นายท่านหยางจ้องมองหลินเหม่ยเหยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ คำพูดที่ว่าหากนางไม่ยั้งมือป่านนี้บุตรสาวของเขาคงจะตายไปแล้วทำให้เขารู้สึกโกรธเคือง เขาจึงได้เอ่ยต่อว่าหลินเหม่ยเหยาออกมาตามตรง
“คุณหนูใหญ่สกุลหลินคำพูดคำจาช่างโอหังเสียจริง ท่านรองหัวหน้าแพทย์หลวงหลินท่านดูบุตรสาวของท่านสิ ไร้มารยาทเช่นนี้วันหน้าจะมีสกุลใดอยากจะแต่งนางเข้าสกุลกัน” นายท่านหยางเอ่ยออกมาพลางจ้องมองหลินเหม่ยเหยาด้วยสายตาไม่ชอบใจ แต่หลินเหม่ยเหยากลับไม่ได้เกรงกลัวและไม่ได้ทำตัวเสียมารยาทนางย่อกายคารวะขออภัยด้วยท่วงท่าอันงดงามแล้วจึงได้เอ่ยตอบคำพูดของเขาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนน้อม
“ต้องขออภัยที่ล่วงเกินท่านหัวหน้าราชบัณฑิตหยางนะเจ้าคะ เพียงแต่คำพูดของข้าไม่ได้ตั้งใจจะข่มขู่หรือว่าแสดงความโอหัง แต่ข้าพูดตามความเป็นจริง ในยามปกติหากถูกทำร้ายข้าแค่โปรยยาพิษหรือไม่ก็ยาสลบก็สามารถเอาตัวรอดได้แล้ว แต่กับคุณหนูสามที่เคยเป็นสหาย ข้าลงมือทำร้ายนางไม่ลงหรอกเจ้าค่ะ แต่หากไม่ลงมือคนที่ถูกตบหน้าคงจะต้องเป็นข้าแน่ ถึงอย่างไรโทสะที่ถูกคุณหนูสามหมิ่นแคลนวงศ์สกุลก็ยังคงอยู่จึงได้ไม่คิดจะออมแรงที่ฝ่ามือเจ้าค่ะ” คำพูดของหลินเหม่ยเหยาทำให้นายท่านหยางพลันขมวดคิ้ว
“ดูหมิ่นวงศ์สกุลหรือ คุณหนูใหญ่หลินนี่เจ้ากำลังจะบอกว่าลูกสาวของข้าพูดจาล่วงเกินสกุลหลินของเจ้าเช่นนั้นหรือ เจ้ารู้ไหมว่าคำพูดประโยคนี้ของเจ้าถือว่าเป็นการให้ร้ายบุตรสาวของข้าอย่างรุนแรงเลยนะ” คำพูดของนายท่านหยางทำให้หลินเหม่ยเหยาพยักหน้า
“นางเอ่ยวาจาล่วงเกินข้าและสกุลหลินจริงๆ เจ้าค่ะ นางบอกว่าสาเหตุที่ข้าไม่สนใจคุณชายสกุลซ่งเป็นเพราะข้าและผู้อาวุโสในสกุลคิดรังเกียจที่นายท่านใหญ่สกุลซ่งยังเป็นแค่เพียงแพทย์หลวงธรรมดา ท่านหัวหน้าสำนักราชบัณฑิตเจ้าคะ ข้าเป็นแค่สตรีที่อยู่ในห้องหอจะกล้าไปติดตามสอบถามความเคลื่อนไหวของบุรุษผู้หนึ่งเฉกเช่นที่นางทำได้อย่างไร คุณหนูสามไม่เพียงรู้ว่ายามนี้คุณชายใหญ่ซ่งกลับเข้าเมืองหลวงมาแล้วยังรู้ด้วยว่านายท่านใหญ่ผู้เป็นบิดาของเขามีตำแหน่งใดอยู่ในสำนักแพทย์หลวงอีกด้วย ข้าที่พอจะคุ้นเคยกับคนในบ้านสกุลซ่งมาตั้งแต่เด็กยังไม่รู้เลยว่ายามนี้นายท่านใหญ่ซ่งดำรงตำแหน่งใดอยู่ในสำนักแพทย์หลวง” คำพูดของหลินเหม่ยเหยาทำให้หยางสุ่ยเซียนพลันตวาดออกมาในทันที
“หลินเหม่ยเหยา นี่เจ้ากล้าใส่ความข้าหรือ” คำพูดของหยางสุ่ยเซียนทำให้หลินเหม่ยเหยาเอ่ยออกมาในทันที
“เช่นนั้นเจ้าก็สาบานมาสิว่าเจ้าไม่ได้พูดกับข้าเช่นนี้ ไม่ได้พูดว่าคุณชายใหญ่สกุลซ่งกลับเข้าเมืองมาแล้ว เจ้ายังพูดอีกว่า ยามนี้ท่านพ่อของข้าได้เป็นถึงรองหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงแล้ว รอเพียงการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากสำนักราชวัง ท่านพ่อของข้าก็จะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงอย่างเป็นทางการแล้ว ในขณะที่นายท่านใหญ่สกุลซ่งกลับยังเป็นแค่เพียงแพทย์หลวงตำแหน่งธรรมดาสามัญทั่วไป ก็ไม่น่าประหลาดใจที่จวนสกุลหลินและข้าจะรังเกียจการหมั้นหมายในครั้งนี้” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพลางจ้องมองหยางสุ่ยเซียนด้วยสายตาท้าทาย สตรีผู้นี้มีความเชื่อเรื่องการบนบานศาลกล่าวย่อมไม่กล้าจะผิดคำสาบานแน่ แล้วก็เป็นอย่างที่นางคิดหยางสุ่ยเซียนมีสีหน้าอึดอัดและพลันส่ายหน้าปฏิเสธในทันที
“เซียนเอ๋อเจ้าก็รีบสาบานเลยสิว่าไม่ได้เอ่ยวาจาเช่นนั้นออกมา” เฉินอี๋เหนียงเอ่ยพลางพยายามหยิกหลังมือของบุตรสาว แต่หยางสุ่ยเซียนกลับส่ายหน้าให้มารดา ท่าทีเช่นนี้ของนางสามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าหลินเหม่ยเหยาพูดความจริง
“หยางสุ่ยเซียนคุกเข่าเดี๋ยวนี้” นายท่านหยางตวาดออกมา สายตาที่ใช้จ้องมองบุตรสาวคนที่สามเต็มไปด้วยความดุดัน
“น่าขายหน้านัก หยางสุ่ยเซียนเสียทีที่เจ้าเป็นบุตรสาวของข้าไม่เพียงทำตัวผิดจรรยาสตรีแถมยังกล้าทำให้ข้าต้องเสียหน้าต่อผู้อื่นด้วย” คำพูดของนายท่านหยางทำให้หยางสุ่ยเซียนต้องรีบคุกเข่าในทันที
“ท่านพ่อ ข้าผิดไปแล้ว” เด็กสาวอายุแค่เพียงสิบสี่ปีต่อให้มีความร้ายกาจมากเพียงใดแต่เมื่อถูกบิดาดุด่าเช่นนี้ย่อมไม่กล้าเสแสร้งและแสดงตนว่าเป็นผู้ถูกกระทำได้อีกต่อไป ท่าทียอมแพ้เช่นนี้ของบุตรสาวทำให้เฉินอี๋เหนียงเม้มปากแน่น แล้วรีบคุกเข่าลงข้างกายบุตรสาวของตนเองในทันที
“นายท่าน เซียนเอ๋อยังเด็ก...” เฉินอี๋เหนียงยังไม่ทันเอ่ยจบประโยคก็ถูกคำว่า “หุบปาก” ของนายท่านหยางทำให้เฉินอี๋เหนียงไม่กล้าเอ่ยวาจาออกมาได้อีก นางเม้มปากแน่นแล้วรีบก้มหน้าลงเพื่อปิดบังความไม่พอใจในแววตาของตนเองในทันที
“ท่านรองหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงเป็นข้าที่ผิดต่อท่านและบุตรสาวของท่าน เชิญท่านนั่งก่อนเถิด” น้ำเสียงที่แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเดียวของนายท่านหยางทำให้หลินเจวี๋ยพลันยิ้มออกมาอย่างเย็นชา แต่ถึงอย่างไรตนและบุตรสาวก็ยังอยู่ภายในจวนของผู้อื่น อีกทั้งผู้อื่นยังมีบุตรสาวดำรงตำแหน่งกุ้ยเฟยในรัชกาลปัจจุบันอีกมีหรือที่เขาจะกล้าแตกหักกับอีกฝ่าย
“ไม่ต้องรู้สึกผิดอันใดหรอก ข้าก็แค่พาบุตรสาวมาแก้ต่างที่จวนแห่งนี้ด้วยตนเอง ยามนี้ในเมื่อท่านเห็นแล้วว่าเป็นผู้ใดที่เป็นคนทำผิด ข้ากับบุตรสาวก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ หวังเพียงว่าต่อไปท่านก็อย่าให้บุตรสาวของท่านไปที่จวนของข้าอีกเลย ข้าทนให้เด็กสาวที่ไม่รู้จักรักษาจรรยาและมารยาทผู้นี้เข้าจวนสกุลหลินไม่ได้จริงๆ หวังว่าท่านหัวหน้าสำนักราชบัณฑิตจะเข้าใจข้านะ” คำพูดของหลินเจวี๋ยทำให้สีหน้าของนายท่านหยางพลันซีดเผือด ส่วนสีหน้าของหยางสุ่ยเซียนและเฉินอี๋เหนียงยามนี้ไร้สีเลือดไปแล้ว ถ้อยคำตำหนิเช่นนี้ของหลินเจวี๋ยหากแพร่พลายออกไปด้านนอกหยางสุ่ยเซียนก็ยากที่จะได้หมั้นหมายและได้แต่งเข้าจวนสกุลขุนนางในเมืองหลวงแล้ว
“ท่านหัวหน้าสำนักราชบัณฑิต หยางฮูหยิน ข้ากับลูกสาวคงต้องขอตัวแล้ว” หลินเจวี๋ยเอ่ยออกมาอีกครั้งแล้วจึงได้คารวะอำลาโดยมีหลินเหม่ยเหยาและคนของนางที่ติดตามมาด้วยคารวะอำลาอยู่ทางด้านหลัง
“ต้องขออภัยต่อท่านด้วย บุตรสาวของข้ายังเด็กจึงได้ทำเรื่องไร้หัวคิดเช่นนี้ ข้าขอรับรองว่าวันหน้าจะไม่ปล่อยให้นางไปรบกวนพวกท่านอีก” เมื่อนายท่านหยางเอ่ยเช่นนี้หลินเจวี๋ยก็พลันยิ้มออกมาแล้วจึงได้พาบุตรสาวออกจากจวนสกุลหยางไปโดยไม่ได้เอ่ยอันใดออกมาอีก ทิ้งให้นายท่านหยางหันไปจ้องมองบุตรสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง
“ฮูหยิน ในเมื่อพวกนางสองแม่ลูกไม่รู้จักดีชั่ว เจ้าก็จงส่งพวกนางไปรอรับโทษที่หอลงทัณฑ์ก็แล้วกันอีกทั้งอย่าลืมหาตำราสอนจรรยาและจริยธรรมให้พวกนางคัดคนละห้าสิบจบ เมื่อครบถ้วนเมื่อไหร่จึงค่อยปล่อยพวกนางออกมา” คำสั่งของนายท่านหยางทำให้สวีเยียนรีบรับคำในทันที
“ท่านพี่โปรดวางใจ ข้าจะดูแลพวกนางอย่างดีเลยทีเดียว” คำพูดของสวีเยียนเต็มไปด้วยความสาแก่ใจทำให้สองแม่ลูกจากเรือนทิศตะวันออกพลันเนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดหวั่นในทันที
เรื่องที่เกิดขึ้นในโถงกลางของจวนสกุลหยางถูกนำไปถ่ายทอดให้หยางเจี้ยนได้ฟังอย่างไม่มีตกหล่นเลยสักคำ ทำให้เขาที่กำลังจ้องมองขวดยาของหลินเหม่ยเหยาพลันยิ้มออกมาในทันที แล้วจึงได้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสนใจ
“ไม่เลว! มารดาเลี้ยงของข้าต่อกรกับพวกนางสองแม่ลูกมาตั้งนานหลายปี หากข้ากับน้องหญิงไม่ออกหน้าช่วยก็ไม่มีเลยสักครั้งที่นางจะเป็นฝ่ายชนะ แต่หลินเหม่ยเหยาผู้นี้กลับไม่ใช่แค่เพียงทำให้เฉินอี๋เหนียงและน้องสามถูกลงโทษได้ แต่ยังทำให้ชื่อเสียงของน้องสามต้องมัวหมองไปตลอดชีวิตอีกด้วย เด็กสาวผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย” หยางเจี้ยนเอ่ยชื่นชมหลินเหม่ยเหยาออกมาพลางจ้องมองขวดยาสลบที่ได้รับจากหลินเหม่ยเหยาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ