Share

บทที่ 6

Author: BigM00N
last update Last Updated: 2025-05-19 19:43:30

หลังจากวันที่ได้พบกับหยางเจี้ยน หลินเหม่ยเหยาก็ไม่ได้ออกจากจวนอีก ทางจวนสกุลหยางเองนอกจากเทียบเชิญจากหยางสุ่ยเซียนแล้วก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากทางจวนสกุลหยางอีกเช่นกัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าลูกสุนัขจิ้งจอกสองตัวนั้นปลอดภัยดี

“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ คุณหนูสามสกุลหยางมาขอเข้าพบเจ้าค่ะ” เสียงรายงานของสาวใช้ทำให้หลินเหม่ยเหยาได้แต่ขมวดคิ้ว นางจำได้ว่าหยางสุ่ยเซียนไม่ใช่คนชอบเซ้าซี้แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดหยางสุ่ยเซียนจึงได้พยายามจะพบนางให้ได้เช่นนี้ ทั้งที่นางก็ปฏิเสธทั้งเทียบเชิญและเทียบขอเข้าพบของหยางสุ่ยเซียนไปตั้งหลายครั้งแล้ว

“ไปเชิญนางเข้ามาเถิด” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพลางก้มหน้าลงไปอ่านตำราในมือต่อ ยามนี้เข้าสู่หน้าร้อนแล้วนางจึงมักจะมานั่งอ่านตำราในศาลากลางน้ำ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกบัว สายลมที่พัดพาผ่านผิวน้ำทำให้อากาศรอบกายเย็นสบาย ดังนั้นในหน้าร้อนของทุกปีนางจึงชอบมานั่งเล่นในสถานที่แห่งนี้ ยามที่หยางสุ่ยเซียนเดินเข้ามาจึงได้แต่จ้องมองท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลายของนางด้วยความริษยา

“เหยาเหยา เหตุใดช่วงนี้เจ้าจึงได้ห่างเหินกับข้ากันเล่า หรือเป็นเพราะว่าคุณชายใหญ่สกุลซ่งผู้เป็นคู่หมายของเจ้ากลับเข้าเมืองหลวงมาแล้ว เจ้าก็เลยทำตัวเหินห่างจากข้า” คำพูดประโยคนี้ของหยางสุ่ยเซียนทำให้หลินเหม่ยเหยาที่กำลังชงชาเพื่อรับรองแขกถึงกับชะงักไปในทันที แต่แล้วนางก็ยิ้มออกมาแล้วรินชาลงในถ้วยชาสองถ้วย ถ้วยหนึ่งสำหรับนางเองส่วนอีกถ้วยนั้นแน่นอนว่าต้องเป็นของแขกอย่างหยางสุ่ยเซียน

“ก็แค่คุณชายใหญ่สกุลซ่งกลับมาแล้ว เหตุใดข้าจะต้องไม่อยากจะพบกับเจ้ากันเล่า เจ้ากับเขามีความเกี่ยวข้องอันใดกันหรือ” คำถามของหลินเหม่ยเหยาทำให้หยางสุ่ยเซียนพลันขมวดคิ้วในทันที

“เหตุใดเจ้าจึงได้ถามคำถามที่ฟังดูแล้วไม่ค่อยจะดีเช่นนี้กันเล่า ข้ากับเขาจะไปมีความเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร ข้าก็แค่คิดว่าพอคู่หมั้นของเจ้ากลับมาแล้วอนุผู้นั้นของท่านพ่อเจ้าก็จะสั่งให้เจ้าเก็บเนื้อเก็บตัวเพื่อรอแต่งออกเพียงเท่านั้น” คำพูดของหยางสุ่ยเซียนทำให้หลินเหม่ยเหยาพลันยกมุมปากขึ้น

“ข้ายังไม่ทันได้ผ่านพิธีปักปิ่นเรื่องแต่งงานยังไม่มีทางกำหนดขึ้นในเร็ววันนี้หรอก อีกทั้งผู้ที่ทำสัญญาหมั้นหมายอย่างท่านปูของข้าและท่านปู่ของเขาก็ล้มหายตายจากไปตั้งหลายปีแล้ว ยังไม่แน่ชัดว่าทางจวนสกุลซ่งจะยึดถือเรื่องนี้เป็นคำสัตย์ที่จะต้องทำตาม” เมื่อหลินเหม่ยเหยาเอ่ยเช่นนี้หยางสุ่ยเซียนก็พยักหน้า

“นั่นสินะ ยามนี้ท่านพ่อของเจ้าได้เป็นถึงรองหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงแล้ว รอเพียงการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากสำนักราชวัง ท่านพ่อของเจ้าก็จะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงอย่างเป็นทางการแล้ว ในขณะที่นายท่านใหญ่สกุลซ่งกลับยังเป็นแค่เพียงแพทย์หลวงตำแหน่งธรรมดาสามัญทั่วไป ก็ไม่น่าประหลาดใจที่จวนสกุลหลินและเจ้าจะรังเกียจการหมั้นหมายในครั้งนี้” คำพูดของหยางสุ่ยเซียนทำให้หลินเหม่ยเหยากระแทกถ้วยชาลงบนโต๊ะในทันที ที่แท้คำพูดประโยคนี้ก็มาจากปากของหยางสุ่ยเซียนนี่เอง

ในชาติก่อนเพราะคำพูดประโยคนี้จึงทำให้ซ่งเสวี่ยหรงเข้าใจว่านางและคนสกุลหลินคิดดูถูกเขา และความเข้าใจเช่นนี้ของเขาจึงทำให้สามีในชาติก่อนของนางเย็นชาใส่นางในบางครั้ง เขาเคยบกกับนางว่าเขาได้ยินคำพูดประโยคนี้มาจากผู้อื่น แต่ยามนี้นางรู้แล้วว่าคำว่า “ผู้อื่น” ของเขาหมายถึงหยางสุ่ยเซียนนี่เอง

“ขะ ข้าพูดอะไรผิดไปหรือ จึงทำให้เจ้าไม่เพียงกระแทกถ้วยชาใส่ข้าแต่ยังถลึงตาใส่ข้าด้วยความโกรธเคืองเช่นนี้อีกด้วย” หยางสุ่ยเซียนเอ่ยถามด้วยความสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคับข้องใจ แต่หลินเหม่ยเหยากลับแค่เพียงแค่นหัวเราะออกมา

“หยางสุ่ยเซียนเจ้าจะทำสีหน้าเช่นนี้ให้ผู้ใดดูกัน แม่นางน้อยที่สามารถเอาตัวรอดในสกุลใหญ่ได้เช่นเจ้ามีหรือจะไม่เข้าใจในความโกรธเคืองของข้า” เมื่อหลินเหม่ยเหยาเอ่ยเช่นนี้หยางสุ่ยเซียนก็พลันส่ายหน้าและแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจในทันที

“แต่ข้าไม่รู้ คำพูดของข้าทำให้เจ้ารู้สึกโกรธเคืองที่ตรงไหน”

“เจ้าไม่รู้ตัวจริงๆ หรือว่าเจ้ากำลังเอ่ยวาจาให้ร้ายข้า เจ้าเป็นคนพูดไม่ใช่หรือว่าท่านพ่อของข้ากำลังจะเป็นหัวหน้าสำนักแพทย์หลวง ส่วนท่านลุงซ่งกลับเป็นแค่เพียงแพทย์หลวงธรรมดาสามัญ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จวนสกุลหลินและข้าจะรังเกียจการหมั้นหมายนี้ คำพูดเช่นนี้คุณหนูที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีไม่กล้าเอ่ยออกมาหรอก มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เอ่ยวาจาชั่วร้ายเช่นนี้ออกมาได้ เจ้าไม่เพียงพูดจาให้ร้ายข้าแต่ยังลามมาถึงสกุลหลินของข้าด้วย แล้วยังกล้ามาถามข้าอีกหรือว่าข้าโกรธเคืองเจ้าด้วยเรื่องใด” เมื่อหลินเหม่ยเหยาเอ่ยเช่นนี้หยางสุ่ยเซียนก็รีบส่ายหน้าในทันที

“ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าขอโทษ” คำขอโทษของหยางสุ่ยเซียนไม่ได้จริงใจเลยสักนิด หากเป็นชาติก่อนหลินเหม่ยเหยาคงจะมองไม่ออก แต่ชาตินี้นางรู้ธาตุแท้ของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าแล้ว ในใจของนางก็ได้แต่แอบชื่นชมหยางสุ่ยเซียนอยู่ในใจที่แม้ว่าหยางสุ่ยเซียนในยามนี้จะมีอายุแค่เพียงสิบสี่ปี แต่การแสดงออกบนสีหน้ากลับเก่งกาจเสียยิ่งกว่านักแสดงงิ้วที่มารดาเลี้ยงของนางจ้างมาทำการแสดงในจวนเสียอีก ไม่น่าประหลาดใจที่ในชาติที่แล้วเด็กสาวที่หมกมุ่นอยู่แต่กับตำราแพทย์และตำราสมุนไพรเช่นนางจะมองหยางสุ่ยเซียนไม่ออก

“เก็บคำพูดสวยหรูของเจ้าไปพูดกับผู้อื่นเถิด เรื่องการหมั้นหมายคือเรื่องส่วนตัวของข้าเจ้าไม่มีสิทธิ์มาเอ่ยถึง ส่วนเรื่องที่ว่าคุณชายใหญ่สกุลซ่งไปที่ไหนหรือทำอะไรถ้าเจ้าให้ความสำคัญมากนักทำไมไม่ไปบอกกับท่านแม่ของเจ้าจัดการเรื่องหมั้นหมายของเขากับเจ้าเสียเลยเล่าเจ้าจะได้มีสิทธิ์ติดตามความเคลื่อนไหวของเขาได้อย่างชอบธรรม อ้อ ข้าลืมไปท่านแม่ของเจ้าเป็นแค่เพียงอนุในจวนนี่นา ย่อมไม่อาจจะมีอำนาจมาจัดการเรื่องการหมั้นหมายของเจ้าได้อยู่แล้ว” เมื่อหลินเหม่ยเหยาเอ่ยเช่นนี้สีหน้าที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสาของหยางสุ่ยเซียนก็พลันเปลี่ยนแปลงไปในทันที

“หลินเหม่ยเหยาเจ้าอย่าได้ล่วงเกินแม่เล็กของข้า” เมื่อหยางสุ่ยเซียนไม่คิดจะเสแสร้งอีกต่อไปแล้วหลินเหม่ยเหยาก็หัวเราะออกมาในทันที

“ทำไมเล่า แม่เล็กของเจ้าข้าแตะต้องไม่ได้แล้วแม่เล็กของข้าเล่าเจ้าถือสิทธิ์อะไรมาพูดจาดูถูกนาง หยางสุ่ยเซียนแม่เล็กของข้าเป็นถึงผู้ดูแลจวนแห่งนี้ ทุกคนต่างให้ความเคารพนางในฐานะนายหญิงของจวน แล้วแม่เล็กผู้เป็นมารดาแท้ๆ ของเจ้าเล่านางมีสิ่งใดที่เหนือกว่าแม่เล็กของข้าหรือ” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพลางจ้องมองดวงหน้างามที่ยามนี้เต็มไปด้วยความโกรธเคืองของหยางสุ่ยเซียนแล้วก็พลันแค่นเสียงใส่ใบหน้าของนาง

“ข้าขอเตือนเจ้า อย่าได้ดูถูกคำว่าอนุเชียว ไม่แน่ว่าวันหน้าเจ้าอาจจะต้องกลายเป็นอนุของผู้อื่นด้วยความเต็มใจก็ได้” คำพูดของหลินเหม่ยเหยาทำให้หยางสุ่ยเซียนลุกขึ้นมาแล้วโน้มร่างกายข้ามสิ่งกีดขวางบนโต๊ะตั้งใจว่าจะตบใบหน้าของหลินเหม่ยเหยาให้ได้ แต่หลินเหม่ยเหยาไม่เพียงยกมือขึ้นมาจับฝ่ามือที่ฟาดลงมาของหยางสุ่ยเซียนเอาไว้ได้ นางยังตวัดฝ่ามือที่ว่างอีกข้างของตนเองเข้าไปที่ใบหน้าของหยางสุ่ยเซียนจนเต็มแรง จนทำให้หยางสุ่ยเซียนเสียหลักล้มลงไปบนพื้นอีกด้วย

“หลินเหม่ยเหยาเจ้ากล้าตบหน้าข้าหรือ” คำพูดของหยางสุ่ยเซียนทำให้หลินเหม่ยเหยาเอ่ยออกมาด้วยความแค้นในจิตใจ

“ขายังกล้าลงมือได้มากกว่านี้อีกเจ้าอยากลองหรือไม่” คำพูดของหลินเหม่ยเหยาทำให้หยางสุ่ยเซียนตะโกนก้องออกมา

“พี่สาวของข้าคือกุ้ยเฟยที่ฝ่าบาททรงโปรดปราน พวกเจ้าสกุลหลินจงระมัดระวังตัวเอาไว้ให้ดี” เมื่อหยางสุ่ยเซียนเอ่ยเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“เจ้าแน่ใจหรือว่ากุ้ยเฟยจะทรงจัดการข้าด้วยเรื่องของเจ้า น้องสาวต่างมารดาที่ถือกำเนิดจากอนุภายในจวน อีกทั้งอนุผู้นั้นยังเป็นสาเหตุที่ทำให้มารดาของพระนางต้องตาย เจ้าคิดว่าพระนางจะทรงยินดีที่จะยื่นพระหัตถ์มาช่วยเหลือเจ้าหรือ เท่าที่ข้ารู้ความเกลียดชังที่พระนางมีต่อเจ้าน่าจะมากพอๆ กับที่ข้าเกลียดชังเจ้านี่แหละ” คำพูดของหลินเหม่ยเหยาทำให้ใบหน้าของหยางสุ่ยเซียนพลันซีดเผือดพลางคิดในใจว่านางเคยเผลอเล่าเรื่องนี้ให้หลินเหม่ยเหยาฟังตอนไหน แล้วเหตุใดหลินเหม่ยเหยาจึงได้รู้เรื่องในจวนของนางได้มากขนาดนี้

“หลินเหม่ยเหยาข้าจะต้องเล่นงานเจ้าให้ได้” เมื่อนางเอ่ยจบก็ขยับตัวลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากจวนสกุลหลินในทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 100

    ‘เจ้าบ่าวของฉางเจียจะต้องเป็นข้าเพียงเท่านั้น’สวีหย่วนไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากนั้นเขาต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากกว่าจะได้แต่งงานกับฉางเจีย พอนางตัดสินใจว่าจะแต่งให้กับผู้อื่นแล้วนางก็มีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้เขาบอกว่าเขายินดีที่จะแต่งงานกับนาง แต่นางกลับคิดแค่เพียงว่าเขารู้สึกสงสารนางเพียง

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 99

    คุณหนูสกุลฉางกำลังจะแต่งงาน ข่าวนี้ทำให้ผู้คนในเมืองหลวงต่างพากันแตกตื่นและก็พากันสงสัยว่าใครกันที่จะเป็นเจ้าบ่าวผู้โชคร้ายคนนั้น ที่น่าประหลาดใจก็คือใกล้จะถึงวันมงคลอยู่แล้วแต่จวนสกุลฉางกลับไม่ได้จัดเตรียมงานมงคล แต่จวนที่จัดเตรียมงานมงคลกลับเป็นจวนสกุลหยาง จึงมีหลายคนต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 98

    “บัดซบ! หลินเหม่ยเหยาถ้าเจ้ากล้าเป็นอะไรไป ข้าจะตามไปเอาเรื่องเจ้าในปรโลกแน่ๆ” ฉางเจียเอ่ยพลางวิ่งอย่างสุดฝีเท้าไปที่จวนสกุลหยางโดยมีอิงเถาวิ่งตามนางมา“คุณหนูฉาง ข้าเอารถม้ามารับท่านด้วยนะเจ้าคะ” แม้ว่าจะวิ่งสุดฝีเท้าแต่ฉางเจียก็วิ่งไปไกลแล้ว อิงเถาได้แต่หลังน้ำตาออกมาอีกครั้งแล้ววิ่งกลับไปที่รถม้า

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 97

    ‘ข้าเคยพูดว่าเขาเป็นคนหน้าตาธรรมดาหรือ ข้าเคยพูดตอนไหนกันนะ’ นี่คือความคิดของฉางเจียหลังจากที่นางมอบถุงผ้าปักของตนเองให้สวีหย่วนเพื่อเป็นของแทนใจแต่กลับถูกเขาส่งคืนมาให้แถมยังบอกกับนางว่า“คุณหนูเคยเอ่ยกับข้าว่าข้าเป็นคนที่มีหน้าตาธรรมดา ดังนั้นคนที่มีหน้าตาธรรมดาเช่นข้าจึงไม่คู่ควรที่คุณหนูฉางจะมาช

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 96

    “จิ่นหลันเป็นถึงนายกองหญิงของทัพอู่ติ้ง ได้ยินมาว่าหลายปีมานี้นางคือกุนซือของกองทัพ หากนางคิดมากถึงเพียงนั้นเหตุใดจึงไม่คิดบ้างเล่าว่า ข้าไม่เคยทุ่มเทความสนใจของข้าให้กับสตรีอื่น และข้าก็เชื่อว่าลูกเหยียนของข้าคงจะไม่ต่างจากข้ามากนัก ส่วนลูกเยว่เจ้าไม่ต้องกังวล ขนาดข้ายังตกหลุมรักเจ้าได้ คงจะมีสักวั

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 95

    ซ่งเสวี่ยหรงและกัวไป๋จิ้งถูกตัดสินประหารชีวิตในวันเดียวกัน คนสกุลกัวทั้งสกุลพลอยติดร่างไปด้วย ส่วนคนอื่นๆ ในสกุลซ่งได้รับการอภัยโทษและถูกเนรเทศไปอยู่ชายแดนตลอดชีวิต หวังจื่อเถียนทนรับความลำบากไม่ไหวแขวนคอตนเองตายไปในที่สุด หลินเหม่ยเหยารับฟังเรื่องราวเหล่านี้ด้วยจิตใจอันว่างเปล่า บุญคุณความแค้นในชาต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status