مشاركة

บทที่ 5

مؤلف: BigM00N
last update آخر تحديث: 2025-05-19 19:43:01

แม้ว่ายามนี้หยางเจี้ยนจะยังเป็นแค่เพียงคุณชายใหญ่ของจวนสกุลหยาง ยังไม่ใช่พระมาตุลาผู้สำเร็จราชการแผ่นดินดังเช่นในชาติที่แล้ว แต่รอบกายของเขากลับมีพลังอำนาจคุกคามบางอย่างที่แผ่กระจายออกมาแล้วทำให้ทุกคนต่างก็เกรงขามและหวาดกลัว สายตาอันคมกล้าคู่นั้นของเขาทำให้หลายคนไม่กล้าสบตา แต่คนที่เคยผ่านความเป็นความตายมาแล้วอย่างหลินเหม่ยเหยากลับจ้องมองเขาด้วยสายตาพินิจพิจารณาพลางคิดในใจว่าทำอย่างไรดีนางและสกุลของนางจึงจะไม่มีเรื่องขัดแย้งกับคนผู้นี้

“ข้าน้อยคือหลินเหม่ยเหยา บิดาของข้าคือรองหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงหลินเจวี๋ย ส่วนนี่คือน้องชายของข้าเป็นเพราะข้ากังวลว่าลูกสุนัขจิ้งจอกสองตัวนั้นจะทำอันตรายเขาก็เลยลงมือกับลูกสุนัขจิ้งจอกสองตัวนั้นหนักมือไปหน่อย ขอคุณชายใหญ่ได้โปรดให้อภัยข้าน้อยด้วยเถิดเจ้าค่ะ” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพลางย่อกายคารวะขออภัย หยางเจี้ยนได้แต่หรี่ตาลงเมื่อได้เห็นท่าทีของนางแม้ว่าจะดูอ่อนน้อมและขออภัยอย่างจริงใจแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจก็คือเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวเขาอย่างที่เด็กสาวคนอื่นๆ มักจะเป็น

“คุณหนูใหญ่หลินเป็นสหายสนิทของคุณหนูสามจวนเราขอรับ” คำพูดของผู้ติดตามทำให้หยางเจี้ยนยิ้มเย็นออกมาสายตาที่ใช้มองหลินเหม่ยเหยาก็พลันเย็นชามากยิ่งขึ้น

“อ้อที่แท้ก็คือคุณหนูที่อยู่จวนข้างๆ นี่เอง แล้วเหตุใดเด็กสาวเช่นเจ้าจึงได้มาป้วนเปี้ยนแถวนี้” คำพูดของหยางเจี้ยนทำให้หลินเหม่ยเหยายิ้มเย็นออกมาเช่นเดียวกัน นางเงยหน้าขึ้นไปประสานสายตากับเขาแล้วจึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“สำนักคุ้มภัยสกุลมู่คือกิจการของข้า ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่ข้าจะมาที่นี่” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพลางล้วงมือเข้าไปในถุงผ้าที่นางมักจะถือติดตัวมาด้วยแล้วนำขวดยาขวดเล็กๆ ออกมา

“นี่คือยาสลบที่ข้าใช้ แม้ว่าฤทธิ์ยาจะทำให้คนหรือสัตว์หมดสติในทันทีที่ได้สัมผัสแต่กลับทำให้หมดสติไม่นานนัก ข้าขอมอบให้คุณชายใหญ่หยางเพื่อเป็นการขอขมาที่ข้าลงมือกับลูกสุนัขจิ้งจอกของท่าน” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพลางยื่นขวดยาออกไปตรงหน้า หยางเจี้ยนรีบส่งสัญญาณให้คนของเขามารับไปในทันที แม่สุนัขจิ้งจอกส่งเสียงคำรามใส่นาง แต่พอนางปรายสายตาไปทางมัน แม่สุนัขจิ้งจอกก็ลดเสียงคำรามลงแล้วก้มหน้าลงไปเลียลูกๆ ของตนด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความห่วงใย

“อีกไม่นานลูกสุนัขจิ้งจอกสองตัวนี้ก็จะฟื้นคืนสติขึ้นมา ข้าขอรับรองว่าพวกมันจะต้องไม่เป็นอันใดอย่างแน่นอน” เมื่อหลินเหม่ยเหยาเอ่ยเช่นนี้หยางเจี้ยนก็พยักหน้า

“เจ้าก็จงภาวนาขออย่าให้พวกมันเป็นอะไรก็แล้วกัน” เมื่อเขาเอ่ยจบก็สั่งให้คนของเขาไปอุ้มลูกสุนัขจิ้งจอกขึ้น แม่สุนัขจิ้งจอกเดิมทีก็ขู่คำรามใส่คนที่มาอุ้มลูกของมันแต่พอหยางเจี้ยนส่งเสียงห้ามปรามมันเบาๆ มันก็หยุดคำรามแล้ววิ่งไปคลอเคลียหยางเจี้ยนในทันที

“ถ้าเช่นนั้นข้ากับน้องชายต้องขอตัวก่อน หากลูกสุนัขจิ้งจอกฟื้นขึ้นมาแล้วมีอาการผิดปกติท่านสามารถส่งคนไปตามข้าที่จวนได้ทุกเมื่อ” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยเช่นนี้หยางเจี้ยนก็แค่นเสียงในลำคอแล้วโบกมือให้นางด้วยท่าทีไม่ใส่ใจนางจึงได้ย่อกายคารวะอำลาแล้วจึงได้พาน้องชายกลับจวน

เมื่อไปถึงจวนนางก็ยืนนิ่งมองหลินโม่วถูกชุยอวี้หลันเอาไม้ไล่ตีโดยไม่ช่วยเหลือ หากเป็นเมื่อก่อนนางคงจะออกหน้าช่วยน้อยชาย อีกทั้งยังแสดงท่าทีต่อต้านมารดาเลี้ยงอย่างดื้อรั้น แต่ยามนี้นางกลับเห็นพ้องต้องกันกับมารดาเลี้ยงว่าน้องชายของนางควรจะได้รับการสั่งสอนเสียบ้าง

“พี่หญิง! เหตุใดคราวนี้ท่านจึงไม่ช่วยข้า” หลินโม่วเอ่ยพลางวิ่งมาแอบด้านหลังของนาง แล้วหลบหลีกไม้เรียวที่ตั้งใจจะฟาดใส่เขาของชุยอวี้หลันด้วยความคล่องแคล่ว

“หลินโม่ว อย่าหนีนะ” ชุยอวี้หลันเอ่ยพลางหอบออกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย นางไล่ตีเขามาหลายถ้วยชาแล้ว น้อยครั้งนักที่จะตีถูกเขาทำให้นางรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง

“ท่านแม่ระวังนะ ระวังว่าท่านจะตีถูกพี่หญิงเข้า ถ้าพี่หญิงเจ็บตัวขึ้นมาจะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่” หลินโม่วเอ่ยพลางหัวเราะออกมาแต่หลินเหม่ยเหยากลับไม่ได้รู้สึกสนุกสนานไปกับเขาด้วย คำพูดของเขาทำให้แม้แต่ชุยอวี้หลันยังหยุดนิ่ง หลินเหม่ยเหยาได้แต่ทอดถอนใจออกมาแล้วเอ่ยกับน้องชายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ข้าคงจะตามใจเจ้ามากจนเกินไป ให้ท้ายเจ้ามากจนหลงลืมตน มู่เหอ มู่จิ่นมาจับตัวเขาเอาไว้ ข้าจะดูสิว่าคราวนี้เขาจะหนีรอดไม่เรียวของแม่เล็กได้ไหม” เมื่อหลินเหม่ยเหยาเอ่ยเช่นนี้หลินโม่วก็ผงะถอยหลังไป แต่ก็ยังช้าไปกว่ามู่เหอและมู่จิ่นที่เข้ามาช่วยกันจับยึดแขนของเขาเอาไว้คนละข้าง

“แม่เล็กคือผู้ควบคุมดูแลจวนแห่งนี้ เป็นนายหญิงที่ทุกคนให้ความเคารพ ส่วนข้าแม้ว่าจะเป็นคุณหนูใหญ่ของจวนแต่ก็ยังต้องให้ความเคารพนางในฐานะผู้อาวุโสในจวนที่คอยอบรมเลี้ยงดู ก่อนหน้านี้ข้าคิดไม่ได้แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้จักคิดได้ตลอดไป เจ้าเองก็เช่นกัน เป็นคุณชายคนเดียวของจวน วันๆ ไม่สนใจศึกษาเรียนรู้ตำราวิชาแพทย์ก็ไม่เป็นไร แต่เรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตน รู้กาลเทศะเจ้าควรจะเรียนรู้เอาไว้ วันหน้าเมื่อเติบใหญ่เจ้าต้องพบกับผู้คนอีกมากมาย หากเจ้ายังคงพูดจาไม่คิดและไม่รู้กาลเทศะเช่นนี้วันหน้าเจ้าจะต้องเกิดเรื่องแน่” เมื่อหลินเหม่ยเหยาเอ่ยเช่นนี้หลินโม่วก็พลันน้ำตาคลอเต็มสองหน่วยตาในทันทีด้วยรู้แน่ชัดแล้วว่าวันนี้พี่สาวจะต้องไม่ช่วยเขาแน่

“แต่ข้ายังมีท่านพ่อคอยช่วยเหลือ แถมยังมีท่านคอยปกป้องแล้วข้ายังจะต้องระมัดระวังอะไรอีก” คำพูดของน้องชายทำให้คราวนี้หลินเหม่ยเหยาพลันมีน้ำตาเอ่อคลอเต็มสองตาไปด้วย

“หากวันหน้าท่านพ่อไม่อยู่แล้วเล่า ส่วนข้าเองก็ไร้ความสามารถไม่อาจจะปกป้องเจ้าได้ แล้วเจ้าจะเอาตัวรอดได้อย่างไร” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพลางคิดถึงเรื่องราวในชาติที่แล้ว ไม่เพียงไม่อาจจะช่วยบิดาได้ แม้แต่น้องชายและมารดาเลี้ยงนางก็สิ้นไร้หนทางที่จะช่วยเหลือ แม้ว่าจะมีผู้เยี่ยมยุทธ์ในสำนักคุ้มภัยอยู่ในมือ แต่เมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับราชสำนักแล้วนางก็สิ้นไร้กำลังที่จะช่วยเหลือ กองกำลังของสำนักคุ้มภัยเล็กๆ มีหรือจะสู้กองกำลังอันยิ่งใหญ่ของแคว้นได้ ยังไม่นับว่านางไม่อยากจะดึงคนของสำนักคุ้มภัยมาเกี่ยวข้องกับเรื่องกบฏของบิดา สิ่งเดียวทำได้ก็คือนางจำต้องตัดความเกี่ยวข้องกับสำนักคุ้มภัย เพื่อให้ทุกคนในสำนักรอดพ้นจากข้อหากบฏ

“เช่นนั้นคราวหน้าข้าจะไม่ทำอีกแล้ว ท่านก็อย่าได้หลั่งน้ำตาออกมาอีกเลย” เมื่อหลินโม่วเอ่ยเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาจึงได้รู้ว่ายามนี้บนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจ

“เอาเถอะๆ วันนี้จะละเว้นโทษโบยตีให้เจ้าสักครั้ง แต่ครั้งหน้าอย่าได้มีอีก หากมีอีกแม่จะสั่งให้คนช่วยกันจับตัวเจ้าส่งไปที่หอลงทัณฑ์ในทันที” ชุยอวี้หลันเอ่ยพลางโยนไม้ลงพื้นแล้วจึงได้หันมาทางหลินเหม่ยเหยา

“เอาล่ะคุณหนูใหญ่ท่านก็ไม่ต้องร้องไห้แล้ว ข้าไม่ตีน้องชายของท่านก็ได้เพียงแต่ครั้งหน้าหากเขาทำผิดอีก คงต้องเป็นหน้าที่ของคุณหนูใหญ่ที่จะต้องลงทัณฑ์เขาจนกว่าเขาจะหลาบจำและไม่ทำอีก” คำพูดของชุยอวี้หลันทำให้หลินเหม่ยเหยาที่กำลังใช้ผ้าซับน้ำตาพลันชะงักไป ด้วยรู้ดีว่ายามนี้ทุกคนกำลังเข้าใจท่าทีของนางผิด คิดว่านางกำลังร้องไห้เพราะเกรงว่าน้องชายจะถูกลงโทษแต่นางก็ไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจผิดของทุกคน แถมยังยินดีที่จะได้เป็นคนลงไม้ลงมือกับน้องชายของตนเองอีกด้วย

“ในเมื่อแม่เล็กมอบหมายหน้าที่สำคัญให้ข้าเช่นนี้ ข้าก็ยินดีจะทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ แม่เล็กวางใจเถิดข้าจะลงโทษเขาให้หนักกว่าที่แม่เล็กลงมือเสียอีก” คำพูดของหลินเหม่ยเหยาทำให้หลินโม่วเอ่ยวาจาประท้วงออกมาในทันที

“พี่หญิง! ท่านจะลงมือกับข้าได้ลงคอจริงหรือ” คำถามของน้องชายทำให้หลินเหม่ยเหยาพยักหน้าพลางเอ่ยวาจายืนยันในทันที

“ต้องอบรมให้หนักสักหน่อย ในเมื่อเจ้ายังแยกแยะไม่ออกว่าระหว่างลูกสุนัขกับลูกสุนัขจิ้งจอก ข้าก็ควรจะลงมือกับเจ้าให้หนักสักหน่อย” หลินเหม่ยเหยายืนยันด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในใจของนางคิดถึงภาพน้องชายที่เป็นหนุ่มน้อยแล้วในชาติที่แล้ว แม้ว่าจะเติบใหญ่แล้วแต่หลินโม่วกลับยังคงอาลัยอาวรณ์และพูดถึงลูกสุนัขที่ตนเองเคยอยากได้มาเลี้ยงในวัยเด็ก ทั้งๆ ที่เขามีสุนัขให้เลี้ยงตั้งหลายตัวแต่ก็เอาแต่บอกว่าไม่เหมือนลูกสุนัขที่เขาเคยอยากได้ ยามนั้นนางไม่เข้าใจแต่ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดจึงไม่เหมือน ลูกสุนัขที่ชาวบ้านทั่วไปเลี้ยงจะนำไปเทียบกับลูกสุนัขจิ้งจอกที่หยางเจี้ยนเลี้ยงเอาไว้ได้อย่างไร...

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 100

    ‘เจ้าบ่าวของฉางเจียจะต้องเป็นข้าเพียงเท่านั้น’สวีหย่วนไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากนั้นเขาต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากกว่าจะได้แต่งงานกับฉางเจีย พอนางตัดสินใจว่าจะแต่งให้กับผู้อื่นแล้วนางก็มีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้เขาบอกว่าเขายินดีที่จะแต่งงานกับนาง แต่นางกลับคิดแค่เพียงว่าเขารู้สึกสงสารนางเพียง

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 99

    คุณหนูสกุลฉางกำลังจะแต่งงาน ข่าวนี้ทำให้ผู้คนในเมืองหลวงต่างพากันแตกตื่นและก็พากันสงสัยว่าใครกันที่จะเป็นเจ้าบ่าวผู้โชคร้ายคนนั้น ที่น่าประหลาดใจก็คือใกล้จะถึงวันมงคลอยู่แล้วแต่จวนสกุลฉางกลับไม่ได้จัดเตรียมงานมงคล แต่จวนที่จัดเตรียมงานมงคลกลับเป็นจวนสกุลหยาง จึงมีหลายคนต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 98

    “บัดซบ! หลินเหม่ยเหยาถ้าเจ้ากล้าเป็นอะไรไป ข้าจะตามไปเอาเรื่องเจ้าในปรโลกแน่ๆ” ฉางเจียเอ่ยพลางวิ่งอย่างสุดฝีเท้าไปที่จวนสกุลหยางโดยมีอิงเถาวิ่งตามนางมา“คุณหนูฉาง ข้าเอารถม้ามารับท่านด้วยนะเจ้าคะ” แม้ว่าจะวิ่งสุดฝีเท้าแต่ฉางเจียก็วิ่งไปไกลแล้ว อิงเถาได้แต่หลังน้ำตาออกมาอีกครั้งแล้ววิ่งกลับไปที่รถม้า

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 97

    ‘ข้าเคยพูดว่าเขาเป็นคนหน้าตาธรรมดาหรือ ข้าเคยพูดตอนไหนกันนะ’ นี่คือความคิดของฉางเจียหลังจากที่นางมอบถุงผ้าปักของตนเองให้สวีหย่วนเพื่อเป็นของแทนใจแต่กลับถูกเขาส่งคืนมาให้แถมยังบอกกับนางว่า“คุณหนูเคยเอ่ยกับข้าว่าข้าเป็นคนที่มีหน้าตาธรรมดา ดังนั้นคนที่มีหน้าตาธรรมดาเช่นข้าจึงไม่คู่ควรที่คุณหนูฉางจะมาช

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 96

    “จิ่นหลันเป็นถึงนายกองหญิงของทัพอู่ติ้ง ได้ยินมาว่าหลายปีมานี้นางคือกุนซือของกองทัพ หากนางคิดมากถึงเพียงนั้นเหตุใดจึงไม่คิดบ้างเล่าว่า ข้าไม่เคยทุ่มเทความสนใจของข้าให้กับสตรีอื่น และข้าก็เชื่อว่าลูกเหยียนของข้าคงจะไม่ต่างจากข้ามากนัก ส่วนลูกเยว่เจ้าไม่ต้องกังวล ขนาดข้ายังตกหลุมรักเจ้าได้ คงจะมีสักวั

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 95

    ซ่งเสวี่ยหรงและกัวไป๋จิ้งถูกตัดสินประหารชีวิตในวันเดียวกัน คนสกุลกัวทั้งสกุลพลอยติดร่างไปด้วย ส่วนคนอื่นๆ ในสกุลซ่งได้รับการอภัยโทษและถูกเนรเทศไปอยู่ชายแดนตลอดชีวิต หวังจื่อเถียนทนรับความลำบากไม่ไหวแขวนคอตนเองตายไปในที่สุด หลินเหม่ยเหยารับฟังเรื่องราวเหล่านี้ด้วยจิตใจอันว่างเปล่า บุญคุณความแค้นในชาต

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status