LOGIN
"ไอ้ผู้ชายเลว"
"ไอ้เฮงซวย"
"ไอ้คนไม่รู้จักพอ"
คำด่างึมงำอยู่ในลำคอของหญิงสาวที่กำลังนั่งดื่มเหล้าคนเดียว ใบหน้าเรียวยาวของเธอสวยเฉี่ยวดูทันสมัย ถ้าหากมองเผินๆไม่คิดอะไร ก็คงคิดว่าเธอมาดื่มชิวๆ หลังเลิกงาน แต่ถ้าหากได้มองดีๆ จะพบว่าดวงตาภายใต้แพขนตาหนามีความเจ็บปวดซ่อนอยู่ภายใน
"ระวังเมานะครับ"
บาร์เทนเดอร์หนุ่มเอ่ยเตือนสาวสวยที่มานั่งดื่มเหล้าคนเดียวเงียบๆ เกือบสองชั่วโมง เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตาพร้อมกับรอยยิ้มที่พยายามฝืนเต็มทน
"เมาก็ดีสิ"
ซินเจียตอบ จุดประสงค์ที่เธอมาดื่มก็เพราะอยากเมา เมาให้ลืมผู้ชายที่หักหลังเธอ ความรักที่ทุ่มเทให้ไป สุดท้ายก็ไม่มีค่าและราคา คบกันมาตั้งสามปี ต่อหน้าทำตัวเป็นแฟนหนุ่มที่ดี แต่ลับหลังเธอกลับทำเรื่องเลวทราม
"เห็นฉันเป็นควายหรือไง"
ซินเจียหัวเราะทั้งน้ำตา คนหนึ่งเป็นแฟนที่กำลังจะจัดงานแต่งงานกัน ส่วนอีกคนก็เป็นเพื่อนรักที่เธอสนิทและไว้ใจ แต่ทำไมถึงทำร้ายกันได้ลงคอ
'วันนี้ฉันมีทำโอที คุณกินข้าวไปก่อนเลยนะคะไม่ต้องรอ'
ข้อความที่เธอพิมพ์ไปบอกแฟนหนุ่ม ถูกเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว
'งานค้างเยอะเหรอครับ'
'นิดหน่อยค่ะ'
'ให้ผมไปรับไหม'
'ไม่เป็นไรค่ะ ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน คุณพักผ่อนเถอะ วันนี้ฉันว่าจะกลับไปนอนที่คอนโดของตัวเอง พรุ่งนี้ค่อยเจอกันนะคะ'
เธอพิมพ์ตอบแฟนหนุ่มไปอย่างนั้น แต่ความจริงกำลังยืนเลือกซื้อเค้กอยู่ วันนี้เป็นวันครบรอบสามปีที่คบกัน และอีกแค่สามเดือนก็จะมีงานหมั้นระหว่างสองตระกูล วันนี้เธอรีบเคลียร์งาน เพราะอยากจะไปเซอร์ไพร์สผู้ชายที่กำลังจะกลายมาเป็นสามี
'เขาไม่มีอะไรเลยนะ"
'คิดให้ดีนะซินเจีย
'เขาชอบแกจริงๆ ใช่ไหม'
คำถามที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของเพื่อนไม่ได้มีผลให้เธอเปลี่ยนใจ ในเมื่อผู้ชายคนนี้ดีกับเธอ แถมหน้าตาก็หล่อตรงสเป็คทุกประการ คนที่ไม่เคยมีแฟนจริงๆ จังๆ วันๆ หมกมุ่นทำแต่งาน พอเจอผู้ชายเอาใจหยอดคำหวาน มันก็พลอยทำให้หวั่นไหว สุดท้ายเป็นไง สามปีเต็มๆ เพียงพอแล้วที่ผู้ชายคนนี้จะได้พิสูจน์ตัวเอง
'ผมรักคุณ แต่งงานกันนะ'
ไฟบอกรักยังคงสะท้อนก้องในหู เธอยิ้มพยักหน้ารับทั้งน้ำตา ยื่นนิ้วนางข้างซ้ายมาให้เขาสวมแหวนเงินเกลี้ยงที่ไม่ได้มีราคาแพงอะไรเลย แต่กลับมีค่าทางจิตใจ เธอโพสต์ลงในโซเชี่ยลทันที และเพื่อนรักแสนดีก็เข้ามาคอมเม้นท์อย่างไว
'ดีใจด้วยนะซินเจีย'
ข้อความนั้นดูจริงใจ และฉันก็ยังพิมพ์ตอบกลับไปแบบขำๆ ว่า 'ฉันจองตัวเธอเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้วนะ' และด้วยความที่จะแต่งงาน ก็ต้องมีเรือนหอดีๆ และมันก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายชาย
'ผมคงต้องยื่นกูซื้อคอนโด'
'รถผมยังผ่อนไม่หมดเลย'
คำพูดพวกนี้เธอได้ยินเกือบทุกวัน พอเห็นแฟนทำหน้าทุกข์ใจ จะไม่ให้เธอช่วยก็ดูใจร้ายเกิน
'ให้ฉันช่วยไหมคะ'
'ไม่เป็นไร ปัญหาผม ผมต้องแก้เอง'
เขาส่งยิ้มแห้งๆ มาให้เธอ ดูก็รู้ว่ากำลังฝืนทำตัวเป็นปกติให้เธอสบายใจ
'ให้ฉันช่วยเถอะค่ะ"
ผู้หญิงแสนดี มีแต่ความจริงใจให้แฟนหนุ่มเสนอตัว
'แต่ผมเกรงใจคุณ'
หญิงสาวส่ายหน้าไปมา
'อีกไม่กี่เดือนเราสองคนก็จะใช้นามสกุลเดียวกันแล้ว ปัญหาของคุณก็เหมือนปัญหาของฉัน ฉันพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ให้ฉันช่วยคุณนะคะ'
ปัญหางวดรถหมดไป แต่ปัญหาใหม่คือแฟนหนุ่มของเธอยื่นเอกสารกู้ซื้อคอนโดไม่ผ่าน เพราะทำงานเป็นฟรีแลนซ์ ทำให้มีรายได้ไม่แน่นอน ต่างจากเธอที่เป็นถึงนักวิจัยในบริษัทเครื่องสำอางค์ ที่มีเงินเดือนหกหลักกลมๆ
'ผมไม่อยากรบกวนคุณเลย'
'ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเต็มใจ'
ผู้หญิงแสนดี ที่เปย์ทุกอย่างให้ผู้ชาย กำลังยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อถูกคำหวานป้อนยอว่าเธอคือแฟนที่แสนดี
'ผมรักคุณนะ'
'คุณดีกับผมมากจริงๆ'
แค่คำว่า 'รัก' ไม่กี่คำ ก็ทำให้เธอรู้สึกดี เงินในบัญชีหายไปทีละหลายแสนก็ไม่เป็นไร เงินหาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ เป็นยังไงล่ะ! ผู้หญิงสวย แถมหาเงินเก่ง อย่างเธอ แต่ดันโง่เรื่องผู้ชาย แถมยังไม่เคยรู้สึกระแคะระคายอะไร กล้าปล่อยปลาย่างไว้กับแมว แล้วสุดท้ายแมวที่ตอแหลตัวนั้นก็ได้ปลาย่างเธอไปกิน
'อื้อ~ พี่อย่าดูดสิ เป็นรอยหมดแล้ว'
'ก็อย่าตอดพี่แรงสิครับ'
บทสนทนาที่ลอยออกมาจากห้องนอน ทำสองขาของซินเจียหยุกชะงักหน้าห้อง คำพูดที่ได้ยินทุกคำ มันเสียดแทงเข้าไปถึงขั้วหัวใจ ร่างกายรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาทันที
'ซินเจียจะกลับมาตอนไหนคะ'
เสียงหวานถามไปครางไป เมื่อถูกท่อนเนื้อลำใหญ่กระแทกจนสองเต้ากระเพื่อมขึ้นลง
'คืนนี้ไม่กลับ อยู่กับพี่ถึงเช้าเลยได้ไหม พี่คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว'
เสียงที่กำลังออดอ้อนคือเสียงที่เธอคุ้นหูมากกว่าใคร ประตูที่ปิดไม่สนิท ถูกมือที่สั่นเทาค่อยๆ ผลักออกอย่างช้าๆ ภาพเคลื่อนไหวที่เห็นตรงหน้าทำเธอแทบลืมหายใจ ผู้ชายที่กำลังขยับสะโพกเข้าออกอย่างเมามันส์คือผู้ชายที่กำลังจะเป็นสามีเธอ ทั้งจุก ทั้งเจ็บ เกินบรรยายเพราะผู้หญิงที่กำลังนอนอ้าขาให้แฟน คือผู้หญิงที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอนั่นเอง
'ปากดี พี่กำลังจะแต่งงานแล้วนะ'
'แต่งก็แต่งแค่ตัว'
คำตอบของชายหนุ่มเหมือนมีดแหลมคมที่บรรจงกรีดลงกลางใจ แล้วใครกันที่เป็นคนเอ่ยปากขอเธอแต่งงาน
'แล้วพี่จะหย่าตอนไหน'
คำถามนั้นเชือดเฉือนหัวใจ ยังไม่ทันได้แต่งงานกันก็มีแผนจะ 'หย่า' กับเธอแล้วเหรอ ไอ้ผู้ชายเลว
'ใจเย็นๆ รอให้พี่ได้ทุกอย่างที่ต้องการในฐานะสามี มีเงิน มีรถ มีบ้าน แลัวถ้าถึงตอนนั้นพี่จะรีบหย่ากับซินเจีย แล้วมาอยู่กับเธอ รู้ใช่ไหมว่าพี่รักเธอ ที่ทำก็เพื่อเธอจะได้อยู่อย่างสุขสบายนะเสี่ยวเหมย'
คำพูดของผู้ชายที่พร่ำบอกรักเธอ มันไม่ได้ต่างอะไรจากคำหลอกลวง ที่ผ่านมามันคือการแสดง และเธอก็หลงเชื่อจนหมดใจ ไม่ต่างอะไรจากคนโง่จริงๆ ภาพและเสียงที่ได้ยิน มันทำเธอเจ็บจนชาไปทั้งร่างกาย หูมันอื้อ สมองมันเบลอและเธอก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามาถึงร้านเหล้าได้อย่างไร
"ฮึกๆ ฮือ~"
ร่างบางทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าร้องไห้ คนมองเธอก็ไม่อาย เค้กที่ซื้อมาและเขียนคำว่า 'happy anniversary' มันได้กลายเป็นแค่ความทรงจำที่เจ็บปวดเกินทน
"ร้านจะปิดแล้วนะครับ"
เสียงทุ้มของบาร์เทนเดอร์ดึงให้หญิงสาวที่เหม่อลอยหลุดจากภวังค์ เธอนั่งดื่มไปกี่ชั่วโมง ไม่รู้ รู้เพียงว่าเธอจะเมาวันนี้เป็นวันสุดท้าย
"ค่ะ"
เธอตอบงึมงำ พยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ตรงๆ แต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เธอเดินเซ จนชายหนุ่มต้องถามอีกครั้งว่า
"ไหวไหมครับ"
"ฉันไหวค่ะ"
เธอส่งยิ้มบางๆ ให้กับผู้ชายที่ไม่รู้จัก แต่กลับสัมผัสได้ถึงความเป็นห่วง เธอเดินขาขวิดออกมายืนโบกรถแท็กซี่หน้าร้าน และพอกลับมาถึงห้อง เธอก็ทิ้งตัวลงนอนแผ่
เจ็บแล้วจำคือคน...
เจ็บแล้วทนคือควาย!
บอกตัวเองที่จะไม่หันหลังกลับ รักมากเท่าไหร่ ก็เจ็บมากเท่านั้น ในเมื่อสภาพยังไม่พร้อมทำงาน เธอจึงใช้สิทธิ์ลาพักร้อน กะจะพักสมอง รักษาแผลใจ และคิดหาวิธีเอาคืนผู้ชายเลวๆ ที่จ้องฮุบเงินเก็บของเธอ ส่วนเพื่อนที่ไม่น่าจะใช่เพื่อนอีกต่อไป เธอก็มีวิธีจัดการแล้วเหมือนกัน
@ผู้หญิงโง่ๆ
ซินเจียสมัคร 'fanbook' ขึ้นมาใหม่ เธอโพสต์ข้อความระบายในเพจ 'ผู้ชายดีๆ คงมีแต่ในนิยาย' ใจความก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเธอ มีคนมากดให้กำลังใจเยอะมาก และมีข้อความตอบกลับเป็นสิบๆ ข้อความว่า...
'ก็โง่เอง'
'ความรักมันบังตา'
'ผัวที่ดีคือผัวใหม่'
'เริ่มต้นใหม่นะ กอดๆ'
ข้อความที่ส่งมา มีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง คละๆ กันไป ซึ่งเธอก็เข้าใจ คำด่าพวกนี้มันจะได้ทำให้เธอตาสว่างและไม่ใจอ่อนหันหลังกลับไปหาผู้ชายเลวๆ ที่หวังแต่เงิน เธอใช้เวลาอยู่กับตัวเองและปล่อยอารมณ์ไปกับเพลงเศร้าๆ เคล้าน้ำตาและตอบคอมเม้นท์ในกระทู้ที่เธอโพสต์ลงไป
จนกระทั่ง....
มีข้อความอินบ็อคมาหาส่วนตัวว่า
'ผู้ชายดีๆ มีแต่ในนิยาย'
เธออ่านข้อความก่อนจะตอบกลับไปว่า
'คงจะจริง'
พร้อมกับส่งสติ้กเกอร์หมีทำหน้ายิ้มเจื่อนๆ บ่งบอกอารมณ์ไป
'อยากดีขึ้นไวๆ ไหม'
'อยากสิ มีวิธีเหรอ'
'แน่ใจว่าอยากรู้'
'ถ้าไม่อยากรู้คงไม่ถาม'
ซินเจียพิมพ์ตอบกลับไป เธอไม่ได้จะต่อปากต่อคำ แต่เธออยากรู้วิธีที่จะทำให้รู้สึกดีไวๆ และคำตอบที่ได้ก็คือ
'หานิยายอ่านสักเล่มสิ'
เออเนอะ! มาโพสต์ในกลุ่ม 'ผู้ชายดีๆ คงมีแต่ในนิยาย' คำแนะนำก็เลยวกมาที่หานิยายสักเรื่องมาอ่านแก้เซง
'มีแนะนำไหม'
'มีเยอะแยะ'
คำตอบมาพร้อมกับรูปภาพของร้านขายหนังสือที่ดูลึกลับจนน่ากลัว แล้วทำไมต้องปลูกต้นไม้เยอะขนาดนั้นด้วยไม่เข้าใจ
'ลองไปดูสิ'
'มันโอเคใช่ไหม'
ซินเจียพิมพ์ถามไป คำตอบที่ได้กลับมาคือ
'โอเคสิ โอเคมากๆ ด้วย'
"อ่านนิยายอย่างนั้นเหรอ?"
หญิงสาวพึมพำ ในเมื่อเธอว่าง ไม่มีอะไรทำ บางทีนี่อาจเป็นวิธีที่จะทำให้เธอไม่ฟุ้งซ่านระหว่างรักษาแผลใจ แต่จะให้เชื่อคำพูดของคนที่ไม่รู้จักเลยก็กระไร เธอจึงลองเอาชื่อร้านไปค้นหาในเน้ตดู โอเค! มีหน้าร้านจริง แถมยังมีรีวิวด้วยนะเออ
หนังสือถูกมาก
อย่างกับหลุดไปอีกโลกแน่ะ
มีดูหมอด้วยนะตัวเธอ!
พออ่านรีวิวจบปุ๊บ ร่างบางก็ดีดตัวลุกขึ้นปั๊บ เธอก็แค่อยากจะไปหานิยายสนุกๆ สักเรื่องมาอ่าน บอกตัวเองอย่างนั้น แต่พอไปถึงที่ร้าน....
"คิวดูหมอต้องรอนานไหมคะ"
คำตอบที่ได้ทำหญิงสาวถอนหายใจ ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาด้วยความเซง
"อีกตั้งสิบคิว"
ซินเจียเท้าคางมองคนที่มาร้านหนังสือด้วยวัตถุประสงค์เดียวกัน บางคนมาซื้อหนังสือ บางคนมาเพื่อดูหมอ ซึ่งระหว่างที่นั่งรอ ก็ไม่มีอะไรทำ เธอก็เลยเดินไปเลือกหนังสือกะจะเอามาอ่านเล่นรอเวลา ซินเจียเดินไปตามทางเดินในร้านที่แบ่งซอยเป็นช่องให้เลือกประเภทของนิยาย
นิยายรักย้อนเวลา...
ป้ายภาษาจีนที่เขียนด้วยพู่กันดึงดูดความสนใจของเธอ จากที่จะเดินตรงไปมุมนิยายรักทั่วไป ก็เปลี่ยนใจเดินขึ้นชั้นสอง ระหว่างทางมีนิยายเก่าๆ วางกองเอาไว้เป็นตั้งๆ บ้างก็อยู่ในชั้น หนังสือเยอะมาก เยอะจริงๆ เยอะจนตัดสินใจเลือกไม่ถูกเลย
"หนูชอบอ่านแนวไหน"
เสียงที่ดังขึ้นด้านหลังทำซินเจียสะดุ้งตกใจ มาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย
"ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ"
เธอตอบยิ้มๆ ให้กับหญิงวัยกลางคน ใบหน้าอ้วนกลม แววตาดูใจดี มีผมสีดอกเลา เธอเดาว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้านหนังสือแห่งนี้แน่ๆ
"ป้าแนะนำให้ไหม"
คุณป้าฉีกยิ้มหวาน ดวงตากวาดมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะถามขึ้นมาว่า
"เจ็บมากไหม"
เจ็บอะไร??
คำถามนี้ผุดขึ้นในใจ และทำไมป้าคนนี้ถึงได้ถามเธอ
"ถ้าผู้ชายมันเลวก็ปล่อยไป"
คำพูดถัดมาทำให้ซินเจียรู้สึก 'เอ๊ะ' ในใจ เจ้าของร้านทำไมพูดอย่างกับว่ารู้เห็นเรื่องราวของเธอ
"มานี่ๆๆๆ ป้าจะแนะนำนิยายสนุกๆ ให้"
ความสงสัยไม่ทันจาง มืออ้วนๆ ของป้าก็จูงเธอไปยังชั้นวางนิยายเก่าๆ ที่มีฝุ่นจับหนาเตอะเลย
"เรื่องนี้ไหม สนุกนะ"
ป้ายื่นหนังสือนิยายชื่อ 'เหมันต์หวนคืน' ให้กับเธอพร้อมกับเล่าเรื่องย่อคร่าวๆ ให้ฟัง นางเอกฉลาด เนื้อหาฟาดฟัน ซึ่งเธอคิดว่าคงไม่เหมาะกับอารมณ์ช่วงนี้สักเท่าไหร่ เธออยากอ่านเรื่องที่เบาสมองกว่านี้นิดหนึ่ง
เรื่องนี้ก็ไม่โดน
เรื่องโน้นก็ยังไม่ใช่
ถึงเธอจะเรื่องมากยังไงแต่ป้าเจ้าของก็ไม่ลดละที่จะนำเสนอนิยายให้กับเธอ
"งั้นเรื่องนี้ละกัน"
ในเมื่อเลือกไม่ได้สักที เธอก็เลยชี้ไปยังหนังสือนิยายที่มีหน้าปกเป็นรูปนาฬิกา ที่ถึงจะดูธรรมดาแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงดึงดูดเธอ ไม่ทันที่จะได้เปิดดูเนื้อหาด้านใน ป้าก็โบกมือไล่ให้เธอออกไป งานนี้เธอก็ยืนงงไปสิ ดวงก็ไม่ได้ดู แถมยังได้หนังสือมาอ่านแบบงงๆ
ซินเจียขับรถกลับคอนโด วางหนังสือที่ได้มาไว้ตรงหัวเตียง จังหวะที่เธอกำลังจะถอดเสื้อออก เสียงข้อความก็ดังขึ้น....
'ทำงานหนักเหรอ'
'ผมคิดถึงคุณนะที่รัก'
ร่างบางปรายหางตามองข้อความที่เธอไม่คิดจะเปิดอ่านมัน เธอโง่มากพอแล้ว อย่าให้เธอตัองโง่ไปมากกว่านี้เลย
'ว่างไหม'
'ไปคาเฟ่เปิดใหม่กัน'
ข้อความที่เด้งถัดขึ้นมา เป็นข้อความจากเพื่อนสนิทของเธอที่ดูเหมือนไม่ได้รู้สึกผิดอะไรกับการกระทำ
"หญิงชั่วชายเลว เหมาะสมกันจริงๆ"
หญิงสาวแค่นหัวเราะให้กับความโง่ของตัวเองที่ไม่นึกเอะใจอะไรเลย สักนิดก็ไม่เลยจริงๆ เธอปัดหน้าจอที่แสดงข้อความทิ้งไป ก่อนจะกดโทรไปหาใครบางคนและถามว่า...
"ได้เรื่องไหมคะ"
คำตอบจากปลายสายทำเรียวปากสวยผุดรอยยิ้มบางๆ ออกมา มันคงถึงเวลาแล้วที่เธอจะเอาคืน
แสนดีแล้วได้อะไร...
หญิงสาวถามตัวเองที่คิดดี ทำดี และไม่เคยระแคะระคายในความสัมพันธ์ที่อยู่ๆ ก็มีมือที่สามเข้ามาแทรกกลาง แถมคนๆ นั้นก็คือ 'เพื่อนสนิท' หน้าตาใสซื่อ ดูไม่มีพิษมีภัย ต่อหน้าดูจริงใจ แต่ลับหลังกลับถือมีดแทงข้างหลังเธอ
ในเมื่อทำกันได้ลงคอ...
ผู้หญิงโง่ๆ คนนี้จะร้ายให้ดูเอง!
[ห้องแชทบริษัท X]รถอย่างหรูเลยเขามีเจ้าของหรือยังบอกมานะว่า...แฟนใคร?ถัดจากเรื่องดอกไม้ ก็เป็นเรื่องรถหรูราคาแพงที่จอดอยู่หน้าบริษัท เห็นจอดอยู่นาน ไม่รู้มาทำธุระ หรือว่ามารับใคร ถ้าเป็นลุงแก่ๆ หัวล้านๆ คงไม่เป็นประเด็นอะไร แต่ที่ทุกคนให้ความสนใจเพราะเจ้าของรถที่เดินลงมาหน้าตาหล่อไม่น้อยไปกว่าดาราเลยเขามีเจ้าของแล้วว้าย~ เธอตกข่าวนะจ๊ะฟาดด้วยรูปซะเลย!มุมปากสวยได้รูปยิ้มจางๆ เมื่อเห็นรูปของตัวเองที่กำลังเดินขึ้นรถคันหรูไป แน่นอนว่ามุมมันได้ และรูปแอบถ่ายของเธอก็ดูดีซะด้วย@เหมยลี่ แฟนเธอเหรอ?@เหมยลี่ ไปหามาจากไหน?@เหมยลี่ ผู้หล่อและรวยมาก!!!ข้อความที่แท็กมายิ่งทำให้เหมยลี่ได้ใจ ยิ่งคนพูดถึงมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งคิดว่าผู้ชายที่แย่งมาได้คือของดี และจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาขอเธอแต่งงาน หญิงสาวคิดพลางส่งรอยยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม คนที่มันคลิ้กกัน แค่มองตาก็เข้าใจ ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย ภาษากายก็สื่อถึงกัน "หิวไหมคะ""หิวครับ หิวมาก"ดวงตาคมเข้มมองหญิงสาวด้วยแววตากรุ้มกริ่มแฝงความนัย เสน่ห์ของเธอมันชวนให้ร่างกายเขาร้อนรุ่มจริงๆ"คุณอยากกินอะไรคะ""ให้ผมเลือกเหรอครับ""ค่ะ"ห
[ห้องแชทบริษัท X]สองคนนี้เขาเป็นแฟนกันเหรอ??เรื่องจริงใช่ไหม???ฉันได้ยินเต็มสองรูหูเห็นดอกไม้ไหม...ช่อใหญ่เว่อร์อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่เกิดขึ้นในบริษัท ใครคบใคร ใครเลิกใคร เป็นเรื่องที่ชวนให้เผือกอยากเสือกมากที่สุด พอมีคนจุดประเด็นปุ๊บ คนอื่นก็แห่ตามมาเมาท์ในแชทปั๊บ และถึงบางคนจะไม่ได้เห็นด้วยตา แต่อย่าลืมสิว่าโซเชี่ยลมันไว รูปแอบถง แอบถ่าย มีให้เห็นกันตรึมถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวฉันฟาดด้วยรูป(เพิ่มรูปภาพ)ไม่นะ ฉันไม่พร้อมจะอกหักคบกันตอนไหน ทำไมฉันไม่รู้ข่าวพวกนี้ต้องมีคนเชื่อ และไม่เชื่อผสมปนกันไป แต่พอมีรูปภาพจากมือดีมายืนยัน จากไม่เชื่อก็เริ่มเอนเอียง และคล้อยตามภาพที่เห็นว่า เออ! มีมูลมิน่าล่ะ ไม่เคยเห็นผู้ชายคบใครที่แท้เขามีตัวจริงโอ้ย! ฉันอิจจฉาแรงซินเจียโชคดีสุดๆ ไปเลยห้องแชทในกลุ่มบริษัทพูดถึงเรื่องนี้ทั้งวัน ซึ่งผลลัพธ์เป็นไปตามที่อี้เทียนต้องการ ข่าวลือก่อนหน้านั้นโดนกลบชนิดที่ว่าไม่มีคนขุดคุ้ยหรือพูดถึงอีกต่อไป และข่าวลือใหม่ที่กำลังเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์นั้นก็ทำเอาเขายิ้มไม่หุบเลย คู่รักคู่ใหม่ของบริษัทยินดีด้วยนะทำงานเก่งทั้งคู่เขาเหมาะสมกันอยู
[มีข้อความเข้า]ไห่ถาง : มึงอย่าลืมเอารถมาคืนด้วยนะเจิ้งหลุน : เออๆ กูไม่ลืมหรอกเจิ้งหลุนพิมพ์ข้อความตอบกลับเพื่อนที่ให้เขายืมรถมาใช้สองวัน แลกเปลี่ยนกับการแนะนำสาวๆ สวยๆ ให้สักคน [มีข้อความเข้า] พรุ่งนี้ครบกำหนดเช่านาฬิกา ถ้าคืนช้าทางร้านจะขออนุญาติปรับวันละสี่ร้อยหยวนข้อความแจ้งเตือนส่งมาจากร้านเช่าของแบรนด์เนมที่เจิ้งหลุนใช้บริการประจำ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสูท เข็มขัด จนไปถึงรองเท้าหนัง เขาเช่ามาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งล่าสุดที่ได้มาก็เป็นนาฬิกาที่เตะตาเขาเข้าอย่างจัง ถึงจะต้องวางมัดจำแพงกว่าทุกครั้ง เขาก็ยอม"แม่งเอ้ย! ทำอย่างกับว่ากูจะไม่คืน"ชายหนุ่มสบถเมื่อเห็นข้อความ เขาทิ้งตัวลงนั่งในห้องขนาดเล็กที่ไม่เหมาะจะอยู่กันสองคน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่เขาไม่เคยพาผู้หญิงมานอนด้วยสักครั้งเดียว ผู้หญิงที่เขาเคยคบๆ มาถ้าไม่สวยมาก ก็ต้องรวยมาก แต่ถ้าหากไม่มีทั้งสองอย่าง ไม่มีทางที่เขาจะเดินหน้าจีบ'สวยไหม'เจิ้งหลุนถามลงไปในไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งมีนิสัยชอบอวด ชอบโชว์เหมือนกัน 'แม่ง! ได้กินแต่ของดี''หาอย่างนี้ให้กูสักคน''เอามันส์ไหมวะ'นิสัยชอบอวดของเจิ้งหลุนไม่เคยแก้ได้ เวล
[เหมยลี่โพสต์อินสทา]@ผู้ชายชวนมาดื่มเบาๆ แคปชั่นมาพร้อมกับภาพข้อมือของผู้ชายที่กำลังจับมือเธอ ถึงจะไม่เห็นหน้า แต่ก็จงใจถ่ายให้เห็นนาฬิกาแบรนด์หรูที่กำลังเป็นกระแสใน 'ทิ้กท็อก' ถ้าใครใส่เขาก็ว่ารวย ร้วย รวย และบังเอิญผู้ชายที่เธอมาดื่มด้วยดันมีซะด้วยสิ!ใครอ่ะเหมยลี่?แค่เห็นข้อมือก็รู้ว่ารวยหาให้ฉันด้วยสักหนึ่งคน!ข้อความแซวของเพื่อนๆ ทำให้เหมยลี่ผุดรอยยิ้มที่เหนือกว่าออกมา ก่อนจะพิมพ์ตอบไปแบบไม่ค่อยอยากอวดเท่าไหร่ว่า...คนในความลับ🙊ปากบอกว่าคนในความลับ แต่แคปชั่นและภาพที่จงใจโพสต์ลงก็บอกให้รู้แล้วว่าลับถึงขั้นไหน เหมยลี่ที่อยากจะเอาชนะซินเจียสุดใจ เธอไม่ยอมหยุดแค่ดื่มเหล้าแล้วแยกย้ายกันไปนอน"เหล้าแรงจังเลยค่ะ""ไหวไหมครับ""เหมยลี่เมาแล้วแน่เลย"หญิงสาวพูดเสียงยานคาง แสร้งทำเป็นซบหน้าตรงแผ่นอกกว้าง ก่อนจะส่งสายตาหวานเหมือนหญิงสาวที่ไม่ประสา รอยยิ้มที่ส่งมามันยั่วยวนจนเจิ้งหลุนอดใจไม่ไหว ก้มลงประกบอย่างดูดดื่มจนแทบลืมหายใจ และมือเรียวก็ลูบไล้แถวต้นขาของเขาเบาๆ"ผมจะทนไม่ไหวเอานะครับ"ชายหนุ่มกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของหญิงสาวที่แสร้งทำเป็นเมา แต่มือกลับเลื้อยเก่งปลุกเร้าอารมณ
คำสารภาพรักเมื่อกี้ทำซินเจียตั้งตัวไม่ทัน เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอี้เทียนแอบชอบเธอ หญิงสาวมองใบหน้าหล่อเหลาที่เพิ่งขอจีบเธอไป ท่าทางเขาดูเขินอาย ไม่ต่างอะไรจากเธอชอบเธอตอนไหน...ชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่... มันเป็นคำถามที่ผุดขึ้นในใจ ทำไมผู้ชายที่เป็นจุดสนใจของสาวๆ ทุกคนในบริษัทอย่างเขาถึงได้มาชอบผู้หญิงที่ดูธรรมดาและไม่โดดเด่นอะไรอย่างเธอ"คุณล้อฉันเล่นรึเปล่าคะ"ซินเจียเอ่ยถามผู้ชายที่ยังคงสบตากับเธอ ใบหน้าของเขาดูจริงจัง และน้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นก็เกินกว่าจะคิดว่าเป็นการล้อกันเล่นขำๆ อย่างที่เธอถามไป"ผมไม่ได้ล้อเล่นครับ"ความเขินอายที่แฝงในดวงตาคมคู่นั้นของเขาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าทุกสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง ถึงแม้ใบหน้าหล่อเหลาจะดูนิ่ง แต่ใบหูทั้งสองข้างกลับแดงจนสังเกตุได้ เมื่ออีกฝ่ายเปิดเผยความในใจ แล้วเธอล่ะควรตอบเขากลับไปว่าอย่างไรดี"คือฉัน..."คำตอบไม่ทันได้หลุดออกมาจากริมฝีปากบาง เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาพอดี"คุณรับโทรศัพท์ก่อนก็ได้ครับ""เอ่อ...ค่ะ"เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้เร่งเร้าเอาคำตอบ เธอจึงเปิดกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา พอเห็นชื่อของใครโทรมา
"มึงอยู่เฉยไม่ได้แล้วนะ"อาเฉินสะกิดบอกอี้เทียนเมื่อได้ยินสาวๆ ในแผนกเมาท์กันถึงเรื่องช่อดอกไม้ที่ส่งตรงถึงหน้าแผนกพัฒนา ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่พอได้ยินว่าช่อดอกไม้ระบุชื่อใคร เขาก็ทนอยู่เฉยไม่ไหว ใส่เกียร์หมารีบคาบข่าวมาบอกเพื่อนทันที และด้วยความที่หวังดีไง ก็เลยใส่ไฟหวังกระตุ้นให้เพื่อนตื่นตัว"หมาคาบไปแดกแน่มึง""ถ้ามัวแต่ช้าได้แดกแห้วแทนแน่ๆ""กูสมน้ำหน้ารอได้ไหม"ถึงคำพูดจะกดดัน แต่เขาก็หวังดีกับไอ้อี้เทียนจริงๆ ถ้ามันยังมัวแต่ช้า ไม่เริ่มจีบจริงจัง ความหล่อของมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร ผู้หญิงเขาชอบผู้ชายที่เอาใจ แต่ไอ้อี้เทียนกลับขี้อายไม่ออกตัวสักที ถ้ายังปล่อยไว้อย่างนี้ แม่ง! มีแววแดกแห้วสูงมากเพื่อนกู"ข่าวจริงป่ะวะ"คนที่วางแผนจะสารภาพความในใจถึงกับต้องถามซ้ำอีกที "ข่าวมั่วมั้ง""ไอ้เฉินอย่ากวนตีน!"จากที่คิดว่าจะค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ ไม่รีบร้อนจีบอีกฝ่ายจนเกินไป ตอนนี้เขากลับอยู่นิ่งเหมือนเดิมไม่ไหว เพราะอยู่ๆ ก็มีผู้ชายที่มองเห็นเสน่ห์ในตัวของซินเจียเหมือนกัน ที่สำคัญผู้ชายคนนั้นรุกแรง ต่างจากเขาที่เอาแต่มองและยังไม่เริ่มต้นจีบเลย "กูเพิ่งไปดูปฏิทินมา วันนี้เป็นวันดี ถ้ามึงไ







