เข้าสู่ระบบ“สรุป...แกล้มเลิกอีกแล้วใช่มั้ยหลิว”
“อือ...ฉันไม่กล้าว่ะ แค่จะผ่านด่านพี่ชายฉันยังไม่ได้เลย และยังจะมีพ่อฉันอีก...”
“แกยังไม่ลองเลย แกจะรู้ได้ยังไงหลิว การที่แกเปิดตัวเองว่าแกเป็น LGBTQ มันไม่ได้เป็นเรื่องที่เลวร้ายนะ ทำไมแกคิดว่าพ่อกับพี่ชายแกไม่ชอบวะ”
“แกเห็นบริษัทของฉันมั้ย ว่ามีพวกพนักงานที่เป็น LGBTQ บ้างมั้ย...”
“เออ...ก็ไม่เห็นนะ...ทำไมเหรอ! อย่าบอกนะ ว่าพี่ชายแกไม่รับคนกลุ่มนี้เข้าทำงานน่ะ”
“ก็เออไง! แกไม่สังเกตเลยเหรอเนย์ พี่ชายฉันนะเกลียด LGBTQ ที่สุด ทั้งที่ลูกชาย คือหลานฉันน่ะ พึ่งจะสิบขวบเอง ตอนนี้น่าจะมีแววเป็น LGBTQด้วยนะ พี่โอเลยยิ่งเครียดไปใหญ่ ส่วนพ่อของฉันไม่ต้องพูดถึง รายนั้นเกลียดจนเข้าไส้”
“แล้วแม่แกล่ะ...”
“ก็มีแม่ฉันคนเดียวแหละ ที่ปกปิดความลับให้ฉันมาตลอด แม่เป็นคนที่เข้าใจฉันมากที่สุด แต่ก็พูดหรือทำอะไรไม่ได้เลย”
“เอางี้ ฉันว่าเรามาวางแผนกันใหม่หลิว แกอย่าเครียดเลย เดี๋ยวฉันช่วยแกเอง แกไม่ต้องกลัวนะ ชีวิตเป็นของเรานะ เราเกิดมาก็มีแค่ชีวิตเดียว”
“แต่ชีวิตเดียวของฉัน...มันโคตรสุดๆ เลยว่ะเนย์”
“ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่แกคิดขนาดนั้นหรอกหลิว...เชื่อฉันเถอะ...ตราบใดที่แกยังมีฉันอยู่ ฉันจะเคียงข้างแกเอง...”
“ขอบใจแกมากนะเนย์ เชื่อป่ะ ตอนมัธยมฉันนี่โคตรอิจฉาไอ้กันต์ที่สุดเลย ที่มีเพื่อนสนิทอย่างแก แต่ว่าตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันกลับเป็นฉันซะเอง”
“อืม...และแกก็อย่าทิ้งฉันไปอีกคนล่ะ...หลิว”
เหมือนที่ใครอีกคนกำลังทำกับลัลน์ลลิตอยู่ตอนนี้ เวลาจะผ่านพ้นมาสักกี่ปี เธอก็ไม่อาจลืม ‘เพื่อนสนิท’ ของเธอได้เลย...
.....................
[ณ คฤหาสน์กิจธนะวรกุล]
“ตากันต์...มาแล้วเหรอลูก”
คุณหญิงกานต์รวีอ้าแขนรับกอดบุตรชายสุดที่รักที่จากกันไปสี่ปีด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ กลับมาครั้งนี้ ลูกชายของเธอดูเปลี่ยนไปอย่างมาก ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
“สวัสดีครับคุณแม่ คุณพ่อ และพี่กิมครับ”
เสียงทุ้มห้าวทักทายกลับแบบเรียบๆ ด้วยสีหน้าท่าทางดูเคร่งขรึม และดูเปลี่ยนไปจากเดิมเมื่อสี่ปีที่แล้ว
“แล้วนี่หนูพราวมุกละลูก แม่บอกให้พาหนูพราวมุกมาที่บ้านเราก่อน แล้วไปไหนซะล่ะ”
“แยกกันตรงสนามบินครับ”
กันต์ธีร์ยังคงตอบแบบเรียบๆ เหมือนเดิม เขาไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย สี่ปีที่เขาอยู่กับชรินทร์ทิพย์ในฐานะคู่หมั้นนั้นมันก็มากพอแล้ว เขาไม่เคยมีความสุขได้เลยสักวัน เพราะว่าคู่หมั้นของเขานั้น คอยตามติดเขาอยู่ตลอดเวลา
“อ้าว! ตากันต์นี่ยังไง ทำไมปล่อยคู่หมั้นไปแบบนั้นล่ะลูก แล้วนี่ลูกไม่ได้ไปส่งหนูพราวมุกที่บ้านหรอกเหรอ ตายๆ นี่นราวดีคงบ่นแม่แน่ๆ เลย โอย...”
“คุณก็โทรหาสิจะยากอะไร”
“นี่...คุณเกริก ถ้ามันง่ายอย่างที่คุณพูดก็ดีสิ กว่าจะหมั้นหมาย กว่าจะไปเรียนต่อได้ เล่นเอารวีเหนื่อยเหมือนกันนะคะ ที่ต้องคอยประสาน คุณเองก็เป็นพ่อตากันต์เหมือนกัน ควรจะยกหูโทรบ้างนะ ไม่ใช่จะโยนให้แต่รวีคนเดียว”
คุณหญิงกานต์รวีค้อนสามีวงใหญ่
“นี่ผมต้องโทรไปหรือ”
“ไม่ต้องโทรหรอกครับพ่อ เรื่องนี้ผมเคลียร์กับพราวมุกเรียบร้อยแล้วครับ ต่างคนต่างกลับบ้าน ไม่เห็นจะมีอะไรนี่ครับ”
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว หวังว่าลูกจะไม่โกหกแม่นะ”
“ครับ”
“อ่าว ยัยกิม แกยืนนิ่งอยู่ทำไม ไหนที่เตรียมการต้อนรับน้องล่ะ อยู่ไหน!”
“เอ่อ...กิมต้อนรับไปแล้วนี่คะ ที่สนามบินค่ะ ส่วนงานเลี้ยงกำหนดการเป็นอาทิตย์หน้าค่ะ”
“เอ้า! แม่บอกให้แกจัดที่บ้าน! แล้วแกทำไม…”
“พอเถอะคุณ! นี่คุณจะวุ่นวายเรื่องอะไรกันหนักหนา กะอีแค่เรื่องต้อนรับกลับจากอเมริกา มีใครเขาทำกันบ้าง”
เกริกวิทย์เอ่ยขึ้นตัดความยุ่งยากของภรรยา เขาไม่รู้ว่าทำไม กานต์รวีถึงกลายเป็นคนจอมบงการไปได้ ยิ่งนานวันก็ยิ่งจะเป็นมากกว่าเดิม
“คุณก็ดูลูกสาวคุณสิคะ สั่งอะไรไม่เคยจะได้ดั่งใจเลย สักครั้ง เฮ้อ ไหนจะเรื่องงานแต่งของแกอีกยัยกิม ยังไม่มารายงานความคืบหน้าให้แม่ฟังเลยนะ”
“ผมขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับแม่”
“อ่าว...แล้วลูก...”
“พอได้แล้วกานต์รวี ผมปวดหัวกับคุณแล้วนะ พักบ้างเถอะ คุณไม่เหนื่อยเลยหรือไง”
“คุณก็...ลูกแต่ละคนไม่เคยได้ดั่งใจเลยสักคน จะต้องให้ดิฉันคอยพูดคอยว่าทุกอย่าง”
“คุณก็ปล่อยให้ลูกจัดการเองบ้างสิ ดูลูกทำก่อน ไม่ใช่จะโหวกเหวกโวยวายแบบนี้ เฮ้อ...”
“นี่! คุณเกริกวิทย์!”
…………………..
[ณ คฤหาสน์ธาดาศิริกุล]
“ทานเยอะๆ ลูกจะได้มีเนื้อมีหนังบ้าง ลูกทำงานหนักทุกวัน ไม่มีเวลากินเวลาทานเลยนะ พ่อว่าลูกดูผอมไปนะ”
นิธิศมองบุตรสาวที่กำลังทำท่าทางเขี่ยอาหารบนจานข้าวอยู่ ราวกับเบื่ออาหารอย่างนั้นแหละ
“เนย์กินเข้าไปเยอะแล้วนะคะคุณพ่อ ไม่ไหวแล้วค่ะ กินเข้าไปก็ต้องไปรีดน้ำหนักออกอีกค่ะ”
“ดาราเขาก็ทรงนี้กันทั้งนั้นนะคุณธิศ คุณจะให้ลูกกินเยอะขนาดนั้น ลูกก็จะเหนื่อยต้องดูแลตัวเองเพิ่มอีก”
กุลทิพย์ปลื้มใจกับลูกสาวของเธอเสียเหลือเกิน ความสวยงดงามน่ารักของลูกสาว ทำให้เธอรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างที่สุด ลูกของเธอไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว แต่เป็นคนที่มีความเข้มแข็ง อดทน และขยันนำพาครอบครัวของเธอฝ่าวิกฤติมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
“แค่วันนี้วันเดียวคุณ เดือนนึงเราจะมีวันหยุดและทานอาหารร่วมกันสักครั้ง ผมว่าก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
นิธิศรู้สึกเหมือนตัวเองนั้นได้กลับมาจากความตาย ถ้าไม่ได้ลูกสาวเขาคนนี้ล่ะก็ ป่านนี้เขาคงอาจจะไม่อยู่ตรงนี้ไปแล้วเลยก็เป็นได้
“งั้นดนย์จะกินแทนพี่เนย์เองนะครับ ดีนะที่ดนย์ไม่ได้เป็นดารานายแบบอย่างพี่เนย์ ไม่ต้องควบคุมอะไร”
พัทธดนย์ในวัย 24 เอ่ยหยอกล้อกับผู้เป็นพ่อและแม่ เขาเองก็ผ่านวิกฤติอันโชคร้ายมาเหมือนกัน แต่ก็ยังน้อยกว่าพี่สาวของเขานัก ถ้าไม่ได้พี่เนย์ ชีวิตของพัทธดนย์คงไม่มาถึงจุดนี้อย่างแน่นอน
“กินเลยดนย์ เรียนหนัก ช่วงนี้ฝึกงานไม่ใช่เหรอ เออ พี่ว่าจะคุยกับเรา เห็นพี่หลิว เขาอยากให้ดนย์ไปแคสงานของเขาน่ะ ดนย์สนใจมั้ย เผื่อจะรับจ๊อบพิเศษได้เงิน จะได้เก็บไว้ไปเปิดคลินิกไง”
“คงไม่ไหวหรอกครับพี่เนย์ ดนย์แสดงไม่เป็นครับ อีกอย่าง ดนย์ไม่อยากให้บริษัทของพี่หลิวเจ๊งครับพี่เนย์ ฝากบอกพี่หลิวด้วยนะครับ ว่าขอบคุณมากๆ ที่คิดถึงดนย์”
“อืม แม่ว่าช่วงนี้ หลิวเองก็ไม่ได้มาบ้านเรานานแล้วนะลูก อาทิตย์นี้ชวนมาบ้านเราบ้างสิ แม่จะได้ทำของอร่อยๆ ให้ทาน”
“ต้องถามนางก่อนนะคะ ช่วงนี้นางเฮิร์ทหนัก”
“เรื่องพ่อกับพี่ชายอีกแล้วใช่มั้ยลูก สงสารยัยหลิวจังเลยนะ คงต้องให้กำลังใจกันไปสักพัก ยังไงลูกก็ชวนหลิวมาบ้างนะลูก”
“ค่ะแม่”
.......................
“ฉันก็รักแกมาตลอดแหละ แต่แกไม่รู้ตัวเอง อืม อีกอย่างฉันคิดว่าพราวมุกกับแกเป็นแฟนกัน ฉันเลยไม่อยากเข้าไปยุ่ง” “และตอนนี้ล่ะ แกจะยังไงระหว่างฉันกับพราวมุก” “ตอนนี้เหรอ...ต่อให้ต้องกลายร่างเป็นนางร้ายนางมาร ฉันก็จะทำ เพื่อแย่งแกจากพราวมุกมาน่ะสิ ฉันไม่ยอมเสียแกไปอีกแล้ว กันต์...ฉันรักแกนะ” “อึ้ม... ฉันก็รักแก...เนย์ รักมาก และรักที่สุด” จูบร้อนประกบมาอีกครั้ง เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาได้เอ่ย “ฉันปวดขาแล้ว เราไปที่เตียงกันเถอะ กันต์” “แกนี่ยังดีเดือดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะเนย์” “ก็ใช่น่ะสิ...ฉันคือเนย์คนเดิม เพิ่มเติมคือตอนนี้ฉันเป็นเมียแกแล้ว...เอ๊ะ! แต่แกยังไม่ได้ตอบตกลงคำขอแต่งงานฉันเลยนะกันต์” “ยัยบ้าเอ้ย...แกต้องรอฉันเป็นคนขอ ไม่ใช่แกขอฉัน” “ตามบทของไอ่หลิวนี่ ฉันจะต้องเป็นคนขอแก...กันต์ เอ่อ ว่าแต่ แกจะทำยังไงกับพราวมุกล่ะกันต์ พราวมุกต้องไม่ปล่อยฉันไว้แน่นอน และไหนจะพ่อแม่แกอีก” “พราวมุกถอนหมั้นฉันไปแล้ว...แกไม่รู้เหรอ” “ห๊ะ! จริงเหรอ? ทำไมพราวมุกถึงยอมรามือจากแกง่ายขนาดนี้
“นี่มันก็เป็นความคิดของแกไม่ใช่เหรอหลิว...ที่...เอ่อ...ให้ฉันทำแบบนี้” “นี่ไง...บทละครเรื่องใหม่ของฉัน นางเอกไม่ต้องรอให้พระเอกไปง้อหรอก...มาง้อเองเลย...ดีมั้ย นางเอกคือสายรุก...รุกเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง...ฮ่า ฮ่า นางเอกผู้แสนดีหลบไป!” “อือ บทละครเรื่องนี้ ฉันไม่ขอแสดงแล้วกันนะหลิว คิดบ้าอะไรของแก”ใบหน้าสวยร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงแผนการที่นิชาภัทรเพื่อนของเธอบอกว่า มันคือละครที่นางเขียนพล็อตขึ้นมาเอง โดยให้เธอนัดพระเอกของเรื่อง มาเจอกันที่โรงแรมแห่งนี้ “อีกครึ่งชั่วโมง กันต์มันก็จะมาแล้ว แกรีบเข้าไปเถอะ จะอาบน้ำอีกสักรอบก็ได้นะ จะได้ตัวหอมๆ และ...เอิ่ม... ^^” “พอเลยแก...หลิว แกนี่บ้าจริงๆ ไปเถอะ ไปหาน้องมายด์ หวานใจของแกเถอะ” “โอเค...เสร็จแล้วก็กริ๊งกร๊างมานะ จะมารับ ^^” “อือ...” [เวลาผ่านไปราวสิบห้านาที] แกร๊ก!! ประตูบานใหญ่ถูกเปิด “...” สายตาคมเข้มกวาดมองไปทั่วบริเวณห้อง แต่ก็ไม่พบเจ้าของร่างที่นัดเขาวันนี้ ‘ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก...กันต์’ แกร๊ก! เสียงประตูห้องน้ำใหญ่ถูก
หลังจากที่ชรินทร์ทิพย์ทะเลาะกับลัลน์ลลิตไป เธอก็ไปเจอกับกันต์ธีร์ เธอต้องการฟังจากปากของเขาด้วยตัวเอง ‘ใช่! กันต์รักเนย์ รักมาตลอดเกือบยี่สิบปี’ นี่คือคำสารภาพจากชายคู่หมั้นของชรินทร์ทิพย์ ที่เธอรักเขามาเกือบยี่สิบปีเช่นกัน แต่ก็ยังน้อยกว่าลัลน์ลลิตนัก และได้หมั้นหมายพร้อมที่จะแต่งงานกันเร็วๆ นี้ ‘แล้วกันต์เอาพราวมุกไปไว้ที่ตรงไหนคะ?’ คำถามที่เธอรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่เธอก็พยายามถามมันอีกครั้ง โดยคำตอบที่ได้รับมันทำให้หัวใจของเธอแทบแตกสลาย ‘กันต์รักพราวมุกแบบเพื่อน ไม่คิดที่จะรักแบบอื่นเลยสักครั้ง สิ่งที่พราวมุกกับคุณแม่ทำ มันไม่ใช่ความต้องการของกันต์เลย’ “กันต์มันบอกยังไงครับ พราวมุกถึงถอนหมั้นมัน”อกซ้ายของนราวิชญ์กระตุกทันที ความรู้สึกสงสารผู้หญิงตรงหน้านั้น มันเทเข้ามาแบบปัจจุบันทันด่วน ถึงแม้เขาจะชอบบทรักของเธอมากขนาดไหน แต่ในเมื่อเธอเองไม่ได้รักเขา นราวิชญ์เองก็ไม่คิดที่จะบังคับ และปล่อยเธอเป็นอิสระเมื่อเธอต้องการ แต่เมื่อมาได้รับรู้เรื่องราวของเธอแบบนี้ ความรู้สงสารก็บังเกิดขึ้นทันที “อย่าโทษกันต์เลยค่ะเรย์ ความเป็นจริง เ
“จะต่ำยังไง! ลูกสาวของคุณก็ได้ตาดนย์ของเราเป็นผัวไปแล้วค่ะ ยัยคุณนาย! ไงคะได้ลูกเขยเป็นผู้ชายข้างถนน!” “แม่ครับ!” “คุณน้าคะ!” “แก!! หมายความว่ายังไง! ห๊า! ยัยกิม นี่แกกับไอ่ผู้ชายคนนี้มีอะไรกันแล้วเหรอ!” “ใช่! ดิฉันเป็นคนจัดการให้สองคนนี้นอนด้วยกัน เป็นไง สมใจคุณนายแล้วใช่มั้ย อย่าลืมนะคะว่าที่นี่คือบ้านของดิฉันเอง!”ความโมโหในระดับสิบ ทำให้กุลทิพย์อุปโลกน์เรื่องนี้ขึ้นมา เพื่ออยากเอาชนะยัยคุณหญิงกานต์รวี ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย มีเหตุการณ์เดียวที่จะตัดปัญหานี้ได้ ‘แม่ขอโทษด้วยนะตาดนย์’ “ฉันจะแจ้งตำรวจจับแก!” “เอาสิ! อยากทำอะไรก็เชิญ! ยังไงถ้าลูกชายดิฉันติดคุก ลูกสาวคุณนายอาจจะท้องไม่พ่อนะ คุ้มกันหรือเปล่าคะกับข่าวหน้าหนึ่ง!” “กรี๊ดดด!! แก!!” “แม่คะ...คุณแม่กลับไปก่อนเถอะค่ะ” “ในเมื่อแกไม่รักดีขนาดนี้ ระหว่างแกกับฉัน เราไม่ใช่แม่ลูกกัน แกไม่ต้องกลับไปเหยียบที่บ้านฉันอีก ต่อไปนี้แกกับฉันเราขาดกัน! ยัยกิม!”คุณหญิงกานต์รวีสะบัดหน้าและกระทืบเท้าเดินจากไปด้วยความโกรธอย่างที่สุด เธอไม่คิดว่าลูกสาวที่เคย
“แก! กลับไปอ่อยกันต์อีกทำไม แกก็รู้นี่ ว่าฉันกับกันต์เป็นคู่หมั้นกัน และกำลังจะแต่งงานกัน!” “ฉันรู้ ว่าเธอกับกันต์เป็นคู่หมั้นกัน แต่ไอ่เรื่องแต่งงาน ที่เธอบอกว่าจะเกิดขึ้นนั้น ฉันไม่รู้หรอกพราวมุก ว่ากันต์ จะยอมแต่งกับเธออยู่อีกมั้ย” ลัลน์ลลิตให้โอกาสชรินทร์ทิพย์มาตลอด เธอปฏิเสธกันต์ธีร์ โดยคิดเพียงว่า เพื่อนของเธอรักกันต์ธีร์มาก เลยไม่คิดที่จะโต้ตอบ...ในวันนี้เธอรู้แล้วว่า กันต์ธีร์นั้นรักเธอมากแค่ไหน และรักเธอมาตลอด โดยไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนไปจากเธอเลยสักครั้ง “อ่อ นี่แกยังหน้าหนาเหมือนเดิมสินะเนย์ แย่งได้แม้กระทั่งของเพื่อน เนี่ยเหรอ ดาราเบอร์หนึ่งของเมืองไทย!” “เธอเองก็ไม่ต่างจากฉันเหมือนกันพราวมุก” “ฉัน! ขอสั่งให้แกเลิกยุ่งกับกันต์!” “เธอต้องไปสั่งกันต์นู่น ไม่ใช่ฉัน นี่เธอก็คงยังไม่รู้สินะ ว่า...” “รู้อะไร! แกพูดมาเดี๋ยวนี้นะ!” “เอาเป็นว่า เธอไปถามกันต์เอาเองแล้วกัน…อืม…เป็นคู่หมั้นกันนี่ ไม่คุยกันเหรอ” “แก!!” ชรินทร์ทิพย์เดือดในระดับเกินร้อย อย่าบอกนะ ว่าระหว่างกันต์ธีร์กับลัลน์ลลิตจะ...ไม
“ก็ทำนองนั้นแหละหนู แม่ของหนูอยากให้ยัยเนย์เลิกคบกับตากันต์ ก็เลยมาโวยวายที่บ้านนี่จ้า” “หนูต้องขอโทษแทนคุณแม่ด้วยนะคะ ที่คุณแม่ทำแบบนี้” “ไม่เป็นไรหรอกจ้า มันนานมาแล้ว เกือบสี่ปีแล้วมั้ง ว่าแต่หนูเถอะ ทะเลาะกันหนักเลยหรือไง ถึงได้เตลิดออกจากบ้านมาแบบนี้ แล้วนี่แม่ของหนูไม่ตามหากันให้วุ่นเลยเหรอ” “ก็น่าจะตามหากันอยู่ค่ะ คุณแม่ไม่มีวันยอมอยู่แล้วค่ะ คุณแม่อยากให้หนูแต่งงานกับคนที่คุณแม่เลือก แต่ว่า หนูไม่ยอมทำตาม แม่ก็เลยโมโห และ...”น้ำเสียงของกัญญ์วราสั่นเครือทันที เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ความน้อยใจในวาสนาของตัวเองที่มีอยู่ในอก มันประเดประดังขึ้นมา ถ้าเลือกเกิดได้ เธอจะไม่ขอเกิดกับคนที่มีฐานะร่ำรวยแบบนี้เลย เงินทองไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขเลยแม้แต่นิด“อืม เอาอย่างนี้แล้วกันค่ะพี่กิม พี่พักอยู่ที่บ้านของเนย์ไปก่อนค่ะ ไม่ต้องออกไปที่อื่นแล้ว และถ้าพี่กิมสบายใจเมื่อไหร่ ก็ค่อยไปก็ได้ค่ะ เนย์จะไม่บอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ”“นั่นสิหนู อยู่ที่นี่ก่อนเถอะ รอให้แม่ของหนูใจเย็นลง แล้วค่อยคิดหาทางอีกทีนะ อีกอย่างช่วงนี้เป็นวันหยุด ตาดนย์ไม่ได้ไปทำงาน มีอะไรก็ให้ตาดนย







