสุดพิเศษของหอจันทร์เสี้ยวที่ต้องเข้าใช้บริการห้องพิเศษติดกันอย่างน้อย 5 ปีถึงจะได้มันมา หากมีข่าวลือว่าผู้ติดตามคนสนิทของท่านเจ้าสำนักเป็นคนมากโลกีย์จะเป็นเช่นไรหรือซูเจียว” ถึงเขาจะเป็นคนสนิทของท่านพ่อจนไม่มีใครกล้ารายงานเรื่องนี้ หรือแม้แต่ตัวท่านพ่อเองก็ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่หากเรื่องนี้ทราบถึงท่านแม่ล่ะก็... เยว่เล่อนั่งลงบนตั่งก่อนจะควงพู่ห้อยป้ายหยกให้คุนฟู่ดู พอเห็นเขารีบกระวนกระวายรื้อค้นหาป้ายในเสื้อผ้าตนเอง

     “ตายจริงหากเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นคงกลายเป็นที่ครหาไปทั่ว ไม่ใช่แค่เพียงในตำหนักเทียนฝูแต่เป็นทั่วทั้ง5ทวีป9สมุทร พระเจ้า นี่ยังไม่พูดถึงท่านป้าเลยนะ ถ้าท่านป้ารู้... แต่เดี๋ยวก่อนท่านพี่ จะมีใครคิดสั้นฆ่าตัวตายเช่นนั้นเล่า ทั้งๆที่ได้เป็นถึงผู้ติดตามคนสนิทของเจ้าสำนักอันดับหนึ่งแสนจะมีเกียรติและภาคภูมิ มีใครยอมละทิ้งมันเพื่อคาวโลกีย์บ้างข้าไม่รู้เลยจริงๆ”

      “ใครกันนะ เอ๋ ป้ายหยกมันอ่านว่าอะไรนะ นายท่านคุนฟะ...” ไม่ทันจะอ่านป้ายนั่นจบคุนฟู่ก็รีบเอ่ยขัดทันทีด้วยความจำยอม

     “ครั้งนี้พวกคุณหนูอยากไปเที่ยวที่ไหนล่ะขอรับ” ร่างหนาใหญ่รีบลุกขึ้นยืนถูมือเอยเสียงหวานประจบประแจง

     “ก็ไม่ไกล...” เยว่เล่อมองตาซูเจียวอย่างรู้ใจพวกนางลุกขึ้นเข้าไปแตะตัวของคุนฟู่อย่างรวดเร็วและพูดพร้อมกัน

     “โลกเบื้องล่าง/โลกเบื้องล่าง”

     “ห้ะ!!!!”

     ไม่ทันที่เขาจะได้ห้ามปรามอะไรร่างของคนทั้งสามก็หายตัวไปเพียงชั่วพริบตา เหลือเพียงไออุ่นของมนุษย์ให้พอรู้ว่าเคยมีคนอยู่เมื่อไม่นานมานี้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1   บทที่33 สามี ภรรยา และเหล่านายอนุน้อยทั้งสาม?

    หลังจากเดินซื้อของจนหมดเรี่ยวแรงร่างกายของเยว่เล่อก็ล้มตัวนอนบนฟูกนุ่มๆทันทีเมื่อกลับถึงห้อง เป่าตงและเสวี่ยปิงที่นอนรออยู่ในห้องเงยหัวขึ้นมามอง “ไปอาบน้ำก่อนค่อยนอน” เสียงเรียบๆของเป่าตงดังขึ้นมา ตอนนี้มันเหมือนกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กเต็มตัว “ขอนอนพักสักพักค่อยไปอาบ” เยว่เล่อนอนหงายกางแขนกางขาจนเต็มเตียง สายตามองเพดานเตียงอย่างเลื่อนลอย ส่วนหนึ่งในใจตื่นเต้นที่จะได้ออกเดินทางจากทวีปหยางจื่อตี้แล้ว แต่อีกใจหนึ่งก็กังวลอยู่เรื่องหนึ่ง ฟึบ เยว่เล่อตะแคงข้างหันไปมองเป่าตงและเสวี่ยปิงที่นอนอยู่บนเบาะของตัวเอง ตอนแรกนางตกลงกับพวกมันว่าหากข้ามทวีปได้สำเร็จจะปล่อยพวกมันให้เป็นอิสระ…แต่ในใจเยว่เล่อดันเกิดความเห็นแก่ตัวขึ้นมา นางไม่อยากปล่อยพวกมันไปเลย แม้เป่าตงจะขี้บ่น ขี้เหวี่ยง ขี้วีนแค่ไหน แต่มันก็คอยช่วยนางอยู่ข้างๆเสมอ เสวี่ยปิงเองถึงแม้จะเป็นหมาขี้ประจบ แต่มันก็เป็นเหมือนเพื่อนที่ดีของนาง การมีทั้งสองตัวอยู่ด้วยทำให้การเดินทางของนางไม่เหงาเลยสักวัน ทุกวันมีแต่เรื่องสนุกเต็มไปหมด ถ้าจะต้องจากกันในวันพรุ่งนี้… แค่คิดถึงเรื่องน่าเศร้าดวงตาของเยว่เล่อก็เริ่มแดงก่ำ

  • กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1   บทที่32 การรีดไถคนของนางแม้แต่โจรยังต้องชื่นชม

    พอเช้าวันต่อมา เยว่เล่อ ฮุ่ยหมินและเหล่าสหายโจรก็นั่งเรือซ่อมซ่อลำเดิมพร้อมปลาหมึกกลับมายังท่าเรือ สภาพของเหล่าสหายโจรดูย่ำแย่เกินกว่าจะบรรยายได้ เพราะพวกเขาไม่ได้เจอเหล่าสหายพี่น้องกองโจรมาหลายอาทิตย์จึงกินดื่มกันจนเมาหัวราน้ำ ส่วนเยว่เล่อมิได้ร่วมดื่มแต่สภาพกลับไม่ต่างกันเท่าไรนักเมื่อนางเมากลิ่นซากปลาหมึก! เยว่เล่อไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าจะเอาพวกมันไปด้วยทำไม แต่พอนางบอกให้เอาโยนทิ้งไปฮุ่ยหมินก็รีบมาห้ามไว้เพราะบอกว่ากลับไปมือเปล่ามันน่าสงสัย “แหวะ อ้วก” เพียงแค่ขึ้นมาถึงฝั่งเยว่เล่อและเหล่าสหายโจรก็ประจำพุ่มไม้แยกกันอ้วกจนหมดพุง หลังลากสังขารกลับโรงเตี๊ยมได้ หลงจู๊ของโรงเตี๊ยมรีบวิ่งมารายงานคนที่สภาพดีที่สุดเช่นฮุ่ยหมินว่ามีคนฝากจดหมายเอาไว้ให้ เมื่อเขาคลี่จดหมายออกจึงพบว่าเป็นนัดหมายตกลงราคาสินค้า เขามิค่อยพอใจนักที่นางจะขายสิ่งล้ำค่าหายากเช่นไข่ของหงส์เพลิง แต่ในเมื่อตกลงกันแล้วว่าเขาได้เงินนางได้หินนั่นจึงทำอะไรไม่ได้ อีกอย่างคนที่คว้าชัยชนะมาได้ก็คือนาง “น้องสาวเจ้าไหวมั้ยเนี่ย” ฮุ่ยหมินพยุงหิ้วปีกร่างของเยว่เล่อขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ดีๆ “เอ้า จดหมายของเจ

  • กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1   บทที่31 วิชาโจรเงาพรายอสูร 001 ว่าด้วยเรื่องการเป็นโจรที่ดีต้องเป็นคนดีเสียก่อน

    ใช้แรงไปไม่น้อยเมื่อต้องปีนบันไดเชือกมาถึงสามสิบชั้น แต่เพียงแค่ขึ้นมาถึงดาดฟ้าเรือใจของเยว่เล่อก็เต้นระส่ำไปหมด มีเรื่องน่าสนใจให้จ้องมองเต็มไปหมด ทั้งหอคอยปราการที่ตั้งสูงบนนั้นแล้วยังติดตั้งปืนใหญ่เอาไว้ ทั้งยังมีบ่อปลาเสริมมงคล ไหนจะห้องดูหรูหราตกแต่งด้วยทองบนอีกชั้นของดาดฟ้านั่นอีก แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเยว่เล่อที่สุดคงจะเป็นบัลลังก์สีดำสลักลวดลายอสูรตัวใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ นางรีบวิ่งไปดูบัลลังก์สุดอลังการนั่นด้วยความตื่นเต้นในทันที นี่แหละความอลังการที่นางหวังถึง! เยว่เล่อลูบลายสลักด้วยความประณีตอย่างแผ่วเบา พอมาใกล้ๆแล้วบัลลังก์ดูใหญ่กว่าเดิมอีก “ข้าลองนั่งดูได้หรือไม่” เยว่เล่อหันไปถามฮุ่ยหมินกับสหายโจรที่กำลังเดินมาหา “ได้สิ ถ้าเจ้ายอมมาเป็นเมียข้าย่อมมีสิทธินั่งบนบัลลังก์อยู่แล้ว” เยว่เล่อชะงักตูดของตัวเองที่กำลังจะนั่งลงเมื่อยินคำว่า ‘ได้สิ’ แต่เมื่อได้ยินเงื่อนไขข้างหลังจึงรีบยกตูดตัวเองขึ้นมายืน มองบัลลังก์ด้วยสายตาดุจรังเกียจมาก “ชิ แค่รองเท้าข้ายังไม่อยากเอาไปวางเลย” เยว่เล่อสะบัดหน้าหนี กำลังมองหาสิ่งสนุกใหม่ก็ได้ยินเสียงชาย

  • กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1   บทที่30 โจรกระจอก

    เยว่เล่อออกมากับพวกอันหรานและหยู่เซินโดยที่ไม่มีเป่าตงและเสวี่ยปิงตามมาด้วย ท่าเรือในยามค่ำคืนยังคงคึกคักมิต่างจากตอนกลางวัน ตลอดถนนเส้นทางมีโคมไฟจุดจนสว่าง เยว่เล่อสังเกตเห็นว่ามีเรือเข้าออกตลอดเวลา ทั้งยังมีคนของทางการเดินตรวจตราเข้มงวด นางเดินตามอันหรานกับหยู่เซินจนมาพบกับฮุ่ยหมินและฮันสุ่ยยืนพิงกำแพงรออยู่ “ไหนล่ะเรื่องสนุกที่เจ้าว่า” เยว่เล่อถามฮุ่ยหมิน นางไม่เห็นทีท่าว่าท่าเรือที่มีคนเยอะแยะเช่นนี้จะสามารถมีรังโจรซุกซ่อนเอาไว้ได้ “ตามมาสิ” ฮุ่ยหมินตอบ เขาใช้พลังปราณใช่แหวนมิตินำถุงผ้าและเบ็ดตกปลาหลายคันมาถือและแบ่งให้กับลูกน้องของตัวเองเยวเล่อเดินตามเขาไปเรื่อยๆ แม้พวกเขาจะเดินตรงไปที่ท่าเรือแต่นางก็ยังไม่ถามอะไรออกมา พวกเขาเดินตรงไปที่ซุ่มโต๊ะที่มีการตรวจตาคนเข้าออกท่าเรือ “พวกเจ้าจะออกเรือไปทำอะไร” นายตรวจถามเสียงเข้มเมื่อมีชายหนุ่มหน้าตาเจ้าสำอางกับผู้ชายอีกสามคนและมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนยืนอยู่ด้านหลัง ดูน่าสงสัยไม่น้อย “ข้ากับคนในครอบครัวจะออกออกไปตกหมึกน่ะ ท่านเป็นนายตรวจแห่งท่าเรือนี้คงรู้สิน่ะว่าหมึกต้องตกตอนกลางคืนน่ะ” “พวกเจ้าไปได้แ

  • กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1   บทที่29 ไข่สดใหม่จากผู้ผลิต

    ก่อนที่เหตุการณ์เลวร้ายจะเกิดขึ้นเสวี่ยปิงจึงรีบลากคอเป่าตงจนตัวลอยมาวางไว้ข้างหลังผ้าคลุมโต๊ะแล้วกระซิบเสียงลอดไรฟันว่า ‘คอยดูสถานการณ์ไปก่อน’ เป่าตงที่กำลังมึนงงยิ่งงงเข้าไปอีกเมื่ออยู่ๆหมาโง่อย่างเสวี่ยปิงกับไม่ทำเรื่องงี่เง่าแต่กลายเป็นมันเสียเอง “พระเจ้า ข้าขอดูใกล้ๆสักหน่อย” เมื่อพ่อค้าทำท่าจะถลาตัวเข้ามาหยิบไข่ไป เยว่เล่อที่ไหวตัวทันจึงรีบไปหลบหลังฮุ่ยหมินที่ยืนหน้าบึ้งตึงอยู่ ความคิดแรกของพ่อค้าคือจะใช้กำลังแย่งชิงมาต้องตกไปเพราะเขาพึ่งจับได้กับสัมผัสไอปราณที่พึ่งออกมาจากรอบๆตัวของชายหน้าตาเจ้าสำอาง ถึงพ่อค้าจะมีระดับปราณต่ำกว่าจนมิสามารถล่วงรู้ได้ว่าเขาอยู่ระดับไหนแต่จากประสบการณ์ชายคนนี้ย่อมมีระดับไม่ต่ำกว่าระดับหกแน่ ขนของเขาลุกซู่รีบถอยหลังกลับไป “ข้าแค่จะขอตรวจดูเท่านั้นว่าใช่ของจริงหรือป่าว” “พี่ชาย อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเลย ชายสี่คนที่มากับข้าถึงจะดูไม่เอาไหนไปบ้าง ดูติ๊งต๊องไปสักหน่อย แต่พวกเขาเป็นถึงสมาชิกองโจรที่โหมเหี้ยมเช่นกองโจรเงาพรายอสูรเชียวนะ หากเกิดอะไรขึ้นมาร้านเล็กๆของท่านมิรู้ว่าจะมีสิ่งใดเหลือบ้าง…แต่หากคิด ว่าเบื้องหลังท่านยิ่ง

  • กลวิธีหนีออกจากบ้านของคุณหนูเเห่งสำนักอันดับ1   บทที่28 กาชาไข่อสูร

    ณ เมืองท่าของแคว้นซูบรรยากาศอบอ้าวไปด้วยลมร้อนของทะเล กลิ่นเค็มจากสายลมทำให้สมองตื่นตัวแบบน่าประหลาด ทั้งผืนน้ำกว้างใหญ่ หาดทรายและต้นมะพร้าวสูงใหญ่ล้วนเป็นสิ่งที่เยว่เล่อไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิต นางวิ่งเหยียบย่ำทรายนุ่มขาวกับเสวี่ยปิงโดยมีเป่าตงเดิมสง่างามตามมา มันมองเหยียดยัยเด็กฟันน้ำนมและหมาโง่ที่ทำตัวเป็นบ้านนอกไม่เคยเห็นทะเลมาก่อน ซ่า เมื่อคลื่นทะเลซัดพื้นทรายจนมาโดนเท้าของเป่าตง มันตกใจมากจนวิ่งหนีออกจากฝั่งไปไกล สะบัดเท้าเอาน้ำทะเลออกจากฝ่ามือแล้วดม พอได้กินเค็มๆจึงลองชิมอย่างกล้าๆกลัวๆ มันเบิกตาโตทันทีเมื่อพบว่าน้ำมันเค็ม อย่าบอกนะว่าผืนน้ำที่กว้างใหญ่ทั้งหมดนี้คือน้ำเค็มทั้งหมด! ฮุ่ยหมิน ฮันสุ่ย อันหรานและหยู่เซินทำหน้าตายมองภาพคนบ้านนอกตื่นทะเล พวกเขาอยากจะทำเป็นไม่รู้จักกับเยว่เล่อด้วยซ้ำเมื่อเห็นนางสะดุดขาตัวเองแล้วจมทะเลลึกแค่เข่า! เสวี่ยปิงใช้หัวดันหลังเจ้านายตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะจมน้ำตื้นตาย เป็นการตายที่น่าสมเพสมากมิใช่หรือ มันไม่อยากมีประวัติว่าเคยมีเจ้านายโง่ขนาดนี้มาก่อน มันยังไม่อยากถูกลูกหลานตัวเองล้อจนตาย! แค่กๆ เยว่เล่อลุกข

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status