Mag-log in07.00 น.
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาบริเวณที่พักของญาติผู้ป่วย อัศวพจน์นั่งสัปหงกพิงเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเฝ้ามีนามาตลอดทั้งคืน เขาลืมตาขึ้นอย่างมีความหวัง ก่อนที่ความจริงอันโหดร้ายจะเข้าแทนที่ ตำรวจสามนายเดินตรงเข้ามาหาเขาที่นั่งอยู่ หนึ่งในนั้นยื่นหมายศาลให้อัศวพจน์ด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“คุณอัศวพจน์ ใช่ไหม”
“ครับ” อัศวพจน์ตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ความง่วงงันหายไปในพริบตาเมื่อเห็นตำรวจ
“นี่เป็นหมายจับคุณ ในคดีฆ่าคนตาย” ตำรวจกล่าวอย่างหนักแน่น ก่อนจะอ่านให้เขาฟัง
“ผมไม่ได้ฆ่าเค้านะครับคุณตำรวจ มันเป็นอุบัติเหตุ”
“เรื่องนั้น คุณต้องไปให้การในชั้นศาลเอาเองครับ ผมมีหน้าที่สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน”
หัวใจของอัศวพจน์หล่นวูบ เขาหันไปมองหน้าพ่อเลี้ยงอินทัชที่กำลังหิ้วอาหารมื้อเช้ามาอย่างเต็มไม้เต็มมือ ก่อนพ่อเลี้ยงจะวางมันลงด้วยมือสั่นเทา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังพอ ๆ กับความตกใจ
“นี่แกไปฆ่าคนตายแล้วหนีมาเหรอ!!!...ไอ้พจน์” อินทัชถามเสียงดังอย่างไม่เชื่อหู อัศวพจน์ก้มหน้าลงเอามือกุมศีรษะ
“ผมขอโทษครับพ่อ ผมไม่ได้ตั้งใจจะโกหก” เขาไม่มีเวลาอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด ก่อนจะเอ่ยปากขอโทษพ่อเลี้ยง เมื่อถูกตำรวจควบคุมตัว
อินทัชมองเขาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก และไม่คาดคิดว่าลูกเลี้ยงที่เขาไว้ใจจะมีความลับอันน่าสะเทือนใจเช่นนี้ซ่อนอยู่ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของอัศวพจน์ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ระทมและความเป็นห่วงมีนาและลูก พ่อเลี้ยงอินทัชก็เข้าใจได้ทันทีว่าอัศวพจน์คงไม่ได้ตั้งใจที่จะก่อเหตุแบบนั้นจริง ๆ ตามที่เขาพยายามบอก
“พ่อครับ ผมฝากเมียกับลูกด้วยนะครับ” อัศวพจน์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางมองไปยังห้องพักคนไข้ด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความอาลัย อินทัชเดินเข้ามาสวมกอดอัศวพจน์ก่อนจะเอ่ยขึ้นเพื่อปลอบใจ
“แกไม่ต้องห่วง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปความหนักแน่น
“ฉันจะดูแลเมียและลูกของแกเอง”
“ถ้าลูกของผมคลอดแล้ว พ่อให้ใครไปบอกผมด้วยนะครับ”
“ได้สิ! ฉันจะไปบอกแกด้วยตัวเองเลย” อัศวพจน์ยิ้มให้พ่อเลี้ยงอย่างเศร้าๆ ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปขึ้นรถ
สองวันต่อมา
ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลบรรยากาศเงียบสงบ มีนาลืมตาขึ้นมาอย่างอ่อนแรงหลังคุณหมอผ่าคลอดให้เธอเสร็จเรียบร้อย ความรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าท้องและรับรู้ถึงความว่างเปล่าในอก อินทัชนั่งเฝ้าเธออยู่ข้างเตียงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นเธอรู้สึกตัว เขาก็ลุกขึ้นยืน
“มีนา!!!...” อินทัชเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“หนูเป็นยังไงบ้าง” เมื่อเด็กสาวพยายามจะลุกขึ้นนั่ง อินทัชรีบเข้ามาประคองเธอไว้
“อย่าเพิ่งลุกสิ!!! เดี๋ยวแผลก็อักเสบเอาหรอก” เขาดุเล็กน้อย ก่อนจะรีบประคองให้เธอนอนลงบนเตียงตามเดิม
“ลูกค่ะ...ลูกของหนูเป็นยังไงบ้างคะ” มีนาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ อินทัชพลางถอนหายใจอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเล่าความจริงให้เธอฟังอย่างช้าๆ
“หมอจำเป็นต้องเลือกที่จะรักษาชีวิตของหนูเอาไว้ เพราะเด็ก...เค้าไม่หายใจแล้ว ฉันเสียใจด้วยนะ” มีนาเบิกตากว้าง น้ำตาของเธอไหลออกมาเป็นสาย เธอร้องไห้อย่างเงียบๆ ก่อนที่จะหลับตาลงด้วยความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายได้
“แล้วพจน์ล่ะคะ เค้าไปไหน” เธอถาม อินทัชลังเลที่จะตอบ เขาไม่รู้ว่าควรจะบอกความจริงกับเธอดีหรือไม่ เพราะกลัวว่ามีนาจะเสียใจเพิ่มขึ้นยิ่งกว่าเดิม แต่เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังของมีนา เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ปิดบังความจริง
“อัศวพจน์...ถูกตำรวจจับกุมตัวไปแล้ว” อินทัชพูดเสียงแผ่วเบา
“แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องคดีความนะ ฉันจะช่วยให้ถึงที่สุด แต่หนูต้องพูดความจริงกับฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“เอาไว้กลับไปแล้ว หนูค่อยเล่าได้มั้ยคะ”
“ได้สิ เอาไว้เมื่อหนูพร้อมก็ได้”
ตอนที่ 12 สังเวยรักรุ่นลูก NCหลังจากนั้นอินทัชก็ไปนั่งเล่นบนแคร่ไม้ที่ตั้งอยู่หน้ากระท่อม เขาเอาผ้าห่มปูเป็นที่นอนหนึ่งผืนพร้อมกับหมอนคนละหนึ่งใบ ก่อนจะนำฟืนมาก่อกองไฟเล็กๆ เพื่อไล่ยุงและให้ความอบอุ่น มีนาอยู่ในชุดกาสะลองและผ้าถุงซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองที่เผยให้เห็นทรวดทรงองค์เอวของร่างกายที่ดูงดงามน่าทะนุถนอมเด็กสาวเดินมานั่งลงข้างๆ อินทัชบนแคร่ไม้ ก่อนจะเอ่ยถามพ่อเลี้ยงหนุ่ม“ทำไมไม่เปลี่ยนกางเกงละคะ เดี๋ยวก็คันแย่หรอก” เธอถามด้วยความกังวล เมื่อเห็นเขาถอดแค่เสื้อผิงไฟเอาไว้“ไม่ค่อยถนัดใส่ผ้าขาวม้านะสิ” อินทัชตอบอย่างตรงไปตรงมา“ถอดผึ่งไว้สิคะ มันจะได้แห้ง”“ก็ได้ ๆ” เขารีบถอดกางเกงตัวนอกออก มีนานั่งมองอยู่ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ พอพ่อเลี้ยงหนุ่มถอดกางเกงบ๊อกเซอร์ออก เด็กสาวก็รีบหันหน้าไปทางอื่นทั้งสองนั่งอยู่ข้างกัน มองดูเปลวไฟที่ลุกโชน มีนาเอนศีรษะซบลงบนไหล่ของอินทัช“ขอบคุณนะคะพ่อเลี้ยง” อินทัชโอบกอดเธอไว้แน่น“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ฉันเต็มใจ ฉันยอมให้หนูเป็นอะไรไปไม่ได้หรอก” “หนาวมั้ยคะ ไม่ได้ใส่เสื้อ” เด็กสาวถามพลางซบอกแกร่ง มือเรียวบางโอบกอดร่างหนาเอาไว้“รีบนอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้
อินทัชพาตัวมีนาเข้ามาในความมืดมิดของป่าทึบ ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระแวดระวังและหวาดกลัว เสียงปืนที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ ทำให้ทั้งสองต้องเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น“พวกนั้นยังตามมาอยู่เลยเอาไงดีคะ” มีนาถามเสียงสั่น ร่างกายเริ่มอ่อนแรงจนหายใจหอบถี่“ยังไงมันก็ไม่ปล่อยเราแน่ รีบหนีเถอะ” อินทัชตอบเสียงเข้ม เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มไม่ไหว เขาจึงหยุดพักเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถาม“ไหวมั้ย...มีนา!!!”ทันใดนั้น เสียงปืนก็ดังขึ้นอีกครั้ง อินทัชรีบช้อนตัวเธอขึ้นขี่หลังแล้วออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต“หนีก่อน…มีนา!” ในขณะที่วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต มีนาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกมันที่กำลังตามมา“พ่อเลี้ยงไหวมั้ยคะ” เธอร้องถามอย่างเป็นกังวล“ไม่ต้องห่วง ฉันยังไหว” อินทัชตอบอย่างหนักแน่น ก่อนจะแบกร่างของมีนาวิ่งหนีจนมาจนถึงทางตัน เบื้องล่างคือธารน้ำตกใหญ่ที่ไหลเชี่ยว“เอาไงดีคะพ่อเลี้ยง” มีนาถามเสียงสั่น“เกาะแน่นๆ นะมีนา!!!!” สิ้นเสียง อินทัชก็ตัดสินใจกระโดดลงหน้าผาทันที เด็กสาวกอดคอเขาแน่นหลับตาปี๋ เมื่อร่างของทั้งคู่ร่วงลงสู่ผืนน้ำตูม!!!!!เสียงน้ำแตกกระจายดังสนั่นไปทั่วป่า“เฮ้ย!!!...มันกระโดดลงไปได้ยังไงวะ” เสียงห
ตอนที่ 10 เป็นทุกอย่างให้เธอหลังจากแวะเยี่ยมอัศวพจน์ที่เรือนจำแล้ว อินทัชก็พามีนาไปโรงพยาบาลตามนัด หมอตรวจดูอาการของมีนาอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าเธอฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว“แผลผ่าตัดดีขึ้นมากแล้วนะครับ ส่วนมดลูกก็เข้าที่แล้ว” คุณหมอบอกพร้อมรอยยิ้ม“กลับไปก็พักผ่อนเยอะๆ นะครับ อย่าเพิ่งยกของหนัก แล้วก็ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ อีกหนึ่งเดือนค่อยมาตรวจอีกที” มีนาพยักหน้าอย่างโล่งอก“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ” อินทัชยิ้มรับด้วยความดีใจ“ขอบคุณครับคุณหมอ” อินทัชกล่าวขอบคุณนายแพทย์ที่ทำการตรวจให้มีนาระหว่างเดินออกมาจากห้องตรวจ เด็กสาวก็หันไปมองพ่อเลี้ยงหนุ่ม“เห็นมั้ยคะ ว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง” มีนาเอ่ยขึ้นพลางยิ้มหวานให้เขา“ก็ไม่รู้สิ เห็นตัวร้อนเมื่อคืนก็คิดว่าแผลจะอักเสบ อีกอย่างวันนี้คุณหมอก็นัดตรวจอยู่แล้วนี่”“พ่อเลี้ยงเป็นห่วงหนูเหรอคะ”“ห่วงสิ ฉันรับปากอัศวพจน์แล้ว ว่าจะดูแลหนู”“ขอบคุณค่ะพ่อเลี้ยง”“ไม่ต้องขอบคุณหรอก” อินทัชเอ่ยอย่างอ่อนโยน“ฉันสัญญาว่าจะดูแลหนูแบบนี้ไปตลอด” คำพูดของเขาทำให้หัวใจของมีนาเต้นรัวอีกครั้ง เธอรู้แล้วว่านับจากนี้ชีวิตของเธอจะไม่ต้องเดียวดายอีกต่อไปแล้วหลังจากธ
หลังจากผ่านค่ำคืนที่แสนอบอุ่น อินทัชตื่นขึ้นในยามเช้าตรู่ เขาหันไปมองร่างบางที่นอนหลับอยู่ข้างกายอย่างสงบ ก่อนจะยื่นหลังมือสัมผัสไปที่หน้าผากมนของเด็กสาวอย่างแผ่วเบาอินทัชยิ้มอย่างดีใจเมื่อไข้ของมีนาลดลง เธอตัวไม่ร้อนเหมือนอย่างเมื่อคืนแล้ว เขาคิดอะไรบางอยากได้ก็รีบลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้เธอตื่นพ่อเลี้ยงหนุ่มเดินเข้าครัว เขามองเครื่องครัวด้วยสายตาที่ไม่คุ้นเคยนัก แต่ก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะทำข้าวต้มให้มีนาทานด้วยตัวเอง ป้าคำแก้วที่กำลังเตรียมอาหารอยู่เห็นพ่อเลี้ยงงก ๆ เงิ่น ๆ ทำบางอย่างอยู่ในครัวก็ถึงกับแปลกใจจนต้องเอ่ยถาม“ธัมโมสังโฆเต๊อะ.....ป้อเลี้ยงจะเยียะอะหยั๋งฮั้นหน่ะ มะมะป้าจะเยียะฮื้อ” (พ่อเลี้ยงจะทำอะไรเหรอ มา ๆ เดี๋ยวป้าทำให้) ป้าคำแก้วเอ่ยขึ้นก่อนจะรีบวางงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่ แต่เห็นสาวใช้เดินเข้ามาพอดีจึงรีบสั่ง“คำเปียง มึงไปจ๋วยป้อเลี้ยงตางปุ๊น” (คำเปียง มึงไปช่วยพ่อเลี้ยงทางนู้น) ป้าคำแก้วสั่งสาวใช้ที่เป็นลูกมือของตัวเองให้ไปช่วยพ่อเลี้ยง“ไม่ต้องคำเปียง เดี๋ยวฉั้นทำเอง” พ่อเลี้ยงรีบบอก คำเปียงหันมามองหน้าป้าคำแก้วราวกับจะถามว่าเอายังไงต่อ ก็เมื่อเห็นสายตา
ตอนที่ 8 ของดีมีประโยชน์ NCท่ามกลางความเงียบงันในห้องนอน อินทัชจับมือเรียวบางที่กำลังสั่นเทาของเด็กสาวเอาไว้แน่น ก่อนจะปลอบประโลมเธอ“ไม่เป็นไรนะมีนา เดี๋ยวฉันจะช่วยหนูเอง” เขาพูดปลอบโยน ก่อนจะค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อชุดนอนของเธอออกอย่างเบามือ เด็กสาวจับมือเขาเอาไว้แน่น ก่อนจะทำท่าลังเล แล้วจ้องหน้าเขาเขม็ง“ฉันไม่ได้คิดอะไรกับหนูหรอก แค่จะช่วยเฉย ๆ” เขาเอ่ยสิ่งที่ตรงกันข้ามกับหัวใจ“เราพอจะหาซื้อที่ปั๊มนมได้ไหมคะ” มีนาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“กลางดึกเช่นนี้จะไปหาจากที่ไหนกันล่ะ” เขาส่ายหน้าเบา ๆ พลางมองใบหน้าของเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย เมื่อสองเต้าของเธอถูกปลดเปลื้องจนเปลือยเปล่า อินทัชค่อย ๆ ประคองร่างบางมานั่งบนตักในลักษณะหันหน้าเข้าหากัน เด็กสาวยอมทำตามอย่างว่าง่าย“ฉันจะดูดระบายน้ำนมออกให้นะ” สิ้นเสียงทุ้ม พ่อเลี้ยงหนุ่มก็รีบโน้มตัวลงอย่างช้า ๆ ประคองเต้านมอวบเต่งตึงของเธอขึ้นอย่างแผ่วเบา แล้วใช้ปากครอบดูดหัวนมของเด็กสาวอย่างนุ่มนวล อุ้งปากร้อน ดูดดึงมาจนถึงลานนม ไม่นานนักน้ำนมที่คั่งค้างก็พุ่งเข้าปากของเขา “อื้มมม...อย่าค่ะพ่อเลี้ยง อร๊ายย!!! เบา ๆ ค่ะ อื้มมม”“เจ็บเ
ตอนที่ 7 ช่วยหนูหน่อยค่ะ NCมีนาเงยหน้าขึ้นมองอินทัชด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด พ่อเลี้ยงอินทัชคงจะรู้สึกโกรธเคืองที่เธอกับลูกเลี้ยงของเขาปิดบังเรื่องสำคัญขนาดนี้เอาไว้ จึงเอ่ยถามด้วยความรู้สึกผิด“พ่อเลี้ยงโกรธหนูหรือเปล่าคะ” มีนาถามเสียงแผ่วเบา อินทัชยิ้มบางๆ ที่มุมปาก“ไม่หรอก ฉันจะไปโกรธหนูทำไม...หืม์!!! ตรงกันข้ามฉันรู้สึกเห็นใจหนูต่างหาก ที่หนูต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้”“ขอบคุณค่ะ” มีนากล่าวด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ เธอไม่เคยได้รับความเมตตาจากใครขนาดนี้มาก่อน“แล้วหนูยังรักนพดลอยู่หรือเปล่า” อินทัชถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย มีนาส่ายหน้าเบา ๆ “หนูเลิกตาบอดนานแล้วค่ะ เขาไม่เคยปกป้องอะไรหนูได้เลย ลูกแหง่...อย่างนพดลยังไม่โตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตใครหรอกค่ะ เพราะเขาเอาแต่เชื่อฟังแม่ของเขาอยู่ฝ่ายเดียว” อินทัชพยักหน้าอย่างช้าๆ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม“ถามหน่อย หนูอายุเท่าไหร่แล้ว” อินทัชถามพลางมองสำรวจเรือนร่างของมีนา คืนนี้เธอสวมเสื้อชุดนอนซาตินสีขาวขาวบางเบาและกางเกงขาสั้นผ้าซาตินตัวใหญ่ที่เขาตั้งใจซื้อให้เธอใส่จะได้ไม่อึดอัด เพราะแผลผ่าตัดเธอยังไ




![เมียแต่ง [PWP] + [NC30+]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


