เสียงเพลงจากผับดังเป็นจังหวะสนุกสนานกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวรู้สึกคึกคัก ดิสโก้บอลหลากสีเหนือเพดานส่องแสงระยิบระยับไปทั่วบริเวณ
นลินนาหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีดำตัดขับผิวของเธอให้ดูสว่างท่ามกลางแสงสลัว หญิงสาวกำลังเต้นไปตามจังวะเพลงอย่างสนุกสนาน แก้มเนียนออกสีชมพูระเรื่อเพราะฤทธิ์จากการดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปหลายแก้ว ดวงตากลมโตเปล่งประกายไปด้วยแห่งความสุขเพราะเธอเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยและจะได้เริ่มทำงานทันที
“ลินพอได้แล้วมั้งแก เมาจนตาเยิ้มแล้วนะ” ธมนวรรณหรือป่านเพื่อนซี้ของนลินนาตะโกนแข่งกับเสียงเพลงแล้วพยายามดึงเพื่อนกลับมานั่งที่เดิม
“นิดหน่อยน่าป่าน นานๆ เมาที” นลินนาตอบเสียงยาน
“อีกแก้วเดียวแล้วเราจะกลับบ้านกัน”
“ก็ได้ๆ อ้าว...ชน....” นลินนายื่นแก้วเหล้าขึ้นชนกับแก้วของเพื่อนหญิงสาวหัวเราะร่วนก่อนจะยกเครื่องดื่มสีสวยเข้าปากอีกอึกใหญ่
ธมนวรรณได้แต่ส่ายหัวอย่างอ่อนใจกับความดื้อของเพื่อน แม้จะเตือนแล้วเตือนอีก นลินนาก็ยังคงดื่มต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องกลับบ้าน
“ป่านพาฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนกลับได้ไหม” นลินนาบอกเพื่อนเพราะเธอมาจนประคองตัวเองแทบไม่ไหว
“เดินช้าๆ” ธมนวรรณพยุงเพื่อนไปเข้าห้องน้ำจากนั้นก็ประคองไปรถด้วยความทุลักทุเล
“อยากนอนแล้ว ไม่หวายยยย...ปวดหัวไปหมด”
“งั้นแกนอนรอที่เบาะหลังไปก่อนนะ ฉันจะไปล้างหน้าสักหน่อย” ธมนวรรณพานลินนาให้ไปนั่งที่เบาะหลังของรถตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกลจากผับ
เมื่อพานลินนาเข้าไปในรถแล้วธมนวรรณก็เดินไปเข้าห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าและเรียกสติให้กลับมาสดชื่นเนื่องจากดื่มไปหลายแก้ว
นลินนานอนอยู่หลังรถได้ไม่นานก็รู้สึกพะอืดพะอมเหมือนจะอาเจียน เธอจึงลุกขึ้นแล้วรีบเปิดประตูรถลงไปอาเจียนอยู่ข้างทางจนรู้สึกดีขึ้นมาบ้างหลังจากอาเจียนออกไปจนหมด
ด้วยสติที่เหลือไม่มากเธอพยุงตัวเองให้เดินกลับไปที่รถของธมนวรรณ เมื่อเห็นรถสีดำคุ้นตาที่จอดอยู่หญิงสาวก็เปิดประตูเข้าไปนอนในเบาะหลังอย่างหมดสภาพและผล็อยหลับไปในทันทีโดยไม่ทันสังเกตว่าข้างๆ รถมีผู้ชายคนหนึ่งยืนคุยโทรศัพท์อยู่
ธีรกฤษนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หนุ่มใหญ่วัยสามสิบยืนพิงรถของตัวเองและกำลังคุณโทรศัพท์อยู่เขาจึงไม่เห็นว่าตอนนี้ที่เบาะหลังมีใครบางคนขึ้นไปนอนอยู่
ชายหนุ่มกลับเข้ามาในรถอีกครั้งเขาเปิดประตูรถฝั่งคนขับและก้าวขึ้นมานั่งโดยไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ บนเบาะหลัง เพราะความมืดของยามค่ำคืน
เขาขับรถออกมาอย่างช้าๆ ในมือยังถือโทรศัพท์คุยสายสำคัญบทสนทนาทางธุรกิจกับคู่ค้ายังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
“ครับคุณคิม ผมเข้าใจดีเรื่องเงื่อนไขพวกนั้นดี แต่ผมว่าเราคงต้องคุยกันเรื่องรายละเอียดอีกครั้ง” ธีรกฤษพูดอย่างจริงจัง ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
ใช้เวลาไม่นานนักรถคันงามก็เข้ามาจอดในโรงรถของบ้านหลังสองชั้นทรงโมเดิร์นที่เขาเป็นคนออกแบบแล้วสร้างมันขึ้นมาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง
ธีรกฤษดับเครื่องยนต์และก้าวลงจากรถ ชายหนุ่มเปิดประตูที่ด้านหลังเพื่อจะหยิบเอกสารบางอย่างแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อได้กลิ่น กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยมาปะทะจมูกเข้าจมูก ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อว่าบนที่นั่งเบาะหลังมีคนนอนอยู่
“เฮ้ย....คุณ...มาได้ยังไง” ธีรกฤษตกใจมากเพราะจำได้ว่าวันนี้เขาไม่ได้พาผู้หญิงคนไหนกลับมาด้วยอย่างแน่นอน ชายหนุ่มเพ่งมองและพยายามคิดว่าเขารู้จักกับผู้หญิงคนนี้ไหมแต่เท่าที่จำได้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาเคยนอนด้วยเลย
“นี่ คุณเป็นใครมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ตื่นมาคุยกันก่อน คุณ คุณ” เขาทั้งเรียกทั้งเขย่าตัวของหญิงสาวแต่เธอก็ยังไม่ลืมตาขึ้นมาคุย
“อย่ากวนสิป่าน คนกำลังง่วง” หญิงสาวพูดแล้วซุกตัวเข้ากับเบาะรถ
“เดี๋ยวคุณ....ลืมตามาคุยกันก่อน นี่คุณ....” เขาพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นเพราะอยากเรียกสติของหญิงสาวที่กำลังเมาไม่รู้เรื่องและอยากรู้ว่าเธอมาอยู่ที่เบาะหลังของรถเขาได้ยังไงและขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน
“อ้อ.... สวัสดีค่ะพ่อ....ทำมายยยยวันนี้พ่อหล่อจังคะ....คืนนี้หนูขอนอนกับป่านนะคะ”
“นี่คุณลืมตามาก่อนผมไม่ใช่พ่อคุณนะ” ธีรกฤษพยายามดึงหญิงสาวให้ลุกจากเบาะหลังเพราะอยากจะถามให้รู้เรื่องว่ามันเกิดอะไรขึ้น
นลินนาเมามากและไม่มีแรงจะต่อต้านหญิงสาวเซมาตามแรงดึงแต่เพราะลุกขึ้นเร็วเกินไปจนทำให้กระเพาะเริ่มปั่นป่วน
แหวะ!..
อาเจียนสีข้นพุ่งออกมาจากปากของนลินนาจนมันไปถูกเสื้อเชิ้ตราคาแพงของธีรกฤษ กลิ่นฉุนเปรี้ยวของอาเจียนคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
ธีรกฤษยืนนิ่งด้วยความตกใจ เขารู้สึกขยะแขยงและไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นสภาพของหญิงสาวที่หมดสติไปแล้วอยู่ในอ้อมกอดแล้วก็ทำได้แค่เพียงถอนหายใจ
“เฮ้อ....ให้ตายเถอะทำไมถึงได้กินเยอะจนเมาไม่รู้เรื่องแบบนี้ด้วยนะ ถ้าใครเขาพาไปทำเรื่องไม่ดีขึ้นมาจะทำยังไง เป็นผู้หญิงอีกด้วยไม่รู้ป่านนี้พ่อแม่จะตามหาอยู่หรือเปล่า” เขาบ่นกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเซ็งสุดขีด
ชายหนุ่มตัดสินใจอุ้มหญิงสาวร่างในอ้อมแขนที่เปื้อนอาเจียนเต็มไปหมดแล้วพาเข้ามาในห้องรับแขก
“น้าสมร น้าสมร ออกมาช่วยผมหน่อย” ธีรกฤษตะโกนเรียกแม่บ้านเสียงดังลั่นทันทีที่เปิดประตูห้อง
น้าสมรแม่บ้านวัยกลางคนรีบวิ่งออกมาจากห้องนอนด้วยความตกใจ เมื่อเห็นสภาพเจ้านายที่เปื้อนคราบอาเจียนและหญิงสาวในอ้อมแขนก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตาโต
“คุณธีร์ เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ยแล้วเธอเป็นใครคะทำไมถึงไม่ได้สติแบบนี้” น้าสมรถามด้วยความตกใจ
“ไม่รู้เหมือนกันครับน้า ผมกลับมาถึงบ้านถึงรู้ว่าเธอนอนอยู่ แล้วก็อาเจียนใส่ผมเต็มไปหมดเลย” ธีรกฤษรีบอธิบาย
“ตายจริงดูสิหลับไม่รู้เรื่องเลย”
“น้าช่วยพาเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยครับ เดี๋ยวผมจะอุ้มเธอไปที่ห้องนอนแขก”
“ได้ค่ะคุณธีร์เดี๋ยวน้าจะรีบตามไปจัดการให้”
น้าสมรพยักหน้าก่อนจะเดินตามเจ้านายไปยังห้องนอนแขกที่อยู่บนชั้นสอง
“ฝากด้วยนะครับน้า”
“อย่าห่วงเลยค่ะ น้าว่าคุณธีร์ก็รีบไปอาบน้ำเถอะค่ะทิ้งไว้นานเดี๋ยวจะล้างออกยากนะคะ”
ธีรกฤษมองเธออีกครั้งก่อนจะกลับมายังห้องนอนของตนเองด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งหงุดหงิด ขยะแขยง และกังวลเล็กน้อยกับหญิงสาวแปลกหน้าที่จู่ๆ ก็อยู่บนเบาะหลังรถของเขา
ชายหนุ่มไม่รู้เธอเป็นใครแต่ถามตอนนี้คงไม่รู้เรื่องเขาจะรอให้เธอตื่นมาในตอนเช้าแล้วค่อยถามอีกทีว่าเธอเป็นใครและมาอยู่ในรถของเขาได้ยังไง
บ่ายวันเสาร์นลินนาเริ่มทำอาหารเย็นด้วยความตั้งใจเพราะวันนี้หญิงสาวเชิญธีรกฤษมาทานอาหารที่บ้าน“ดูหลานสาวของป้าจะตั้งใจทำกับข้าวมากๆ เลยนะ ตกลงคบกันเป็นแฟนแล้วใช่ไหม” ป้าสุรีย์เห็นหญิงสาวตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารแล้วดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ“ยังหรอกค่ะป้า แต่เราก็คุยกันเรื่อยๆ” เธอเองก็อยากให้ทุกอย่างมันชัดเจนแต่เมื่อผู้ชายไม่พูดเธอก็ไม่กล้าจะถาม บางที่ความรู้สึกของธีรกฤษที่มีต่อเธออาจจะน้อยกว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา แต่นลินนาก็ทำใจไว้ระดับหนึ่งแล้วว่าเธอกับเขาอาจจะคบกันไปเรื่อยๆ ไม่ต้องมีสถานะแต่มีแค่กันและกันก็น่าจะมีความสุขมากพอแล้ว“แล้วลินคิดยังไงกับเขาล่ะ ชอบเขาใช่ไหม”“ค่ะป้าสุ แต่เราสองคนไม่เคยคุยกันถึงสถานะ”“แล้วถ้าคบกันไปเรื่อยๆ แล้วเขาไม่ขอเป็นแฟนสักทีจะไม่เสียเวลาเหรอ”“ไม่หรอกค่ะป้า การมีเขาในตอนนี้ลินก็มีความสุขแล้วค่ะ ถ้าวันหนึ่งจะไม่ได้คบกันต่อก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เธอพูดเพื่อให้ป้าสุรีย์สบายใจ“ที่ป้าถามไม่ได้จะกดดันอะไรหรอกนะ ป้าก็แค่เป็นห่วงลินอายุยังน้อยมีโอกาสเจอคนอีกเยอะ ถ้าให้เวลาเขาเต็มที่แล้วเขายังไม่คิดจะพูดถึงเรื่องขอเป็นแฟนก็ควรถอยออกมา”“ค่ะป้า ลินคิดว่าจะให้เวล
หลังจากกลับจากสมุยนลินนากับธีรกฤษก็ยังคงติดต่อกันอยู่ตลอด ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อยให้เรื่องทุจริตในบริษัทของชัยวัฒน์ผ่านไปง่ายๆ เขาตั้งใจจะช่วยนลินนาและเปิดโปงความจริงให้ได้ตลอดหนึ่งสัปดาห์นลินนาใช้ความพยายามอย่างมากในการรวบรวมหลักฐาน หญิงสาวแอบถ่ายรูปเอกสารที่ผิดปกติ บันทึกข้อมูลการสั่งซื้อที่น่าสงสัย และรวบรวมข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันการทุจริตได้ เธอต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้คุณมนตรีหรือใครในแผนกจับได้เธอจะส่งข้อมูลทั้งหมดธีรกฤษเมื่อได้หลักฐานมามากพอแล้วธีรกฤษก็นัดเจอกับชัยวัฒน์เพื่อนสนิทของเขาที่ออฟฟิศของชัยวัฒน์เอง บรรยากาศในห้องทำงานของชัยวัฒน์ดูเคร่งเครียดกว่าปกติธีรกฤษนั่งลงตรงข้ามกับชัยวัฒน์ใบหน้าของเขาดูจริงจังและเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“มีอะไรหรือเปล่าวะธีร์ ดูเครียดๆ” ชัยวัฒน์ถามด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน“นายดูนี่” ธีรกฤษไม่ตอบอะไรเขาวางแท็บเล็ตลงบนโต๊ะ เลื่อนไปตรงหน้าชัยวัฒน์ชัยวัฒน์หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาดู ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นภาพถ่ายเอกสารต่างๆ ที่ธีรกฤษรวบรวมมา มันคือหลักฐานการทุจริตในบริษัทของเขาเอง ชัยวัฒน์อ
สายของอีกวันนลินนาลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอบอุ่นของธีรกฤษ เมื่อคืนกว่าเขาจะยอมให้เธอได้พักก็ผ่านนานจนเธอร้องขอ ความรู้สึกสุขสมเมื่อคืนยังติดอยู่ในความทรงจำที่เร่าร้อนและแสนหวาน เธอพลิกตัวหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับใหลอย่างสงบ แววตาของเธอมองเขาด้วยความอ่อนโยนและอบอุ่นนลินนาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบ ไม่ต้องการรบกวนการนอนของธีรกฤษ เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัวแล้วออกมาสวมชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวสบายๆ ผมยาวถูกรวบขึ้นอย่างหลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอระหง เธอเดินออกมาริมระเบียงสูดและมองวิวทะเลสีครามที่ทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตาไม่นานนักธีรกฤษก็เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสบายๆ เขาเดินตรงเข้ามาโอบกอดนลินนาจากด้านหลังซบหน้าลงกับไหล่ของเธออย่างออดอ้อน“ตื่นเช้าจังเลยนะครับลิน” เขาพูดเสียงแหบพร่าจากการเพิ่งตื่นนอน“เช้าที่ไหนคะ นี่มันสิบโมแล้วค่ะ อากาศดีมากเลยนะคะ” นลินนาตอบพลางซบตัวพิงกับอกแกร่งของเขาทั้งสองคนยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ ปล่อยให้สายลมทะเลพัดผ่าน ก่อนที่ธีรกฤษจะชวนเธอไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของรีสอร์ตตลอดทั้งวันทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ที่ร
ธีรกฤษจูบลงไปบนไรผมที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ ก่อนที่ปากร้อนจะลากไปบนลำตัวของหญิงสาวด้วยความลุ่มหลง ชายหนุ่มดันเรียวขาให้กว้างขึ้น ตาคมมองดอกไม้สีสวยที่ฉ่ำเยิ้มแล้วกดความเป็นชายลากขึ้นลงจนส่วนปลายชุ่มไปด้วยน้ำหวาน“อื้อ...พี่ธีร์”หญิงสาวส่ายสะโพกเข้าหาอย่างลืมตัว ร่างกายของเธอร้อนรุ่มความต้องการฉายชัดในแววตาอย่างปิดไม่มิด เพราะความต้องการที่มากล้น แต่นั่นก็ทำให้ธีรกฤษพอใจเป็นอย่างมากที่ผู้หญิงของเขาเร่าร้อนแบบนี้“ไม่เกร็งนะแล้วลินจะมีแต่ความสุข”พูดจบชายหนุ่มก็จูบลงมาอีกครั้งขณะที่ท่อนเอ็นร้อนกดเข้าหาความอ่อนนุ่มทีละนิด ธีรกฤษกัดกรามแน่นเมื่อเขาโดนความคับแน่นของนลินนาตอดรัดตั้งแต่เข้าได้เพียงครึ่งทางครั้งนี้เขาไม่ได้เตรียมถุงยางอนามัยมา และมันก็ทำให้เขารู้ว่าการสอดใส่แบบไม่ป้องกันมันเพิ่มความเสียวมากแค่ไหน ธีรกฤษไม่กลัวเรื่องโรคติดต่อเพราะรู้ว่านลินนามีแค่เขาคนเดียว ส่วนเรื่องท้องก็ไม่ปัญหาเพราะเธอบอกเขาเองว่าอีกไม่กี่วันรอบเดือนก็จะมาทุกอย่างมันเลยลงตัวไปหมด“อื้อ...พี่ธีร์...”“อีกนิดคนเก่ง ของลินแน่นมาก”ในที่สุดธีรกฤษก็พาตัวตนเข้าไปจนลึกสุดความยาว เขาพ่นลมหายใจออกทางปากเพื่อระบายความเ
เมื่อเดินคุยกันได้พักใหญ่ นลินนาและธีรกฤษก็กลับเข้ามายังบ้านพัก ทั้งสองคนแยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อชำระล้างความเหนียวเหนอะหนะจากน้ำทะเล นลินนาออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนผ้าไหมเนื้อนุ่มสีชมพูอ่อนที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ผมยาวสลวยถูกปล่อยให้ทิ้งตัวลงมาเคลียไหล่ เผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียด ธีรกฤษออกมาในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสีเข้ม เปิดเผยแผงอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ คิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าชุดนอนของเธอช่างบางเบาเสียเหลือเกิน เขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเป็นห่วงดี“ไปนั่งข้างนอกกันไหม” ธีรกฤษผายมือไปยังเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำที่จัดไว้อย่างสวยงาม มีโต๊ะเตี้ยๆ วางอยู่ตรงกลาง พร้อมขวดไวน์แดงและแก้วไวน์สองใบนลินนาเดินไปนั่งลงข้างเขา สายตาจับจ้องไปยังสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ทอดยาวออกไปจรดผืนทะเลเบื้องหน้า แสงจันทร์กระทบผิวน้ำระยิบระยับสวยงามรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในความฝัน“ดื่มไวน์สักหน่อยไหม” ธีรกฤษรินไวน์แดงลงในแก้ว แล้วยื่นให้นลินนานลินนารับแก้วไวน์มาถือไว้ก่อนจะยกจิบเล็กน้อย รสชาติไวน์ที่นุ่มนวลช่วยให้เธอผ่อนคลายมากขึ้น“คืนนี้ดาวสวยจังเลยนะคะ” นลินนาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงด
สองสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์ของนลินนาและธีรกฤษยังคงดำเนินแบบไร้สถานะแต่กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเข้าใจกันมากขึ้นเรื่อยๆธีรกฤษยังคงโทรศัพท์หานลินนาทุกคืน ชวนไปทานข้าว ดูหนัง หรือแม้แต่เดินเล่นในสวนสาธารณะ บ่อยครั้งที่เขาจะมาส่งเธอที่บ้านและแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของเขาก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวและเริ่มรู้สึกกับเขามากกว่าคนรู้จักคืนนี้ก็เหมือนกันกับทุกคืนที่ธีรกฤษโทรศัพท์มาหาเธอหลังจากที่เขาเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จแล้ว“ขอโทษนะวันนี้พี่โทรมาดึกเลย”“งานยุ่งเหรอคะ”“ครับ พี่ต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนหยุดยาว อีกสองวันก็จะถึงวันหยุดแล้วลินให้คำตอบพี่ได้หรือยังล่ะว่าจะไปเที่ยวทะเลกับพี่หรือเปล่า”“เราจะไปกันที่ไหนคะ แล้วต้องค้างด้วยหรือเปล่า”“พี่ว่าจะค้างสองคืนนะ”“ถ้าลินตอบตกลงตอนนี้เราจะหาที่พักทันไหมคะ”“ทันสิ แล้วลินอยากไปที่ไหนล่ะ”“แล้วพี่ธีร์ล่ะคะอยากไปที่ไหน”“พี่ให้ลินเลือกว่าจะไปที่ไหนระหว่าสมัยหรือภูเก็ต” ที่เขาให้ตัวเธอเลือกสองที่เพราะเขามีคนรู้จักเป็นเจ้ารองรีสอร์ตที่นั่นและคงจะมีห้องพักให้เขาแม้ว่าจะเป็นหยุดยาวก็ตาม“พี่จะจองที่พักได้แน่นะคะ” หญิงสาวยัง