Share

บทที่ 6

last update Huling Na-update: 2025-10-31 17:30:13

ไฮโซสาวไม่รู้ว่าตนเองพาร่างกายที่แข็งเป็นหินไปแล้วกลับมาบ้านได้ยังไง

แต่เธอก็กลับมาแล้ว

ความจริงหญิงสาวมีแพลนสำหรับเที่ยวในพัทยาหลังนายแพทย์สัมมนาเสร็จ ตั้งแต่คาเฟ จุดชมวิว แกลลอรีศิลปะ รวมถึงรูฟท็อปสุดโรแมนติก ทว่าทุกอย่างก็ไม่เป็นตามแผน เพียงเพราะบิดาของชายหนุ่มต้องการพบตัวด่วน

แต่ใครจะเชื่อว่าแค่ได้นั่งเคียงข้างเขาบนรถในระยะทางร้อยกว่ากิโลเมตร ได้ฟังเพลงอยู่ในรถคันเดียวกับเขา เขาใส่ใจพอที่จะแวะจอดซื้อชาเขียวสักแก้ว ขนมสักชิ้นให้เธอระหว่างทาง ข้าวหวานก็ใจเหลวเป๋วไปเสียหมด

ความสุขของเธอไม่ได้เกิดขึ้นยากเลย กันต์ธีขับรถให้นั่งหัวใจน้อยๆ ก็พองฟูจนเกือบจะลอยออกไปนอกโลก แต่เขาก็ไม่ได้ไปส่งเธอถึงบ้านอยู่ดี

หญิงสาวหัวเราะในลำคอทั้งที่มันขมปร่าอยู่ในอก สามีของเธอหักเลี้ยวพวงมาลัยเข้าไปโรงพยาบาลทั้งที่วันนี้เขาหยุด เปิดประตูทิ้งเธอไว้บนรถอย่างไม่แยแส

ทายาทคนเดียวของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาไปทั่วประเทศ และยังมีบริษัทนำเข้าเครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด กลับถูกผู้ชายคนหนึ่งสะบัดตูดและทิ้งให้อ้างว้างอยู่บนรถ อภิสิทธิ์นี้เป็นของนายแพทย์กันต์ธีแต่เพียงผู้เดียว อภิสิทธิ์ของคนที่เธอรักแบบหน้ามืดตามัว

ทำไมคลั่งรักแบบนี้นะข้าวหวาน…

คนโง่ย่อมมีเหตุผลของคนโง่ เหตุผลที่เธอยอมอดทนจนเกือบจะเป็นยอดมนุษย์อยู่แล้วเมื่ออยู่กับกันต์ธีหรือพี่กันต์ของเธอ

เมื่อราวสิบปีก่อน บิดาและมารดาชักชวนกันพาเด็กหญิงข้าวหวานออกรถขับไปเที่ยวยังดอยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ เส้นทางคดเคี้ยวที่บุกเบิกใหม่สำหรับคาราวานออฟโรด นายแพทย์เขมินทร์ผู้รักการออกทริปและผจญภัยจึงร่วมไปกับเส้นทางนั้นด้วย แต่โชคร้ายรถราคาแพงที่ตกแต่งไว้อย่างดีดันเกิดอุบัติเหตุ

คืนนั้นมีฝนเทลงมาอย่างหนัก ถนนบนไหล่เขาที่ลื่นทำให้รถโฟร์วีลคันใหญ่ของบิดาเบรกแตก หลุดโค้งและลากเอารถมอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านสองสามีภรรยาลงไปในเหวข้างทางด้วย ไม่มีใครรอดชีวิต

มีเพียงเด็กผู้หญิงอายุสิบห้าที่แขนขาหัก นอนมองภาพกระจกแตกกระจายไปทั่วรถ และร่างของพ่อแม่ที่ไร้ลมหายใจอยู่นานสามสี่ชั่วโมง

นั่นเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต

เธอเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย ผวาหวาดกลัวอย่างที่สุด ในนาทีที่กำลังใกล้หมดหวัง ผู้ชายคนหนึ่งก็ยื่นหน้าเข้ามาพูดกับเธอ ส่งนิ้วแตะไปที่ข้างลำคอ เขายิ้มอย่างอ่อนโยนที่สุดและบอกกับเธอว่า “ไม่ต้องกลัวแล้วนะครับ น้องจะปลอดภัยแน่นอน”

หลังจากนั้นความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยและรถพยาบาลก็มาถึง แถมคนที่เป็นผู้พบผู้ประสบเหตุเป็นนายแพทย์ที่กำลังใช้ทุน การเคลื่อนย้ายร่างกายของเธอถึงได้ยังปลอดภัยมาถึงทุกวันนี้ ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมของเขา มันเกี่ยวพันกับความรู้สึกของเธอไว้นับแต่นั้น

บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เธอมักจะลืมเลือนและไม่ติดอกติดใจกับท่าทีเย็นชา แต่เลือกจะจดจำและนึกถึงรอยยิ้มอบอุ่นของกันต์ธี มันเป็นความสว่างไสวเดียวในค่ำคืนที่ฝนตกหนักและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด มันคือความหวังของคนที่กำลังสิ้นหวังถึงขีดสุด

นี่คือเหตุผลนอกเหนือจากความเหมาะสมที่ผู้ใหญ่เห็น นั่นคือความปักใจ

หญิงสาวเปิดเอกสารดูข้อมูลการถือหุ้น รายชื่อลูกค้าและผลประกอบการย้อนหลังไปห้าปี เข้าเว็บไปโหลดงบการเงินจาก

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่ส่งข้อมูลเพิ่มเข้ามาประกอบ บริษัทของพ่อสามีไม่เหลือสภาพคล่องแม้แต่น้อย เพียงแต่โพรไฟล์และฝีมือของบุคลากรต่างหากที่เธอพอจะสนใจ

ถ้าจะให้พูดกันตามความจริง ยังมีธุรกิจอื่นที่มีผลงานและแนวโน้มให้น่าลงทุนมากกว่านี้ แต่ยังไงล่ะ บริษัทพวกนั้นไม่ใช่ครอบครัวของเธอ

หญิงสาววางไอแพดเครื่องเล็กลงข้างตัวแล้วทิ้งร่างบอบบางเอนไปบนเก้าอี้ทำงานตัวหนานุ่ม ก่อนจะกลับมานั่งตัวตรงและหยิบแซ็กโซโฟนคู่ใจขึ้นบรรเลงเพลง บนฝาผนังเบื้องหน้าโต๊ะทำงานมีบอร์ดเล็กๆ ที่แปะโน้ตเพลง กรอบรูปครอบครัว  รูปถ่ายพรีเวดดิง ภาพถ่ายเรือสำราญ และภาพเกาะเวิ้งว้างกลางทะเล

นานมาแล้วมีนกแกนเน็ตตัวหนึ่งชื่อไนเจล บินไปหยุดที่เกาะร้างแห่งนั้น เกาะที่ถูกมนุษย์สร้างขึ้น โดยจำลองสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของนกทะเล ไนเจลปักหลักอยู่ที่นั่น เหตุผลไม่ใช่เพราะความอุดมสมบูรณ์อื่นใด แต่เพราะมันตกหลุมรักนกรูปปั้นตัวหนึ่งต่างหาก

เธอก็เหมือนนกไนเจลนั่นแหละ…

อยู่ในความสัมพันธ์อันเย็นชาร้างไร้เพราะความรัก

ปีแล้วปีเล่าที่เฝ้ามองกันต์ธีอย่างชื่นชมในฐานะนายแพทย์คนหนึ่ง จนเขาเรียนจบแพทย์เฉพาะทาง และตกลงมาทำงานในฐานะแพทย์พิเศษที่โรงพยาบาลของคุณปู่ เธอแอบชอบเขาเงียบๆ แต่ความชอบของเธอคงท่วมท้นจนทำให้ปู่เพชรมองเห็น และพยายามเข้าไปทาบทามผ่านพ่อแม่เขา แต่เธอก็ได้รับคำปฏิเสธชัดเจนจากชายหนุ่มว่ามีคนรักที่ต้องการแต่งงานด้วยอยู่แล้ว

คำปฏิเสธทำให้ข้าวหวานสิ้นหวังแม้ไม่อาจตัดใจ แต่แล้วความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน กันต์ธีมีปัญหากับคนรัก บิดาเขามีปัญหาทางการเงินจนต้องมาขอความช่วยเหลือจากคุณปู่ของเธอ ทุกอย่าง

ลงตัวและผลักดันให้เราได้แต่งงานกันในบทสรุป

ทุกอย่างเหมือนเป็นใจ ขาดอย่างเดียวคือเขาไม่มีใจ

แต่เธอก็อยู่กับเขาอย่างมีความสุขมาได้ถึงสามปี อยู่ในแบบที่ไม่โลภมาก และอยากอยู่แบบนี้ไปให้นานเท่านาน

สุดท้ายเพลงบรรเลงจากแซ็กโซโฟนก็จบลง หญิงสาวตัดสินใจติดต่อกลับไปหากำพล และตอบรับการร่วมทุนกับเขา เพียงแต่ขอร้องให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ กันต์ธีไม่สบอารมณ์นักที่เห็นเธอเข้าไปข้องเกี่ยวผูกพันในเรื่องเงินทองกับครอบครัว ข้าวหวานเข้าใจเพราะมันเป็นทั้งความเสียศักดิ์ศรีและอีกส่วนเขาก็มองว่าเธอเป็นคนนอก

อย่างไรก็ตาม ข้าวหวานไม่เคยคิดอย่างนั้น ครอบครัวของหมอกันต์ก็คือครอบครัวของเธอ เธอคงทนมองความล่มสลายของเขาต่อหน้าต่อตาไม่ลง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • กังวานหวาน    ตอนพิเศษ 2 ความทรงจำ

    แซ็กโซโฟนเป็นเครื่องดนตรีที่มีชีวิต...ผมรู้สึกแบบนั้นมาตลอด เพราะทุกครั้งที่ได้ยินข้าวหวานเป่าเจ้าเครื่องดนตรีชนิดนี้ เธอใส่อารมณ์ ใส่ความรู้สึกรวมถึงเสน่ห์ของเธอลงไปด้วย เธอเซ็กซี่เสมอยามเมื่อยืนอยู่บนฟลอร์และสะกดคนด้วยเสียงเพลงอย่างเช่นคืนที่เราอยู่บนเรือสำราญด้วยกันจริงอยู่คนอื่นอาจจะเห็นเธอในมุมของนักดนตรี ไฮโซสาวพราวเสน่ห์แต่เสน่ห์อย่างอื่นของเธอมีมากมายกว่านั้นถึงแม้ครั้งหนึ่งผมจะหลับหูหลับตา มองเธอผ่านหน้ากากแห่งอคติ แต่ได้โปรดเข้าใจกันบ้าง ตอนนั้นผมคือผู้ชายที่จำใจแต่งงานโดยไม่ได้รักผมไม่ถึงกับโกรธเกลียดข้าวหวาน แค่ขวางหูขวางตานิดหน่อย ผมทำนิสัยแย่ เธอก็ยังยิ้มอ่อน ผมเย็นชา เธอก็ยังทำข้าวกล่องให้ไปกินที่ทำงานทุกเช้า บอกตรงๆ ผมค่อนข้างได้ใจข้าวหวานเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเธอรักผมมาก รักแบบที่ไม่มีทางไปไหนรอดน่าขำ…ผมไปเอาความมั่นใจแบบนั้นมาจากไหนตลอดเวลาที่ผมเย็นชา เธออดทนเพราะหวังว่าผมคงอ่อนโยนขึ้นในวันหนึ่งข้างหน้าเวลาที่ผมทำนิสัยแย่ เธอมักจะยิ้มหรือนิ่งเงียบ นั่นเพราะเธอคงไม่อยากให้เราทะเลาะกันจนบานปลายการใช้ชีวิตคู่ที่เธอพยายามและเฝ้าทะนุถนอมมันเพียงฝ่ายเดีย

  • กังวานหวาน   ตอนพิเศษ 1 ความอบอุ่น

    แสงอาทิตย์อ่อนแสงลงจนดูอ่อนโยนกับท้องทะเล เด็กน้อยหลายคนและนกนางนวลหลายตัวกำลังเล่นลมอย่างสนุกสนาน ฉันมองภาพงดงามซึ่งเกิดขึ้นตรงหน้าอย่างมีความสุข แต่ใช่ว่าชีวิตจะมีเพียงภาพอันสว่างไสวเช่นนี้เพียงอย่างเดียวคนเราล้วนมีช่วงเวลาที่หวาดกลัวที่สุดในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น สำหรับฉันมันเกิดขึ้นตอนอายุสิบห้าคืนที่ฝนตกกระหน่ำเหมือนฟ้ารั่ว เศษกระจกแตกกระจัดกระจาย รถที่พลิกคว่ำ เลือดของฉัน พ่อและแม่ นองไปกับสายฝน กระดูกแขนขาหัก มันเจ็บปวดที่ต้องนอนมองคนที่รักตายอยู่ตรงหน้า แต่กระนั้นฉันก็ยังกลัวความตายที่กำลังคืบคลานมากัดกินฉันอีกคนความอบอุ่นของฝ่ามือมนุษย์แตะเบาๆ ที่ข้างคอของฉัน ผู้ชายที่เปียกโซกไปทั้งตัว เขายิ้มอย่างอ่อนโยนท่ามกลางความมืดและคาวเลือด นับแต่นั้นฉันฝังรอยยิ้มสว่างไสวของเขาไว้ในความทรงจำ“ไม่ต้องกลัวแล้วนะครับ น้องจะปลอดภัยแน่นอน” เขาพูดแบบนั้นและฉันก็ปลอดภัยจริงๆ แม้ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลของคุณปู่อยู่เกือบปีอาการทางกายของฉันดีวันดีคืนเพราะอยู่ในวัยที่ร่างกายแข็งแรง ทว่าอาการทางใจมันกลับย่ำแย่ลงเรื่อยๆฉันมักหายใจไม่ออกเสมอ หัวใจเต้นแรงอย่างไร้เหตุผล โดยเฉพาะในช่วงคืนที่ฝนตก

  • กังวานหวาน   บทที่ 65

    สถานตากอากาศบางปูในวันสุดสัปดาห์ผู้คนหนาแน่นกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วงเข้าใกล้ปลายปีแบบนี้กันต์ธีหยิบหมวกปีกกว้างสวมบนศีรษะของภรรยาสาวที่กำลังท้องแก่ อีกมือก็ก้มลงจูงเด็กชายเขตต์วัยสามขวบกว่าที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบตัว ที่สำคัญคือลูกเขาซนมากอย่างที่เคยบอกนั่นแหละ หมอหนุ่มยังคงเป็นมนุษย์เย็นชาที่ไม่ชอบเด็กเอาเสียเลย ทว่าเขากลับรักเด็กคนนี้จับจิตจับใจ“เดินรอแม่ด้วยสิลูก” ผู้เป็นพ่อเอ่ยปากเตือน หนูน้อยที่อยู่ในช่วงพลังงานล้นเหลือก็ก้าวเท้าช้าลง ปล่อยมือจากบิดาและหันไปประคบประหงมมารดาแทน“คับ” เด็กชายเขตต์ยิ้มแฉ่งให้กับผู้เป็นแม่ที่ยังเดินอุ้ยอ้าย ฝีเท้าเล็กๆ ก็ขยับช้าลงฉับพลันกันต์ธีมองความอ่อนโยนของลูกชาย โชคดีที่เขตต์ได้รับนิสัยน่ารักแบบนี้มาจากฝั่งของข้าวหวาน เขาจำได้ วันที่รู้ว่าในท้องของภรรยาเป็นลูกสาวเขาก็บอกกับลูกชายคนโตว่าต่อไปจะมีน้องน้อยที่น่ารักเหมือนตุ๊กตาออกมาเป็นเพื่อนเล่นอีกคน เด็กชายเขตต์ก็ดีอกดีใจ ทุกวันนี้พี่ชายตัวโตก็มักจะวิ่งเข้าโอบกอดท้องกลมเหมือนลูกแตงโมของมารดาอยู่ทุกวัน“น้องเขตต์จับมือคุณพ่อไว้นะคะ” คุณแม่ยังสาวรีบเตือนบุตรชายเมื่อเดินพ้นระยะจากลานจอดร

  • กังวานหวาน   บทที่ 64

    พ้นจากช่วงงานยุ่งติดพันมาพักใหญ่ ในที่สุดคู่สามีภรรยานักบริหารก็หาเวลาว่างมาล่องเรือสำราญกันได้สำเร็จแม้จะเป็นการมาพักผ่อนเพียงช่วงสั้นๆ ราวสามสี่คืน แต่นายแพทย์กันต์ธีก็เปี่ยมไปด้วยสุขที่เห็นภรรยาสาวผ่อนคลายลง เธอดูสดใสและเปล่งปลั่งขึ้นจนเขารู้สึกได้ ผิวขาวน้ำนมของหญิงสาวเหมือนจะเปล่งรัศมีเรืองแสง ยิ่งยามที่เธอเฉิดฉายอยู่ในชุดสีแดงแบบนี้ด้วย เขาไม่เหลือสายตาไปมองใครเลยแม้แต่วินาทีเดียว“เรือลำเดิมเลยค่ะพี่กันต์ จำได้หรือเปล่า”“จำได้สิครับ” ชายหนุ่มเดินโอบไหล่บอบบางพาไปยังบริเวณราวเหล็กด้านข้างเรือ ตั้งใจว่ารอให้แดดร่มลมตกกว่านี้ก่อนค่อยชักชวนภรรยาสาวขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าสำหรับดินเนอร์มื้อค่ำ“ที่บอกว่าจำได้เนี่ย คือจำว่ามากับหวาน หรือมากับดีเทลยาคนนั้นที่พากันเข้าห้องไปคะ” หญิงสาวเปิดปากกระแนะกระแหน ในใจก็นึกว่าจะไม่จิกกัดเขาเรื่องนี้อยู่แล้วเชียว แต่เมื่อก้าวขามาอยู่บนเรือสำราญ หัวใจมันคันยุบยิบ ปล่อยไปกันต์ธีก็เหมือนจะลอยตัว วันนี้เลยขอเคลียร์สิ่งที่ค้างคาสักหน่อย แล้วเธอจะมูฟออนจากเรื่องสาวๆ ของเขาเสียที“โธ่ หวาน”“อย่ามาทำเสียงแบบนั้นกลบเกลื่อนค่ะพี่กันต์ มันไม่ได้ผล” ไฮโซสาวยกแข

  • กังวานหวาน   บทที่ 63

    ทริปล่องเรือสำราญล่มไม่เป็นท่าเพราะนายแพทย์หนุ่มป่วยจนไข้ขึ้นถึงแม้กันต์ธีจะพยายามผงกหัวแล้วร้องโวยวายเสียงแหบพร่า บอกกับหญิงสาวว่าให้เตรียมตัวไปทริป แต่ด้วยสภาพของเขาที่มันตรงกันข้าม พอเริ่มงอแงหนักข้อขึ้น ไฮโซสาวก็เปลี่ยนมายืนเท้าเอว พลิกจากลูกโอ๋เป็นดุเสียงเข้มแทน“ก็ได้ค่ะ ถ้าพี่ยืนยันจะไปล่องเรือ หวานจะได้ไม่ต้องขนของกลับมาที่นี่”“ทำไมล่ะ” คนป่วยเบิกตาโต เสียงแห้งไปกว่าเดิมอีกพันเท่า พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนหมดเรี่ยวหมดแรง“ก็หวานจะเอาวันหยุดของเรา ย้ายของซะหน่อย ถ้าพี่กันต์อยากไปเที่ยวมาก งั้นเรื่องขนของกลับมาที่นี่ค่อยว่ากันทีหลังก็ได้ค่ะ”ได้ยินเหตุผลของหญิงสาว คนดื้อก็เด้งตัวขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าซีดเผือดเริ่มกลับมามีสีเลือดพร้อมกับทำเสียงจริงจัง จนคนที่แอบมองอยู่ต้องอมยิ้ม “ได้ยินกรมอุตุบอกว่าช่วงนี้คลื่นลมแรง เราอยู่บ้านก็ดีเหมือนกัน”“พูดง่ายๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อยค่ะ”“แล้วรักไหม” ไม่ใช่เพราะพิษไข้นี่หรอกที่ทำให้เขาอยากออดอ้อน แต่เพราะความรักที่ท่วมท้นล้นเอ่อ ในหัวใจมันรู้สึกหวานๆ คล้ายอยากให้เธอเติมคำว่ารักเข้ามาเพิ่ม อยากได้ยินอยู่แบบนั้นราวกับมันเป็นเสียงดนตรีบรรเลงที่อยา

  • กังวานหวาน   บทที่ 62

    หลังส่งมารดาขึ้นรถกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว นายแพทย์หนุ่มก็เดินเข้าครัวเพื่ออุ่นซุปเยื่อไผ่กระดูกอ่อน เดือดพลุ่งทั่วหม้อเขาก็ยกลงตักใส่ถ้วยกระเบื้อง พยายามฝืนกลืนให้ตัวมีแรง ในใจคิดไปว่าฝีมือมารดาคงอร่อยมากหากได้กินในช่วงเวลาปกติ ทว่าตอนนี้ปากของเขาเริ่มขมปร่าไม่รู้รสชาติเสียแล้ว กลิ่นที่ควรหอมฟุ้งจากน้ำต้มซุปกระดูกหมูก็ไม่พาเข้าสู่โสตประสาทใดๆเมื่อท้องอุ่นขึ้น คนใกล้ป่วยก็พาตัวเองไปยังห้องนอนกว้างข้าวหวานมักหาเวลามานอนค้างด้วยที่นี่เป็นบางครั้ง แต่หลังจากค่ำคืนที่หญิงสาวกลับไป เขาจะยิ่งทุรนทุรายด้วยความคิดถึงกว่าเดิมเมื่อต้องอยู่เพียงลำพัง เฉกเช่นคืนนี้ที่หลานสาวเจ้าสัวต้องควงปู่เพชรไปงานเลี้ยงที่สมาคม ส่วนเขาเร่งมือเคลียร์งานจึงไปกับเธอไม่ได้ ช่วงเวลาของการได้พบหน้าในตอนกลางวันมันไม่เพียงพอ ทั้งที่รู้สึกอ่อนเพลียขนาดนี้ แต่กันต์ธีก็ยังหลับไม่ลง‘นอนหรือยังคะ’ ข้อความที่เด้งขึ้นจากแอปพลิเคชันสนทนา ทำให้คนที่กำลังน้อยอกน้อยใจเปิดปากยกยิ้ม เขารีบพิมพ์กลับไปทันทีแบบไม่เล่นตัว‘ยังไม่นอน คิดถึงข้าวหวานจัง’ครู่ต่อมาเสียงโทรศัพท์ก็แผดร้องขึ้น ชายหนุ่มที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงยกขึ้นปัดรับด้

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status