공유

บทที่ 11

작가: ซุปเม็ดบัวน้ำตาลกรวด
เยว่สือยืนหยัดไม่เป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน ราวกับว่าหากใครเริ่มพูดก่อนคนนั้นแพ้อย่างไงอย่างงั้น

เมื่อได้ยินคำถามของผู้อาวุโสท่านนี้ ในที่สุดเยว่สือก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งออก โชคดีที่เขายืนหยัดไว้ได้

เยว่สือประสานมือพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่าว่า “ข้าชื่อเยว่สือ ท่านผู้นี้คือคุณชายของข้า เรามาตามหาเจ้าเมืองโม่และภรรยาเจ้าเมือง”

ผู้อาวุโสจื่อชวนกล่าวในใจว่า โอ้ ที่แท้ก็เป็นคุณชายน้อย ไม่ใช่คุณหนูน้อย

แต่เดี๋ยวก่อน...

ผู้อาวุโสจื่อชวนเบิกตากว้างในทันที จ้องเยว่สือพลางกล่าวว่า “พวกเจ้าเป็นเพื่อนของเจ้าเมืองหรือว่าเพื่อนของภรรยาเจ้าเมือง?”

ในขณะที่เยว่สือกำลังจะเอ่ยชื่อเยว่ชิงหง ก็เห็นเยว่เจี้ยนเวยแอบสะกิดเอวเขาจากด้านหลัง

“ข้ามาตามหาบิดาบุญธรรม” เยว่เจี้ยนเวยกัดริมฝีปากเบา ๆ พลางกล่าวเบาและอ่อนแรงว่า “บิดาบุญธรรมของข้าคือโม่ยี่หาน”

ผู้อาวุโสจื่อชวนถึงกับตะลึงงัน เขาเองก็ถือว่าเป็นคนเก่าคนแก่ของตระกูลโม่ และเขาก็เห็นโม่ยี่หานมาตั้งแต่เล็กจนโต ผ่านมาตั้งหลายปี แต่เหตุไฉนเขาจึงไม่เคยได้ยินว่าโม่ยี่หานมีบุตรบุญธรรม?

ถึงแม้ทั้งสองคนจะดูมอมแมมจากการเดินทาง แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่กลับประณีตมาก โดยเฉพาะเด็กหนุ่มคนนั้น แม้ใบหน้าเล็ก ๆ จะเปื้อนฝุ่นจากการเดินทาง แม้แต่มงกุฎปักผมก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนตอนที่ต่อสู้กับหัวหน้าปีศาจน้ำแข็งเมื่อครู่ ซึ่งทำให้ผมสีดำพาดคลุมไปทั่วร่างกายอย่างยุ่งเหยิง ดูแล้วน่าสมเพช แต่พอเห็นกำไลสรรพภพอันล้ำค่าหายากที่ข้อมือนั้น รวมถึงถุงหอมและเครื่องประดับที่เอว ก็รู้ได้ทันทีว่าคนผู้นี้ต้องเป็นคุณชายจากตระกูลสูงศักดิ์ที่มีความพิถีพิถันอย่างแน่นอน

เมื่อตอนโม่ยี่หานยังเป็นหนุ่ม เขาก็เคยออกเดินทางท่องยุทธภพ และอาจจะรับเด็กคนนี้เป็นบุตรบุญธรรมในช่วงเวลานั้นก็เป็นได้

ผู้อาวุโสจื่อชวนลูบคางที่ไม่มีเคราแล้วกล่าวว่า “เจ้าเมืองยังไม่กลับมา ข้างนอกลมแรงและหิมะตกหนัก พวกเจ้าทั้งสองคนตามข้าไปพบนายน้อยก่อนดีกว่า”

นายน้อยก็คือโม่ชางหลานมิใช่รึ หัวใจของเยว่เจี้ยนเวยพลันเต้นแรงขึ้นมาทันที ราวกับมีนกกระจอกน้อยแสนสุขกำลังเต้นรำอยู่ข้างใน ดวงตาสีแก้วก็เปล่งประกาย ราวกับมีแสงดาวไหลเข้าไปในนั้น

เยว่สือดึงเยว่เจี้ยนเวยออกมาจากด้านหลัง ผู้เฒ่าจื่อชวนที่เดิมทีอยากจะเห็นใบหน้าเต็ม ๆ ก็ต้องประหลาดใจเล็กน้อย—เพราะใบหน้าอีกครึ่งซีกกลับถูกปกคลุมด้วยหน้ากากสีเงินที่เปล่งประกายอย่างเย็นเยียบ และไม่รู้ว่ามีไว้เพราะเหตุผลใด

อย่างไรก็ตาม ผู้เฒ่าจื่อชวนก็ไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงเชิญพวกเขาลงไปข้างล่างด้วยกัน

ขณะที่เดินลงจากกำแพงเมืองไปตามบันไดที่สูงชัน ผู้เฒ่าจื่อชวนก็ถามว่า “คุณชายน้อยมีนามว่ากระไร?”

แต่เยว่เจี้ยนเวยกลับมัวแต่คิดว่าจะทำตัวอย่างไรเมื่อเจอโม่ชางหลาน จึงเหม่อลอยจนไม่ได้ยิน

เมื่อเห็นเยว่เจี้ยนเวยจมอยู่ในโลกของตัวเอง เยว่สือจึงกระตุกมุมปากเล็กน้อยอย่างไม่อาจสังเกตได้ พลางลูบศีรษะของเยว่เจี้ยนเวยเบา ๆ เพื่อดึงสติเขากลับมา แล้วกล่าวว่า “ขออภัยท่านผู้เฒ่า คุณชายของข้าค่อนข้างขี้อาย ไม่ค่อยพูดจา เขาชื่อเยว่เจี้ยนเวย ซึ่งหมายความว่าเห็นเพียงเล็กน้อยก็รู้ถึงสิ่งที่ใหญ่กว่า”

เมื่อผู้เฒ่าจื่อชวนได้ยินนามสกุลนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับถามว่า “เยว่ไหน?”

เยว่เจี้ยนเวยตอบว่า “เยว่ ที่แปลว่าแสงจันทร์”

ผู้เฒ่าจื่อชวนถึงกับหยุดชะงักไปในทันที เพราะสกุลเยว่นั้นหาได้ยากยิ่ง เมื่อพูดถึงนามสกุลนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนในอาณาจักรเฉียนหยวนหรืออาณาจักรคุนเจ๋อ สิ่งแรกที่พวกเขานึกถึงก็ต้องเป็นตระกูลเยว่แห่งจักรวรรดิประจิมอย่างแน่นอน

ผู้เฒ่าจื่อชวนอดไม่ได้ที่จะจ้องมองใบหน้าอีกครึ่งซีกที่แยกเพศไม่ออกของเยว่เจี้ยนเวย ก่อนจะถามอย่างลังเลว่า “ขอบังอาจถามว่า คุณชายน้อยเป็นอะไรกับเยว่ชิงหงหรือ?”

เยว่ชิงหงก็คือชื่อของภรรยาเจ้าเมือง

เยว่เจี้ยนเวยมองตาผู้อาวุโสจื่อชวนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสาพลางตอบว่า “บิดาของข้าชื่อเยว่กูหยิ่ง ส่วนเยว่ชิงหงเป็นอาของข้า และเป็นบิดาบุญธรรมของข้าด้วย”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 84

    อย่างไรก็ตาม หลังถูกเยว่เจี้ยนเวยแทรกเช่นนั้น โม่อวิ๋นเจ๋อก็มัวแต่โกรธจนไม่อยากร้องไห้ต่อแล้วเยว่เจี้ยนเวยและโม่อวิ๋นเจ๋อจึงอยู่ในศาลบรรพบุรุษอย่างเงียบงัน ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบเป็นเวลาหลายชั่วยามจากนั้น เยว่เจี้ยนเวยก็ทนไม่ไหว กล่าวว่า “ไหนเจ้าบอกมาสิ เหตุใดจึงต้องคอยหาเรื่องข้าด้วย มันก็แค่เตาปรุงยาเก่า ๆ ที่ไม่มีใครใช้แล้ว ขอยืมสักหน่อยจะเป็นไรไป? ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของเจ้า ทำไมต้องมาทำให้ข้าตกใจด้วย เวลานี้ดีแล้ว พวกเราต่างถูกลงโทษด้วยกันทั้งคู่ เจ้าคงพอใจแล้วสินะ?”โม่อวิ๋นเจ๋อถ่มน้ำลาย “ถุย” ทีหนึ่ง พลางกลอกตากล่าวว่า “ข้าย่อมยืนอยู่ข้างความถูกต้อง ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นเจ้าสมความปรารถนา”เยว่เจี้ยนเวยจึงหัวเราะด้วยความเจ้าเล่ห์เขาหัวเราะจนโม่อวิ๋นเจ๋อขนลุกซู่ ซ้ำยังขยับเข้าไปใกล้โม่อวิ๋นเจ๋อมากขึ้นอีกหลังจากนั้น โม่อวิ๋นเจ๋อก็เห็นว่า เยว่เจี้ยนเวยค่อย ๆ หยิบเตาปรุงยาอีกใบหนึ่งออกมาจากกำไลสรรพภพของตนเอง“ข้าลืมบอกท่านไป ข้าขโมยเตาปรุงยามาสองใบ ถูกยึดไปหนึ่งใบ ก็ยังเหลืออีกหนึ่งใบ ฮ่าๆๆๆๆๆ!”โม่อวิ๋นเจ๋อ “...”ย๊ากกกกกก!โม่อวิ๋นเจ๋อแทบคลั่ง ตนเองเพิ่งหยุดร้องไห้ได้

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 83

    โม่ชางหลานเลิกคิ้วเล็กน้อย ถามว่า “พลังวิญญาณของเขา แข็งแกร่งถึงระดับนั้นเชียวหรือ?”ผู้อาวุโสซางตอบ “เป็นไปได้สูง แต่ยังต้องสังเกตการณ์ต่อไปสักระยะ คุณชายใหญ่ หากพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้จริง อีกทั้งยังเป็นพลังวิญญาณสองธาตุทั้งไฟและไม้ นั่นก็หมายความว่าเขาคือยอดอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งนัก”ต้องรู้ไว้ว่า แม้แต่ระดับตบะของผู้อาวุโสซางเซวียนปัจจุบัน ก็ไม่สามารถทำให้ศิลาทดสอบพลังระเบิดได้เลยโม่ชางหลานนึกถึงภาพที่เยว่เจี้ยนเวยถือยาวิเศษลงจากเขาไปขาย ก็รู้อยู่แล้วว่าเยว่เจี้ยนเวยต้องมีความลับบางอย่าง แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งถึงขั้นน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้โม่ชางหลานครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา เรื่องนี้รบกวนผู้อาวุโสซางอย่าเพิ่งเปิดเผยต่อผู้ใด”ผู้อาวุโสซางพยักหน้า กล่าวว่า “เข้าใจแล้วขอรับ”ยามนี้ ศาสตร์การหลอมโอสถทั่วทั้งทวีปชางหมางมีแต่เสื่อมถอย หากปรากฏอัจฉริยะผู้มีพลังวิญญาณด้านการปรุงยาขึ้นที่ใด ก็จะดึงดูดสายตาผู้คนให้แอบจับตามองนับไม่ถ้วนในอดีตเคยมีปรมาจารย์นักปรุงยาอัจฉริยะผู้โด่งดังเพียงชั่วครู่ ถูกผู้อื่นแอบขโมยพลังวิญญาณด้านก

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 82

    โม่อวิ๋นเจ๋อเบิกตากว้างทันที ร้องเสียงหลงว่า “ไม่ได้นะพี่ใหญ่ เตาปรุงยาพวกนั้น คงทำให้ข้าไม่มีเบี้ยเลี้ยงไปอีกเป็นสิบปีเลยนะ!”โม่ชางหลานกล่าว “สิบปีไหนเลยจะพอ ต้องร้อยปีถึงจะครบถ้วนต่างหาก”โม่อวิ๋นเจ๋อพลันชะงักกึกเยว่เจี้ยนเวยหัวเราะร่าอยู่ในใจ พลางคิดว่าเหตุใดไม่ทำตัวโอหังแล้วล่ะ? ให้ตายเถอะ คิดจะถอดเสื้อผ้าข้าใช่หรือไม่ คิดจะเปิดโปงข้าใช่หรือไม่ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า พี่ชางหลานของข้าช่างเด็ดขาดและยุติธรรมโดยแท้!ใบหน้าของโม่อวิ๋นเจ๋อแทบจะร้องไห้ออกมา แต่เขาคิดว่าถ้าตนเองร้องไห้ตอนนี้ นอกจากพี่ใหญ่จะไม่สนใจความรู้สึกแล้วคงต้องดุด่าเขาอีกชุดใหญ่เป็นแน่ จึงอดทนอดกลั้นเอาไว้ขณะที่เยว่เจี้ยนเวยกำลังแสร้งทำตัวน่าสงสารอย่างสุดความสามารถ ก็ได้ยินโม่ชางหลานกล่าวว่า “เยว่เจี้ยนเวย เหตุการณ์วันนี้ เจ้าก็มีส่วนผิดด้วยเช่นกัน”เยว่เจี้ยนเวยเงยหน้าขึ้น ตอบรับอย่างว่าง่าย “พี่ชางหลาน ข้ารู้ตัวแล้วว่าทำผิด ข้าไม่ควรขโมยของ รอให้ข้าหาเงินได้ในภายหลัง ย่อมชดใช้ให้แก่ผู้อาวุโสซางแน่นอน และต่อไปก็จะไม่ทะเลาะกับพี่อวิ๋นเจ๋ออีกแล้วขอรับ”โม่อวิ๋นเจ๋อเกร็งคอตะเบ็งเสียงว่า “ผู้ใดเป็นพี่เจ้ากัน? เจ้าอย่

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 81

    เยว่เจี้ยนเวยรีบกระชับอาภรณ์ของตน พร้อมกับร้องตะโกนว่า “มีคนลวนลาม! ช่วยด้วย คุณชายรองตระกูลโม่รังแกเด็กหนุ่มบริสุทธิ์แล้ว!”“หุบปากเดี๋ยวนี้! อย่าส่งเสียงโวยวายไปทั่ว!”“ข้าไม่หุบปาก เจ้าช่างไร้ยางอาย กล้าคิดถอดเสื้อผ้าข้ากลางวันแสก ๆ !”“ถ้าเจ้าไม่หุบปาก ข้าจะต่อยเจ้าเดี๋ยวนี้!”“ต่อยเลยสิ ดูว่าผู้ใดต้องเป็นฝ่ายกลัวกันแน่!”“...”..................ครึ่งชั่วยามต่อมา ในเรือนชมธาราเมื่อโม่ชางหลานมองเด็กหนุ่มสองคนที่เสื้อผ้าและทรงผมยุ่งเหยิง กำลังนั่งคุกเข่าแผ่นหลังเหยียดตรงพร้อมเพียงกันอยู่บนพื้น ก็ให้รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีด้านข้าง ยังมีผู้อาวุโสซางเซวียนที่เพิ่งรับประทานโอสถบำรุงหัวใจไปหลายเม็ดยืนอยู่ด้วย“ข้าแค่ลงไปหยิบของครู่เดียว กลับขึ้นมา ทั้งห้องก็อยู่ในสภาพยุ่งเหยิงไปหมด พวกเขาทั้งสองคนกอดกันกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น เฮ้อ หัวใจข้าแทบจะระเบิดเสียให้ได้”ผู้อาวุโสซางเซวียนถอนหายใจไม่หยุด รู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก กล่าวว่า “เตาปรุงยาที่ข้าสะสมมาด้วยความยากลำบากหลายปี เสียหายไปสี่เตา หนึ่งในนั้นยังเป็นถึงวัตถุเวทมนตร์... ซึ่งก็คือเตาที่ดูสวยงามแต่ใช้งานจริงไม่ได้เตานั้นเอง”โ

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 80

    ผู้อาวุโสซางแปลกใจจนเคราแทบร่วง พร้อมกับกล่าวว่า “เหลวไหล หินก้อนนี้ใช้งานมาหลายร้อยปีไม่เคยมีปัญหาอะไร ข้าว่า เป็นเพราะพลังวิญญาณในร่างกายเจ้ามากไปต่างหากที่ทำให้มันรับไม่ไหวจนระเบิดเช่นนี้”เยว่เจี้ยนเวยรู้สึกว่าเหตุผลนี้ก็มีความเป็นไปได้ ถึงแม้ในตอนที่เขาปรุงยาจะไม่ได้รู้สึกสัมผัสถึงว่าพลังวิญญาณจะมีความมหาศาลอะไร แต่นอกจากเหตุผลนี้ก็ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้วเยว่เจี้ยนเห็นดังนั้นจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า “ท่านอาวุโสซาง หรือเป็นไปได้ไหมว่าข้าคืออัจฉริยะด้านการปรุงยาเพียงหนึ่งเดียวในโลก? เอาตรง ๆ ช่วงนี้เวลาข้านอนหลับข้าก็รู้สึกอยู่ว่าร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณอบอวลอยู่ในร่างกายข้าจนแทบจะระเบิด ณ เวลานั้นข้าอยากจะลุกขึ้นมาหยิบเตาปรุงยามาฝึกจนใจจะขาด วันนี้ในเมื่อไม่ใช่ความผิดของก้อนหิน งั้นก็คงเป็นข้าเองที่เก่งกล้าเกินไป ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”ผู้อาวุโสซาง “…”เขาแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองถึงแม้ว่าผู้อาวุโสซางจะพอเดาพรสวรรค์ของเยว่เจี้ยนเวยได้อยู่ แต่พอได้ยินเจ้าเด็กที่อยู่ตรงหน้ากล่าวโอ้อวดตนอย่างไม่เขินอาย ก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกปากอย่างไม่เห็นด้วยก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 79

    ผู้อาวุโสซางเซวียน “...”ไม่เป็นความจริงเลยสักนิด เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ผ่านมา โม่อวิ๋นเจ๋อยังมาหาเขาพร้อมกับสาบานอย่างคับแค้นใจด้วยความโกรธว่าจะหักเงินจากค่าขนมของเยว่เจี้ยนเวยในแต่ละเดือนเพื่อมาชดใช้ค่ายาที่แสนแพงชิ้นนี้และแน่นอน ในเมื่อเยว่เจี้ยนเวยเอ่ยชมเชยโม่อวิ๋นเจ๋อขนาดนี้ ผู้อาวุโสซางจึงเล็งเห็นว่าการปกป้องภาพลักษณ์อันเฉลียวฉลาดและเก่งกล้าสามารถของคุณชายรองนั้นสำคัญกว่า จึงพนักหน้าพร้อมกับกล่าวต่อว่า “ใช่แล้ว คุณชายรองเป็นคนเช่นนี้แหละ เจ้าโชคดีจริง ๆ ”เมื่อผู้อาวุโสซางสอนวิชาเสร็จ จึงเดินมาดูเยว่เจี้ยนเวยและกล่าวขึ้นว่า “ข้าได้ยินมาว่า เจ้าตั้งใจจะศึกษาเคล็ดโอสถวิเศษ”เยว่เจี้ยนพยักหน้าพร้อมตอบกลับว่า “ใช่ขอรับ ข้าสนใจเคล็ดโอสถวิเศษอย่างมาก”ผู้อาวุโสซางกล่าวต่อว่า “เคล็ดโอสถวิเศษค่อนข้างน่าเบื่อ ในระหว่างการฝึกฝนต้องใช้ความอดทนอย่างสูง เจ้ายังเด็ก กำลังอยู่ในวัยชอบเล่นสนุก เจ้าคิดว่าตัวเองสามารถนั่งอยู่เฉย ๆ เป็นเวลาสิบชั่วโมง หรือเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปีได้สักเท่าไร?”เยว่เจี้ยนเวยฉีกยิ้มที่ดูนอบน้อมและน่ารัก รอยยิ้มที่กว้างจนเผยให้เห็นลักยิ้มเล็ก ๆ บนแก้มของเขา

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status