Share

ตอนที่ 7 : สองแม่ลูกอสรพิษ

last update Last Updated: 2025-09-15 23:59:13

ตอนที่

[5]

สองแม่ลูกอสรพิษ

 

หลี่ซ่างเอินสูดหายใจเข้าลึก ๆ ปรับเปลี่ยนสีหน้าจากเยือกเย็นกลับมาเป็นคุณหนูผู้อ่อนแอและตื่นกลัวในชั่วพริบตา นางหันไปพยักหน้าให้ไจ้หลิน ก่อนจะเดินออกจากเรือนเพื่อไปยังเรือนใหญ่ของฮูหยินใหญ่

ระหว่างทาง นางจงใจเดินก้มหน้าก้มตา ตัวสั่นเล็กน้อยราวกับยังขวัญเสียไม่หาย ทำให้บ่าวรับใช้ที่เดินผ่านไปมาต่างลอบมองด้วยความสงสัยระคนสมเพช

เมื่อมาถึงโถงรับรองของเรือนใหญ่ ก็พบหลี่ฮูหยินหรือหวังฮุ่ยจี้และหลี่ซวงอี๋นั่งรออยู่ก่อนแล้ว ทันทีที่เห็นสภาพมอมแมมเปรอะเปื้อนเลือดของหลี่ซ่างเอิน สองแม่ลูกก็รีบปรี่เข้ามาหาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความ ‘ตกใจ’ และ ‘เป็นห่วง’ อย่างถึงที่สุด

“เอินเออร์! นี่มันเกิดอะไรขึ้น! เหตุใดเจ้าถึงอยู่ในสภาพนี้!” หลี่ซวงอี๋เป็นคนแรกที่เปิดฉากละคร นางคว้าแขนของน้องสาวไว้แน่น ดวงตางามเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา พลางสำรวจร่างกายน้องสาวอย่างรวดเร็ว

หลี่ฮูหยินขมวดคิ้วมุ่น “แล้วพวกโจรเล่า เหตุใดเจ้าถึงกลับมาได้ แล้วรถม้าของเจ้าเล่าอยู่ที่ใด”

คำถามที่ยิงมารัว ๆ นั้นแฝงไปด้วยความคาดคั้นอยู่ในที สองแม่ลูกต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อที่จะเห็นผลงานชิ้นเอกของพวกนาง

โดยที่ไม่ได้เอะใจในคำถามของตนเองเลยแม้แต่น้อย ว่าหากเป็นผู้อื่นได้ฟังมันจะน่าสงสัยเพียงใด

หลี่ซ่างเอินค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตากลมโตแดงก่ำราวกับเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก นางส่ายหน้าไปมา พูดจาติด ๆ ขัด ๆ

ทว่าวินาทีที่ใบหน้างดงามหมดจด ไร้ซึ่งรอยขีดข่วนแม้เพียงรอยเดียวของหลี่ซ่างเอินปรากฏแก่สายตาของสองแม่ลูกอย่างเต็มตา ทั้งหลี่ฮูหยินและหลี่ซวงอี๋ต่างก็เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงจนแทบลืมหายใจ!

เป็นไปได้อย่างไร!

ความคิดนี้ดังก้องอยู่ในหัวของทั้งสองคนพร้อมกัน แผนการคือกรีดใบหน้าของมันให้เสียโฉมอัปลักษณ์! เหตุใดใบหน้านั่นถึงยังคงเรียบเนียนงดงามอยู่ได้!

“ใบหน้าเจ้า...” หลี่ซวงอี๋หลุดปากออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็ว 

“ซีดเซียวเหลือเกิน… พวกมันทำอะไรเจ้าบ้าง!”

หลี่ซ่างเอินแสร้งทำเป็นไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของอีกฝ่าย นางปล่อยโฮออกมาอย่างน่าเวทนาแล้วเล่าเรื่องราวที่แต่งขึ้นใหม่ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ 

“ข้า... ข้าไม่ทราบเจ้าค่ะ ท่านแม่ใหญ่ พี่ใหญ่... ตอนนั้นน่ากลัวมาก โจร... พวกมันฆ่าคนขับรถม้าของเรา แล้วก็... ตอนที่พวกมันจะทำร้ายข้า ไจ้หลินก็เข้ามาขวางไว้ แล้ว... แล้วจู่ ๆ พวกมันก็ทะเลาะกันเองแล้วก็สู้กัน ข้าอาศัยจังหวะตอนชุลมุนหนีออกมา... ข้ากลัว... ข้ากลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ ฮือ”

นางปิดท้ายด้วยการโผเข้ากอดหลี่ซวงอี๋อย่างต้องการที่พึ่ง

หลี่ซวงอี๋และหลี่ฮูหยินได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ่งตกตะลึง สองแม่ลูกลอบสบตากันอย่างรวดเร็ว แววตาเต็มไปด้วยความผิดหวังและเดือดดาลอย่างรุนแรง 

แผนผิดพลาด! ไม่เพียงแต่ไม่สำเร็จ นังเด็กนี่ยังรอดกลับมาได้โดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนอีก!

แต่เบื้องหน้าหลี่ซวงอี๋ยังคงสวมบทบาทพี่สาวผู้แสนดีต่อไป นางลูบหลังน้องสาวเบา ๆ “ไม่เป็นไรแล้วนะเอินเออร์ เจ้าปลอดภัยแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว”

หลี่ฮูหยินปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว “ช่างเป็นโชคดีของเจ้าโดยแท้ที่รอดมาได้ สวรรค์ยังคงคุ้มครองเจ้าอยู่ แต่ว่า... แล้วเจ้ากลับมาที่จวนได้อย่างไร”

หลี่ซ่างเอินผละออกจากอ้อมกอดของพี่สาว เช็ดน้ำตาป้อย ๆ แล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่ยังสั่นอยู่ 

“พอ... พอหนีออกมาได้ ก็มาเจอเข้ากับขบวนเดินทางของท่านผู้มีพระคุณท่านหนึ่งโดยบังเอิญเจ้าค่ะ พวกเขาใจดีมาก พอทราบเรื่องก็ให้ความช่วยเหลือ ให้พวกเราติดรถม้ากลับมาส่งที่จวน”

“ขบวนเดินทางหรือ?” หลี่ซวงอี๋ทวนคำด้วยความสงสัย 

“ของใครกัน”

“ข้า... ข้าไม่ทราบเจ้าค่ะ” หลี่ซ่างเอินส่ายหน้าอย่างใสซื่อ 

“ข้าเห็นเพียงเป็นขบวนทหารที่ยิ่งใหญ่มาก แต่ไม่ได้ถามชื่อเสียงเรียงนามของพวกเขามาเพราะมัวแต่ตกใจอยู่”

คำตอบนั้นทำให้สองแม่ลูกยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก แผนการที่วางไว้อย่างดีกลับพังไม่เป็นท่า ไม่เพียงแต่หลี่ซ่างเอินจะไม่เสียโฉม แต่ยังไปพบเจอกับผู้มีอำนาจโดยบังเอิญอีก ช่างน่าเจ็บใจนัก!

“เอาเถิด ๆ รอดกลับมาได้ก็ดีแล้ว” หลี่ฮูหยินกล่าวปัด ๆ พลางโบกมือไล่อย่างไม่ใส่ใจนัก 

“รีบกลับเรือนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียเถิด เห็นแล้วช่าง…ดูไม่ได้เสียเลย”

น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันนั้นทำให้หลี่ซ่างเอินต้องแอบยกยิ้มในใจ 

เริ่มเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่แล้วสินะ

“เจ้าค่ะท่านแม่ใหญ่” นางรับคำอย่างว่าง่าย ก่อนจะทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ 

“เอ่อ... พี่ใหญ่เจ้าคะ แล้วของไหว้ที่เราจะนำไปถวายที่อารามเล่าเจ้าคะ เป็นอย่างไรบ้าง”

คำถามที่ดูใสซื่อนั้นแท้จริงแล้วคือการสาดน้ำมันเข้ากองไฟดี ๆ นี่เอง!

สีหน้าของหลี่ซวงอี๋แข็งค้างไปชั่วขณะ นางจะไปรู้ได้อย่างไร! นางไม่ได้ไปที่อารามเสียหน่อย นางเพียงแค่นั่งรถม้าวนไปรอฟังข่าวอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งเท่านั้น!

“เอ่อ... คือ...” หลี่ซวงอี๋อึกอัก

หลี่ฮูหยินรีบแก้ต่างให้บุตรสาวทันควัน “พอพี่สาวเจ้าทราบว่าเจ้าประสบเหตุ นางก็รีบกลับมาที่จวนทันทีด้วยความเป็นห่วง จะมีแก่ใจไปไหว้พระได้อย่างไรกัน!”

“เป็นเช่นนั้นหรือเจ้าคะ” หลี่ซ่างเอินเบิกตากว้างอย่างซาบซึ้งใจ

“พี่ใหญ่ช่างดีกับข้ายิ่งนัก เป็นข้าเองที่ไม่ดี ทำให้พี่ใหญ่ต้องลำบากใจและเป็นห่วงไปด้วย”

นางกล่าวพลางค้อมศีรษะให้พี่สาวอย่างรู้สึกผิดสุดซึ้ง การแสดงที่แนบเนียนนั้นทำให้หลี่ซวงอี๋ที่กำลังหงุดหงิดอยู่ถึงกับพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ฝืนยิ้มรับอย่างเจื่อน ๆ “ไม่เป็นไรหรอกเอินเออร์ เจ้ารีบกลับไปพักผ่อนเถิด”

จากนั้นหลี่ซ่างเอินจึงขอตัวลากลับไปยังเรือนของตน ทันทีที่หญิงสาวคล้อยหลังไป รอยยิ้มเสแสร้งบนใบหน้าของหลี่ซวงอี๋ก็หายวับไปในทันที!

เพล้ง!

นางปัดถ้วยชาบนโต๊ะจนตกแตกกระจายด้วยความเดือดดาล!

“นังเด็กนั่น! มันรอดมาได้อย่างไร!”

“ใจเย็นก่อนอี๋เออร์” หลี่ฮูหยินกล่าวเสียงเรียบ แม้ในใจจะเดือดดาลไม่แพ้กัน 

“โวยวายไปก็ไม่มีประโยชน์ กำแพงมีหูประตูมีช่อง เจ้าต้องใจเย็น ๆ”

“แต่ท่านแม่! แผนของเราพังหมดแล้ว! ไม่เพียงแต่มันจะไม่เสียโฉม มันยังดูไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน! แล้วไหนจะเรื่องผู้มีพระคุณอะไรนั่นอีก หากเป็นขุนนางใหญ่โตแล้วสืบสาวราวเรื่องขึ้นมาจะทำอย่างไร!” หลี่ซวงอี๋ร้อนใจจนนั่งไม่ติด

“เจ้าคิดว่าพวกโจรป่ากระจอกนั่นจะซัดทอดมาถึงเราได้หรือ” หลี่ฮูหยินแค่นเสียงเย็น “อีกอย่างพวกมันคงไม่มีโอกาสได้ซัดทอดมาถึงพวกเราแน่เพราะพวกมันตายหมดแล้ว”

แม้ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร แต่คิดว่าคงไม่ใช่ผู้ที่ให้หลี่ซ่างเอินติดรถม้ากลับมาแน่นอน

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ!” หลี่ซวงอี๋ยังคงไม่หายโมโห 

“ข้าเกลียดที่มันทำหน้าซื่อตาใส ทั้งที่ในใจอาจจะรู้เรื่องทั้งหมดแล้วก็ได้!”

“เจ้าคิดมากไปแล้วอี๋เออร์” หลี่ฮูหยินมองบุตรสาวอย่างอ่อนใจ 

“ดูจากท่าทางของมันแล้ว มันยังคงโง่งมเหมือนเดิมไม่มีผิด ซ้ำยังคิดว่าบ่าวของมันเป็นคนช่วยไว้ ไจ้หลินน่ะหรือ”

“แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปดีเจ้าคะท่านแม่ ปล่อยมันไว้เช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ ตอนนี้ก็ผ่านวันปักปิ่นของมันแล้ว หากท่านพ่อหาคู่ครองดี ๆ ให้มันเล่า”

หลี่ฮูหยินยกยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น “ในเมื่อวิธีรุนแรงไม่ได้ผล... เราก็ต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีรุนแรงกว่าแต่แนบเนียนยิ่งกว่าเดิม”

ในตอนนั้นที่ดวงตาของหวังฮุ่ยจี้ทอประกายอำมหิตขึ้นมา 

“ในเมื่อมันยังไม่เสียโฉม เช่นนั้น... ก็ทำให้มันกลายเป็นสตรีที่ไม่มีผู้ใดต้องการด้วยวิธีอื่นแทน... ข้ายังมียาพิษชั้นดีที่ได้มาเมื่อหลายปีก่อนอยู่”

รอยยิ้มของหลี่ซวงอี๋ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง นางโน้มตัวเข้าไปหาผู้เป็นมารดาด้วยความสนใจ “ยาพิษหรือเจ้าคะท่านแม่”

“ใช่” หลี่ฮูหยินพยักหน้าช้า ๆ แววตาเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด 

“ยาพิษที่ไร้สี ไร้กลิ่น ออกฤทธิ์รุนแรง ทำให้ผู้ที่ได้กินมันเข้าไปต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ครานี้ต่อให้มันมีสิบชีวิตก็หนีไม่พ้น”

หลี่ซวงอี๋ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจ 

“เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมมากเจ้าค่ะท่านแม่”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลับมาครั้งนี้โทษทีข้าไม่ใช่เหยื่อ!   ตอนที่ 9 : พยัคฆ์ซ่อนเล็บ

    ตอนที่ [7] พยัคฆ์ซ่อนเล็บ ไจ้หลินใช้เวลาไม่นานนักก็กลับมาถึงเรือนเล็กพร้อมกับห่อผ้าเล็ก ๆ ในมือ นางทำทุกอย่างตามที่คุณหนูสั่งอย่างระมัดระวังที่สุด และมอบห่อผ้าให้หลี่ซ่างเอินโดยไม่ถามอะไรเพิ่มเติมอีก หลี่ซ่างเอินเปิดห่อผ้าออกอย่างแผ่วเบา ภายในคือกล่องไม้เล็ก ๆ ที่บรรจุเข็มเงินเนื้อดีสิบกว่าเล่ม แต่ละเล่มบางเฉียบและแวววาวกว่าเข็มเงินทั่วไป มันคือเครื่องมือชั้นดีที่จะใช้ขัดขวางแผนการร้ายของสองแม่ลูกอสรพิษ นางเก็บกล่องเข็มเงินไว้ในที่ลับอย่างดี ก่อนจะหันมามองไจ้หลินที่ยืนรอคำสั่งอยู่ด้วยสีหน้าจริงจัง “ไจ้หลิน จากนี้ไป อาหารทุกอย่างที่มาจากครัวใหญ่ หรือที่ถูกส่งมาจากเรือนของฮูหยินใหญ่และคุณหนูใหญ่ เจ้าจะต้องนำมาให้ข้าตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ห้ามให้ข้ากินหรือดื่มอะไรโดยที่ข้ายังไม่ได้อนุญาตเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่” “เจ้าค่ะคุณหนู!” ไจ้หลินรับคำอย่างหนักแน่น แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็รู้ว่าคุณหนูต้องกำลังป้องกันตัวจากอันตรายบางอย่างเป็นแน่ “ดีมาก” หลี่ซ่างเอินพยักหน้าอย่างพอใจ นางรู้ดีว่าแผนการวางยาพิษจะต้องเริ่มขึ้นในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน เพราะสองแม่ลูกนั่นคงทนรอให้นางมีชีวิตที่ดีต่อไป

  • กลับมาครั้งนี้โทษทีข้าไม่ใช่เหยื่อ!   ตอนที่ 8 : หมากตัวแรกในกระดาน

    ตอนที่[6]หมากตัวแรกในกระดานเมื่อกลับมาถึงเรือนเล็กของตนเอง หลี่ซ่างเอินก็รีบสั่งให้ไจ้หลินไปต้มน้ำอาบทันที นางต้องการชำระล้างคราบเลือดและกลิ่นคาวสกปรกออกไปให้หมดสิ้น ขณะแช่กายอยู่ในถังไม้หอมกรุ่น ความคิดของนางก็แล่นไปไกลถึงแผนการในอนาคตการเผชิญหน้ากับสองแม่ลูกอสรพิษเมื่อครู่ทำให้นางมั่นใจว่าพวกมันจะต้องลงมืออีกครั้งในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะหลี่ซวงอี๋... พี่สาวผู้แสนดีของนางหลี่ซ่างเอินแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ นางรู้ดีว่าเหตุใดหลี่ซวงอี๋จึงร้อนรนอยากจะกำจัดนางนักหนา อีกไม่ถึงสามเดือนข้างหน้า คือวันมงคลที่พี่สาวของนางจะได้แต่งเข้าตำหนักองค์ชายรองซ่งซือเหยียน แม้จะเป็นเพียงตำแหน่งพระชายารอง แต่สำหรับหลี่ซวงอี๋ผู้ทะเยอทะยาน มันคือก้าวแรกสู่การเป็นใหญ่ในวังหลังด้วยนิสัยขี้อิจฉาและหวาดระแวงเป็นทุนเดิม หลี่ซวงอี๋ย่อมไม่อาจทนเห็นน้องสาวต่างมารดาที่งดงามกว่าตนยังคงอยู่ในจวนได้ แม้บิดาจะดูเมินเฉย แต่ลึก ๆ แล้วหลี่ซู่ก็ยังคงมีความรู้สึกผิดต่อมารดาของนางอยู่บ้าง ไม่แน่ว่าเขาอาจจะหาคู่ครองที่ดีพอสมควรให้นางเพื่อเป็นการไถ่โทษ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่หลี่ซวงอี๋ยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด!กา

  • กลับมาครั้งนี้โทษทีข้าไม่ใช่เหยื่อ!   ตอนที่ 7 : สองแม่ลูกอสรพิษ

    ตอนที่[5]สองแม่ลูกอสรพิษหลี่ซ่างเอินสูดหายใจเข้าลึก ๆ ปรับเปลี่ยนสีหน้าจากเยือกเย็นกลับมาเป็นคุณหนูผู้อ่อนแอและตื่นกลัวในชั่วพริบตา นางหันไปพยักหน้าให้ไจ้หลิน ก่อนจะเดินออกจากเรือนเพื่อไปยังเรือนใหญ่ของฮูหยินใหญ่ระหว่างทาง นางจงใจเดินก้มหน้าก้มตา ตัวสั่นเล็กน้อยราวกับยังขวัญเสียไม่หาย ทำให้บ่าวรับใช้ที่เดินผ่านไปมาต่างลอบมองด้วยความสงสัยระคนสมเพชเมื่อมาถึงโถงรับรองของเรือนใหญ่ ก็พบหลี่ฮูหยินหรือหวังฮุ่ยจี้และหลี่ซวงอี๋นั่งรออยู่ก่อนแล้ว ทันทีที่เห็นสภาพมอมแมมเปรอะเปื้อนเลือดของหลี่ซ่างเอิน สองแม่ลูกก็รีบปรี่เข้ามาหาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความ ‘ตกใจ’ และ ‘เป็นห่วง’ อย่างถึงที่สุด“เอินเออร์! นี่มันเกิดอะไรขึ้น! เหตุใดเจ้าถึงอยู่ในสภาพนี้!” หลี่ซวงอี๋เป็นคนแรกที่เปิดฉากละคร นางคว้าแขนของน้องสาวไว้แน่น ดวงตางามเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา พลางสำรวจร่างกายน้องสาวอย่างรวดเร็วหลี่ฮูหยินขมวดคิ้วมุ่น “แล้วพวกโจรเล่า เหตุใดเจ้าถึงกลับมาได้ แล้วรถม้าของเจ้าเล่าอยู่ที่ใด”คำถามที่ยิงมารัว ๆ นั้นแฝงไปด้วยความคาดคั้นอยู่ในที สองแม่ลูกต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อที่จะเห็นผลงานชิ้นเอกของพวกนางโดยที่ไม่ได้เอ

  • กลับมาครั้งนี้โทษทีข้าไม่ใช่เหยื่อ!   ตอนที่ 6 : สตรี(ซื่อ)บื้อในสายตาพยัคฆ์

    ตอนที่[4]สตรี(ซื่อ)บื้อในสายตาพยัคฆ์ทันทีที่ประตูรถม้าปิดลง หลี่ซ่างเอินก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ร่างที่เคยสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวพลันกลับมานิ่งสงบในทันที นางปล่อยมือจากไจ้หลินแล้วเอนกายพิงพนักอย่างผ่อนคลายไจ้หลินมองผู้เป็นนายด้วยความสับสนระคนทึ่ง “คุณหนู... เมื่อครู่นี้... ท่าน...”“ชู่ว...” หลี่ซ่างเอินยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก ส่งสัญญาณให้บ่าวรับใช้เงียบเสียงลง นางเหลือบมองไปนอกหน้าต่างเล็กน้อย แม้จะอยู่ท้ายขบวนแต่ก็ไม่อาจประมาทได้ “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาอธิบาย รอให้เรากลับถึงจวนก่อน”ไจ้หลินได้แต่พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แม้ในใจจะเต็มไปด้วยคำถามมากมาย แต่เมื่อเห็นแววตาที่นิ่งสงบและเฉียบคมของคุณหนูของตน นางก็รู้สึกได้ถึงความน่าเชื่อถือและปลอดภัยอย่างประหลาด ความหวาดกลัวก่อนหน้านี้ค่อย ๆ จางหายไป เหลือเพียงความอยากรู้อยากเห็นว่าคุณหนูของนางจะทำสิ่งใดต่อไปขบวนเดินทางเคลื่อนตัวเข้าสู่ประตูเมืองหลวงอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนตามสองข้างทางต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องต้อนรับเซวียอ๋อง แต่ไม่มีผู้ใดสนใจรถม้าคันเล็กซอมซ่อที่อยู่ท้ายขบวน ซึ่งนั่นเป็นไปตามที่หลี่ซ่างเอินต้องการเมื่อขบวนเดินทางมาถึงหน้าจว

  • กลับมาครั้งนี้โทษทีข้าไม่ใช่เหยื่อ!   ตอนที่ 5 : เหยื่อล่ออ๋องพยัคฆ์ 1/2

    ตอนที่[3]เหยื่อล่ออ๋องพยัคฆ์“เดี๋ยวก่อน”เสียงทุ้มต่ำและเย็นชาดังออกมาจากรถม้าพระที่นั่ง แม้จะราบเรียบ แต่กลับเปี่ยมไปด้วยอำนาจจนทำให้ทุกคนต้องหยุดการกระทำทั้งหมดหลี่ซ่างเอินชะงักฝีเท้า นางแสร้งทำเป็นตกใจก่อนจะค่อย ๆ หันกลับมามองอย่างช้า ๆ หัวใจเต้นระรัวด้วยความลิงโลด แต่นัยน์ตากลับแสดงออกเพียงความสับสนและมีความหวังริบหรี่ม่านรถม้าถูกเลื่อนเปิดออกช้า ๆ เผยให้เห็นบุรุษผู้หนึ่งที่นั่งอยู่ภายใน แสงแดดสาดส่องขับเน้นให้ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพเซียนของเขาดูเจิดจ้าจนน่าพรั่นพรึง รัศมีแห่งความสูงศักดิ์และเย็นชาแผ่ออกมาจนอากาศรอบกายดูจะหนาวเหน็บลงถนัดตาวินาทีที่ได้สบตากับเขา หลี่ซ่างเอินก็แสร้งทำเป็นหยุดหายใจไปชั่วขณะ นางเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง ก่อนจะรีบก้มหน้าลงต่ำทันที ไม่กล้าสบตาเขาตรง ๆ ปฏิกิริยานั้นดูเหมือนการก้มหน้าด้วยความหวาดกลัวต่อบุรุษแปลกหน้าผู้ทรงอำนาจอย่างแท้จริงซ่งเว่ยหลิงหรี่ตามองภาพนั้นอย่างพิจารณา “หยางซานฉี ส่งคนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ”“พ่ะย่ะค่ะ!” หยางซานฉีรับคำและส่งสัญญาณให้ทหารสองนายควบม้ากลับไปทางที่สตรีทั้งสองวิ่งออกมาทันทีสายตาเย็นชาของซ่งเว่ยหลิงกวาดมองร่างที่เปื้

  • กลับมาครั้งนี้โทษทีข้าไม่ใช่เหยื่อ!   ตอนที่ 4 : เหยื่อล่ออ๋องพยัคฆ์ 1/1

    ตอนที่[3]เหยื่อล่ออ๋องพยัคฆ์“ไจ้หลิน!” นางเรียกบ่าวรับใช้เสียงดัง เพราะดูเหมือนว่าอีกฝ่ายคล้ายยังจับต้นชนปลายไม่ถูก “เร็วเข้า! เราต้องไปขอความช่วยเหลือ!”หลี่ซ่างเอินไม่รอช้า รีบโยนกระบี่ในมือทิ้งเข้าไปในพงหญ้าหนาทึบจนมองไม่เห็น จากนั้นก็จงใจใช้มือที่เปื้อนเลือดลูบใบหน้าของตนเองและไจ้หลินให้ดูมอมแมมและน่าเวทนายิ่งขึ้นไปอีก แล้วค่อยดึงทึ้งเสื้อผ้าของตนให้ขาดรุ่งริ่งกว่าเดิม ก่อนจะหันไปจับไหล่ของไจ้หลินที่ยังคงยืนนิ่งอึ้งอยู่เขย่าเบา ๆ“ฟังข้านะไจ้หลิน” นางกระซิบเสียงรอดไรฟัน แต่แววตากลับจริงจังจนน่ากลัว “จากนี้ไป ไม่ว่าข้าจะพูดอะไรหรือทำอะไร เจ้ามีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือร้องไห้ ร้องไห้ให้ดูน่าสงสารที่สุด ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น แค่ร้องไห้แล้วพยักหน้าตามข้า เข้าใจหรือไม่!”คำสั่งที่แฝงมาในรูปแบบของคำพูดที่ตื่นตระหนกทำให้ไจ้หลินได้แต่พยักหน้ารับอย่างงุนงง“ดีมาก!” หลี่ซ่างเอินกล่าวจบก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นหวาดกลัวสุดขีดในทันที นางฉุดมือไจ้หลินให้วิ่งทะลุป่าออกมายังถนนสายหลักภาพแรกที่เห็นคือขบวนเดินทางอันโอ่อ่าและน่าเกรงขาม ทหารองครักษ์ในชุดเกราะสีเงินวาววับนับร้อยนายตั้งขบวนอย่างเป็นระ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status