ฝันดีเป็นคนที่ค่อนข้างซีเรียสเรื่องเงินนิดหนึ่ง กว่าเธอจะตัดสินใจซื้ออะไรได้แต่ละอย่างก็โดนใยไหมขยั้นขยออยู่หลายครั้ง เมื่อมานั่งคำนวณรายจ่ายในแต่ละเดือน หักค่ารถค่าบ้านค่าอะไรไปหมดแล้วเธอยังเหลือใช้เหลือกิน นั่นจึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะออกมันในที่สุด
เมื่อทั้งสองมายืนรอรถอยู่หน้าบริษัทได้ครู่หนึ่งรถแท็กซี่ก็ขับมาจอดอยู่ตรงหน้า พวกเธอพากันขึ้นไปนั่งก่อนจะบอกสถานที่แก่โชเฟอร์ "ดีนะฉันมีชุดมาเปลี่ยน" ใยไหมพูดขึ้น "ปกติเธอก็เป็นคนแต่งตัวแซ่บอยู่แล้วป่ะ" ไม่จำเป็นต้องหาชุดมาเปลี่ยนเพื่อนเธอก็สวยได้ "แซ่บแล้วยังไง ชุดทำงานกับชุดเที่ยวจะใส่รวมกันไม่ได้นะจ๊ะสาวน้อย" "เวลาทำงานนี้จะเป็นจะตายกันนะ ถึงเวลาเที่ยวนี่ดี๊ด๊ากันจังเลย" "แน่นอน" "ฟ้าก็ช่างส่งเราสองคนมาเจอกัน" "คนสวยกับคนสวยมันก็ต้องคู่กันอยู่แล้ว" ไม่นานสองสาวก็มาถึงร้าน ฝันดีทำการจ่ายค่าโดยสารไปก่อนจะลงจากรถตามเพื่อนสาวไป ทั้งคู่ยืนนิ่งมองเหล่าบอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าประตูทางเข้าร้าน ทำใบหน้าสวยหันมองหน้ากันทันทีก่อนจะกระตุกยิ้มแล้วจูงมือกันเดินเข้าไปยังด้านใน "บัตรค่ะ" ใยไหมยื่นบัตรตัวเองแล้วก็ของฝันดีให้กับชายชุดดำนำไปตรวจดู เมื่อตรวจเสร็จการ์ดก็คือบัตรให้พร้อมกับปล่อยให้ทั้งสองเข้าไปด้านใน "เชิญครับ" เมื่อผ่านด่านเข้ามาในร้านได้ก็พบกับความอลังการ มองข้างนอกยังดูธรรมดา พอเข้ามาด้านในมันกลับหรูหราดูไม่เหมาะสมกับพวกเธอสองคนยังไงไม่รู้ "นี่เราเที่ยวผับหรูกันขนาดนี้เลยเหรอ" ฝันดีกวาดตามองไปทั่วร้าน มันใหญ่และอลังการกว่าที่เธอคิดไว้อีกนะเนี่ย "ฉันเห็นในรีวิวน่ะ แต่ดูในรีวิวมันยังไม่เท่าไหร่พอมาเจอของจริงแอบตกใจเหมือนกันนะ ฉันไม่คิดว่ามันจะหรูหราขนาดนี้" "นั่นน่ะสิ หรือเราจะเปลี่ยนใจกันกลับไหม" "ได้ไง เรามาถึงขนาดนี้แล้วนะเราต้องสู้ให้ถึงที่สุดสิ อีกอย่างเราก็ไม่ได้เที่ยวทุกวันสักหน่อย ถือว่ามาผ่อนคลายให้กับชีวิตตัวเองจะเป็นไรไป ถ้ามัวแต่คิดชาตินี้ไม่ได้เที่ยวนะยะบอกไว้ก่อน" "งั้นจะรออะไรล่ะ หาโต๊ะนั่งสิ" “มันต้องแบบนี้สิเพื่อนฉัน” "สวัสดีครับกี่ท่านครับ" "2 ค่ะ" ใยไหมตอบพนักการที่เข้ามาบริการพวกเอ "เป็นโต๊ะไหนดีครับหรือว่ามีจองไว้แล้ว" "เป็นโซนธรรมดาก็พอค่ะไม่ต้องถึงขั้น VIP" เพราะเธออยากซึมซับ บรรยากาศให้เต็มที่ ในเมื่อมาเที่ยวสถานที่แบบนี้จะไปนั่งในห้อง VIP คุยกันแค่สองคนทำไม เราต้องนั่งมองอาหารตาที่มันทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานในแต่ละวันสิ เห็นเธอเป็นผู้หญิงแรง ๆ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าพวกเธอไม่เคยผ่านมือผู้ชายเลยสักคน พอมีคนเข้าหาจริง ๆ พวกเธอกลับไม่สนใจ "รับเป็นอะไรดีครับเครื่องดื่ม" "เอาตัวที่เขาฮิต ๆ กันเลยค่ะ" "ได้ครับรอสักครู่นะครับ" "พนักงานที่นี่งานดีมากแก" หลังจากที่พนักงานออกไปใยไหมก็ก้มไปกระซิบกับเพื่อนสาวทันที เธอมองพนักงานเดินออกไปแววตาลุกวาว แค่พนักงานหุ่นก็อย่างกับนายแบบ แล้วเจ้าของผับล่ะ ชื่อเสียงเรื่องลือขนาดนั้นเธอชักอยากจะเห็นเจ้าของแล้วสิ เห็นเขาบอกว่าเป็นผู้ชายที่หล่อและรวยมากที่สำคัญคือ..ยังไม่มีแฟน เวลาที่ทั้งสองมาก็เกือบจะสองทุ่มแล้วเนื่องจากฝันดีเคลียร์งานเรทนิดหน่อย แต่ถือว่ามาเวลานี้กำลังดีจะได้ไม่ต้องกลับดึกมากอีกอย่างคนก็ยังไม่เยอะแม้พวกเธอจะชอบเที่ยวแต่ก็ใช่ว่าจะชอบความวุ่นวายขนาดนั้น เที่ยวได้แค่พอหอมปากหอมคอพอเบื่อก็กลับไม่ได้เที่ยวยันเช้า เหมือนอย่างที่คนเขาชอบเที่ยวกัน แต่ในระหว่างนั้นเอง.. "เอ๊ะนั่นมัน" ฝันดีเหมือนจะเห็นใครบางคนที่เธอรู้สึกคุ้นหน้าค่าตา คนตัวเล็กพยายามเพ่งมองให้ชัด แต่จังหวะที่เขาหันหน้ามา.. "เขาจริงด้วย.. แกเดี๋ยวฉันมานะ" "เดี๋ยวดิแกจะไปไหน" "รอฉันแป๊บหนึ่ง" ฝันดีฝากกระเป๋าไว้กับเพื่อนแล้วตรงดิ่งไปที่ผู้ชายคนนั้นทันที "คุณคะ" ร่างสูงที่กำลังยืนหันหลังคุยกับลูกน้องค่อย ๆ หันมามอง ยังเจ้าของเสียงเรียก ทันทีที่เห็นใบหน้าของเธอ เขาก็นิ่งชะงักไปพร้อมกับทำมือไล่ให้ลูกน้องออกไปก่อน "...." เงียบไม่ตอบทำเพียงมองมาที่เธอนิ่ง ๆ "คือว่า.." "มีอะไรก็รีบพูดมาฉันไม่ได้ว่าง" เขาแทรกขึ้นโดยที่สายตาก็ไม่ละไปจากใบหน้าคนตัวเล็ก "คุณมาเที่ยวเหรอคะ ถ้าเกิดคุณมาเที่ยวฉันขอเลี้ยงคุณแทนคำขอบคุณได้ไหมคะ ที่คุณช่วยฉันวันนั้น" เธอไม่อยากติดค้างบุญคุณกับใคร ในเมื่อเจอเขาแล้วคืนนี้ก็ถือว่าเลี้ยงแทนคำขอบคุณก็แล้วกัน "ไม่จำเป็น" เขาปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย "แต่ว่า.." "ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัว"อีกด้านทันทีที่ขึ้นมาบนห้อง ไมเนอร์รีบพาตัวเองไปยืนตรงระเบียงพร้อมกับแง้มม่านมองลงไปยังโต๊ะที่หญิงสาวนั่งอยู่ นั่นก็คือคนที่เข้ามาทักเขาก่อนหน้านี้ ทำไมเขาจะจำเธอไม่ได้ จำได้แม่นเลยแหละไมเนอร์ ชายหนุ่มอายุ 39 ปีเจ้าของความสูง 190 เซนติเมตร เขาเป็นเจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้ และยังเป็นเจ้าของสนามแข่งรถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทางด้านสถานะหัวใจตอนนี้ปิดสนิท ไม่เปิดรับให้ใครเข้ามา สำหรับผู้หญิงแล้วเขาให้ได้แค่ในฐานะคู่นอนเท่านั้น แล้วจะไม่มีกินรอบสองเด็ดขาด ส่วนเรื่องครอบครัวเขาขอไม่เปิดเผยก็แล้วกันเพราะไม่อยากพูดถึง รู้แค่ว่าครอบครัวของเขาตอนนี้มีแค่น้องชายก็พอแล้ว"นายครับ" อคิน ลูกน้องคนสนิทของไมเนอร์เข้ามาหาผู้เป็นนายหลังจากได้รับข้อความ"ไปเรียกเดซี่มาหากู" เขาสั่งโดยที่สายตายังจับจ้องไปยังหญิงสาว ทั้งสองที่นั่งอยู่โต๊ะโซนล่าง"ครับ"อคินออกไปแล้วทว่าไมเนอร์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม แต่ในจังหวะนั้นเอง.. ฝันดีดันเงยหน้าขึ้นมาทำให้เขารีบเอาตัวหลบอย่างไว ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานตัวเอง ที่เขาสั่งให้ลูกน้องไปเรียกเดซี่มาก็เพราะว่าเขามีบางอย่างที่อยากจะคุยกับอีกคน..“ค่ะคุณไ
ฝันดีเป็นคนที่ค่อนข้างซีเรียสเรื่องเงินนิดหนึ่ง กว่าเธอจะตัดสินใจซื้ออะไรได้แต่ละอย่างก็โดนใยไหมขยั้นขยออยู่หลายครั้ง เมื่อมานั่งคำนวณรายจ่ายในแต่ละเดือน หักค่ารถค่าบ้านค่าอะไรไปหมดแล้วเธอยังเหลือใช้เหลือกิน นั่นจึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะออกมันในที่สุดเมื่อทั้งสองมายืนรอรถอยู่หน้าบริษัทได้ครู่หนึ่งรถแท็กซี่ก็ขับมาจอดอยู่ตรงหน้า พวกเธอพากันขึ้นไปนั่งก่อนจะบอกสถานที่แก่โชเฟอร์"ดีนะฉันมีชุดมาเปลี่ยน" ใยไหมพูดขึ้น"ปกติเธอก็เป็นคนแต่งตัวแซ่บอยู่แล้วป่ะ" ไม่จำเป็นต้องหาชุดมาเปลี่ยนเพื่อนเธอก็สวยได้"แซ่บแล้วยังไง ชุดทำงานกับชุดเที่ยวจะใส่รวมกันไม่ได้นะจ๊ะสาวน้อย""เวลาทำงานนี้จะเป็นจะตายกันนะ ถึงเวลาเที่ยวนี่ดี๊ด๊ากันจังเลย""แน่นอน""ฟ้าก็ช่างส่งเราสองคนมาเจอกัน""คนสวยกับคนสวยมันก็ต้องคู่กันอยู่แล้ว"ไม่นานสองสาวก็มาถึงร้าน ฝันดีทำการจ่ายค่าโดยสารไปก่อนจะลงจากรถตามเพื่อนสาวไป ทั้งคู่ยืนนิ่งมองเหล่าบอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าประตูทางเข้าร้าน ทำใบหน้าสวยหันมองหน้ากันทันทีก่อนจะกระตุกยิ้มแล้วจูงมือกันเดินเข้าไปยังด้านใน"บัตรค่ะ" ใยไหมยื่นบัตรตัวเองแล้วก็ของฝันดีให้กับชายชุดดำนำไปตรวจดู เมื่อตรวจเ
“แม่”“ว่าไง”“วันนี้หนูทำโอทีอาจกลับดึกนะ” “ให้ไปรอรับไหม” เพราะมีกันแค่สองคน พวกเขาจึงดูสนิทมาก ฝันดีและแม่ของเธอจะเหมือนเพื่อนกันซะมากกว่า มีปัญหาหรือไม่สบายใจเธอมักจะมาปรึกษาแม่ตัวเองตลอด ทุกเรื่องเธอจะเล่าให้แม่ฟังหมด ผู้เป็นแม่เองก็ให้คำปรึกษาลูกสาวได้เป็นอย่างดีเช่นกัน“ไม่ต้องเลยนะ พักผ่อนไปเถอะฝันกลับเองได้”“ถ้ามีอะไรก็โทรมาแล้วกัน”“เค ฝันไปทำงานก่อนนะ”“อืม”บริษัทไอที“สวัสดีจ้าน้องฝัน”“มอนิ่งค่ะพี่น้อยหน่า” หญิงสาวส่งยิ้มทักทายรุ่นพี่ที่ทำงาน วันนี้ฝันดีรีบมาแต่เช้าเพื่อเคลียร์งานตัวเองให้เสร็จ จะได้ไม่กลับดึกมาก“ทำไมมาเช้าจังวันนี้”“รีบมาเคลียร์งานให้จบค่ะ”“ฮ่า ๆ เรานี่หน่า” เพื่อนที่ทำงานมักเรียกเธอว่าฝันเพียงสั้น ๆ หลังจากทักทายพี่น้อยหน่าหัวหน้าแผนกบัญชีเสร็จเธอก็ขึ้นไปยังชั้นทำงานของตัวเอง ทันทีที่ตูดถึงเก้าอี้ฝันดีก็เริ่มลงมือทำงานในส่วนของตัวเองทันที แต่ในขณะนั้นเอง..“ไงแสบ” เสียงทุ้มของใครบางคนทำใบหน้าสวยเงยขึ้นไปมอง“อ้าวคุณแผ่นดิน” ฝันดีระบายยิ้มให้ใครบางคนที่กำลังเดินตรงมาหาเธอ ก่อนที่ร่างสูงนั้นจะมาหยุดนิ่งข้างโต๊ะทำงานของเธอ“มาเช้านะ” เขามองไปรอบ ๆ ก็
“นายครับ”“มีใครมาก่อกวนไหม”“ไม่ครับ”“แล้วเดซี่ไปไหน เธอควรอยู่ดูแลโซนนี้ไม่ใช่เหรอ” ดวงตาคมกริบกวาดมองหาหญิงสาวที่ควรจะอยู่ประจำที่ตัวเอง ทว่ากลับไม่พบแม้เงาของเธอ“วันนี้คุณเดซี่ลาครับ”“แล้วใครมาแทน”“เด็กใหม่ครับ เห็นคุณเดซี่บอกว่าเป็นรุ่นน้อง”“แล้วเธออยู่ไหน”“ห้องวีไอพีสามครับ”“อืม” เขาพยักหน้าให้ลูกน้องก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องทำงานตัวเองที่อยู่ชั้นสี่ ชั้นบนสุด ระหว่างที่เดินสายตาก็คอยสอดส่องดูลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกันล้นหลาม ทว่าอยู่ ๆ ต้องหยุดชะลอเท้าที่กำลังก้าวเมื่อกำลังจะผ่านห้องวีไอพีสามไปแอดด“อยู่นิ่ง ๆ สิวะอีนี่”พรึ่บ!“ปล่อยฉันนะ!” ไม่รู้อะไรทำให้เขาเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่สิ่งที่ทำเขาชะงักไปนั่นก็คือภาพที่ผู้ชายสามคนกำลังช่วยกันกดขี่ข่มเหงผู้หญิงคนหนึ่ง ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามาเธอคนนั้นก็พุ่งตัวมาหลบหลังเขาทันที“พวกมึงทำอะไร” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเยือกเย็นแววตานิ่งน่ากลัว“พะ พวกผมไม่ได้ทำอะไรครับ” เพราะรู้ว่าคนตรงหน้านั้นน่ากลัวแค่ไหน ทำให้ทั้งสามไม่กล้าที่จะต่อกลอนด้วย“แล้วที่กูเห็นนี่คืออะไร” ถ้าปฏิเสธถือว่าหน้าตัวเมียมาก ภาพมันฟ้องขนาดนี้แล้วว่าพวกมันกำ