เสียงกระแทกประตูดังสนั่น ประตูสั่นไปทั้งบาน เหล่าทหารเตรียมอาวุธพร้อมที่จะต่อสู้กับสิ่งที่กำลังจะพังประตูเข้ามา ชายร่างสูงใหญ่ผมดำสวมหมวกปีกสีน้ำตาล ไว้หนวดเคราถูกจัดแต่งอย่างดี สวมเกราะสีฟ้า ที่อกมีรูปดอกกุหลาบสีม่วง ถือดาบอยู่ เป็นดาบเล่มเล็กบาง ด้ามจับมีที่ปกป้องกันนิ้ว แขนซ้ายสวมถุงมือหนา เป็นผู้นำกองทัพ ข้าง ๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งผมยาวสีแดง รูปร่างเล็กแต่ดูแข็งแรง รัดผมเป็นหางม้า เธอมีดวงตาสีดำเป็นประกาย หน้าตาจัดว่าสวย เธอถือธนูเล็งเป้าหมาย ด้านหลังของเธอมีเด็กหญิงวัยสิบขวบคนหนึ่ง รูปร่างเล็กไว้ผมยาวสีดำถักเป็นเปียหลายเส้นแอบอยู่ข้างหลังหญิงสาว เธอตัวสั่นด้วยความกลัวน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด เหล่าทหารเริ่มมือสั่นเทาด้วยความกลัว ถ้าประตูบานนี้พังเมื่อใดชีวิตของทุกคนก็คงจะจบสิ้น ความหวังของทุกคนอยู่ที่กลุ่มคนเจ็ดคนกำลัง ยืนล้อมวงร่ายคาถา
ชายคนแรก สวมชุดขาวผิวสีแทนไว้ผมยาวและหนวดเคราหงอกขาวราวกับหิมะ ดวงตาสีขาวขุ่นทำให้รู้ว่าตาของเขาบอด มือข้างหนึ่งถือไม้เท้ายาวติด อัญมณีสีเขียว
อีกคนใส่ชุดสีดำสวมหมวกทรงสูง ไว้หนวด ถือไม้พลองสั้นสีขาวดำ
อีกคนเป็นชายหัวโล้น ไว้หนวดเคราสวมชุดสีแดงดำ มีดวงตาสีแดง ถือไม้เท้าที่มีไฟลุก
อีกคนเป็นชายร่างสูงสวมหมวกปลายแหลม ติดรูปมังกรถือไม้คทายาว เขาสัตว์ติดอยู่บนยอด มืออีกข้างถือโล่รูปวงรี
อีกคนเป็นชายไว้หนวดเครายาวที่ขาวหงอกเหมือนคนแรก แต่เขาสวมหมวกสีเทา ใส่ชุดสีฟ้า ถือ คทาที่ประดับอัญมณีสีฟ้าที่ปลาย
อีกคนสวมเสื้อน้ำเงินเข้มเก่า ๆ มีหมวกคุมไว้ แต่เห็นว่าเขาไว้หนวด สีดำ ดวงตาสีแดง
ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม เธอสวมชุดกระโปรงสีดำ สวมหมวกยอดแหลมสีดำ หน้าเธอจัดว่าสวย ผมยาวสีดำเป็นเงา แต่ว่าเธอทาหน้าเป็นสีเขียว ทุกคนกำลังร่ายคาถา มันเป็นเหตุการณ์ที่ตึงเครียด เพราะตอนนี้ความหวังในการมีชีวิตรอดของทุกคนอยู่ที่คนทั้งเจ็ด ทำให้เหงื่อไหลออกมาราวกับอาบ ชิ้นส่วนประตูเริ่มหลุดออกมาแล้ว เป็นสัญญาณว่าประตูบานนี้ต้านการโจมตีไม่ไหวแล้ว
“จะทำอะไรก็รีบทำเข้าเถอะ พวกข้าจะต้านไม่ไหวแล้ว” ผู้นำทหารตะโกนบอก แต่กลุ่มคนไม่ยอมตอบ การร่ายคาถานี้ใช้สมาธิมาก เกิดแสงสว่างวาบขึ้นมา
“สำเร็จแล้ว” เสียงของชายตาบอดพูดขึ้นมา
เมื่อแสงสว่างหายไป ก็ปรากฎร่างของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมคาย ผมยาวยุ่ง คิ้วเข้ม สวมเสื้อสีขาวเปื้อนเลือด เขาเอามือคล้ำรอบคอและทำท่าตกใจ มองไปรอบตัวราวกับทุกอย่างดูเป็นของใหม่ กลุ่มคนทั้งเจ็ดมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ
“ที่นี่ไหน ข้ามาอยู่นี่ได้ไงกัน” เขาถามเป็นภาษาจีน ไม่ใครฟังเข้าใจ ชายตาบอดรีบถามเป็นภาษาอังกฤษว่า
“เจ้าเป็นใคร” แต่เขาทำหน้างง เพราะไม่เข้าใจภาษาที่ได้ยิน ประตูเริ่มต้านไม่อยู่แล้ว ชายหนุ่มหันไปมอง เขารู้ได้ทันทีว่า กำลังจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นจึงรีบลุกขึ้นมา
“ท่านวีโต้ นี่ท่านอัญเชิญอะไรมา ทำไมมันดูโง่เช่นนี้” ผู้นำทหารร้องถามชายตาบอดหรือนามว่าวีโต้ ประตูต้านไม่อยู่พังไม่มีชิ้นดี เหล่าสัตว์ประหลาดบุกเข้ามา พวกมันทุกตัวมีหัวเป็นวัว ร่างเป็นคนถืออาวุธเป็นขวาน กระบอง หัวหน้าของมันมีสองตัว ตัวแรกมีร่างเป็นน้ำตาล รูปร่างใหญ่กว่าทุกตัวถือต้นเสาขนาดยักษ์ อีกตัวเป็นร่างเป็นขาว สวมเกราะสีดำถือลูกตุ้มติดโซ่ ชายหนุ่มตกตะลึงเพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
“จัดการมัน ฮาวูนน้องชายข้า” เจ้าตัวสวมเกราะออกคำสั่ง เจ้าตัวใหญ่คำราม และฟาดเสาอย่างรุนแรงกองกำลังทหาร ต่างแตกกระจาย คนที่สวมเสื้อสีน้ำเงิน ร่ายมนต์และยิงไฟออกมา เจ้าฮาวูนกลับไม่เป็นอะไร และมันเข้าโจมตี กลุ่มคนทั้งเจ็ด
“ทำไมท่านไม่ใช้เวทมนต์ที่รุนแรงกว่านี้” ผู้นำทหารร้องถาม
“ไม่ได้เจ้าชายโฮเซ่ พวกเราใช้พลังไปมากกับคาถาอัญเชิญ” วีโต้ตอบ ผู้นำทหารหรือชื่อโฮเซ่ หันมองชายหนุ่มด้วยดวงสายตาไม่พอใจ เขาไม่ว่าคิดเลยว่าคาถาของกลุ่มคนทั้งเจ็ดจะพลาดเลยตะโกนขึ้นมา
“ไอ้โง่ !” แม้จะฟังไม่เข้าใจแต่ชายหนุ่มรู้สึกว่าไม่ชอบน้ำเสียงแบบนี้ เลยลุกพรวดขึ้นมา เหล่าสัตว์ประหลาดกำลังจะเข้าโจมตี เขารวมพลังไปที่เท้ายกเท้าขึ้นและกระทืบลงไปอย่างแรง
“กระทบปฐพี ”
เกิดแรงสั่นสะเทือน เหล่าสัตว์ประหลาดล้มลงไป ผู้ชายท่าทางง ๆ คนหนึ่งกลับมีพลังประหลาดแบบนี้ เขาเห็นหอกตกอยู่เลยรีบไปเก็บขึ้นมาและเข้าต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาด พอได้จับอาวุธเขากลับใช้มันได้อย่างคล่องแคล้วราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย พวกสัตว์ประหลาดล้มตายราวกับใบไม้ร่วง แต่ว่าอาวุธที่ใช้นั้นไม่แข็งแรงพอ ไม่นานมันก็หักคามือของเขา เจ้าสัตว์ประหลาดยังคงโจมตีไม่อยู่ ชายหนุ่มหยิบอาวุธใหม่คราวนี้เป็นดาบ เขาฟาดฟันไปอย่างรวดเร็วได้สังหารเหล่าสัตว์ประหลาดได้หลายตัว เจ้าตัวสวมเกราะเห็นลูกน้องถูกฆ่าจึงบอกกับ เจ้าฮาวูนว่า
“ฆ่ามันเดี๋ยวนี้เลย”
ต้นเสาถูกฟาดมาเต็มแรง เหล่าทหารถูกสังหารไปจำนวนมาก มันฟาดมา แต่ชายหนุ่มกระโดดสูงและไปยืนบนเสา ฮาวูนเหวี่ยงเสาอย่างแรงแต่เขากระโดดตัวลอย ไปยืนบนเสาอีกครั้ง รวมพลังไปที่เท้า
“กระทบปฐพี ”กระทืบลงไปเสาแตกเป็นชิ้น ๆ ฮาวูนไม่มีอาวุธแล้ว มันยังไม่ทันได้ตั้งตัว ชายหนุ่มแทงดาบเข้าไปปักที่หน้าของมันเต็ม ๆ ฮาวูนร้องลั่น ความเจ็บปวดแบบนี้ที่ไม่เคยเจอมาก่อนทำให้ฮาวูนวิ่งหนีออกไป เจ้าตัวที่สวมเกราะเห็นท่าไม่ดีเลยต้องสั่งให้ทหารถอยทัพ พวกสัตว์ประหลาดหนีไปหมด ทิ้งให้ทุกคนตกตะลึงไม่คิดเลยว่าเจ้าคนแปลกหน้าที่พูดจาไม่รู้เรื่องจัดการสัตว์ประหลาดพวกนี้ได้
“เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงจัดการ มิโนทอร์[1]ได้” โฮเซอร์ถามเป็นภาษาอังกฤษ แต่เขาไม่รู้เรื่องเลยถามกลับไปว่า
“เจ้าพูดอะไรข้าฟังไม่รู้เรื่อง” ภาษาที่เขาพูดนั้นเป็นภาษาจีน การพูดกันคนละภาษาแบบนี้เป็นเรื่องที่ชวนให้หงุดหงิด โฮเซ่กำดาบแน่นแล้วบอกว่า
“นี่ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง เจ้าเจ็บตัวแน่” ชายหนุ่มเห็นโฮเซ่จับดาบก็รู้ได้เลยว่าคนตรงหน้าต้องการจะมีเรื่องกับเขาแน่ เลยตั้งท่าเตรียมพร้อม วีโต้เห็นท่าไม่ดีเลยรีบร้องห้าม
“เดี๋ยวก่อนเจ้าชาย ข้าคิดว่าเขาฟังภาษาเราไม่ออก อย่าเพิ่งมีเรื่องกัน ธีโอดอร์ จัดการได้มั้ย” วีโต้พูดขึ้น หญิงสาวที่ทาหน้าสีเขียว หรือ ที่มีชื่อว่า ธีโอดอร์ ถอดสร้อยคอออกมา มันเป็นสร้อยสีเงินมีจี้รูปเหรียญสีทองมีทับทิมสีแดงประดับอยู่ เธอเดินเข้ามาหาเขา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงและไม่มีอาวุธจึงคลายความระวังตัวลง เธอส่งสร้อยให้เขา
..........
[1] มิโนทอร์ สัตว์ประหลาดจาเทพนิยายกรีซ เมื่อกษัตริย์ ไมนอสก้าวสู่บังลังค์ของเกาะครีสนั้นได้อ้างว่าเทพเจ้าก็เห็นชอบด้วยเช่นกัน โดยทำพิธีขอสิ่งยืนยันจากเทพเจ้า ซึ่งโพเซดอนเทพแห่งสมุทรได้ส่งวัวขาวที่งดงามตัวหนึ่งว่ายน้ำมาถึงเกาะ ตามธรรมเนียมจะต้องบูชายันคืนให้เทพแต่ ไมนอสกลับเก็บวัวเอาไว้เอง ทำให้ เทพโพเซดอนพิโรธ จึงสาปให้มเหศรี ปาซิฟาอี หลงรักเจ้าวัวขาวนั้น และได้เสพสังวาสกัน ทำให้เกิด บุตรเป็นสัตว์ประหลาดตัวเป็นคน หัวเป็นวัว
“ด้วยอำนาจที่ข้าได้รับมาในฐานะผู้ที่สังหารราชาอนัน ข้าขอแต่งตั้งให้ลูน่า บุตรสาวของโฮกัส ผู้เป็นรัชทายาท อันดับสาม ขึ้นครองบังลังค์”“ไม่นะข้าทำไม่ได้”“เจ้าทำได้ลูน่า เจ้าเป็นลูกของพ่อเจ้า อย่ากลัวข้าอยู่กับเจ้าเสมอ” ลิโป้พูด ลูน่านิ่งคิดในที่สุดก็ตัดสินใจรับตำแหน่ง“ข้ายินดีรับตำแหน่ง”“ทำไมพวกเจ้ายังไม่คุกเข่า ! ราชินีลูน่า ทรงพระเจริญ” ลิโป้ประกาศ ทุกคนคุกเข่าลงพร้อมกันและเอ่ยเสียงดังกึกก้อง“ทรงพระเจริญ” ลิโป้ลุกขึ้นและบอกว่า“เนื่องจากพระนางยังทรงพระเยาวซ์ ข้าคิดว่าเราต้องมีผู้สำเร็จราชการแทน” คราวนี้เหล่าจอมเวทย์คิดว่าอย่างไรเสียลิโป้ก็ต้องแต่งตั้งตัวเองแน่ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น“ข้าขอแต่งตั้งให้เซน่าเป็นผู้แทนพระองค์” เซน่าอึ้งเธอกำลังจะปฎิเสธ แต่ลิโป้มองเธอเป็นเชิงสั่ง หญิงสาวเลยยอมทำตาม ลิโป้ชูทวนขึ้นฟ้าแล้วพูดว่า“สำหรับ ขอแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรทั้ง 7 ของทวีปลาอองเซียว นี้ โดยข้าจะขอให้อาณาจักรทั้งเจ็ด สร้างที่อยู่ให้ข้า และเตรียมกองทหารให้ข้าด้วย ข้าจะไปประจำในทุกดินแดน ดินแดนละหนึ่งปีคอยคุมกันที่นี่ให้กับพวกท่าน” เหล่าจอมเวทย์งงเป็นไก่ตาแตกไม่คิดว่าลิโป
แม้จะเพิ่งชนะศึกใหญ่มาแต่กลับไม่ได้มีงานเลี้ยงฉลอง เพราะสองอาณาจักรต้องสูญเสียงราชาอันเป็นที่รักไป เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วบริเวณ กาแลงต้องคอยปลอบจินเจอร์ ไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะก็ตามที ก็ต้องพบความสูญเสียเหมือนกัน ลิโป้มองดูภาพดังกล่าว เขาไม่คิดเลยว่า กอร์ดอน โฮกัส โฮเซ่จะเป็นที่รักขนาดนี้ ถ้าคนตายวันนี้เป็นเขาจะมีใครเศร้าโศกให้ขนาดนี้มั้ย มีทหารมาเรียกเขาไปที่ประชุม พอลิโป้เข้าไปก็พบกับเหล่าจอมเวทย์ที่นั่งรออยู่แล้ว ลิโป้เห็นครีมมีท่าทางกังวลใจ“เรื่องที่เราตกลงกันไว้ ข้าจะทำตามแน่ แต่ขอให้หลังจากที่จัดพิธีศพของสามกษัตริย์ก่อน” ลิโป้พยักหน้าอย่างว่าง่ายแล้วถามกลับไปว่า“แล้วจะทำยังไงกับพวกกลุ่มไคจูที่เหลือ” “ก็คงจะมีประหารและปล่อยไปเป็นบางตน แต่ก็ไม่น่าห่วงอะไร เมื่อไม่มีอนัน พวกมันคงจะไม่คิดบุกมาอีกหรอก” วีโต้ตอบ ลิโป้พยักหน้า“แล้วอนันเป็นใคร” เหล่าจอมเวทย์มองกัน กาแลงก้าตอบว่า“คงเป็นศิษย์ของจอมเวทย์คนหนึ่งนั่นล่ะ น่าเสียดายตอนเห็นหน้ามันก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะให้จำได้ แถมไม่ซากเหลืออีก” การประชุมจบลง แล้ว ลิโป้เดินออกไป “หวังว่าแผนท่านคงจะได้ผลนะ” ธีโอดอร์พูดขึ้นมา“ได
ลิโป้นั้นเอง วีโต้กับครีมรักษาเขาจนหายและยังฟื้นพลังให้อีกด้วย จึงเข้าไปร่วมการต่อสู้ได้ เมื่ออนันเห็นลิโป้ลุกขึ้นมาแล้ว จึงเรียกดาบกลับมาทั้งห้าเล่ม“ไอ้เก๊งเจ๊ง แกไม่มีสิทธิ์ใช้ดาบของโฮเซ่โว้ย”“ตอนนี้มันเป็นส่วนหนึ่งของเราแล้ว” อนันบังคับดาบให้พุ่งเข้าหาลิโป้ เหล่าจอมเวทย์จะเข้าไปช่วย แต่ลิโป้บอกว่า“อย่ามาสอดข้าจะฆ่ามันเอง” คราวนี้ลิโป้อ่านการโจมตีของดาบได้ทั้งหมด ทำให้รับมือได้ อนันตกใจมาก“แกทำได้ยังไง”“ข้าคือ ลิโป้ ผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้า ผ่านสงครามมาเป็นร้อยครั้งแล้ว การโจมตีของแกน่ะ ใช้เวลาไม่นานข้าก็อ่านออกแล้ว” ถึงกระนั้นลิโป้ก็ยังไม่สามารถเข้าใกล้อนันได้ เขารีบถอยตั้งหลัง และปักทวนลงพื้น“ใจกับอาวุธรวมกันเป็นหนึ่ง ใจเดินอาวุธเดิน ใจถึงอาวุธถึง ฝืนลิขิตฟ้า” ทวนของลิโป้ลอยขึ้นมา หมุนกลางอากาศ และพุ่งไปหาอนัน ดาบทั้งห้ารีบมาสกัดเอาไว้ อาวุธทั้งสองปะทะกันเสียงดังสนั่นราวกับเป็นการต่อสู้ของทหารทั้งกองทัพ ในที่สุดก็มีช่องว่าง ทวนพุ่งไปด้วยความเร็ว ดาบทั้งห้ากระจัดกระจาย ปลายทวนแทงเข้าไปที่หน้ากากกระจกของอนันอย่างจัง“เพล้ง”เสียงกระจกแตกดังสนั่น อนันรีบถอยหลังออกมา ทวนปักอยู่ตรง
“ไม่คิดว่าเราจะต้องลงมือเอง !” พูดจบมันเรียกดาบออกมาอีกห้าเล่ม ดาบทั้งห้าลอยอยู่เหนือนิ้วมือซ้ายของมัน โฮเซ่กับลิโป้รีบตั้งท่าเตรียมพร้อม อนันฟาดฝ่ามือมาตรงหน้า ดาบทั้งห้าเล่มพุ่งไปด้วยความเร็ว แล้วเข้าโจมตี ลิโป้กับโฮเซ่รีบรับมือ แต่ว่าดาบบินกลับโจมตีด้วยความรวดเร็วและรุนแรง จนทำให้ยิ่งรับมือยิ่งลนลาน โดยอนันนั่งขยับมือและนิ้วไปมา ดาบก็เคลื่อนไหวตามราวกับว่ามันชีวิต ดาบเล่มหนึ่งกำลังจะมาแทงลิโป้ โฮเซ่เห็นก่อนเขารีบเอาดาบไปปัดเล่มนั่นช่วยชีวิตของลิโป้ไว้ได้อย่างหงุดหวิด แต่ว่าทำให้เขาเสียจังหวะดาบเล่มหนึ่งแทงเข้าที่อกมันพาร่างของโฮเซ่ ลอยขึ้นฟ้าไป ดาบอีกสี่พุ่งเสียบร่างของเขาทะลุร่างร่างร่วงลงสู่พื้นและยังมีอีกเล่มพุ่งมาตัดหัวของโฮเซ่ขาดกระเด็นลิโป้ตกตะลึง ! โฮเซ่คนที่เกลียดเขาที่สุด และคิดจะฆ่าเขาตลอดเวลา กลับเป็นคนช่วยชีวิตของเขา ยังไม่ทันได้ทำอะไร ร่างของโฮเซ่ก็ลอยขึ้นมาดวงไฟสีขาวลอยออกมา อนันชูมือขวาขึ้นดวงไฟสีขาวลอยเข้าไปในมือของอนันมันเอาดวงไฟใส่เข้าไปในตัว แม้ไม่เข้าใจว่าอนันทำอะไรแต่เขารู้สึกโกรธมาก จึงวิ่งเข้าไปหมายจะแทงทวนใส่ แต่ถูกดาบของอนันสกัด“ใจเย็นก่อนลิโป้ถอยออกมา”
หลังจากนั้นเหล่าจอมเวทย์ก็ไปแช่แข็งศพของโฮกัสเอาไว้ แม้ว่าวีโต้จะตาบอด แต่ดวงตาของเขามีน้ำตาคลอเป้า ส่วนเหล่าทหารไวโอเล็ตก็ร้องเสียงดังระงม ทำให้บรรยากาศยิ่งเศร้าหนัก โฮเซ่คุกเข่าแล้วพูดต่อหน้าศพพ่อว่า“ข้าจะจัดการกับอนันให้ได้ และจะไม่ยอมให้ไวโอเล็ตโรสต้องเป็นของคนอื่นเด็ดขาด” เขาชูดาบขึ้นเป็นการแสดงคำสัญญาต่อหน้าหลุมบิดา เหล่าจอมเวทย์มองหน้ากันอย่างลำบากใจ เพราะคำสัญญาที่วีโต้ให้กับลิโป้คืนนั้นลิโป้ให้คนหาเหล้ามา เขาเทลงพื้นไปหนึ่งจอกเป็นการคาราวะผู้ตาย เซน่าเดินมาหาเขาทำให้แปลกใจไม่น้อย เลยเชิญเธอนั่งข้าง ๆ“ขอเหล้าให้ข้าหน่อยได้มั้ย” ลิโป้รินเหล้าให้เธอ เซน่ารับมาดื่มอย่างยากเย็น“จะใช้เหล้าให้ลืมความเจ็บปวดหรือไง” ลิโป้ถาม เซน่าแทบจะสำลักเหล้า“เปล่านะแค่.....”“ถ้าจะเศร้าก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ เพราะเจ้าก็เพิ่งจะเสียพระราชาไปนี่” เซน่าส่ายหน้าแล้วพูดว่า“ท่านไม่ใช่ราชา ท่านเป็นพ่อของข้า ข้าน่าจะเรียกท่านว่าพ่อสักครั้ง” พูดจบเธอก็ดื่มเหล้าเข้าไปอีก ลิโป้เองก็ดื่มเป็นเพื่อนเธอ ยิ่งดื่มเหมือนความเศร้าทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียพ่อ แม่ หรือที่เธอต้องมาเป็นองค์หญิงในวั
“งั้นเหรอ” มันร่ายมนตร์ เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมา โฮเซ่หันไปมอง สะพานหินถูกทำลายไปแล้ว พร้อมกับทหารที่ตามมาร่วงลงสู่พื้นเบื้องล่าง หนึ่งในนั้นคือ“ท่านพ่อ !” โฮเซ่เห็นพ่อของตนเองร่วงลงไปต่อหน้าต่อตา เขาหันไปทางคราวิซาและควบม้าไปแทงดาบใส่หมายจะเอาชีวิต แต่คราวิซเอาวุธออกมารับ เป็นตะบองหนามทำจากแก้วผลึกสีม่วง ซึ่งดูจะผิดกับการเป็นจอมเวทย์ของมันมากเซน่าควบม้ามาถึงค่าย รีบตามหาลิโป้ ในที่สุดก็เจอ จึงวิ่งหน้าตื่นเข้าไปหา“ลิโป้แย่แล้ว ท่านโฮเซ่แอบเอากองทัพไปจัดการกับไคจู แล้วพวกมันหนีเข้าป่าไป ท่านโฮกัสก็ตามไปด้วย” ลิโป้ได้ยินก็ตกใจ นี่มันเป็นกับดักชัด ๆ เขารีบออกคำสั่งเคลื่อนพลไปทันที แต่ใช้เพียงกองทัพของกรีนฮาร์ท ไลท์บลูเมาเท้นกับกองทัพส่วนตัวเท่านั้น จิระ แองเคิ้ล ชิว็อก คอปเปอร์ เกลตามไปด้วย แต่เมื่อมาถึง ก็พบว่าสะพานถูกทำลายไปแล้ว ที่ฝั่งตรงข้าม กำลังเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือด ฝ่ายของไวโอเล็ตโรสเริ่มบาดเจ็บล้มตายโฮเซ่พยายามแทงดาบใส่แต่ว่า คราวิซกลับรับมือได้ทั้งหมด“เล่นพอแล้ว” คราวิซยิงแก้วผลึกออกมาจากตะบอง จำนวนมากราวกับฝูงผึ้งแตกรัง แทงม้าของโฮเซ่ไปเต็ม ๆ จนพรูน โฮเซ่รีบกระโดดลงจาก