นลินนานอนพลิกตัวไปมาบนเตียงนุ่ม คืนนี้เป็นอีกคืนที่เธอข่มตาหลับไม่ลง ไม่ใช่เพราะความกังวลเหมือนเมื่อครั้งที่นอนผิดที่ผิดทาง แต่เป็นเพราะความตื่นเต้นกับบทบาทใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันพรุ่งนี้
แม้ที่ผ่านมาจะเรียนอย่างหนักและใช้เวลาฝึกงานอยู่หลายเดือน แต่มันก็ให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างมาก การเป็นนักศึกษาฝึกงานกับการทำงานโดยไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของครูพี่เลี้ยงนั้นมันต่างกันอย่างลิบลับ หญิงสาวพยายามทำสมาธิให้ตัวเองสงบลงแต่นั้นก็เป็นเวลาตีหนึ่งแล้ว
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเวลาตีห้านลินนาดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันทีด้วยความตื่นเต้นกับการไปเริ่มงานวันแรก เธอเดินออกมาจากห้องนอน ตรงไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าซึ่งปกติแล้วคนที่เตรียมอาหารจะเป็นป้าสุรีย์เสียมากกว่า แต่วันนี้นลินนาอยากจะแบ่งเบาภาระและแสดงความพร้อมสำหรับการเป็นผู้ใหญ่
เมื่อป้าของเธอตื่นนอนมาในอีกชั่วโมงต่อมา ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นอาหารทุกอย่างพร้อมอยู่บนโต๊ะแล้ว ทั้งข้าวสวยร้อนๆ และกับข้าวอีกหลายอย่างที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยลิน ทำไมอาหารเสร็จเร็วแบบนี้ล่ะ” ป้าสุรีย์ถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย
“ก็ลินตื่นเต้นดีค่ะป้าสุ ก็เลยตื่นมาทำกับข้าวตั้งแต่เช้า” นลินนาตอบพลางยิ้มกว้าง แม้ใบหน้าจะดูอิดโรยเล็กน้อยจากการนอนไม่พอแต่ก็เต็มใจที่จะทำอาหารเช้านี้
“แล้วเมื่อคืนนอนหลับหรือเปล่า ป้าว่าเช้านี้หนูดูไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่” ป้าสุรีย์เดินเข้ามาใกล้แล้วลูบผมหลานสาวเบาๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใย
“ลินหลับไปได้ไม่นานค่ะป้า มันกังวลมากเลยค่ะ วันนี้เป็นวันแรกด้วย ลินไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานจะเป็นยังไงบ้าง จะเจอปัญหาอะไรที่ไม่เคยเรียนมาหรือเปล่า” นลินนาพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคู่สวยฉายแววไม่มั่นใจ
“ไม่ต้องกลัวนะลิน การไปทำงานแรกๆ จะมีรุ่นพี่คอยให้คำแนะนำอยู่แล้วแหละหนู ไม่ต้องกังวลไปเลย” ป้าสุรีย์ปลอบโยนอย่างอ่อนโยน พลางจับมือหลานสาวเบาๆ
“ป้าคะ ถ้าเกิดรุ่นพี่เขาไม่ช่วยให้คำแนะนำลินจะทำยังไง” เธอเงยหน้าขึ้นมองป้าสุรีย์แล้วด้วยความไม่แน่ใจ
“คนในแผนกเดียวกันยังไงก็ต้องได้ให้คำแนะนำจ้ะ เพราะยิ่งลินทำงานเป็นเร็วเท่าไหร่ เพื่อนร่วมงานก็จะเหนื่อยน้อยลง ลินอย่ากังวลเลยนะ ป้าว่าตอนนี้หนูไปอาบน้ำให้สดชื่นแล้วแต่งหน้าแต่งตาสักหน่อยนะ แล้วค่อยออกมากินข้าวดีไหม” ป้าสุรีย์พูดพร้อมรอยยิ้มอุ่นใจ พยายามคลายความกังวลให้หลานสาว
“ค่ะป้า แล้วตอนนี้ป้าสุหิวหรือยังคะ” นลินนายิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของป้า เธอถามด้วยน้ำเสียงกังวลว่าป้าจะรอนาน
“ป้ายังไม่หิวหรอกจ้ะ กะว่าจะออกไปรดน้ำต้นไม้สักหน่อย ไหนๆ ก็ไม่ต้องทำกับข้าวแล้วนี่” ป้าสุรีย์ตอบอย่างอารมณ์ดี
“ถ้างั้นลินขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะป้า”
“ได้จ้ะ อีกครึ่งชั่วโมงค่อยมากินข้าวพร้อมกันนะ” ป้าสุรีย์บอกพลางส่งยิ้มให้
“ค่ะ” นลินนาตอบรับเสียงใส ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเองด้วยความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากขึ้น
หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ใบหน้าสวยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบบอ่อนๆ ริมฝีปากบางทาลิปสติกสีชมพูนู้ด ปัดมาสคาร่าเล็กน้อยเสริมให้ดวงตากลมโตดูน่าค้นหายิ่งขึ้น ผมยาวถูกมัดรวบเป็นหางม้าแล้วผูกโบว์สีขาวเสริมให้ดูดียิ่งขึ้น
เธอเลือกสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวไว้ด้านในและสวมทับด้วยสูทพอดีตัวสีดำสนิท คู่กับกระโปรงทรงสอบสีน้ำตาลเข้ม ชุดทำงานที่ดูสุภาพแต่ก็แฝงไปด้วยความคล่องตัว นลินนาหมุนตัวอยู่หน้ากระจกหลายรอบเพื่อสำรวจความเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาจากห้องด้วยรอยยิ้มมั่นใจ
“วันนี้หลานสาวของป้าสวยมากเลย”
“ขอบคุณค่ะป้า”
“ไม่น่าเชื่อเลยนะจากเด็กน้อยจะกลายเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานแล้ว ป้าภูมิใจในตัวลินมากเลยนะ” ป้าสุรีย์เอ่ยชมด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ เธอมองหลานสาวด้วยความรักใคร่
“ถ้าลินไม่ได้ป้าสุส่งเสียให้เรียนก็คงแย่” นลินนายิ้มเขินเล็กน้อยและพูดด้วยความซาบซึ้งใจ
“อย่าพูดอย่างนั้นสิลูก เงินที่ป้าเอามาส่งเสียหนูก็เป็นเงินของพ่อแม่หนูทั้งนั้นแหละ” ป้าสุรีย์พูดพลางลูบผมหลานเบาๆ น้ำเสียงอ่อนโยน
“แต่ถ้าไม่มีป้าสุ ลินก็คงไม่มีวันนี้ ขอบคุณป้าสุมากนะคะที่คอยให้กำลังใจและช่วยลินจนเรียนจบ ลินสัญญาค่ะ ถ้าลินได้เงินเดือนเยอะๆ เมื่อไหร่ ลินจะให้ป้าลาออกจากงานแล้วมาอยู่บ้านเฉยๆ” เธอพูดอย่างหนักแน่น ดวงตาเป็นประกายด้วยความมุ่งมั่น
“ถ้าป้าลาออกแล้วป้าจะไปทำงานอะไรล่ะลูก งานที่ป้าทำมันไม่ได้หนักหนาอะไรเลย และป้าก็ทำมานานเกือบยี่สิบปีแล้วนะ”
“แต่ลินอยากให้ป้าได้พักบ้าง ป้าเหนื่อยมามากแล้วนะคะ” นลินนาพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“เอาเป็นว่าถ้าป้าทำงานไม่ไหวจริงๆ ป้าจะอยู่บ้านเฉยๆ ปลูกต้นไม้ปลูกดอกไม้ให้ลินเป็นคนหาเลี้ยงดีไหมล่ะ” ป้าสุรีย์เสนอทางออกด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเต็มไปด้วยความสุขที่ได้เห็นหลานเติบโต
“ลินยินดีที่จะดูแลป้าสุค่ะ แต่วันนี้ป้าสุคงต้องไปทำงานก่อนนะคะ เพราะเงินเดือนลินยังไม่ออกเลย” นลินนาพูดติดตลก
“นั่นสิป้าลืมไปเลย แล้วเดือนนี้ป้าคงต้องเพิ่มเงินเดือนให้หนูแล้วแหละ” ป้าสุรีย์เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าค่าใช้จ่ายของหลานสาวจะต้องมากขึ้นกว่าตอนไปเรียน
“ไม่ต้องเพิ่มหรอกค่ะป้า เงินเก็บหนูยังพอมีอยู่” นลินนารีบปฏิเสธ
“ได้ยังไงล่ะหนู ไปทำงานต้องนั่งรถไฟฟ้าไปตั้งหลายสถานี ไหนจะต้องมีค่าอาหารกลางวันอีก”
“แค่ข้าวกลางวันคงไม่ต้องให้เพิ่มหรอกค่ะป้า” นลินนากล่าวอย่างเกรงใจ
“บริษัทกลางใจเมืองแบบนั้นราคาอาหารไม่เหมือนในมหาวิทยาลัยนะ เดี๋ยวป้าจะโอนค่าใช้จ่ายเพิ่มให้ก็แล้วกันนะ” ป้าสุรีย์พูดอย่างใจดีไม่ยอมให้หลานปฏิเสธ
“ก็ได้ค่ะป้า ลินจะใช้อย่างประหยัดนะคะ”
ป้ากับหลานนั่งทานอาหารเช้าเสร็จก็ช่วยกันล้างจาน จากนั้นนลินนาก็นั่งรถของคุณป้ามาลงที่สถานีรถไฟฟ้า เธอโบกมือลาป้าด้วยรอยยิ้มสดใสก่อนจะเดินขึ้นไปบนสู่สถานีรถไฟฟ้า เธอรู้สึกตื่นเต้นและพร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิต
เธอใช้เวลาบนรถไฟฟ้าประมาณครึ่งชั่วโมง มองออกไปนอกหน้าต่าง ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า เมื่อมาถึงสถานีปลายทาง เธอก็เดินมุ่งหน้าไปยังบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง ทันทีที่ก้าวเข้าสู่โถงตึกกระจกขนาดใหญ่ นลินนาก็รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และเป็นมืออาชีพของสถานที่แห่งนี้
เธอไปรายงานตัวที่แผนกบุคคลที่ชั้น 15 ตามที่ได้รับแจ้งไว้ พนักงานต้อนรับยิ้มแย้มและให้คำแนะนำอย่างดี หลังจากจัดการเรื่องเอกสารเรียบร้อย นลินนาก็ได้รับบัตรพนักงานและคำแนะนำให้ตรงไปยังแผนกจัดซื้อที่ชั้น 12 ทันที
หัวใจของนลินนาเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง นี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตการทำงานอย่างเป็นทางการของเธอ เธอไม่รู้ว่าอะไรกำลังรอเธออยู่บ้าง แต่เธอก็พร้อมที่จะเรียนรู้และเติบโตในเส้นทางสายอาชีพนี้อย่างเต็มที่
บ่ายวันเสาร์นลินนาเริ่มทำอาหารเย็นด้วยความตั้งใจเพราะวันนี้หญิงสาวเชิญธีรกฤษมาทานอาหารที่บ้าน“ดูหลานสาวของป้าจะตั้งใจทำกับข้าวมากๆ เลยนะ ตกลงคบกันเป็นแฟนแล้วใช่ไหม” ป้าสุรีย์เห็นหญิงสาวตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารแล้วดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ“ยังหรอกค่ะป้า แต่เราก็คุยกันเรื่อยๆ” เธอเองก็อยากให้ทุกอย่างมันชัดเจนแต่เมื่อผู้ชายไม่พูดเธอก็ไม่กล้าจะถาม บางที่ความรู้สึกของธีรกฤษที่มีต่อเธออาจจะน้อยกว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา แต่นลินนาก็ทำใจไว้ระดับหนึ่งแล้วว่าเธอกับเขาอาจจะคบกันไปเรื่อยๆ ไม่ต้องมีสถานะแต่มีแค่กันและกันก็น่าจะมีความสุขมากพอแล้ว“แล้วลินคิดยังไงกับเขาล่ะ ชอบเขาใช่ไหม”“ค่ะป้าสุ แต่เราสองคนไม่เคยคุยกันถึงสถานะ”“แล้วถ้าคบกันไปเรื่อยๆ แล้วเขาไม่ขอเป็นแฟนสักทีจะไม่เสียเวลาเหรอ”“ไม่หรอกค่ะป้า การมีเขาในตอนนี้ลินก็มีความสุขแล้วค่ะ ถ้าวันหนึ่งจะไม่ได้คบกันต่อก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เธอพูดเพื่อให้ป้าสุรีย์สบายใจ“ที่ป้าถามไม่ได้จะกดดันอะไรหรอกนะ ป้าก็แค่เป็นห่วงลินอายุยังน้อยมีโอกาสเจอคนอีกเยอะ ถ้าให้เวลาเขาเต็มที่แล้วเขายังไม่คิดจะพูดถึงเรื่องขอเป็นแฟนก็ควรถอยออกมา”“ค่ะป้า ลินคิดว่าจะให้เวล
หลังจากกลับจากสมุยนลินนากับธีรกฤษก็ยังคงติดต่อกันอยู่ตลอด ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อยให้เรื่องทุจริตในบริษัทของชัยวัฒน์ผ่านไปง่ายๆ เขาตั้งใจจะช่วยนลินนาและเปิดโปงความจริงให้ได้ตลอดหนึ่งสัปดาห์นลินนาใช้ความพยายามอย่างมากในการรวบรวมหลักฐาน หญิงสาวแอบถ่ายรูปเอกสารที่ผิดปกติ บันทึกข้อมูลการสั่งซื้อที่น่าสงสัย และรวบรวมข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันการทุจริตได้ เธอต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้คุณมนตรีหรือใครในแผนกจับได้เธอจะส่งข้อมูลทั้งหมดธีรกฤษเมื่อได้หลักฐานมามากพอแล้วธีรกฤษก็นัดเจอกับชัยวัฒน์เพื่อนสนิทของเขาที่ออฟฟิศของชัยวัฒน์เอง บรรยากาศในห้องทำงานของชัยวัฒน์ดูเคร่งเครียดกว่าปกติธีรกฤษนั่งลงตรงข้ามกับชัยวัฒน์ใบหน้าของเขาดูจริงจังและเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“มีอะไรหรือเปล่าวะธีร์ ดูเครียดๆ” ชัยวัฒน์ถามด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน“นายดูนี่” ธีรกฤษไม่ตอบอะไรเขาวางแท็บเล็ตลงบนโต๊ะ เลื่อนไปตรงหน้าชัยวัฒน์ชัยวัฒน์หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาดู ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นภาพถ่ายเอกสารต่างๆ ที่ธีรกฤษรวบรวมมา มันคือหลักฐานการทุจริตในบริษัทของเขาเอง ชัยวัฒน์อ
สายของอีกวันนลินนาลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอบอุ่นของธีรกฤษ เมื่อคืนกว่าเขาจะยอมให้เธอได้พักก็ผ่านนานจนเธอร้องขอ ความรู้สึกสุขสมเมื่อคืนยังติดอยู่ในความทรงจำที่เร่าร้อนและแสนหวาน เธอพลิกตัวหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับใหลอย่างสงบ แววตาของเธอมองเขาด้วยความอ่อนโยนและอบอุ่นนลินนาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบ ไม่ต้องการรบกวนการนอนของธีรกฤษ เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัวแล้วออกมาสวมชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวสบายๆ ผมยาวถูกรวบขึ้นอย่างหลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอระหง เธอเดินออกมาริมระเบียงสูดและมองวิวทะเลสีครามที่ทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตาไม่นานนักธีรกฤษก็เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสบายๆ เขาเดินตรงเข้ามาโอบกอดนลินนาจากด้านหลังซบหน้าลงกับไหล่ของเธออย่างออดอ้อน“ตื่นเช้าจังเลยนะครับลิน” เขาพูดเสียงแหบพร่าจากการเพิ่งตื่นนอน“เช้าที่ไหนคะ นี่มันสิบโมแล้วค่ะ อากาศดีมากเลยนะคะ” นลินนาตอบพลางซบตัวพิงกับอกแกร่งของเขาทั้งสองคนยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ ปล่อยให้สายลมทะเลพัดผ่าน ก่อนที่ธีรกฤษจะชวนเธอไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของรีสอร์ตตลอดทั้งวันทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ที่ร
ธีรกฤษจูบลงไปบนไรผมที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ ก่อนที่ปากร้อนจะลากไปบนลำตัวของหญิงสาวด้วยความลุ่มหลง ชายหนุ่มดันเรียวขาให้กว้างขึ้น ตาคมมองดอกไม้สีสวยที่ฉ่ำเยิ้มแล้วกดความเป็นชายลากขึ้นลงจนส่วนปลายชุ่มไปด้วยน้ำหวาน“อื้อ...พี่ธีร์”หญิงสาวส่ายสะโพกเข้าหาอย่างลืมตัว ร่างกายของเธอร้อนรุ่มความต้องการฉายชัดในแววตาอย่างปิดไม่มิด เพราะความต้องการที่มากล้น แต่นั่นก็ทำให้ธีรกฤษพอใจเป็นอย่างมากที่ผู้หญิงของเขาเร่าร้อนแบบนี้“ไม่เกร็งนะแล้วลินจะมีแต่ความสุข”พูดจบชายหนุ่มก็จูบลงมาอีกครั้งขณะที่ท่อนเอ็นร้อนกดเข้าหาความอ่อนนุ่มทีละนิด ธีรกฤษกัดกรามแน่นเมื่อเขาโดนความคับแน่นของนลินนาตอดรัดตั้งแต่เข้าได้เพียงครึ่งทางครั้งนี้เขาไม่ได้เตรียมถุงยางอนามัยมา และมันก็ทำให้เขารู้ว่าการสอดใส่แบบไม่ป้องกันมันเพิ่มความเสียวมากแค่ไหน ธีรกฤษไม่กลัวเรื่องโรคติดต่อเพราะรู้ว่านลินนามีแค่เขาคนเดียว ส่วนเรื่องท้องก็ไม่ปัญหาเพราะเธอบอกเขาเองว่าอีกไม่กี่วันรอบเดือนก็จะมาทุกอย่างมันเลยลงตัวไปหมด“อื้อ...พี่ธีร์...”“อีกนิดคนเก่ง ของลินแน่นมาก”ในที่สุดธีรกฤษก็พาตัวตนเข้าไปจนลึกสุดความยาว เขาพ่นลมหายใจออกทางปากเพื่อระบายความเ
เมื่อเดินคุยกันได้พักใหญ่ นลินนาและธีรกฤษก็กลับเข้ามายังบ้านพัก ทั้งสองคนแยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อชำระล้างความเหนียวเหนอะหนะจากน้ำทะเล นลินนาออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนผ้าไหมเนื้อนุ่มสีชมพูอ่อนที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ผมยาวสลวยถูกปล่อยให้ทิ้งตัวลงมาเคลียไหล่ เผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียด ธีรกฤษออกมาในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสีเข้ม เปิดเผยแผงอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ คิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าชุดนอนของเธอช่างบางเบาเสียเหลือเกิน เขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเป็นห่วงดี“ไปนั่งข้างนอกกันไหม” ธีรกฤษผายมือไปยังเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำที่จัดไว้อย่างสวยงาม มีโต๊ะเตี้ยๆ วางอยู่ตรงกลาง พร้อมขวดไวน์แดงและแก้วไวน์สองใบนลินนาเดินไปนั่งลงข้างเขา สายตาจับจ้องไปยังสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ทอดยาวออกไปจรดผืนทะเลเบื้องหน้า แสงจันทร์กระทบผิวน้ำระยิบระยับสวยงามรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในความฝัน“ดื่มไวน์สักหน่อยไหม” ธีรกฤษรินไวน์แดงลงในแก้ว แล้วยื่นให้นลินนานลินนารับแก้วไวน์มาถือไว้ก่อนจะยกจิบเล็กน้อย รสชาติไวน์ที่นุ่มนวลช่วยให้เธอผ่อนคลายมากขึ้น“คืนนี้ดาวสวยจังเลยนะคะ” นลินนาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงด
สองสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์ของนลินนาและธีรกฤษยังคงดำเนินแบบไร้สถานะแต่กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเข้าใจกันมากขึ้นเรื่อยๆธีรกฤษยังคงโทรศัพท์หานลินนาทุกคืน ชวนไปทานข้าว ดูหนัง หรือแม้แต่เดินเล่นในสวนสาธารณะ บ่อยครั้งที่เขาจะมาส่งเธอที่บ้านและแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของเขาก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวและเริ่มรู้สึกกับเขามากกว่าคนรู้จักคืนนี้ก็เหมือนกันกับทุกคืนที่ธีรกฤษโทรศัพท์มาหาเธอหลังจากที่เขาเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จแล้ว“ขอโทษนะวันนี้พี่โทรมาดึกเลย”“งานยุ่งเหรอคะ”“ครับ พี่ต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนหยุดยาว อีกสองวันก็จะถึงวันหยุดแล้วลินให้คำตอบพี่ได้หรือยังล่ะว่าจะไปเที่ยวทะเลกับพี่หรือเปล่า”“เราจะไปกันที่ไหนคะ แล้วต้องค้างด้วยหรือเปล่า”“พี่ว่าจะค้างสองคืนนะ”“ถ้าลินตอบตกลงตอนนี้เราจะหาที่พักทันไหมคะ”“ทันสิ แล้วลินอยากไปที่ไหนล่ะ”“แล้วพี่ธีร์ล่ะคะอยากไปที่ไหน”“พี่ให้ลินเลือกว่าจะไปที่ไหนระหว่าสมัยหรือภูเก็ต” ที่เขาให้ตัวเธอเลือกสองที่เพราะเขามีคนรู้จักเป็นเจ้ารองรีสอร์ตที่นั่นและคงจะมีห้องพักให้เขาแม้ว่าจะเป็นหยุดยาวก็ตาม“พี่จะจองที่พักได้แน่นะคะ” หญิงสาวยัง