Home / รักโบราณ / การกลับมาของฮองเฮาเจิ้ง / บทที่ 8 กล่องไม้กลิ่นความหลัง

Share

บทที่ 8 กล่องไม้กลิ่นความหลัง

last update Last Updated: 2025-11-20 11:55:00

บทที่ 8 กล่องไม้กลิ่นความหลัง

กลางวันแสงแดดสาดทอลงบนลานหินหน้าตำหนักเฉินหลง

ขันทีผู้หนึ่งก้าวเข้ามาอย่างเงียบงัน พร้อมกล่องไม้เล็ก ๆ ที่ปิดผนึกไว้แน่นหนา

กล่าวเพียงสั้น ๆ ก่อนก้มศีรษะลึก

“กระหม่อมพบกล่องนี้ในห้องเก็บของด้านหลังวังตะวันออก เป็นคำสั่งให้ทำลายของตกค้างตั้งแต่รัชกาลก่อนพ่ะย่ะค่ะ…แต่กระหม่อมเห็นตราประทับ ‘ซู’ ที่มุมฝากล่อง จึงไม่กล้าทำลายโดยพลการ”

สีพระพักตร์ของฮ่องเต้ไม่เปลี่ยน ทรงรับกล่องมาด้วยมือ

แต่เมื่อเปิดฝากล่อง…กลิ่นจันทน์จาง ๆ ก็ลอยออกมา พร้อมกับ ผ้าผืนเล็กปักลายมังกร สีหม่นที่เก่าจนแทบขาด

ข้างใต้คือ จี้หยกเขียวรูปเมฆหมุน และ จดหมายฉบับหนึ่งที่ซีดกรอบไปตามกาลเวลา พระหัตถ์ที่พลิกดูจี้หยกนั้น…สั่นเล็กน้อย

ทรงจำในวัยเยาว์คล้ายถูกปลุกขึ้นอย่างรุนแรงโดยไม่ทันตั้งตัว

เสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ของสตรีผู้หนึ่ง

“องค์ชายอย่าซนนัก เดี๋ยวจี้ห้อยนี้จะหลุดเอานะเพคะ”

เสียงนั้นอ่อนโยน อบอุ่น…และหายไปจากชีวิตพระองค์นานนัก

“จี้เส้นนี้…”

พระสุรเสียงเอ่ยเบา ราวไม่มั่นใจว่าตนเพ้อฝันไปหรือไม่ พระเนตรทอดมองผ้าปักลายมังกร

มุมหนึ่งยังมีรอยเลือดจาง ๆ ที่ซักไม่ออกติดอยู่

“ของทั้งหมดนี้…เป็นของใคร”

ขันทีรีบก้มลึก

“ตามบัญชีระบุว่าเป็นของฮองเฮาซูเฟยเมื่อรัชกาลก่อนพ่ะย่ะค่ะ เคยมีคำสั่งให้นำไปเผา แต่ข้าราชบริพารคนหนึ่งในอดีตแอบเก็บไว้ ไม่กล้าทำลาย”

ฮ่องเต้นิ่งไปเนิ่นนาน ก่อนจะเอื้อมหยิบจดหมายนั้นขึ้น ลายมือบนกระดาษเก่าแก่…แม้แทบเลือนราง แต่ยังจำได้ไม่ผิด มันคือ ลายมือของมารดา

ซูเฟย

ถ้อยคำในจดหมายนั้นแม้สั้น แต่ทุกประโยค…คือมีดกรีดลงในใจ

‘หากวันหนึ่งเจ้ามีโอกาสอ่านจดหมายฉบับนี้ จงรู้ไว้ว่า…มารดาไม่เคยทอดทิ้งเจ้าอย่างเต็มใจ’

แม้ทุกอย่างรอบกายจะยังปกติ แต่ใจของฮ่องเต้กลับเริ่มสั่นคลอน พระองค์ไม่รู้เลยว่า ความทรงจำวัยเยาว์ของตนเอง…เป็นความจริง หรือเพียงเรื่องที่ถูกวางกลมาให้เชื่อ

และสิ่งของเก่าเหล่านี้…คือหมากที่ซูเฟยวางไว้ตั้งแต่สิบห้าปีก่อน

ภายในตำหนักซึ่งเจิ้งซูเฟยพักอาศัยมีเพียงเสียงพัดกระดาษบางที่หวีดเบา ๆ กับเสียงฝีเท้าของนางกำนัลคนสนิทหญิงรับใช้คุกเข่าลงตรงหน้า กล่าวเบา ๆ

“ฝ่าบาททรงทราบเรื่องกล่องเก็บของในห้องเก่าแล้วเพคะ ขณะนี้ทรงเก็บจดหมายกับจี้หยกนั้นไว้ด้วยพระองค์เอง”

เจิ้งซูเฟยวางมือจากการปักผ้า แววตาที่ทอดไปยังเบื้องหน้า หาใช่ตระหนกหรือยินดี…หากแต่เป็นแววตา ที่คล้ายวางแผนอะไรบางอย่างไว้อย่างเงียบงัน

นางไม่ได้ถามว่า เขาว่าอย่างไร

เพราะคำตอบนั้น…เจิ้งซูเฟยรู้ดีอยู่แล้ว

“หากของสิ่งนั้นยังไม่ถูกเผาทำลาย ย่อมมีคนเฝ้ารอวันทีเขาพบมันเข้า…เช่นเดียวกับข้า”

นางลูบมือเบา ๆ บนชายผ้าปักครึ่งผืนที่เย็บค้างไว้ ริมฝีปากคลี่ยิ้มบาง หญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยอ่อนแอและถูกริดรอนทุกสิทธิ์  บัดนี้ได้กลับมายืน ณ จุดที่แม้แต่ไท่หวงไท่โฮว่ก็ไม่อาจมองข้าม

“เมื่อเขาเริ่มตั้งคำถามกับอดีต…ย่อมไม่อาจปิดหูปิดตาได้ตลอดไป”

เจิ้งซูเฟยลุกขึ้นยืน พลางหันไปสั่งการกับคนสนิท

“ไปบอกแม่นมซ่ง ให้เตรียมชุดที่เคยใช้เมื่อสิบกว่าปีก่อน ข้า…อยากให้ฝ่าบาทเห็นบาดแผลในอดีตด้วยตาตนเอง แล้ว…ส่งกลอนบทหนึ่งไปให้เหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋น

เป็นคำขอของ ‘พระมารดา’

มิได้สั่ง มิได้เรียกร้อง

แค่…วิงวอนให้ลูกชายฟังความจริงของผู้เป็นแม่บ้างเถิด

ด้านไท่หวงไท่โฮว่

ข่าวกล่องเก่าที่ไปถึงพระหัตถ์ฮ่องเต้ก็มิได้รอดพ้นสายตานาง สีพระพักตร์ของไท่หวงไท่โฮว่เย็นเยียบ ฝ่ามือกำพัดแน่นจนแทบหัก

“นางผู้นั้น…กลับมาไม่ใช่เพียงเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์แต่มาเพื่อล้มข้าโดยใช้บุตรชายเป็นหมาก”

【บทกลอนจากใจแม่】

แม่มิหวังฟ้าสูงจะเหลียวแล

เพียงเฝ้าแต่เงาเจ้าทุกเช้าค่ำ

ยามเจ้าหัวเราะเสียง แม่แอบซึ้งอยู่ในใจลำพัง

ยามเจ้าน้ำตาหลั่ง แม่ปวดร้าวแทบขาดใจ

ดอกเหมยบานแล้วร่วง โรยร้างดั่งวันวาน

เสียงร่ำไรในลมหนาว นั่นคือเสียงแม่เรียกหา

รักของชายต่อหญิง มักผันแปรยากไว้ใจ

แต่รักที่กลั่นจากสายเลือด…ไม่เคยหนีหาย

เจ้าเติบใหญ่ใต้เงาแห่งใครเล่า

แม่เฝ้าถามฟ้า ยามไร้โอกาสแม้เอ่ยคำ

มิได้ขอให้อภัย

มิได้ขอสิทธิ์ใด ๆ

ขอเพียงเจ้า…จำได้ว่า

แม่เคยมีชีวิตอยู่ เพื่อรักเจ้า…แม้จะไร้ชื่อเรียกก็ตาม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • การกลับมาของฮองเฮาเจิ้ง   บทที่ 17 พิษในร่มเงา

    บทที่ 17 พิษในร่มเงามีดที่ซ่อนอยู่ในรอยยิ้ม อันตรายยิ่งกว่าหอกทิ่มตรงหน้า และบางครั้ง การไว้ใจผิดคน…ก็เท่ากับเชิญภัยมาถึงตำหนักหลังการพิจารณาคดีในท้องพระโรง เจิ้งซูเฟยกลับตำหนักอย่างสงบ แต่ภายในวังยังมีแรงสั่นสะเทือนอยู่เงียบ ๆเพียงหนึ่งวันหลังจากนั้นขันทีผู้ดูแลตำหนักไท่ฮวา เอ่ยต่อไท่เฟยด้วยความนอบน้อม“เสี่ยวหลิง ลูกสาวมัวมัวเก่าผู้จงรักภักดี…ได้สมัครเข้ารับใช้ในตำหนักไท่เฟยแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ไท่หวงไท่โฮว่เพียงพยักหน้า แต่สายพระเนตรเย็นดุจน้ำแข็ง“บอกนางว่า…ข้าต้องการความจริง ไม่ใช่ความภักดี”เสี่ยวหลิง นางอายุเพียงสิบหกปี ใบหน้ากลมขาว ผูกเปียเล็กหลังศีรษะ พูดจาเรียบร้อย ไม่สอดรู้ ไม่เสนอตัวเกินงามวันแรกที่เข้าตำหนัก เจิ้งซูเฟยมองอย่างเรียบเฉย“เจ้าชื่ออะไร”“เสี่ยวหลิงเพคะ มารดาเคยทำงานในวังสมัยก่อน”“ข้าไม่ถามเรื่องมารดา ข้าถามว่าเจ้าตั้งใจจะรับใช้อย่างไร”คำตอบที่เสี่ยวหลิงตอบ คือการก้มกราบลงอย่างเงียบงันหลายวันผ่านไปเสี่ยวหลิงดูเป็นเด็กขยัน ซื่อสัตย์ ไม่เคยซุบซิบ แต่นางมักอยู่ใกล้เอกสาร โต๊ะเขียนหนังสือ หรือห้องเก็บของสำคัญ และทุกค่ำคืน จะกลับห้องช้ากว่าคนอื่นเล็กน้อยเสมอคนส

  • การกลับมาของฮองเฮาเจิ้ง   บทที่ 16 หรงชิง บุรุษผู้หวนคืนจากความตาย

    บทที่ 16 หรงชิง บุรุษผู้หวนคืนจากความตายบางคนคิดว่าเขาตายไปแล้ว บางคนภาวนาให้เขาตายเสียที แต่เขากลับก้าวเข้าสู่ประตูวัง…ด้วยเท้าที่มั่นคง และหัวใจที่ยังภักดีต่อความจริงต้นฤดูใบไม้ร่วง ลมแล้งพัดแรงจากชายแดนเหนือ คาราวานหนึ่งจากแดนเถื่อนเคลื่อนเข้าสู่พระนครอย่างไร้ผู้เหลียวแลทว่าในหมู่ผู้เดินทางนั้น…มีชายสวมผ้าหยาบซีด ไม่เผยใบหน้า“นั่น…หน้าคล้ายอัครเสนาบดีหรงชิง!”“เป็นไปไม่ได้! เขาถูกประหารไปแล้วเมื่อสิบปีก่อน!”ข่าวลือแพร่กระจายดุจไฟลามหญ้าในวังหลวงขุนนางชราหน้าซีดเผือด ขุนนางรุ่นใหม่เริ่มตั้งคำถามราชสำนัก…เคยฆ่าคนผิดหรือไม่ในตำหนักลับของขุนนางผู้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท ชายในชุดหยาบเผยโฉมอย่างชัดเจนต่อหน้าฮ่องเต้“หม่อมฉัน…หรงชิง ขอกลับมาสู่แผ่นดินภายใต้พระบารมีอีกครั้งสิบปีที่ผ่านมา…หม่อมฉันมิได้ตาย แต่ถูกขับให้ลี้ภัย รอวันที่ความจริงจะได้เป็นธรรม”เขาคลี่ผ้าผืนหนึ่งออกในนั้นคือจดหมายของเจิ้งซูเฟยจากสิบปีก่อนหมึก ตราประทับ และลายมือ…ตรงกับต้นฉบับทุกประการเนื้อความในจดหมายนั้น…มิใช่ถ้อยคำแห่งความรักแต่คือถ้อยคำแห่งความกล้า“…แม้ข้าจะไร้อำนาจ แต่หากท่านยังมีเมตตา ขอท่านอย่าปล่

  • การกลับมาของฮองเฮาเจิ้ง   บทที่ 15 อ้อมกอดที่แสนคนึงหา

    บทที่ 15 อ้อมกอดที่แสนคนึงหาใต้เงามืดในวังหลังมีคนกลุ่มหนึ่งเดินลัดเลาะตามเงาที่ถอดยาว เมื่อถึงตำหนักของเจิ้งซูเฟย หนึ่งในชายชุดดำก็แยกตัวออกมาและเล้นกายเข้าไปภายในประตูไม้เปิดออกช้า ๆเงาร่างสูงสง่าในชุดคลุมไหมเข้มก้าวเข้ามาเงียบ ๆ ไม่มีเครื่องประดับ ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์เมื่อเห็นเจิ้งซูเฟยที่กำลังนั่งให้คนสนิทพันผ้าพันแผลให้อยู่ ร่างสูงก็ยืนนิ่งราวกลับถูกแช่แข็งไว้ สนิทของเจิ้งซูเฟยเห็นผู้บุกลุกก็รีบลุกแล้วออกไปด้านนอกในทันทีชายในชุดดำทรุกกายลงนั่งแทนที มือหนาพันแผลที่ยังค้างเอาไว้ต่ออย่างเบามือเขาเงยหน้าสบตาคนตรงหน้าที่มีดวงตาเช่นเขา“มาสาย”“เสด็จแม่ไม่เห็นต้อง…ทำเช่นนี้”“นางจะได้ไม่สงสัยว่าทำไมเจ้าให้ตำแหน่งแม่ง่ายดาย”“แต่แขนของท่าน หากข้าไปช้าอีกนิด ไม่รู้ว่า” เขาตอบเสียงแผ่ว “เสด็จย่าจะทำเช่นไรกับท่านต่อ ในตำหนักนั่นมีแต่คนของนาง”เจิ้งซูเฟยยกยิ้มบาง ดวงหน้าอ่อนโยนอย่างที่ไม่มีใครในวังเคยเห็น“แต่เจ้าก็ไปทันมิใช่นหรือ เจ้าโตแล้วจริง ๆ เจ้า…โตพอจะปกป้องแม่แทนแล้ว”“อย่าทำเช่นนี้อีก หากข้าเห็นท่านต้องบาดเจ็บตรงหน้า ไม่รู้ว่าทนเปิดบังความรักที่ข้ามีต่อท่านได้แค่ไหน”“มากกว่า

  • การกลับมาของฮองเฮาเจิ้ง   บทที่ 14 บาดแผล

    บทที่ 14 บาดแผลไท่หวงไท่โฮ่วทรงนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพระเนตรวาวขึ้นเหมือนประกายเหล็กกระทบกัน พระสุรเสียงแผ่วต่ำแต่ทิ่มแทงราวคมดาบ“สามหาว… เจ้าอย่าคิดว่าเพียงเพราะหวงเชิงมอบตำแหน่งให้ เจ้าจะมีสิทธิ์เอื้อนเอ่ยถ้อยคำเช่นนี้ต่อหน้า ข้า ได้”สุรเสียงแผ่วต่ำแต่แฝงแรงกดดันจนลมหายใจในตำหนักหนักอึ้ง “แม้ตอนนี้ข้าจะไม่ได้บัญชาหลังม่าน แต่วังหลังแห่งนี้… ข้าต่างหากคือผู้เป็นใหญ่ที่สุด”เจิ้งซูเฟยหัวเราะในลำคอ เสียงนั้นเบาราวจะกลืนหายไปในอากาศ แต่กลับบาดลึกกว่าเสียงตวาดใด ๆ“เพียงแค่ ตอนนี้ เท่านั้น… เสด็จแม่”คำเรียกขานนั้นทำให้วังเวงทั้งตำหนักราวหยุดนิ่ง เวลานับสิบปีไม่เคยได้ยินคำนี้จากปากนาง แต่ครานี้กลับถูกเอ่ยออกมาอย่างจงใจ ราวใบมีดที่ทิ่มลึกลงในอดีตแววตาของไท่หวงไท่โฮ่วฉายประกายเย็นยะเยือกปนเดือดดาล ความเยือกนั้นเหมือนน้ำแข็งในฤดูหนาว ขณะความเดือดดาลเหมือนเพลิงที่กำลังบีบอัดอยู่ในม่านหมอก จนไม่อาจคาดได้ว่าพายุนี้จะระเบิดเมื่อใดพระพักตร์ที่ปกติสุขุม กลับค่อย ๆ คล้ำลงทีละส่วน ขอบพระโอษฐ์กระตุกขึ้นเล็กน้อยคล้ายรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่เย็นชาจนเส้นเลือดเย็นเฉียบในความเงียบที่กดทับ เสียงเคร

  • การกลับมาของฮองเฮาเจิ้ง   บทที่ 13 ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใด สายที่มองต่ำยังคงเดิม

    บทที่ 13 ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใด สายที่มองต่ำยังคงเดิมนางหยอบกายลงอย่างงดงาม ศีรษะต่ำแต่แววตากลับคมกริบ“ไม่คิดว่าไท่หวงไท่โฮ่วจะทรงมีรับสั่งเรียกพบหม่อมฉันเช่นนี้”ภายในตำหนัก กลิ่นกำยานอวลอบอวล ราวกับถูกจงใจจุดให้คลุ้งขับความคิดของผู้มาเยือนให้พร่าเลือนไท่หวงไท่โฮ่ววางถ้วยชาอย่างแผ่วเบา พระหัตถ์เรียวยังคงงดงามแม้กาลเวลาจะผ่านไปหลายสิบปีแววตาของนางเรียบสนิทเหมือนผิวน้ำในยามไร้ลม แต่ลึกลงไปกลับมีคลื่นกระเพื่อมที่อ่านไม่ออก“ข้าก็ไม่คิด…ว่าหลังจากอยู่เงียบ ๆ บนเขาเทียนจี่เกือบสิบห้าปี เจ้าจะเลือกวันเช่นนี้ลงจากเขา”เสียงนั้นอ่อนโยนราวกับกำลังสนทนากับสหายเก่า แต่ทุกคำกลับหนักราวค้อนเหล็กที่ค่อย ๆ ทุบลงบนหินเจิ้งซูเฟยเพียงยิ้มจาง ไม่ปฏิเสธ ไม่ยอมรับ“บางครั้ง การกลับมาของผู้ที่ถูกไม่ได้รับความยุติธรรม…ก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล”“ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลงั้นหรือ” ไท่หวงไท่โฮ่วแค่นหัวเราะเบา “ในวังนี้ ทุกการกระทำล้วนมีเหตุผล และทุกเหตุผลล้วนมีราคา”พระเนตรของนางจ้องลึกเข้ามาราวจะชำแหละหัวใจผู้ตรงข้าม “ข้ากลัวเพียงว่า…ราคาที่ท่านจ่าย จะเป็นสิ่งที่แม้กระทั่งเจ้าเองก็ไม่อาจแบกรับ”เจิ้งซูเฟยเล

  • การกลับมาของฮองเฮาเจิ้ง   บทที่ 12 ลายมือจากอดีต

    บทที่ 12 ลายมือจากอดีตคืนหนึ่งหลังการสอบสวนขันทีเฒ่าเสร็จสิ้น หลิวกงกงผู้ซื่อสัตย์ได้นำหีบไม้เก่าใบหนึ่งมาเฝ้าพระพักตร์ เป็นหีบที่ถูกเก็บไว้ในห้องเก็บตำราเก่า ณ หอพระราชนิพนธ์ด้านใน ซึ่งไม่มีผู้ใดแตะต้องมากว่าสิบห้าปี“ฝ่าบาท… หม่อมฉันพบสิ่งนี้ระหว่างจัดระเบียบเอกสารเก่า พระองค์โปรดทอดพระเนตรเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ภายในหีบมีสมุดฉบับเล็กเย็บมือ บนปกไม่มีชื่อ แต่เมื่อเปิดออก กลับเป็น ลายมือของเจิ้งซูเฟย ในยามถูกจองจำที่ตำหนักเย็นใจระหว่างการตัดสินโทษข้อความที่เปลี่ยนทุกอย่าง‘…แม้ข้าต้องยอมสละเกียรติ ยอมเป็นหญิงบ้าในสายตาโลก หากเพียงเขา…ลูกของข้า…จะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป ข้าก็ยินดี’‘ข้าถูกล่อลวงให้ถือถ้วยชาที่มีพิษ’พระเนตรฮ่องเต้แข็งค้างไปนานแม้กระดาษจะเก่า แม้หมึกจะเลือนลางแต่ลายมือนั้น…ทรงจำได้ดีเพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่พระองค์ทรงเห็นลายมือที่ซ่อนในสมุดเล่มนั้นกลายเป็น คำให้การที่ไม่มีใครสามารถลบได้“ลายมือเช่นนี้…คล้ายกับบทกลอนที่วางไว้ข้างพระแท่นบรรทมเมื่อหลายคืนก่อนท่านแม่…เขียนถึงข้าทั้งที่รู้ว่าจะไม่มีวันได้พบอีก ”ฮ่องเต้เริ่มเชื่อว่าเจิ้งซูเฟยไม่ได้ทอดทิ้งพระองค์อย่างที่ถูกเล่าทรงระลึกถ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status