Mag-log inสัปดาห์ต่อมา
ค่ำคืนที่เงียบสงัด มีนาสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเปียกชื้นบริเวณหน้าท้อง เธอรีบคว้าไฟฉายข้างเตียงขึ้นมาส่องดู ก่อนจะพบว่าเสื้อคลุมท้องของเธอเปียกชุ่มไปด้วยของเหลวใส ๆ หญิงสาวรู้ทันทีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหมายถึงอะไร เธอรีบประคองร่างที่อุ้ยอ้ายของตัวเองเดินออกไปนอกห้อง เพื่อปลุกอัศวพจน์ที่นอนอยู่
“พจน์ ๆ ...นี่นาย ตื่นสิ!!” มือเรียวบางรีบเขย่าตัวของเขา อัศวพจน์สะดุ้งตื่นมองหน้าเธอ ก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความงัวเงีย แต่เมื่อเห็นสีหน้าของมีนาที่ซีดเผือดพร้อมกับร่างกายที่เปียกชื้นของเธอก็ทำให้เขาตกใจ ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง
“มีนา! เกิดอะไรขึ้น!!!”
“น้ำ...น้ำคร่ำแตก” มีนาบอกด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ใบหน้าของเธอซีดเผือด
“รอไม่ได้แล้ว ผมต้องรีบพาคุณไปโรงพยาบาล” อัศวพจน์รีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบอุ้มมีนาขึ้นแนบอกและพาเธอไปที่เรือนหลังใหญ่
“อดทนหน่อยนะมีนา ผมจะพาคุณไปหาหมอ” เขาอุ้มเธอฝ่าความมืดไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่เรือนหลังใหญ่ของพ่อเลี้ยง อัศวพจน์รีบเข้าไปขอความช่วยเหลือทันที พ่อเลี้ยงอินทัชที่กำลังนั่งทำงานอยู่ ก็ถึงกับตกใจ แต่เขาก็มีสติพอที่จะรีบหยิบกุญแจรถให้กับลูกเลี้ยง
อัศวพจน์ขับรถด้วยความเร็วสูงที่สุดเท่าที่ถนนจะเอื้ออำนวย มีนาจับแขนเขาไว้แน่นด้วยความเป็นกังวล ใบหน้าของเธอซีดเผือด อัศวพจน์หันมามองเธอเป็นระยะ ๆ เพื่อดูอาการ
“ไม่ต้องกลัวนะมีนา... ลูกของคุณจะต้องปลอดภัย” อัศวพจน์พูดปลอบโยน เขาเอื้อมมือมาบีบมือของเธออย่างให้กำลังใจ แต่ก็ยังอดกังวลไม่ได้
“ขอบคุณนะพจน์... ขอบคุณจริงๆ” หญิงสาวดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำตาจ้องมองเขาอย่างซาบซึ้ง
“อีกนิดเดียวก็จะถึงโรงพยาบาลแล้ว คุณอดทนหน่อยนะ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่ลานจอดรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล อัศวพจน์ก็ไม่รอช้า เขาเปิดประตูรถแล้วรีบอุ้มมีนาวิ่งเข้าไปในตึกทันที ทุกอย่างต้องทำแข่งกับเวลา เพื่อให้เธอกับลูกในท้องปลอดภัยที่สุด
มีนาอยู่ในอ้อมแขนของอัศวพจน์ที่วิ่งเข้ามาในโรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ ทันทีที่พยาบาลและเจ้าหน้าที่เวรเปลหน้าห้องฉุกเฉินเห็นชายหนุ่มอุ้มร่างหญิงสาวเข้ามา ทั้งหมดก็รีบเข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
“คนไข้เป็นอะไรคะ” พยาบาลสาวคนหนึ่งรีบเข้ามาถาม
“ภรรยาผม...ถุงน้ำคร่ำแตกครับ” อัศวพจน์ตอบเสียงสั่น
“อายุครรภ์ยังไม่ถึงสามสิบสัปดาห์เลย” พยาบาลพยักหน้าเข้าใจทันที เจ้าหน้าที่เวรเปลนำเตียงเคลื่อนที่มาอย่างเร่งรีบ อัศวพจน์วางมีนาลงบนเตียงอย่างเบามือ พยาบาลอีกคนก็รีบจัดการโทรศัพท์ตามสูติแพทย์ที่มีนาฝากท้องไว้ทันที
“พาคนไข้ไปที่ห้องคลอด!” พยาบาลสาวรีบบอกกับเจ้าหน้าที่เวรเปลทั้งสองคน
เมื่อส่งมีนาถึงมือหมอแล้ว อัศวพจน์ก็ยืนมองตามเตียงที่เข็นมีนาเข้าไปในห้องคลอดด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวัง เขาภาวนาขอให้มีนาและลูกปลอดภัย ทั้งหมดที่เขาทำได้ในตอนนี้คือยืนรออยู่ข้างนอกและส่งกำลังใจให้เธอ
ไม่นานนักพ่อเลี้ยงอินทัชที่เป็นห่วงลูกสะใภ้ก็รีบให้แสงหล้าขับรถตามมา ก่อนจะเห็นอัศวพจน์ลูกเลี้ยงของเขาที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องคลอดอย่างใจจดใจจ่อ ก็รีบเข้าไปหาทันที
“เมียแกเป็นยังไงบ้างวะ...ไอ้พจน์” พ่อเลี้ยงถามด้วยน้ำเสียงกังวล
“ถุงน้ำคร่ำแตก ไม่รู้เด็กจะรอดเปล่าครับ” อัศวพจน์รีบตอบ
“ใจเย็น ๆ เมียแกถึงมือหมอแล้ว” อินทัชตบไหล่ลูกเลี้ยงเบา ๆ
หัวใจของอัศวพจน์เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง เขานั่งไม่ติดเก้าอี้ ได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องคลอด ทันทีที่ประตูเปิดออก ก็มีคุณหมอที่ดูแลมีนาเดินออกมา อัศวพจน์ก็รีบพุ่งเข้าไปหาทันที
“คุณหมอครับ เมียกับลูกผมปลอดภัยดีไหมครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล คุณหมอวัยกลางคนถอนหายใจอย่างแผ่วเบา และมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ ก่อนจะรีบอธิบาย
“เด็กอายุครรภ์ไม่ครบ 30 สัปดาห์ ร่างกายเด็กอาจมีความผิดปกติซึ่งปอดสำคัญที่สุด ตอนนี้หมอได้ฉีดยากระตุ้นปอดเด็กให้แล้ว และต้องรอดูอาการอีกสักสองวัน และถ้าช่วงนี้มีการติดเชื้อ หมอจำเป็นจะต้องผ่าเอาเด็กออกเพื่อรักษาชีวิตคุณแม่ครับ” คำพูดของคุณหมอราวกับฟ้าผ่าลงกลางใจ อัศวพจน์รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุน เขาจ้องมองคุณหมอด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
“ไม่มีทางเลือกอื่นเลยเหรอครับหมอ” อัศวพจน์ถามเสียงแผ่วเบา
“วิธีที่หมอเสนอเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วครับ” คุณหมอตอบก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป
อัศวพจน์ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง พ่อเลี้ยงอินทัชรีบเข้ามาปลอบใจเขาอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย!!...ใจเย็นๆ ก่อน หมอเขาก็ต้องพูดเผื่อเอาไว้” อัศวพจน์เงยหน้าขึ้นมองพ่อเลี้ยงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า อินทัชพลางนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะตบไหล่ของอัศวพจน์เบาๆ
“แกเชื่อใจหมอเถอะ มีนากับลูกจะต้องปลอดภัย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหนักแน่นเพื่อปลอบโยนลูกเลี้ยง
ตอนที่ 12 สังเวยรักรุ่นลูก NCหลังจากนั้นอินทัชก็ไปนั่งเล่นบนแคร่ไม้ที่ตั้งอยู่หน้ากระท่อม เขาเอาผ้าห่มปูเป็นที่นอนหนึ่งผืนพร้อมกับหมอนคนละหนึ่งใบ ก่อนจะนำฟืนมาก่อกองไฟเล็กๆ เพื่อไล่ยุงและให้ความอบอุ่น มีนาอยู่ในชุดกาสะลองและผ้าถุงซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองที่เผยให้เห็นทรวดทรงองค์เอวของร่างกายที่ดูงดงามน่าทะนุถนอมเด็กสาวเดินมานั่งลงข้างๆ อินทัชบนแคร่ไม้ ก่อนจะเอ่ยถามพ่อเลี้ยงหนุ่ม“ทำไมไม่เปลี่ยนกางเกงละคะ เดี๋ยวก็คันแย่หรอก” เธอถามด้วยความกังวล เมื่อเห็นเขาถอดแค่เสื้อผิงไฟเอาไว้“ไม่ค่อยถนัดใส่ผ้าขาวม้านะสิ” อินทัชตอบอย่างตรงไปตรงมา“ถอดผึ่งไว้สิคะ มันจะได้แห้ง”“ก็ได้ ๆ” เขารีบถอดกางเกงตัวนอกออก มีนานั่งมองอยู่ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ พอพ่อเลี้ยงหนุ่มถอดกางเกงบ๊อกเซอร์ออก เด็กสาวก็รีบหันหน้าไปทางอื่นทั้งสองนั่งอยู่ข้างกัน มองดูเปลวไฟที่ลุกโชน มีนาเอนศีรษะซบลงบนไหล่ของอินทัช“ขอบคุณนะคะพ่อเลี้ยง” อินทัชโอบกอดเธอไว้แน่น“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ฉันเต็มใจ ฉันยอมให้หนูเป็นอะไรไปไม่ได้หรอก” “หนาวมั้ยคะ ไม่ได้ใส่เสื้อ” เด็กสาวถามพลางซบอกแกร่ง มือเรียวบางโอบกอดร่างหนาเอาไว้“รีบนอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้
อินทัชพาตัวมีนาเข้ามาในความมืดมิดของป่าทึบ ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระแวดระวังและหวาดกลัว เสียงปืนที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ ทำให้ทั้งสองต้องเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น“พวกนั้นยังตามมาอยู่เลยเอาไงดีคะ” มีนาถามเสียงสั่น ร่างกายเริ่มอ่อนแรงจนหายใจหอบถี่“ยังไงมันก็ไม่ปล่อยเราแน่ รีบหนีเถอะ” อินทัชตอบเสียงเข้ม เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มไม่ไหว เขาจึงหยุดพักเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถาม“ไหวมั้ย...มีนา!!!”ทันใดนั้น เสียงปืนก็ดังขึ้นอีกครั้ง อินทัชรีบช้อนตัวเธอขึ้นขี่หลังแล้วออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต“หนีก่อน…มีนา!” ในขณะที่วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต มีนาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกมันที่กำลังตามมา“พ่อเลี้ยงไหวมั้ยคะ” เธอร้องถามอย่างเป็นกังวล“ไม่ต้องห่วง ฉันยังไหว” อินทัชตอบอย่างหนักแน่น ก่อนจะแบกร่างของมีนาวิ่งหนีจนมาจนถึงทางตัน เบื้องล่างคือธารน้ำตกใหญ่ที่ไหลเชี่ยว“เอาไงดีคะพ่อเลี้ยง” มีนาถามเสียงสั่น“เกาะแน่นๆ นะมีนา!!!!” สิ้นเสียง อินทัชก็ตัดสินใจกระโดดลงหน้าผาทันที เด็กสาวกอดคอเขาแน่นหลับตาปี๋ เมื่อร่างของทั้งคู่ร่วงลงสู่ผืนน้ำตูม!!!!!เสียงน้ำแตกกระจายดังสนั่นไปทั่วป่า“เฮ้ย!!!...มันกระโดดลงไปได้ยังไงวะ” เสียงห
ตอนที่ 10 เป็นทุกอย่างให้เธอหลังจากแวะเยี่ยมอัศวพจน์ที่เรือนจำแล้ว อินทัชก็พามีนาไปโรงพยาบาลตามนัด หมอตรวจดูอาการของมีนาอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าเธอฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว“แผลผ่าตัดดีขึ้นมากแล้วนะครับ ส่วนมดลูกก็เข้าที่แล้ว” คุณหมอบอกพร้อมรอยยิ้ม“กลับไปก็พักผ่อนเยอะๆ นะครับ อย่าเพิ่งยกของหนัก แล้วก็ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ อีกหนึ่งเดือนค่อยมาตรวจอีกที” มีนาพยักหน้าอย่างโล่งอก“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ” อินทัชยิ้มรับด้วยความดีใจ“ขอบคุณครับคุณหมอ” อินทัชกล่าวขอบคุณนายแพทย์ที่ทำการตรวจให้มีนาระหว่างเดินออกมาจากห้องตรวจ เด็กสาวก็หันไปมองพ่อเลี้ยงหนุ่ม“เห็นมั้ยคะ ว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง” มีนาเอ่ยขึ้นพลางยิ้มหวานให้เขา“ก็ไม่รู้สิ เห็นตัวร้อนเมื่อคืนก็คิดว่าแผลจะอักเสบ อีกอย่างวันนี้คุณหมอก็นัดตรวจอยู่แล้วนี่”“พ่อเลี้ยงเป็นห่วงหนูเหรอคะ”“ห่วงสิ ฉันรับปากอัศวพจน์แล้ว ว่าจะดูแลหนู”“ขอบคุณค่ะพ่อเลี้ยง”“ไม่ต้องขอบคุณหรอก” อินทัชเอ่ยอย่างอ่อนโยน“ฉันสัญญาว่าจะดูแลหนูแบบนี้ไปตลอด” คำพูดของเขาทำให้หัวใจของมีนาเต้นรัวอีกครั้ง เธอรู้แล้วว่านับจากนี้ชีวิตของเธอจะไม่ต้องเดียวดายอีกต่อไปแล้วหลังจากธ
หลังจากผ่านค่ำคืนที่แสนอบอุ่น อินทัชตื่นขึ้นในยามเช้าตรู่ เขาหันไปมองร่างบางที่นอนหลับอยู่ข้างกายอย่างสงบ ก่อนจะยื่นหลังมือสัมผัสไปที่หน้าผากมนของเด็กสาวอย่างแผ่วเบาอินทัชยิ้มอย่างดีใจเมื่อไข้ของมีนาลดลง เธอตัวไม่ร้อนเหมือนอย่างเมื่อคืนแล้ว เขาคิดอะไรบางอยากได้ก็รีบลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้เธอตื่นพ่อเลี้ยงหนุ่มเดินเข้าครัว เขามองเครื่องครัวด้วยสายตาที่ไม่คุ้นเคยนัก แต่ก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะทำข้าวต้มให้มีนาทานด้วยตัวเอง ป้าคำแก้วที่กำลังเตรียมอาหารอยู่เห็นพ่อเลี้ยงงก ๆ เงิ่น ๆ ทำบางอย่างอยู่ในครัวก็ถึงกับแปลกใจจนต้องเอ่ยถาม“ธัมโมสังโฆเต๊อะ.....ป้อเลี้ยงจะเยียะอะหยั๋งฮั้นหน่ะ มะมะป้าจะเยียะฮื้อ” (พ่อเลี้ยงจะทำอะไรเหรอ มา ๆ เดี๋ยวป้าทำให้) ป้าคำแก้วเอ่ยขึ้นก่อนจะรีบวางงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่ แต่เห็นสาวใช้เดินเข้ามาพอดีจึงรีบสั่ง“คำเปียง มึงไปจ๋วยป้อเลี้ยงตางปุ๊น” (คำเปียง มึงไปช่วยพ่อเลี้ยงทางนู้น) ป้าคำแก้วสั่งสาวใช้ที่เป็นลูกมือของตัวเองให้ไปช่วยพ่อเลี้ยง“ไม่ต้องคำเปียง เดี๋ยวฉั้นทำเอง” พ่อเลี้ยงรีบบอก คำเปียงหันมามองหน้าป้าคำแก้วราวกับจะถามว่าเอายังไงต่อ ก็เมื่อเห็นสายตา
ตอนที่ 8 ของดีมีประโยชน์ NCท่ามกลางความเงียบงันในห้องนอน อินทัชจับมือเรียวบางที่กำลังสั่นเทาของเด็กสาวเอาไว้แน่น ก่อนจะปลอบประโลมเธอ“ไม่เป็นไรนะมีนา เดี๋ยวฉันจะช่วยหนูเอง” เขาพูดปลอบโยน ก่อนจะค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อชุดนอนของเธอออกอย่างเบามือ เด็กสาวจับมือเขาเอาไว้แน่น ก่อนจะทำท่าลังเล แล้วจ้องหน้าเขาเขม็ง“ฉันไม่ได้คิดอะไรกับหนูหรอก แค่จะช่วยเฉย ๆ” เขาเอ่ยสิ่งที่ตรงกันข้ามกับหัวใจ“เราพอจะหาซื้อที่ปั๊มนมได้ไหมคะ” มีนาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“กลางดึกเช่นนี้จะไปหาจากที่ไหนกันล่ะ” เขาส่ายหน้าเบา ๆ พลางมองใบหน้าของเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย เมื่อสองเต้าของเธอถูกปลดเปลื้องจนเปลือยเปล่า อินทัชค่อย ๆ ประคองร่างบางมานั่งบนตักในลักษณะหันหน้าเข้าหากัน เด็กสาวยอมทำตามอย่างว่าง่าย“ฉันจะดูดระบายน้ำนมออกให้นะ” สิ้นเสียงทุ้ม พ่อเลี้ยงหนุ่มก็รีบโน้มตัวลงอย่างช้า ๆ ประคองเต้านมอวบเต่งตึงของเธอขึ้นอย่างแผ่วเบา แล้วใช้ปากครอบดูดหัวนมของเด็กสาวอย่างนุ่มนวล อุ้งปากร้อน ดูดดึงมาจนถึงลานนม ไม่นานนักน้ำนมที่คั่งค้างก็พุ่งเข้าปากของเขา “อื้มมม...อย่าค่ะพ่อเลี้ยง อร๊ายย!!! เบา ๆ ค่ะ อื้มมม”“เจ็บเ
ตอนที่ 7 ช่วยหนูหน่อยค่ะ NCมีนาเงยหน้าขึ้นมองอินทัชด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด พ่อเลี้ยงอินทัชคงจะรู้สึกโกรธเคืองที่เธอกับลูกเลี้ยงของเขาปิดบังเรื่องสำคัญขนาดนี้เอาไว้ จึงเอ่ยถามด้วยความรู้สึกผิด“พ่อเลี้ยงโกรธหนูหรือเปล่าคะ” มีนาถามเสียงแผ่วเบา อินทัชยิ้มบางๆ ที่มุมปาก“ไม่หรอก ฉันจะไปโกรธหนูทำไม...หืม์!!! ตรงกันข้ามฉันรู้สึกเห็นใจหนูต่างหาก ที่หนูต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้”“ขอบคุณค่ะ” มีนากล่าวด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ เธอไม่เคยได้รับความเมตตาจากใครขนาดนี้มาก่อน“แล้วหนูยังรักนพดลอยู่หรือเปล่า” อินทัชถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย มีนาส่ายหน้าเบา ๆ “หนูเลิกตาบอดนานแล้วค่ะ เขาไม่เคยปกป้องอะไรหนูได้เลย ลูกแหง่...อย่างนพดลยังไม่โตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตใครหรอกค่ะ เพราะเขาเอาแต่เชื่อฟังแม่ของเขาอยู่ฝ่ายเดียว” อินทัชพยักหน้าอย่างช้าๆ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม“ถามหน่อย หนูอายุเท่าไหร่แล้ว” อินทัชถามพลางมองสำรวจเรือนร่างของมีนา คืนนี้เธอสวมเสื้อชุดนอนซาตินสีขาวขาวบางเบาและกางเกงขาสั้นผ้าซาตินตัวใหญ่ที่เขาตั้งใจซื้อให้เธอใส่จะได้ไม่อึดอัด เพราะแผลผ่าตัดเธอยังไ







