Share

ปิดดีล

Penulis: l3oonm@
last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-11 04:14:25

หมอหลิวเองก็ตกใจเช่นกัน แต่เขามิได้ร้องออกมาเช่นหลงจู๊ มีเพียงดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือออกไปหยิบโสมขึ้นมาตรวจสอบดู

ไม่ผิดเป็นโสมห้าร้อยปีแน่ อีกทั้งยังสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา

“สามพันตำลึงทอง เจ้าเห็นเป็นเช่นใด” เขาเอ่ยออกมาอย่างรวดเร็ว

“ดีล...เอ่อ ได้เจ้าค่ะ” นางเผลอหลุดปากพูดเช่นในภพก่อนออกมา หลังจากที่นางตกลงการค้าได้อย่างพอใจ นางมักจะเอ่ยออกมา

หมอหลิวจ้องมองใบหน้าของเยี่ยนอิงนิ่ง ด้วยคำพูดที่นางเอ่ยออกมา เขาไม่เข้าใจว่าหมายความเช่นใด แต่พอจะรู้ว่านางพอใจกับจำนวนที่เขายื่นให้ไม่น้อย

เยี่ยนอิงเมื่อเห็นตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงทองใบหน้าของนางก็ยิ้มกว้างขึ้น

“กลิ่นเงินมันหอมเจ้าว่าไหม” เยี่ยนอิงอุ้มเสี่ยวไป๋ขึ้นมาหอมเสียหลายฟอด

“เหอะ ก้อนทองของข้ามีตั้งเยอะ เพียงเท่านี้จะนับเป็นอันใด” เสี่ยวไป๋กลอกตาอย่างเบื่อหน่าย

“ท่านลุงตู้ ท่านพอจะรู้ร้านแลกเงินไหมเจ้าคะ ข้าต้องการจะแลกเงินมาใช้ซื้อของ” คงไม่ดีหากนางจะยื่นตัวเงินห้าสิบตำลึงทองเพียงแค่ต้องการซื้อข้าวสาร

“ได้ ๆ ข้าจะพาเจ้าไป” ลุงตู้มือยังสั่นไม่หาย เขากอดอกไม่แน่น ด้วยกลัวจะมีคนมาแย่งเงินห้าร้อยห้าสิบตำลึงทองไป

“เมื่อครู่เจ้าไม่บอกเล่าว่าต้องการตำลึงเงินกับเงินอิแปะด้วย” หลงจู๊เอ่ยออกมา ด้วยอยากผูกสัมพันธ์กับเยี่ยนอิงไว้ ต่อไปหากนางมีโสมอีกจะได้นำมาขายให้

“ได้รึเจ้าคะ” ก็นางไม่รู้

“ได้ ๆ เจ้าต้องการเท่าใด ข้าจะไปจัดการให้ประเดี๋ยวนี้”

เยี่ยนอิงจึงส่งตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงทอง ให้แลกเป็นตำลึงเงินกับเหรียญอิแปะมาให้นาง

“ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ”

หมอหลิวที่ยังอยู่ในห้องด้วย เขาก็มองเยี่ยนอิงอย่างแปลกใจ ด้วยนางรู้คิดคำนวณออกมาได้อย่างรวดเร็ว ที่ต้องการเหรียญทองแดงเท่าใด แล้วก้อนตำลึงเงินกี่ตำลึง น้อยครั้งนักที่จะเห็นสตรีมีความรู้เช่นนี้

“เจ้าเคยร่ำเรียนมาด้วยรึ”

“เจ้าค่ะ ท่านแม่ของข้า เมื่อครั้งที่นางยังมีชีวิตอยู่เคยสอนข้ากับน้องชาย”

เหมือนนางจะลืมไปว่าซานเซินหาหมออยู่ “ข้าขอตัวไปดูน้องชายก่อนเจ้าค่ะ” จึงได้รีบร้อนลุกออกไปด้านนอก เหลือเพียงลุงตู้ที่อยู่รอเงินที่หลงจู๊กำลังไปแลกมาให้นาง

“แล้วบิดาของนางเล่า” หมอหลิวเอ่ยถามอย่างสนใจ ทำไมถึงคนที่พานางมามิใช่บิดาแต่กลับเป็นลุงข้างบ้านแทน

“อิงเออร์ กับเซินเออร์ น่าสงสารนักขอรับ บิดามารดาถูกโจรป่าสังหารเมื่อครั้งเดินทางไปตามญาติที่เมืองหลวง”

“อืม...ตามหาญาติเช่นนั้นรึ นางมิใช่คนเป่ยหนานรึ”

“อู๋หยวนบิดานางเป็นคนเป่ยหนาน แต่มารดาฟู่ม่าน ไม่รู้ว่านางเป็นคนที่ใด ตอนที่อาหยวนพามาที่หมู่บ้าน นางก็ไม่มีความทรงจำเดิมเหลือแล้วขอรับ” ลุงตู้ได้แต่ถอนหายใจออกมา ด้วยสงสารโชคชะตาของสองพี่น้อง

“เช่นนั้นรึ” หมอหลิวมองไปที่ประตูที่เยี่ยนอิงเพิ่งจะเดินออกไป “แล้วเหตุใด นางถึงไม่ได้ใช้แซ่อู๋เช่นบิดาของนาง” เรื่องนี้ทำให้เขาแปลกใจไม่น้อย

“เห้อออ พูดไปเรื่องก็ยาวนัก หลังจากที่บิดามารดาตายลง สองพี่น้องก็ถูกท่านลุงรับไปเลี้ยงดู อย่าได้พูดถึงความลำบากที่เกิดขึ้น เพียงแค่เรื่องที่อู๋หย่งจะขายนางให้หอพนันก็พอ ย่าหู ย่าของนางกับชาวบ้านทนเห็นอิงเออร์เข้าไปเป็นคณิกาไม่ได้ จึงได้เรียกร้องให้ผู้นำหมู่บ้านทำเรื่องตัดขาดสองพี่น้องกับตระกูลอู๋เสีย ดูข้าจะพูดมากเกินไปแล้ว” ลุงตู้เหมือนจะรู้ตัวว่าได้เอ่ยเล่าเรื่องมากเกินไป

“ยังดีที่ท่านย่าของนาง รวมทั้งชาวบ้านยังเมตตานางอยู่” หมอหลิวถอนหายใจออกมา

ด้วยท่าทางของเยี่ยนอิงนางไม่น่าจะยอมคนได้ เหตุใดถึงต้องปล่อยให้ตนเองและน้องชายถูกรังแกเสียหลายปี

เยี่ยนอิงเดินออกมาจากห้องก็เจอป้าตู้ กำลังเปิดประตูห้องหมอเว่ยออกมา

“เซินเออร์เป็นเช่นใดบ้างเจ้าคะ”

“โรคเก่า เจ้าก็รู้ดี พอถูกฝนเข้าอาการก็เลยยิ่งทรุดไปกันใหญ่ หมอเว่ยต้มยาให้กินเรียบร้อยแล้ว ให้เซินเออร์นอนพักสักครู่แล้วค่อยเดินทางกลับหมู่บ้านกัน” ป้าตู้เอ่ยบอกรายละเอียดจนเรียบร้อยแล้ว นางก็ลากเยี่ยนอิงไปหาที่ลับตาคน

“เป็นเช่นใด ขายได้เท่าใด” ด้วยรู้ดีว่าอย่างไรก็ขายได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะขายได้เท่าใด

“ห้าร้อยห้าสิบตำลึงทองเจ้าค่ะ” เยี่ยนอิงกระซิบเสียงเบาข้างหูแล้ว แต่ป้าตู้นางดันร้องออกมาเสียงดัง

"ห้าร้อยห้าสิบตำลึงทอง!!!” นางหงายหลังจะเป็นลมเสียให้ได้

“ท่านป้า ท่านจะเสียงดังทำไมเจ้าคะ อยากให้ผู้อื่นรู้รึว่าท่านมีเงินมาก” เยี่ยนอิงดึงรั้งตัวป้าตู้ไว้

“ข้าจะเป็นลม เงินตำลึงทองเคยพบเห็นเสียที่ไหน” ปีหนึ่ง นางทำไร่ สามีรับจ้างขับเกวียนส่งชาวบ้าน ในเรือนยังรวมกันได้ไม่ถึงห้าสิบตำลึงเงินเลย

“ท่านต้องทำตัวให้ชินแล้วท่านป้า ท่านร่ำรวยเสียแล้ว ท่านดีขึ้นหรือยังข้าจะไปดูเซินเออร์เสียหน่อย”

“ไป ไปเถิด” นางโบกมือให้เยี่ยนอิงปล่อยตัวของนาง

ภายในห้องตรวจของหมอเว่ย ซานเซินนอนหลับอยู่ที่เตียงด้านใน เยี่ยนอิงจึงเดินเข้าไปคลำหัวของเขา เมื่อเห็นว่าไข้ลดแล้วนางจึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ซานเซินคลอดก่อนกำหนด ร่างกายของเขาจึงไม่แข็งแรงเช่นเด็กในวัยเดียวกัน ต่อให้บิดามารดาจะดูแลดีมากเพียงใด พอทั้งสองสิ้นใจ ตัวเขาก็ถูกคนตระกูลอู๋ใช้แรงงานจนทรุดลงอีกครั้ง

ด้วยไม่เคยหาหมอให้เป็นเรื่องเป็นราวสักครั้ง อาการของซานเซินจึงสามวันดีสี่วันไข้มาตลอด

“น้องชายเจ้าไม่เป็นอันใดแล้ว ปล่อยให้นอนพักสักครู่ค่อยพากลับก็แล้วกัน” หมอหลิวเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ข้างเตียงเยี่ยนอิง

“เจ้าค่ะ” นางหันไปตอบรับเบาๆ ก่อนจะช่วยห่มผ้าให้ซานเซิน

“แม่นางฟู่ ข้าขอคุยด้วยได้หรือไม่”

“หากจะถามเรื่องโสมข้าเก็บได้จากบนเขาในหมู่บ้านเจ้าค่ะ”

“มิใช่ อย่างไรเจ้าก็ต้องรอน้องชายตื่น ไปสนทนาที่ห้องทำงานของข้าเถิด”

เยี่ยนอิงหันไปมองสบตาหมอหลิว ก่อนจะพยักหน้ารับช้าๆ นางวางตัวเสี่ยวไป๋ลงบนเตียงข้างซานเซิน เพื่อให้มันอยู่ดูแลซานเซิน แล้วเดินตามหมอหลิวไปที่ห้องทำงานของเขา

ระหว่างที่ออกมาจากห้องผู้ป่วย ก็พบลุงตู้กับป้าตู้กำลังกระซิบพูดคุยกันอยู่

“อิงเออร์ ข้าจะไปซื้อของกลับหมู่บ้านเจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่” ป้าตู้คิดว่าเยี่ยนอิงอยากจะรอน้องชายของนางตื่นก่อน

“ข้ามีเรื่องจะพูดคุยกับท่านหมอหลิว ท่านป้าไปซื้อก่อนได้เลยเจ้าค่ะประเดี๋ยวข้าค่อยไปซื้อที่หลัง”

“ได้ ๆ เช่นนั้นข้าไปก่อนเล่า” ป้าตู้และลุงตู้รีบพากันออกไปจากโรงหมอ ทั้งสองยังต้องไปที่ร้านฝากเงินด้วย

ภายในห้องทำงานของหมอหลิว เรียบง่ายกว่าที่เยี่ยนอิงคิด ด้านในไม่เหมือนกับห้องของหมอเว่ย ที่มีตู้เก็บยาอยู่ด้วย ห้องของหมอหลิวมีเพียงโต๊ะทำงาน และโต๊ะรับแขกเท่านั้น

“เชิญนั่งก่อน” เขาผายมือไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

“ท่านมีสิ่งใดก็พูดเถิดเจ้าค่ะ ข้ายังต้องไปซื้อของเพื่อกลับหมู่บ้านอีก”

“มารดาของเจ้า นามว่าฟู่ม่านใช่หรือไม่”

“เจ้าค่ะ” เยี่ยนอิงไม่ได้แสดงอาการตกใจออกมา คงเป็นลุงตู้ที่บอกเล่าเรื่องราวของนางกับหมอหลิว

“นางเป็นคนที่ใดเจ้ารู้หรือไม่”

“ไม่เจ้าค่ะ ท่านแม่ข้าไร้ความทรงจำเดิม แต่เมื่อสามปีก่อน ท่านพ่อได้ข่าวจากสหายที่อยู่เมืองหลวง ว่ามีตระกูลฟู่อยู่ จึงได้พาท่านแม่ออกเดินทางไปตรวจสอบว่าใช่ครอบครัวของนางหรือไม่ แต่ก็ต้องโชคร้ายเสียก่อน” 

แววตาของเยี่ยนอิงสั่นไหววูบหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะร่างของนางยังหลงเหลือความรู้สึกของฟู่เยี่ยนอิง ที่คิดถึงผู้เป็นบิดามารดา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   เกวียนวัวของเจ้ารึ

    ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่ นางหูซื่อก็เดินมาถึงเรือนตระกูลกวน ด้วยก่อนหน้านี้ปู่กวนให้หลานชายไปตามนางมาพบ"อิงเออร์ เซินเออร์” นางเห็นหลานทั้งสองนั่งอยู่ภายในห้องโถงตระกูลกวน ก็รีบเดินเข้ามาหาพร้อมทั้งสวมกอดทั้งสองด้วยความคิดถึง“ท่านย่า/ท่านย่า” เยี่ยนอิงเพิ่งจะสัมผัสได้ถึงความรักที่นางหูซื่อมีต่อเจ้าของร่างเดิมและน้องชายของนาง“พวกเจ้าได้กินอันใดหรือไม่ เหตุใดถึงได้ผอมเช่นนี้” นางมองหลานทั้งสองอย่างปวดใจหากผู้เป็นสามียังมีชีวิตอยู่ บุตรชายคนโตคงไม่กล้ารังแกหลานทั้งสอง เป็นเพราะนางอ่อนแอเกินไป จึงไม่อาจช่วยเหลือสิ่งใดพวกเขาได้“ท่านย่า ท่านไม่ต้องห่วงข้ากับเซินเออร์เจ้าค่ะ เมื่อสองวันก่อนข้าขึ้นเขาไปกับป้าตู้แล้วพบของดีเข้า ได้เงินมาไม่น้อย จึงคิดจะนำเงินมาตอบแทนท่านเจ้าค่ะ”“ตอบแทนอันใดกัน ข้าไม่เคยช่วยเหลือพวกเจ้าได้เลย” พอนึกถึงเรื่องในหนเก่า นางหูซื่อก็ร้องออกมาอย่างปวดใจ บุตรชายคนรองของนางและลูกสะใภ้ ต่างตกตายกันไปสิ้น เหลือเพียงหลานทั้งสองให้ดูต่างหน้า แต่นางก็ไม่อาจดูแลพวกเขาได้คนที่อยู่ในห้องโถง ต่างมองย่าหลานพูดคุยกันด้วยความรู้สึกหดหู่ใจ“เอาเถิด ที่เรียกเจ้ามาก็ด้วยเรื่องนี

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   ฝากเงินไว้ให้นางหูซื่อ

    เยี่ยนอิงที่ยังไม่เคยเดินลมปราณสักครั้ง นางต้องปรับพลังชี่ให้ไหลเวียนได้คล่องเสียก่อน ถึงจะทะลวงเส้นลมปราณ“แล้วต้องนั่งที่ใด” นางมองหาที่นั่งภายในห้องตำราก็เห็นว่าไม่มีมุมใดที่นางจะนั่งเดินลมปราณได้“ด้านนอกขอรับ ท่านตามข้ามา” เสี่ยวไป๋เดินนำหน้าเยี่ยนอิงออกไปด้านนอกด้านหลังเรือนพักมีต้นไม้ใหญ่ ตรงโค่นต้นมีแท่นหินเกลี้ยงเกลากว้างขนาดเท่าเตียงนอนอยู่ด้วย“ท่านขึ้นไปนั่งเดินลมปราณบนแท่นหินได้เลยขอรับ”เยี่ยนอิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินขึ้นไปนั่ง“อืม...เย็นสบายนัก” แท่นหินที่นางนั่งอยู่ไม่ได้เย็นจนไม่อาจจะทนนั่งได้ มันเป็นความเย็นที่นางรู้สึกว่าสบาย หากเป็นเช่นนี้นางคิดว่านางคงนั่งได้นาน“หินที่ท่านนั่งอยู่มิใช่หินธรรมดา เป็นหินที่ดูดซับพลังฟ้าดินมานับหมื่นปี นายแห่งมิติคนเก่านำมาจากสวรรค์...” มันเกือบจะหลุดพูดถึงแหล่งที่มาต่อ แต่ก็เงียบปากลง เมื่อนึกถึงคำสั่งที่ถูกห้ามพูดไว้เยี่ยนอิงนางก็ดูเหมือนไม่ได้สนใจ ในสิ่งที่เสี่ยวไป๋พูด นางสนใจไอเย็นที่แผ่ออกมาจากแท่นหิน พามือของนางไปสัมผัสเข้า ก็ราวกับว่าไอเย็นที่เห็นกำลังไหลเข้าสู่ร่างกายของนางอย่างช้าๆ“ท่านหลับตาเข้าสมาธิได้เลยขอรับ

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   เข้าสู่การฝึกตน

    ไม่รู้ว่าเมื่อก่อน ซานเซินจะเคยได้ลิ้มลองเนื้อบ้างหรือไม่ รูปร่างของซานเซินมีเพียงเยี่ยนอิงและเสี่ยวไป๋เท่านั้นที่จะมองออกนางจึงได้รู้ว่า น้องชายของนางยามนี้ ความสูงของเขาเพิ่มจากเดิมไม่น้อยแล้ว ไหนจะแก้มที่แดงระเรื่อเช่นคนสุขภาพดี ต่อจากนี้เพียงขุนเขาให้มีเนื้อเพิ่มขึ้นก็ไม่รู้จะน่าเอ็นดูเพียงใดเยี่ยนอิงและซานเซินกำลังกินอาหารเย็น เรือนตระกูลตู้ก็กินเช่นกัน เมื่อพวกเขาได้ลองชิมอาหารฝีมือของเยี่ยนอิง อาหารที่ป้าตู้และลูกสะใภ้นางทำไว้ก็แทบจะไม่พร่องลงเลย“ข้าเพิ่งรู้ว่าอิงเออร์นางมีฝีมือมากเพียงนี้” ลุงตู้เลียริมฝีปาก เขาอยากจะกินอาหารของเยี่ยนอิงอีก“จริงขอรับท่านพ่อ เช่นนี้อิงเออร์ นางเปิดเหลาอาหารได้เลย” บุตรชายของลุงตู้เอ่ยออกมาอีกคน“พวกท่านแย่งข้ากินหมดเลย ข้าอุตส่าห์หน้าหนาไปขอพี่อิงมา” อาเหมยนั่งหน้าบูดเมื่อนางคีบอาหารไม่ทันคนอื่น“หากเจ้าชอบฝีมือของพี่อิงของเจ้า อาเหมยเจ้าไปขอให้นางมาเป็นพี่สะใภ้ของเจ้าดีหรือไม่” กวนซื่อ ลูกสะใภ้ของป้าตู้เอ่ยบอกบุตรสาว“จริงด้วย พี่เฉียว ท่านไปสู่ขอนางมาเป็นภรรยาเลยเจ้าค่ะ” อาเหมยหันไปหาพี่ชายของนาง“เจ้าพูดอันใดของเจ้า อย่าได้พูดเช่นนี้ให้ผ

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   หน้าของท่านเป็นอันใด

    เยี่ยนอิงยืนมองทั้งคู่เข้าไปในป่าเรียบร้อยแล้ว นางจึงได้ออกไปด้านนอกมิติ เพื่อเตรียมอาหารไว้ให้พวกเขา“อิงเออร์ เจ้ายังมิได้ทำอาหารใช้หรือไม่ เช่นนั้นไปกินที่บ้านป้าเถิด” ป้าตู้ที่เพิ่งจะไล่ชาวบ้านไปได้แล้ว อีกทั้งนางเพิ่งจะนำของที่ซื้อมาไปเก็บที่เรือน ก็เดินมาหาเยี่ยนอิงที่เรือนของนาง“ท่านป้า วันนี้ข้ารบกวนท่านมาตลอดทั้งวันแล้ว อีกอย่างเซินเออร์ยังมิหายดี ข้าไม่อยากทิ้งเขาไว้ที่เรือนเพียงลำพังเจ้าค่ะ”“จริงด้วย ข้าก็ลืมไปว่าเจ้าต้องดูแลเซินเออร์ ประเดี๋ยวข้าจะให้เหมยเออร์ นำอาหารมาให้เจ้าก็แล้วกัน” อาเหมยเป็นหลานสาวของป้าตู้ อายุรุ่นเดียวกับซานเซิน“ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ” เยี่ยนอิงเดินไปส่งป้าตู้ที่หน้าเรือน ก่อนนางจะกลับมาเตรียมข้างของเพื่อทำอาหารแต่ว่า...นางจุดไฟไม่เป็น เยี่ยนอิงมองเตาไฟที่ต้องใช้ฟืนอย่างครุ่นคิด ผัก เนื้อสัตว์นางล้วนแต่หั่นเตรียมไว้หมดแล้ว ซานเซินก็ไม่อยู่ในเรือนด้วย นางหมดหนทางที่จะหาวิธีจุดไฟแล้ว“จะทำเช่นใด” นางเกาหัวอย่างมึนงง ก่อนจะหยิบตะบันไฟขึ้นมามองหาวิธีใช้ด้ามไม้ไผ่ขนาดสามชุ่น (1ชุ่น=1นิ้ว) ในมือถูกเปิดขึ้นเพื่อสำรวจดูสิ่งที่อยู่ด้านใน เยี่ยนอิงมองอย่า

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   ข้าจะหายป่วยจริงรึ

    ตลอดทางที่เดินทางกลับหมู่บ้าน ป้าตู้พูดคุยเรื่องซื้อที่ดินเพิ่มกับเยี่ยนอิง ทั้งถามว่านางจะซ่อมแซมบ้านหรือไม่“อิงเออร์ เจ้าคิดจะทำหรือไม่ หากเจ้าต้องการซื้อที่ดินหรือซ่อมแซมเรือน ข้าจะให้ลุงตู้ของเจ้าออกหน้าให้”“ไม่เจ้าค่ะ ข้าคิดจะพาเซินเออร์ย้ายมาอยู่ในเมือง ต่อไปข้าจะให้เขาเข้าสำนักศึกษา หากยังอยู่ในหมู่บ้านคงเดินทางไปกลับไม่สะดวกนัก” นางสอบถามคนในเมืองแล้ว หากต้องการซื้อเรือนต้องไปติดต่อที่ใด“สวรรค์ เจ้าออกไปอยู่สองคนกับน้องชายของเจ้าเช่นนั้นรึ” ป้าตู้ร้องออกมาด้วยความตกใจทั้งสองที่เป็นเพียงเด็กน้อย จะออกมาอยู่ด้วยกันตามลำพังได้อย่างไร หากรั้งอยู่ภายในหมู่บ้านก็ยังมีนางและสามีคอยเป็นหูเป็นตาให้อยู่“เจ้าค่ะ ข้าคิดจะทำการค้าด้วย เมื่อก่อนท่านพ่อสอนข้าเอาไว้ไม่น้อย ในเมื่อมีเงินแล้วก็อยากจะหาทางเพิ่มให้มีมากขึ้น มิใช่อยู่ใช้เงินที่ได้มาจนหมด ต่อไปไม่รู้ว่าจะยังโชคดีเช่นนี้อีกหรือไม่”“เงินตั้งเยอะเพียงนั้น เจ้าใช้จนตายก็ยังไม่หมด” ป้าตู้ถลึงตามองเยี่ยนอิง เมื่อนางพูดว่าสักวันเงินที่มีอยู่จะหมดไป“...” เยี่ยนอิงมิได้พูดสิ่งใด นางเพียงอมยิ้มมองป้าตู้หากป้าตู้ได้รู้ว่าวันนี้เยี่ยนอ

  • ข้าคือ เจ้าของหอเหว่ยซิน   ขอทาน ห้ามเข้าร้าน

    “แล้วเจ้าอยากรู้เรื่องตระกูลฟู่ในเมืองหลวงหรือไม่”“ไม่เจ้าค่ะ แคว้นต้าหลี่กว้างใหญ่นัก ตระกูลฟู่ก็คงไม่ได้มีเพียงแค่ในเมืองหลวง หากญาติของท่านแม่ข้า อยากจะออกตามหานางจริง คงไม่ปล่อยให้เวลาล่วงมานานนับสิบกว่าปี”ด้วยไม่รู้ว่าเหตุใดมารดาของเจ้าของร่างเดิมถึงได้หมดสติอยู่ที่ข้างทาง ทั้งยังไร้ซึ่งความทรงจำ หากนางถูกขับออกจากตระกูลหรือถูกตามสังหาร ถ้าเยี่ยนอิงยังอยากจะรู้เรื่องของตระกูลฟู่ จะไม่มีจุดจบเช่นบิดามารดารึ“เช่นนั้นรึ” เขาเห็นสายตาที่เด็ดเดี่ยวของนาง ก็อดที่จะชื่นชมในความเข้มแข็งไม่ได้ทั้งสองต่างมองพิจารณากันโดยไม่มีสิ่งใดเอ่ยออกมา เยี่ยนอิงที่กลัวจะหาซื้อของได้ไม่ครบก่อนที่ซานเซินจะตื่น นางจึงขอตัวเพื่อออกไปด้านนอก“หากท่านมีเรื่องจะพูดกับข้าเพียงเท่านี้ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนเจ้าค่ะ” เยี่ยนอิงลุกขึ้น เพื่อจะออกไปซื้อของก่อนที่น้องชายจะตื่น แต่ก็ถูกหมอหลิวเอ่ยรั้งไว้อีกครั้ง“หากเจ้ามีเรื่องให้ข้าช่วยเหลือ มาพบข้าได้ที่โรงหมอ หรือจะไปที่จวนของข้าอยู่ที่ทิศตะวันออกของเมือง หน้าจวนมีป้ายตระกูลหลิว เจ้าหาได้ไม่ยาก”“หึหึ ขอบคุณเจ้าค่ะ แต่หากจะรบกวนท่านก็คงเป็นเรื่องนำสมุนไพรมาขาย”

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status