"กลับไปซะ ไว้ถ้ามีเวลาฉันจะเป็นคนเรียกหาเธอเอง!" ปึก~ ธนบัตรแบงก์สีเทาปึกใหญ่ถูกฟาดลงบนโต๊ะอย่างแรงหลังจากที่ถ้อยคำแสนร้ายกาจนั้นหลุดออกมาหยาดน้ำใสๆ หล่อเลี้ยงอยู่บนหน่วยตากลมสวยอัตโนมัติ มือบางบีบกำเข้าหากันแน่น โกรธมากกว่าการถูกดูถูกแบบซึ่งๆ หน้า คือการโกรธตัวเองที่ดันไปหวั่นไหวแค่คำพูดห่วยๆ ของผู้ชายที่รวยและเอาแต่ใจ ทำไมเธอถึงเจ็บแบบนี้ ใจเจ้ากรรมมันไม่รักดี"มองทำไม รับเงินแล้วไสหัวไปซะ!" "...""อย่ามาทำตัวมารยาด้วยการไม่รับเงินล่ะ เพราะมันไม่ใช่วิสัยที่ผู้หญิงหิวเงินแบบเธอควรทำ" [ ฮันนี่ ฟังแม่นะลูก การผูกพันและการรู้สึกับใครสักคนมากเกินไปมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่หรอก ] 'แม่คะ คิดว่าหนูรักออสตินมากกว่าตัวหนูเองงั้นเหรอคะ?'[ ใครจะไปรู้ล่ะคะลูกสาว รู้แค่ว่าแม่มีหนูคนเดียว ชีวิตของพวกเราที่มันเคยพังยับเยินมาแล้วมันทำให้แม่รู้สึกกลัวมาก ถ้าไม่มีหนูแม่อยู่ไม่ได้ การที่แม่ต้องทนเห็นลูกเจ็บและเสียใจแม่ก็คงทนไม่ได้เหมือนกัน ฮันนี่จำไว้เลยนะลูก ] บนสนทนาระหว่างเธอและมารดาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาประเดประดังเขามาในหูอีกครั้งความรักและความหวังดีเพียงหนึ่งเดียวมีแค่จากแม่นะฮันนี่
"คืนนี้คุณจะให้ฉันนอนที่นี่เหรอ" ฮันนี่ตั้งคำถามในตอนที่วางสายจากมารดาแล้วเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งสีหน้าของออสตินเครียดลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เธอค่อนข้างแน่ใจว่าเธอไม่ได้คิดมากไปเอง"อืม" เสียงขานรับดังขึ้นเบาๆ มาเฟียหนุ่มจรดแก้วเครื่องดื่มที่ริมฝีปาก ตามด้วยการกระดกน้ำที่อยู่ในแก้วผ่านลำคอไม่มีคำพูดใดต่อจากนั้น ฮันนี่เลยคิดเอาเองว่าเธอไม่ควรถามว่าเขาเครียดเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า เชื่อว่าหากเขาอยากพูด เขาก็คงจะพูดออกมาเอง"...เพื่อนสนิทของเธอที่อยู่คณะเดียวกัน มีหลายคนรึเปล่า" "เพื่อนฉันเหรอ ถามทำไมอ่ะ?""ฉันมีสิทธิ์รู้ไม่ใช่เหรอว่าเธอที่เป็นผู้หญิงของฉันมีเพื่อนเยอะแค่ไหน บอกตรงๆ ว่าเหตุการณ์ในวันนี้ฉันไม่โอเคเท่าไหร่หรอกนะ""ฉันก็บอกไปแล้วนี่คะว่าโบ้เป็นเพื่อนเก่า แล้วเขาก็ไม่ได้ชอบผู้หญิง" "สรุป ใครบ้างที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ" ออสตินถามจริงจัง ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในหน่วยตาสวยคล้ายกำลังกดดันให้ตอบ "เพื่อนที่มอ. มีไม่กี่คนหรอก ที่สนิทจริงๆ ชื่อโมจิ คุณก็เคยเห็นแล้วนี่" "นอกเหนือจากนั้นมีรึเปล่า" "คุณหมายถึงใคร ถ้าคุณมีคนที่เจาะจงอยู่แล้วคุณถามออกมาตรงๆ เลยก็ได้นะ" เ
"เรื่องนี้ผมจัดการเองได้" [ ลุงไม่อยากยุ่งนะออสติน แต่เรื่องนี้มันทำให้แม่ของเธอไม่สบายใจ ลุงปล่อยผ่านไม่ได้เหมือนกัน ] ออสตินกระแทกลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายคนของซานย์ทำงานได้ดีทีเดียว หมอนั่นรู้แม้ตอนที่เขาและอาเธอร์นัดเจอกัน จริงๆ การที่ซาเฟียร์ซึ่งเป็นน้องสาวของซานย์นัดเจอเขา มันก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าฝ่ายนั้นรับรู้ทุกอย่าง แต่เขาคาดไม่ถึงว่าจะโดนเอาคืนโดนทั้งที่เขาไม่ได้ช่วยเหลืออาเธอร์ด้วยซ้ำไป[ ถึงยังไงซะซาเฟียร์และซานย์ก็เป็นลูกของลุง ต่อให้ลุงกับพวกเขาจะไม่ลงรอยกัน นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าลุงจะทิ้งลูกได้ลง หวังว่าเธอจะไม่ทำให้ลุงผิดหวังนะออสติน ] เฮเลน สามีใหม่ของแม่เป็นคนมีเหตุผลเสมอ เชื่อว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน[ กลับอังกฤษซะ เร็วที่สุดได้ยิ่งดี ] อาชาลอบมองผู้เป็นเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง สีหน้าที่ไม่สบอารมณ์บอกถึงสถานการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีเพนต์เฮาส์ของออสตินฮันนี่วางกระเป๋าสะพายข้างลงบนโต๊ะกระจกภายในห้องพักหรู ภายในห้องถูกปกคลุมได้ด้วยไอความเย็นของเครื่องปรับอากาศที่ถูกสั่งงานไว้แล้วในระหว่างการเดินทางฮันนี่เดินเข้าไปในห้องน้ำ หากคืนนี้เขาจะไม่ปล
MICHAEL CLUB "พักนี้คออ่อนนะเรา" โบ้เอ่ยกับเพื่อนสาวเมื่อเห็นว่าฮันนี่คอเริ่มพับ นั่งไม่ค่อยจะนิ่งสภาพเป็นแบบนี้ก็เห็นว่าถูกแล้วแหละ เพราะตั้งแต่เข้ามา ฮันนี่ก็กระดกไม่ขาดปาก แตกต่างจากชายหนุ่มอีกคนที่สภาพยังคงเป๊ะปัง เหล้าไม่สามารถทำปฏิกิริยาต่อเขาได้เลย"นี่ๆ ดื่มเยอะไปปะ" "กินๆ ไปเถอะน่า มื้อนี้มีคนจ่าย ใช่ไหมคะดาร์ลิ่ง" ฮันนี่บิดยิ้มขณะวางใบหน้าซบลงบนท่อนแขนแกร่งมาเฟียหนุ่มเพียงแต่ปรายตามอง ไม่ตอบโต้สิ่งใดกลับมาเป็นคำตอบได้ว่าเรื่องค่าใช้จ่ายวันนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน"นายครับ" อาชาโผล่เข้ามาจากทางด้านหลัง แว๊บนึงที่เหลือบตามองผู้หญิงของนาย จากนั้นก็กระซิบกระซาบลงไปฮันนี่ไม่ได้ยินว่าอาชากระซิบอะไรลงไป ได้ยินเพียงคำตอบจากริมฝีปากหยักได้รูปที่เอื้อนเอ่ยออกมา"ช่างหัวมัน เงินแค่ไม่กี่บาท กูไม่แคร์!" อาชาพยักหน้าลงเบาๆ จากนั้นก็หมุนตัวกลับออกไปตามเดิม"บ้านคุณคงรวยมากเลยสินะ" ฮันนี่หรี่ตามองไปทั่วโครงหน้าหล่อเหลาให้ตายเถอะ เขาหาที่ติไม่ได้เลยบ้าชะมัด!กลิ่นบนตัวเขานี่ก็ไม่รู้จะหอมไปไหน บางครั้งก็นึกอยากดมแบบนี้นานๆ"บ้านคุณทำธุรกิจอะไรบ้างอ่ะ" "ถามทำไม" "ฉันก็อยากรู้น่ะสิว่าคุณจะม
"...ทานเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวมื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง" ฮันนี่ดูสดใสตั้งแต่ตอนที่ออกมาจากห้องทำสวยแล้ว หลังจากที่ทำธุระที่คลีนิคจนเสร็จสรรพ เธอก็เลือกที่จะชวนคนตัวโตมาหยุดอยู่ที่ร้านอาหาร"ไม่งกแล้วเหรอ" ฮันนี่ทำตาโตเมื่อถูกยอกย้อน แต่ความอารมณ์ดีที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกระตุ้นให้เธอระบายรอยยิ้มออกมา"คุณหักเลยนะ ค่าอาหารเท่าไหร่ก็หักจากเงินสองหมื่นที่วันนี้ฉันต้องได้ เหลือเท่าไหร่คุณก็เคลียร์มาก็แล้วกัน" "เหอะ!" พอได้ยินแบบนั้นออสตินเค้นเสียงหัวเราะออกมาทันทีเท่าที่เห็น ฮันนี่จะไม่ยอมให้เงินเล็ดลอดออกมาจากกระเป๋าของเธอเลยติ๊ง~ เสียงการแจ้งเตือนบนโทรศัพท์มือถือส่งผลให้ฮันนี่ปลดล็อกหน้าจอตามด้วยการสอดส่องหาความเคลื่อนไหว พบเป็นการแจ้งเตือนเงินเข้า ตัวเลขกลมๆ สองหมื่นบาท เธอรู้ทันทีว่าเงินนี้มีที่มาที่ไปยังไง"ฉันให้คุณหักค่าอาหารก่อน" "เก็บเงินอันน้อยนิดของเธอเอาไว้เถอะ ข้าวที่ฉันกินฉันมีปัญญาจ่ายเอง" "รู้ค่ะว่าคุณมีปัญญาจ่ายเอง แต่ฉันก็แค่แสดงความมีน้ำใจที่คุณอุตส่าห์ไปนั่งรอฉันตั้งนานไง" "อะไรที่ฉันอยากทำฉันจะทำเอง" ฮันนี่นิ่งไปเล็กน้อย มือที่ประคองโทรศัพท์เผลอบีบเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว
"...เข้าไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ" ฮันนี่เปิดประเด็นเมื่อรถหรูเลื่อนเข้ามาจอดหน้าคลีนิคซึ่งเป็นที่ที่เธอเลือกเอง"ฉันพามาแล้ว อย่าร้องขอให้มันมาก" ฮันนี่รั้งสายกระเป๋าขึ้นมาคล้องบ่า มุมปากผุดรอยยิ้มจางๆ ในยามที่เห็นนาฬิกาเรือนหรูประดับบนข้อมือ คิดอยู่แล้วว่าคนอย่างเขาจะต้องตอบแบบนี้กลับมา"ไหนๆ ก็พามาแล้ว จะเดินเข้าไปด้านในด้วยกันมันก็คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง" "ฉันจะรอที่นี่" ออสตินหันกลับมาสนใจโทรศัพท์ในมือต่อ อาชาที่เป็นพลขับยังคงเงียบอยู่แบบนั้น ไม่แสดงความคิดเห็นและไม่ก้าวก่ายสิ่งใดกลับมา"คุณ...พาไปหน่อย" "คนที่จะฉีดยาคุมคือเธอ" "แต่คนที่ต้องจ่ายเงินค่าฉีดคือคุณ" "นี่เธอ มันจะกี่บาทกันวะ จะงกอะไรนักหนา" "ถ้าคุณจะให้ฉันลงไปฉีดเองคุณก็เอาเงินมาให้ฉัน แล้วที่เหลือฉันจะจัดการเอง ไม่เยอะหรอก ขอห้าพัน" ฮันนี่แบมือขอ แน่นอนว่าเธอเอาจริง"ฉันให้ห้าร้อย" "ห๊ะ! ห้าร้อยนี่นะ คนระดับอย่างคุณไม่พกหรอกแบงก์สีม่วงอ่ะ อย่างน้อยๆ ในกระเป๋าก็ต้องมีแต่แบงค์สีเทาสิ" "ห้าร้อยฉันก็มี อาชา" มาเฟียหนุ่มหันหาลูกน้องคนสนิท อาชารีบยื่นธนบัตรแบงก์ห้าร้อยให้กับผู้เป็นเจ้านายทันที"ห้าร้อย ฉันให้แค่นี้ ดีไม่